ศาลาพักใจ มลายทุกข์ ของ ชาวสโมสรก๊วนบุญ (คณะเบิกบานบันเทิงบุญ)

เอ๊ยยยยย...หนู๋ยิ้ม ไปแบกลุงมาทามมาย ลุงแก่แร้ววว

 

5555(b-smile)เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าผ้ายันต์ของเจ้าบ้านแรงสู่ เสน่ห์ของพี่แผนบ่ได้ ้ เลยปิดหม้อถ่วงน้ำไม่ลง อิอิอิ มาต่อภาค 2 เป็นภาคพิสดารเลยดีก่า555 คนไม่ทำมะดาเค้ามาเม้าส์กัน

แอบมาบอก พี่พรหมหอบพระเครื่องของสะสมมาให้ย่ามใหญ่ เพื่อสั่งลาศาลาพักใจ คุณน้องยึดแล้วขอบอกถึงเปิดใหม่ภาค2 แต่ของให้แล้วไม่คืนเด้อ(one-eye) 55555 ของดีมีน้อย เจอแล้วพลาดบ่ได้ แด่วพี่จะเสียใจ 555 ต้องรีบยึดมาต่อบุญ
ชาวก๊วนบุญเตรียมตัวเจอกับ กรุพรหมประกาศิตได้ที่นี่ เร็วๆนี้

ยืนยัน...ให้ทุกท่านมั่นใจอีกครั้งท่านเจ้าบ้านของชาวก๊วนบุญเข้าข่าย...หล่อระทวย...อิอิ...
ไม่ว่าสี่ขาหางฟูตัวไหนเห็นพี่พรหมฯของพวกเราเป็นระทดระทวยไปนัวเนียด้วยตลอด

 

เอารูป sample คนหล่อๆ ไปดูก่อนเด้อ...น้องยิ้มหรือแม่น้องนน รวมถึงกุ๊กกิก๊ ชอบคนไหนก็บอกด้วยนะจ้ะ เด๋วจัดห๋าย..อิ..อิ สำหรับน้องลักยิ้มจะเหมาหมดทั้งสี่พระหน่อเลยก็ได้จ้ะ หล่อๆ ทั้งน้าน..นนนน
(b-hmm) (tm-love) (||) (||) : bat: : bat: : bat:

 

มีเกมส์ถามตอบให้เล่นอีกไหมครับ

 

เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เอาใจแฟนคลับหน่อย อิ..อิ..

อยากถามว่ารูปที่ได้นำมาลงให้ดูต่อไปนี้ นำมาจากกระทู้เนื่องในงานบุญใดในเว็ปพลังจิตนี้ และใครคือเจ้าของพระชุดนี้ ???

ไม่ยากครับ...ถ้าท่านเคยเข้าไปดูหรือเข้าไปอนุโมทนามาแล้ว
ใครตอบถูกเป็นคนแรก ผมมีรางวัลให้ครับ

และถ้าใครได้เคยร่วมบุญ ในกระทู้นั้นเรียบร้อยแล้ว เป็นจำนวนเงินตั้งแต่ ๕๐๐ บาทขึ้นไป ช่วยกรุณา Copy ข้อความที่ท่านได้ทำบุญในกระทู้ดังกล่าว มาลงในกระทู้นี้ให้ผมได้รับทราบด้วย ผมมีพระคำข้าวอย่างในรูป มอบให้ท่านละ ๑ องค์ ฟรี ๆ จำกัดให้แค่สามท่านแรกที่เข้ามาร่วมสนุกในการตอบคำถามเท่านั้นครับ

(ถ้าท่านยังไม่เคยทำบุญในกระทู้ดังกล่าวมาก่อน อนุโลมให้ท่านเข้าไปทำบุญหลังจากได้อ่านข้อความนี้แล้วได้ครับ)
ระยะเวลาหมดเขตในการร่วมสนุกในการตอบคำถามและร่วมบุญคือ วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๐ เวลา ๑๘.๐๐ น. ครับผม

 

ฮั่นแน่...ไม่เบาเหมือนกันนะน้าแผน เก็บพระคำข้าวไว้ไม่น้อยเหมือนกันนะครับ แถมใจบุญนำมาแจกอีกด้วย โมทนาด้วยครับ

