ใครฝึกกสินน้ำ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อาหลี_99, 20 กันยายน 2007.

  1. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    ใครฝึกกสิน น้ำสำเร็จ บ้างครับฝึกมานานและยังไม่คืบหน้ายินดีเป็นลูกศิษย์ครับตามหาพระอาจารย์.(b-cry) Great_power_ocean@hotmail.com
     
  2. ชาวพุทธครับ

    ชาวพุทธครับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +59
    (b-no) ก็ลองกสินสีก่อนซิครับเอาง่ายๆก่อน ผมก็ยังไม่ได้เหมือนกันหละครับ กำลังฝึกอยู่เหมือกัน ง่ายแล้วค่อยยากครับ หลวงพ่อท่านว่าใช้อารมณ์เหมือนกันครับได้อย่างอีกอย่างก็ไม่ยากครับ
    คุยกันได้ครับ witchanon_art@hotmail.com
     
  3. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    กสิณ มีความหมายว่า
    วัตถุอันจูงใจ คือ จูงใจให้เข้าไปผูกอยู่ เป็นชื่อของกัมมัฏฐานที่ใช้วัตถุสำหรับเพ่งเพื่อจูงจิตให้เป็นสมาธิ มี ๑๐ อย่าง คือ ภูตกสิณ ๔ : - ๑) ปฐวี ดิน ๒) อาโป น้ำ ๓) เตโช ไฟ ๔) วาโย ลม วรรณกสิณ ๔ :- ๕) นีลํ สีเขียว ๖) ปีตํ สีเหลือง ๗) โลหิตํ สีแดง ๘) โอทาตํ สีขาว และ ๙) อาโลโก แสงสว่าง ๑๐) อากาโส ที่ว่าง (จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับพระธรรมปิฎก)

    ตามพจนานุกรมพุทธศาสน์ เขาใช้การฝึกแบบกสิณเพื่อทำให้จิตใจมีสมาธิ เหตุเพราะหลักการที่ว่า "ลางเนื้อชอบลางยา"
    แต่พวกคุณปฏิบัติสมาธิตามธรรมดา ดีแล้ว อย่าฝึกกสิณ น่าจะดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้แจ้งดอกว่า ฝึกแบบกสิณ แล้วจะเป็นอย่างไร
    อย่างเช่นเขาบอกว่า ฝึกกสิณสี พวกคุณรู้ไหมว่า มันเป็นการใส่ข้อมูลให้กับสมอง อาจเกิดอันตรายต่อระบบสมอง อันเชื่อมโยงไปสู่การมองเห็น การปรุงแต่ง และอื่นๆอีกมากมาย คิดเอาเองเถอะขอรับว่า หากข้อมูลในสมองมีแต่สี จะเป็นอย่างไร
    (นี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะขอรับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2007
  4. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    555 ฝึกกสิณสีไม่ใช่เอาสมองไปย้อมสีนะลุง
    บ้าขึ้นทุกวันวุ้ย
     
