เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

เอามาเปลี่ยนแบงค์ ร้อย บาทได้ที่นี่ น่ะครับ

 

ด้วยความยินดีน่ะครับ

เข้าทักทายกันบ่อยๆน่ะครับ

ได้ผ้ายันต์รอยเท้า รูป หลวงพ่อทรง ไปหรือยังครับ

 

คนอายุร่วม ๑๐๐ ปีน่ะครับ เกิด รัชกาลที่ ๕ อยู่มา ๕ แผ่นดิน

๕, ๖, ๗, ๘, ๙

เส้นเกศา ดำเหมือนคนหนุ่มๆครับ

เดินเหิน คล่องแคล่ว ไม่ใช้ไม้เท้า ใครเอาไม้เท้ามาถวายมีเคือง จะโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ หายไป

นั่งทั้งวัน ไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่ฉันน้ำชา กาแฟ แม้แต่น้ำ

ไปหาหมอฟัน ในปากไม่มีฟันแม้แต่ซี่เดียว มีแต่ฟันปลอมที่เอามาซ่อม หมอ งงมาก ว่าพระองค์นี้อายุเท่าไหร่ ทำไมแข็งแรง จัง ท่านบอกว่า อายุ ๕ แผ่นดิน

ไม่เคยป่วย ยกเว้นแมวข่วน พอป่วยก็กระเสาะกระแสะ จนล่ะสังขาร ถึงเวลา

ไม่มีหลง นั่งทั้งวันไม่มีหาว ไม่มีง่วง เหงา หาว นอน ไม่นอนกลางวัน กลางคืน เล่นกับแมวและอ่านหนังสือ ๑๙๑ อาชญกรรม ที่มีรูป คนตาย ทรากศพ ประจำ หน้าเดียวนั่งอ่านเป็นชม

มีแมวเหมือนมีเพื่อนองค์รักษ์ ใครตีแมว หรือ อุ้มแมวจะเอากลับบ้าน มีเคือง

การพูดจา มีความรู้ชั้นสูง ภาษาพูด ผู้ดีมาก ไม่เคยมี มึงกู ข้าเอง รู้ภาษาต่างประเทศ ที่เคยเห็นมีอังกฤษ พอเรางง ยกให้ดู แปลศัพย์ ยากๆให้ฟังได้ซ่ะด้วย

ท่านไม่สนใจวัตถุมงคล แค่สงเคราะห์ ใครเอามาให้เสกก็เสกให้ ใครถวายก็วางไว้ตรงนั้น

 

พระยันต์ที่ผ้าสังฆาฏิหลวงตาท่านนั้น

เป็นพระยันต์ใดคะขอความกรุณาคุณพีด้วย กราบขอบพระคุณค่ะ

 

พิมพ์ไว้ดันหายไปอีก

เป็นตัว นะ ก็แล้วกันครับ แล้วขึ้นยอด

หลวงตาชอบลงที่รูปท่าน ดีทาง เมตตา โภคทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทอง

 

ถ้าแบงค์ร้อยบาทที่มีรอยจารหลวงปู่ซักห้าสิบใบ ก็น่าคิดนะครับท่านเจ้าสัว (deejai)

 

ในที่สุดก็ได้ไปถึงสำนักคุณแม่ชีประทุม

ยังไม่มีโอกาสได้ชุดแพโบสถ์น้ำที่ฝันหา
แต่คุณแม่ปลอบใจด้วยวัตถุมงคลชิ้นนี้ครับ

 

พระที่ยืนอยู่ในลูกแก้วนั้น คือท่านท้่าว ฐฏรธ เจ้าของแร่โคตรเศรษฐี และเจ้าของพื้นที่สำนักแม่ชีประทุม โชติอนันต์

 

