เข้าฌาน แล้วระลึกชาติ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย Tamjugg, 9 ตุลาคม 2012.

  1. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อยากได้ลาภยศสรรเสริญ อย่าว่าแต่อภิญญาเลย ได้ฌานก็เก่งแล้ว ไปแบบเต็มด้วยโลภโกรธหลงเตมด้วยขยะ จะเกิดปัญญาญานหยั่งรู้ได้จริงทั้งๆกิเลสหนาหรออินทรบุตร ปัญญาหนอปัญญา ...

    งั้นพระอริยะเจ้าคงไม่จำเป็นต้องสละเงินทองทรัพย์สมบัติปลงโลภโกรธหลงมาบำเพ็ญภาวนากันหามรุ่งหามค่ำและรักษาศีลให้เหนื่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    นี่เป็นภาษาไทย ที่มนุษย์ปกติเข้าใจได้หรือเปล่า? ทำไมการเรียงลำดับประโยคสลับไปมามั่ว เหมือนจิตคิดไม่เหมือนคนปกติ?
     
  3. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ฝึกให้ได้ถึงครึ่งค่อยมาพูดดีกว่า พูดนั่นพูดนี่ไปวันๆไม่เกิดประโยชน์คงถึงนิพพานได้ วาระสุดท้ายมาถึงจะได้ไม่เสียดายนะอินทรบุตร

    นำแต่ความอิจฉากล่าวร้ายผู้ทรงศีลมีจิตสูงกว่าจริงนายจะอ๊วกเปล่าๆ เตือนได้แค่นี้ เพราะเราก็ไม่ใช่พระอรหันต์จะมาโปรดนายได้ตลอด.... ทุกข์เท่านั้นที่เกิดจริงๆ
    กับหมู่สัตว์ผู้ไม่รู้สัจธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  5. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    วิธีของนายดีก็ฝึกไป ได้แล้วก็มาลงในห้องอภิญญาxpหละ วิชา3หรืออภิญญา6 อย่าเอาแต๋วมาลงสิอินทรบุตรเป็นตัวตลกไปได้ ?


    ห้องนี้ควรเป็นห้องแห่งคลังปัญญาไม่ใช่ห้องมาโพสอิจฉากันหรือห้องโพสความเพ้อฝัน นึกคิดละเมอไปวันๆ... พุทธองค์ก็ตรัสเตือนแล้วบุคคลจำพวกนั้นชื่อว่าเป็นคนหลง หาประโยชน์แก่ตนไม่ได้เสียเวลาเปล่าและเสียทีที่มาพบพุทธศาสนา

    ถ้ายังไม่เคยถึงนิพพานดิบ พุทธองค์องค์บอกว่าจะถึงนิพพานจริงนั้นลำบากแทบจะเป็นไม่ได้เลย เหอะๆอินทรุบตรเอ๋ย ไปหาอ่านหาฟัง คิริมานนทสูตร เผื่ออะไรๆจะได้ดีขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  7. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ปราสาทเรือนแก้ว7ชั้นมั้ง555 ลองไปถามเพื่อนๆนายดูดิทรงอภิญญากันทั้งนั้น....

    นิพพานนึกคิดกับของจริงมันคนละเรื่องบอกได้แค่นี้ ฝึกให้ถึงนิพพานดิบก่อนอินทรบุตรบอกไปนายไม่เข้าใจ ถ้าไม่ถึงนิพพานดิบตอนมีชีวิตก็ไม่ต้องพุดถึงนิพพานของพระอรหันต์ว่ารู้ว่าเห็นมาแล้ว

    ยกระดับสติปัญญาและญานของตนนะอินทรบุตร ค่อนข้างจะปัจจัตตังแต่คนที่ถึงจริงอภิญญาจริงย่อมรู้กัน..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    Tamjugg จะพูดอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ตอบคำถามสักที

    แค่ตอบว่า Tamjugg รู้หรือยัง ว่านิพพานไปยังไง แค่นี้ตอบไม่ได้หรือ?
     