  5. Khaning

    Khaning เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +197
    เคยอ่านเจอว่ามีศาสตร์บางชนิดบอกว่าคนมีการรับรู้โลกหลักๆ สามแบบ คือ รับรู้เป็นภาพ รับรู้เป็นเสียง และรับรู้เป็นผัสสะ ส่วนอีกสองทางคือจมูกกับรสก็มีเหมือนกัน แต่น้อยกว่า ถ้าศาสตร์ที่ว่าถูกต้อง การฝึกแบบกสิณน่าจะเหมาะกับคนรับรู้โลกเป็นภาพนะคะ เพราะเขาเก่งทางนี้อยู่แล้ว ก็คงเหมือนการเอาจุดแข็งด้านการรับรู้ (cognitive) ของตัวเองมาใช้ประโยชน์ในการทำสมาธิ ทำให้สร้างนิมิตและขยายนิมิตได้เร็ว ไม่เหมือนคนรับรู้แบบอื่น เช่น เสียง ที่คงสร้างและรักษานิมิตได้ยากกว่า แต่ที่คุณ telwada พูดก็น่าฟังนะคะ เพราะถ้าเรามีแนวโน้มรับรู้โลกแบบหนึ่งแล้ว เวลานั่งสมาธิก็ยังใช้วิธีแบบนั้นอีก เราก็อาจไม่ได้พัฒนาการรับรู้ด้านอื่นๆ เลย ยกตัวอย่าง ดิฉันเป็นคนรับรู้โลกทางเสียงเป็นส่วนใหญ่ (บ้าแนวคิด) และมีประสาทรับสัมผัสอื่นๆ ที่เลวมาก แต่พอนั่งสมาธิแบบอานาปนสติได้พักนึง (ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ) จมูกดิฉันไวต่อกลิ่นขึ้นมากเลย ซึ่งเป็นประโยชน์ในทางโลกมากขึ้นเหมือนกันค่ะ
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้าพเจ้ารำคาญ บุคคลประเภท ไม่มีความรู้ แต่ชอบว่าให้คนนั้นโน้น ไม่มองดูตัวเองบ้างเลย
    ฝึกกสิณสี ไม่ใช่เอาสมองไปย้อมีสี ก็ถูก
    แล้วคุณรู้ไหมว่า สัญชาติญาณ เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าคุณหาคำตอบที่ถูกต้องได้ คุณก็จะเข้าใจในข้อที่ว่า
    "การฝึกกสิณสี เป็นการใส่ข้อมูลให้กับสมอง อาจเกิดอันตรายต่อระบบสมอง อันเชื่อมโยงไปสู่การมองเห็น การปรุงแต่ง และอื่นๆอีกมากมาย "
    คุณไปคิดพิจารณาให้ดี ถ้าไม่รู้ก็ไปถามจิตแพทย์ดูก็ได้ ไม่รู้แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดอีก ก็เห็นคุณเข้ามาในเวบพลังจิตอยู่บ่อยๆ จิตใจ ความคิด ความรู้ ไม่เจริญขึ้นเลยหรือคุณ มีแต่ต่ำลงนะคุณ
     
  7. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ขอนุโมทนาในความตั้งใจ

    การฝึกกสิณเป็นการฝึกสมาธิอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เกิดความเป็นทิพย์อำนาจขึ้นได้มากกว่า การฝึกอานาปานสติ ความมุ่งหมายของคุณในการฝึกเพื่ออะไร ต้องการความเป็นทิพย์ไปเพื่ออะไร ทุกสิ่งทุกอย่างอาจเป็นไปได้ แต่ก็หมายความว่าคุณต้องมีกิเลส-ตัณหา ที่น้อยมากแล้ว แม้แต่คาถาอาคมจะสำเร็จได้ก็ต้องมีสัจจะ มีสมาธิไม่มาก หรือมีครูบาอาจารย์หนุนหลัง ทำให้เกิดความมั่นใจจึงทำได้ อย่างน้อยศีลต้องบริสุทธิ์

    หันมาฝึกมโนมยิทธิไม่ดีกว่าหรือ ครูบาอาจารย์มีพร้อม เหมือนกันแหละในวิธีการ ปรับหน่อยเดียว พอรู้เห็นว่าอะไรเป็นอะไรจนจิตมีกิเลสที่เบาบางลง เราอาจมาต่อเอาภายหลังก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่หลงทาง เป็นศิษย์มีครู เพื่อนทางธรรมในห้องนี้เยอะนะ

    การตีความด้วยตัวอักษรในทางธรรมมันยากเหมือนบอกว่าหวานเป็นอย่างไร หนังสือที่เขาเขียนวิธีการฝึกกสิณ ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติได้แล้วมาเขียนท่านจึงจะเข้าใจ เพราะจะเปรียบเทียบด้วยอุปมาอุปมัย นั่นหมายความว่า มิใช่อ่านหนังสือมาแล้วอธิบายเป็นเรื่องเป็นราว กว่าจะเข้าใจมันยาวมาก ลองนึกดูนักธรรมที่เขียนยาวทั้ง ๆ ที่เรื่องนิดเดียว เพราะเขาต้องการจะพยายามบอกเรื่องที่อ่านมาอย่างเข้าใจนั่นไง สัญญาล้วน ๆ นะ
    เอาแค่คำว่า อารมณ์ของกสิณน้ำ เราก็ตีความแย่แล้ว นึกถึงลักษณะของน้ำ ทั้งสีสัน และที่มันเป็นทรงกลม ๆ ตามภาชนะที่มันบรรจุ แล้วจำให้ได้ติดตา ทั้งหลับตาและลืมตา แค่นี้ยากไหม แค่คำว่าอารมณ์คำเดียว บางคนมีของเก่า เราไม่พูดถึงนะ

