** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ตุ้ย ฉันทะ, 16 พฤษภาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    คล้ายคลึงกันมากเลยครับ คุณอินทรีสังวร เห็นคุณอินทรีสังวรเขียนทำให้หวลคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ..แม้ผมยังไม่ได้บวชเรียน แต่ช่วงหนึ่งของชีวิต ตอนที่ลุยหนักจริงๆ จิตก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ..สุดท้ายแล้วบุญบารมีมีแค่นั้น ช่วงนั้นทั้งภาระดูแลพ่อแม่ หน้าที่การงาน หาเงินหาทอง ต่อเนื่องทางโลก มาเมีย มาลูกอีก จบเลยที่นี้..คงต้องขอเป็นชาติหน้าเสียแล้วกระมัง ปวารณาจิตไว้เช่นนั้น..

    การที่ผมวาง " ฐานสโมบูชา" ว่าโดยประวัติหลวงปู่ชอบโดยละเอียด เป็นเล่ม 1 เนื่องจากเป็นหนังสือที่อ่านง่าย เหมือนเป็น Introduction ปลูกฝังความเชื่อ ความชอบทางธรรมไว้ก่อน คุณหญิงสุรีพันธ์ท่านเขียนไว้ดีมากเหลือเกิน น่าอ่านมาก ไม่เบื่อ ไม่ง่วงนอน มีเรื่องอภินิหารเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก

    ในบรรดาพระป่ากรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นทั้งหมด หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่า "ท่านเป็นพระอันเป็นที่รักของหมู่มวลเทวดาทุกชั้นทุกภูมิ" ได้รับการยกย่องและกล่าวชมเชยจากพระอาจารย์ใหญ่มั่นมาก

    หลวงปู่ชอบท่านเป็นพระที่อยู่แต่ป่าลึกเกือบตลอดชีวิต ท่านดำเนินชีวิตในเพศสมณะตั้งแต่อายุน้อยๆ ตั้งแต่เป็นผ้าขาว ได้รับการยอมรับว่ามีปฏิปทาเหมือนกับพระมหากัสสปะ พระอรหันต์สาวกผู้ชอบอยู่เป็นป่าเป็นนิจเมื่อครั้งพุทธกาล

    พระทุกรุ่นของหลวงปู่ชอบท่าน มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ครูบาอาจารย์ของผมองค์อื่น เคยบอกผมว่า พระของหลวงปู่ชอบ จะมีเทวดารักษาอยู่ทุกองค์ เพราะท่านเป็นพระอรหันต์ที่เทวดาทุกชั้นฟ้าให้ความรักความเคารพบูชามาก (หลวงปู่เทศน์เคยว่า ความจริงมากกว่าหลวงปู่มั่นอีก นั่นเป็นบุญบารมีเก่าของท่าน)

    เมื่อก่อนผมไม่ห้อยพระองค์อื่นเลย ห้อยแต่เพียงองค์เดียวคือ หลวงปู่ชอบ ครั้งหนึ่งไปกราบเยี่ยมหลวงปู่..........ท่านทักผมแต่ไกลเลย "นั่นใส่อะไรมาในคอ แสงจ้ามาเลย เทวดามาด้วย นั่นของท่านอาจารย์ชอบใช่มั๊ยล่ะนั่น " นั่นผมใส่พระเก็บในเสื้อน่ะครับ ไม่ได้โชว์ออกนอกอะไรเลย

    พระองค์ที่คุณ Max ให้นี้..ผมไม่รู้หรอกว่าปัจจุบันวงการเขาเล่นหาราคาเท่าไร รู้แต่ว่าเพื่อนๆท่านใดที่ได้ไปแล้ว ต้องระวังรักษาวางไว้ในที่อันเหมาะด้วยครับ เกรงใจเทวดาอารักษ์เขาหน่อย พระของหลวงปู่ชอบอาราธนาทำน้ำมนต์ได้ทุกองค์ หลวงปู่ชอบท่านไม่เคยปลุกเสกพระอะไรน่ะครับ สำหรับท่านแค่จ้อง หรือแค่เอามือแตะเบาๆ นั่นก็ถือว่าเกินพอแล้วครับ..จริงๆน่ะครับ..ขอบอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  2. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    อย่างน้อย ๆ ผมก็ได้คิวที่ 5 มาแล้ววววว ขอบคุณคร้าบบบบบ
    แต่.....ผมก็จะหาด้วยอีกทางครับ ถ้าเจอหลายเล่มจะเก็บมาฝาก คิวที่ 1,2,3 และ 4 ของพี่โจให้นะครับ หุหุ :cool:
     
  3. max_thonglor

    max_thonglor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    317
    ค่าพลัง:
    +704
    [​IMG]
    คุณโจ.......เหรียญรุ่นนี้หน้าเหรียญเขียน"ครบรอบ ๙๐ พรรษา พ.ศ.๒๕๓๔"ผมไม่ได้ไปวัดฯมาครับคุณโจ....คือว่าเมื่อปีช่วง33-35 คุณพ่อของผมเคยรับราชการอยู่จ.เลยประมาณ 2 ปี ก็ได้เหรียญชุดนี้มาจำนวนหนึ่ง...และได้เหรียญปี๓๗ก่อนหลวงปู่ชอบมรณภาพอีกหน่อยนึงครับ.....ก็พอแบ่งปันเพื่อนๆสมาชิกได้บ้างครับ...ส่วนเหรียญรุ่นแรกนั้นคุณพ่อก็มีอยู่เหรียญนึงแต่ผมยังไม่เคยขอดูเลยครับ...