  9. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ปราสาทเรือนแก้ว7ชั้นมั้ง......555 ถามเพื่อนนายดีกว่าเรื่องนิพพานรู้ดีกันจริง เราไม่ค่อยรู้ดีหรอก...
     
  10. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ฉันก็รู้อยู่หรอกนะ ว่าแกไม่รู้เรื่องนี้หรอก

    แล้วในเมื่อแกไม่รู้เรื่องนี้ แต่พยายามจะพาคนไป แกก็สร้างบาปกรรม เพราะจะพาคนไปหลงทาง
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    บอกไปแกก็ไม่รู้ต่างหากอินทรบุตร.... เหอะๆ
    นิพพานไม่ใช่คนที่ขี้อิจฉากิเลสหนาจะรู้เห็นได้...

    เหมือนในพระสูตรพุทธองค์ก็แสดงเรื่องนิพพานไว้แต่คนบางพวกย่อมไม่เข้าใจนึกเดาไปมั่ว บางคนก็เข้าใจจริงและได้นิพพานดิบในตอนมีชีวิตแล้ว แล้วบอกเพื่อนนายที่เห็นนิพพานมีหอแก้ว7ชั้นไปหาดูนะในพระไตรปิฏกบอกไว้ไหม... ปัญญาย่อมทำให้คนต่างกันโดยแท้หลงไม่พออวดฉลาดนี่แหละงามหน้า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2013
  12. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    เอตทัคคะ

    พระโสภิตเถระ เอตทัคคะ : ในทางระลึกชาติก่อนได้

    ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ เรียนจบศิลปวิทยา ในเมืองสาวัตถี ท่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะได้ฟังธรรมเทศนาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจึงทูลขอบวช เพื่อประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

    ท่านมีความชำนาญในการเข้าฌานและระลึกชาติได้คล่องแคล่วมากมาย ฉะนั้นท่านจึงได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เลิศในการระลึกชาติได้ (ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ)แต่การเผยแผ่ธรรมของท่านไม่ได้กล่าวไว้ชัดเจนวาทธรรมของท่านคือ “เราเป็นผู้มีสติมีปัญญา ปรารภความเพียรอย่างแรงกล้า ระลึกชาติสิ้นห้าร้อยกัปป์เพียงราตรีเดียว เราเจริญสติปัฏฐาน 4 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8 จึงระลึกชาติตลอดเวลา 500 กัปป์เพียงราตรีเดียว”

    ท่านได้รับเอตทัคคะว่าเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ระลึกชาติได้
     
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อ่านดูในกระทู้นี้แล้วรู้สึกอนุโมทนาที่ท่านสามารถเดินสมาธิฌาณระดับ1-8ได้สำเร็จและดูเหมือนจะรวดเร็วดีครับ

    ไม่เหมือนกระผม ทำมา8-10ปี ไปได้แค่ฌาณ5-6 แค่ฌาณ6นี่ ก็กว่าจะรู้ทั่วสภาวะเนวะสัญญาสัญญายตนะ วิญญานัญจายตนะนี่ ก็มีรายละเอียดลงลึกมากมายนักว่าด้วยเจตสิกที่ปรุงแต่งหรือประกอบอยู่กับจิตเราเนี้ยะ หากท่านไปถึงฌาณ8แล้ว รบกวนช่วยพรรณาหรืออธิบายสภาวะเอาแค่ของฌาณ6 ให้ฟังหน่อยครับ ว่าเป็นอย่างไร ขอเป็นธรรมทานครับ เพื่อจะได้รับทราบสภาวะที่แท้จริงที่ท่านสัมผัส อีกอย่างจะได้เทียบเคียงกับอารมณ์และสภาวะที่ีกระผมเองได้สัมผัสด้วยเช่นกันครับ

    พูดตรงๆหากไม่ชำนาญจริงไม่สามารถจริง ไม่มีความเพียรอย่างแท้จริง ยากนักจะผ่านฌาณ6ได้ กายดับ เวทนาดับ สัญญาดับ สังขารดับ เหลือแต่วิญญาณหรือเจตสิกที่เอาสติและจิตตามดูเพื่อแยกนามออกจากนาม นั่นเองครับ ยากครับหินมากๆครับ

