พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

ขุนแผนหลังชฎา,ฉัตรแบบนี้ วัดป่าเลไลย์ สุพรรณครับ

 

องค์นี้เป็นพระขุนแผนไข่ผ่า หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี ยุคแรกของท่านครับ เนื้อจัดมากเหมือนพระกรุเลย หลายคนบอกว่าถ้าไปลบตราด้านหลังออก คนดูเป็นของกรุวัดพระรูปได้เลย แหะๆ แต่ผมชอบแบบเดิมๆมากกว่าครับ ^^

 

เนื้อพระจัดดีจริงๆเลย เห็นความเก่าของเนื้อพระเป็นอย่างดี สุดยอดครับผม

 

สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ
พระสมเด็จองค์นี้ผมได้มาจากหลวงน้าผมครับไม่รู้ว่าเป็นพระสมเด็จวังหน้าหรือเปล่าครับ

 

ยังไม่ใช่น่ะครับ ลองหาดูใหม่น่ะครับ ขอให้โชคดี

 

เล่าสู่กันฟังครับ
เมื่อวันมาฆะบูชา ปี พ.ศ. 2556 ผมได้รับโทรศัพท์จากพระอาจารย์ที่นับถือรูปหนึ่ง ท่านได้บอกว่า ท่านจะมอบพระกรุนาดูนให้ 1 องค์เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติ ซึ่งท่านได้ให้ข้อมูลเพิ่มว่า เดิมนั้นท่านได้พระกรุนาดูนนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วจากการธุดงค์ผ่านจ.มหาสารคาม จากชายผู้หนึ่งที่ถวายให้ หลังจากกลับถึงวัดแล้ว ท่านได้นำพระกรุนี้ (ซึ่งอยู่ในภาพก้อนดิน) มาใส่ไว้ในบาตรเก่าในกุฏิของท่าน เป็นบาตรที่ท่านใช้เก็บวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้มาระหว่างการธุดงค์และญาติโยมหรือศิษย์ถวายให้มา
ท่านเล่าต่อว่า หลังจากเก็บในบาตรเก่าลูกนั้นแล้วก็ไม่ได้เปิดดูอีกเลย จนผ่านไป 3 ปีและเมื่อวันมาฆะบูชา พ.ศ.2556 นี้ ก็นึกได้ว่ามีพระกรุนาดูนอยู่และอยากจะเห็น ก็เลยเปิดบาตรเก่าดู ก็พบว่า สภาพพระเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็นดิน กลับเปลี่ยนแปลงไปเป็นใสดังแก้วและมีเนื้อสีเขียว องค์พระมีขนาดสูง 8 ซม. และฐานกว้าง 3.5 ซม.

พระอาจารย์ได้มอบให้ผมไว้แล้วกล่าวว่าใ้ห้เป็นกำลังใจต่อไปเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติให้ดียิ่งๆ ขึ้น ยังความปลาบปลื้มให้ผมยิ่งนัก
ผมเองนั้น ก็ได้ถวายสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำ ซึ่งกล่าวกันว่าสร้างและอธิษฐานจิตโดยสมเด็จฯ โต พระอาจารย์หลังจากรับไปแล้วก็ได้ตรวจทางจิตสักครู่ เมื่อลืมตาขึ้นท่านก็กล่าวว่า ถูกต้อง... เป็นของที่สมเด็จฯ ท่านสร้างและอธิษฐานจิตไว้จริง
ผมยังนั่งสนทนากับท่านเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของผมที่ยังติดขัดอยู่บางประการ ซึ่งก็ได้รับคำสั่งสอนให้นำกลับมาแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

 

สวยงามมากๆครับ ยังไม่เคยเห็นของจริง ดีใจด้วยครับ

 

เรื่องที่คนชอบพระต้องอ่าน แต่เซียนไม่อยากอ่าน
http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=2&qid=2332

 

พระพญาเหล็ก (เหล็กไหล) แบบมีกริ่ง อ.เสือสร้าง

 

งามทั้งคู่ครับ ยังไม่เคยเห็นแบบนี้เลยครับ จะมีวาสนามาโปรดคนไกลบ้างบ่น้อ

 

พระพิมพ์วังหน้า สองเกศ พระผ่านการล้างครับ พบที่สนามพระนครปฐม ข้างๆ องค์พระปฐมเจดีย์ครับ

 

พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า พิมพ์พระประธานแบบเจดีย์เล็ก พบสนามพระแถวๆ สะพานควายครับ

 

