จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ผู้รักษาศีลย่อมไปสู่สุคติ
    ผู้รักษาศีลย่อมเพรียบพร้อมด้วยโภคะสมบัติ
    ผู้รักษาศีลย่อมไปสู่พระนิพพานได้
    ท่านทั้งหลายจึงควรรักษาศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่องเทอญ

    สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา
    สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,807
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,038
    คุณน้องจุ๋มยังไมนอนอีกหรือ ที่เยอรมันกีีโมงแล้วคะ? วันนี้มีแต่ยาขมๆกับไม้เรียว ตีกิเลสแตกไปตามๆกัน พีโดนมาแล้วจากครูภูcatt1
     
  3. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๗๐ ณ วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๗๐

    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 100-4449.jpg
      100-4449.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.3 KB
      เปิดดู:
      361
  4. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 70 แล้วจ้าาาาา
    สาธุ ขอโมทนาบุญกับครูผู้สอนทุกท่านด้วยจ้า สาธุ๊
     
  5. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    พี่ติ๋ม จิตบุญ 70 อยู่ที่ภูเก็ต ศิษย์พระอาจารย์ชัชวาลกับพี่เอ๊ง
    จบกิจจิตเกาะพระเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 55
    ฝึกจิตเกาะพระประมาณ 7 วัน
    เดิมเคยฝึกมโนมยิทธิมาก่อนแต่เสื่อมไปจึงไม่เห็นพระ
    ได้พี่เอ๊งช่วยเปิดจิตและขยายธรรมะจึงมีกำลังใจปฏิบัติอีกครั้ง
    พร้อมกันนี้ได้พระอาจารย์ชัชวาลเป็นครูช่วยแนะนำการปฏิบัติให้เดินตรงทางยิ่งขึ้น
    งานนี้พี่ติ๋มไม่ได้ไปนิพพานคนเดียว
    แต่ยังมีปู่นคราชที่อาศัยอยู่ด้วยทำจิตเกาะพระตามพี่ติ๋ม
    พี่ติ๋มเกาะพระไปถึงไหนปู่นคราชก็ตามเกาะไปด้วยทุกภาพ
    ปรากฏว่าเมื่อพี่ติ๋มยกจิตปู่นคราชก็ขึ้นบันไดแก้วไปพร้อมกับพี่ติ๋ม
    ทั้งสองขึ้นไปที่วิมานของสมเด็จพ่อองค์ปฐม
    กราบพระถวายดอกบัวแก้ว
    แล้วก็รู้ว่าหลุดแล้ว ปล่อยวางแล้ว ถึงแล้วซึ่ง...พระนิพพาน
    ปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูฮีติ.

    ปล.ส่วนย่านคราชยังขอผ้าขาวบำเพ็ญก่อน
    แหม๊ ดูเถอะท่านผู้ชม แม้ว่าวิญญาณจะรักกันขนาดไหน
    แต่สุดท้ายก็ต่างคนต่างมาต่างคนต่างไปจริง ๆ
    ปู่นคราชคงเบื่อความทุกข์ในโลกอันไม่เที่ยง
    ท่านยอมทิ้งสมมุติทุกอย่างทำจิตเกาะพระ
    ตามพี่ติ๋มขึ้นนิพพานทันทีโดยไม่รอกลับมาเกิดอีก
    น่านับถือใจของปู่นคราชจริง ๆ ท่านใจเด็ดมาก
    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าแม้แต่พญานาคก็ยังต้องการพ้นทุกข์
    แล้วคนล่ะ...จิตพร้อมจะออกจากทุกข์กันหรือยัง

    พี่เพ็ญขอโมทนาบุญกับปู่นคราช
    และขออุทิศบุญให้ย่านคราชขอให้ท่านมีดวงตาสว่างเห็นธรรมโดยเร็วพลันเทอญ

