ตามครรลองธุลีดิน(ความตายบนเส้นทางโจรสลัด..ของอดีตนักเลงบ้านนอก)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 8 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    แวะมาถามไถ่ในกระทู้นี้ดีกว่า...ว่ามีใครอยากฟังท่าน toplus99 เล่าเรื่อง เกี่ยวกับหลวงปู่ใหญ่ และหลวงพ่อ สายโลกทิพย์ ว่าท่านทำอย่างไร จึงยังสังขารให้อยู่ได้นานนับหลายร้อยปี ท่านฉันอะไร หรือใช้กรรมฐานกองไหน เป็นวิชาอะไร?
     
  2. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    อ่าน กระทู้ "เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...." ไปถึงหน้าไหนแล้วครับ?

    อ่านจบไปเรื่องหนึ่ง ป๋าสายลม2555 ก็ให้สงสัยใคร่ถามมาขึ้นเรื่อยๆซิ ว่าหมอนี่โม้ เพ้อเจ้อรึเปล่า ต้องลองดูหน่อยดิ๊?

    ช่วงนี้สารพัดมัววุ่นๆ เรื่องจัดการมากมาย เลยยังไม่อยากเล่าเรื่อง
    จะเล่าเรื่องให้อร่อย มันต้องใจเย็น มีฟิลลิ่งจริงๆ ไม่งั้นก็เสียของ

    - ขอบอกว่า.... ตามครรลองธุลีดิน คือ#ภาค2 ของพระอภิญญา...

    และน่าจะเติมสีสรรได้เต็มๆหน่อย ในบอร์ดภัยพิบัติ ..นักปราชน์เขาเยอะ
    นักวิทยาศาสตร์ รึก็เพียบ
    มันไม่เข้ากับเราเพราะเขาจะจับไต๋ได้ว่า ไอ้นี่มันขี้โม้ตีเนียนนี่หว่า!
    เล่าไปเดี๋ยวโดนเตะตัดขาหัวขมำ

    แล้วป๋าระมิงค์จับผิด-จับถูกเรื่องไหนได้มั่ง?
    ***********************

    แต่ที่หอบ เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...มาก็เพื่อให้รู้ว่าเคยโม้อะไรไว้บ้าง
    pegoajung เขียนเรื่องไว้เยอะก็อยากให้ได้อ่านกัน กลัวเสียน้ำใจความตั้งใจ

    และถ้าเคยตามอ่านกันมาตลอดจะรู้ว่า toplus99 มีเรื่องโม้ๆ..ที่ค้างคาการบ้าน
    ไว้เพียบมากมายพะเรอเกวียน เชื่อได้มั่ง ไม่ได้มั่งตามเรื่อง
    แต่ก็บอกว่าเริ่มจากประสบการณ์ตัวเองล้วนๆ

    เรื่องเล่านานๆไปบางทีก็ลืมมาเล่าต่อยอด พอไม่มีใครถามถึงก็กระโดดข้ามแว๊บ!
    บางทีนึกได้ ครั้นจะเล่าต่อก็ไม่รู้หน้าเดิมอยู่ไหน มันหลายหน้ามาก
    เพิ่งรู้ตัวว่าเดินเรื่องมาไกลเอาเรื่องแฮะ ย้อนเรื่องลำบาก

    <<<<>>>>>>>


    อีกหน่อยอาจจะได้เรื่องใหม่จากสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งใหม่ ...อยู่ไม่ไกลนัก
    ศิษย์สายสมเร็จลุนเมืองลาว

    พระอาจารย์ถ้ำท่านก็เคยกล่าวถึงว่า...
    ....หลวงปู่ที่เราจะไปขอศึกษาปฏิบัติธรรมด้วย มีสวนป่าปฏิบัติธรรม กว้างใหญ่หลายสิบไร่
    หลวงปู่ท่านเก่งในระดับมิธรรมดา ไม่เปิดเผยโอ้อวด ช้างเผือกซ่อนใกล้เมือง
    ...แต่toplus99 จะไปศึกษาและ ค้นหาให้จงได้!

    ท่านอยู่แบบสมถะ เรียบง่ายไม่หวือหวา ชอบให้คนมาปฏิบัติธรรมมากกว่าติดวัตถุมงคล
    เลยไม่ค่อยมีชาวบ้านแถบนั้นเข้าหามากนัก เพราะคุยกับท่านแล้วมันไม่ฟิน

    ..กลัวโดนจับ นั่งหลับตาสมาธิ ปวดขาเมื่อยขบทรมาน

    ########

    ไว้จัดการเรื่องส่วนตัวให้เข้าทีก่อน...แล้วจะมาเคลียร์เรื่องค้างคา
    จัดสรรบริการให้เนียนเชียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2013
  3. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    อ่าน กระทู้ "เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...." ไปถึงหน้าไหนแล้วครับ?

    ภัยพิบัติยังอ่านมิจบเลยคร๊าป...ในนั้นก็ยังมีค้างอีกหลายเรื่องที่จั่วหัวไว้แล้วยังไม่ได้เล่านิ...แต่จำนวนหน้าก็เยอะจัด... ลีลาการเขียนเรื่องเล่าประสบการณ์เนี่ย ก็เห็นว่าพยายามจะให้ดู บ้าๆบ๊องๆ เพี้ยนๆ คงหวังว่าผู้อ่านจะถือภาษิตว่า "อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา" ล่ะสินะ แต่ว่าก็ยังไม่ค่อยรอดสักเท่าไร? พอโดนเข้าไปก็เลยขี้เกียจจะเล่าต่อ จึงมีรายการชิ่งหนีไปเรื่อยๆ... ไม่เป็นไร เดี๋ยวชาวบ้านเขาลืมๆ(ด่า)แล้วค่อยมาเล่าต่อก็ได้ ผมมือชง จะคอยชงให้เรื่อยๆ...