 

ขอนำเรื่องแก้เหงามาให้อ่านกันสักเรื่องครับ

การสื่อความ.......ที่ไม่ได้ความ


เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในวงการทหารบ้านเรา ที่เล่าขานต่อๆกันมา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านพักนายทหารระดับชั้นผู้ใหญ่กับทหารรับใช้ ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ถูกสั่งไปเป็นทหารรับใช้ในบ้านของของนายทหารระดับชั้นสัญญาบัตรท่านหนึ่ง เรื่องที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจาก คำสั่ง ที่สื่อความแล้วไม่ได้ความ

เรื่อง คำสั่ง ของนายทหารเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผู้ถูกสั่งต้องปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด จะมีข้อแม้หรือขัดคำสั่งไม่ได้โดยเด็ดขาด จะมีความผิดถึงขั้นถูกสอบสวน หรือขึ้นศาลทหาร และอาจติดคุกทหารได้ ถือเป็นโทษร้ายแรงหากใครละเมิด คำสั่ง

เรื่องมีอยู่ว่า คืนหนึ่งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้ไปร่วมฉลองงานเลี้ยงกับเพื่อนๆ แล้วกลับมาที่บ้านพักด้วยความเมา เพราะดื่มไปมาก กลับมาถึงบ้านก็เข้านอนเลย ซึ่งก็ค่อนข้างดึกแล้ว มาตื่นอีกทีก็เป็นตอนสายๆของวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่ามีอาการทั้งปวดหัวจากฤทธิ์เหล้า แถมรู้สึกหิวมากอีกต่างหาก จึงลุกจากที่นอนและเรียกทหารรับใช้ทันที

"ไอ้เณร...(เป็คำที่ใช้เรียกทหารเกณฑ์ทั่วไป) มานี่หน่อย ไปซื้ออะไรมาให้ข้ากิน ข้าหิวมากเลยว่ะ"

"นายจะรับทานอะไร? ครับผม"

"เอ็งไปซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำที่ตลาดมาให้ข้ากินหน่อย นี่เอาเงินไป อ้อ!! ซื้อบุหรี่มาด้วย...ยี่ห้อนี้" นายสั่งพร้อมยื่นซองบุหรี่เปล่าก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป

"ซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำที่ตลาดและบุหรี่หนึ่งซอง ครับผม" ไอ้เณรทวนคำสั่ง

ก่อนที่นายจะปิดประตูห้องน้ำ ก็นึกขึ้นได้ จึงหันมาสั่งไอ้เณรอีกว่า "เอาเส้นใหญ่น้ำนะ...เอาปิ่นโตไปใส่ด้วย" ว่าแล้วก็ปิดประตูห้องน้ำ

"ซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำเส้นใหญ่และบุหรี่หนึ่งซอง เอาปิ่นโตไปใส่ด้วย ครับผม" ไอ้เณรทวนคำสั่งอีกครั้งกันพลาด แล้วไอ้เณรก็เข้าไปเอาปิ่นโตในบ้าน ขณะที่กำลังจะออกจากห้องพร้อมปิ่นโต เสียงนายก็ดังมาจากห้องน้ำว่า "ไอ้เณร อย่าลืมใส่ถั่วงอกมาเยอะๆนะ ข้าชอบ แล้วเอาเครื่องปรุงแยกใส่ถุงมาด้วย"

ไอ้เณรทวนคำสั่งอีกครั้ง "ซื้อก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่น้ำ ใส่ถั่วงอกเยอะๆ เอาปิ่นโตไปใส่ เอาเครื่องปรุงแยกใส่ถุงมาด้วย ครับผม" แล้วไอ้เณรก็เดินลงบันไดบ้านไป กำลังจะก้าวเท้าออกนอกบ้าน นายที่อยู่ในห้องน้ำกำลังจะเปิดฝักบัวอาบน้ำ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงตะโกนออกมาว่า "ไอ้เณร..เอาจักรยานไปด้วยนะ ข้าหิวมาก"


ไอ้เณรก็ทวนคำสั่งที่นายต้องการ และ คำสั่งสุดท้ายว่า "เอาจักรยานไปด้วย ครับผม" แล้วไอ้เณรก็เอาจักรยานออกจากบ้านนายไปตลาดเพื่อซื้อก๋วยเตี๋ยวตามที่นายสั่ง ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 11.00 น.

