ว่าด้วย"ธรรมชาติ"ของพระสมเด็จ

ที่วัดยังมีอยู่ครับ เลือกได้จนพอใจครับ

 

อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้เค้ามีเศษที่แตกหัก บรรจุไว้ที่วัดพอจะใช้สร้างพระก็เอาออกมาทีครับ
แล้วปกติเวลาสร้างพระ ที่บอกว่าผสมผงโน้นผงนี่อะครับ เห็นเค้าใส่กันแค่ช้อนสองช้อนเอง แล้วผสมและก็กดออกมาเป็นร้อยเป็นองค์แล้วครับ เลยไม่รู้ว่าจะหมดง่าย ๆ หรือเปล่า (ผมไม่รู้นะครับ แต่เห็นจากรุ่นต่าง ๆ หลาย ๆ ที่ ที่สร้างเค้าใส่กันอย่างนี้จริง ๆ ครับ) หลัง ๆ เค้าเลยต้องมาโรยกันให้เห็น ๆ เลยอะครับว่าใส่เยอะนะ เช่น บางขุนพรหม 43 และ 54 หรือ หลวงปู่ทวด สก ครับ แต่จะเป็นเศษสมเด็จแท้จริงของสมเด็จโตหรือเปล่านั้น ผมก็ไม่ทราบครับ

 

ตามนั้นครับพี่หมอ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นอยู่บนพระที่โรยลงไป ผมดูเหมือนเศษผงกรุมากกว่าผงเศษชิ้นส่วนพระกรุครับพี่ ผิดถูกอย่างไรแจ้งด้วยครับพี่

(ความเห็นส่วนบุคคล)

 

วันนี้ยาไปเดินเล่นมาได้มาองค์นึงคะ พระสมเด็จหัก ( คือยาเองไม่กล้าบอกว่าดีได้เต็มปาก เอาเป็นว่ายานำมาศึกษาร่วมกันนะคะ ว่าเหตุผลในการเช่า ยาคิดแบบไหนในการสังเกตุพระ แต่ถ้าพี่ๆเพื่อนๆสมาชิกมีความคิดเห็นขัดแย้งสามารถนำมาแชร์ความรู้กันได้นะคะ )

พระหักคะ น้องเจ้าของพระตั้งใจล้างรักและนำวัสถุของแหลมมาแทงงัดแงะเอาคราบรักออก แต่บังเอิญทำหล่นหัก ยาขอเช่ามาเมื่อตอนค่ำนี้เองคะ
- จุดแรกยามองที่คราบรัก และ แผ่นทองคำเปลวที่ปิดทับ สีของกระดาษทองคำเปลว เป็นสีเหลืองที่ตายด้าน คือ ทองตายนั่งเอง ไม่มีกระแสเปล่งประกายดูสดใส
- พิจารณาเนื้อด้านหลังคราบที่ผุดเกิดจากในเนื้อพระดันขึ้นมาไม่ใช่ด้านนอกที่ถูกฉาบผิว
-ผิวที่อยู่ภายใต้คราบรักนั้น มีการงอกของเนื้อพระที่ไม่ประสานเป็นเนื้อเดียวกัน แต่เนื้อที่งอกออกมานั้น เป็นการงอกที่เชื่อมประสานผิวพระเป็นเนื้อเดียวกันมีความหนักเบาไม่สม่ำเสมอกันและค่อยๆจางกลืนไปกับผิวเนื้อพระที่มีสภาพราบเรียบ ไม่ใช่การโป๊ะที่ผิวพระ

ไม่ทราบพี่ๆและเพื่อนๆสมาชิกคิดว่ายังไงหลักการวิเคราะห์ถูกต้องหรือไม่ ในทฤษฎีของธรรมชาติที่นำมาพิจารณาพระสมเด็จ

 

ปล. พระอาจไม่สวยงามนักเนื่องจากน้องที่ปล่อยเช่าขาดประสบการณ์เรื่องพระผง จึงกระทำต่อองค์พระไม่เรียบร้อย และ คงค่าความเก่าให้ได้ชมนัก ที่สำคัญขูดเนื้อที่ฐานซะหายสวยงามเลย เฮ้อ

 

ดีครับช่วยกันศึกษาหลายๆตา..ผมสนับสนุนนะครับ..รู้อาไรมาเอาองคนี้วิจารณ์ไดเลยนะครับคุณยา..สำหรับผมขอนั่งดู..นะครับ..แต่มีคำตอบอยู่ในใจแล้วดูพี่ๆน้องๆทุกท่าน..คอมเม้นท์ครับผมว่าดีนะคุณยา.....