    ช่วงนี้สังเกตว่ากำลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายท่านส่งผลออกมามาก เกื้อกูลต่อผู้ปฏิบัติธรรมได้ดี หากเร่งรัดภาวนากันช่วงนี้จะได้ผลดีมาก อาจด้วยเพราะใกล้จะถึงเวลาที่คลื่นลมพายุครั้งใหญ่จะเริ่มต้นแล้ว แผ่นน้ำท้องฟ้าจึงเงียบสงบ เงียบสงบจนผิดปกติ ... ดีเกินไปก็น่าห่วง... ห่วงว่าจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่จะมีโอกาสเร่งรัดการภาวนาเสียก่อนเกิดเรื่องหรือเปล่า?...
     
  4. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    มี 2 กระทู้ ไก่ย่าง 5 ดาว*****ของตัวเองใกล้ๆกัน แล้วเวียนหัวตัวเองเหลือเกิน... พับเฝื่อย

    ต่อไปใครมีปัญหาอะไร ในกระทู้
    " เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...."
    .."
    ให้มาเจอกันในกระทู้นี้ดีกว่าครับ
    เพราะจะเริ่มปล่อยกระทู้เดิมให้ตกไปแล้ว....มันหลายหน้าเกิ๊น
     
  5. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ "...อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน" หน้า 29

    เออ..มาต่อกันเลยดีกว่าพาไปเดินเที่ยวเล่นงานวัดมาได้พักหนึ่งแล้ว
    ที่เกริ่นเรื่องงานวัด งานนมัสการรอยพระพุทธบาทจำลอง เพื่อบอกเล่าถึงประสบกาณ์ความรู้สึกนึกคิด
    ที่เกี่ยวรอยพระพุทธบาท...ในวัยเด็กเท่านั้นเอง


    เรื่องราวที่เป็นจุดสำคัญมันอยู่ที่ ณ ในสถานที่แห่งหนึ่งกลางป่าเขาดงลึก
    ดินแดนที่ครั้งหนึ่งถูกขนานนามว่า " ดงพญาไฟ"

    ป่าดงดิบแดนแห่งความน่ากลัวในยุคเมื่อย้อนหลังไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน
    ที่มีผู้คนสัญจรผ่านต้องสังเวยชีวิตระหว่างเดินผ่านกันมากมาย ด้วยไข้ป่า มาลาเรีย
    และความน่ากลัวจากตำนานเร้นลับจากภูติผีวิญญาณไพรทั้งหลายที่คอยเล่นงานแก่ผู้สัญจรเขตแดนป่าอาถรรพ์ดังกล่าว
    จนความเจริญทั้งหลายเริ่มย่างกลายเข้ามาเยือนเขตแดนอีสานในยุคบุกเบิกเริ่มสร้างเส้นทาง รถไฟตัดผ่านเขตป่าดังกล่าว ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกล แหละด้วยพระบารมีอันยิ่งใหญ่ขององค์พ่อหลวง หรือองค์พระปิยะมหาราช ของผองไทยเราทุกคน

    พร้อมกันนั้นพระองค์ท่านก็ตั้งชื่อเรียก ดินแดนแถบป่าเขาดินแดนป่าอาถรรพ์นั่นเสียใหม่
    จากดงพญาไฟ ว่าเป็น"ดงพญาเย็น"

    เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจของประชาชน เพื่อลดความรู้สึกน่ากลัวทั้งหลายที่มีต่อเขตป่าดงดิบดังกล่าวให้ลดน้อยลงไป

    (จะไม่เย็นลงไหวเหรอครับท่านว่า แหมก็จากคำว่า พญาไฟเป็นพญาเย็นแล้วนี่นะ
    ... อูยยหนาว!แบบไม่ต้องใช้แป้งตรางู กันเลยทีเดียว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
  6. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ.."อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน"

    กระนั้นในช่วงแรกๆของการเริ่มก่อสร้างเส้นทางสายอาถรรพ์ดังกล่าว
    คนงานก่อสร้างทั้งหลาย ที่เริ่มเข้ามาบุกร้างถากป่าต่างก็โดนทั้งไข้ป่า และอาถรรพ์ป่ามากมาย
    จ้องเล่นงานจากทั้งป่วยไข้ หรืออุบัติเหตุบาดเจ็บมากมาย สัตวป่าเข้าทำร้าย ทั้งเหล่าภูติผีวิญญาณป่าเข้ารบกวนเล่นงาน จนบาดเจ็บล้มตายกันไปมิใช่น้อย

    อุปสรรคปัญหาเรื่องราวดังกล่าว ก็ให้ร้อนถึงสำนักงานแผ่นดินต้องแจ้งทูลความแก่สำนักพระราชวัง เพื่อให้เข้ามาช่วยแก้ไขสถาณการณ์ จนมีการกระทำพิธีมีการนำเอาสัญญลักษณ์ "ตราแผ่นดิน "
    แบบเดียวกับที่อยู่บนแผ่นหน้าหมวกของตำรวจ โดยผ่านพิธีกรรมจากทางสำนักราชวัง

    มาจำลองลงในตัวค้อนเหล็ก เพื่อตีตราประทับแผ่นดิน ตอกลงไปที่ต้นไม้ต้องการจะตัด เพื่อเป็นไม้หมอนรองรางเหล็กทางรถไฟ หรือสถานีพักโดยสาร และบ้านพักเจ้าหน้าที่รถไฟตลอดเส้นทางผ่าน ทั้งนี้เพื่อแสดงนัยยะ...บอกแจ้งแก่เหล่าเทพภุมเทวา และภูติไพรทั้งหลายถึงการตีตราประทับลงไป

    ขอแจ้งประกาศให้ทราบทั่วกันว่า...นี่คืองานของหลวงของแผ่นดิน เพื่อสร้างความเจริญและผาสุขโดยรวมของคนทั้งหลายในแผ่นดินสยามประเทศ
    เพราะฉนั้น ขอท่านทั้งหลายโปรดให้ความร่วมมือ และจงอย่าเข้ามาขัดขวางใดๆเลย
    เพราะนี่คือ โองการของแผ่นดิน...