เวลาผ่านไปจนเกือบเที่ยง นายทหารได้อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยคอยไอ้เณรอยู่บนบ้านด้วยความหิวและเริ่มร้อนใจ เพราะใกล้เวลานัดหมายที่ต้องไปทำธุระแล้ว แต่ไอ้เณรยังไม่กลับมา ซึ่งควรจะกลับมาได้แล้ว เพราะระยะทางจากบ้านไป-กลับตลาดและซื้อก๋วยเตี๋ยวแค่นี้ ไม่ควรใช้เวลามากขนาดนี้ อาจมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับไอ้เณรก็เป็นได้ ก็ได้แต่รอคอยด้วยความเป็นห่วง

.......จากนั้นเวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบบ่ายสองโมง ไอ้เณรจึงกลับมาถึงบ้าน พบนายมันที่รอคอยด้วยความห่วงใยและร้อนใจระคนความหิวจัด แต่ภาพที่เห็นไอ้เณรแล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะไอ้เณรดูเหนื่อยล้ามาก เหงื่อโทรมกายเปียกโชกทั้งตัว มือซ้ายถือปิ่นโตที่ใส่ก๋วยเตี๋ยวมา ส่วนมือขวาจับประคองจักรยานที่เอาไปอยู่ข้างตัว จึงได้ถามขึ้นว่า

"เอ็งไปทำอะไรมา ถึงดูโทรมอย่างนี้ ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดแค่นี้ แถมมีจักรยานไปด้วย ทำไมถึงกลับมาเอาป่านนี้ นี่เอ็งใช้เวลาเกือบ 3 ชั่งโมงในการไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแค่นี้ ไหน!!!เอ็งบอกมาซิว่าเอ็งไปทำอะไรมา?"

ไอ้เณรก็ตอบนายด้วยความเหนื่อยอ่อนว่า "นายครับ.....นายสั่งให้ผมไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ตลาด ผมก็ไปตามนั้นโดยไม่ได้แวะที่ไหนเลย แต่ที่ต้องใช้เวลามากขนาดนี้ก็เพราะว่า ครั้งนี้ นายสั่งให้ผมเอาจักรยานไปด้วย ขาไปก็พอไปสะดวกหน่อย แต่ขากลับมันแสนจะทุลักทุเล เพราะต้องคอยระวังไม่ให้ก๋วยเตี๋ยวหกจากปิ่นโตครับ"

นายก็ถามด้วยความแปลกใจว่า "มันทุลักทุเลยังไงวะ?"

ไอ้เณรก็ตอบว่า "ที่ทุลักทุเลมากก็เพราะว่า ตอนขากลับมือซ้ายผมต้องหิ้วปิ่นโต มือขวาต้องแบกจักรยานตั้งแต่ตลาดจนมาถึงบ้านนี่ยังไงละครับ"

"เพราะอะไรวะ? ถึงต้องแบกจักรยานกลับบ้าน" นายถามโดยคิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับจักรยาน

"เพราะว่า...........ผมขี่จักรยานไม่เป็น ผมจึงต้องแบกไป แบกกลับครับ"


"............................................................แหะ แหะ"



(b-green) (b-green) (b-green) (b-green) (b-green)

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 671883" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>พรหมประกาศิต</TD><TD class=alt2>เอารูป sample คนหล่อๆ ไปดูก่อนเด้อ...น้องยิ้มหรือแม่น้องนน รวมถึงกุ๊กกิก๊ ชอบคนไหนก็บอกด้วยนะจ้ะ เด๋วจัดห๋าย..อิ..อิ สำหรับน้องลักยิ้มจะเหมาหมดทั้งสี่พระหน่อเลยก็ได้จ้ะ หล่อๆ ทั้งน้าน..นนนน
(b-hmm) (tm-love) (||) (||) : bat: : bat: : bat:
</TD></TR></TBODY></TABLE>


จาเอาตัวที่ 3 ง่ะ....ปากกว้างเหมือนแม่น้องนนเลย....(555)

