ใครเสีย ใครได้ จากกระแสภัยพิบัติ

อย่างที่บอกไว้แล้วว่าขอนำมาเป็นกรณีศึกษา
ดังตัวอย่างนี้ อธิบายอย่างไรเจ้าตัวก็คงไม่ยอมรับความเจ็บป่วยอยู่ดี เนื่องจากกระบวนการคิดมีปัญหา(disorganized thought)จึงคิดแบบไม่สมเหตุสมผล จับโยงข้อมูลปนเปสับสน ต่อให้ชี้แจงเหตุผลอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
หวังว่าคงจะมีคนพาไปรักษาไม่ช้าก็เร็ว ไว้ถ้าอาการดีขึ้นคงจะได้มาพูดคุยให้ตรงประเด็นกันเสียที - -"
(ขอโทษจขกท.ด้วยที่ออกนอกประเด็น คิดว่าตย.ที่ผ่านๆมาคงพอทำให้หลายท่านเห็นอะไรได้มากขึ้นแล้ว ผมขอพักเรื่องคุณ java ไว้ก่อน คุณ java เองจะได้ไม่รู้สึกว่าผมเป็นพวกชอบมาขัด ไม่เช่นนั้นจะยิ่งพากันออกนอกกระทู้ไปไกลแน่ๆ)

 

ชัดเจนครับ ว่าคุณ ไม่ได้อ่านที่เราโพสและอ่านของคนที่มาแชร์กับเรา แต่ คุณคิดอย่างไรขอให้ได้อย่างนั้น คิดดีก็ได้ดี คิดไม่ดีก็ได้ไม่ดี ขนาดมีคนออกมาเผยข้อมูล ก็ยังมีบางคนบอกว่าเป็นพวกทฤษฏีสมคบคิด ทั่งๆที่เราไม่ได้หวังลาภสักการะใดๆเลย ตรงกันข้ามมีคนที่มีปัญหามาให้เราช่วยดึงชิพ ออก และล้างพลังที่ไม่ดีในตัว เราก็ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนอะไร ก็ขอแผ่เมตตาให้พวกมือไม่พายเอาปากราน้ำ จงสูญพันธ์ไปจากโลกนี้เสียทีเถิด สาธุ

 

แปลกนะครับมีบางคนช่างสังเกตุ เวลาคนพิมม์ผิด แต่ ทำไม ไมมีคนสังเกตุเลยว่าเรามาพูด มาเตือนเรื่องอะไร และไม่ดูคนที่มาแชร์ ว่ามีมูลหรือไม่ เราเจอคนแบบนี้มาเยอะแล้วครับ เวลามาพูดเรื่องนี้ สรุปจะให้เราเลิกโพส เพื่อที่จะให้เกิดภัยพิบัติตามที่พวกเขาทำนาย จริงๆ ใช่หรือไม่ ถ้าเราหยุดโพส จะมีคนอีกมากมาย ที่ถูกฝังชิพพลังงานสีดำจากในเวปนี้ และ นอกเวป หลุดออกจากศาสนาพุทธ ตลอดการณ์ และอาจถึงขั้นเสียชีวิต เสียร่างกายให้มารครอบงำ คุณต้องการแบบนั้นหรือ เราบอกว่าเรารับผิดชอบสิ่งที่เราโพส คนที่มาโต้แย้งก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตนเองกระทำเช่นกัน ของจริงเทคนิคไม่ต้อง

 

สะดุดโพสต้องทำบุญเองถึงจะได้บุญ ถ้าครูบาอาจารย์สอนท่านจริงผมไม่กลัวปรามาสครับ
แต่ถ้าสอนแล้วคนถูกสอนเข้าใจผิดเองอันนี้ต้องพิจารณาตัวเองแล้วครับ

ผมไม่รู้ว่าผู้รู้ของท่านคือใคร แต่ถ้าสอนผิดจากคำสอนพระพุทธเจ้าผมไม่กลัวปรามาสใดๆทั้งสิ้น

 

ตอนนี้บอกตรงๆว่า ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง สำหรับเรื่องคำสอน แม้แต่ครูบาอาจารย์แต่ละท่าน ก็สอนไม่เหมือนกัน เพราะ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ ว่า แม้แต่พระไตรปิฏก ก็ยังบิดเบือน แต่รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกห้าม พิจารนาหลายๆข้อมูล แต่อย่าเพิ่ง เชื่อ ครับ ให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ตามหลักกาลามสูตร แล้วท่านจะไม่โดนหลอกครับ

 

อ้าวววว !!!
???

