คุณมีจิตสัมผัส-ความผูกพัน-สื่อพลังพุทธะ พลังเทพหรือไม่

ถ้าพี่เม้ารู้ช่วยบอกด้วยนะครับ

<CENTER></CENTER>

 

รูปขนาดเล็ก


สองสิ่งนี้คือไม้พญางิ้วดำ
นำมาทำเป็นกริช กับพระขรรค์
คนทำอายุ 70 กว่าๆ ตอนนี้คงไม่มีแล้วเพราะมีคนมาซื้อไปหมด
ลุงคนนี้มีวิชาพอตัว ไม่งั้นคงแกะไม้พญางิ้วดำ เป็นกริชและพระขรรค์
ด้ามท้าวเวสสุวรรณ ไม่ได้หรอก เพราะแรงครูมากจริงๆ

 

คุณหมาเล่นลูกดิ่ง น่ารักมากๆครับน้องรัก+ยม เข้าใจหามาให้ขำ
กร๊ากกกกกกกกกกกกกก กลิ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

การนั่งสมาธิ นั้นร่างกายจะค่อยๆปรับสมดุล
ก่อนนั่งควรหายใจลึกๆยาวๆช้าๆสบายๆ เข้าออก สัก 5-10 ครั้ง
หลังจากนั้นจึงค่อยทำตามขั้นตอนของสมาธิที่ฝึกมา

เวลาออกจากสมาธิ ก็ให้หายใจลึกๆยาวๆช้าๆสบายๆ 5-10 ครั้งเช่นกัน

การทำสมาธินั้น อย่าไปฝืน ปล่อยร่างกายให้สบาย
อย่าให้มีการเกร็งส่วนใดส่วนหนึ่ง บางคนมักจะเผลอเกร็ง

การฝึกหายใจเข้าออก ด้วยคำภาวนาพุทโธ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
ที่สามารถทำได้ทุกอิริยาบท ทุกสถานที่
ทำไปให้เกิดเป็นนิสัย ให้เคยชิน
มหาสติจะเกิด สมาธิ ญาณปัญญา จะตามมา

ทุกครั้งที่มีอาการร้อนกระวนกระวาย ควรใช้ลมหายใจเข้า-ออก ยาวๆช้าๆ
เพื่อปรับสภาวะอุณหภูมิในร่างกายให้สู่สมดุล
อีกอย่างต้องสังเกตุว่า เราทานน้ำน้อยไปหรือเปล่า
น้ำ มีพลังช่วยดับร้อนในร่างกายได้ทางหนึ่ง

ถ้าเกิดจากธาตุแปรปรวน ควรทานยาเขียวเม็ด หรือยาขมเม็ด
สัก 2-3 เม็ด จะดีขึ้นมาก คนจีน เรียกว่าร้อนใน
ต้องยาขม ยาเขียว เอาไปช่วย ไม่มีพิษภัยแต่อย่างใด

คุณthamruksaudon ลองดูนะครับ น่าจะช่วยแก้ไขได้<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2></TD></TR><TR title="โพส 596490" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมมีเรื่องเพิ่มเติมนิดนึงครับ เกี่ยวกับท่านที่มีคนทักว่ามีองค์ก็ดี
หรือคิดว่าตัวเองมีองค์ก็ดี

ของแบบนี้ใครเขาจะทัก เรารับฟังไว้ 50%
หรือคิดว่าตัวเราเองมี..เพราะเห็นเขามีแล้ว อยากมีมั่ง
อันนี้ต้องระวังให้หนัก...หากเราคิดย้ำในเรื่องเหล่านี้
จิตใต้สำนึกจะเริ่มเก็บข้อมูล คล้ายๆเรากำลังสะกดจิตตัวเราเอง

สรุปก็คือ ใครเขาจะว่าอย่างไร ก็ปล่อยเขาว่า
แต่ถ้าเรามีศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์เทพ เทวดา
เราก็หมั่นปฏิบัติ ให้เกิดสมาธิ ระดับขณิกสมาธิ
เบื้องต้นให้ได้ก่อน เปรียบไปก็เสมือนการจูนเครื่องวิทยุรับ-ส่ง
ถ้าเราปรับจูนเครื่องรับ ให้เข้ากับคลื่นพลังที่ส่งมาได้
เราก็สามารถจะรับรู้สื่อข้อความนั้นได้