 

หนู๋ยิ้มชอบเจ้านี่ค่ะ มันดูน่ารัก พิลึก ๆ หุหุ

แต่ถ้าถามอีกว่าจะชอบรูปไหนสุด ๆ และกระหายอยากจะได้ไว้มาก ๆๆ ก็ต้องนี่เล๊ยค่ะ เจ้าน๊าย
ชูวั๊บ ๆ ๆ (((((((โว้ว))))))

 

ตอบนะครับ กระทู้ชื่อ

ช่วยกันเช่าพระของหลวงพ่อฤาษีฯรายได้ทั้งหมดมอบให้ทางเวปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ
เจ้าของชื่อ
Pattana<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_613281", true); </SCRIPT>
สมาชิก กิตติมศักดิ์
สมาชิกยอดฮิต
ถูกเปล่า
​

 

<TABLE class=blog cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">Wat Khun Samut Trawat - Thai Temple in the Sea </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>

<TABLE cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[FONT=arial,helvetica,sans-serif][/FONT]</TD><TD align=middle>[FONT=arial,helvetica,sans-serif][/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

[FONT=arial,helvetica,sans-serif]Wat Khun Samut Trawat in Samut Prakan Province in Thailand, is a Thai temple that has now become surrounded by the sea due to land erosion. The above pictures are from a video shot during a storm. [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วัดขุนสมุทราวาส อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย เป็นวัดไทยที่ในปัจจุบันล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลเนื่องจากพื้นดินรอบๆถูกน้ำทะเล ในรูปภาพด้านบนเป็นรูปภาพจากวีดิโอซึ่งถ่ายในขณะที่มีพายุ[/FONT] ​

<TABLE cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[FONT=arial,helvetica,sans-serif][/FONT]</TD><TD align=middle>[FONT=arial,helvetica,sans-serif][/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

[FONT=arial,helvetica,sans-serif]In these Google Earth satellite pictures, you can see how far away the temple is now from the rest of the community. Many of the families in Ban Khun Samut have moved their houses inland four or five times during the last two generations. In total, over one kilometre of land has been lost and a further four kilometres has been affected. In the picture on the right, you can see their efforts in building a sea wall in order to protect the temple. Although this has helped, it hasn't been enough. [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]รูปภาพถ่ายผ่านดาวเทียมจากกูเกิลเอิร์ธ – ท่านสามารถมองเห็นวัดซึ่งขณะนี้อยู่ห่างไกลจากตัวหมู่บ้าน หลายครอบครัวที่ต้องอพยพย้ายบ้านหนีน้ำเข้ามาปลูกอยู่ในพื้นแผ่นดินด้านใน ซึ่งย้ายมาประมาณ 4 ถึง 5 ครั้งแล้วในช่วงสองชั่วอายุคนที่ผ่านมา รวมแล้วพื้นที่มากกว่า 1 กิโลเมตรที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนพื้นดินหายไป และพื้นที่อีก 4 กิโลเมตรกำลังได้รับผลกระทบ ในรูปภาพด้านขวามือ ท่านจะได้เห็นความพยายามของชาวบ้านที่จะสร้างกำแพงกั้นน้ำทะเลเพื่อป้องกันวัดขุนสมุทราวาสไม่ให้จมน้ำทะเล ถึงแม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอ[/FONT] ​

<TABLE cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[FONT=arial,helvetica,sans-serif][/FONT]</TD><TD align=middle>[FONT=arial,helvetica,sans-serif][/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

