เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

พระพิมพ์ห้าเหลี่ยมน่าจะมาจากพระปางอัครสาวกที่คลอบคลุมทั้งมหาอุตม์และมหานิยมครับ

 

เพราะต้องการให้เรียกให้ถูกต้องว่าพระห้าเหลี่ยมนี้หมายถึงพระพุทธเจ้าและอัครสาวกไม่ใช่ขุนแผน และกุมารทอง

 

และพระพิมพ์ที่บ่งบอกถึงบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไยเราถึงเรียกพระขุนแผนน้อ

 

ตอบแบบติ้งแวบอีกครั้งนะครับ น่าจะหมายถึงพระพุทธชินราชรึป่าวครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม. สวัสดีอาจารย์สว่างและสมาชิกทุกท่านนะครับ
กระทู้คึกคักมาก
รามอินทราฟ้ามืดมากครับงานนี้ตกหนักแน่

 

มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุธโธ พุธโธ
สังขารไม่เที่ยง เกิดแล้วดับไปเป็นของธรรมดา
การได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นการยาก หลวงพ่อจึงอยากให้เราทำดีก่อนตาย รึป่าวครับ น้าต๋อย

 

พระพุทธห้าเหลี่ยม เป็นพิมพ์ที่หลวงปู่อัญเชิญบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอน และพระสงฆ์เหล่าสาวกของพระพุทธเจ้า รวมเป็นพระรัตนตรัยลงมาประสิทธิในองค์พระพุทธห้าเหลี่ยมอย่างสมบูรณ์ เวลาอาราธนาให้จิตเราน้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอน พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จิตของเราจะเข้าถึงได้ง่ายได้ชัด จิตก็จะเกิดความศรัทธามั่งคงเชื่อมั่นได้ง่าย จิตก็จะเชื่อมโยงกับพลังงานในองค์พระได้ง่าย และสามารถนำสิ่งที่หลวงปู่เมตตาประสิทธิไว้มาใช้อย่างได้ผล

 

""""""""""""""""""
ผมว่าน่าจะประมาณ รัฐมนตรี น่ะครับ ท่านประธานโต้ง

 

น่าจะเป็นเกี่ยวกับความเข้าใจของคนทั่วไปในพระของหลวงปู่ทิมรึปล่าวคะ
คนทั่วไปมักเข้าใจว่าพระของหลวงปู่ทิมต้องมีพราย ไว้คอยช่วยเหลือผู้ที่บูชา หรือมีผงพรายกุมารเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้ได้ผลเร็วอย่างงั้นสมหวังไวอย่างนี้ ซึ่งได้กลายมาเป็นจุดขายของเหล่าเซียนพระต่าง ๆ เพื่อปั่นราคาในตลาดให้สูง
ส่วนพระเนื้อขาวนั้น หลังจากที่ถูกเซียนพระมองข้ามไป ว่าเก๊ ไม่แท้ แต่กลุ่มคนศรัทธากลุ่มเล็กอย่างเรามองในเรื่องของพุทธคุณเป็นหลัก ส่วนผสมต่าง ๆ ที่หลวงปู่นำมาใส่ปลุกเสกล้วนแต่เป็นมงคล เป็นพุทธคุณทั้งสิ้น เลยเรียกว่า พระพุทธห้าเหลี่ยม หรือ พระเนื้อขาว ไม่เรียกเหมือนเซียนพระว่า ขุนแผนพรายกุมาร หากเรามีศรัทธาต่อพระเนื้อขาว ปาฎิหาริย์ต่าง ๆ หรือสิ่งอันเป็นมงคลต่าง ๆ ย่อมเกิดขึ้นได้ค่ะ