 

ไม่เป็นครับ แต่ชอบมากครับ ดูเป็นธรรมชาติดีครับเหมือนงานศิลปชิ้นนึง

 

นำภาพมาให้ชมกันอีกรอบคะ ถ่ายตอนเช้าแต่แสงแดดไม่ค่อยมีไม่ อิอิอิอิ ( มาช่วยกันวิเคราะห์เลยคะ จะแท้ หรือเก๊ ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่แน่ๆจะได้จำไว้เป็นครูกัน ถ้าเก๊ ก็เก๊ครู ถ้าแท้ก็เป็นครู แต่สรุป เก๊แท้ไม่รู้ดูเอาเอง ลองวิเคราะห์กันดูคะ จะได้วิชาความรู้แนวทางวิเคราะห์ )




( พระสมเด็จดูยากจริงๆ ยาว่ายาไปซบอกหลวงพ่อเงินดีกว่า แหะแหะ มีลุ้นๆๆๆ)

 

ผมแอบชื่นชมคุณยานะครับ..ที่เป็นคนมั่นใจตัวเอง..ชอบก็เช่าเลยไม่ผิดนะครับ..เก๊แท้ว่ากันทีหลัง..เอาพระของตัวเอง..มาถาม..คนตอบก็อยากตอบอะนะเำราะเป็นพระ.ของตัวเอง..พระที่อยู่ในเวป..ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเอามาถาม.ในเชิง..ว่าเก๊-แท้....ผมคิดว่าไม่ถูกต้อง...และไม่มีผลดีทั้งผู้ถามและผู้ตอบ..อาจจะมีคดีความขึ้นมาได้..และก็เป็นการเสียมารยาทอย่างแรง...พระที่จะเอามาจากในเวปได้ก็ต่อเมื่อท่านรู้จิงๆว่าพระนั้น..แท้..ดูง่าย..เอามาเพื่อให้หลายท่านดูว่าแท้เป็นอย่างไร...อันนี้ผมคิดว่าไม่มีผล ลบ ใดๆทั้งสิ้น...ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าพระที่เอามาลง..ว่าแท้..ก็อย่าพึ่งเอามาให้สมชดู...ก็เท่านั้นแหละครับ..ผมดูกระทู้ที่เห็นชัดว่า..ทุกครั้งที่นำพระจากในเวปมาให้สมชดู..จานำแต่ภาพแท้มาทั้งนั้น..ไม่มีพระที่นำออกมาแล้วมาให้สมาชิค..ดูแล้วถามว่าดูซิองค์นี้แท้หรือเก๊..ซักครั้ง..นั่นก็เป็นวุฒิภาวะของคนนำเสนอ..กระทู้..หลวงพ่อทบ.เป็นอีกหนึ่งกระทู้..ที่นำภาพจากในเวป..เป็นพระที่..จขกท..ได้ทำการบ้านมาอย่างดีแล้วก็นำภาพ..พระแท้มาลงให้สมช..เข้าใจ.ง่ายขึ้น..และก็มีอีกหลายท่านนะครับ..ที่เอาแต่ภาพพระแท้..ที่ตัวเองศึกษามาอยู่แล้วมาโพสน์ให้ทุกคนดู..อันนี้ผมยกย่องนะครับว่าถูกต้อง...ที่กล่าวมาเพราะความปรารถนาที่ดีกับทุกท่านนะครับ...อย่าเอาพระในเวปที่เคาอาจจะซื้อขายกันอยู่..มาโพสน์ถามความคิดเห็นว่าดูดีมั้ย..ใช่มั้ย..เลยครับ..มันผิด..จรรยาบัญ..อย่างร้ายแรง...ของที่เป็นของท่านเองเอามาถามเถอะครับ..ผิดถูกมาช่วยกันวิเคราะห์..มีความสุขกว่ากันเยอะ...อย่างของคุณยา..ชอบ..ลงทุนเช่ามาเลย..ผิดถูกผมก็ว่า..คุณยา..ไม่ถือสาอยู่แล้ว..แท้ก็ดีใจครับไม่แท้ก็..หามุมใหม่เอามาสู้ต่อ...ผมว่า..กระทู้มันจามีความสุขกับทุกๆคน..นะครับ....