ไปเขียนไว้ ก็อบมาให้อ่านครับ
ตามอ่านด้วยความสนใจน่ะครับ

เบี้ยแบบถักผมยอมแพ้ครับถ้าถักเก่า รักเก่าลึก ยังจะพอดูธรรมชาติออก เขย่ายังพอรู้สึกถึงปรอท เห็นห่วงยังดูธรรมชาติได้ แต่ถ้าไม่ลึกมาก ผมดูไม่ออกยอมแพ้ เขาเหมือนๆกันไปหมด ลายถักบอกตามตรง คนเดียวกันถัก หรือ คนตำบลเดียวกันถัก ถ้าถักละเอียด ลายวนไปกันไป แบบก้นหอย ก็แยกยาก

เบี้ยยุคกลางๆ หลวงปู่เพิ่ม ถึง ปลายๆ ก็ได้ หลวงพ่อเจือถักให้ ส่วนใหญ่ ผมเคยไปขอท่าน ยุคนั้นไปซื้อ ชุดเบี้ย มาจากร้านขายยาเอี้ยะแซ ตรงตลาดแถวริมน้ำ นครชัยศรี ปัจจุบันยังอยู่หลังตลาด ( มั้ง นานจัดถ้าจำไม่ผิด เกินสามสิบกว่าปีมาแล้ว ผมจำได้ว่าหลักสิบ น่าจะ ๖๐ หรือ ๘๐ บาท ) ชุดหนึ่ง จะมีเบี้ย เบี้ยจะ มีหลายขนาด หลายราคา มีขวดใส่ปรอท มีแผ่นตะกั่ว พระที่วัดบอกว่า ( พระในหอพระ ในยุคนั้น จะบูชาพระ จะไปที่นี่ จะรวมอยู่ที่นี่ ทั้งพระ เนื้อดิน ว่าน เหรียญ ยา ผ้ายันต์ รูปถ่าย พระปรอทขี้นกเขา พระหล่อ เหรียญเจ้าสัวก็มี ตอนนั้นไม่เรียกเจ้าสัว แต่เรียกซุ้มกระจัง ) พระหลวงพี่ที่ประจำหอพระ บอกว่า หลวงปู่เพิ่มท่าน แก่มาก ไปกวนท่าน ไม่สดวก ให้ไปหาท่านเจือที่กุฏิริมน้ำ พ.ศ. ประมาณ ๒๕๒x กว่าๆ คนก็ซื้อชุดเบี้ยใส่พาน ดอกไม้ธูปเทียนใส่ถาดไปขอหลวงพ่อเจือทำให้ ที่ซื้อชุดเบี้ยมาเฉยๆก็มี ซื้อมาทีหลายชุดก็มี

ยุคนั้น หลวงพ่อเจือ พูดชัด ว่า ฉันทำแต่ข้างนอก หลวงพ่อ ( หลวงปู่เพิ่ม ) ท่านทำข้างใน ผมได้ยินมาแบบนี้ชัดๆ แสดงว่า หลวงพ่อเจือ ทำหมด ตามวิธีกรรม การบรรจุเบี้ย จะตีตะกั่ว แล้วถักลงรักด้วย แต่หลวงปู่เพิ่ม เสกให้ (ท่านว่าแบบนั้น )

พอหลวงปู่เพิ่มล่ะสังขาร คนก็ยังไปหาหลวงพ่อเจือ ยิ่งมากขึ้น ผมก็ยังไปมาหาสู่ เพราะท่านใจดี ใจเย็น บางทีไปเห็นกะป๋องใส่นมวางอยู่เต็ม มีเบี้ยที่ถักแล้วทารัก มีก้านธูปเสียบห่วงห้อยไว้ที่ปากกระป๋อง ขอใครจำเองเอา เพราะเยอะ ท่านจำไม่ได้ ก็หยิบกันมั่ว ก็เอากลับ

ห่วงท่านเอาคีมงอเอง และให้หลานท่านงอให้ ผมนั่งดูอยู่ครั้งหนึ่งตอนซื้อลวดเงินไป ท่านเอาคีมและ ลวด เขวี้ยงไปกับพื้นให้หลานท่าน บอกทำให้ที