    [​IMG]
    คุณโจคิดว่า พระของหลวงปู่บุญนอกจากพระปิดตารุ่นนี้แล้ว รุ่นอื่นจะเหนียวรึป่าวครับ? ตัวผมเองมีแค่พิมพ์ซุ้มแหลมใหญ่หลังเบี้ยองค์เดียวเองครับ(อย่างน้อยก็เคยมีพระของท่านบ้าง)..................อยากเหนียวบ้างฮิฮิ
    <a href="http://pic.free.in.th/id/fa32e779da5360d258b8461262bc5cc7" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ic/l9zbb.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
    [​IMG]

    ขอบคุณครับคุณโจสำหรับข้อมูลดีๆ.....โดยเฉพาะเรื่องเหนียวๆ.....ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาออกความเห็น...แต่ตามอ่านอยู่(ipad)ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  4. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    เห็นพี่โจพิมพ์แบบนี้ ผมเริ่มอยากให้ถึงสิ้นเดือนไวๆ :'( _/\_
     
  5. อินทรียสงวร

    อินทรียสงวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +610

    เล่ม 2 ประวัติพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต (หลวงตามหาบัว) และเล่ม 3ปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น (หลวงตามหาบัว) แต่ก่อนมีแจกที่วัดป่าบ้านตาด ของหลวงตามหาบัวครับ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจครับ ถ้าจะให้แนะนำก็ต้อง ลองสอบถามที่วัดป่าบ้านตาด ที่อุดร หรือที่กรุงเทพก็ สวนแสงธรรม สถานที่หลวงตา มาพักและทอดผ้าป่าประจำตอนหลวงตาทรงสังขารอยู่ครับ

    เล่ม 4 ตามลิงค์นี้เลยครับ (ผมก็ได้มาจากที่นี้ แต่รอนานนิดหนึ่งนะครับ)

    http://palungjit.org/threads/แจกฟรี-ขอเชิญรับหนังสือหลวงปู่ฝากไว้-ของหลวงปู่ดุลย์.161097/
     
  6. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    ขอบคุณค๊าบ_/\_ :cool:
     
  7. อินทรียสงวร

    อินทรียสงวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +610
    ครับ ผมว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่นับถือ (ติดตาม) หลวงปู่ดู่/หลวงปู่ทวด ก็จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับผมไม่มากก็น้อย ส่วนตัวผมไม่รอชาติหน้าละครับ ไม่รู้จะไปเกิดเป็นอะไร ผมก็เลยทำสะสมไปเรื่อยๆ นึกได้ก็จับลมหายใจ เข้า-ออก พร้อมภาวนา "พุทโธ" กำกับอยู่เนื่องๆ สะสมไปเรื่อยๆครับ เหมือนที่ครูบา อาจารย์หลายองค์ ท่านกล่าวว่า ทำบ่อยๆ ทำจนชิน จิตมันก็ติดเอง จิตจะภาวนาเองอัตโนมัติ ถ้าถึงคร่าวคับขัน จิตจะวิ่งไปจับพุทโธเอง อย่างน้อยก็ไปจุติในที่สุขติครับ

    ไม่ต้องลองนะครับ แต่ขอให้ทำเลยครับ แนวทางไหนได้หมด (ภาวนา/มององค์พระที่เราชอบ) เราลูกศิษย์ตถาคต พระพุทธเจ้า ลูกศิษย์หลวงปูดู่/หลวงปู่ทวด (พระมหาโพธิสัตว์เจ้า)
     
  8. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    บางส่วนจากหนังสือ "ฐานสโมบูชา "

    น้องๆลองอ่านดูครับ หนังสือธรรมะอย่างนี้..อ่านแล้วจะง่วงนอนมั๊ยหนอ..??

    [​IMG]
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
    เสด็จพระราชดำเนินมาทรงกราบนมัสการ “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม”
    ในงานพิธีเปิดเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    ณ วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
    เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๓


    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม กับ ยอดคนของแผ่นดิน

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นพระป่า อยู่แต่ในป่าในเขาจนชิน และดูเหมือนจะไม่รู้จักโลกภายนอกที่ว่าเจริญของคนกรุง ท่านมักจะอยู่กับพวกยาง พวกกระเหรี่ยง พวกชาวเขาเป็นปกติ ไม่คุ้นเคยต่อการพบคนใหญ่คนโตมีชื่อเสียงของจังหวัดหรือบ้านเมืองเลย ดังนั้น วันหนึ่งท่านไปเยี่ยม หลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกลองเพล ขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินมากราบหลวงปู่ขาวเป็นวาระแรก ทางบ้านเมืองจึงมาส่งข่าวให้ทางวัดเตรียมตัวรับเสด็จ พอหลวงปู่ชอบทราบว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินจะเสด็จ ก็เตรียมหนีทันที หลวงปู่ขาวซึ่งบ่นเช่นกันว่า ไม่ทราบว่าจะ “พูด” ด้วยอย่างไร ขอให้หลวงปู่ชอบอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อน