 

องค์นี้ครับคุณยาที่ผมพูดถึง...อย่าพึ่งเชื่อผมนะครับ..ลองเปรียบเทียบดู...รัก-ชาด..ของผมจาเข้มกว่าเล็กน้อย....แต่คิดว่ามายุคเดียวกัน....รอฟังความเห็นท่านอื่นด้วยจาดีกว่า
อ้อลืมบอกไปองค์นี้เก๊..ห่างเลยครับ

 

..บางขุนพรหมพิมพ์นี้..ต้องพี่..liverpol rak...ท่านชี้เป็นชี้ตายได้ครับผมเชื่อนะ..ส่วน..สามปลื้ม...ต้องคนนี้เลย..น้าเอ๋.อยุทธยา...ตัวจิง.เงา..ก็ยังจิงเลยนะครับ.....ฟันขาดกระจายครับผม
.

 

โย่โย่โย่ เล่เข้ามาคะเล่เข้ามา เดี๋ยวยาจะฉายหนังให้ชม ต่อไปนี้เสนอหนังเรื่อง คราบกรุพระสมเด็จบางขุนพรหม ( ใครว่าเก๊โดยเฉพาะพี่ชัย ยาจะเอาหมอนข้างกับเสื่อผืนนึงมานั่งเถียงนอนเถียงหลับแล้วตื่นมาก็จะเถียงไม่หยุดเลย คริคริคริ ไม่ยอมถ้าว่าเก๊ ยาจะหนึไปบวชชีเลยเลยหละ แต่ว่าพี่ชัยจะเอากี่ถ้วยคะ คุณบลู กับ คุณเจน รับกี่ถ้วยดีบวชชี ยาจะได้จัดได้ถูกยาอุตส่าห์ไปถ่ายภาพเพิ่งกลับมานะคะเนี่ยเสียสละแด่เพื่อนสมาชิก เอ้าาา ปรบมือให้คนเก่งวันนี้หน่อยคะ ห้าห้าห้า ( วันพระยาอาการกำเริบแล้ว อะจึ๊ยๆๆ หลุดโลก ) แม้ถ่ายมาทั้งทีต้องมีต้นทุนภาพคะ เข้าชมรอบละสิบบาท เดี๋ยวยาไปขึงผ้าม่านก่อนดีกว่า
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP782286" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP782286_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP782286.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP918710" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP918710_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP918710.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP865131" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP865131_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP865131.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP1370807" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP1370807_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP1370807.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP916004" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP916004_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP916004.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP1058768" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP1058768_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP1058768.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font> )

 

คุณยาครับ ขอถามถึงองค์ที่ลงรักก่อน เรื่องเนื้อพระที่อยู่ใต้รักนี้มีตรงส่วนใดไหมครับที่มีการแตกลายงาแบบลายเล็กๆ แบบเป็นลายละเอียดเลย
องค์ที่สองบางขุนพรหม นี่ขอเป็นบัวลอย แทนบวชชีครับ คราบกรุเห็นเหมือนเพรียงนี่น่าจะตัวจริงเสียงจริงนะ ความเห็นส่วนตัวของผม และส่วนหนึ่งก็ได้รับการถ่ายทอดมาครับ

 

รูปเต็มด้านหน้าและด้านหลังคะ เมื่อกี๊หลบไปจัดภาพมาคะ

<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP867177" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP867177_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP867177.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>