พระมงคลมหาลาภ ปีพ.ศ. 2499 กรุวัดสารนาถฯ ระยอง ท่านพี่ที่เป็นทนายความจากจันทบุรีมอบให้ กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ

 

งามทั้งสามเลยครับ เนื้อจัดขนาด

 

ฝากไว้สักองค์ครับ หาที่มาไม่เจอครับผม วานผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ

​

 

สวยมากเลยครับ แต่ปัจจุบันมีปลอมเยอะมากครับ ปลอมซะจนเหมือนของจริง
พระของคุณคงภัคแต่ละองค์หาได้ยากจริง ๆ

 

พระอาจารย์ผมองค์นี้ท่านอายุไม่มากครับ แต่พรรษามากเพราะบวชแต่เล็ก ท่านจำพรรษาอยู่ในกทม.นี่แหละ ในกุฏิของท่านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ 2 อย่างเอง คือ พัดลม กับ ไฟเพดานเองครับ

พระต่างๆ ที่ท่านให้ผมมานั้น ท่านก็ให้เปล่าทั้งสิ้นครับ ท่านเป็นองค์เดียวกับที่ผมเล่าเรื่องแหวนนาคเกี้ยวที่เด็กน้อยลูกศิษย์ท่านไปเล่นน้ำแล้วมีแหวนติดมือเด็กขึ้นมาครับ

 

พระพิมพ์เมตตาสามโลก ตามประวัติที่ทราบจากท่านที่ให้มาก็คือ พระพิมพ์นี้ปลุกเสกวันมหาอุปราชาภิเษก 12 พ.ย. 2411

พระพิมพ์เดียวกันนี้ (ไม่ใช่องค์นี้) ผมได้มอบให้ท่านพี่ที่ันับถือท่านหนึ่งในขณะที่ท่านกำลังอยู่ช่วงหาเสียงเป็นนายกเทศมนตรีของอำเภอหนึ่งหลายปีมาแล้วซึ่งท่านสมัครเป็นครั้งแรก และก็ได้รับเลือกตั้งในที่สุด ท่านกล่าวกับผมว่า แทบไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับการเลือกตั้ง และขอบคุณผมที่ได้มอบพระพิมพ์เมตตาสามโลกนี้ไว้ให้ ปัจจุบันท่านก็ยังห้อยพระพิมพ์นี้ติดตัวอยู่ครับ

มีทำปลอมในท้องตลาดมา 3 ปีแล้วครับ องค์ละ 50 บาทเอง เจอมากับตัว ผมถามว่าบูชาองค์เท่าไหร่ ก็ได้คำตอบว่า 50 บาท ผมถามต่อว่าลดได้ไหม ผู้ขายบอกว่าจะเอากี่ร้อยองค์จะลดให้

พระสร้างใหม่นั้น เนื้อหาแตกต่างจากของเก่ามากครับ มีร่องรอยทำให้ผิวพระดูเก่า กลิ่นสารเคมียังกรุ่นอยู่ (หาพระเนี่ยต้องใช้จมูกด้วยนะครับ) แต่ทรงพิมพ์นั้นเหมือนของแท้มากๆ ถ้าต้องการหาไว้ ให้ดูเนื้อพระดีๆ นะครับ จะคล้ายพระสมเด็จมาก บางพิมพ์ก็เป็นเนื้อแบบพระวังหน้าก็มีครับ เนื้อเป็นปูนเพชรและมีสีต่างๆ

ถ้าใครจับอิทธิคุณพระได้ก็จะช่วยได้อีกครับ เป็นพระดีที่สมเด็จฯโตท่านเสก และหลวงปู่เทพโลกอุดรท่านร่วมอธิษฐานจิตด้วยครับ

 

พระเหรียญหลวงปู่เทพโลกอุดร สร้างวัดสระมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ศ. 2545 ครับ ตามประวัติว่ากันว่าหลวงปู่ฯ ท่านมาเสกพระเหรียญนี้ด้วยครับ



ด้านหลังของเหรียญจะพิมพ์ว่า "บรมครูพระเทพโลกอุดร" ซึ่งเป็นคำกล่าวเรียกท่านที่ "ถูกต้อง" ที่สุดครับ

บางท่านไปเรียกว่า "พระบรมครูเทพโลกอุดร" ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะพระบรมครูมีเพียงพระองค์เดียวคือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

บางท่านก็ไปเรียกว่า "พระครูเทพโลกอุดร" ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ ท่านไม่ได้เป็นพระครูใดๆ ทั้งสิ้นครับ

 

น้ำใจจากพี่ชาญ ^^ ​

​