[FONT=arial,helvetica,sans-serif]The temple is the only building that hasn't been moved yet in this community. Most of the temple buildings have been raised on stilts, including the kutis where the monks sleep. However, the only thing they could do with the chapel is to raise the floor. In the picture on the left, you can see that the floor level has been raised about halfway. This is the view from the back. For the windows, you can no longer stand and look out at the view. You have to sit down. These last pictures were taken at low tide so there weas no water surrounding the temple. [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วัดขุนสมุทราวาสเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ไหนในหมู่บ้านนี้ พื้นด้านล่างของวัดถูกยกให้สูงขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำทะเลกัดเซาะจนพังลง ซึ่งรวมทั้งโบสถ์และกุฏิที่พระสงฆ์จำวัดอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่ชาวบ้านพอจะช่วยกันทำได้ก็คือยกพื้นของโบสถ์ให้สูงขึ้น ในรูปภาพด้านซ้ายมือ ท่านสามารถเห็นพื้นของโบสถ์ที่ยกสูงขึ้นประมาณครึ่งหนึ่งจากพื้นน้ำด้านล่าง หากน้ำทะเลขึ้น ก็จะท่วมเกือบถึงพื้นที่ยกขึ้นสูงแล้ว ภาพที่เห็นเป็นการถ่ายจากด้านหลัง สำหรับด้านหน้าต่าง จะเห็นว่าไม่สามารถยืนแล้วมองออกไปเพื่อดูทิวทัศน์ข้างนอกได้ หากต้องนั่งลงบนพื้นโบสถ์ติดหน้าต่างจึงจะสามารถมองเห็น[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วัดขุนสมุทรธาวาส - Wat Khun Samut Trawat (name of temple)
บ้านขุนสมุทรจีน - Ban Khun Samut Chin (name of village)
แหลมฟ้าผ่า - Laem Fapha (name of area - Cape Thunder)
อ​.​พระสมุทรเจดีย - Amphoe Phra Samut Chedi (name of district)
จ​.​สมุทรปราการ - Samut Prakan Province (name of province)[/FONT]
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตามรอยอารยธรรม อาณาจักรอโยธยา วัดพระศรีสรรเพชญ
Posted by SHUTTERTD , ผู้อ่าน : 79 , 22:58:43 น.
พิมพ์หน้านี้