 

นี่ไงคะคือคำถามที่ต้องหาคำตอบ แปลกไหมคะ จากที่ยาเองก็ค้นคว้ามาว่า พระสมเด็จที่ลงรักปิดทองนั้น หากล้างจะเจอลักษณะแตกลายงา แต่สำหรับองค์นี้ยายังไม่ได้พิจารณาอีกครั้งเลยคะ แต่ยาว่าไม่มีนะคะ แสดงว่าพระองค์หักคือพระเก๊ เราสามารถสรุปเช่นนั้นได้หรือไม่
คำถามที่หาคำตอบอีกครั้ง คุณบลูว่าพระของยาองค์นี้ที่สีเขียว ทำไมแตกลายงา และ ค่อยๆแตกเป็นสีแดงวิ่งบนองค์พระ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ถ้าว่าพระองค์นี้ถูกล้างมา สภาพพระองค์นี้ไม่ช้ำเลยสักนิดคะ เราจะลงความคิดเห็นว่าเช่นไรดี คราบขาวๆที่เห็นไม่ใช่ขี้เกลือ แต่ยาเดาว่าเป็นคราบที่คล้ายๆขี้นกที่เราจะพบในพระเนื้อเก่าๆ ซึ่งคราบขาวและรอยแตกลายงาองค์นี้จะปรากฎขึ้นเรื่อยๆ

<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP1876112" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP1876112_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP1876112.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>
<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP528322" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP528322_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP528322.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>

 

องค์นี้คุณยาได้มาแพงไหมครับ น่าจะเป็นพิมพ์เส้นด้ายใช่ไหมครับ หรือว่าเป็นพระของท่านอื่น ช่วงนี้เข้ามาคุยเวป พลังจิต ดูเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อย เหมือนสมาชิกเก่าๆ หลายท่านเริ่มจะรู้สึกกันแล้ว หรือว่าเรากำลังจะย้อนยุคไป 2499 กัน

 

เมื่อกี๊นั่งดูไฟล์รูปพระองค์เขียวแบบขยายทุกมุม ได้ภาพมาแล้วคะ น่าจะเป็นคราบรักเก่าที่ถูกล้างยังเหลือยัดตามซอกผิวพระ อาจดูลำบากคะรูปพระกลับหัว

ปล. รบกวนคุณบลูช่วยขยายความเรื่อง เพรียงให้เพื่อนสมาชิกได้ศึกษาด้วยคะ บางท่านชอบเรียกว่า ขยุ้มปากเพรียง ถ้ายาจำไม่ผิดนะคะ

<a href="http://www.picza.net/show.php?id=20120901vIvdxvdvlxdvEP661016" target="_blank"><img src="http://www.picza.net/save/20120901vIvdxvdvlxdvEP661016_sv1/pic/2012_09_01-090-20120901vIvdxvdvlxdvEP661016.jpg" border="0" /></a><br><font size=1>Thanks: <a href="http://www.picza.net" target="_blank">ฝากรูป</a></font>

 

องค์นี้ของน้องชายที่นับถือกันกำลังจะนำไปลงเวปของยาปล่อยราคาอยู่คะ เรื่องรายละเอียดองค์พระ ยาถ่ายมาครบทุกซอกมุมแต่นำเสนอลงให้ชมกันไม่มากนัก เพื่อให้ศึกษาเนื้อพระคะ ถ้าเพื่อนๆหรือพี่ๆที่พลังจิตเข้าไปเวปยา ยาลดให้พิเศษเร้ยยยย

 

เรื่องคราบเพรียงที่เกิดขึ้นจากเนื้อพระ ตามความเข้าใจของผม น่าจะเกิดจาก สภาพภายในกรุ ที่ทั้งร้อน และชื้น ทำให้ผิวพระมีการขับน้ำหินปูนออกมา รวมกับความชื้นบนองค์พระะ คราบหินดินทรายที่ปกคลุมอยู่ แล้วเกิดฟองอากาศขึ้น แล้วแตก จนมีรูปคล้ายเพรียงที่เกาะอยู่บนพระ (ผมเข้าใจถูกต้องไหม หากไม่ใช่คุณยารีบแก้ให้ด้วยนะครับ) ถ้างั้นถามกลับคุณยา ว่า ทำไมพระที่ลงรัก แล้วเมื่อได้อายุ ผิวพระใต้รักจึงเกิดรอยแตกเล็กๆ เกิดขึ้นละครับ คุณยาอธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ เพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน

 

:''(ทำไมนะทำมายยยยยยยยย ทำไมต้องเป็นยาอีกแ้ล้ววว ฮือฮือ เจอแต่คำถามที่ตัวเองต้องคิดหนัก ยาไม่ใช่ผีผ้าห่มนะคะ ที่อัปดุลถามไรมา ยาตอบได้ อิอิอิอิอิ อัปดุล ถามอะไร ตอบได้.... ตอบได้

มามะมมาจอยกันจอยกัน มาอัดความรู้กันล้วนๆเลยเป็นไง เดี๋ยวยาเอาจริงขึ้นมา คอยดูจะไปบวชชีหม้อใหญ่ๆเลยคอยดูสิ เล่นเลี้ยงลูกบอลมาดีๆอยู่หน้าประตูไม่ยอมยิง กับส่งลูกมาให้เราเสียดื้อๆ ห้วย ห้วยห้วยยยยยยยย บ่นๆๆๆๆ

ตอบปัญหาโลกแตก รอยรานแยกแตกลายงาบนองค์พระสมเด็จเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุใด
เอาหละมาประมวลผลความรู้ด้วยตัวเองหน่อย ว่ามันสมองๆน้อยๆใบนี้มีอะไรอยู่บ้างนะยายยา ติ๊กต๊อกๆๆๆๆๆๆ
บุคคลอ้างอิง อาจารย์ไพรพนา กล่าวว่าการแตกลายงาเกิด
การแตกลายงาขององค์พระจะมีสองประเภท คือ หนึ่งแตกลายงาแบบหยาบ (แบบสังคโลก เหมือนชามสังคโลก) สองการแตกลายงาแบบละเอียด (เหมือนไข่นกปรอท) ทั้งสองลักษณะร่องลอยการแตกตัวจะไม่ลึกถ้าดูเผินๆคล้ายไม่แยกจากกัน ต้องใช้กล้องส่องจึงจะเห็นชัด และขอให้จำเป็นหลักไว้ว่าการแตกลายงาขององค์พระไม่ได้เกิดจากการลงรัก ปิดทองล่องชาด แต่เกิดจากขั้นตอนของการตากผึ่ง และสภาพแวดล้อมของธรรมชาติในขณะนั้นเป็นสำคัญ พระสมเด็จที่ลงรักปิดทองล่องชาด พบว่าเมื่อลอกรัก ชาด ทองเหล่านั้นออกไม่ปรากฏลอยแตกลายงาเลยก็มาก

บุคคลอ้างอิง คุณ วาซาบิ ห้องมาดูสมเด็จกัน

หากมีการนำรักมาทาหรือจุ่มรัก ความชื้นในองค์พระที่มีอยู่ จะมีผลต่อการแตกลายงา เนื่องจากเวลาเราเก็บพระ เราวางพระหันด้านหน้าขึ้น ความชื้นเหมือนไอน้ำภายใน ก็จะไปอยู่บริเวณด้านบน เมื่อมีความร้อนสลับชื้นเป็นเวลานาน เกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวเป็นการขยายตัวและหดตัว จึงเป็นที่มาของการแตกลายงาด้านบนพื้นผิว

บุคคลอ้างอิง คุณยายยา bcbg

สรุป พระสมเด็จที่ลงรักปิดทองนั้น ทำไมจึงเกิดการแตกลายงา ล้วนมีปัจจัยหลายสาเหตุ เป็นองค์ประกอบ คือ