หลวงพ่อเจือ ไม่เคย เรียกร้องเงินแม้แต่ ครั้งเดียว หรือ บาทเดียว ไม่เคยพูด ถามท่านว่าเท่าไหร่ ท่านยังอ้อมๆแอ้มๆ แบบกระดากปาก ( แต่ของมันมีทุน แม้บางอย่างคนเอามาถวาย ) แต่พวกเราถวาย ครั้งล่ะ ๑๐๐ บาท เป็น ค่าถัก ค่าแรง ทุกอย่าง ( ถูกยิ่งกว่าถูก ) ใครจะให้มาก ท่านก็ไม่ว่า จะไม่ให้ก็น่าจะมีแต่ กล้วยอ้อย นม โอวัลติน กาแฟ ( มั้งมาถวายท่านแทน ) ที่เอาชันโรงมาถวาย ซื้อรักกระป๋อง ซื้อด้ายตราสมอ เบอร์ ๕ ( มั้ง) มาถวายก็มีครับ มันนานจัดผมชักลืมรายละเอียด

มายุคนี้ ท่านพูดชัด ว่า คราวนี้ฉันทำทั้งข้างนอกและข้างใน หลวงปู่เพิ่มไม่อยู่แล้ว และท่านอาจารย์ใบ ก็ทำ แต่คนไม่ค่อยรู้ หรือ อาจจะไม่กล้า ไปหา ท่านเจือใจดีกว่า

เบี้ยยุคนี้อายุก็ใกล้เคียงกับเบี้ย ที่ทันหลวงปู่เพิ่ม หลวงพ่อเจือ ทำต่อมา เบี้ยมาจะเป็นแสนลูก แบบถัก ทำต่อมา ร่วมสามสิบปี ชุดหลังๆ รักยังสด การถักมีหลายคนถักแล้ว

แต่ชุดที่หลวงพ่อเจือ ยังตาดีๆ ถักเอง เวลาถักท่านใส่แว่น ค่อยๆเอาเข็มแทงไปทีล่ะข้อ ผมไปนั่งเฝ้ามา กว่าจะได้ลูก นานมาก วันหนึ่งอย่างเก่งผมว่าท่านถักได้ สองสามลูก เพราะเป็นพระท่านมีธุระอย่างอื่น ต้องบิณบาต ต้องทำวัด เช้าเย็น ต้องฟังปาฏิโมกข์ ต้องไปทำงานพิธี รับนิมนต์ ฯลฯ

เอาว่าเบี้ยยุคนี้ ทำมาหลายปี ก่อนพัฒนามาเป็นอุตสาหกรรม เพราะหลวงพ่อเจือ ท่านทำคนเดียวไม่ไหว น่าจะมีเป็นหลายพัน ถึงหมื่นลูก จะแยกอย่างไร เห็นลาย เห็นรักเก่าดำ ตีเป็นหลวงปู่เพิ่ม ดีกว่า

ส่วนท่านอาจาร์ใบ ก็ทำเบี้ย ทรงคล้ายๆจานบิน เบี้ยท่านอาจารญ์ใบทำไม่มาก และ ไม่ธรรมดา ขาดพระสังฆราช ( องค์ปัจจุบัน ไปแวะหา น่าจะเป็นเรื่องยาจินดามณีที่ ถวายในวัง เป็นเรื่องภายใน คนไม่ค่อยรู้ เดากันไป) ยังพกเบี้ยท่านอาจารย์ใบ ติดย่ามไว้ หนึ่งตัว ท่านทำไม่มาก และ อยู่ไม่นานล่ะสังขาร เบี้ยชุดนี้ จะตีเป็นใครทำ

ต่อมาภาระเลยเป็น ของหลวงพ่อเจือ ในยุคนั้น ๒๕๒x พระในวัดกลางฯ ทั้งแก่และ หนุ่ม ถักเบี้ย หุ้มเบี้ยเป็น ทุกองค์ เบี้ย ยุค นี้จะแยกอย่างไร คนถักใจเย็น มีฝีมือ รักก็ไปซื้อเป็นขวด มาจากร้านเดียวกัน เลยวัดกลางไปหน่อย ด้ายตราสมอเหมือนกัน