    เจอไม้เด็ดแบบนี้เข้าให้...บรรดาภูตไพร เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายก็เสร็จ แพ้ทางละคราวนี้
    มีหรือจะกล้าหืออือ...จำต้องหลีกเร้นหลบทางออกไปสิ มิกล้าขัดประกาศิตของแผ่นดิน

    (ถ้ายังขืนเก๋าซ่า..ดื้อแพ่งไม่ยอมร่วมมือด้วยดีแบบเดิมๆ..งานนี้คงโดนเหล่าเทวดาใหญ่ระดับรักษาบ้านเมือง ดังองค์ท่านพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมืองของสยามประเทศ ไล่เฉ่งให้หนีไปอยู่ต่างประเทศโน้นล่ะนะ)

    จากนั้นเหตุการณ์จากอาถรรพ์ร้ายแรงทั้งหลาย อุปสรรคการก่อสร้างต่างๆจึงเริ่มลดน้อยลง
    จนการสร้างเส้นทางรถไฟสายแรกของไทย จากสถานีสายหัวลำโพง กรุงเทพถึงนครราชสีมา
    จึงแล้วเสร็จได้โดยสมบูรณ์
    รถไฟวิ่งกันปู๊นๆๆ...ฉึกฉักๆ ควันโขมง มาถึงทุกวันนี้


    และบนเทือกป่าเขาแห่งนั้น แถบช่วงรอยต่อจ.สระบุรีและนครราชสีมา"เมืองโคราช"
    ยังมีถ้ำขนาดกว้างใหญ่บรรจุคนได้นับพัน ที่เคยชุมไปด้วยโรคภัยไข้ป่า อยู่ห่างออกไปจากเส้นทางสายรถไฟดังกล่าวหลายสิบกิโลเมตร ซุกซ่อนอยู่ด้วย

    และสถานที่แห่งนี้ต่อมา จึงเริ่มมีชาวบ้านบางส่วนเริ่มบุกรุกแพ้วถางเข้ามาทำไร่ทำสวนใกล้เข้ามา
    และมีพระธุดงค์หลายรูปจาริก ผ่านมาพำนักเพื่อปฏิบัติธรรมแสวงหาโมขธรรมยังสถานที่อันมีถ้ำใหญ่ซุกซ่อนอยู่ยังเขาแถบอำเภอ มวกเหล็กแห่งนี้อยู่เนืองๆนับแต่อดีตโบราณหลายร้อยปีก่อน

    ดังที่เคยทีการขุดพบร่องรอยโครงกระดูกมนุษย์มากมายกระจายหลายจุดในถ้ำ (ดังที่ปู่อินทร์ตาทิพย์ เคยเดินทางมาที่นี่เมื่อเกือบ50 ปีก่อน เรียกว่า ถ้ำกระโหลก)ทั้งมีรอยกระเบื้องหม้อดินแตก หรือเครื่องใช้โบราณต่างๆ หรือแม้แต่บาตรเก่าผุพัง หรือเศษชิ้นผ้าสบงจีวรเก่า ของพระสงฆ์ที่ละสังขารที่นี่ ลึกลงไป 2-3 ฟุตจากผิวดิน ในบางจุดของถ้ำดังกล่าว และที่สำคัญเหนืออื่นใด

    มีรอยที่เชื่อว่าเป็น "รอยพระพุทธบาท"ขนาดใหญ่อยู่ด้วย
    รอยแห่งเจดีย์สัญญลักษณ์ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เคยแสดงปาฏิหารย์ไว้ให้ปรากฏ
    เพื่อประกาศแก่ชาวพุทธศาสนิกชน ได้รับทราบเส้นทางจาริกของพระพุทธองค์
    ตั้งกระครั้งอดีตสมัยพระองค์ยังดำรงพระชนน์ชีพอยู่

    เพื่อประกาศพระธรรมอันประเสริฐเหนือว่าสิ่งใดทั้งปวง

    เดี๋ยวมีมาถึงจุดสำคัญแล้ว
    ...ว่าพระสงฆ์ทำไมถึงมาเจอกับอาถรรพ์จากสิ่งลึกลับ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2013
  7. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาหยุดพักเลยนะท่าน

    วันนี้อากาศแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง เพิ่งได้เข้ามาทักทายเช่นกัน

    อาถรรพ์สิ่งลึกลับ ในดินแดนดงพญาไฟ จะเป็นจะใด๋ต่อ รอติดตามชมอยู่จ๊า...
     
  8. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ.."อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน"

    ......