ไหงคุณ java พูดงี้ล่ะครับ ผมกำลัง อิน เครื่องชิพอยู่แล้วเชียว.... :'(

 

บิดเบือนยังไงละครับ ฉบับไหนที่บิดเบือน

 

<!--cached-Tue, 03 Jul 2012 12:17:12 +0000-->เนิ้อหาในพระไตรปิฎกเล่มแรก ไม่เหมือนในพระไตรปิฎกหลังๆตรงไหน

ทำไมพระไตรปิฎกเล่มแรก หรือพระไตรปิฎกในปฐมสังคายนา มีเนื้อหาที่พระไตรปิฎกในการสังคายนาครั้งที่ 2 และครั้งต่อๆมาไม่มี?

ก็เพราะในการทำสังคายนาครั้งแรก เกิดขึ้นภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแค่ 3 เดือน มีพระมหากัสสปเถระทำหน้าที่เป็นประธาน และเป็นผู้คอยซักถาม มีพระอุบาลีเป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อวินัย และมีพระอานนท์เป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อธรรม และคณะสงฆ์ยังไม่แตกแยกเป็น 2 นิกายอย่างชัดเจน

การทำสังคายนาครั้งแรกนี้มีพระอรหันต์มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 500 รูป ดำเนินอยู่เป็นเวลา 7 เดือน จึงเสร็จสิ้น แต่พอเสร็จสิ้นก็เกิดปัญหา เพราะปิฎกในส่วนของมหาสังฆิกะ(มหายาน) ภิกษุเถรวาทที่ไม่ได้ปฏิบัติจนได้อภิญญา 6 ล้วนไม่ยอมรับ เนื่องจากเป็นเรื่องก่อนอวิชชาและปฏิจจสมุปบาท เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้แก่เถรวาทน้อยมาก

เช่น

1. เรื่องพระอมิตาภพุทธเจ้า แดนสุขาวดี

2. เรื่องอาทิพุทธ หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐมที่ไม่ได้เป้นมนุษย์

3. เรื่องพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (กวนอิม)

4. เรื่องพระอิศวร

5. เรื่องพุทธเกษตร
ฯลฯ

100 ปีต่อมา มีการอ้างว่า คำสอนทางพระพุทธศาสนาอาจถูกบิดเบือนไปได้ จึงต้องมีการสังคายนาใหม่ คราวนี้บรรดามารก็เข้าสิงใจพระภิกษุทั่วไป ให้ออกกฎว่า ในการสังคายนา ไม่จำเป็นต้องเป็นพระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 เท่านั้น จึงจะเข้าร่วมได้ และก็ยังตัดการสังคายนาในส่วนคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ไปยังมหาสังฆิกะออกด้วย เอาเฉพาะคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สอนแก่เถรวาทเท่านั้น

แค่นี้ก็เสร็จโก๋แล้ว คำสอนส่วนที่มีมาก่อนอวิชชาและปฏิจจสมุปบาท โดนกวาดล้างจนเกลี้ยง (แล้วค่อยๆไปกำจัดเศษๆที่เหลืออยู่ในการสังคายนาครั้งต่อๆไปก็ได้)จนสืบร่องรอยได้ยาก เนื่องจากคำสอนส่วนใหญ่ของเถรวาท เป็นคำสอนที่มีมาก่อนอวิชชาและปฏิจจสมุปบาท บอกเพียงว่า จิตทั้งหมดเป็นจิตปภัสสรเท่านั้น

บรรดามารก็เข้าสิงใจพระภิกษุทั่วไป นึกว่าเก่งแล้ว กำจัดพระอรหันต์และมหาสังฆิกะ ไปแล้วก็หมดเสี้ยนหนาม หารู้ไม่ว่า มหาสังฆิกะทุกนิกายได้รวมกันขึ้นในพศ. 5 ในนามมหายาน และเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าที่มายังพวกตนต่อไป

แล้ววิทยาการของโลกก็เจริญขึ้นไปมาก การสืบค้นคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องที่เกิดก่อนอวิชชาและปฏิจจสมุปบาท ที่ถ่ายทอดไปทางมหายาน ทำใด้ง่ายขึ้น
<!--cached-Tue, 03 Jul 2012 12:17:12 +0000-->แก้วเมือง เขียน : ท่านเบคแคม(พลศักดิ์) ผมขอเอกสารอ้างอิงครับ ข้อกล่าวหายังไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร

ตอบ

หลักฐานอ้างอิงมีอยู่เต็มไปหมดครับ ก็พระสูตรของมหายานที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์บ้าง พระสารีบุตรบ้าง พระโมคคัลลานะบ้าง ตรัสกับพระอชิตะ ตรัสกับพระอวโลกิเตศวร และพระโพธิสัตว์อื่นๆ

ในโลกนี้ คุณคิดว่ามีมนุษย์ท่านใดกล้าเขียนเอง แล้วไปบอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้น คุณว่ามีหรือ? ...บาปน้องๆอนันตริยกรรมเลยนะ

พวกที่บิดเบือนพระไตรปิฎก คือ สมมุติสงฆ์ปริยัติของเถรวาท(มารสิง)เท่านั้น แต่มารท่สิงเขา ก็ยังไม่กล้าเขียนข้อความเอง แ้ล้วอ้างชื่อพระพุทธเจ้าเลย

มารเขาบิดเบือนพระไตรปิฎโดยวิธีอื่น เช่น เรื่องพระโมคคัลลานะหลงจักรวาล มารเขาสิงฝ่ายปริยัติให้เขี่ยเรื่องนี้ออกไปเมื่อนานแสนนานแล้ว แต่หลวงปู่ตื้อ อาจารธมฺโม ท่านเป็นอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 ท่านจึงรู้ และนำมาเล่าให้ฟังใหม่

ที่มารต้องสิงฝ่ายปริยัติให้เขี่ยเรื่องพระโมคคัลลานะหลงจักรวาลออกไป เพราะเรื่องนี้้พระโมคคัลลานะ ดันไปพบพระพุทธเจ้าอีกองค์คือ พระอมิตาภพุทธเจ้า(หน้าตาเหมือนพระพุทธเจาของเรา) พระอมิตาภพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้า(พระเจ้า)ที่โคตมพุทธเจ้าของเราอวตารออกจากท่านมาจากท่านยังไงล่ะครับ

เรื่องนี้มารเขายอมให้เผยแพร่ไม่ได้

 

ไหงไปๆมาๆ กลายเป็นเรื่องพระไตรปิฎกไปได้

กลายเป็นเรื่องมหายานถูก เถรวาทผิดไปเสียอีก

พระเถระก็ถูกมารสิงไปโน่น

เรื่องที่ท่านพูดมา

1. เรื่องพระอมิตาภพุทธเจ้า แดนสุขาวดี จะมีหรือไม่

2. เรื่องอาทิพุทธ หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐมที่ไม่ได้เป้นมนุษย์ จะมีหรือไม่

3. เรื่องพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (กวนอิม) จะมีหรือไม่

4. เรื่องพระอิศวร จะมีหรือไม่

5. เรื่องพุทธเกษตร จะมีหรือไม่

แล้วยังมี พระโมคัลลาน์หลงจักรวาล

ประเด็นปลีกย่อย ที่ท่านว่ามา มันไม่เห็นจะทำให้มารที่ท่านว่า ได้ประโยชน์อันใด

ไม่เห็นจะทำให้มหายานที่ท่านว่า เหนือกว่าเถรวาท ที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอง ท่านไม่ได้ปฏิเสธ สวรรค์นรก อินทร์พรหม

มีปรากฎอยู่มากมายในพระไตรปิฎก

เราเองก็เชื่อเช่นนั้น

แต่ที่หัวใจของพระศาสนาคือ เรื่อง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ศาสนาเองที่อยู่ใน ตัวเรานี่แหล่ะ มิใช่เรื่องข้างนอก

ที่พระองค์พร่ำสอน ก็คือเรื่องของตัวเรานี่แหล่ะ

สอนให้เรารู้จักตัวเรา และละวางตัวเรา

ขอยกปัจฉิมโอวาทของพระองค์

“ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อม ความสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงบำเพ็ญไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

 

"ต่างกรรม ต่างวาระ"

คำนี้กระผมว่ามัน.... คุ้นๆ นะครับ! -_-'

 

เอาแค่คำว่า ยึดมั่นในคำสอน แค่นี้ก็เถียงกันไม่จบแล้วครับ ในเมื่อ ท่านสอนว่า ไม่ให้มนุษย์ยึดมั่นถือมั่น แต่ทำไมจึงให้ ยึดมั่นในคำสอน เห็นได้ช้ดว่า บิดเบือนอย่างช้ดเจน ตอนนี้ก็เลยไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ แล้วครับ