    อ้อนวอนกัน จนสุดท้ายหลวงปู่ชอบก็ใจอ่อน ยอมอยู่ด้วย โดยเป็นที่เข้าใจว่า ท่านจะไม่ต้องพูดอะไรเลย และหลวงปู่ขาวก็ไม่ต้องพูดอะไรเท่าไรนัก ด้วยทางบ้านเมืองจะมาดูแลกำกับด้วย

    ถึงวันที่กำหนด หลวงปู่ทั้งสององค์ก็ครองจีวรอย่างเรียบร้อยรออยู่จนเย็น ท่านก็บ่นกันว่า

    “ไม่เห็นมา ให้รออยู่” องค์หนึ่งบ่น

    “นั่นซิ ไม่เห็นมา มีแต่ทหารสองพ่อลูกมาคุยอยู่เป็นนานสองนาน”

    “คนพ่อเพิ่นงามกว่าลูกนะ” ท่านวิจารณ์กัน

    หลวงปู่ทั้งสององค์หัวเราะกันจนงอหาย เมื่อพระเณรช่วยกันชี้แจงว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...เสด็จพระราชดำเนินแล้ว...! พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ...ที่หลวงปู่ว่า ทหาร ๒ พ่อลูกนั่นแหละ !!

    เป็นเรื่องที่เล่ากันอย่างขบขันตลอดมา ผู้เขียน (คุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต) ซึ่งปากอยู่ไม่สุข ภายหลังได้โอกาสก็กราบเรียนถามหลวงปู่ขาว

    ทำไมหลวงปู่ไม่รู้จักพระเจ้าอยู่หัว และทูลกระหม่อมฟ้าชายล่ะเจ้าคะ (ขณะนั้นท่านยังมิได้ดำรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร)

    ท่านว่า “ไม่เห็นมีขบวนแห่”

    ส่วนหลวงปู่ชอบนั้น เมื่อกราบเรียนถามด้วยคำถามเดียวกันนั้น ท่านก็ยิ้มอายๆ ตอบผู้เขียนว่า “นึกว่าจะใส่ชฎา !”

    หลังจากการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการหลวงปู่ขาวที่วัดถ้ำกลองเพลอีกนับครั้งไม่ถ้วน และแทบทุกครั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจะโดยเสด็จด้วย จนเป็นที่ทราบกันว่า ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระทัยผูกพันต่อหลวงปู่ขาว และหลวงปู่ขาวก็มี “จิต” ผูกพันต้อพ่อจ้าว แม่จ้าว แผ่เมตตาถวายทุกเวลาและทุกโอกาส ทั้งสองพระองค์และหลวงปู่ มี “จิต” ถึงกัน (ผู้เขียนเคยเขียนไว้ใน “อนาลโยคุโณ”...ในหนังสือ “อนาลโยบูชา”)

    สำหรับหลวงปู่ชอบ ทรงพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานของไปถวายสักการะเสมอ เช่น ดอกไม้ น้ำผึ้ง รถเข็น

    วันนั้นจำได้ว่า เป็นเวลาต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ท่านราชเลขาธิการ ในขณะนั้นคือ หม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ โทรศัพท์มาที่บ้านลาดพร้าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ถามว่า ทรงได้ข่าวว่า หลวงปู่ชอบ ฐานสโม กำลังมาพักโปรดลูกศิษย์อยู่ที่เรือนไทย ลาดพร้าว ไม่ทราบว่าขณะนี้ท่านยังคงพักอยู่หรือไม่

    เข้าใจว่า ที่มีพระราชกระแสถามมาเช่นนี้ กิตติศัพท์ที่ว่า หลวงปู่ชอบเป็นผู้ มาเร็ว ไปเร็ว คงจะเป็นที่ทราบถึงพระเนตรพระกรรณเป็นอย่างดี เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า วันนี้ท่านอยู่ พรุ่งนี้ท่านอาจจะไม่อยู่ หรือเช้านี้อยู่...บ่าย...ไม่อยู่ ชั่วโมงนี้อยู่...ชั่วโมงหน้าไม่อยู่...ไปแล้ว...ก็ได้เสมอ

    อย่างไรก็ดี วันนั้นได้กราบเรียนท่านราชเลขาธิการไปว่า หลวงปู่ชอบท่านยังคงพักอยู่ และความจริงเวลานี้ หลวงปู่หลุย จันทสาโร ก็กำลังพักอยู่ด้วยเช่นกัน

    วันรุ่งขึ้น ก็มีพระราชเสาวนีย์ให้ ฯพณฯ นายเชาวน์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี อัญเชิญแจกันดอกบัวสัตตบงกช และน้ำผึ้งบริสุทธิ์พระราชทานมาถวายหลวงปู่ทั้งสององค์

    และเพียง ๒-๓ วันต่อมา ท่านราชเลขาธิการก็ได้โทรศัพท์มาอีกว่า จะทรงให้ห้องเครื่องในวังส่งอาหารมาถวายหลวงปู่ทั้งสองทุกวัน จึงจะขอทราบเวลาฉันจังหันของท่าน เพื่อให้จัดส่งมาให้พอเหมาะกับเวลาฉัน ผู้เขียนได้เรียนท่านราชเลขาธิการไปว่า หลวงปู่ทั้งสององค์ได้ออกจากบ้านเรือนไทย กลับไปแล้ว