    เอวัง ครับ
     
  8. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    กำ จริงๆครับ
    ผมเครพความคิดของทุกๆท่านนะครับ
    ความคิดแตกต่างได้ห้ามแตกแยกนะครับช่วยกันพยายามเอาคำสอนพระพุทธเจ้ามาใช้กันดีกว่าครับ
    ตัวเรานั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวขอความดี..... การลงมือกระทำนั้นยังยากกว่าพูดและคิดหลายเท่านัก..ดังคำที่ว่าการจะเป็นคนดีนั้นดุดดังว่ายทวนกระแสน้ำ
     
  9. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,094
    เราอยู่กับน้ำทุกวัน อยากสำเร็จ ก็ต้องเพียรซิครับ

    ไม่ว่าจะต้องหลับตา แล้วลืมตา สัก พัน สัก หมื่น หนน่ะ

    หรือ อาจเป็น แสน เป็น ล้าน หน มีกำลังใจไปถึงไหมครับ

    ไม่สำเร็จก็อยากเลิกราไปนะครับ

    อนุโมทนาครับ สำหรับความคิดเห็นของทุกๆคน
     
  10. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ฝึกกรรมฐานอะไรก็ได้ครับ ใน40 กอง เอาว่าถนัดอันไหน มีครูบาอาจารย์สอนได้ไม่ผิดเพี้ยนก็เอาครับ ใจเย็นๆ การฝึกเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆบางคนสิบปี ยังได้แค่อุปจารสมาธิเอง ยกเว้นพวกที่มีบุญเก่ามาแล้วถึงจะเร็วหน่อย

    เคยมีตัวอย่างพระรูปหนึ่ง ฝึกกสิณไฟ จนวันนึงมองเห็นไฟไหม้กุฏิ รีบกระโดดออกจากหน้าต่างกุฏิ พระ เณรรูปอื่นๆงงกันหมดครับ เพราะไฟไม่ได้ไหม้จริง จิตพระรูปนั้นท่านปรุงแต่งเอง(นี่เป็นผลข้างเคียงหากไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำครับ)

    ยังไงฝึกกสิณน่าจะหาครูบาอาจารย์ชี้แนะแนวทางให้ดีกว่าครับ
    กสิณน้ำ(อาโปกสิณ)มีพระหลายท่านที่สำเร็จอยู่เยอะครับ ลองไปหาดู
    พระครูที่เสกจตุคาม ที่ทำน้ำกระเด็นออกจากบาต(ไม่ขอเอ่ยชื่อนะครับ)
    ท่านก็ได้กสิณน้ำแล้วนะครับ ลองไปให้ท่านสอนดูครับ
     
  11. chentenryu

    chentenryu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +206
    " อย่างเช่นเขาบอกว่า ฝึกกสิณสี พวกคุณรู้ไหมว่า มันเป็นการใส่ข้อมูลให้กับสมอง อาจเกิดอันตรายต่อระบบสมอง อันเชื่อมโยงไปสู่การมองเห็น การปรุงแต่ง และอื่นๆอีกมากมาย คิดเอาเองเถอะขอรับว่า หากข้อมูลในสมองมีแต่สี จะเป็นอย่างไร (นี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะขอรับ) "
    ของใครคร๊าบยกมือขึ้น
    อยากรู้จังฮับ ทำไมใจร้ายจัง เตือนผู้อื่นด้วยวาจานิ่มนวดไม่ได้หรือฮับ หรือจะว่าแล้วแต่จริต อิอิอิอิ สงสารเค้าบ้างดิฮับ
    ส่วนเรื่องความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ อันนี้ผมไม่ยุ่งนะฮับ กสิณน่ะ ผมชอบนะ มันส์มั่กๆ ขอบอก
    ที่อยากจะบอกจริงๆ ก็คือ กสิณเป็นกรรมฐานหยาบฮับ ฝึกง่าย ได้ความมันส์ แต่ ภูตกสิณ จะฝึกต้องรู้วิธี "คุมกสิณ" นะฮับ อย่างกสิณไฟ พวกพระในป่ากาญฯ ตัวไหม้ไปก็มากนะฮับ
    ส่วนกสิณน้ำ คุมไม่อยุ่น้อยๆ ก็ "ท้องเสีย" บ้าง "น้ำมูกไหล" บ้าง
    กสิณสี วิธีฝึก ไม่ให้มันย้อมสมอง ย้อมความคิด มันก็มีนะ
    ถ้าหากใครจะใจร้าย ว่ากสิณสีมีอันตราย งั้น..บอกได้ไหมฮับ ว่า "ฝึกแบบไหนไม่อันตราย" อย่าเอาแต่ต่อว่าอย่างเดียวดิฮับ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆ<!-- / message --><!-- edit note -->
     