คือสามารถเป็นตัวกลางเชื่อมสัมผัสญาณจากองค์เทพได้
ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยศึกษามา

สำหรับสายการปฏิบัติจิตนั้น มีมากมายหลายสาย
เราต้องพิจารณาเอาเองว่า จะถูกกับจริตทางสายใด
แล้วมุ่งมั่นให้ถึงที่สุด อย่าลังเลสงสัย
เมื่อปฏิบัติได้แล้ว ความกระจ่างจะเกิดขึ้นเองภายในใจของเรา

อันตรายที่สุดสำหรับนักปฏิบัติ คือ ตัวหลง ครับ

 

(f)

 

..............

 

รูปขนาดเล็ก

 

ถ้าฝึกพุทธ-โธไปเรื่อยๆจะถึงขณิกสมาธิไหมครับ

 

ถึงแน่ๆครับ ถ้ามีความพยายามตลอดต่อเนื่อง(smile)

 

ขอบคุณครับคุณเมาท์ เดิมที่ผมไม่เคยรู้จักเทพมากนักหรอกครับ รู้แต่ไหว้เจ้าเพราะผมเป็นลูกคนจีน จึงรู้จักแต่เทพจีน แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะครับ คือว่าไหว้ตามผู้ใหญ่เขาพาทำนะครับ แต่มีอยู่วันผมเริ่มไม่ค่อยสบายก็ไปรักษาตามสถานพยาบาล ทั้งของรัฐและเอกชน ก็ไม่หายจนผมเบื่อ มีพระฯท่านบอกว่าผมโดนคุณไสย ผมก็ไปเอาออกและก็มีจริงๆครับเจ็บมากๆเลยครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลยครับ ส่วนเรื่องเทพนั่นนะเดิมผมไม่เคยเชื่อ แต่ก็ไม่หลบหลู่ครับ จนมีวันหนึ่งพระฯองค์เดิมบอกผมให้ไปตำหนักหนึ่งสุพรรณฯ ผมก็เลยต้องลองไปดู และไปถึงครั้งแรกไม่ได้ดูครับ เพราะเขาไม่ว่าง ก็ไม่เป็นไร ต่อมาผมก็ไปอีกครั้ง คือต้องเดินทางจากอุดรไปสุพรรณใหม่นะครับ และก็ได้เจอท่านก็เมตตาดีครับ ไม่ได้เรียกร้องเงินทองอะไร เพียงบอกว่าให้ผมกลับบ้านข้นธูป16ดอก บอกเขาว่าถ้าผมหายป่วย ผมจะมารับขันให้ และหลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้น ผมก็เลยต้องไปรับขันที่นั้น โดยผมต้องหาอุปกรณ์ไปเอง โดยเจ้าของตำหนักบอกให้ไปซื้อที่ร้านในเมืองครับ และตอนที่ไปซื้อของนั้นบังเอิญผมมองไปเห็นเทวรูปองค์หนึ่งตั้งอยู่บนหิ้งขายของนะครับ แต่ว่าเห็นเป็นภาพขาวนวลข้างเป็นเหมือนคนจริงๆ รูปหล่อมากๆเลยครับ ขนาดผมเป็นผู้ชายนะครับ แวบเดี่ยวครับ จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก นอกจากได้ของที่สั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปที่ตำหนักฯ เจ้าของตำหนักก็ดีครับท่านลงมือทำขันให้ผมเองเลยครับ ผมนะเกรงใจมากครับ และก็ทำพิธีรับขันกลับมาไว้ที่บ้าน(เสียค่าครู 30.-บาท ครับไม่ได้เสียเป็นพันเป็นหมื่นนะครับ) หลังจากนั้นผมก็นำมากลับไว้ที่บ้าน หิ้งพระนะครับ ต่อมาผมก็ได้บอกพระที่แนะนำผมให้ไปหาว่าผมไปรับมาแล้ว ท่านก็ทักว่าให้ไปหาเทวรูปหนึ่งซึ่งจะต้องนำมาบูชาไว้ ผมก็บอกท่านว่าผมจะไปหาได้ท่ไหน เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ แต่ก็จะลองหาดูครับ สรุปผมก็ไปหาทั่วเมืองที่ผมอยู่ปรากฏว่าไม่มี ผมก็เลยไปเรียนท่านว่าที่จังหวัดเราไม่มีครับ ท่านก็แนะนำผมอีกว่า บนเขาคิชกูฏ(เขียนไม่ถูกครับขอโทษ)ให้ผมขึ้นไปถ่ายภาพเอามาไว้บูชา ผมก็เลยไปกับเพื่อนร่วมทางคนหนึ่งครับ โดยที่ผมไม่เคยไปจันทบุรีเลยนะครับ ขึ้นเขาไปสองคน น่ากลัวมากครับ เพราะดันเดินขึ้นทางลัดอีก เพราะไม่รู้ว่าป่านี้มีสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกมาก ผมก็ไปจนได้ภาพนั้นมาสมใจ แต่ผมก็ไม่วายจะเสาะแสวงหาเทวรูปมาไว้บูชาเพื่อให้เกิดความสบายใจนะครับ สุดท้าย คุณเชื่อไหมครับว่าเทวรูปที่ผมต้องนำมาบูชานั้นคือ เทวรูปในร้านที่ผมเห็นเนื้อข้างในนะครับ ต่อมาผมก็ป่วยอีก ผมก็เลยคิดว่าเอ ใกล้ๆบ้านเราก็น่าจะมีคนช่วยเราได้นะ ก็แสวงหาดู ก็พอมีเลยไปร่วมงานกับเขาเป็นที่วัดนะครับ เออผมลืมบอกไปว่า ตำหนักแรกที่ผมไปเป็นตำหนักพระศิวะและพระสุริยะเทพครับ ส่วน ที่วัดเป็นปู่สัจจะมหาพรหม ผมก็ไปร่วมโดยนำขันที่ได้จากตำหนักแรกไปเปลี่ยนใหม่ โดยมีร่างปู่นาโคทำบายศรีขันให้ครับ ก็รับมาอีก และก็หลังจากนั้นมาผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมอีก ผมก็เลยหาที่ใหม่อีกที่ใกล้บ้านมากขึ้น แต่เป็นตำหนักปู่ฤาษีฯ แต่ตรงนี้ต้องเสียเงินครับก็ยังไม่มาก สำหรับต่างจังหวัดและก็ได้รู้จักคนอีกหลายคน คือ คนที่อยากมีเทพมาก ผมเองก็เลยเริ่มถามตัวเอง เอเราอยากกับเขาด้วย คำตอบก็คือไม่ แต่อยากให้สุขภาพดีแค่นั้น หลังจากรับขันตำหนักนี้แล้วก็ไม่ดีขึ้นอีก แต่ขอเล่านิดหนึ่งครับที่นี้ผมได้พบพระปฏิบัติดีอีกองค์หนึ่งครับชื่อ พระอาจารย์พิษณุ ปัจจุบันกำลังสร้างวัดอยู่ที่กาญจนบุรีครับ ผมเอง ยังติดข้างท่านอยู่ครับคือ มีอยู่ครั้งหนึ่งจะมีการหล่อองค์เทพที่วัดหลวงปู่กาหลง ที่สระแก้วนะครับ พอดีผมมีพระพรหมที่ชำรุดอยู่องค์หนึ่งผมก็เลยตั้งจิตไว้กับท่านว่า เนื่องจากองค์ท่านชำรุดผมจึงขอนำท่านไปหล่อเป็นองค์ใหม่ครับ แต่ถ้าองค์ท่านสมบรูณ์100% ผมก็จะขอบูชาท่านใหม่ครับ สุดท้ายคนที่เขานำไปกรุงเทพ พอนำองค์ท่านขึ้นกุฏิพระอาจารย์พิษณุ ท่านก็บอกสวนมาว่าเอามาทำไม เจ้าของเขาหวงมาก และท่านก็เมตตานำพระพรหมที่ชำรุดไปให้ช่างเขาซ่อมให้เป็น100%พร้อมปิดทองคำเปลวแท้ และก็นำมาคืนผม ลืมบอกไปว่า พระอาจารย์กับผมเคยคุยกันไม่กี่คำนะครับ ไม่ได้สนิทอะไรกันเลย ท่านก็ยังเมตตา ทำให้ผมโดยที่ไม่คิดอะไรเลย นี่แหละครับทำให้ผมคิดอยู่ทุกวันว่าจะตอบแทนท่านอย่างไร ก่อนผมจะได้คืนพระพรหมองค์นั้นมารออยู่ที่ตำหนักปูฤาษีฯ ผมก็ไปเอา แต่ร่างทรงเจ้าของตำหนักกับอยากได้พระพรหมองค์นั้นของทั้งๆที่ตำหนักเขาก็มีอยู่ ทำให้ผมหมดศรัทธาเลยครับอะไรกัน คุณมีแล้วยังไม่พออีกหรือ อีกอย่างคุณเป็นร่างทรงปู่ฤาษีฯ ยังจะเอาอะไรอีก ทุกวันนี้ ผมก็เลยไม่ค่อยไปยุ่งกับตำหนักนี้มากนัก และก็เลิกคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไปพักหนึ่ง อาการเจ็บป่วยที่เป็นก็นึกเอาว่ามันเป็นกรรม ตายก็ให้มันตายไปเถอะเบื่อมากๆ ทุกวันนี้ ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆมีโอกาสทำบุญได้ก็ทำไป ปฏิบัติได้เท่าที่ทำได้ไม่ได้มุ่งหวังว่า ตัวเองจะวิเศษวิโสอะไรหรอกครับ เพราะผมไปดูมามาก ส่วนผมคิดว่าไม่จริงครับ เพราะถ้าของจริงจะต้องสังเกตุให้ดีๆ ของปลอมเยอะมากครับ ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะครับ หลังจากได้คำตอบแล้วผมจะขอลบคำถามนี้ออกนะครับจะได้ไม่เปลืองเนื้อที่ของเวปนะครับ ขอขอบคุณคุณเมาท์มากๆนะที่ให้คำชี้แนะผมมาโดยตลอด