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ณ สถานที่แห่งนี้ เมื่อครั้งในอดีต ย้อนกลับไปประมาณ 240 ปี ความอลังการทางด้านสถาปัตยกรรม และวิจิตรศิลป์ ของกรุงศรีอยุธยายังคงอยู่ วัดพระศรีสรรเพชญ ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังเดิม มองเห็นพระมหาเจดีย์ ทรงระฆังคว่ำสามองค์ ตั้งอยู่บนฐานทักษิณยกพื้นสูง เป็นองค์ประธานเด่นสง่าเรียงรายกันอย่างได้สัดส่วน งามรับกับหลังคาพระวิหาร และพระอุโบสถที่อ่อนช้อย สลับชั้นสีแดงเข้มประดับยอดทองตัดกับสีสดใสของท้องฟ้า[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ทางขวามือ เหนือขึ้นไปก็มองเห็นพระบรมมหาราชวังใหม่ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมไตรโลกนาถโปรดให้สร้างขึ้น แบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ในเขตพระราชฐานชั้นกลางนั้นมองเห็นพระมหาปราสาทองค์สำคัญสามองค์ มีหลังคาซ้อนสามชั้น พร้อมด้วยหน้าบันประดับลวดลายสิงห์ เทพพนม และพระนารายณ์ ดูบรรเจิดยิ่ง [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ซุ้มมณฑปเก้ายอดของพระที่นังสรรเพชญมหาปราสาท ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธี หรือต้อนรับราชทูตและแขกเมือง ยอดปรางห้ายอดหุ้มทองคำอร่ามของพระที่นั่งวิหารสมเด็จมหาปราสาท และริมแม่น้ำลพบุรี คือ พระที่นั่งวิหารสุริยาสน์อมรินทร์ประกอบด้วยยอดมณฑปห้ายอด มีมุขโถงและมีพระบุษบกแว่นฟ้าตั้งอยู่ ภายในใช้เป็นที่ประทับ ทอดพระเนตรกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ด้านหลังของพระที่นั่งทั้งสามองค์นั้น มีกำแพงเตี้ยๆ กั้น บ่งบอกถึงเขตพระราชฐานชั้นในอันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ และข้าราชบริพารฝ่ายใน องค์พระบรมมหาราชวังนั้นก็มีบริเวณที่กว้างขวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ล้อมรอบด้วยกำแพงวังสีขาว สูงห้าเมตร กว้างสามเมตร มีป้อมปืน ทั้งหมดแปดป้อม (บทบรรยายความรู้สึกของ "บุญมา กรมพระราชวังบวรฯ" น้องชาย ร.1 จากหนังสือ รัตนโกสินทร์ กำเนิดกรุงเทพฯ ของ ปองพล อดิเรกสาร)[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เสียดายพระนิเวศน์บุรีวัง พระที่นั่งทั้งสามงามไสว[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ตั้งเรียบระเบียบชั้นเป็นหลั่นไป อำไพวิจิตรรจนา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]มุขโถงมุขเด็ดมุขกระสัน เป็นเชิงชั้นลวดลายล้วนเลขา [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เพดานในไว้ดวงดารา ผนังฝาดาดแก้วดังวิมาน[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ที่ต้งบัลลังก์แก้วทุกองค์ ทวารลงอัฒจันทร์หน้าฉาน[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ปราบพื้นรื่นราบดังพระลาน มีโรงคชาธารตระการตา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ทิมดาบคดลดพื้นกำแพงแก้ว เป็นถ่องแถวยืดยาวกันหนักหนา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เป็นที่แขกเฝ้าเข้าวันทา ดั่งเทวานฤมิตประดิษฐ์ไว้[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]สืบทรงวงศ์กษัตริย์มาช้านาน แต่บุราณแล้วไม่นับพระองค์ได้[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]พระที่นั่งซึ่งตั้งอยู่ข้างใน มีสระชลาลัยชลธี[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ชื่อที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ที่ประพาสมัจฉาในสระศรี[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ทรงเสด็จเสร็จสิ้นสารพันมี เป็นที่กษัตริย์สืบมา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif](พระบวรนิพนธ์ เล่ม 1 กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร , 2545 หน้า 25-26)[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] นับเป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ได้มาเยือนโบราณสถานแห่งนี้ ซึ่งครั้งแรก ไม่ได้เข้ามาเดินภายในวัดพระศรีสรรเพชญ เพียงแต่เข้าไปนมัสการองค์หลวงพ่อมงคลบพิตรในวิหาร มงคลบพิตร [/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] แต่ก่อนที่จะมาถึงวิหารมงคลบพิตร ก็ได้มีโอกาส ไปแวะไหว้พระที่วัดหน้าพระเมรุ วัดเดียวที่ไม่ได้ถูกเผาทำลายเมื่อครั้งเสียกรุง จำได้ว่าเคยมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนเรียนมัธยม มาทัศนะศึกษา การรับรู้ถึงความสวยงามขององค์พระประธาน "พระพุทธนิมิตรพิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ" ในครั้งนี้เข้าไปถึงจักษุประสาท รับรู้ถึงความงามและยิ่งใหญ่จริงๆ[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ครั้งนี้มีโอกาสได้เข้ามาเดินในเขตวัดพระศรีสรรเพชญ ความรู้สึกก็ไม่ต่างจากครั้งที่ไปวัดไชยวัฒนาราม แล้วยิ่งได้อ่านหนังสือ รัตนโกสินทร์ กำเนิดกรุงเทพฯ ของ คุณปองพล อดิเรกสาร ที่ได้นำบางตอนมาลงไว้เมื่อตอนต้น ยิ่งทำให้รู้สึก รักและหวงแหนแผ่นดินไทยมากยิ่งขึ้น น่าเสียดาย ที่ความสวยงามเหล่านั้น ได้หายไปจากแผ่นดินไทย เหลือไว้แต่เพียงซากปรักหักพัง ที่ได้รับการบูรณะ ให้พอเห็นเค้าโครงอยู่บ้าง นอกจากนั้นการได้มาเดินอยู่ในสถานที่ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมรภูมิสงคราม ผู้คนล้มตายลงเป็นจำนวนมากถึงแม้เวลาจะผ่านมานานแล้วกว่า 240 ปี ก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึก รักชาติมากยิ่งขึ้น คิดถึงบรรพชน ที่เสียสละชีวิต และเลือดเนื้อของตนเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน ผมขอสดุดี และเชิดชูคุณงามความดี ความกล้าหาญ ของเหล่าบรรพชนที่สละชีพปกบ้านป้องเมืองให้เรามีแผ่นดินอยู่ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร มาจนถึงทุกวันนี้[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT] ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผิดครับ (555) แสดงว่ากระทู้นี้คุณอาวุโสน้อย...ยังไม่เคยเข้าไปดู ก็เลยตอบไม่ถูก อิ..อิ...(b-glass) อนุญาตให้ไปสืบค้นอีกสามวันนับจากวันนี้ แล้วรีบมาตอบ ถ้าตอบผิดอีกผมจะตัดสิทธิ์ แต่ว่าบอกใบ้ให้นิดนึง คุณพัฒนารู้จักกระทู้นี้และเจ้าของพระดีครับ (เส้นผมบังภูเขาครับ)...