 

พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวางเรื่องสังขาร,ขันธ์ 5 (ซึ่งเป็นของไม่เที่ยง เป็นอนัตตา) เกี่ยวอะไรกับเรื่องไม่ให้ยึดคำสอนของพระองค์
ในเมื่อคำสอนของพระองค์เป็นสิ่งที่ดี นำไปสู่การพ้นทุกข์ ถ้าไม่ยึดก็ไปทางชั่ว ไปทางทุกข์สิ
เวลาอ่านก็อ่านให้หมด จะได้เข้าใจว่าพระพุทธเจ้ากำลังตรัสเกี่ยวกับเรื่องอะไร วัตถุประสงค์เป็นอย่างไร

ดีแล้วครับที่อ่านแล้วไม่เข้าใจก็มาถาม ศาสนาพุทธไม่ได้มีแค่พระไตรปิฎก เพราะคนเราเวลาอ่านก็มักตีความไปตามความเข้าใจเอง อาจตีความผิดได้ ดูอย่างการเมืองตอนนี้ กฎหมายมาตราเดียวกันตีความกันไปหลายแบบ ตรงข้ามกันสุดขั้วก็มี

ทางที่ดีควรต้องมีศรัทธามั่นคง เชื่อมั่นว่าคำสอนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นความจริงอันประเสริฐ เมื่อเกิดข้อสงสัย หรือคิดว่าคำสอนขัดแย้งก็อาจถามผู้รู้ อาศัยครูบาอาจารย์ที่ท่านเข้าถึงธรรมอย่างแท้จริงก็จะช่วยได้ ถ้าหาครูบาอาจารย์ไม่ได้ก็คงต้องอาศัยปัญญาของตนพิจารณาเอา ถ้าคิดดีก็ย่อมเป็นกุศลแก่ตน ถ้าคิดไม่ดีก็เป็นอกุศลแก่ตน แต่อย่าเพิ่งโทษศาสนาเพราะความไม่รู้ของตนเลย

ปล. ครูบาอาจารย์หลายท่านไม่เคยตำหนิหรือบอกว่าพระไตรปิฎกผิดหรือคลาดเคลื่อน ซึ่งผมก็เชื่อตามนั้น แม้จะยังอ่านไม่จบก็ตาม แต่เฉพาะของนิกายเถรวาทนะ เพราะผมไม่นับถือมหายาน(แค่การปฏิบัติก็รู้แล้วว่าผิดพระวินัยไม่เป็นไปตามคำสอน เลยไม่คิดเสียเวลาไปอ่านของมหายานหรอก)

 

ธรรมดานิสัยของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา
มักจะตีความสิ่งต่าง ๆ เพื่อเข้าข้างตัวเอง เพื่อตัวเองได้ประโยชน์

แต่ถ้าต่ำกว่ามนุษย์นอกจากจะตีความเข้าข้างตัวเองแล้ว
ยังตีความให้โทษตัวเองอีกต่างหาก
หากมีหิริ โอตัปปะไว้บ้าง สังคมสงบสุขขึ้นเยอะครับ

 

ก็เพราะแบบนี้แระครับ มารจึงเข้ามาแทรก แล้วทำให้มนุษย์เข้าใจผิด แม้แต่เรื่องจักรกะ ก็ไม่มีในพระไตรปิฏก ซึ่งในวันที่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ได้เปิดจักรกะในกายเจ็ดจุด นอกกายห้าจุด แล้วจึงตรัสรู้ แม้แต่สาส์นจากพระศรีอารียเมตไตร ก็ยังพูดถึงเรื่องจักรกะ เพราะเป็นวิชาแห่งจักรวาล แต่ก็ถูกฝ่ายมารบิดเบือนข้อมูล หาว่าวิชาจักรกะเป็นโลกียะ ไม่ใช่โลกุตตระ ไม่มีทางหลุดพ้น แต่ในความเป็นจริงคนที่ปฏิบัติสมาธิจิต จนได้อุปจารสมาธิขึ้นไป จักรกะที่อยู่ในร่างกายก็จะเปิดเองทุกคน

 

แค่เจอคำว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันอวตารมาจากพระพุทธเจ้าอีกพระองค์ก็เลิกคุยละครับ
ที่ถามไปนั้นเพื่อจะได้แน่ใจว่าท่านเป็นอย่างไร