    อีกนิดครับ ฌาณ6เป็นต้นไปนี่ไม่รับรู้สภาวะทางโลกหรือภายนอกแล้ว มันตัดความรู้สึก ความคิดออกหมดแล้ว ครับก็ลองช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยครับ
     
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029


    ผมก็ควรจะใช้เวลาเป็น20ปีเหมือนกัน หากแต่ผมโอกาสดีได้บวชและฝึกกับพระเถระผู้ผ่านจุดนี้มาไม่รู้กี่ล้านรอบและไปถึงวิชา3 เลยชี้ทางให้ผมผ่านฌาน8ได้เร็ว

    อรูปฌาน ผมจะอธิบายคร่าวๆ จริงๆผมถึงฌาน9แต่พระท่านให้อฐิฐานลงมาหมุนฌาน8ให้เก็บรายละเอียดทั้งหมดก่อน การพิจารณาธาตุึต่างๆในร่างกายให้ไปอ่านในพระไตรปิฏกคับธาตุ4ในสังขาร... แลกๆบางท่านจะยังเห็นฌานไม่ชัดเจนให้ทำกรรมฐานที่ผมบอกไปเรื่อยๆอาการจะชัดขึ้นตามลำดับจนจับฌานได้เอง ยิ่งทำวิปัสนากรรมฐานมากก็ฌานจะยิ่งชัดเจนขึ้นตามลำดับ ถ้าได้อภิญญาแล้วก็สามารถดูได้คับว่าใครอยู่ฌานไหน... (ถ้าปลงฌานไหนไม่ผ่านมันก็จะค้างอยู่ฌานนั้น ให้น้อมจิตพิจารณาฌานและปลงใหม่ึัคับ)


    อากาสนัญจายตนะ หมายถึง ธาตุดินในร่างกายจะมีอาการหนักยิ่งทำสมาธิก็จะยิ่งจุกหน้าอกจนที่สุดจะทนไม่ไหวให้หยุดและปลงก่อนคือ ให้พิจารณาธาตุดินในสังขารยกไตรลักษณ์ปลงตอนท้ายจะผ่านไป ฌานต่อไป

    วิญญาณัญจายตนะ หมายถึง เย็นเหมือนน้ำอาการหนักหน้าอกจะหายไป ให้พิจารณาธาตุน้ำในสังขารยกไตรลักษณ์ปลงตอนท้ายจะผ่านไป ฌานต่อไป

    อากิญจัญญายตนะ หมายถึง ร้ิอนและจุกคอหอย ให้พิจารณาธาตุไฟในสังขารยกไตรลักษณ์ปลงตอนท้ายถ้าหลุดจะไป ฌานต่อไป

    เนวสัญญานาสัญญายตนะ หมายถึง มีอาการหวิวๆตัวเราเหมือนตอไม้โยกไปมา ลอยๆบางครั้งมีอาการหูดับ ให้พิจารณาธาตุลมในสังขารยกไตรลักษณ์ปลงตอนท้ายถ้าหลุดอาการหวิวจะหายไป

    หลุดจากเนวสัญญานาสัญญายตนะ ให้อฐิฐานจิตลงปฐมฌานที่เหนือสะดือ2นิ้ว แล้วทำวิปัสนากรรมฐานใหม่ ฌานก็จะขึ้นไปใหม่ ทำไปหลายๆรอบเก็บรายละเอียดให้ครบคับ เหมือนดูทีวีเรื่องเดิม1รอบ กับ100รอบ ความรู้ความเข้าใจย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ความแตกฉานในฌาน8ย่อมเกิดแก่ท่านและทำจะเริ่มรู้ว่าอภิญญามีจริงไหม...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2013
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อรูปาวัจระ [ฌาณ5-8]