 

น้องลักยิ้ม หมั่นเข้ามาดูแลกระทู้พี่บ่อยๆ แถมยังเอาข้อความดีๆ มาแปะไว้ให้อีกด้วย งั้นพี่ขอมอบพระคำข้าวให้น้องยิ้มหนึ่งองค์เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกันนะจ๊ะ เพื่อเป็นกำลังใจ....
แต่ว่า ต้องมารับจากมือพี่เองนะ อยากเห็นหน้าน้องลักยิ้มเหมือนกัน จะมีลักยิ้มข้างเดียวหรือสองข้างน๊อ....(ping)
ไปรอเจอพี่ที่สถานปฎิบัติธรรมโลกทิพย์ เขตดินแดง ในวันที่ ๙ ก.ย.นี้ได้เลย
ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร แล้วค่อยหาโอกาสเจอกันวันอื่นนะจ๊ะ จะเก็บพระไว้ให้จ้ะ

 

เจ๊ลักไถไรไถเผื่อด้วยเน้อ

 

ขอบคุณครับ ที่แวะมาเยี่ยมเยือน แต่อย่าเพิ่งรีบตอบคำถามนะครับ เพราะผมรู้ว่าพี่วิเชียรตอบถูกอยู่แล้ว แหง๋ๆ รอให้คนอื่นๆเข้ามาร่วมสนุกสักสี่-ห้าวันก่อน
แล้วพี่ค่อยตอบก็คงยังไม่สาย...แล้วพี่ไม่เข้าไปหยอดอีกสักห้าร้อยเหรอครับ
ผมจะได้สมนาคุณให้พี่สักองค์หนึ่ง:d

 

ถ้าอยากได้ เอาวิชามาแลกว้อย...เอาแบบที่ใช้ได้ผลด้วยนะ..(evil2)

มีคนมากระซิบให้ฟังว่าจะตั้งโรงเรียนสอนเด็ก แบบแฮรี่พ็อตเตอร์เหยอ...(b-glass) (555) (555) เอามาสอนมั่งดิ..:d

 

อันนั้นก็ใช้ได้ผลค้าบ
ต้องฝึกทุกวันซักเดือนนึงงะน้า
ใจเย็นๆ
อิอิ

 

(b-glass) ได้เลยไว้เจอกัน จะไปไถด้วยกันนะ แต่ต้องเลือกเขา(evil2) ก่อน จะเอาโค้งแบบไอ้ทุยตัวไหน มันมีหลายแบบอ่ะ ฮี่ ๆๆๆ

 

มาช่วยหัวเราะ 5555 ที่ให้ช่วยงานไม่ค่อยยอมทำ แลกกันช่วยนำของพระเข้าไปกราบสมเด็จฯ ท่านให้หน่อย ...แลกกะอะไรดีหว่า ไม่รู้จะแลกกะอะไร เพราะข้าน้อยฯ ก็ไม่ค่อยมีอะไร ...มาแต่ตัวกะหัวจาย(555)

ท่านพรหมฯ จะให้เจง ๆ เหยอ โว้ววววว...บารมีหลวงพ่อคุ้มหัว เหมือนท่านพรหมฯมาโปรด ....อย่าให้เมียเพ่เห็นนะ )))))))จ๊วบ ๆๆๆๆ (((((((((

ว่าแต่ท่านไปทำอะไรวันนั้นและที่นั่นค่ะ ยิ้มเคยเข้าไป 2 ครั้ง เห็นแต่หมอดูนั่งกันหลาย ๆ คน หรือท่านเป็นหมอดูจ๊ะ (555) ยิ้มไม่ถูกะหมอดูอ่ะค่ะ....เห็นแล้วใจอ่อน 55