    [​IMG]

    พิมพ์ครั้ง 1

    [​IMG]

    พิมพ์ครั้งที่ 2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  9. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    555+ คนเขียนเขียนสนุกมากครับ ผมอ่านมาถึงประโยคที่ท่านเจ้าคุณเทพเมธาจารย์บอกหลวงปู่ชอบว่าคนที่มากราบเป็นใคร หัวเราะท้องแข็งเลยครับ :cool:
    อยากอ่านฉบับเต็มๆๆ :'( เอาอิกๆ เอาวันละตอนเลยครับพี่โจ (deejai)
     
  10. Arrowhead

    Arrowhead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +638
    เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วพี่ชายได้ให้พระผงบรรจุอยู่ในถุงซิปพลาสติกพร้อมด้วยบทสวดมนต์ จากสภาพถุงซิปน่าจะเกิน 10ปีขึ้นไป แต่ด้วยรูปลักษณ์ถอดพิมพ์เหรียญรุ่นเปิดโลกจึงนำไปเลี่ยมกรอบพลาสติกขึ้นคอทันที ในใจกำลังต้องการข้อมุลอยู่พอดีก็บังเอิญมาเจอบทความของพี่Jopaa ต้องขอขอบคุณมากๆครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    (ต่อ)



    [​IMG]

    หลวงปู่ชอบไปไหน...?

    กลับวัดของท่านที่จังหวัดเลย

    เข้าใจว่า ขณะนั้นท่านราชเลขาธิการคงกำลังเฝ้าเบื้องพระยุคลบาทอยู่ ท่านนิ่งไประยะหนึ่ง แล้วก็บอกผู้เขียนว่า สมเด็จฯ มีพระราชกระแสถามว่า เวลานี้หลวงปู่ชอบมีเก้าอี้รถเข็นหรือไม่ ผู้เขียนก็เรียนท่านราชเลขาธิการว่า ความจริงเวลานี้ หลวงปู่ชอบมีเก้าอี้รถเข็นแล้ว แต่หลวงปู่ชอบเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ประเสริฐที่สุดองค์หนึ่งของเมืองไทย หากจะทรงพระมหากรุณาพระราชทานเก้าอี้รถเข็นอีกคันหนึ่งเพื่อถวายหลวงปู่ พระราชกุศลก็คงจะเพิ่มพูนมหาศาล

    หลังจากนั้นเพียงสามวัน เผอิญผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปกราบหลวงปู่ชอบที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ ตำบลโคกมน จังหวัดเลย จึงถือโอกาสกราบเรียนให้ท่านทราบว่า “แม่จ้าวหลวง (คำว่า “พ่อจ้าวหลวง” และ “แม่จ้าวหลวง” เป็นคำที่หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชอบ ท่านมักจะใช้ยามเมื่อเอ่ยถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสมอ) คงจะพระราชทานเก้าอี้รถเข็นมาถวายหลวงปู่เร็วๆ นี้แหละเจ้าค่ะ”

    พระเณรที่ห้อมล้อมหลวงปู่ มองหน้าผู้เขียนอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก เมื่อพระองค์หนึ่งถามว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะโปรดให้ส่งเก้าอี้รถเข็นมาอีกคันหนึ่งหรือ

    จึงได้ความว่า เก้าอี้รถเข็นพระราชทานได้มาถึงล่วงหน้าแล้ว...ก่อนหน้าผู้เขียนเดินทางไปถึงวัด...ถึงสองวัน ! “...นี่ไง..!” แล้วพระผู้ปฏิบัติหลวงปู่ชอบท่านก็เข็นเก้าอี้รถเข็นพระราชทานออกมาให้ดู

    ผู้เขียนนิ่งนึกนับวันดู เวลาห่างจากวันที่เรียนท่านราชเลขาธิการเพียง ๓ วันเท่านั้น...! เราว่าเรารีบมากราบหลวงปู่ชอบโดยเร็วแล้ว...! แต่ดูเหมือนว่า วันนั้นเอง...พอท่านราชเลขาธิการกราบบังคมทูลแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็คงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดเก้าอี้รถเข็นส่งมาถวายหลวงปู่ ณ จังหวัดเลยทันที

    ถ้าไม่ใช่เพราะทรงเจริญพระราชศรัทธาอย่างยิ่งยวดแล้ว จะรวดเร็วถึงเช่นนี้หรือ

    นึกถึงที่ท่านราชเลขาธิการเคยปรารภให้ฟัง “ทรงเคารพรักและมีพระราชศรัทธาหลวงปู่ชอบและท่านอาจารย์ทุกองค์มาก เวลารับสั่งถึงทรงใช้คำว่า “พระอริยเจ้า” ทุกครั้ง”

    คราวหนึ่ง ท่านราชเลขาธิการอัญเชิญพระราชกระแสมาว่า ได้ทรงให้สร้างกุฏิไว้ในเขตบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐานแล้ว บริเวณนั้นเป็นที่สงบ ต้นไม้เรียงรายโดยรอบ มีลักษณะเป็นป่าอย่างที่หลวงปู่คงจะชอบ ทรงนิมนต์ขอให้หลวงปู่ไปพัก ณ กุฏินั้นบ้าง เมื่อเวลาที่ท่านเข้ามาในกรุงเทพฯ

    เมื่อนำความกราบเรียนหลวงปู่ชอบ ท่านตอบว่า ท่านเคยแต่อยู่ในป่า เข้าไปในเขตพระราชฐานจะลำบาก เพราะพวกศิษย์ติดตามก็เป็นแต่คนบ้านนอก ไม่รู้ธรรมเนียมอะไร...