    ปล. พี่ภูสายมโนมยิทธิกำลังจะเดินเข้ามาทำจิตเกาะพระเป็นเส้นเป็นสายเลย พระอาจารย์บอกว่ามีป้าอีกคนหนึ่งอยู่ที่จันทบุรี มาขอคำแนะนำคุณแม่ลำดวน(โยมแม่ของพระอาจารย์) คุณแม่ลำดวนจึงแนะนำให้ทำจิตเกาะพระ พระอาจารย์บอกว่าโยมคนนี้เก่งมโนมยิทธิ ถ้าทำจิตเกาะพระสำเร็จจะเป็นผู้นำคนให้ปฏิบัติธรรมได้อีกมาก โมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  6. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    ถ้าน้องพร้อม pm มาได้เลยค่ะ
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    มีไรจะบอก...แต่ไม่ทราบว่าจะเข้าใจกันไหม๊กับของกล้วยๆ

    ผู้รักษาศีล๕ได้ เข้าใจผู้ที่ยังรักษาศีล๕ไม่ได้
    แต่ผู้รักษาศีล๕ไม่ได้ ยังไม่เข้าใจผู้รักษาศีล๕ได้ ว่าเขารักษาศีลกันได้อย่างไร
    (พี่ภูขอตอบแทนผู้รักษาศีล๕ไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร? ก็เพราะว่าจิตยังหยาบอยู่ แต่ถ้าพวกเขารู้ว่ารักษาศีล๕ได้มันมีผลดีต่อจิตใจตนเอง ดีต่อมรรคผลนิพพานโดยตรง แบบจิตบุญรู้กันนะ พวกเขาจะรีบพากันรักษาศีลกันทันที จริงไหม๊?)

    หรือผู้ที่รักษาศีลละเอียดได้ เข้าใจผู้ที่รักษาศีลละเอียดไม่ได้(รักษาแค่ศีลหยาบ)
    แต่ผู้ที่รักษาศีลละเอียดไม่ได้ ยังไม่เข้าใจผู้รักษาศีลละเอียดได้ ว่าเขารักษาศีลละเอียดกันได้อย่างไร
    (ผู้รักษาศีลละเอียดยังไม่ได้ ก็เพราะว่าจิตยังหยาบอยู่ แต่เมื่อไหร่ถ้าพวกเขารู้ว่ารักษาศีลละเอียดว่ามันดีกว่า พวกเขาจะรีบพากันรักษาศีลละเอียด)

    หรือพระอรหันต์เข้าใจศีลของพระโสดาบัน แต่พระโสดาบันไม่เข้าใจศีลของพระอรหันต์ว่าท่านรักษาศีลอันละเอียดขึ้นไปกันได้อย่างไร
    (พระโสดาบันยังรักษาศีลละเอียดยังไม่เท่ากับพระอรหันต์ เพราะว่าจิตของพระโสดาบันยังละเอียดไม่เท่าจิตของพระอรหันต์ พระโสดาบันอยากมีศีลละเอียดแบบศีลของพระอรหันต์ก็ต้องขยันเจริญสติบ่อยและให้ต่อเนื่องด้วย)

    อยากรู้ไหม๊ว่าทำไม? และมันเกี่ยวกันตรงไหน? อย่างไร? ตอบว่าเกี่ยวกับเรื่องจิตอย่างเดียว และเกี่ยวกับจิตโดยตรง จิตหยาบหรือจิตละเอียดจะไม่เท่ากัน อาทิเช่น จิตของผู้ที่ฝึกมาดีย่อมมีจิตละเอียดกว่าผู้ที่ไม่ได้ฝึกจิต แต่จิตจะละเอียดได้ก็ต้องอาศัยเจริญสติภาวนาเป็นหลักเลย หรือที่พวกเรากำลังทำจิตเกาะพระกันอยู่ในเวลานี้ เป็นต้น

    เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่เคยรักษาศีล๕ หรือรักษาศีล๕ไม่ได้ คือศีลยังขาดอยู่ ยังพร่องอยู่ อย่าไปกังวลเรื่องว่า เราจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์เหมือนกับคนอื่นๆได้หรือ? ไม่ต้องเป็นห่วงตรงนั้น ตอนแรกผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระนั้น จำเป็นต้องรักษาศีล๕อย่างต่ำให้ครบบริบูรณ์ก่อน(อยากดี อยากได้มรรคผล หรืออยากได้นิพพาน ก็ต้องพยายามทำให้ถึงที่สุด เพราะคนที่ไม่พากันรักษาศีลอันจะมีแต่พาให้ไปพบแต่ความทุกข์ล้วนๆ บางคนแทบตาย แค่นั้นก็ยังยอมตายกันได้เลย แค่จะทำดีกันทั้งที อยากได้มรรคผล อยากไปพระนิพพาน แค่ศีลหยาบ(ศีล๕)ยังรักษากันไม่ได้ งั้นก็ยอมทนทุกข์กับมันไปตลอดชีวิต และชีวิตจะไม่มีทางได้พบกับแสงสว่างสักที หน้ามืดตามัว หลงไปกับกาย หลงไปกับโลก ทางนั้นเขาเรียกว่า หลง(มี/อยู่/เป็น)กับสิ่งสมมุติ แล้วเมื่อไหร่จะพบความจริงกันสักทีนึง น่าสงสารจริงๆ ถึงเราจะบอกจนปากจะฉีกถึงรูหูก็ไม่เข้าใจ เหมือนกับพูดคนละภาษา หรือเหมือนอยู่คนละมิติอย่างนั้นแหล่ะ! แล้วจะให้เราทำอย่างไร ก็ต้องตอบว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
     
  8. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    โมทนาสาธุกับหลวงพ่อด้วยครับ
     
  9. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214

    เย่ ผ่านแล้วววววววววววววววว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 028.jpg
      028.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      228
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  10. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    กราบคุณครูพี่ต้อยด้วยความเคารพ
    หนูมัวเขียนการบ้านอยู่ค่ะ พอดีไม่มี keybordภาษาไทย ตอ้งเข้าไปพิมพ์ที่Google translate
    คลิกมาทีละตัว copy แล้วเอามาแปะ เลยทำให้ช้าไปหน่อยค่ะ:z16
     
  11. watta chan

    watta chan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +586
    ข้อสำคัญของการเข้าพระนิพพาน
    คือ จิตจะต้องเกิดอาการเบื่อหน่ายในร่างกาย {ขันธ์5}
    อย่างจริงๆ จัง...
    ดังนั้น
    ต้องมีการพิจารณาตัดขันธ์ 5
    พิจารณาถึงความตาย ความทุกข์ทั้งหลาย อยู่เสมอๆ
    ... พิจารณาบ่อยๆ วันละหลายๆ ครั้งได้ก็จะดีมาก...<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    แต่เมื่อพิจารณามากเข้าๆ จิตอาจจะเบื่อจนนึกอยากจะฆ่าตัวตาย
    ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาสมทบเข้าไปว่า...
    ถึงสังขารร่างกายนี้เป็นทุกข์ น่าเบื่อหน่าย...
    แต่ข้าพเจ้าจะยังคงรักษาธาตุขันธ์นี้ต่อไป เพื่อยังประโยชน์ต่อสรรพชีวิตอื่น
    และธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา
    ตราบจนกว่าจะถึงอายุขัยของข้าพเจ้าเอง
    เสร็จแล้วพยายามพิจารณาทุกสิ่งให้เป็น
    "ธรรมดา"
    ยอมรับสภาพของชีวิตตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น...
    เมื่อใกล้ตายจิตจะมารวมตัวกันเองโดยไม่ต้องบังคับ...
    เพราะจิตมีความชินกับการที่จิตเราจับอยู่ที่พระพุทธองค์ และพระนิพพานเสมอ... <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ให้เชื่อมั่นว่า...
    ตายเมื่อไหร่เราขึ้นพระนิพพานแน่นอน...<o:p></o:p>
    ธรรมมะหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     
  12. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ตราบใดที่เธอทั้งหลายไม่หมกหมุ่นกับการงานมากเกินไป
    ไม่พอใจด้วยการคุยฟุ้งซ่าน
    ไม่ชอบใจในการนอนมากเกินควร
    ไม่ยินดี ด้วยการคลุกคลี ด้วยหมู่คณะ
    ไม่เป็นผู้ปราถนาลามก
    ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจแห่งความปราถนาชั่ว
    ไม่คบมิตรเลว
    ไม่หยุด ความเพียรพยายาม เพื่อบรรลุคุณธรรมขั้นสูงขึ้นไปแล้ว