    ฌาณ5 = อากาสนัญจายตนะ ที่ท่านกล่าวมามันเกี่ยวอะไรกับความเป็นธาตุดิน
    ความเป็นอรูปฌาณ ในชั้นนี้เป็นอย่างไร ความเป็นอรูปฌาณไม่เกี่ยวข้องด้วย วัตถุธาตุทั้ง4ใดๆอีกต่อไปแล้วครับ
    แต่ฌาณ5นี้ เขากล่าวว่าเป็นฌาณเริ่มต้นของอรูปฌาณ โดยอาศัย สมาธิเข้าถึงสภาวะแห่งความว่างเสมือนอากาศ ที่ว่างเปล่า การเจริญสมาธิฌาณในขั้นนี้คือจับเอาความว่างเปล่าของอากาศเป็นอารมณ์ เมื่อทำไปจิตจึงตัดละทิ้งรูปหรือวัตถุธาตุทั้ง4ดับหมดสิ้น เหลือเพียงอากาศธาตุที่ว่างเปล่า ที่สุดของฌาณ5 คือเข้าถึงความว่างคืออากาศที่กว้างไม่มีประมาณ ไม่มีรูปใดๆวัตถุใดๆให้เห็นหรือพิจารณา
    ตามตำรา พระท่านกล่าวเป็นเคล็ดลับภาษาบาลีของฌาณ5ไว้ว่า
    ปัญจะมะฌาณะ อากาสานัญจายะตะนะ เนวะสัญญานาสัญญายตนะอรูปวัจระ ธาตุสัมมาธิฌาณะสัมปันโน อิติปิโสภควา
    สภาวะของฌาณ5ยังมีธรรมารมณ์และนิมิต อภิญญาที่เกิดเพราะอาศัยกำลังของฌาณ5ซึ่งทุกคนที่ผ่านฌาณ5 ต้องทราบ เพราะต้องได้เหมือนกันรู้เหมือนกันครับ เหมือนเราเขี้ยวน้ำกะทิ ที่สุดมันต้องได้นำมันมะพร้าวคือตัวธรรมแท้ๆ ส่วนนำมันระเหยและขี้มันสีน้ำตาลแดงก็เหมือนอภิญญาต้องได้เช่นกัน ถ้าทำได้จริงต้องอธิบายได้ครับ

    ที่ผมกล่าวมาจะไม่ขอใช้อภิญญาที่กระผมมีแต่ก็ทราบด้วยเจโตปริยญาณดีว่าเป็นอย่างไรแต่ไม่ขอกล่าว ครับเพราะตอนนี้เห็นใจท่านมากกว่าครับ

    เพราะว่าผมว่าครูที่สอนท่านมามันคนละเรื่องแล้วครับ

    ส่วนฌาณ6 7 8 มีเนื้อหาสาระมากมายนักเขียนเป็นสิบหน้ากระดาษก็ไม่หมดครับ


    ผมขอฝากข้อคิดคือ ต้องฉลาดแบบพระสารีบุตร อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่ายๆ จะเชื่อก็ต้องเมื่อนำมาปฏิบัติ ปฏิบัติได้แล้ว ก็ให้เชื่อได้แค่50% หากปฏิบัติจนปฏิเวธมันให้ผลปรากฏชัดเจนกระจ่างแจ้งแล้ว จึงให้เชื่อได้100% เมื่อเชื่อแล้วเข้าใจแล้วปัญญารู้แจ้งในธรรมเหล่านั้น ครบถ้วนดีแล้ว อย่าไปโง่ยึดมันไว้ อย่าไปเป็นทาสของความรู้นั้นๆให้ละปล่อยวาง เพราะทุกอย่างต้องเดินตามกฏไตรลักษณ์ ต้องเชื่อพระพุทธเจ้า ท่านตรัสสอนไว้ดีแล้วครับ