    เมื่อเห็นว่าผู้เขียนทำหน้าสลด บ่นอ้อมแอ้มว่า แม่จ้าวจะเสียพระทัย น้อยพระทัย ทรงอุตส่าห์สร้างกุฏิถวาย ท่านก็ยิ้มแย้มอย่างปลอบใจบอกว่า “อยู่ข้างนอกก็แผ่เมตตา (ถวาย) ให้อยู่แล้ว แผ่ทุกวันให้ทุกองค์...ในนั้น”

    หลวงปู่ชอบคงหมายความถึง ไม่เฉพาะจะแผ่ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแล้ว ยังแผ่เมตตาถวาย “ทุกองค์”...“ในนั้น...!” ด้วย

    แล้วหลวงปู่ท่านก็เสริมด้วยใบหน้าที่เกลื่อนด้วยรอยยิ้มอย่างเมตตา เสียงของท่านแผ่ว เบา ตามปกติ แต่ก็ฟังแสนชัดว่า “ในนั้น...มีเทวดามากน้อ มาก...แน่นไปหมด”

    หลวงปู่ชอบแผ่เมตตาถวาย ในฐานะทรงเป็นพ่อจ้าวหลวง...แม่จ้าวหลวง ที่ทรงเป็นยอดคนแห่งแผ่นดิน และทรงเป็นปิ่นปักรักษาแผ่นดิน แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์จริงๆ ของพ่อจ้าวหลวงและแม่จ้าวหลวง ท่านก็ดูเหมือนจะไม่รู้จัก ดั่งกรณีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งไปทรงกราบนมัสการท่านพร้อมกับหลวงปู่ขาว ณ วัดถ้ำกลองเพล ดังที่ได้เล่ามาแล้ว

    สำหรับเรื่องที่หลวงปู่ชอบได้เห็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และไม่ทราบว่าท่านคือ “แม่จ้าวหลวง” ที่ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณถวายอุปการะเนืองๆ ก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาของพระป่ากันจริงๆ

    ต่อมา จำได้ว่าเป็นคืนวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานในการสวดพระอภิธรรมที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพิธีธรรมสวดให้เป็นการบำเพ็ญกุศลถวายพระคณาจารย์ที่มรณภาพด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ณ วัดพระศรีมหาธาตุ

    เมื่อทรงทราบว่า หลวงปู่ชอบได้มาในงานนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็เสด็จฯ จากพระเก้าอี้ที่กำลังประทับอยู่ ไปทรงกราบนมัสการด้วยความเคารพ ประทับบนลาดพระบาท ทรงหมอบกราบ และทรงประณมพระหัตถ์ตลอดเวลาที่มีพระราชกระแสรับสั่งกับหลวงปู่

    ผู้เขียนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ใจไม่ดีด้วยเกรงว่า จะไม่ทรงทราบว่าหลวงปู่เป็นอัมพาต พูดไม่ค่อยได้ ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ จึงสั่งให้ผู้เขียนไปเฝ้า และกราบถวายบังคมทูลความให้ทรงทราบ เพราะดูท่านสนพระทัยมีพระราชกระแสตลอดเวลา

    สมเด็จฯ ทรงพระสรวล รับสั่งว่า มิน่า หลวงปู่ไม่พูดด้วยเลย ท่านได้แต่มองนิ่งอยู่

    กราบบังคมทูลว่า นั่นท่านกำลังแผ่เมตตาถวายเพคะ ปกติหลวงปู่จะแผ่เมตตาให้เวลาคนมากราบ ที่ท่านมองนิ่งอยู่อย่างนั้น ท่านกำลังถวายพระพร

    สมเด็จฯ ทรงพยักพระพักตร์อย่างเข้าพระทัย เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับไปที่พระเก้าอี้ เพื่อทรงทำหน้าที่องค์ประธานพิธีต่อไป ก็ไม่ทรงลืมที่จะมีพระราชกระแสให้ผู้เขียนอย่าลืมจัดน้ำถวายหลวงปู่ให้ดี

    ทรงกราบอีกครั้งหนึ่ง จึงเสด็จกลับไปประทับที่พระเก้าอี้อีกด้านหนึ่ง อยู่ทางนี้หลวงปู่หันมาถามผู้เขียนเบาๆ ว่า “ใคร...?” ผู้เขียนยังตั้งตัวไม่ติด ด้วยไม่คิดว่าหลวงปู่จะไม่รู้จักสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงกราบเรียนถามว่า หลวงปู่ถามถึงใคร

    ท่านว่า “ที่มาเมื่อกี้นี้น่ะ เพิ่นงามนะ”

    จึงรีบเรียนท่านว่า “สมเด็จฯ เจ้าค่ะ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ”

    กราบเรียนไปแล้ว หลวงปู่ก็ยังทำหน้างง คิดว่าเสียงเราคงไม่ชัด จึงเรียนซ้ำไปอีก แต่สีหน้างงของท่านก็ยังไม่ดีขึ้น ท่านเจ้าคุณพระเทพเมธาจารย์ (ปัจจุบันคือ พระอุดมญาณโมลี-หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป) แห่งวัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี นั่งอยู่ใกล้ๆ จึงต้องบอกหลวงปู่เสียงดัง...

