วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ผ้ายันต์เกาะเพชร หลวงปู่ปาน (ผืนเล็ก)4

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก


    " พลังอำนาจ " ยันต์เกราะเพชร " ลูกหลวงพ่อ "

    การที่ข้าพเจ้าได้นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ น่าสนใจเรื่องหนึ่งที่บรรดาท่านทั้งหลายมียันต์เกราะเพชรไว้ประจำตัวและผู้ เขียนเองก็ห้อยคออยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปไหนหรือแม้แต่เวลานอนก็ยังอยู่ที่คอ ตลอดเวลา

    เรามีของประจำตัวนั้น บางทีเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เครื่องรางของขลังนั้นจะสามารถป้องกันตัวเราให้พ้นจากอันตรายได้หรือเปล่าก็ ไม่ทราบ ซึ่งคงมีหลายท่านที่มีความคิดเหมือนกับข้าพเจ้า บางท่านอาจจะมีประสบการณ์มาแล้ว รู้ได้เฉพาะตัวของท่านเอง ไม่อยากจะเล่าให้คนอื่นฟังเพราะถ้าเล่าให้ฟังแล้วอาจจะไม่เชื่อก็ได้

    เรื่องเครื่องลางของขลังนั้น ถ้าเรามีความรู้จะพิสูจน์ว่าจะสามารถป้องกันหรือคุ้มครองให้แก่เราได้หรือ ไม่นั้น เราก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นแจ้งชัดกันไปเลย

    ข้าพเจ้าได้พบหลวงพ่อฤาษีเป็นครั้งแรกที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของข้าพเจ้าในการไปหาท่านครั้งนี้ ข้าพเจ้าทำสมาธิมาหลายปีแล้ว ประมาณสัก 15 ปี เห็นจะได้ ทำโดยไม่มีครูหัดเลย อ่านจากหนังสือแล้วก็ทำเอง ทำถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีงามที่หลวงพ่อเดินทางไปอเมริกาจะได้ฝึกสมาธิเป็น ทางการเสียที นอกจากนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาเมืองไทย ถ้ามาเมืองไทยก็ไม่แน่นักจะได้พบหลวงพ่อ เพราะได้ข่าวว่ามีคนมาพบหลวงพ่อแน่นทุกวัน

    ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะขับรถยนต์ไปกับภรรยาและลูกของข้าพเจ้า ให้ถึงเมืองชิคาโก แต่เผอิญข้าพเจ้าได้เจ็บป่วยเสียก่อนโดยเป็นไข้หวัดธรรมดาเอง แล้วก็มาติดภรรยาเสียอีกเขาก็เลยเจ็บป่วยกันงอมแงม เลยตัดสินใจมาคนเดียว โดยมาทางเครื่องบิน แต่ไข้หวัดเจ้ากรรมมันก็ยังไม่หาย ข้าพเจ้าก็กังวลใจกลัวจะไม่มีโอกาสได้พบหลวงพ่อ

    คืนวันก่อนเดินทางหนึ่งวัน ข้าพเจ้าก็ได้ไหว้พระและอธิษฐานขอให้ข้าพเจ้าหายจากเจ็บป่วยเถอะ ลูกจะได้พบหลวงพ่อตามความตั้งใจ พอรุ่งเช้ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น สดชื่นกว่าทุกวัน และสามารถขับรถไปได้อีก 2 ชั่วโมงเพื่อไปขึ้นเครื่องต่อ

    เมื่อมาถึงเมืองชิคาโก ได้มาพักอยู่บ้านคุณบุษกรซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้จักกันมาก่อนเลย เธอให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ขอขอบพระคุณคุณบุษกรมา ณ โอกาสนี้ด้วย ก็เป็นอันว่าได้พบหลวงพ่อที่บ้านพักคุณอมร ริดใจบุญ (ขณะนั้นยังไม่ได้บวช) ในวันเดียวที่ข้าพเจ้าได้ถึงเมืองชิคาโก