 

เรื่องราวเกี่ยวกับตำหนักทรงองค์เทพ นั้น
เท่าที่ผมผ่านพบประสบการณ์มา..
เขียนเป็นตำนานเล่าขานได้เป็นเล่มๆ

ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยนำมาพูด
พอมาได้อ่านเรื่องราวของคุณ thamruksaudon แล้ว
ทำให้ผมต้องนึกย้อนถึงความหลัง
อยากจะเล่าอะไรให้อ่านกันเล่นๆ
ถือว่าคุยกันนะครับ

ในสมัยที่ผมทำงานบริษัท ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดทุกเดือน
และเมื่อมีเวลาว่าง..ผมมักแสวงหาตำหนักทรง
เพราะมีความรู้สึกผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ
เตี่ยผมเคยพาผมไปตำหนักเจ้าทรงใกล้บ้าน
ตอนนั้นผมอายุประมาณ สัก4-5 ขวบ

ผมได้พยายามสังเกตุผู้คนที่ไปตำหนักทรง
ยิ่งตำหนักไหนมีคนขึ้นเยอะ ทำให้ชวนดูว่าขลัง และศักดิ์สิทธิ์
คนที่ไปหาร่างทรงองค์เทพ มีหลายประเภท

ประเภทที่ค่อนข้างมาก คือ...ปัญหาครอบครัว
รองลงมาก็..ขอเลขหวยเพราะอยากรวยเบอร์
และประเภทสุดท้าย..คืออยากมีองค์ ให้ช่วยเชิญองค์ลงมา
เปิดพระเนตร พระกรรณ ให้โอษฐ์ทิพย์ ตาทิพย์ หูทิพย์