    “เมียพระเจ้าแผ่นดิน !”

    นั่นแล้ว สีหน้าของหลวงปู่จึงบอกความกระจ่าง...เข้าใจอย่างถ่องแท้ ยิ้มแล้วชมซ้ำ “เพิ่นงามน้อ !”

    เสียแรงเราเคยภูมิใจว่า ใช้คำราชาศัพท์ได้อย่างถูกต้องตลอดมา แต่คราวนี้ต้องนึกขันตัวเองที่ทำให้ไม่เป็นที่เข้าใจแก่หลวงปู่เลย...!

    ภายหลังมีโอกาสได้เฝ้าเบื้องพระยุคลบาท จึงได้กราบบังคมทูลเรื่องทั้งหมด รวมทั้งที่หลวงปู่ชมพระโฉม “เพิ่นงามน้อ” ด้วย

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แย้มพระสรวลเมื่อทรงรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น รับสั่งว่า “คืนนั้นไม่ทราบว่า หลวงปู่ท่านพูดไม่ใคร่ได้ แต่นั่นแหละ...กราบพระอริยเจ้าอย่างหลวงปู่แล้วชื่นใจ”

    ---------------------------------------------------------------------------------------

    หมายเหตุ : การได้อ่านหนังสือที่คุณหญิงสุรีพันธ์ท่านเขียน อย่างน้อยเราก็พอได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับภายในรั่วในวังบ้าง นอกจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือในหลวงของเรานี้แล้ว องค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถเรานี่แหละ..ที่ทรงให้ความรัก ความเมตตา ทรงความเป็นห่วงในชาติบ้านเมืองมาก อีกทั้งทรงปฏิบัติธรรม อุปภัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนา ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแท้อย่างเอกอุ ทรงรักธรรมชาติ รักป่าไม้ เบื้องหลังใครจะทราบบ้างเล่าว่า ทรงให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการผู้รับผิดชอบโครงการต่างๆ ผลัดพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าวัง เพื่อถวายรายงานงานต่างๆ ทรงติดตามงานที่เป็นประโยชน์แก่ราษฏรผู้ยากไร้อย่างต่อเนื่องใกล้ชิด ทุกวัน ทุกค่ำคืน ดึกๆดื่นๆ แทบไม่มีวันหยุดพัก ทรงเป็น "แม่" ของแผ่นดินอย่างแท้จริง ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน สมกับทรงกำเนิดแห่งราชสกุลเก่าแห่งพระองค์ท่าน "กิติยากร" ผู้ทรงสืบเชื้อสายพระโลหิตตรงจากราชสกุลวงศ์ แห่งวงศ์ "พระร่วง" ซึ่งก็คือสกุลวงศ์แห่ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า สายตรงนั่นเอง

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ หายจากอาการทรงพระประชวร และเจริญพระชมมายุยิ่งยืนนานเทอญ..



    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-chob/lp-chob-05.htm

    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-chob/lp-chob-08.htm

    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=27512
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  12. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ขอบคุณครับผม :cool:
     
  13. spiderza007

    spiderza007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    490
    ค่าพลัง:
    +729
    สอบถามพี่โจ พี่ตุ้ย และศิษย์หลวงปู่ทุกท่านครับ พระหลวงปู่ที่เป็นเหรียญเสมาปี2526 เหรียญนี้จัดสร้างมีกี่เนื้อครับและจัดทำเนื้อละกี่เหรียญครับ
     
  14. trex2553

    trex2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +102
    เมื่อวาน วันอาทิตย์ ได้ไปเดินเล่นที่พันธุ์ทิพย์แวะไปร้านคุณตุ้ย
    เจอทั้งคุณตุ้ย คุณโจ คุณนิวส์ ทุกท่านอัธยาศัยดีมากๆๆ จริงใจ
    เป็นกันเองแม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอให้ทุกๆท่านรวย รวย เฮง เฮง
    นะคราบว่างๆๆจะแวะไปคุยใหม่
     
  15. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    เหรียญเสมาปี 26 เป็นเหรียญที่ออกโดยวัดสะแกโดยตรง ถือว่าเป็นเหรียญรุ่น 2 ที่สร้างเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ท่าน

    เหรียญรุ่นแรกที่สร้างเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ ก็คือ เหรียญเสมาปี 2525 สร้างในคราวฉลองกรุงเทพ 200 ปี ในปีนี้การจัดสร้างของทางวัดสะแก ค่อนข้างเป็นพิธีใหญ่ และวัตถุมงคลชนิดต่างๆ มักมีจำนวนการสร้างไม่มากนัก โดยถือเคล็ดเอาปี พ.ศ.เป็นหลัก สำหรับเหรียญเสมา (รุ่นแรก) แม้แต่เนื้อทองแดงยังมีจำนวนการสร้างเพียง 2,525 เหรียญเท่านั้น