    ข้าพเจ้าได้ฝึกสมาธิตามแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่ออยู่ถึง 2 วัน ตามกำหนดแล้วหลวงพ่อให้ฝึก 3 คืน แต่ผมอยู่ไม่ได้มีธุระต้องกลับบ้าน ผลที่ได้รับจากการฝึกสมาธิแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่อ ข้าพเจ้าดีใจเป็นอย่างมาก พูดกับตนเองว่าเกิดมาชาตินี้ทั้งทีไม่เสียชาติเกิด เพราะว่าข้าพเจ้าได้พบของวิเศษในชีวิตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย การฝึกสมาธิแบบนี้ ผลที่ได้รับนั้นจะมีฤทธิ์ทางใจจริงๆ เพราะสามารถเห็นผี เทวดา พรหม และแม้กระทั่งเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานได้ นอกจากใจเห็นได้แล้ว ยังสามารถคุยกับพวกพรหม เทวดาได้อีก ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะธรรมดาเรื่องเหล่านี้ถ้าใครมาคุยให้ข้าพเจ้า ฟังแล้วจะไม่สนใจนัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธเมื่อมาพิสูจน์ได้แล้วก็ต้องเชื่อ อย่างไม่มีความสงสัย

    เมื่อเรามีความรู้ในทางทิพย์ เราก็ต้องทดลองเครื่องลางของขลังที่มีอยู่กับตัวเราให้ประจักษ์แก่ใจว่าจะมี จริงเพียงไร ข้าพเจ้าเป็นศัลยแพทย์ทางผ่าตัดทั่วไป ประจำอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

    วันหนึ่งคนไข้ของข้าพเจ้าเจ็บหนัก และถึงขั้นสลบ ไม่รู้ตัว (โคม่า) แต่การเจ็บป่วยครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด เกิดจากการเป็นอัมพาต แล้วมีโรคปอดบวมเข้า มีไข้สูงมาก เป็นอันว่าคนไข้คนนี้ตายแน่เพราะอายุก็เข้าไป 80 ปีแล้ว ขณะปลอดคน ยังไม่มีพยาบาลเข้ามาดูแลคนไข้ ข้าพเจ้านั่งอยู่ข้างเตียง จิตใจสงสารไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะไม่ใช่เรื่องของการผ่าตัด ข้าพเจ้าก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อาจจะมีวิญญาณภูติผีในห้อง อาจจะเป็นได้ ก็เลยทำจิตให้สงบแล้วค่อยๆ ใช้กระแสจิตกวาดไปในห้อง ครั้งแรกเริ่มกวาดจากขวามาซ้าย กวาดไปช้าๆ พอมาถึงมุมห้อง รู้สึกว่ากระทบอะไรเข้าอย่างหนึ่ง แต่ข้าพเจ้าไม่ดูว่าเป็นอะไร เสร็จแล้วก็ทำแบบเดิม เริ่มจากทางซ้ายของห้องมาทางขวาพอมาถึงมุมห้องเดิมก็สะดุดสิ่งอันเดิมอีก

    ทีนี้ข้าพเจ้าก็เลยเอาจิตเพ่งที่มุมห้องทันที เพ่งสักพักก็เห็นชัดขึ้นมา พบว่าเป็นคนยืนอยู่ที่มุมห้องลักษณะเป็นชายร่างท้วม ผิวค่อนข้างขาว ไม่สูงนัก ใส่เสื้อแบบเสื้อยืดสีขาวค่อนข้างสกปรก แถมยังมีผ้ากันเปื้อนที่หน้าอก เหมือนกับที่แม่ครัวใส่เวลาทำกับข้าวแม้กระทั่งเสื้อกันเปื้อนยังสกปรก มือขวาถือหอกยาว ปลายหอกดูเหมือนจะมีสามแฉก นุ่งกางเกงขาสั้นแต่เลยเข่าไปหน่อย ใส่รองเท้าสานแบบนักรบโรมัน ขณะที่ยืนอยู่ก็ยืนอยู่ไม่นิ่ง เดี๊ยวเหลียวซ้ายแลขวา บางทีก็ทอดอารมณ์

    ข้าพเจ้าเป็นคนขี้สงสัยก็เลยขยับปากถามเพราะอยากรู้ว่าเจ้านี่คือใคร มาทำอะไรอยู่ในห้องนี้ แล้วถามเป็นภาษาอังกฤษออกไป คิดว่ามันเป็นผีฝรั่งแน่ ข้าพเจ้าถามว่า " คุณคือใคร...? "

    เท่านั้นแหละตาที่กำลังทอดอารมณ์อยู่ก็กลับมาจ้องเขม็งตรงมายังข้าพเจ้า เขาตอบว่า " มาเฝ้าไข้ "

    ข้าพเจ้าเลยถามต่อไปว่า " มาเฝ้าเพื่ออะไร ? "

    เขาตอบว่า " เพื่อจะเอาคนไข้ไป "

    ข้าพเจ้าถามอีกว่า " เอาไปเพื่ออะไร ? "

    เขาตอบว่า " ไม่รู้ เขาใช้ให้มาเอาไป "