จะแยกอย่างไร ทั้ง ถัก ทั้ง ห่วง มีปรอท ทำมาจาก คนเดียวกัน

ใครดูออก ผมยอมครับ...แหะๆ เล่นเบี้ยนี้

ถ้าเป็นของหลวงปู่เพิ่ม ต้องรับกับมืออย่างเดียว

ถ้าเป็นของหลวงพ่อเจือ ต้องรับกับมืออย่างเดียว

นอกจากนั้น มีสงสัยครับ ต้องดูที่มาที่ไป ที่น่าเชื่อถืออย่างเดียวเท่านั้น

นอกนั้น เหมือนมีดหลวงพ่อเดิม ทำกันหลายช่าง ทำขายหลายวัด แต่ตีเป็นวัดหนองโพอย่างเดียว ถ้าเก่าลึกและหลังหลวงพ่อเดิมล่ะสังขาร ช่างเดิมๆก็ยังทำมีดต่อมาเพราะเป็นอาชีพเขา เหตุการณ์เดียวกับวัดกลางเด๊ะ เก่าไล่ๆกันมา จะแยกยังไง

เบี้ยวัดกลาง ยุคหลวงพ่อเจือ จะเป็นตำนาน มีเป็นแสนๆลูก อีก สัก ๕๐ ปี ขึ้น คนยุคหลาน หรือ เหลน น่าจะตีลึกกันไปหมดว่ากันไป....แต่ผมว่าเล่นยากครับ

เล่นเบี้ยเปลือยที่หลวงพ่อเจือท่านจารดีกว่า เห็นลายมือ ชัดๆ ยังรอดตัว มีการตอกโค๊ดที่ ห่วงอยู่ชุด ( ไอเดียเยี่ยม ) แต่มีไม่มาก หลังจากนั้น ข่าวว่าโค๊ด ปาฏิหาริย์หายไป เพราะถ้ามีตอกไปเรื่อยๆ ....แหะๆ เบี้ยที่ไม่ตอกโค๊ดก็ไม่เดินแน่นอน โค๊ด ท่านเลยต้องล่องหนมั้งครับ...แหะๆ และไม่มีแบบนี้ออกมาอีก น่าเสียดายมากครับ

เล่นเบี้ยเปลือย สบายใจ ของหลวงพ่อเจือก็มีรอยจารท่าน จารลายเส้น คม เบา

นอกจากนั้น ยังมีวัดอื่นท่านทำ ที่ทำเยอะหน่อยมีของอาจารย์กา ทำแจกยุคหลวงปู่เพิ่ม หลวงพ่อเจือเหมือนกัน แต่พอแยกออก เพราะเอามุ้งครอบ แต่ถ้าไม่มีมุ้งครอบล่ะครับ เพราะใครถักก็ได้ ถ้าเอามาถักเอง แต่วัดอื่นก็มีทำ เช่น วัดท้องไทร ทำให้แบบเฉพาะคนที่มาขอ ทำมาแล้วไปหาช่างแถววัดกลางถัก และ วัดอื่นก็มีทำน่ะครับ หลวงพ่อเก่งๆ แถวนั้นยุคนั้นมีหลายองค์ ที่ซุ่มๆ รู้แบบวงใน แบบท่านอาจารย์กา ก็ยังพอมี คนพื้นที่เขาทราบดี

ผมเขียนมาตามที่เห็น เล่นพระง่ายกว่า มีพิมพ์ มีเนื้อ มีโค๊ด ยังโดนกัน...เหอๆๆ มาเล่นเบี้ย แล้วตีหลวงพ่อ ตียุคออก มันยากกว่าครับ

