อยากบรรลุธรรมเข้ามา

ผมไม่ประชันความรู้ ผมเป็นผู้มาเสนอมรรควิธี และความเห็นแย้งก็ตอบไป จะชนะโลกได้อย่างไร นอกจากการชนะใจตนเอง ส่วนความรู้ที่ได้เพิ่มจากเพื่อนก็มีเยอะเก็บไวในใจ แต่สนทนาเพื่อเปิดบางสิ่งที่ถูกก็มีประโยชน์ ในสั้นมียาว ในยาวมีสั้น ในดีมีเสีย ในเสียมีดี

 

เราบอกไปแล้วนี่ครับ

 

ล่วงกามในทุกเรื่องมันผิดหรอครับ ถึงกลัวกันนักอธิบายกันนัก มันไม่ผิดหรอกครับล่วงกามนะ เพียงแต่มันบกบอกถึงการปล่อยวางมากน้อยตามเหตุปัจจัย ตามภูมิของการปล่อยวางต่างหาก ผมถึงบอกว่าการเสพเมถุน กับการซื้อเสื้อผ้าตามความพอจมันไม่ต่างกัน มันไม่ผิด แต่มันเป็นแค่การเสพกามเท่านั้นไม่มีผลมีโทษอะไร แต่การหลุดพ้นนั้นผู้บรรลุธรรมแล้วเข้าเห็นโทษภัยในการติดรสกาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะละได้หมดดังอรหันต์ ที่เป็นจุดหมายที่เราตั้งใจคือละได้หมด ผมนะไม่ซื้อเสื้อผ้ามาเป็น10ปีแล้ว

 

อย่างที่บอก ผมอ่านข้ามๆ ในหน้าแรกๆ อาจไม่ทันเห็นหน่ะครับ

ใช่ สกิทาคามีผล หรือเปล่าครับ ?

 

ท่าน newamazing อย่าร้อนตัวซิท่าน..
ข้าพเจ้ากล่าวเป็นข้อคิดโดยรวมแก่ผู้อ่านทั้งหมด
มิได้เฉพาะเจาะจงถึงตัวท่านเลย
หากทำให้เข้าใจผิดก็ขออภัยไว้ ณที่นี้ด้วยครับ
โมทนาธรรมครับ

 

ใครบอกให้หน่ายในปีติ ปีติมันจะเกิดดับเองตามเหตุปัจจัยของความสงบของจิต ที่ให้หน่ายนะหมายความว่าไม่เอาใจเข้าไปยินดีมันก็เท่านั้นใจเป็นกลางๆเพื่อไม่ให้เกิดความยินดีเพราะสิ่งทั้งหลายไม่ควรยึดมั่นถือมั่น นักปฎิบัติที่ยังไม่เคยได้ปีติเท่านั้นหละจะรู้สึกดีใจ จนทำให้ใจไม่สมดุลย์ ผู้ปฎิบัติเก่าๆก็มักจะห่วงเรื่องแบบนี้ แต่ที่จริงแล้วนักปฎิบัติที่เรียนรู้เรื่องอริยสัจนะเข้าเข้าใจได้เองล่ะว่า ธรรมทั้งหลายไม่ควรยึดมั่นถือมัน สุดท้ายมันก็จะผ่านไปได้ทุกคนล่ะ ส่วนปีตีที่ไม่เกิดนั้นมีอยู่สองประเด็นคือจิตไม่สงบเพียงพอ สองบางคนหายใจเดียวก็ข้ามปีตีไปเลยก็มี

 

ตามนั้นเลยครับ

 

ยิ้มแล้วยิ้มอีก

 

แน่ใจหรือท่าน newamazing ว่าถึงขั้น สกิทาคามีผล แล้ว
ท่านสอบอารมณ์มาดีแล้วหรือยังมีพระอริยะหรือครูบารย์ท่านใดรับรองได้บ้าง....​

 

โดยสภาวะธรรมในลำดับต่างๆ มีความแตกต่างกันอยู่ในแง่ของความหนาแน่นแห่งกิเลส
เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่ง คนคุ้นเคยในเว็บนี้แหล่ะ สมัยนั้นท่านบอกผมว่า ท่านได้โสดาปฏิมรรคญาณ
เวลาผ่านไป เมื่อสถาวะจิตมีพัฒนาการมากขึ้น จึงพบว่า ติดอยู่ที่โคตรภูญาณ
ที่ผ่านมานั้น เข้าใจคลาดเคลื่อนไปเอง
ดังนั้น ในกรณีของท่านนิว ท่านรู้ได้อย่างไร แน่ใจหรือไม่ มีการรับรองจากใคร ว่าถึงระดับนั้นระดับนี้
ส่วนมาก อาจถึง 9.9 ใน 10 มักอนุมานกันไปเอง แท้จริงแล้วติดอยู่ที่วิปัสนูปกิเลส หลงสำคัญตนผิดไปเสียเนินนาน
การที่เราไม่สำคัญตนว่าบรรลุ ดูเหมือนจะปลอดภัยกว่าสรุปเอาว่าบรรลุแล้ว ท่านว่าไหม..?