    ตราบนั้นเธอทั้งหลาย จะไม่มีความเสื่อมเลย มีแต่ความเจริญอย่างเดียว
    ภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือน เธอทั้งหลายว่า

    "สังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
    เธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่นให้บริบูรณ์พร้อม
    ด้วยความไม่ประมาทเทอญ"

    พุทธโอวาท
     
  13. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    โมทนาสาธุ รวบยอดทั้งสมเลยนะครับ จิตบุญ ๖๘ ๖๙ ๗0 ....
    พระอาจารย์ยอดจริงๆครับ

    วิทย์ จบ.๑๑
     
  14. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    The same as me,don't give up ka....
     
  15. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๗๑ ณ วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๗๑
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
     
  16. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    คุณแม่บุญศรี จิตบุญ 71 อายุ 63 ปี
    เพื่อนแม่ชีคำพลอย(จิตบุญ 33)
    ศิษย์พี่เพ็ญกับแม่ชีคำพลอย(วัดดอยเปา)
    อยู่ จ.พัทลุง จบกิจจิตเกาะพระเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2555
    รวมระยะเวลาฝึกจิตเกาะพระประมาณ 4 สัปดาห์
    เราสอนและสอบอารมณ์กันอาทิตย์ละครั้งทุกวันพระผ่านทางโทรศัพท์
    คุณแม่บุญศรีมีพื้นฐานการปฏิบัติมานานมากสิบกว่าปี
    แต่จิตไม่สามารถตัดโกรธได้เด็ดขาด
    จนมาทำจิตเกาะพระท่านวางความหงุดหงิดลงได้
    และจิตพัฒนามาเรื่อย ๆ จนจิตเข้าสู่วิปัสสนาญาณ
    เห็นในกายของตัวเองเต็มไปด้วยโครงกระดูก
    น้ำเลือด น้ำหนอง และอวัยวะน่าเกลียดน่ากลัวจนจิตรับไม่ได้
    หลังจากนั้นจิตจึงรู้แจ้งว่ากายนี้ไม่ใช่ของเราเพราะมันสกปรกเกินจะทนรับได้
    จิตจึงยกอยู่เหนือขันธ์ห้าแลธรรมทั้งปวง
    จิตไม่เอาอะไรแล้วในโลกนี้
    จิตปล่อยวางกับทุกสิ่ง
    จิตว่าง เบา สบาย เป็นกลาง อารมณ์กระทบไม่มีขึ้นไม่มีลง
    จิตนิ่งเป็นเส้นตรงตลอดแนว

    พี่เพ็ญขอโมทนาบุญกับคุณแม่บุญศรีไม่มีประมาณค่ะ และขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดให้พี่ภูและขอให้ท่านของท่านผ่านไปด้วยดีค่ะ
     
  17. จารุณี22

    จารุณี22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +1,403

    สาธุ สาธุ โมทนาสาธุการกับจิตบุญดวงที่ 71 ,70 , 69 , 68 ทั้ง 4 ท่านคะ
    และโมทนาบุญกับครูจิตบุญทุกท่าน ขอให้ทุกท่านเจริญในศีลในธรรมยิ่งๆขึ้น
     
  18. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญดวงที่ ๖๙,๗๐,๗๑ และครูจิตบุญค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ อนุโมทนาบุญกับธรรมมาทานบทนี้ค่ะ เออ(วะ)..ยิ่งนับวันเรารู้สึกว่าเราเข้าขั้นไปในทุกข้อเลยอ่ะ อึมม์...
     