ตำหนักที่มีองค์เทพ มาลงจริง มีน้อยมาก
จะรู้ว่าจริงไหม..ง่ายๆ ให้ดูที่ค่าครู ส่วนมากที่พบ จะอยู่ในเกณฑ์
39.- 59.- 109.-
และหากมีการเรียกสะเดาะห์เคราะห์ เป็นพัน เป็นหมื่น
หรือทำพิธีอะไรก็ตามที่ต้องใช้เงินมากๆ
ขอให้รีบหลีกหนีตีตัวออกห่าง.เพราะนั่นไม่ใช่เทพจริง

เมื่อก่อนผมไปพิสูจน์มาหลายที่
จนเดี๋ยวนี้รู้สึกเฉยๆ...แต่ก็ยังระลึกถึงร่างที่มีเทพจริงลงมาช่วยสงเคราะห์
และยังกราบสักการะด้วยใจอยู่ตลอดเวลา


ในกรณีของคุณ thamruksaudon ที่มีอาการไม่สบาย
ผมอยากแนะนำให้ใช้วิธี เบิกบุญ แล้วโอนบุญ
ให้กับเทวดาประจำตัวของเรา ก็คือเทพที่มาอยู่กับเรา
คอยดูแลเรา ตอนเด็ก เราเรียกเทพที่ดูแลเราว่า แม่ซื้อ

ใช้วิธีนึกคิดเอา ไม่ต้องกรวดน้ำ
วันหนึ่ง นึกคิดเบิกบุญ โอนบุญ ได้หลายครั้ง คิดได้ก็ทำ

นอกจากเทวดาประจำตัวเราแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ลืม คือ เจ้ากรรมนายเวรของเรา
เรื่องเจ้ากรรมนายเวร นี้สำคัญมาก
เวลาเราเจ็บป่วย เขานั่นแหละมีส่วนทำให้เรามีอันเป็นไป
เทวดาบางทีก็ช่วยไม่ได้
เพราะไม่มีใครฝืนกฎแห่งกรรม ได้

เราเคยทำเขาไว้ ถึงเวลาเขาก็ต้องมาเอาคืน
เทวดา เป็นได้แค่ช่วยเจรจา จากหนักเป็นเบา
หรือหาทางให้เรากระทำอะไรตามที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการ
เพื่อไถ่ถอนกรรมที่เราได้กระทำต่อเขา

ดังนั้น..เมื่อเราได้สั่งสมบุญไว้มาก
แต่ไม่เคยได้โอนบุญไปให้เขา(เจ้ากรรมนายเวร)
เขาก็จะเกาะติดเราไปตลอด คอยสะกิดเราบ่อยๆ
แต่เราหารู้ไม่ เข้าใจแต่ว่า สิ่งมาสะกิดนั้น เป็นเพียงโรคภัยธรรมดา

ลองปฏิบัติตามที่ผมว่า น่าจะได้ผลดี
คงช่วยให้ทุกข์ทางกาย ได้ผ่อนคลายลงไปได้บ้าง

และผมขอเบิกบุญ โอนบุญของผมที่ได้ทำสำเร็จไปแล้ว
ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ที่มาถึง ณ ปัจจุบัน ของคุณ thamruksaudon
จงได้รับบุญกุศลนี้ เกิดความสุข มีภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไป และจงอโหสิกรรม
ให้คุณ thamruksaudon ในกาลครั้งนี้ด้วย

สาธุๆๆ

 