อันนี้ตามความเข้าใจขั้นต้นในการดูจากรูปนะคะ
หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่างและพี่ๆน้องๆทุกท่าน ผมขอมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันนะครับ
เมื่อวันจันทร์ที่แล้วผมได้นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ไปเลี่ยมใช้ที่ร้านประจำ พอไปถึงร้านก็ฝากเขาไว้แล้วไปเดินซื้อของเพื่อ killing time(ฆ่าเวลา) พอซื้อของเสร็จก็เดินกลับไปรับวัตถุมงคลที่ร้านเลี่ยม พอไปถึงเจ้าของร้านก็บอกว่าหาไม่เจอ ไม่รู้หลงวางไว้ไหน คราวนี้งานเข้าเลยครับ เลยช่วยกันกับเจ้าของร้านหากันยกใหญ่ เวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงหายังไงก็หาไม่เจอ เลยตัดใจกลับบ้านแต่ก็กำชับให้เจ้าของร้านช่วยหาอีกที พอกลับถึงบ้านจิตใจก็ไม่สงบเลยจุดธูปบอกหลวงปู่ ขอใ้ห้หลวงปู่ช่วยหาเจอที แล้วคืนนั้นก็ฝันว่ามีผู้หญิงถือวัตถุมงคลมายื่นคืนให้ วันต่อมาเลยเลยกลับไปถามที่ร้านอีก พอไปถึงร้านยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเจ้าของร้านก็พูดออกมาเลยว่า "เจอแล้วๆ" พอน้องกลับไปซักพักก็เจอวางอยู่ข้างๆตัวพี่เลย ตอนที่ได้ยินเจ้าของร้านพูดรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวน้ำตาก็ปริ่มๆจะไหลนึกในใจว่าหลวงปู่ยังเมตตาศิษย์คนนี้อยู่เสมอ เลยสอบถามช่วงเวลาที่เจ้าของร้านเจอก็เป็นช่วงเวลาทีจุดธูปบอกหลวงปู่พอดี
ผมอยากบอกว่าพระหรือวัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกชิ้นมีเทพไท้เทวารักษาอยู่ มีคนที่เคยได้รับลูกอมเนื้อขาวแบบมีห่วงจากผมไปเขาบอกว่าพวกที่เล่นคุณไสย์มืด ไม่สามารถจับได้เลยจับแล้วต้องวิงเวียนหรือมึนหัวตลอดหนักๆถึงขั้นต้องอาเจียนออกมาเลยทีเดียว
คราวนี้มาถึงหลักการบูชาพระหรือวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่ผมใช้อยู่เสมอ เอาเป็นว่ามาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังกันซึ่งก็อาจจะตรงกันกับพี่ๆหลายๆท่านนะครับ หลักสำคัญคือการใช้จิตสร้างมโนภาพหรือจินตนาการเช่นสร้างภาพว่าเป็นเมตตามหานิยมให้เห็นภาพว่าไปไหนคนก็ให้ความเมตตายิ้มแย้มแจ่มใสให้เป็นอย่างดีแล้วก็อธิฐานขอหลวงปู่ และหลักที่สำคัญที่อาจารย์แก้วสว่างย้ำบอกเสมอเรื่องการใช้ของให้ขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ "เราต้องเป็นคนดี มีสัจจะ" ถ้าทำได้แล้วคราวนี้เราจะใช้วัตถุมงคลหลวงปู่ชิ้นไหนก็จะสัมฤทธิ์ผลและนำพาเราไปสู่ความสำเร็จตามบุญกรรมที่เราทำมา(ของของหลวงปู่มีเทพไท้เทวารักษาทุกชิ้น)
ปล.หากเน้นอิทธิฤทธิ์ให้ใช้เครื่องราง หากเน้นความร่มเย็นให้บูชาพระเครื่องครับ

 

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ารูปพระอัครสาวกซ้ายขวา ในพระผงพรายกุมาร. คือพรายครับ

ก็เลยเรียกตามๆกันมา แต่แท้จริงเป็นรูปพระพทธเจ้า และพระอัครสาวกนี่เอง ขอบคุณน้าต๋อยที่ให้ความรู้ครับ

 

ในความคิดผม
พระพุทธห้าเหลี่ยม
น่าจะมาจาก พระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ (เหลี่ยมทั้งห้า)
จึงไปเหมือนเข้ากับ พระขุนแผน เข้า

 

ผมขอตอบครับนัาต๋อย
น้าต๋อยต้องการสื่อให้รู้ว่าพระพุทธ 5 เหลี่ยมก็คือ พระประธานและพระอัครสาวก ทั้ง 2 รูป ไม่ใช่พราย ไม่ใช่ผี อย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นคุณพระรัตนไตรล้วนๆๆ ของพระพุทธเจ้าท่าน แม่นบ่น้าต๋อย รางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับรังสิต -- บางซื่อไม่เอานะครับ555
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --><!-- google_ad_section_end -->

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะเขียนอย่างนั้นเหมือนกันครับ แต่เกรงว่าจะต้องส่งไปตีความอีก
กลัวทำความหนักใจให้กับศาลท่านครับอาจารย์...555

 