  12. userx

    userx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +1,061
    อยากให้ไปหาหนังสือ "กสิณ กรรมฐานที่ทรงพลัง"(เล่มสีส้ม) ของ ดร.จรูญ วรรณกสิณ มาลองอ่านดู ผมเพิ่งไปสอยมาจากร้าน se-ed และเพิ่งอ่านจบเมื่อสักครู่เอง อ่านเล่มนี้แล้วจะหายสงสัยเกี่ยวกับกสิณไปเลย(verygood)
     
  13. chentenryu

    chentenryu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +206
    " อยากให้ไปหาหนังสือ "กสิณ กรรมฐานที่ทรงพลัง"(เล่มสีส้ม) ของ ดร.จรูญ วรรณกสิณ มาลองอ่านดู ผมเพิ่งไปสอยมาจากร้าน se-ed และเพิ่งอ่านจบเมื่อสักครู่เอง อ่านเล่มนี้แล้วจะหายสงสัยเกี่ยวกับกสิณไปเลย "
    ลองอ่าน "วิสุทธิมรรค" ก็ดีไม่แพ้กันนะฮับ พระที่ได้ "ปฏิสัมภิทัปปัตโต" ในช่วง ๕๐ ปีที่ผ่านมา ก็ได้ ตำราเล่มนี้ แหล่ะ
    (หมายโหด ...ราคาถูกกว่ามั่กๆ เมื่อเทียบกับความรู้ที่ได้ ตั้ง ๔๐ กองกรรมฐาน)
    อ๊บๆๆ
     
  14. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อวดอุตริมนุษยธรรม ทั้งน้าน และน่า
    อวดอุตริมนุษยธรรม ทั้งน้าน และน่า

    แล้วใคร่ขอถามทุกคนทุกท่าน ว่า ฝึกกสินน้ำ แล้วมีผลดีอย่างไร ได้อะไร ทำอะไรได้บ้างในชีวิตประจำวัน

    หลักธรรมหรือหลักปฏิบัติทางศาสนานั้น หากนำมาปฏิบัติหรือฝึกฝนแล้วย่อมเกิดผลดีต่อสรีระร่างกายและเป็นผลดีต่อพฤติกรรมต่างๆ
    แล้วฝึก กสิณ น้ำ มันมีผลดีผลประโยชน์อะไรต่อผู้ฝึกบ้าง
    ใครผู้ใดที่คิดว่าตัวเองรู้เรื่องกสิณ หรือฝึกกสิณได้แล้วลองตอบหน่อยซิ อย่าตอบแบบอวดอุตรินะ เพราะมีผู้ฝึกกสิณได้ครบทุกกสิณอยู่นะคุณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  15. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    อยากจะบอกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ telwada

    จริงๆแล้วก็ไม่อยากจะยุ่งกับคุณเท่าไหร่หรอกนะครับ เพราะรู้ว่าคุณมีความคิดของคุณเอง แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจก็ไม่น่าจะมาตอบ เก็บไว้คนเดียวก็ได้ คุณกำลังทำให้คนอื่นเข้าใจผิดๆ คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่า ทำให้คนอื่นเขาสับสน คุณกำลังเบี่ยงเบนคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าการฝึกกสิณต่างๆไม่ดี พระพุทธองค์คงจะไม่บัญญัติไว้หรอก ที่มีเหตุเป็นไปนั่นเพราะเขาทำผิดวิธีต่างหาก ลองใคร่ครวญดีๆ ก็จะรู้ว่าเพราะอะไร หากมีสติ ปัญญา พิจารณาให้รอบคอบ ก็จะเข้าใจ