ขอขอบพระคุณ คุณเมาท์มากๆเลยครับที่แบ่งบุญกุศลมาให้ผม พอดีผมก็ได้ตั้งจิตอธิฐานไว้เหมือนกันครับว่า ขอให้ผมเป็นเหมือนกระจกเงา เพื่อคนที่คนดีกับผม ความดีนั้นก็จะสะท้อนกลับไปหาเขาเองครับ ดังนั้นการที่คุณแบ่งบุญให้ผมนั้นก็เป็นเรื่องประเสริฐมากครับ ผมขอน้อมรับด้วยใจ และก็ขอให้ความดีนั้นหรือบุญกุศลนั้นสะท้อนกลับไปหาคุณฯให้ได้บุญมากยิ่งๆขึ้นไปนะครับ
ผมขอเล่าเรื่องพระพรหมต่อนะครับ คือหลังจากที่ผมส่งท่านไปหล่อเป็นเทพองค์ใหม่ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรอีก แต่หลังจากนั้นผมก็มีอาการร้อนอยู่บ่อยกินยาก็แล้วอะไรก็แล้ว ผมเลยไปหาพระอีกองค์ที่ท่านพอจะดูทางในให้ผมได้ ท่านบอกผมว่ามีพระพรหมตามอยู่ให้ไปรับท่านกลับมา ผมก็งงครับ ผมจะไปรับที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะท่านก็บอกไม่ได้ว่าให้ไปรับที่ไหน จนเว้นระยะมาได้พักหนึ่งผมก็ได้ยินข่าวว่าพระพรหมที่ผมส่งไปหล่อนั้นไม่ได้หลอมใหม่ แต่กลับสมบูรณ์100%อีกต่างหาก ผมก็เลยนึกขึ้นได้ว่าผมเคยตั้งจิตอธิฐานไว้กลับท่านว่าถ้าท่านครบ100%ผมจะขอบูชาท่านครับ ทุกวันนี้ผมก็เลยบูชาท่านไว้ที่บนบ้านครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อเรื่องเทพพรหม อย่างไรดี ให้เชื่อก็เชื่ออยู่ จะไม่เชื่อก็กระไรอยู่ ได้แต่เป็นกลางครับ เพราะอย่างที่คุณเมาท์ บอกแหละครับว่าให้สังเกตุให้ดี จะรู้เองครับว่าจริงหรือปลอม ขอให้คิดสักนิดก่อนทำ ขอเล่าเรื่องพระพรหมต่อนะครับ หลังจากได้ท่านมาบูชาแล้วพระองค์นั้นก็ไม่สามารถดูทางในให้ผมได้อีกครับ ถ้าจะดูต้องขออนุญาตครับ ผมก็งงครับผมเป็นอะไรไปอีกแล้วนี่ ผมก็คนธรรมดาครับ อะไรกันนักกันหนาหนอ ทุกวันนี้ก็พอจะรู้อยู่ว่าอยู่กับเทพกับพรหม แต่ภาระต่างๆนั้นก็มิใช่น้อย จึงได้แต่พยายามทำในสิ่งที่ดีเท่าที่จะทำได้ครับ ก็ได้เล่าให้คนที่พอจะเข้าใจฟังนะครับ เพราะคนที่ไม่ได้สัมผัสเองก็พูดให้ฟังไม่ได้ เหมือนเราเป็นคนบ้า...ผมเริ่มวกวนแล้ว วันนี้ผมขอเล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนนะครับ มีอะไรก็ช่วยชี้แนะผมได้นะครับ ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ

 

บางครั้งเรื่องของเทพพรหม เทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้า
ตั้งแต่จาตุมหาราชิกา ไล่ขึ้นไป นับเป็นเรื่องยากนักที่จะอาศัย
จิตธรรมดาแบบมนุษย์มนังอย่างเราๆท่านๆ พึงรู้ได้

นอกเสียจากมนุษย์ผู้นั้นจะสามารถพัฒนาจิตวิญญาณได้สูงส่ง
ตั้งแต่ผมเริ่มปฏิบัติการหายใจเข้า-พุทธ หายใจออก-โธ
ให้เกิดอยู่บ่อยๆ ...เป็นผลให้ 2-3 คืนมานี้ ฝันเห็นแต่พระสงฆ์
นับเป็นนิมิตที่ดีมาก เพราะแทบจะไม่ค่อยได้ฝันเช่นนี้
นอกจากนี้ยังได้ความสงบ ซึ่งเป็นสุขทางใจได้อย่างดี

สิ่งที่คุณ thamruksaudon<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_598494", true); </SCRIPT> ได้สัมผัสเกี่ยวข้อง
กับพระพรหม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็ตาม
ถือว่า เคยมีกรรมพัวพันกันมา
จึงต้องมาเกื้อกูลสนับสนุน สร้างเสริมบุญกุศลร่วมกัน