  20. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ยังจำกันได้ใช่ไหม๊?
    ก่อนพระพุทธเจ้าทรงดับขันธปรินิพพานพระองค์ท่านประทานปัจฉิมโอวาท ซึ่งเป็นธรรมอันสุดท้ายว่าอย่างไร

    "จงอย่าประมาทด้วยประการทั้งปวง" ขอให้พวกเราคอยหมั่นระลึกถึงมรณานุสติกันเข้าไว้บ่อยๆ และจงทำความเข้าใจหรือทบทวนจิตของตนเองให้ดีๆว่า แต่ถ้าเราตายเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เราจะทำอย่างไร หรือจะไปที่ไหน แต่ผู้ที่ฝึกจิตมาดีแล้วไม่น่าเป็นห่วง แต่จะเป็นห่วงสำหรับผู้ที่ไม่ฝึกจิตกันนี่สิ! แต่ถ้าใครไม่ฝึกก็เป็นเรื่องของบุคคลนั้นแล้ว เพราะเราได้แนะนำไปทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าพวกเขาไม่ฝึกจะด้วยเหตุผลใดๆก็เป็นเรื่องสิทธิของแต่ละบุคคลแล้ว ถือว่าเราหมดหน้าที่แล้วเช่นกัน อย่างมากเราก็ทำใจเข้าอุเบกขาไป

    จิตบุญก็เหมือนกัน ก็อย่าได้ประมาทเช่นกัน โดยเฉพาะจิตบุญที่ยังมีอินทรีย์อ่อน หรือยังไม่แก่กล้า ก็ไม่เป็นไร เพราะของแบบนี้เราฝึกกันได้ เช่นคนที่เขาขับรถเป็น แต่จะเก่งแค่ไหน ก็ต้องตอบว่าเราขับรถบ่อยไหม แต่ถ้าใครขับรถบ่อยๆก็จะมีประสบการณ์มากและก็เก่งไปเอง เรื่องอินทรีย์ของผู้ปฎิบัติธรรมก็เหมือนกัน จิตบุญก็สามารถฝึกเจริญสติให้มากๆ และพี่ภูขอชมโดยเฉพาะจิตบุญที่ท่านกำลังสอนและครูฝึกหัดสอนจิตเกาะพระกันในเวลานี้ จิตบุญกลุ่มนี้ได้เปรียบกว่าผู้ที่ไม่ได้สอน นอกจากเจริญพรหมวิหาร๔แล้ว(เป็นคนไม่ถือโกรธและให้อภัยง่ายเพราะได้เมตตาสูง) ท่านก็ยังทรงอิทธิบาท๔ด้วย(คอยหมั่นฝึกทบทวนจิตตลอดเวลาและอายุก็ยิ่งยืนนานโดยเฉพาะครูที่กำลังสอนจิตเกาะพระคือ ได้เจริญสติปัญญา ได้พัฒนาภูมิธรรมภูมิปัญญาของจิตตนเองไปด้วย เหตุที่อายุยืนก็เพราะว่านอกจากเจริญพรหมหารและก็นำจิตไปสร้างบารมีเพิ่ม บุญไม่ต้องพูดถึง บุญได้กลายเป็นสปอร์นเซอร์จิตไปแล้ว คือบุญเป็นฐานของจิตไปแล้วเหมือนศีลที่คอยดูแลหรือรักษาผู้ปฎิบัติ ปฎิบัติชอบไปแล้ว นั่นเอง)