    ผมอยากทราบจัง คุณทำอย่างนี้เพื่ออะไรหรอครับ มันบาปนะครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าถ้าคุณตายไปจะต้องตกนรกขุมไหนกันแน่ ถ้าคุณยังไม่สำนึกแบบนี้

    ขอความกรุณาล่ะ อย่าทำให้คนอื่นๆ สับสน หรือเข้าใจผิดอีกเลย

    สำหรับเรื่องกสิณ ผมแนะนำอย่างที่คุณ USERX บอก ให้ลองไปหาหนังสือของอาจารย์จรูญมาอ่าน น่าจะเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น หรือ ไปหาข้อความเก่าๆ ในเว็บนี้แหละมีหลายอยู่


    เฮ้อ...เวรกรรมจริงๆ


    ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลบุญข้าฯ ให้ถึงแก่ชาวทิพย์ทั้งหลายที่ดูแล ที่เป็นญาติ คุณ telwada เมื่อได้รับบุญที่ข้าฯ อุทิศให้นี้แล้ว โปรดจงทำให้เขาเป็นสัมมาทิฏฐิด้วยเถิด

    อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย

    สาธุๆๆ
     
  16. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อวดอุตริมนุษยธรรม ทั้งน้าน และน่า

    แล้วใคร่ขอถามทุกคนทุกท่าน ว่า ฝึกกสินน้ำ แล้วมีผลดีอย่างไร ได้อะไร ทำอะไรได้บ้างในชีวิตประจำวัน

    หลักธรรมหรือหลักปฏิบัติทางศาสนานั้น หากนำมาปฏิบัติหรือฝึกฝนแล้วย่อมเกิดผลดีต่อสรีระร่างกายและเป็นผลดีต่อพฤติกรรมต่างๆ
    แล้วฝึก กสิณ น้ำ มันมีผลดีผลประโยชน์อะไรต่อผู้ฝึกบ้าง
    ใครผู้ใดที่คิดว่าตัวเองรู้เรื่องกสิณ หรือฝึกกสิณได้แล้วลองตอบหน่อยซิ อย่าตอบแบบอวดอุตรินะ เพราะข้าพเจ้านี้แหละฝึกกสิณได้ครบทุกกสิณ
     
  17. sence

    sence เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +770
    เอามาจากไหนกสิณน้ำคุมไม่อยู่ท้องเสีย ไอ้ผมได้นิมิตขั้นต้นก็มาจากเพราะ
    เรื่องท้องเสียนี่แหละ ตอนสมัยเรียนท้องมันเสียบ่อยๆ ก็วิ่งเข้าห้องน้ำ มันนั่งๆ
    ถ่ายอยู่ ปวดเป็นกำลัง พอมองไปที่อ่างน้ำสบายใจ จิตตัดฉึบ หายปวดเป็นปลิดทิ้ง
    แต่พี่ว่าน้องที่จะฝึกกสิณทำอานาปานุสสติให้คล่องก่อนดีกว่าไหม ได้กสิณ
    แต่ไม่คล่องอานาปานุสสติ มันไม่ได้เรื่องอะไรมากนักหรอก
    มันไม่ค่อยทรงตัว จิตตกง่าย คุมลำบาก
    ผมก็เริ่มมาจากอานาปานุสสติควบพุทธานุสสตินี่แหละ พุทโธ เหลือเฟือ
    ผมขอถามท่านที่ยืนยันว่าทำกสิณได้ครบทุกข้อ
    ขอถามว่า พระบางองค์ท่องพุทโธ ทำไมเสกก้อนหินเอามาฉันได้
    แล้วถ้าใช้กสิณ ใช้กสิณกองไหน ทำอย่างไรบ้าง พอดีไอ้กสิณผม
    ตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะชำนาญ ก็เลยอยากรู้เป็นกำลัง ช่วยบอกเป็นวิทยาทาน
    หน่อยเถอะ
    อีกข้อ กสิณกองไหนช่วยให้ไม่ตกนรกกะกันอบายได้บ้าง
    อีกสักข้อ จุดประสงค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สอนกสิณ
    ท่านต้องการอะไร อยากรู้มากๆครับ[​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  18. chentenryu