    ดังที่เคยทีการขุดพบร่องรอยโครงกระดูกมนุษย์มากมายกระจายหลายจุดในถ้ำ (ปู่อินทร์ตาทิพย์ เคยเดินทางมาที่นี่เมื่อเกือบ50 ปีก่อน เรียกว่า ถ้ำกระโหลก)ทั้งมีรอยกระเบื้องหม้อดินแตก หรือเครื่องใช้โบราณต่างๆ หรือแม้แต่บาตรเก่าผุพัง หรือเศษชิ้นผ้าสบงจีวรเก่า ของพระสงฆ์ที่ละสังขารที่นี่ ลึกลงไป 2-3 ฟุตจากผิวดิน ในบางจุดของถ้ำดังกล่าว และที่สำคัญเหนืออื่นใด

    มีรอยที่เชื่อว่าเป็น "รอยพระพุทธบาท"ขนาดใหญ่อยู่ด้วย
    รอยแห่งเจดีย์สัญญลักษณ์ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เคยแสดงปาฏิหารย์ไว้ให้ปรากฏ
    เพื่อประกาศแก่ชาวพุทธศาสนิกชน ได้รับทราบเส้นทางจาริกของพระพุทธองค์
    ตั้งกระครั้งอดีตสมัยพระองค์ยังดำรงพระชนน์ชีพอยู่

    เพื่อประกาศพระธรรมอันประเสริฐเหนือว่าสิ่งใดทั้งปวง
    >>>>
    >>>
    ..>

    จะว่าไปก็ชวนให้คิดว่า... ปู่อินทร์ทำไม?ถึงได้เดินธุดงค์มายังสถานที่ถ้ำแห่งนี้เมื่อ 50กว่าปีก่อน ปู่บอกมาที่นี่ เมื่ออายุปู่ได้ประมาณ 60ปี (ทั้งที่ยุคสมัยนั้นการมาครั้งนั้นน่าจะเป็นป่าเขารกทึบ แถบนี้แทบไม่มีผู้คนอาศัยในโซนใกล้เคียง)

    ...ครั้งนั้น ในถ้ำพบที่เจอมีแต่เศษโครงกระดูก หัวกระโหลกมนุษย์กระจายเต็มเกลื่อนไปหมด เขียนไปแล้วขนหัวลุก..ว๊าบเชียว

    ตามที่เคยเกริ่นเล่าให้ฟังว่า สถานที่แห่งนี้ได้ย้อนหลังไปสิบปีก่อนเคยมีพระมาจำพระพรรษามีเรื่องเล่าจากชาวบ้านว่ามีหลวงปู่ท่านหนึ่งสร้างองค์พระใหญ่น่าตักกว้างประมาณ 2 เมตร สร้างด้วยปูนปั้นอยู่ปากทางในถ้ำ ท่านชื่อหลวงปู่สมชาย (ไม่ทราบฉายา แต่ไม่ใช่รูปเดียวกับหลวงปู่สมชาย แห่งวัดเขาสุกิม จันทบุรี)เป็นพระธุดงค์มาจากที่ไกล ได้มาจำพรรษาอยู่นานพอสมควร เสียงเล่าว่าท่านมีฤทธิ์มากถึงขั้นเหาะเหิรเดินอากาศได้เลยเชียวหนา.. ชาวบ้านเขาร่ำลือบอกต่อกันมาว่างั้นน๊า..
    แล้วท่านก็ธุดงค์เดินทางไปต่อที่ไหนอีกก็ไม่มีใครทราบได้
    จากนั้น สถานที่ดังใหญ่ก็ว่างเว้น ขาดช่วงจากสงฆ์ผู้นำทำกิจศาสนาแก่ชาวบ้านไร่แถบนั้นแบบเป็นทางการ มีบ้างแต่นักบวช โยคีผ้าขาว สัญจรผ่านไปมาบำเพ็ญเพียรปฏิบัติ

    จนเมื่อกาลที่พระรูปหนึ่ง....
    ได้นิมิตเห็นสถานที่แห่งนี้โดยมีเทวดารักษาถ้ำแห่งนี้มาปรากฏร่าง...บอกขอร้องให้ท่านจงมาสร้างบารมีธรรม โปรดเดินทางมาช่วยสร้างพัฒนาเพื่อหวังให้เป็นที่พึ่งแก่ชาวพุทธต่อไป เพราะท่านเคยมีวาสนาเกี่ยวข้องมาสถานที่แห่งนี้...มาแต่อดีตชาติ

    เทวดาที่มาปรากฏร่างในนิมิตเพื่อนิมนต์ท่านไปให้มายังถ้ำอาถรรพ์คือ เทวดาหญิงสองสาวพี่น้อง รูปโฉมงดงามตามรูปแบบเทวดาเขานั่นกระมัง

    แต่เทวดาก็คือเทวดาที่ไม่คุ้นเคยกับวิถีมนุษย์นักเนื่องจากละสังขารมนุญ์มาไม่รู้กี่ร้อยปีมาแล้ว...ไม่มี GPS นำทางด้วย ไอ้ครั้นจะบอกแก่พระว่าสถานที่คือที่ไหน.. ก็บอกไม่ค่อยถูก รายละเอียดจะสื่อสารแบบเทวดาชั้นภุมมานังของตัวเองก็มึนๆงง เพราะไม่รู้ว่ามนษย์เขาเรียกว่าชื่ออะไรกันแน่
    ...แต่อยากบอกเลยว่า ดีแน่..ท่านจงไปเหอะ !!!
    บัดนี้ได้เวลาแล้ว ...เรารอท่านมาเนิ่นนานหลายภพชาติแล้ว เราทั้งสองและเทพทั้งหลายในสถานที่นั้น คอยจะช่วยเหลืออุปถัมป์ท่านเต็มที่เต็มกำลัง


    "ไอ้ดีน่ะ...ข้าก็ว่าน่าจะดีอยู่หรอก แต่สถานที่ที่ว่ามันอยู่ตรงไหนนี่หละปัญหา"
    พระท่านเล่าย้อนเรื่องราว

    " แผนที่....หรือลายแทงเขียนในแผ่นหนังเก่าๆแบบเรื่องขุมทรัพย์โจรสลัด ก็ไม่มีให้ดูเลยเหรอครับท่าน..." ถามกวนๆแบบนี้ มันคือ toplus99แน่ล่ะ

    "ไม่มี..แค่บอกว่าอยู่แถบเขาเขตมวกเหล็ก ปากช่องประมาณนี้ แต่เทวดาเจ้าที่ เขาก็วนมาตาม และปรากฏนิมิตบอกเรื่อยนะ ไอ้เราก็ตามหา ตามคำบอกเล่าอยู่นานเกือบปีถึง2ปีเหมือนกัน จนต้องอธิษฐานเอา พระจนๆ...บวชได้ไม่นานแทบไม่มีใครรู้จัก นอกจากญาติพี่น้องของตัวเอง
    รถราก็ไม่มี.. เดินทางดั้นด้นไปดูหลายสถานที่ก็ไม่ใช่ ตามที่ปรากฏในสมาธิ เกือบถอดใจเอาเหมือนกัน"

    บอกเลยว่าพระรูปนั้น ในปัจจุบันคือ..พระอาจารย์ของข้าน้อยนั่นเอง...
     