    พวกเราอย่าคิดว่าจิตบุญแล้ว ไม่ตกนรกแล้ว อันนั้นคิดผิด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันก็อยู่ที่ตนเองเป็นผู้กำหนดมาเองกันทั้ง แล้วต่อมาก็โทษว่าเป็นเพราะกรรมต่างหาก ก็ใช่น่ะสิ ใครทำอะไรก็จะได้ผลตอบแทนเป็นอย่างนั้น หรือตราบใดที่ท่านปลูกต้นมะม่วง ท่านก็ได้ผลมะม่วงไปทานกันนั้น ถูกต้องแล้ว มีที่ไหนปลูกต้นมะม่วงแล้วจะได้ผลทุเรียน ยกเว้นใครจะไปทำนอกเหนือกว่านี้คือผิดธรรมชาติ สรุปแล้วถ้าใครอยากพ้นทุกข์ พ้นกรรมโดยเฉพาะกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผลทำให้เราเป็นทุกข์ แต่ถ้าใครรู้+เข้าใจ+ปฎิบัติตามอริยสัจ๔ก็ไม่มีอะไรยาก ขอให้จิตเขารู้+เข้าใจ+ปฎิบัติได้นะ แต่ถ้าจิตรู้อย่างเดียวหรือต่อให้เข้าใจด้วยแต่จะปล่อยวางไม่หมดเสียทีเดียว ก็ถึงบอกกับพวกเราว่า พยายามฝึกจิต โดยการเจริญสติภาวนากันบ่อยๆ อินทรีย์จะได้แก่กล้า เมื่อจิตแก่กล้าแล้ว ความตายก็ทำอะไรจิตเราไม่ได้ ทำได้มากที่สุดก็คือ มาพรากกายของเราไปเท่านั้นเอง เพราะถึงอย่างไรกายของทุกคนก็ล้วนเป็นสมบัติของโลก หรือใครจะเถียง