เมื่อรับท่านมาแล้ว ท่านย่อมปกปักรักษาเรา
เปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ ใครจะทำอะไร ก็ต้องผ่านท่าน
เพื่อขออนุญาติก่อน นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นมงคลชีวิต
และเมื่อคุณ thamruksaudon<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_598494", true); </SCRIPT> สามารถปฏิบัติจิต
สื่อถึงองค์ท่านได้เมื่อใด ก็สามารถดำเนินการร่วมกับท่าน
เพื่อสงเคราะห์ผู้ทุกข์ยากต่อไป ตามพันธสัญญาที่เคยมีต่อกัน
หรือสัจจะที่เคยให้ต่อกันไว้ เมื่อหลายภพชาติที่ผ่านมา
ซึ่งเราไม่สามารถระลึกรู้ได้ เนื่องจากทุกข์บดบัง

องค์พรหมท่านที่อยู่กับคุณ thamruksaudon<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_598494", true); </SCRIPT> ขณะนี้
ดูท่านมีความสุขมาก รอยยิ้มของท่าน แสดงออกถึงความเมตตา
อันสุดจะประมาณได้ รอยยิ้มของท่านเปรียบเสมือนรอยยิ้มของเรา
สองผสาน ราวกับเป็นหนึ่งเดียว..จงระวังการกระทำที่แสลงต่อศีลทุกชนิด....

อย่าลืมทุกครั้งที่ทำบุญกุศล ถวายบุญให้ท่านด้วยนะครับ

 

(f)

 

ท้าวมหาพรหม

 

รูปเจ้าแห่งภูผา และท้าวมหาพรพรหม นั้นสวยมากครับ ส่วนรูปพระพุทธองค์ไม่ขอกล่าวครับ ผมยังมีเรื่องเล่าอีกครับ คือว่า ผมกับเพื่อน เห็นที่สำนักสงฆ์ฯมีการเขียนยันต์ ผมและเพื่อนก็เลยหาแผ่นทองแดงไปให้ท่านอาจารย์(พระ)เขียนให้ แต่แผ่นทองของใครก็ให้เขียนชื่อนามสกุลของคนนั้น หลังจากนั้นมาก็เป็นเวลาพอสมควรผมก็โทรไปถามท่านว่ายันต์ค้าขายที่ท่านฯเขียนให้ผมเสร็จแล้วหรือยัง จนผมเลยฝากเพื่อนที่ไปด้วยกันเอามาให้ด้วย และก็ได้รับและก็ดูแล้วของผมกับเพื่อนไม่เหมือนกันเลย ถามท่านๆก็ว่าของใครก็ของมันดังนั้นจึงเขียนออกมาไม่เหมือนกัน ของผมนั้นนะผมของยันต์ฯมาไว้ค้าขาย แต่ในภาพเป็นรูปเหมือนคนนุ่งห่มคล้ายพระทิเบตไปอย่างนั้นคือใส่หมวกแหลมครับเลยเด้าเอาว่าไปทางทิเบตครับ หลังจากนั้นผมได้ไปหาท่านที่สำนักฯ ผมจึงเรียนถามท่านว่า ยันต์ฯผมมีความหมายว่าอย่างไร ท่านก็ตอบว่าจำไม่ได้แล้ว เพราะขณะที่เขียนมือมันเขียนไปเอง ให้เขียนใหม่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเหมือนเดิมหรือเปล่า เป็นอันว่าผมก็ไม่รู้ความหมายของภาพยันต์นั้น จนมาวันหนึ่งผมนิมนต์พระอาจารย์ให้ท่านช่วยหารถมาขนไม้เก่าไปวัด เพื่อจะสามารถใช้สร้างกุฏิ และอื่นๆ ตามแต่จะใช้ประโยชน์กับทางวัดได้ และท่านก็มาครับ ผมได้โอกาสจึงนิมนต์ท่านขึ้นไปบนบ้าน เพื่อดูที่หิ้งพระครับ และได้โอกาสถามท่านเกี่ยวกับภาพยันต์ฯ ท่านได้ให้ความรู้ว่า ภาพยันต์นั้น เป็นยันต์พระเจ้าสิบชาติ ล้อมรอบรูปพระที่อยู่ตรงกลางภาพ โดยภาพพระที่อยู่ตรงกลางนั้นท่านว่าแทนพระเจ้าห้าพระองค์ และเป็นพระโพธิสัตย์ได้พระองค์หนึ่ง แล้วก็หมดเวลาถาม ส่วนหิ้งพระของผมอย่างที่กล่าวครับ ก็จะมีเทวรูป ตลอดจนปู่มหาพรหรม และอื่นๆอีกมากครับ ซึ่งผมคิดไว้ว่า เมื่อเจอเจ้าของเขาผมก็จะอุ้มไปให้ครับ ไม่ได้หวง คือตามความเหมาะสมหรือจะบูชาผมก็จะให้บูชาครับ พระอาจารย์ท่านมาเห็นบายศรีของที่บ้านท่านสวยมาก ท่านยังกล่าวกับผมอีกว่าแค่นี้ยังมาไม่หมดนะยังจะมีมาอีก ผมก็ตกใจครับ ผมแค่นี้ผมก็หาสถานที่ว่างยังไม่พอเลย แต่แล้วผมก็ไม่คิดแล้วเพราะว่าอะไรมันจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด แต่ขอให้เป็นสิ่งที่ดีๆก็แล้วกัน ผมเองยังสงสัยเรื่องภาพยันต์ฯ อยู่เลยว่า ผมเกี่ยวอะไรด้วย คุณเมาท์ ช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