 

กัปป์ที่เจริญที่สุด คือมีพระพุทธเจ้าเยอะที่สุดครับ มี 5 พระองค์
1. กกุสันโธ
2. โกนาคมพุทธเจ้า
3. กัสสปะพุทธเจ้า
4. องค์สมณะโคดมพุทธเจ้า ศาสดาองค์ปัจจุบัน(นิพพานแล้ว)
5. และพระศรีอริยเมตตรัย ยังไม่อุบัติ

เพิ่มเติม
ในแต่ละกัลป์ (กัป) จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ดังนี้

ในแต่ละกัลป์ (กัป) จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ดังนี้
๑ สารมัณฑกัลป์์ มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในกัลป์นี้ ๔ พระองค์คือ
- พระพุทธตัณหังกร
- พระพุทธเมธังกร
- พระพุทธสรณังกร
- พระพุทธทีปังกร

๒ สารกัลป์ มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดในโลก ๑ พระองค์คือ
- พระพุทธโกณทัญญะ

๓ สารมัณฑกัลป์์ (บังเกิดขึ้นใหม่) มีพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์คือ
- พระพุทธมังคละ
- พระพุทธสุมนะ
- พระพุทธเรวัตะ
- พระพุทธโสภิตะ

๔ วรกัลป์ มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์คือ
- พระพุทธอโนมทัสสี
- พระพุทธปทุม
- พระพุทธนารทะ

๕ สารกัลป์์ มีพระพุทธเจ้า ๑ พระองค์คือ
- พระพุทธปทุมุตระ

๖ มัณฑกัลป์์ มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์คือ
- พระพุทธสุเมธะ
- พระพุทธสุชาตะ

๗ วรกัลป์ มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์คือ
- พระพุทธปิยะทัสสี
- พระพุทธอรรถทัสสี
- พระพุทธธรรมทัสสี

๘ สารกัลป์ มีพระพุทธเจ้า ๑ พระองค์คือ
- พระพุทธสิตธัตถะ

๙ มัณฑกัลป์ มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์คือ
- พระพุทธติสสะ
- พระพุทธปุสสะ

๑๐ สารกัลป์์ มีพระพุทธเจ้า ๑ พระองค์คือ
- พระพุทธวิปัสสี

๑๑ มัณฑกัลป์ มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์คือ
- พระพุทธสิขี
- พระพุทธเวสสภู

๑๒ ภัทรกัลป์ (คือกัลป์ปัจจุบัน) มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แล้ว ๔ พระองค์คือ
- พระพุทธกกุสนธะ
- พระพุทธโกนาคมน์
- พระพุทธกัสสปะ
- พระพุทธโคดม (สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)
และจะมีพระพุทธเมตไตรย มาตรัสรู้ในอนาคต เห็นมั้ยครับว่า ไม่มีพระอมิตะภะ พระพุทธเจ้า อยู่ในรายชื่อนี้ พระไวยโรจนะพระพุทธเจ้า และ พระติขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า หรืออาธิพุทธ หรือสมเด็จองค์ปฐม ก็ไม่มีอยู่ในรายชื่อนี้ ก็เพราะว่ายังมี กัปปืที่นอกเหนือจากนี้อีกมามาย และพระพุทธเจ้า ก็มีมากมาย กว่าเม็ดทราย บนชายหาดเสียอีก

 

ไม่รู้ใครได้ ใครเสีย แต่พบว่ามีคนแสดงว่าตนเหมือนมีปัญญา แต่แทิ้จริง ถูกบิดเบือนแถมพยายามเอาสีข้างเข้าถูเสียอีก
ผมเหรอ น่าจะมีแต่ได้นะ รู้จักไม่ถือมงคลตื่นข่าว
และหัดระวังใจ ไม่หลงไปในนิมิต ความคิดผิด
เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ บางคนที่นี่มั่ว โดยที่ไม่ได้อะไรเลย

 

หลักฐานมัดแน่นขนาดนี้ ก็อยู่ที่จิตแล้วละ ว่า มืด หรือสว่าง บอกแล้วว่าให้ใช้หลักกาลามสูตร แล้วมนุษย์จะไม่โดนมารหลอก

 

แล้วตกลงใครได้ ใครเสียจากกระเเสภัยพิบัติ ????:'(