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ.."อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน"

    ในที่สุดพระหนุ่มที่ผ่านประสบการณ์เดินธุดงค์มามากมายทั้งในป่าแถบประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย เฉียดผ่านความตายมาก็มิใช่
    ก็พบเจอสถานที่ดังกล่าวจนได้...แต่เมื่อพบเจอแล้วบอกได้เลยน่าเหนื่อยแทนท่านจริงๆ
    อาศัยใจสู้ เอาชีวิตเข้าแลกเป็นปณิธานเพื่อค้นหาสัจธรรมว่า...
    "มนุษย์นี่หนอ เกิดมาทำไม"

    ถ้ำใหญ่บนเขาสูง ทั้งไกลเดินทางก็ยากลำบาก..อยู่ในเขตเทือกเขาสลับซับซ้อน

    ชาวบ้านก็มีไม่กี่สิบหลัง ไฟฟ้าก็มาไม่ถึง...แหล่งน้ำกินน้ำใช้ก็ไกลหลายกิโล ขุดหาไปก็ไม่เจอน้ำ เจอแต่หินกินไม่ได้มันแข็งและไม่อร่อย ขุดบ่อเก็บน้ำก็มีแต่น้ำตะกอนดินแดงหนา เอาไปใช้กินอาบไม่ได้ และจะมีแค่ในหน้าฝนเท่านั้นเอง ( เทวดาที่มาตามถึงอยากช่วยขนหิ้วน้ำมาให้ใช้..ก็ทำไม่ได้อีกอ่ะ แล้วจะตามมาไปลำบากทำไมว๊า?)


    อย่าว่าtoplus99 ทะลึ่งทะเล้นกะเทพเทวดาไม่รู้กาลเทศะเลย พูดเรื่องจริงนี่นา...
    แต่เทวดาทั้งสองเขาคงไม่ค่อยอยากถือสาหาความเราเท่าไรหรอก
    ..เสียเวลาปวดเฮดเปล่าๆน่ะเชื่อว่า

    ซึ่งเทพหญิงทั้งสอง ก็พอมีความรู้จักกันกับท่านบ้างนิดๆหน่อยๆ...
    ก็ตามประสาคนชอบอุปทานของ toplus99 นั่นแหละ เลยขอหยอกเอินมั่งคงไม่ว่ากัน (ถ้าสนิทกัน แล้วจะแอบเล่าให้ฟัง..หนุกนะอ่า)

    พระรูปนั้นที่ค้นพบถ้ำแห่งนี้ตรงตามนิมิตก็ได้ริเริ่มพัฒนาสถานที่แห่งนี้ จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมามีที่พัก ศาลาธรรม ห้องน้ำ ลานกิจกรรมเพื่อกิจการปฏิบัติธรรมของญาติโยมทั้งหลายแบบต่อเนื่อง...ที่สำคัญคือท่านเน้นอยากให้ญาติโยมได้มาฝึกบำเพ็ญสมาธิเป็นกิจสำคัญ

    แล้วเมื่อไรเรื่องจะจบว๊า...เดี๋ยวจบแน่

    รอนิดหนึ่ง เพราะจะรีบไปทำงานอื่นแล้วเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2013
  10. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ.."อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน"


    โม้ต่อดีกว่า..กำลังมันส์สมองกำลังแล่น เสร็จเรื่องนี้คงเว้นช่วงไม่เจอกันพักใหญ่ๆ

    เคยบอกแล้วว่าในสถานที่ในถ้ำใหญ่แห่งนี้ มีรอยที่ผู้ได้ญาณทัศนะยืนยันว่าเป็น
    " รอยพระพุทธบาท "ขนาดใหญ่ของแท้ของจริง หาใช่การจำลองหรือขุดเจาะเซาะหินเพื่อเป็นเจดีย์สักการะแต่อย่างใดไม่

    ขนาดที่กะวัดประมาณด้วยสายตาความกว้างประมาณ 1 เมตรเศษ ยาวประมาณ3 เมตร และเท่าที่ลองค้นหาดูประวัติการสำรวจรอยพระพุทธบาททั่วไทยและที่อื่นๆนอกประเทศ
    ก็ไม่แน่ใจว่ามีที่แห่งไหนอีก..ที่มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ในถ้ำแบบนี้อีกใครทราบ...ช่วยบอกที

    ....มาถึงเรื่องที่ว่าถอยเรื่องราวไปเมื่อร่วมสิบว่าปีก่อน ได้มีข้าราชการท่านหนึ่งแถบภาคเหนือตอนล่าง อายุเข้าวัยกลางคน ได้ขอลางานเพื่อขอบวชเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากได้พอรู้เรื่องราวถ้ำแห่งหนึ่งและได้ญาณสมาธิว่าตนมีความสัมพันธ์กับสถานที่คือถ้ำแห่งนี้ ด้วย เขาว่างั้น..