    ขอให้ท่านมีดวงตาเห็นธรรมที่ตรงถูกต้องแล้วขอให้ท่านเจริญในธรรมเหล่านั้นยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    หากท่านไม่เชื่อในสิ่งที่ผมอธิบายมา ในปัจจุบันยังมีพระสงฆ์ที่เก่งๆที่ท่านทำได้ ลองไปกราบท่านและสอบถามท่านดูท่านจะไม่ปกปิดและท่านจะอธิบายให้คุณเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และอาจจะอธิบายได้ดีกว่ากระผมอีกครับ ขอแนะนำพระอริยะสงฆ์ที่ว่าคือ ท่านเป็นนักปฏิบัติ ไม่เก่งเรื่องเทศน์แต่งหนังสือ หรือไม่ใช่นักปริยัติเปรียญ9 ท่านจะเป็นเกจิอาจารย์ที่ดังระดับประเทศก็มีหรือแค่ในอำเภอก็มีให้ลองไปหาดูที่
    กาญจนบุรี
    ขอนแก่น
    มหาสารคาม
    ปราจีนบุรี
    ลพบุรี
    เชียงราย
    แม่ฮ่องสอน
    ท่านใกล้ที่ไหนไปที่นั่นครับไปคุยให้มันรู้เรื่องแล้วปฏิบัติให้มันรู้ดำรู้แดงครับ

    ธรรมของผมกล่าวออกมาจากภายใน คืออกจากจิต ด้วยการปฏิบัติ ไม่ขอนำคำครูอาจารย์มากล่าวอ้างมากมายนัก ว่างๆลองเข้าไปอ่านในกระทู้ที่กระผมโพสไว้ดูนะครับ ยินดีครับ
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    คนบางคนรู้ทั้งรู้ว่า ไอ้ที่ตนเอง แสดงออกไป สอนเขาไป บอกเขาไป มันไม่ถูกก็ยังทำ อย่างนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ มันเป็นบาบที่ไปหลอกเขา อย่างนี้ใช้ไม่ได้ เป็นคนที่ลวงโลก แล้วจะไปหวัง สวรรค์ นิพพานสมบัติได้อย่างไรครับ สาธุ
     
  18. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    โมทนาครับ
    อ่านหน้าแรกเสร็จมาหน้าสุดท้าย คุณ tjs กล่าวได้ดีครับ การกล่าวอ้างภูมิธรรมที่ตนยังไม่ได้จะทำให้เสื่อมจากธรรม เรื่องนิพพานครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นพระอรหันต์กล่าวไว้มีอยู่ การไม่เชื่อไม่เป็นไรควรพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อนการคัดค้านจะเป็นผลร้าย เป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไปครับ
     
  19. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    เหอะๆถ้าท่านยังไม่ถึงสภาวะที่ผมบอกอย่าเพิ่งบอกว่าไม่มี คนที่ทรงอภิญญาจากพลังสมาธิ(ไม่ใช่เดรฉานวิชาอันมีนรกเป็นที่ไปมีฤทธิ์ผิดๆถูก)ล้วนผ่านจุดนี้มาแล้วเป็นเป็นพันท่าน แม้คนทำวิปัสนากรรมฐานในเว็บนี้หลายท่านก็ถึงสภาวะที่ผมบอกมันเป็นสากลไม่ใช่นึกคิดเอาเองอันมีนรกเปนที่ไปและขึ้นชื่อว่าคนหลง เสียเวลาและเสียทีเกิดศาสนา
     
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    มันเป็นสากล มันใช่นึกคิดเอาเอง คนทำสมาธิเยอะย่อมต้องเผชิญกับสิ่งที่ผมบอกไม่ว่าจะทำสมาธิที่บ้านที่วัดหรือที่ไหนก็ตามบนโลกนี้และไม่รู้ไม่ปลงที่ผมบอกจะผ่านไปขั้นอื่นไม่ได้ การจุกหน้าอก
    เย็น ร้อนจุกคอหอย ตัวลอยๆเบาวิว(รอบฌานแรกๆจะไม่รู้สึกไรแต่รอบ20-50ขึ้นไปย่อมจัดเจนเห็นสิ่งที่ผมบอกและเห็นอารมณ์มากขึ้นๆ) แต่คนทำธรรมดาไม่มีอภิญญาย่อมไม่สามารถไล่ดูฌานที่ตนอยู่ ณ ขณะนั้น จนกว่าจะได้อภิญญาจะรู้เห็นได้เองและช่วยดูฌานของคนอื่นได้ มันเป็นสากลจำไว้ เหอะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...