    ข้าพเจ้าก็เลยนึกขึ้นได้ว่าไอ้เจ้าคนนี้ก็คือยมบาลเราดีๆนี่เอง คงจะเป็นยมบาลชั้นลูกน้อง เพราะถามอะไรแล้วก็ไม่รู้เรื่องนัก คงไม่ฉลาด ถ้าฉลาดแล้วเขาคงไม่ให้มายืนเฝ้าแบบนี้

    พอมาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านคงได้ยินคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เวลาคนเราใกล้จะตายหรือตายแล้ว จะมียมบาลมาเอาวิญญาณไป ดังนั้นเรื่องก็เป็นจริงตามคำบอกเล่าของคนโบราณที่เล่ากันต่อๆมา

    ข้าพเจ้าก็เลยถามเขาต่อไปอีกว่า " คุณรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นหมอและเคยรักษาคนไข้คนนี้ "

    เขาตอบว่า " รู้แล้ว "

    ข้าพเจ้าก็เลยพูดต่อไปอีกว่า " เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คนไข้คนนี้เป็นคนไข้ของฉัน ฉันรักษาเขามาหลายหนแล้ว และนับถือเขาเหมือนญาติ ฉันจะไม่ยอมให้คนไข้คนนี้แก่ท่าน แล้วท่านจะว่าอย่างไร ? "

    เขาตอบ " ไม่ให้ไม่ให้ ต้องเอาไปให้ได้ "

    ข้าพเจ้าก็เลยพูดสำทับต่อไปอีกว่า " ฉันจะไม่ยอมให้จริงๆ แล้วคุณจะว่าอย่างไร ?"

    เขาก็ตอบว่า " ก็ต้องสู้กันเท่านั้น "


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0139.jpg
      DSCN0139.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  2. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +1,093
    ...............
    ขอจองครับ
     
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบการจองค่า:cool:
     
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    มีดหมอชาตรี วัดโขงขาว-9


    มีดหมอ ชาตรี วัดโขงขาว ปลุกเสกโดย ล.พ.ฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง ถึง 3 ปี คือปี 2532 ถึง ปี 2534 และ ใน ปี 2533 หลวงพ่อฤาษีฯ กับ ครูบาชัยวงค์ฯ ได้ อธิฐานจิต พุฒธาพิเษกร่วมกัน ถือเป็น กรณี ที่พิเศษจริงๆ

    -ครั้งที่ 1 ปี 2532 ปลุกเสกปีเดียวกับ เหรียญทำน้ำมนต์ ของวัดท่าซุง (รักษาโรค)

    -ครั้งที่ 2 ปี 2533 ปลุกเสกปีเดียวกับพระคำข้าว และ พระหางหมาก (โชคลาภ)

    -ครั้งที่ 3 ปี 2534 ปลุกเสกปีเดียวกับ พระคำข้าวรุ่นปืนแตก ชาน หมาก ชาตรี

    ป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์ทุกชนิดเช่น นิวเคลียร์,เคมี,แก็สพิษ,ชีวะภาพและโรคระบาดทุกชนิด

    มีดหมอรุ่นนี้ ถือว่าวิเศษ มีครบถ้วนทุกอย่าง เพราะพุทธาภิเษกหลายวาระมากโชคลาภ ป้องกันภัยก็ได้ รักษาโรคก็ได้ ขับไล่ภูตผีปีศาจร้ายก็ได้

    ปกติหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะนำกฐินไปทอดที่วัดโขงขาว เป็นประจำ เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการคือ

    1. หลวงพ่อบุญรัตน์ เจ้าอาวาสวัดโขงขาว เคยเกิดเป็นลูกของท่านมาหลายชาติ (ท่านกล่าวเรื่องนี้เสมอๆ)

    2. ท่านมีความผูกพันธ์ กับสถานที่นี้ในอดีต (มีอัฐธาตุในอดีตชาติฝังอยู่สมัยท่านเป็นพระเจ้ารามราช พระสวามีพระแม่จามเทวี)

    หลวงพ่อบุญรัตน์เอง ท่านก็เป็นพระอริยะเจ้าขั้นสูง ที่น่ากราบ
    ตัวมีดความยาว ประมาณ 6.5 เซนติเมตร

    พุทธคุณ เข้มข้น เหมือน มีดหมอวัดท่าซุง และ มีดหมอวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ห้อยพระของหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ
    (พระราชพรหมยาน) ไว้จะไม่ตายก่อนอายุขัย และ กระดูกจะไม่หัก
    มีดหมอวัดโขงขาวมีรุ่นเดียว ทันหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และครูบาชัยวงศาพัฒนา