"""""""""""""""""""
ขุนแผนพรายกุมาร คือ คำที่คนทั่ว ๆ ไปเรียก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการพระ เพราะอะไรถึงเรียกเช่นนั้น...ในมุมของผม ผมมองว่า มีเรื่องราวของผงพรายกุมารควบคู่มากับพระพิมพ์นี้ของหลวงปู่ และพุทธคุณที่เล่ากันมามากมายว่ามหาเสน่ห์ มหานิยม เป็นยอด และอื่น ๆ ครอบจักรวาล...หลาย ๆ คนยังเน้นอีกด้วยว่า สุดยอดของหลวงปู่ทิมต้องขุนแผนพรายกุมาร และที่เห็นเป็นรูปเล็ก ๆ นั่งพนมมือด้านข้างองค์พระพุทธนั้น บ้างก็บอกว่าคือพรายในองค์พระ บ้างก็ว่าเป็นเทวดาคอยอารักขา ปกปักษ์รักษาองค์พระมิให้เสื่อมหายพุทธคุณ....ก็เล่ากันไป...จนติดอยู่ในความทรงจำของคนทั่ว ๆ ไป..เชื่อว่าผู้นิยมพระเครื่อง ของขลัง ต้องอยากได้ อยากมีของหลวงปู่ทิมแน่นอน ผมก็เคยไล่หาเพราะอยากครอบครอง.... ถ้ามามองที่กลุ่มสมาชิกในกระทู้นี้...เท่าที่ผมได้อ่านมา ในกระทู้ไม้ได้เน้นว่า พระชุดผงขาวนี้มีผงพรายกุมารเป็นมวลสาร แต่จากประสบการณ์หลาย ๆ ท่านที่มีตาใน หรือให้ผู้มีตาในพิจารณา ก็บอกว่ามีเทพประจำองค์พระ... ในกระทู้นี้เรียกพระพิมพ์ห้าเหลี่ยมก็เรียกตามรูปลักษณ์ที่เห็น แต่ไม่ได้บอกว่ามีผงพรายกุมารเป็นมวลสาร ไม่ได้บอกว่ามหาเสน่ห์.....เพราะไม่ได้เป็นการค้า หรือต้องการเชิญใคร ๆ ให้มาร่วมศรัทธาในพระชุดนี้.... หลาย ๆ ท่านก็มองว่านั่นคือพระพุทธและอัครสาวกซ้าย-ขวา พระนี้หลวงปู่และตาสาย สร้างไว้ให้ลูกหลาน ชนรุ่นหลังผู้มีจิตศรัทธา ได้กราบไหว้บูชาสืบต่อกันไป...ถ้าพระชุดนี้มิได้ตกทอดมายังลูกหลานของตาสาย แก้วสว่าง หรือมิได้มาอยู่กับ อ.แก้วสว่าง แต่หากว่าไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งแล้วละก็ ...ไม่แน่ว่าพวกเราจะได้มีโอกาสได้มีไว้บูชากันไหม..อาจสูงสุดสอยไปแล้วก็ได้...ด้วยวิธีการใด ๆ ก็แล้วแต่...ส่วนตัวผมห้อยพระและลูกอมเนื้อขาวคู่กายตลอดครับ..และไม่ได้น้อยใจหรือกระทบใครครับ เพราะไม่ได้ห้อยโชว์ใคร เก็บในเสื้อตลอด....เป็นข้อเขียนและมุมมองของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านใด..ต้องขมาด้วยหากกระทบและทำให้มีท่านใดไม่ชอบใจ ผมเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่เคารพ ศรัทธาหลวงปู่ทิม คุณตาสาย ลูกหลานของท่าน อ.แก้วสว่างและทีมของท่าน และสมาชิกอื่น ๆ ที่มิได้กล่าวที่มีจิตอันเป็นกุศล ทำบุญถวายหลวงปู่อยู่เสมอ ๆ เอื้อเฟื้อ หยิบยื่นสิ่งดี ๆ ให้กับบุคคลอื่น...เสมอมา

 

คุณรักรังสิต
ผมได้โอนเงินขอร่วมบุญสร้างผอบใส่อัฐิหลวงปู่ด้วยครับ 500บาท
อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

วันนี้ บ่ายนี้ เจอคนมาถามว่า ถามจริงๆ เหอะ แกมีอะไรดีวะ คนเก่าก็ไม่ว่า คนใหม่ก็เฉย ฉันอย่ากรู้จริงๆ ผมก็บอกแค่ว่า ไอ่ที่เค้าไม่ว่าอาจจะเพราะไม่มีดีมั้งพี่ แกเลยบอกว่า เอ่อ จบ ฉันแค่อยากรู้ คนทั้งโรงงานเค้าสงสัย