    จึงได้มาบวชแล้วเดินทางมาเพื่อปฏิบัติธรรมที่แห่งนี้ก่อนที่จะลาสิกขาแล้วไปปฏิบัติราชการต่อเหมือนเดิม แต่ยังคงปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง และหากเมื่อมีโอกาสดีท่านผู้นี้ก็แวะเวียนมาเยี่ยมคุยกับคนที่นี่เสมอ

    ด้วยจริตที่ชอบเสาะแสวงหาความรู้ และค้นหาครูบาอาจารย์ที่ไหนว่าเก่ง ว่าแน่ ท่านผู้นี้ต้องเข้าไปขอศึกษาสนทนาธรรมอยู่เนืองๆ

    จนเมื่อเมื่อเว้นช่วงขาดหายไปได้จากสำนักสงฆ์ถ้ำแห่งนี้ได้พักใหญ่
    การกลับมาเยี่ยมสำนักสงฆ์คราวนี้..มิได้มาเพียงลำพัง

    หากแต่ได้นำพาเอาพระภิกษุรูปหนึ่งมาด้วย มาถึงราชการท่านนี้ก็บอกเล่าความถึงความรู้ทางไสยเวท และความสามารถเชิงกำลังฌาณ และญาณสมาธิขั้นสูงของภิกษุมากพรรษาท่านนี้ว่าอยู่ในขั้น

    "บ่มิธรรมดา ยากจะหาใครเทียบชั้นได้ง่ายๆ"
    พระอาจารย์ท่านในฐานะเจ้าสำนักสงฆ์ก็ให้การต้อนรับอย่างดีตามวิสัย ของนักบวชศิษย์ตถาคตด้วยกันและนอบน้อม ทั้งด้วยว่าภิกษุรูปนี้ท่านก็มีอายุและพรรษามากกว่าท่านพระอาจารย์เจ้าสำนัก

    แต่มีบางอย่างที่ท่านพระอาจารย์ก็ให้นึกประหลาดใจว่าเหตุไฉนหนอ?
    หลวงพ่อ พระอคันตุกะท่านนี้จึงมิค่อยอยากจะสนทนาปราศรัยกับเจ้าสำนักถ้ำเอาซะเท่าไรเลย....เอาเหอะ ถึงอย่างไรก็เป็น พระภิกษุที่ศิษย์เคยบวชที่นี่ นำมาด้วยก็ให้การต้อนรับตามอัธยาศัยที่พึงทำได้ตามความงามของสงฆ์ด้วยกันก็แล้วกัน...

    จากนั้นท่านทั้งสองทักทายกันได้สักครู่ ต่างจึงแยกย้ายกัน พระอาจารย์ท่านก็ปฏิบัติกิจพัฒนาของท่านต่อไป

    ปล่อยให้เป็นเรื่องราวการเที่ยวชมถ้ำของศิษย์นักบวชเก่ากับพระแปลกหน้าจอมไสยเวทได้กระทำกันไปตามเรื่องภายในถ้ำ

    แต่....เอ การเดินทางมาของทั้งสองระหว่างโยมกับพระจอมไสยเวทมาเพื่อเยี่ยมชมถ้ำกลางเทือกเขาอันแสนไกลแห่งนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ....?
     
  11. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ.."อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน" จบซะที


    ภายหลังจากที่พระภิกษุและข้าราชการศิษย์เก่า เดินทางกลับออกไปยังถิ่นฐานเดิมของตนแล้ว

    พระอาจารย์ก็รับทราบข่าวว่าภิกษุรูปดังกล่าว ได้ล้มป่วยและมรณะภาพเสียแล้ว
    หลังจากสถานที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ 7 วัน พอดี


    " เราก็พอรู้ว่าจะเกิดเพทภัยอะไรขึ้นกับพระภิกษุรูปดังกล่าว เพราะก็มีเหล่าเทพดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำ และญาณครูบาอาจารยแจ้งให้รู้แล้ว แต่ก็สุดวิสัยที่จะทำอะไรได้
    ท่านมายังที่แห่งนี้ด้วยจิตที่ไม่บริสุทธิ์ และไม่ประสงค์ดีนัก "

    " ได้มากระทำพิธีไสยศาสตร์บางอย่างภายในถ้ำ ที่สำคัญเหนืออื่นใดที่ศิษญ์ตถาคต ลูกพระพุทธเจ้ามิสมควรกระทำนั่นคือ

    "...เป็นพระแต่อวดดีมั่นใจในเวทมนต์คาถาตน โดยได้ปีนขึ้นไปขอบรอยพระพุทธบาท (เป็นขอบยกสูงจากพื้นขึ้นไปเมตรกว่า) แล้วเหยียบลงที่รอยนั้นไปนั่งสมาธิบริกรรมเวทมนต์ในรอยพระพุทบาท"

    เรื่องแบบนี้เราชาวพุทธใครเขากระทำกัน ที่สำคัญนี่เป็นพระภิกษุที่ได้ชื่อว่า..เป็นทายาทของพุทธองค์ท่าน ดำรงชีพด้วยเครื่องอัฐบริขารของพระพุทธองค์ แต่กลับกระทำการเช่นคนอกตัญญูลบหลู่ ไม่รู้คุณ...ไม่สมควรอย่างยิ่ง"


    " เรื่อง อัปมงคลอุบาทว์ร้ายแรงเช่นนี้ ถึงจะไม่มีคนรู้คนเห็น แต่เหล่าเทพยดาทั้งหลายมากมาย หลายระดับชั้นที่รักษาสถานที่และรักษาคุ้มครองรอยพระพุทธบาท ท่านก็รู้ก็เห็น มีหรือจะยอมปล่อยให้ใครมาลอยนวลได้โดยมิลงโทษ ลงทันฑ์"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  12. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ว๊า.... จบซะแระ เดินปัดตูดไปนู๊นนน....