 

แว่นส่องความเป็นพระโสดาบัน
อานนท์ ! เราจักแสดง ธรรมปริยายอันชื่อว่า
แว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใด ได้ประกอบพร้อมแล้ว
เมื่อจำานงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำาได้ในข้อที่ตนเป็น
ผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำาเนิดเดรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว
มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว, ในข้อที่ตนเป็นพระโสดาบัน
ผู้มีอันไม่ตกต่ำาเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน เป็น
ผู้มีอันจะตรัสรู้ธรรมได้ในกาลเบื้องหน้า ดังนี้.
อานนท์ ! ก็ธรรมปริยายอันชื่อว่า แว่นธรรม
ในที่นี้ เป็นอย่างไรเล่า ?
อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้
ประกอบพร้อมแล้วด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น
ไม่หวั่นไหวในองค์พระพุทธเจ้า... ในองค์พระธรรม...
ในองค์พระสงฆ์... และอริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้
ประกอบพร้อมแล้วด้วยศีลทั้งหลายชนิดเป็นที่พอใจ
ของเหล่าอริยเจ้า คือ เป็นศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นศีลที่เป็นไทจากตัณหา เป็นศีลที่ผู้รู้ท่าน
สรรเสริญ เป็นศีลที่ทิฏฐิไม่ลูบคลำ และเป็นศีลที่เป็นไป
เพื่อสมาธิ.
อานนท์ ! ธรรมปริยายอันนี้แล ที่ชื่อว่าแว่นธรรม
ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใดได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนง
จะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้, ดังนี้แล.

 

ชีวิตผมอยู่กับธรรมะเกือบ100% ไม่เบื่อหน่าย มีความสุขอยู่กับธรรมะ และมั่นใจในสิ่ที่ประจักษ์นั้น เพราะหาไม่ได้จากที่ไหนจริงๆมันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเดินถอยหลังไม่เป็น มันวิเศษที่สุดเท่าที่ชีวิตมนุษย์จะหาได้ แต่มันก็ได้มาด้วยความบากบั่นของผมจริงๆ ถ้าผมไม่เจอสภาวะนั้นอะไรจะหยุดผมได้

 

ฮึย เชื่อไหมว่า ท่อนนี้ที่คุณ บรรยายมาเนี่ยะ

คนที่ เขาปฏิบัติมา เขาจะรู้ทันทีว่า คุณไม่เคยปฏิบัติสมาธิ

ถ้า ปฏิบัติมา ก็แปลว่า ไปจับอะไรบางอย่าง สำคัญว่าเป็น การทำสมาธิ

เพราะถ้า ทำสมาธิมาจริงๆละก้อ และ สดับธรรมะถูก

ปิติ จะไม่มีทางเกิดเลย หากจิตยังมี "กามราคะ"

แต่ถ้า จิตไม่มีกามราคะ ปิติ ยังไงก็ต้องเกิด ห้ามไม่ได้

ส่วน ปิติ ที่เกิดจาก กามราคะ เช่น ทำฌาณ หรือ ซื้อเสื้อผ้า หรือ เล่นจุกกรู้

คนที่ สดับธรรมมาถูก จะไม่พูดเรียกสิ่งนั้นว่า ปิติ เพราะ มันไม่ตรงทาง
และอีกทั้ง ยังไม่ใช่


ปิติ เป็นของดี และ ต้องมีในจิตเพราะ จัดเป็น ตัวชี้อย่างหนึ่งว่า มีธรรมวิจัย
โพชฌงค์ หรือไม่มี

แต่ถ้า หากไม่หน่ายปิติ ก็ไม่สามารถกล่าวได้เช่นกันว่า มีธรรมวิจัยได้ถูกต้อง

ฮะเอ่อ งง หละซี่ " หน่ายปิติ " นี่มันคืออะไรว๊า

 

เนี่ยะ แบ้วอันนี้นะ หากกล่าวออกมา จากข้อเท็จจริง ไม่ใช่ ไปจับพลัดจับพลู
มากระเดียด ไม่มีหรอก ไอ้ที่ คนที่หายใจเดียวข้ามปิติได้เนี่ยะ จะไปนั่งเล่น "จุกกรู๊"

ต่อให้ข้ามปิติแบบไม่ได้เป็นโพชฌงค์ หากหายใจเดียวข้ามปิติได้ ต่อให้เดิน
มรรคผิด ก็ไม่ไปนั่งเล่น จุกกรู๊ ให้เมื่อยตุ้มหรอก