    chentenryu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +206
    โอ๊ะ โอ....เจอคนฝึกกสิณน้ำแล้วจนได้ เคยได้ยินอย่างนี้มั๊ยเอ่ย
    " ผู้ใดเคยได้กรรมฐานกองใดในอดีต ผู้นั้นย่อมได้กรรมฐานกองนั้นในปัจจุบัน โดยง่าย"
    ที่ว่า ท้องเสียแล้วเห็นน้ำ จิตตัดฉับ อันนี้มีอาการ ๔ อย่าง
    ๑.อาการปกติ ก่อนท้องเสีย เป็นอย่างไร เป็นอย่างนั้น ไม่ได้อารมณ์กรรมฐานซักที อันนี้ อุปมาดัง เราหมุนรหัสตู้นิรภัย ไม่ถูกจุดมันไม่เปิด
    ๒. อาการท้องเสีย เป็นทุกข์ขาจรเข้ามา ทำให้จิตเกิดกังวลเฉพาะหน้า "ขี้แตก"
    ๓. อาการเห็น น้ำ จิตตัดกังวลอื่นเสียแล้ว เห็นน้ำในโอ่ง อารมณ์เข้าจุด
    ๔.อาการพอใจในภาพน้ำที่เห็น มีความพอใจในภาพ +จิตตัดกังวลอื่น+สัญญาเดิมมาถึง(อาจจะก็แล้วกันนะ)
    = เป็นเหตุให้อารมณ์สบาย ไม่เอาใจใส่ อาการปวด
    อย่างนี้ ครูบาอาจารย์ท่านว่า จำอารมณ์ที่ได้ไว้ แล้วซ้อมบ่อยๆ มันจึงคล่อง แต่ท่านไม่ได้บอกว่า ต้องปวดท้องเข้าห้องน้ำด้วยนะท่าน จึงจะเหมือนเดิมทุกประการ อิอิอิ เอาแค่อารมณ์ที่เป็นเหตุให้ใจสบายก็พอ.....
    ที่ว่า"คุมกสิณไม่อยู่" เนี่ย ลองฟังข่าวแปลกๆ รอบโลกดูละกัน นะ ส่วนมากเป็นพวกฝึกใหม่ๆ มีกำลังแต่ไม่ปัญญา ไรทำนองเนี้ยแหล่ะท่าน
    ปุจฉา แล้วกสิณใดเป็นเหตุให้พ้นอบาย
    วิสัชนา ทุกกองที่เราทรงได้ โดยเฉพาะตอนตาย ตายในฌานเป็นพรหม ตายนอกชาน หนาว......๕๕๕๕๕
    ปุจฉา ฝึกกสิณไปทำไม
    วิสัชนา เป็นกรรมฐานหยาบ ฝึกง่าย เบบี๋ โดยเฉพาะ กสิณสี กสิณแสง กสิณอากาศ (ครูบาอาจารย์ท่านว่าอย่างนั้นนะ) ยังกำลังใจเราสงบได้โดยง่าย (แต่ทำไมเราไม่สงบ หว่า...) ใช้เป็นฐานกำลังถึง ฌาณ ๔ ได้ ถ้าควบวิปัสสนาเหมือนลูกชายนายช่างท้อง ก็บรรลุเลย อ่ะดิ
    ส่วนเรื่อง เสกหินมากินแทนข้าวน่ะ โบราณท่านเล่าว่า ใช้ คาถา ก็ได้ หรือใช้ กสิณธาตุทั้ง ๔ ก็ได้ ใช้มโนมยิทธิเต็มกำลัง ก็ได้ ให้ได้ อิทธิวิธี เถอะใช้ได้
    หมายโหด...กสิณธาตุทั้ง ๔ กสิณไฟ อันตรายที่สุด ส่วนใหญ่บ้าเพราะเส้นประสาทเสีย เพราะตั้งอารมณ์ตึงเกินไป คือ ร่างกายมันง่วงมาก เพลียมาก ก็ไม่ยอมนอน เพ่งมาก เคร่งมาก ก็บ้าทั้งนั้นจ้า.......
     
  19. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    เขาเรียกว่า "อวดอุตริมนุษยธรรม" คือสอนธรรมที่ไม่มีในตน
    ถ้าจะเรียกแบบภาษาทั่วไปเขาเรียกว่า อวดฉลาด เอาไว้หลอกหากิน ว่างั้นเถอะ
     
  20. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +2,267
    อิอิ ฝึกปายๆเรื่อยๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...