    ไม่เปิดโอกาสให้ถามมั่งเรย นิ

    อ่านแล้วมีข้อกังขาหลายข้อ ...รอให้ท่านหมดภาระงาน กลับมาอารมณ์เย็นก่อนดีกว่า น๊อ
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,438
    ..ขอบคุณเรื่องเล่าครับ

    และสามารถยืนยันได้อีกประการหนึ่งว่า ทำไม รอยพระพุทธบาท หรือ รอยพระบาทพระอริยะเจ้า พระมหาโพธิสัตว์ ถึง ต้องประทับไว้ ในที่ที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถขึ้นไปเหยียบย่ำได้โดยง่าย


    .....สมัยที่หลวงปู่ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธ่าบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน พระมหาโพธิสัตว์เจ้าแห่ง่ล้านนาองค์หนึ่ง ท่านยังดำรงกายสังขารอยู่นั้น

    ผมและสหธรรมมิค ได้สดับรับฟังเรื่อง รอยพระพุทธ่บาท รอยพระบาทพระอัครสาวก ฯลฯ ที่มีในดินแดนต่างๆ

    วันหนึ่ง ท่านเล่าถึง รอยพระบาทพระอานนท์ ที่ประทับในอ.ลี้ ต้องข้ามแม่น้าใหญ่ขึ้นไปบนเกาะ ในเขตป่า ที่ครุบาท่านเคยพบสมัยยังอายุน้อย พวกเราจึงเตรียมการให้พร้อม
    และหาเรือข้ามน้ำใหญ่เข้าไปในเขตป่า อ.ลี้ คนที่มีสมาธิแน่วแน่ที่สุดจะคอยสื่อกับครูบาอาจารย์ เป็นระยะๆ ว่าต้องเดินไปทิศไหน จนไปพบบริเวณที่ผิดสังเกตุคือ
    มีเถาวัลย์ที่ออกดอกสวยงาม พันรอบต้นไม้ใหญ่เป็นบริเวณกว้าง เป็นที่โล่ง สงบเย็น
    โปร่ง เบา กว่าบริเวณอื่นๆ เสมือนลานอะไรสักอย่าง ใบไม้กองหนามาก เพื่อนคนหนึ่งได้ไปนั่งเอนในแนวก้อนหินใหญ่ แล้วสังเกตุว่า หินที่บริเวณนี้ มีใบไม้ดอกไม้สีต่างๆคลุมหนา มีหน้าหินค่อนข้างราบกว่าก้อนอื่นๆ จึงเกลี่ยออก พบรอยเท้าที่ใหญ่กว่าคนธรรมดา ตรวจสอบเบื้องต้นน่าจะใช่ในสิ่งที่พวกเราหา

    เมื่อกลับไปรายงานครูบาวงศ์ ท่านก็บอกว่าใช่

    ปัจจุบัน เหล่าศิษย์และผู้ศรัทธา ( น่าจะมีกลุ่มตามรอยฯของหลวงพี่ชัยวัฒน์ด้วย ) ไปร่วมสร้างเจดีย์เล็กๆ ครอบไว้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ตุลาคม 2013
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,438
    ภาพประกอบ โพส651 "รอยบาทพระอานนท์"








    สามารถอ่านเรื่องประกอบ ได้จากเว็บข้างล่างนี้ เป็นการบอกเล่าของหลวงพี่ชัยวัฒน์ฯ

    ขอบคุณ
     
  15. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    สุขสันต์วันเกิด คนราศรีตุลย์

    "อาถรรพ์รอยพระพุทธบาทในถ้ำกับพระจอมอาคมจากต่างแดน"
    ก็ได้ถึงตอนอวสานไปซะแล้ว

    ก็ไม่รู้ว่า ท่านเจ้าบ้าน จะสุนทรีมีเรื่องเล่าเมื่อไหร่
    ป่านฉะนี้ คงหรี่ตามองแต่เขื่อนป่าสัก ว่าจักมีน้ำล้นไปหาคนใต้เขื่อนเมื่อใด

    โอกาสดีมีมาถึงเราแล้ว ได้ยึดพื้นที่ซะเล็กน้อย
    เราเป็นนักฉวยโอกาสยามเจ้าบ้านเผลอเสมอ

    ขอใช้พื้นที่เล็กๆ แค่แมวดิ้นไม่ถึงตาย
    กราบอวยพรวันเกิด ให้ผู้อาวุโสที่เกิดเดือนตุลาคมของบ้านนี้2ท่าน

    [​IMG]

    "ขอนบน้อม คุณพระ ทั่วทุกหล้า
    แผ่คุ้มมา ปกป้อง ทุกวิถี
    อายุมั่น วรรณะ พละดี
    ให้ท่่านมี ความสุข พ้นทุกข์ภัย".._/l\_..^^



    [​IMG]
    คนตุลา...เป็นผู้เชื่อมั่นในความรัก และศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง รักความสงบเป็นพิเศษ

    "ดอกกุหลาบ"จึงถูกเลือกเป็นดอกไม้ประจำเดือน เพราะเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่น อ่อนหวาน เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อม แถมชอบบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธ์

    ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงหลงไหลกับบรรยากาศรอบข้าง แต่ก็ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก แต่ก็เป็นคนที่มีเสน่ห์เพราะดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม
     
  16. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    นี่คือปฏิหารย์บางอย่างของพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา

    คุณไปดูไปชม ไปไหว้กันแล้วหรือยัง...เราไปมาแล้ว

    รอยเท้านี้ มีคนเคยเห็นท่านครูบาพรหมา พรหมฺจกฺโกเหยียบให้หินภูเขาทั้งแท่งบุ๋มเป็นรอยเท้ากันให้เห็นจะๆคาๆตามาแล้ว(เคยลงตีพิมพ์ในนิตยสารโลกทิพย์) นับได้ว่า ครูบาพรหมจักรท่านเป็นพระอัจฉริยเจ้าผู้ทรงคุณธรรมและคุณวิเศษเบื้องสูงสุดองค์หนึ่งในยุคร่วมสมัยนี้อย่างแท้จริง