    (((ปิดรายการนี้ค่า))))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0226.jpg
      DSCN0226.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • DSCN0228.jpg
      DSCN0228.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.8 KB
      เปิดดู:
      33
    • DSCN0227.jpg
      DSCN0227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.5 KB
      เปิดดู:
      48
    • DSCN0229.jpg
      DSCN0229.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    # น้ำมันสาริกาลิ้นทอง#9

    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3461811-3.jpg
      3461811-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.1 KB
      เปิดดู:
      39
    • 3461811-2.jpg
      3461811-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      75
    • 3461811-1.jpg
      3461811-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.5 KB
      เปิดดู:
      32
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2013
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    สีผึ้งเสน่ห์จันทร์สาว-11

    หลวงปู่สิงห์ วัดบ้านขี้เหล็ก อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3384022-1.jpg
      3384022-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.7 KB
      เปิดดู:
      33
    • 3384022-2.jpg
      3384022-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      38
    • 3384022-3.jpg
      3384022-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.5 KB
      เปิดดู:
      160
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2013
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **น้ำมันมนต์มหาละลวย**5

    หลวงปู่สิงห์ วัดบ้านขี้เหล็ก อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ
    (รวมสุดยอดมวลสารค่ะ ตามใบรายการเลยค่า)
    ***********************


    (((ปิดรายการนี้ค่า))))​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3408637-1.jpg
      3408637-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.4 KB
      เปิดดู:
      39
    • 3408637-2.jpg
      3408637-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.1 KB
      เปิดดู:
      37
    • 3408637-3.jpg
      3408637-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.8 KB
      เปิดดู:
      41
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2013
  8. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **พระเวสสุวัณ หรือ ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่ชื้น (ชุบทอง)**3


    ประวัติหลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน จ.อยุธยา

    เมื่อก่อนปี พ.ศ. 2500 ที่วัดญาณเสน ต. ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีพระอาจารย์ผู้เรืองวิชารูปหนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อชื้น พุทธสโร ช่วยเหลือชาวบ้าน รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยน้ำพระพุทธมนต์ มีชื่อเสียงมากในทางแก้คุณไสย ป้องกันภูตผีปีศาจ ถูกกระทำ โรคกรรมเก่า โรคจิตวิปริต จิตฟุ้งซ่าน คลอดลูกไม่ออก พ่นตาแดง รักษาฝี ฯลฯ

    เมื่อหลวงพ่อชื้นเสกน้ำมนต์ ให้ดื่มกินก็ปรากฏว่าหายวัน หายคืน เป็นไปอย่างน่าประหลาด เหล่าภูตผี เจ้าที่หรือวิญญาณที่มีสิงสู่ในตัวตน เมื่อรู้ว่ามีผู้นำน้ำพุทธมนต์เสกของ หลวงพ่อชื้น มา ก็รีบหนีไปผุดไปเกิดทันที จนเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วตลาดหัวรอ ตลาดเจ้าพรหม

    ผู้ที่ชอบทางค้าขายหลวงพ่อก็จะเสกธะนางกวักเรียกคนเข้าร้านให้
    ผู้ที่ชอบทางโลดโผน ผจญภัย เป็นรั้วของชาติ ท่านก็สร้างตะกรุดโทนแจกให้

    เล่นแร่แปรธาตุ

    ในสมัยนั้นบรรดาเกจิอาจารย์นิยมเล่นแร่แปรธาตุ โดยนำโลหะต่างชนิดกันมาผสมกัน เพื่อให้เป็นทองคำให้เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ผสมโลหะ 5 อย่าง 7 อย่าง 9 อย่าง ออกมาเป็นสัตตโลหะ นวโลหะ อย่างเช่น หอกของหลายชุมพล ปลายหอกทำด้วยสัตตโลหะ ใครที่ว่าเหนียว เมื่อเจอโลหะผสมก็เปื่อยเป็นเนื้อต้มทีเดียว หลวงพ่อชื้น ท่านก็ลองวิชาของท่านเหมือนกัน นำโลหะมาผสมได้เนื้อเหลืองทางทองคำก็มี เนื้อเหลือบใสแดงขาวก็มี ท่านเรียกโลหะของท่านว่า เนื้อลูกแก้ว ท่านผสมไว้มากมายใต้ถุนกุฏิ เมื่อใครมาขอท่านก็หลอมเป็นลูกอมเล็ก ๆ ให้พกติดตัว ผู้ที่ได้ไปก็แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ถ้าวันใดว่าง ๆ ท่านก็จะให้ศิษย์ไปหาตะปูสังฆวานรตามเจดีย์ร้างเก่า ๆ มาหลอมรีดเป็นตะกรุด ผู้ได้ไปก็มีความคงกระพันชาตรี มหาอุด หยุดลูกปืน จนท่านทำให้แทบไม่หวาดไหว