 

***ความเข้าใจของคนทั่วไปถ้าเป็พิมพ์ทรงซุ้มห้าเหลี่ยม ก็คงต้องเป็นพระขุนแผน ตามความนิยมหรือได้เห็นด้วยตาโดยทั่วไป
เช่นพระกรุสุพรรณบุรี***


***แต่จริงๆแล้วพระพุทธห้าเหลี่ยมของหลวงปู่เป็นรูปพระพุทธปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว (พระขุนแผนส่วนใหญ่จะเป็นปางมารวิชัยเกือบทั้งหมด )และถ้าดูดีๆจะเห็นเป็นคนนั่งพนมมืออยู่
ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นพระโมคคัลลา และ พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องซ้าย และขวา

****เป็นที่มาของพระพุทธ ไม่ใช่ขุนแผน****




************

 

ต่างคนต่างมีเหตุผล ถ้าตอบถูกหลายคนผมจะทำยังไงดีเนี่ย
เอาเป็นว่า ถ้าถูก 3 คน ก็แบ่งเป็น 3 เสี่ยงละกันครับ....55

 

สวัสดียามค่ำคืนครับ สมาชิกที่รักทุกท่าน
ปฐมเหตุที่ผมนำภาพของพระพุทธเจ้า และอัครสาวกซ้าย และขวา มาให้ทุกท่านได้ชมนั้น
เพื่อเป็นข้อสังเกตให้เห็นระหว่างพระขุนแผนพรายกุมาร และพระพุทธ พร้อมพระอัครสาวก
จริงๆ ไม่ต้องการล้มล้างความเชื่อใดที่มีมาก่อน แต่มาจากข้อสังเกต ประกอบด้วยข้อมูลที่ได้
ไปตามเก็บมาจากบุคคลที่มีโอกาสได้อยู่ในเหตุการณ์จริง ซึ่งเปรียบเทียบข้อมูลของทุกท่าน
เข้าด้วยกัน ดั่งที่เคยบอกว่า "เหมือนแบบไม่น่าเชื่อ" รับรองไม่มีหน้ายักษ์หน้ามาร 55

เดิมทีหลวงปู่ได้มีดำริให้ลุงสาย สร้างพิมพ์พระพุทธขึ้นมาสักพิมพ์หนึ่ง ถือว่าสิ่งที่หลวงปู่ให้
ความเคารพเป็นที่สูงสุด จากนั้นได้แปลงมาเป็นพระขุนแผนพรายกุมาร และยอดขุนพลบ้านค่าย
ได้อย่างไร ท่านจำไม่ได้

ลุงท่านนึง ที่ผมได้ไปพบท่านเรียกว่า พระห้าเหลี่ยม เมื่อพวกผมทำหน้างงๆ ท่านจึงบอกว่า
พิมพ์ขุนแผนไง เราถึงได้พากันไปบางอ้อได้ แต่ถึงยังไงลุงก็ยังเรียกว่าพิมพ์พระพุทธอยู่ดี มี
เรื่องราวอีกมากมาย ที่ผมได้รับฟังจากลุงมา โดยที่ตัวผมเองก็มีข้อมูลอยู่กับตัวอยู่แล้ว จะไม่
กล่าวว่าเป็นพรหมลิขิตก็ไม่เกินจริง เพราะลุงเล่าเรื่องสมัยนั้น พร้อมบุคคลอ้างอิง ที่มีอยู่จริง
ถึงแม้ว่าบางท่านจะย้ายถิ่นฐานไป อีกทั้งที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ ไม่
ได้กล่าวมาอย่างเลื่อนลอยแต่ประการใด วันหลังจะมาเล่าเรื่องสนุกๆ ที่เกี่ยวกับลุงและพวก
กระผม ที่ได้ไปพบกันโดยบังเอิญ

ท่านที่สาม คุณป้า ที่ท่านอยู่ในเหตุการณ์ แต่ท่านคงไม่อยากพูดถึงเรื่องราวในครั้งหลังมาก
ถึงยังไง ผมก็ยังได้ยินท่านเรียก พิมพ์พระพุทธ อยู่นะครับ....

มีท่านที่ตอบถูกอยู่ 3 ท่าน คือ 1. คุณบางแสน 2. คุณขุนชัย 3. คุณ Watchdog