    ความที่เป็นเหรียญรุ่นแรกที่ออกแบบเป็นรูปหลวงปู่ดู่ท่านโดยตรง (ก่อนหน้านั้นมักสร้างเป็นรูปบูชาคุณครูบาอาจารย์องค์ต่างๆ) และด้วยจำนวนการสร้างที่น้อยนิด เหรียญทั้งหมดจึงถูกจับจองและหมดลงอย่างรวดเร็ว

    ดังนั้นวัดสะแกจึงได้สร้างเหรียญเสมา รุ่น 2 ขึ้นมา ซึ่งก็คือ รุ่นปี 2526 โดยด้านหน้ารูปเหมือนหลวงปู่จะมีลักษณะใกล้เคียงกับรุ่นแรกมาก ต่างกันที่หัวเหรียญที่ระบุปี พ.ศ. ส่วนด้านหลังจะมีความแตกต่างกันไปเลย

    เหรียญเสมารุ่นสองนี้ ตามหนังสือวัตถุมงคลหลวงปู่ จะระบุว่าสร้างเพียง 2 เนื้อ คือ เนื้อนวโลหะ กับ เนื้อทองแดง แต่จริงๆแล้วจะสร้างเป็น 3 เนื้อ คือ เพิ่มเนื้อเงินขึ้นมาอีกเนื้อหนึ่ง แต่เนื่องด้วยมีจำนวนการสร้างที่น้อยมาก คือ มีเพียง 2 เหรียญเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยและหายากที่สุดในบรรดาวัตถุมงคลทั้งหมดของหลวงปู่ ปัจจุบันเหรียญเนื้อเงินทั้งสองเหรียญอยู่ที่ โกโอ่ง กับ โกเอ็ง ศิษย์ยุคเก่าของหลวงปู่ ผู้สร้างวัตถุมงคลหลายๆรุ่นของวัดสะแก

    สำหรับเหรียญเนื้อทองแดง ความจริงแล้วยังแบ่งเป็น เหรียญเนื้อทองแดงธรรมดา กับ เหรียญเนื้อทองแดงรมดำ ซึ่งราคาเล่นหาของนักสะสมจะเล่นหาเนื้อทองแดงรมดำในราคาที่สูงกว่าเล็กน้อย

    สำหรับจำนวนการสร้างมีดังนี้

    - เนื้อเงิน 2 เหรียญ
    - เนื้อนวโลหะ 216 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง + ทองแดงรมดำ 10,000 เหรียญ

    อนึ่ง หลายๆท่านอาจงงว่า..แล้วทำไมเหรียญเสมาปี 24 หรือที่เรียกว่า "เหรียญปฏิบัติธรรม" ทำไมปีที่สร้างลึกกว่า และทำไมไม่ถูกจัดอยู่ในเหรียญเสมารุ่นแรก

    คำตอบก็คือ เหรียญรุ่นนี้สร้างโดยศิษย์ ท่าน นอ. สำเภา คมสันต์ หลังจากสร้างเสร็จแล้วก็ถวายให้หลวงปู่ และถูกเก็บตายไว้ที่กุฏิหลวงปู่จนถูกหลงลืม มาปรากฏก็ต่อเมื่อหลวงปู่ท่านละสังขารแล้ว ทางวัดจึงได้เริ่มนำออกจำหน่ายเพื่อหารายได้

    เหรียญเสมารุ่นสอง ปี 2526 มีจุดดีที่เป็นเหรียญที่มีโค๊ด โดยตำแหน่งโค๊ดจะอยู่ด้านหน้าเหรียญ บริเวณขอบด้านตัวหนังสือคำว่า " ดู่ " ซึ่งจะแยกโค๊ดระหว่างเหรียญเนื้อนวโลหะ กับ เนื้อทองแดง







    [​IMG]

    เสมา 26 เนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง 10,000 เหรียญ


    [​IMG]

    เสมา 26 เนื้อนวโลหะ จำนวนการสร้าง 216 เหรียญ

    [​IMG]

    [​IMG]

    เปรียบเทียบ 3 เสมา : หน้าตาหลวงปู่ - ด้านหลัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  16. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    เอ้า..กลับเข้ามาอีกที..ข้อมูลที่เขียนหายไปไหนล่ะนี่..ทำไมมันด้วนหายไปไหนหมด โธ่..เสียดายอุตส่าห์พยายมเขียนซะละเอียด เอ๊ะ..หรือคอมมันจะดูดไปหมดซะแล้ว..ทำไงดีล่ะ เขียนใหม่ก็ไม่อยากแล้ว..