    พระธุดงค์มาสอนธรรมะเพื่อความหลุดพ้น

    ต้นปี พ.ศ. 2500 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาที่วัดญาณเสน พบกับ หลวงพ่อชื้นเข้าโดยบังเอิญ ท่านอาจารย์ทั้งสองเกิดถูกอัธยาศัยกัน จึงได้สนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมย่อมรู้ญาณซึ่งกันและกัน เพียงสนทนากันไม่กี่ประโยคก็ทราบได้ว่ามีความรู้เพียงใด บำเพ็ญเพียร มามากเพียงใด

    อาจารย์ต้องการศิษย์….ศิษย์ต้องการอาจารย์

    พระธุดงค์เปรยขึ้นมาว่า ที่ท่านชื้นได้ร่ำเรียนวิชามานั้น ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในวัตถุ ต้องปล่อยปละละวาง ละความโลภ โกรธ หลง ทั้งปวง พร้อมทั้งแนะนำธรรมะ และข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกหลายข้อ ตามแนวทางของพระพุทธองค์หลวงพ่อชื้น จึงได้กราบขอเป็นศิษย์ พระธุดงค์รูปนั้นก็มิได้ปฏิเสธ และพูดว่า “นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล” นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม มีพระธุดงค์รูปนั้น ได้นั่งสมาธิคุมไปด้วย

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน"

    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา

    หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น

    หลวงปู่แหวน วัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

    ความสำเร็จ

    จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือน กับอีก 27 วัน หลวงพ่อชื้น ท่านก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ว่าจิตใจสบายและสงบขึ้น และในคืนวันที่ 27 นั้นตอนใกล้รุ่งที่โคนต้นโพธิ์ หลวงพ่อชื้น ท่านได้ยินเสียงเหมือนคนหว่านทรายมารอบ ๆ ตัวท่าน จึงลืมตาถาม พระธุดงค์ พี่เลี้ยงว่า “นั่นเสียงอะไร” พระธุดงค์ จึงตอบว่า “ผีประจำต้นโพธิ์มันจะเข้าต้นไม้ มันไล่ท่านแล้ว” คืนต่อมาหลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลาง องค์พระทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจ เต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

    พระอาจารย์มรณภาพ

    หลังจากวันนั้นแล้วพระธุดงค์องค์นั้นก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า หลวงพ่อชื้น เล่าว่า พระธุดงค์องค์นี้ ชื่อ หลวงพ่อเสน เตชะธัมโม เป็นชาวโคราช อำเภอสูงเนิน มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็ก ๆ กับพระยาท่านหนึ่ง ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดบรมนิวาส ได้เล่าเรียนพระปริยัตธรรม วิปัสสนากรรมฐานอยู่กับ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) จนกระทั่งมีความคงแก่เรียน จึงได้ออกรุกขมูลธุดงค์หาความวิเวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งบำเพ็ญเพียรถึงขั้นสูงสุดหลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบ ก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอมหลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

    ผมเคยถามท่านด้วยตัวเองว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ ท่านตอบว่า "ได้" และบอกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้!

    ********************

    คำอาราธนาพระเครื่อง

    ข้าพเจ้าขอพระบารมีคุณ
    พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ เป็นที่พึ่ง......... หรือ
    พุทธัง ฤทธิ ธัมมัง ฤทธิ สังฆัง ฤทธิ ชัยยะมังคะลัง
    เอหิ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ จิตตัง มะมะ เอหิ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0210.jpg
      DSCN0210.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.1 KB
      เปิดดู:
      41
    • DSCN0211.jpg
      DSCN0211.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77 KB
      เปิดดู:
      35
    • DSCN0212.jpg
      DSCN0212.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.4 KB
      เปิดดู:
      46
    • DSCN0213.jpg
      DSCN0213.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.9 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN0214.jpg
      DSCN0214.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.6 KB
      เปิดดู:
      41
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2013
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **ลูกแก้วสารพัดนึก**1​

    วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ เข้าพิธีเสาร์ ๕ ที่วัดศาล และวัดท่าซุง 2 ปีซ้อน ปลุกเสก ปี2554 2555 สภาพสวยสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้ค่าค่า​