    [​IMG]


    หลักฐาน มีให้เห็นกันจะๆเต็มๆ

    [​IMG]
    ปัจจุบัน รอยเท้าบนลานหินของครูบาพรหมจักรสังวร ยังคงประดิษฐานอยู่ที่หลังวัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน รอคอยให้ผู้มีสายตาดีและรู้ซึ้งถึงความเป็นพระดีที่สุดที่หนึ่งเลยแห่งท่านมากราบมาไหว้สาอย่างมิรู้แล้วตราบเท่าถึงทุกวันนี้
    [​IMG]

    จาก: บางช่วงบางตอน ของจดหมายเหตุ ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า

    http://www.gmwebsite.com/webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-080110130022947

    รอยเท้าครูบา

    โพสท์ในเวบ www.phrabat.com

    โดย: อินทร์สร วุฒิธรรมากรณ์ เมื่อ 5/1/2550

    =======
    หลายคนสงสัยรอยเท้าครูบาที่หลังวัดศาลากรรมฐาน อยากรู้รายละเอียด

    ถามคุณโชติ ดวงแก้วกาศ มีผมเป็นพยานว่า วันนั้นปี 2513 เวลาบ่ายแล้วประมาณ 3 โมงแลง ครูเดินจงกรมแล้วพวกเด็กวัดขะโยม มีเด็กชายโชติ ชื่อเดิมว่า ด.ช.คะนอง ด.ช.พล เกษศรี ด.ช.ทองสุก คนเมืองฝาง ด.ช.เดช ตามวงศ์ คนวังเหนือลำปาง และผม อินทร์สร เล่นเก็บลูกนมวัวนมแมวกินเล่นกัน

    ท่านครูบาเรียกเด็กวัดมา แล้วท่านบอกว่า “มาดูรอยเท้านี่ซิ เท่ารอยตีนกูเลย”

    นายโชติจับแข้งครูบา แล้วยกเท้าท่านใส่ลงตรงรอยเท้าในหินศิลาแลงที่มีรอยเท้าอยู่ก่อนหน้าแล้ว เขาก็ว่า “เท่าของอาจารย์เลยครับ”

    ท่านครูบาก็หัวเราะและยิ้มนิดหน่อย จากวันนั้นมาบัดนี้ ศิษย์ทั้งหลายท่านคิดอย่างไรกับรอยเท้าครูบา ผมไม่สงสัยเลยว่า ครูบาท่านเป็นพระอรหันต์แล้วแน่นอน ผลจากการปฏิบัติตามคำสอนส่งผลดีมาตลอด พบด้วยตัวเอง ลองถามนายโชติดูยันยืนเกินร้อยได้เลย สาธุ



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2013
  17. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    มีอะไรข้องใจ ก็ถามมาได้เลยครับ..

    ตอบได้..ก็จะตอบ
    และถึงตอบไม่ได้....ก็จะตอบ เอาสีข้างเข้าแถกให้แสบกันไปตามประสา เดี๋ยวจะหาว่าไม่เก่ง!
     
  18. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    เรื่องเอาสีข้างเข้าไถ อาจจะกลายเป็นเทรนด์ได้ในห้องนี้ แว้บบบบ
     
  19. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    พูดถึงเรื่อง..การตัดต้นไม้ในป่าแล้วเกิดอาถรรพ์โดนกระทำ

    นี่นึกขึ้นมาได้ว่า...ที่วัดถ้ำ ก็มีโยมคนหนึ่งที่ต้องเข้ามาบวชปฏิบัติธรรมรักษาตัว
    ...เพื่อหนีตายเพราะป่วยหนัก จากอาถรรพ์ป่าอยู่อีกหนึ่งรายเหมือนกัน
    (ขณะนี้ก็ยังบวชอยู่)

    ขอย้าว่า...ถึงขั้นบวชหนีตายจริงๆ
    เพราะกรรมที่เคยตัดต้นไม้ในป่า ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันต้น


    เหมือนเดิม...ค้างไว้ก่อน (อีกแล้ว)หนึ่งเรื่อง

    ..ว่างๆแล้วค่อยนัดมาเจอกันจะเล่าให้ฟัง.... ถ้าลืมทวงด้วย!
     
  20. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ตามประสาคนขี้โม้
    เรื่องเล่ามาทั้งหมด 97.25% คือเรื่องที่พบเจอด้วยตัวเอง ได้ยินได้ฟังมาบ้าง
    เปอร์เซนต์ที่เหลือคือ...น้ำเต้า เสือ ปู ปลา ไก่กา อะล้อเล่น ขำๆ
    และส่วนความเป็นจริง สัจธรรมโดยแท้เป็นได้กี่เปอร์เซนต์...คงต้องวิเคราะห์วิจัยกันเอง!
    ไม่ง้อใครด้วย

    เรื่องที่นำเสนอทั้งหมด จากกระทู้..เมื่อพระอภิญญาท่าน....
    และตามครรลองธุลีดิน รวมกันแล้ว

    .....ยังไม่เดินมาถึงครึ่งจากทั้งหมดที่ตั้งใจเล่าสู่กันฟัง

    คนบ้าอย่างtoplus99 นี่มันโม้เก่งจริงพับผ่าเชียว...

    แต่อย่าให้ได้จังหวะนะ....ทั้งยังไม่ตาย
    ฉันจะอาจไปโดยไม่ร่ำลาใครเลย...ก็เป็นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...