มนุษย์บนดาวเคราะห์โลก(ดาวราหู) ใบนี้
มีเรื่องราวหลากหลายเกิดขึ้นแทบไม่ซ้ำกันแต่ละวัน
บางคนหาเหตุผลและคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
บางคนกว่าจะหาคำตอบได้ ก็ต้องฝึกจิตใต้สำนึก
หรือขุดขึ้นมาใช้งานเพื่อหาคำตอบ

บางคนไม่อยากเสียเวลา ก็หาผู้รู้สำหรับคำตอบนั้นๆ

ผมมาสังเกตุ ดู มีคนประเภทที่คล้ายๆกับผม คือ
มักจะเก็บสะสมวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง
รูหล่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เราเคารพนับถือ
จนล้นหิ้งบูชา ... แต่เมื่อถึงเวลา..กลับ
นำสิ่งที่ตนเองสะสมมานาน มอบให้กับคนที่มาหา
เหมือนเขามาทวงสมบัติเก่าคืน
เราเป็นเพียงผู้เก็บรักษารอเขามาเอาไป เท่านั้น

สำหรับการเข้าหาพระก็ดี หรือ ผู้มีวิชาความรู้ทางไสยเวทย์ก็ดี
ให้ทำวัตถุมงคลให้ โดยใช้วิชาเฉพาะตัวที่ได้ศึกษามา
ดังนั้น การจะบอกกล่าวถึงวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมา
ให้ได้เนื้อหาใจความเดียวกัน รู้สึกว่าจะยาก
ใครถนัดวิชาไหน เขาก็จะว่าไปตามถนัดของเขา
ของชื้นเดียวกัน 10 คน ก็ว่ากันไปสิบอย่าง
คิดไปก็ปวดขมับ งั้นอย่าไปคิดเลยดีกว่า

ทำให้คิดถึง คำของพระพุทธองค์ ที่ทรงตรัสแก่ องคุลีมาล ว่า

เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด

คำๆนี้ ใช้เตือนใจได้ทุกเรื่อง
อะไรที่เราทำแล้ว หรือคิดจะทำ และก่อให้เกิดความทุกข์ใจ
ความไม่สบายใจ เมื่อนึกถึงคำนี้ เราก็จะหยุด
ปล่อยวางทุกการกระทำ จิตก็จะสบาย ไม่เป็นกังวล

ฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ

คงตอบให้คุณthamruksaudon ไม่ได้ตรงๆ ขอไปแบบอ้อมๆแล้วกันนะ

 

............(verygood)