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0216.jpg
      DSCN0216.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.2 KB
      เปิดดู:
      77
    • DSCN0218.jpg
      DSCN0218.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.5 KB
      เปิดดู:
      80
    • DSCN0217.jpg
      DSCN0217.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.3 KB
      เปิดดู:
      86
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2013
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **ลูกแก้วสารพัดนึก**2​

    วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ เข้าพิธีเสาร์ ๕ ที่วัดศาล และวัดท่าซุง 2 ปีซ้อน ปลุกเสก ปี2554 2555 สภาพสวยสมบูรณ์ไม่ผ่านการใช้ค่าค่า​


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0215.jpg
      DSCN0215.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      110
    • DSCN0222.jpg
      DSCN0222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.2 KB
      เปิดดู:
      94
    • DSCN0223.jpg
      DSCN0223.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSCN0224.jpg
      DSCN0224.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      109
    • DSCN0225.jpg
      DSCN0225.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.8 KB
      เปิดดู:
      130
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  11. jomaker

    jomaker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2012
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +2,264
    โอนแล้วครับ รายละเอียดทาง PM
     
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบค่า ไซได้รับข้อความเรียบร้อยแล้วค่า เดี๋ยวไซจัดส่งให้ค่า:cool:
     
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เครื่องรางกำไร จากหางช้าง-อินเดีย (สีดำ)**9


    ]ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.


    ********************************

    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว จัดเป็นของวิเศษที่เรืองอำนาจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหางของช้างเผือก.......**


    (((ปิดรายการนี่ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2013
  14. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เครื่องรางกำไร จากหางช้าง-อินเดีย (สีขาว)**10


    ]ช้าง เป็นสัตว์มงคล คู่บ้านคู่เมือง ตำนานในทางศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ ต่างมีความเกี่ยวพันกับช้างตลอด ช้างที่ทรงฤทธิ์ในเทวฤทธิ์มีอาทิ ช้างเอราวัณ หางช้าง ถือเป็น"เครื่องราง"แต่โบราณที่เชื่อว่าช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดเป่าเสนียดจัญไร ผู้คนที่รู้ซึ้งถึงศาสตร์นี้จะแสวงหาหางช้างมาเป็นเครื่องรางประจำกาย เดินทางไปแห่งหนตำบลใดก็ปลอดภัยจากคุณไสยและมนต์ดำ

    ส่วนคนโบราณไม่ได้เรียนอาคมจะพบขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกลคนโบราณเชื่ออีกว่า

    ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ หางจากขนของช้างเป็นสิ่งอิงประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากชาวจีนโบราณจะพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ

    นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้ายต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล ชาวจีนโบราณเชื่ออีกว่าชนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้ภัยพิบัติต่างๆ ล่วงหน้าด้วยญาณสัมผัสที่6และป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้

    สำหรับชาวเหมอะโหน่ง (M' Nong) ซึ่งเป็นชนชาติส่วนน้อยในเขตภาคกลางเวียดนามเชื่อว่า ขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆ สาวๆ มักจะมอบสิ่งนี้ให้แก่กัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่อันมั่นคงนั้นเอง.


    ********************************

    เครื่องรางที่หายาก เป็นหางช้างเผือกของในหลวงของเรา ได้มาจากพระตำหนักภูพาน ช้างเผือกเชือกนี้มีตำแหน่งเป็นคุณพระ ซึ่งขนหางช้างที่ดีต้องรอให้หลุดเอง ชาวจีนโบราณถือว่า เป็นตัวแทนของความรักที่มั่นคง หางช้างเผือกจะเป็นสีออกน้ำตาลใสๆ

    *หางช้างเผือก

    ช้างเผือกนั้นโบราณท่านถือว่า เป็นสัตว์ที่มีบุญญาบารมี เป็นของคู่บุญของพระมหากษัตริย์ไทยเราตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

    ธรรมชาติของช้างจะใช้หางปัดแมลงที่เข้ามารบกวน บุรพาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าหางช้างนั้น เป็นของดี ที่ใช้ปัดรังควาญ เสนียดจัญไร สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง จึงนิยมนำหางช้างมาทำเป็นแหวนพิรอด

    **ทำวิชาลงอาคม ซึ่งเมื่อทำถูกต้องตามตำรับไสยเวทย์แล้ว จัดเป็นของวิเศษที่เรืองอำนาจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหางของช้างเผือก.......**


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2013
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 08/10/56