เล่นเบี้ยเปลือยสายอ่างทอง น่าจะดูง่ายกว่า ดูหอย ดู ชันเก่าๆ มันดูธรรมชาติง่ายกว่า สรรพคุณก็เลิศล้ำ เป็นตำนานของอ่างทองเหมือนกัน ตั้งแต่ พลวงพ่อ พัก หลวงพ่อ ซำ หลวงพ่อ คำ หลวงพ่อ นุ่ม และ อีกหล่ายท่าน เช่นหลวงพ่อ โปร่ง หลวงพ่อ กลุ่ม มาจนยุคปัจจุบัน หลวงพ่อทรง หลวงพ่อ อ่อน หลวงพ่อเสียน หลวงพ่อมี ยังมีอีกหลายท่าน มีทำกันหลายวัด เพราะหลวงพ่อเก่งๆยุคเก่าเยอะ ยุคปัจจุบันที่เก่งๆก็ยังมี ดูธรรมชาติง่ายกว่ามากครับ

เขียนยาวๆ เดี๋ยวไปเรื่อยๆ เอาว่าอ่านแก้เซ็งน่ะครับท่าน และเป็นสายตา ส่วนบุคคล เขียนให้อ่านเพลินๆเท่านั้นครับ

 

หลวงพ่อทรงเสกวัตถุมงคลให้ลูกหลาน​

 

ยังไม่ได้เลยคราบพี่
เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 4-5 พค. ผมไปวัดมาด้วย ไปถวายผ้าป่า มายอดเงิน 12,799.- บาท ช่วยบำรุงวัดศาลาดิน หลวงปู่ทรง วัดศาลาดิน องค์ที่ผมศรัทธา ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและผลบุญนี้ จงบันดาลให้พี่เสาวภา และพี่น้อง บ้านเหรียญบิน มีความเจริญ รุ่งเรือง ร่ำรวย กันทุกคน อนุโมทนา สาธุ ........สาธุ

 

เห็นด้วยกับพี่พีอย่างยิ่ง เล่นเบี้ยเปลือยหลวงปู่เจือดีกว่าครับ เพราะประสบการณ์ตรงเลย วันนั้นไปวัดถึงแต่เช้าตู่ประมาณ 6 โมงเช้า ตั้งใจไปบูชาเบี้ย (พอดีไม่ได้อ่านหาข้อมูลมาก่อน และช่วงนั้นยังไม่นิยมเก็บวัตถุมงคล ไปเช่าเพราะที่บ้านโดนของครับ) มีเบี้ยถัก เบี้ยเปลือย เบี้ยเงิน และเบี้ยทอง เลยเช่าเบี้ยถัก 1 เบี้ยเปลือย1 เบื้ยทอง 2 ซึ่งช่วงนั้นหลวงปู่ไม่สบายพึ่งฟื้นไข้ ก็อยากได้รอยจารหลวงปู่ จึงให้หลวงปู่จารเฉพาะเบี้ยทองเท่านั้น หลายปีผ่านไป เพิ่งมาอ่านหาความรู้เรื่องเบี้ย เลยอยากรู้ว่าเบี้ยถักของเราโดนไหม (คือเบี้ยถักจะถูกช่่างถักแอบสับเปลี่ยนตอนถักเบี้ยนะครับ) ปรากฏว่าโดนจริงๆ เขาไม่กลัวนรกกันจริงๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
วันนี้ไปห้อยพระนักธรรมไปสัมภาษณ์งานครับ
อีกวันสองวันคงรู้ผลครับ
ลืมบอกไปว่าพระันักธรรมองค์นี้พี่พีเมตตามอบมาให้เมื่อครั้งนานมาแล้วครับผม
ขอบพระคุณจริงๆครับพี่พี่

 

กราบอนุโมทนาบุญด้วย ครับพี่พี

กราบหลวงตาเล็ก หลวงปู่อั๊ม หลวงพ่อทรง

 

อั๊ยยะ เมตตาอย่างแรงงงงงงงงง ครับพี่Surfers

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]

แสงแข, merrit, bearkery, วสี

สวัสดียามเย็นค่ะ

 

​

พระปรกใบมะขาม วัดใหม่​

​

 

มากราบ หลวงพ่อทรงวัดศาลาดิน เอาโชค เอาลาภ กราบ กราบ กราบ

 

มากราบ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เอาฤกษ์ เอาชัย ก่อนนอน กราบ กราบ กราบ

 

อากาศมันร้อนน่ะครับ ......แหะๆ