หายใจเอากามโลกในฌาณ มีสุข มึน ซึม ย้อมใจ ได้นานก่า จุกกรู๊ เป็นไหนๆ

แต่ถ้า " จุกกรู๊ๆ ผิดตรงไหน " ก็นะ แปลได้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ คือ ทำสมาธิ ไม่เป็น สักกะแอะ

 

ปีติจะเกิดขึ้นได้เสมอเมื่อจิตปราศจากอกุศลหรือปราศจากกามราคะชั่วขณะ แต่ไม่ได้หมายความว่าหมดกามราคะ ปีติสัมโพชฌงค์ที่จะบรรลุอรหันต์นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีปีติคล่องได้ตลอด นึกถึงที่ไรได้ทุกนี่นี่เรียกว่าปีติสัมโพชฌงค์ ผมเองแค่นึกหนิดหน่อยอาศัยเวลาไม่มากก็มาแล้ว เพราะผมเป็นสกิทาคามี

 

บ้างครั้งท่านดูเหมือนมีความรู้มากนะแต่กลับบางอย่างท่านกลับไม่รู้ เพราะท่านรู้ตัวหนังสือเยอะไป โสดาบันเอาทุกวันยังได้เลย

 

ใครบอกว่าหายใจทีเดียวข้ามปีติเป็นผมล่ะมีคนทำได้จริงๆอยากรู้มั้ยใครมีหลวงพ่อที่วัดป่าเขาภูหลวงท่านทำได้ต่างหาก

 

สุดยอดเลย โสดาบัน สกิทาคามี แบบนี้แหละ ที่ ปู่สับสน ยกย่องหนักหนา

ถ้ากล่าวแบบนี้ ผมพอรู้แล้วหละว่า คุณ ภาวนาพลาดตรงไหน

พลาดตรง " พิจารณาคุณ และ โทษ " ตามความเป็นจริง

โดยไปพลาดเอาตรง

ไปนั่งคิดๆนึกๆ " พิจารณาคุณ และ โทษ " ว่าอย่างนี้จริง
สิ่งอื่นเปล่า เรื่อยเจื้อย

*********

จะว่าก็ไม่ได้นะ ต่อให้ ภาวนาบรรลุฌาณ8 ก็ยังมีอาการ นึกๆคิดๆ
จากสิ่งที่เห็น ว่าสิ่งนี้จริง สิ่งอื่นเปล่า ได้เหมือนกัน ประสาอะไร
กับ เสี่ยจุกกรู๊ เล่า

คนที่เขาสำเร็จฌาณนะ เขาไปเห็น นรก สวรรคิ์ เห็นจริง แต่พอ
ออกมานั่งจุมปุ๊ก จุกกรู๊กับ คนอื่น เผลอหน่อยเดียว กล่าว สิ่งที่กู
เห็นเท่านั้นจริง สิ่งที่คนอื่นกล่าวเปล่า ไม่ใช่ๆ ก็โน้นเลย สัญชัยปริพาชก
ไปเรื่อยแหละ

 

ถ้าท่านมองการเสพกามเป็นของทำไม่ได้สำหรับอริยะก็ต้องทบทวนใหม่หมดแล้วล่ะครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งฉกาดเรื่องฌานอะไรมากนักเพราะผมนักวิปัสนาไม่ใช่นักสมถะเพียงต่ใช้เป็ยบาทฐานข้ามโครตปุถุชนเท่านั้น คนที่กล้าข้ามความตายเท่านั้นถึงจะคุยกันรู้เรื่องดั่งพระดังๆหลายองค์ที่ผู้คนนับถือที่กล้าบอกว่าอย่างนั้น เพราะฟังท่านแสดงทุกองค์ลงตัวเหมือนกันหมด ต่ผมก็ไม่ได้ว่าการที่บรรลุทางอื่นไม่มี ก็เป็นส่วนทางอื่นไป สวนทางของที่ผมเดินก็มีคนยืนยันเป็นในทางเดียวกันคือต้องกล้าที่จะข้ามความตายไปให้ได้ และก็ไม่ผิดกับพุทธวจนเลยเรื่องความเพียร เรื่องลมอัสสาสะ ปัสสาสะดับ ท่านไม่ต้องสงสัยหรอกนะ ทางอื่นแบบท่านอาจจะมี แต่ถ้าสงสัยทางของกระผม จงนั้งลงดูลมหายใจไปให้ถึงที่สุดเลย ไม่หายคล่องใจอย่าลุกตายก็ตายไปไหนๆก็ต้องตาย ตายถวายพระพุทธองค์จะเป็นไรไป เล่าปัง