    - คุณสุรชาติ RH 4853 5469 6 TH
    - คุณเฉลิมพงศ์ RH 4853 5470 5 TH
    - พระเฉลิม RH 4853 5471 9 TH
    - คุณเมธี RH 4853 5472 2 TH
    - คุณประพัทธ์ RH 4853 5473 6 TH
    - คุณสมปอง RH 4853 5474 0 TH
    - คุณระติรส RH 4853 5475 3 TH
    - คุณภูริตา RH 4853 5476 7 TH
    - คุณกรรณิการ์ RH 4853 5477 5 TH
     
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #เข็มกลัดมงกุฎเพชร รุ่นแรก#

    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ปลุกเสกค่า ปี2528)

    กะไหล่ทองลงยา ฝังพลอยสภาพสวยสมบูรณ์ค่า


    มงกุฎเพชร (พระสุธรรม)ตัวหนังสือรุ่นแรกมีด้วยกัน 3 แบบ ใหญ่ กลางและเล็ก หลวงพ่อท่านบอกว่าป้องกันได้หมดสรรพอันตรายนาๆประการป้องกันได้ทั้งหมด ฝนกรด ฝนเหลือง นิวเคลียร์ แม้กระทั้งโรคเอดส์ยังสามารถป้องกันได้ ต่อไปอนาคตจะเป็นรุ่นที่หากันมาก


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    *มีดสาริกา หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์*2

    ขนาดความยาวรวมด้ามแล้ว 2.5 นิ้ว

    (สภาพสวยมาก เล็กกระทัดรัด ห้อยคอได้ ใส่กระเป๋าเงินได้)


    การจัดสร้างมีดของลพ.จ้อยนั้น จะทำแบบทีละเล่มไม่ได้ทำเป็นแบบมีดโรงงานเหมือนในปัจจุบัน

    ใบมีดทำด้วยเหล็กน้ำพี้ผสมกับชนวนอาถรรพ์ตามตำรา เช่น
    ตะปูสังขวานร และเหล็กคานโบสถ์เก่าของวัดศรีอุทุมพร ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2493 (อายุกว่า 50 ปี)
    ที่กั่นมีดจะบรรจุผงปถมัง จีวร และเกศาหลวงพ่อจ้อย ทุกเล่ม

    หลวงพ่อจ้อยท่านเริ่มสร้างมีดตั้งแต่ ปี 2530-2550 เป็นต้นมา
    ซึ่งท่านได้เรียนวิชาการทำมีดหมอมาจาก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ โดยตรง
    (รุ่นเดียวกับหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู)

    หลังจากปี 2550 เป็นต้นมา ทางวัดศรีอุทุมพรก็ยังอนุรักษ์การสร้างมีดตำรับของหลวงพ่อไว้
    แต่มีดที่สร้างหลังจากหลวงพ่อมรณภาพ ทางวัดจะตอกโค๊ตตัว “ สังฆ์ ” ไว้เพื่อให้แยกได้ ว่าเป็นรุ่นหลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว

    ประสบการณ์ที่ผ่านมาล้วนประจักษ์เรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี มีเมตตา ไพรีพินาศ
    เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า มีคนๆ หนึ่งโดนเจ้าพ่อเข้าทรงไม่ยอมออก ใช้มีดหมอถึง 3 อาจารย์ไล่แล้วก็ไม่ออก
    เลยลองใช้มีดหมอของลพ.จ้อย เท่านั้นล่ะ เจ้าพ่อก็ยอมออกทันที

    คาถาบูชามีดหลวงพ่อจ้อย
    ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า
    "สักกัสสะ วะชิราวุธัง ปะลายันติ"
    แล้วอธิษฐานเอาตามความปรารถนา


    เดี๋ยวนี้มีดสาริกาเล่มเล็กๆ ของท่านหายากมากแล้ว
    ที่สำคัญใบมีดตีจากโลหะอาถรรพ์ และมีการบรรจุของที่ด้ามทุกอัน
    ไม่ใช่ของขายโหลๆ ตามตลาดพยุหะที่ไปเหมามาเสกกันเหมือนสมัยนี้


    (พิเศษรายการนี้แถมผ้ายันต์ของหลวงพ่อจ้อย ให้ด้วยค่ะ 1 ผืน)


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2013
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **พระกรุวัดคู้สลอด พิมพ์จันทร์ลอย เนื้อผง**1