    งั้นขอยกหน้าที่ให้ เซียนนิวส์ ดีฟ่า..รบกวนเขียนใหม่ทีเถอะ โดยเฉพาะไฮไลท์ที่ เหรียญเสมา 26 (เนื้อเงิน) ที่ถือกันว่าเป็นเหรียญที่หาได้ยากที่สุดในบรรดาพระของหลวงปู่ทั้งหมด เพราะมีจำนวนแค่ 2 เหรียญ อยู่ที่โกโอ่ง กับโกเอ็ง ที่หลวงปู่ฯทำให้เป็นการเฉพาะ

    ว่างเมื่อไร รบกวนเขียนเรื่องลึกๆ ที่น้อยคนจะรู้ ให้เพื่อนๆได้ชมกันหน่อยเถอะน่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  17. purn05

    purn05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +406
    บอร์ด palungjit มันช็อตๆครับพี่โจ:cool:
     
  18. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    โชว์ภาพ : พระบูชาหลวงปู่ชอบ หายากมาก

    จำได้ว่าตอนนั้นเกือบๆ 20 ปีที่แล้ว ไปวัดท่าน โดยมิได้นำรถไป แต่ไปรถทัวร์ ด้วยความรักความศรัทธามาก อุตส่าห์หอบหิ้วพระองค์นี้มา ด้วยความที่ยังหนุ่มก็ยังพอไหวอยู่ ขอบอก..ฐานปูนตัน หนักสุดๆ คนเดียวด้วย เอามาจนได้ นึกถึงอดีตตอนเอามา สนุกดี ทุลักทุเลมาก

    โดยเฉพาะตอนขึ้นรถ-ลงรถ ต่อรถ หลังแทบหัก ตอนเอาท่านขึ้นรถทัวร์ ไอ้จะวางที่เท้าก็วางไม่ได้ไม่เหมาะสม วางข้างบนก็ไม่ได้ที่ไม่พอ ตกลงก็นิมนต์หลวงปู่ฯยืนมาบนเบาะตลอดทางกับเรานั่นแหละ ที่นั่งที่เล็กอยู่แล้ว ก็เลยเหลือนิดเดียว ตัวรีบตลอดทางเพราะเกรงใจจะไปกระทบคนข้างๆเขาด้วย (ยังจำได้เลย สาวๆด้วย แต่สวยหรือเปล่า จำไม่ได้แระ..แบบว่าตอนนั้นไม่มองหญิง มองแต่พระน่ะ..แหะ.แหะ )

    แล้วก็ยังจำได้อีกน่ะ จากจังหวัดเลย รถทัวร์เขาก็ต้องแวะจอดกินข้าวกลางทางด้วยใช่มั๊ย (ไม่รู้สมัยนี้ยังเป็นแบบนี้หรือเปล่า) ไอ้เราหิวก็หิว แต่ความที่ขี้งก กลัวพระหาย (ตอนนั้นเงินเดือนตั้งหลายเดือนกว่าจะได้องค์หนึ่ง กัดฟันสุดๆเลยน่ะนั่นสมัยนั้น ) ก็เลยนั่งเฝ้าอยู่นั่นแหละไม่ไปไหน นงน้ำไม่ได้กิน ห้องน้ำก็ไม่ยอมเข้า จนถึงหมอชิตนั่นแหละ หอบหิ้วแบกพะรุ่งพะรังไหนจะเป้เสื้อผ้า ไหนจะพระบูชาเรา

    นึกถึงขณะนี้..ก็ภูมิใจอยู่เหมือนกันน่ะ เอามาได้อย่างไรหนอ..และก็ไม่เคยเห็นในวงการอีกเลย จำไม่ได้ว่าสร้างเท่าไร รู้แต่ว่าสร้างเป็นพิเศษมีตอกหมายเลของค์ น้อยมากๆ หลักสิบหรือไม่เกินร้อย (รู้สึกจะสร้างเท่าอายุหลวงปู่ ) นี่ล่ะ หายากสุดๆ

    เก็บมาเล่าให้ฟังจ้ะ..


    (ใหญ่แค่ไหน ลองเปรียบเทียบกับพระบูชาองค์อื่นๆดูครับ..อันนี้โชว์พระด้วย และก็จะโชว์ความแข็งแกร่งในอดีตตอนนู้นด้วย อิ..อิ.. แต่ตอนนี้ขอเป็นองค์ 11 นิ้วข้างๆ ก็พอจะไหวอยู่ละครับ )

    หมายเหตุ : หลวงปู่ฯคงเห็นความตั้งใจจริง ความเหน็ดเหนื่อยของเรา กลับถึงบ้านจุดธูปเทียนบูชา น้อมอาราธนาไว้ประจำบ้าน หลวงปู่ฯท่านก็เลยเมตตาให้ "พระธาตุ" เสด็จมาที่ฐานพระหลวงปู่ฯให้เราได้ยินดีเลย (ตอนนั้นยังจัดสวยงาม ไม่รกรุงรังเหมือนทุกวันนี้ดังในภาพ) รู้สึกจะเคยเล่าในหมวดเรื่องพระธาตุเสด็จแล้ว ไม่ขอเล่าซ้ำอีกน่ะครับ เดี๋ยวจะเป็นการ " เวอร์ " เกินไป

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  19. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    องค์ใหญ่มว๊ากกกก ครับพี่โจ o_O"
     
  20. chongkasem

    chongkasem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    646
    ค่าพลัง:
    +781
    โชคดีจัง ที่เข้ามาอ่านก่อนครับพี่โจ:cool:
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...