- ส่วนผสมเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการแตกลายงา
- ภูมิอากาศ ที่ทำปฏิกิริยากับมวลสารท่านสมเด็จ
- สภาพพื้นที่การเก็บรักษา และ ระยะเวลา
- มวลสารแต่ละชนิดที่ถูกนำมาเป็นส่วนผสมในเนื้อพระสมเด็จที่มีความไม่เท่าเทียมกัน ส่งผลกระทบถึงความแตกต่างกับองค์พระ และ ภูมิอากาศ ระยะเวลาการบ่มในเนื้อพระ
- เนื้อพระส่วนผสมที่แตกต่างคนละชนิด และ คุณสมบัติที่แตกต่างจึงส่งผลต่อองค์พระแต่ละชนิดที่แตกต่างกันออกไป
- น้ำหนักการกดพิมพ์ที่ไม่สม่ำเสมอกัน บางองค์กดแน่น บางองค์กดหลวม และ บางองค์ผสมน้ำมันตังอิ๊วมากเกินไป เกิดความเหนียว และ ยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน
- ความละเอียดและหยาบของส่วนผสม


มาจินตนาการเล่นๆกันเถอะ อย่าเพิ่งไปไหน

ดินเหนียวก้อนนึงที่คุณกรองแบบละเอียดมีการนวดและใส่ส่วนผสม คือ น้ำลงไปและนวดให้เกิดความเหนียวที่กำลังพอดี ก่อนขึ้นหุ่นพิมพ์ เมื่อคุณทำการปั้นหุ่นขึ้นรูปแบบแม่พิมพ์ โดยการพอกดินลงไปที่ละชั้น จนดินจับตัวแน่นเป็นรูปร่างที่คุณต้องการทำ เมื่อคุณปล่อยหุ่นพิมพ์นั้นไว้ โดยการไม่มีผ้าชุบน้ำมาคลุมหุ่นปั้นของคุณ หุ่นปั้นที่ถูกวางทิ้งไว้ เนื้อดินเมื่อถูกอากาศ น้ำหล่อเลี้ยงหน้าผิวก็จะระเหยไปในอากาศ ผิวชั้นนอกเกิดการขาดน้ำหล่อเลี้ยง ผิวดินก็จะเกิดรอยปริแตกระแหง เกิดรอยร้าวบริเวณหน้าดิน แต่หากคุณลองทุบหุ่นพิมพ์นั้นเพื่อดูดินที่อยู่ด้านในจะพบเห็นว่าสภาพของดินที่อยู่ด้านในนั้น จะมีความชุ่มชื้น เพราะ มีน้ำมาหล่อเลี้ยง เนื่องจากภูมิอากาศมิได้ส่งผลกระทบดินที่อยู่ด้านใน แต่จะส่งผลกระทบต่อผิวดินด้านนอก ( จินตนาการไปพร้อมๆกันแล้วคุณคิดว่าเช่นไร ปัจจัยที่ยาอ้างถึงใกล้เคียงเหตุผลหน้าจะเป็นจริงหรือไม่คะ )