    (หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค)ปลุกเสก เลี่ยมทองคำแท้


    พระดีปี2470 หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคปลุกเสก

    กรุวัดคู้สลอด อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อผงน้ำมัน ผสมผงวิเศษหลวงพ่อปาน ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2470 เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาตามคติความเชื่อแต่โบราณและเพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา สร้างโดยพระอาจารย์พงษ์ แห่งวัดคู้สลอด (อดีตเจ้าอาวาสวัดคู้สลอด เดิมอยู่วัดบางนมโค เป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน โสนันโท) เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนพอสมควรแล้วจึงนิมนต์ หลวงพ่อปาน โสนันโท มาเมตตาปลุกเสกให้อย่างเต็มกำลัง

    พระกรุชุดนี้พระอาจารย์พงษ์อดีตเจ้าอาวาสวัดคู้สลอด จ.พระนครศรีอยุธยา เดิมอยู่วัดบางนมโค เป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน โสนันโท ต่อมาหลวงพ่อปานได้ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคู้สลอดที่ว่างลงในขณะนั้น พระอาจารย์พงษ์ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคู้สลอดแล้วเห็นว่า ภายในวัดชำรุดทรุดโทรมสมควรแก่เวลาจะต้องบูรณะแต่ขาดกำลังทรัพย์ จึงได้สร้างพระขึ้นด้วยผงวิเศษที่ท่านได้รวบรวมมาผสมกับน้ำมันทำให้พระหนึกนุ่มไปด้วยน้ำมัน เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนพอสมควรแล้วจึงนิมนต์ หลวงพ่อปาน โสนันโท มาช่วยปลุกเสก หลวงพ่อปานก็เมตตาปลุกเสกให้ พระชุดนี้ได้นำออกให้บูชาหาเงินมาสร้างเสนาสนะและเจดีย์ที่ชำรุดทรุดโทรม ครั้นหมดความจำเป็นในการสร้างแล้วพระที่เหลือพระอาจารย์พงษ์ได้นำลงบรรจุกรุในเจดีย์ใหญ่ทั้งหมด พระอาจารย์พงษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ระยะหนึ่งก็ลาสิกขามาใช้ชีวิตแบบ ฆราวาสมีครอบครัว แต่ชาวบ้านก็ยังคงเรียกว่าอาจารย์พงษ์ตลอดมาจนถึงแก่กรรมพระเจดีย์ที่บรรจุพระกรุวัดคู้สลอดนั้นถูกคนร้ายทะลวงได้พระออกมาประมาณหนึ่งลำเรือ พอทางวัดมารู้เรื่องเมื่อสายไปแล้วจึงได้แต่พระก้นกรุขึ้นมา และได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามยึดพระคืนเป็นข่าวเป็นข่าวคราวกันอยู่พักหนึ่งแล้วก็เงียบหายไป

    พระวัดคู้สลอดนี้หากเป็นพระที่แจกในระหว่างที่อาจารย์พงษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจะเป็นเนื้อปูนน้ำมันสีเหลืองอมเขียวหรือสีเหลืองอมน้ำตาล แต่หากเป็นพระที่ออกจากกรุจะมีคราบฟองเต้าหู้จับหนาสลับกับคราบขี้มอด

    พระกรุวัดคู้สลอดนี้แตกกรุออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2506 พุทธลักษณะพิมพ์แบบเดียวกับพระเครื่องทรงสัตว์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค มีหลายพิมพ์ทรง เช่น พิมพ์ทรงไก่ พิมพ์ทรงหนุมาณ พิมพ์ทรงเม่น พิมพ์ทรงครุฑ พิมพ์พระสมเด็จแบบ 7 ชั้นและแบบ จันทร์ลอยฯ

    พระวัดคู้สลอดจัดเป็นพระเนื้อผงที่มีอานุภาพ ทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดเป็นหลัก

    สภาพขลังแบบขั้นเทพเก่ากึก เนื้อหาจัดจ้านถึงใจถึงยุค คราบกรุหนาแกะฝังแน่น สันนิษฐานว่าอยู่ชั้นล่างของกรุ เพราะดูจากผิวเเล้วคราบกรุฉ่ำหนึบนุมมากๆ สภาพนี้ดูง่ายแท้ตาเปล่า ผิวพระมีลอกกระเทาะบ้างตามรูป พุทธคุณหายห่วง ของดีราคาเบาของหลวงพ่อปานอีกรุ่นหนึ่งที่น่ามีไว้บูชาค่ะ

    (PM หรือโทรสอบถามค่า)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +1,093
    โอนแล้วครับวันนี้เวลา 17.25 atm กรุงไทย 850 บาท ค่าตะกรุดพญาเหล็กไหลสีปีกแมลงทับ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ ที่อยู่ตามpm
     
  20. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ได้รับแล้วค่า พรุ่งนี้ไซจัดส่งให้ค่าขอบคุณค่า:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...