    เพราะฉะนั้นจิตบุญทั้งหลาย สติอย่าละทิ้งจิตไปนานนัก และจิตก็อย่าละทิ้งพระไปนานนัก เพราะไม่เกิดผลดีสำหรับจิตบุญโดยตรงเลย จิตบุญก็อย่าประมาทกัน จิตบุญนั้นไม่เห็นจะต้องไปทำอะไรให้มากความเลย แค่เจริญหรือทรงพรหมวิหาร๔(ป้องกันกิเลสโดยเฉพาะความโกรธให้ดีโดยการให้อภัยคนง่ายๆไม่ต้องมีข้อแม้นใดและช่วยสงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ได้ยากหรือช่วยแผ่หรืออุทิศบุญกุศลโดยไม่ต้องไปเลือกข้างให้กับเขาไปทั้งเจ้ากรรมนายเวรของเรา ทั้งตนเองและคนอื่น ทั้งสัตว์นรกต่าง ทั้งเทพพรหมให้เขาไปให้หมดอย่าให้เหลือเพราะยิ่งให้มากเท่าไหร่ก็จะได้รับมากเท่านั้น อันนี้จะไม่เหมือนกับทางโลกนะ เพราะทางโลกยิ่งให้ก็ยิ่งไม่มีเหลือ โดยเฉพาะกับผู้ที่ทำบุญคนไม่ขึ้น ก็เพพพพราะว่าเรายังใช้กรรมเขายังไม่หมดและก็บารมีตนเองไม่มี จำเป็นจะต้องสร้างบุญให้มากไปก่อน จนบุญนั้นถึงจุดอิ่มตัว หรือเหมือนพระอรหันต์ที่ท่านไปบำเพ็ญบุญบารมี(บุญภายใน)กันที่ป่านั้น เมื่อบุญมากบารมีล้น เดี๋ยวคนอื่นๆก็จะเข้ามากราบไหว้เราเอง ที่เขาไหว้ไม่ใช่กายภายนอกนะ พวกเขาพากันกราบไหว้บารมีกัน เพราะมนุษย์ที่กำลังมีลมหายใจอยู่นั้นก็จะถือว่ามีบุญกันทุกคน แต่จะมากน้อยเท่านั้น และขอแนะนำผู้ที่รู้สึกว่าบุญน้อยมาตั้งแต่เกิดหรือชาติที่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะขอแนะนำว่า ถ้าได้ทั้งบุญ+บารมีพร้อม ก็ปฎิบัติกันง่ายๆ ก็คือ หยุดกระทำเลวทั้งหมด โดยเริ่มต้นรักษาศีล๕ให้ครบบริบูรณ์ก่อน(ศีลหยาบวัดแค่ตัวเจตนาเป็นหลัก) แต่ถ้าใครไม่แน่ใจว่าจะครบหรือไม่ขอให้สมานศีลทุกวันหรือที่เราสวดมนต์กันเป็นปกติอยู่แล้ว หยุดเลวทั้งหมดคงไม่ต้องบอกนะว่าเลวมีอะไรบ้าง เลวทั้งกายวาจาและใจ ทั้งหมดทั้งสามอย่างเลยนะ นี่คือปิดประตูนรกก่อน เราทำเช่นก้เพราะว่าล้างจิตใจให้สอาดก่อนเหมือนเราจะทานอะไรก็ต้องล้างมือก่อนทานนั่นก็เหมือนกัน เมื่อจิตใจมีศีลครบแล้ว จิตใจก็จะเบาบางหรือละเอียดขึ้นมาหน่อย ต่อไปนี้ก็เริ่มทำภาวนา โดยเริ่มต้นในเชิงปฎิบัติก็คือ เจริญสติหรือทำสมาธิ แต่ที่นี่เจริญสติภาวนาในรูปแบบของจิตเกาะพระ วิธีหรือรูปแบบจิตเกาะพระนั้น ที่ให้พวกเราระลึก/นึกถึงพระนั้นก็เปรียบเสมือน คำภาวนาทุกอย่าง นี่เป็นเพียงการสร้างสติเท่านั้น แต่จิตเกาะพระได้เปรียบตรงที่ว่า เมื่อเจริญสติโดยการระลึกถึงพระกันบ่อยๆจะทำให้ผู้ปฎิบัติแบบจิตเกาะพระนั้น จิตรวมเป็นสมาธิและก็ทรงฌานได้ไวในที่สุด และสดวกทั้งสถานที่+เวลา และตรงนี้ก็คือ จุดเด่นของการทำจิตเกาะพระ นั่นเอง ส่วนในการปฎิบัติ สุดท้ายเราต้องการแค่ทำให้จิตนิ่ง จิตเป็นสมาธิหรือจิตทรงฌานได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน นี่คือจุดสูงสุดหรือได้ประโยชน์สูงสุดของเหล่านักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติธรรมทั่วๆไป
    ที่พวกเขากำลังตามหากันในเวลานี้ แต่ถ้าใครอยากจะได้บุญก็แนะนำให้โดยเฉพาะผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลายเหล่านี้กันดูบ้าง ว่ามันจะเป็นจริงเช่นนั้นไหม๊ เพราะขนาดพระซึ่งถือได้ว่าเป็นนักบวชอาชีพ ท่านก็ลองเปิดใจปฎิบัติทำจิตเกาะพระจนสำเร็จ ทุกท่านก็ทราบกันดี...พอแล้ว ยาวไปแล้ว เดี๋ยวคุณลินดาบ่น...(แต่คนนี้บ่นไม่เหมือนคนอื่นๆเขานะ แต่เธอบ่นว่า มีอีกไหมเพราะยังไม่หนำใจ เธออยากฟังให้หนำใจ เธอก็ไปซื้อธรรมาสน์ให้พี่ภูดิ...555 พี่ภูจะเทศน์ให้ แล้วเธออย่าหนีไปไหนนะ...อิอิ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...