สานความรู้กันต่ออย่าเพิ่งรีบหลับกันนะคะ


พระสมเด็จ เนื้อหามวลสาร แม้แต่ปริมาณ ยังมีความไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้น การรานขององค์พระ จึงแตกต่างกัน แม่พิมพ์พระสมเด็จ เื่มื่อเรากดพิมพ์โดยการบดอัดเนื้อมวลสารลงไปในหลุมแม่พิมพ์ แรงกดส่งผลที่หน้าแม่พิมพ์ แรงกดอัดแน่นจะส่งผลมาที่ด้านหน้า คือ องค์พระสมเด็จด้านหน้า ด้านหลังแรงกดจะหลวมไม่แน่น ยิ่งเราต้องการให้พิมพ์ชัดยิ่งต้องกดพิมพ์อัดเนื้อมวลสารให้แน่นจริงไหมคะ เมื่อเราเคาะพิมพ์ออก หน้าพิมพ์จะหงายขึ้น แล้วนำไปผึ่งลม ตากแดดเพื่อให้พระนั้นเกิดความแห้ง ผิวพระด้านหน้าจะทำปฏิกิริยากับภูมิอากาศรอบๆบริเวณ บางคนผึ่งลม บ้างผึ่งแดด บ้างฝนตกใส่ ร้อนสลับเย็น เย็นสลับร้อน ปฎิกิริยาต่างๆ ส่งผลกระทบบริเวณผิวพระด้านหน้าโดยตรง การหดตัว ความยืดหย่นในองค์พระ มีการยุบตัว มีความเคลื่อนไหวในเนื้อมวลสาร หรือ การขับเคลื่อนขยับตัวของมวลสาร คุณสมบัติความยืดหยุ่นถูกภูมิอากาศทำให้ให้เสื่อมคุณสมบัติ ทำให้เกิดความแห้งที่ด้านหน้า ผิวด้านหน้าจะเริ่มมีรอยร้าวรอยแตกแขนง รอยปริ เมื่อมีการตากแดดที่พอดีองค์พระมีความแห้งตัวพอประมาณ ก็จะนำมาลงรักปิดทอง ดังนั้น รัก หรือ ชาด ก็จะซึมลึกเข้าไปตามรอยร้าวรอยแตกระแหงเหล่านั้นโดยมีน้ำมันตังอิ๊วที่เป็นตัวผสานให้เนื้อพระไม่เกิดการแตกร้าวหรือรอยระแหงมากเป็นตัวประสานยึดเหนี่ยวเนื้อพระให้เกาะจับตัวกันแน่น รอยแยกจึงไม่ปริแตกเป็นรอยที่ใหญ่นัก แต่จะเป็นรอยร้าวที่วิ่งรานแตกเหมือนรากผักชี หรือ รอยแตกของท้องนา ดังนั้น เมื่อทำการล้างรักหรือชาดออก เราจะพบเห็นรอยรานบนองค์พระ ที่รักหรือชาดซึมลึกเข้าไปตามซอกรอยรานเหล่านั้น ไม่สามารถล้างออกได้ง่ายเราจึงเห็นว่าเกิดการรานหรือแตกลายงา แบบชามสังคโลก

คำถามต่อไป อยากสอบเพื่อนสมาชิกทุกคนและอยากให้มีส่วนร่วมที่จะแชร์ความรู้ที่ท่านมี ไม่ว่าแนวคิดนั้นจะถูกหรือผิด แต่ความคิดท่านจะเกิดความเข้าใจมากขึ้นหากท่านแชร์สิ่งที่ท่านเข้าใจและคาดคาดเดาเหตุการณ์ความน่าจะเป็นในจินตนาการของท่าน ( จินตนาการแนวความคิดมีเหตุผลน่าเป็นจริงหรือไม่ กับแนวความคิดวิเคราะห์ของเพื่อนๆ พี่ๆ )

คำถามมีอยู่ว่า สมัยก่อนการสร้างพระมีการสร้างขึ้นมาแทบไม่เพียงพอต่อพระธรรมขันธ์ เมื่อมีการกดพิมพ์ เวลาในการตากพระจึงมีไม่มาก สิ่งที่คาดไม่ถึง คือ พระอาจยังไม่แห้งดี แต่มีการนำมาลงรักปิดทองในสภาพผิวที่ยังเปียกอยู่ ดังนั้น หากเราล้างพระ ล้างคราบรัก หรือ ชาดออกไปนั้น การแตกลายงาจะเกิดขึ้นหรือไม่ และ เราจะรู้ได้ยังไงว่าผิวพระที่เปียกลงรัก เมื่อล้างออกคราบจะเป็นเช่นไร ที่เรียกว่าผิวแท้ ไม่เก๊โรงงาน ( คำถามนี้ห้ามถามย้อนมาที่ยา เพราะ ยาขอให้แชร์ความรู้ซึ่งกันและกัน )
-
ปล. ความรู้ความเข้าใจ ต้องเกิดจากสืบค้นและศึกษามาประมวลเป็นเนื้อหาความเข้าใจตนเอง มิใช่การคัดลอกจากหน้าต่างคนอื่น มาแปะเป็นข้อมูลตนเอง จริงไหมคะ