นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงพระสวด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย odanhi, 21 มีนาคม 2012.

  1. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398
    มาสอบถามท่านผู้รู้คะ ^-^ เมื่อคืนนั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงพระสวด ก็คิดว่าหูคงแว่วหรือจิตอาจจะปรุงแต่งไปเอง ก็นั่งต่อไปและยังได้ยินอยู่ สักพักก็ตกใจนิดนึงพยายามมีสติ เพราะไม่อยากหลุดจากสมาธิคะ คิดว่าจิตเราเอาใจไปรู้ก็กลับมาตั้งอยู่ที่ฐานสติใหม่ และก็นั่งต่อไปจนเสียงพระหายไป ซึ่งเวลานั้นก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มคะ ไม่ทราบว่าหมายความว่ายังไงคะ หรือเพราะจิตเราไปปรุงแต่ง หรือเมื่อเกิดอะไรขึ้นเราเพียงแต่รับรู้และอย่าไปสนใจมันใช่ไหมคะ

    แต่ก่อนก็เคยนั่งจนเกิดสุขถึงขึ้นที่ว่าหลงไปยึดติดสุข ทำงานเสร็จก็อยากจะกลับมานั่งเพื่อที่จะให้เกิดความสุขแบบนั้นอีก แต่ความสุขแบบนั้นคิดว่าสุขมากจนไม่คิดว่าจะมีอะไรสุขได้แบบนี้อีก ก็หลงไปนั่งเพื่อให้อยากรู้สึกแบบนั้นอีก แต่ทำยังไงก็ไม่เคยเกิดเลย จนคิดว่าเรามัวแต่ไปยึดติดไปหลงอยู่กับมัน ทำให้สมาธิไม่ไปไหนคะ ตอนนี้ทำอะไรก็พยายามมีสติไม่เอาใจไปหลงอยู่กับอารมณ์ที่มากระทบ หรือกระทบก็พอนึกได้ก็กลับเอาจิตมาอยู่ที่สติเหมือนเดิม แต่ยังไงก็ขอคำชี้แนะกับท่านผู้รู้บ้างนะคะ จะได้นำมาปรับปรุงแก้ไข และปฏิบัติให้ถูกทางคะ ^-^
     
  2. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    เก่งอะ เรายังไม่กล้านั่งสมาธิตอนกลางคืนเลย กลัวมนุษย์ต่างดาวอะ T^T
     
  3. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398
    555+ อย่าไปกลัวเลย ได้เห็น ได้เจอก็ดีสิ คนน่ากลัวกว่ามนุษย์ต่างดาวอีกน๊า
     
  4. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    เราคิดว่าไม่น่าใช่เสียงพระจริงๆหรอกมั่ง เพราะเืท่าที่เราอ่านมา อย่างมากก็จะเห็นเป็นนิมิตเลยเเบบนั่นน่าตกใจกว่า! คือเห็นภาพในความมืด เเต่เสียงไม่น่ามีน้ะ
    บางคนก็บอกว่าได้ยินเสียงตัวเองบ่นอยู่ เเสดงว่าเหมือนเคสของคุณ คือยังไม่มีสมาธิอะนะ เเนะนำให้ ตามลมหายใจ,ท่อง พุท โธ,เเล้วดูอารมตัวเอง ถ้าเกิดหลุด จากลมหายใจไปติดอยู่กับอารม ก็ควรจะตั้งสติใหม่

    ปล. เเนะนำนะ เวลาหายใจเข้า ให้ดูลมหายใจ ตอนหายใจออกก็ดูลม เข้ารู้ออกรู้
    อย่าบังคับว่าจะหายใจสั่นหรือยาว ปล่อยไป เเล้วอย่าลืม พุท โธ ให้ชินด้วย
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เรื่องเสียงสวดมนต์ มันก็ไม่ต่างกับ คำถามคราวที่แล้วที่ว่า หน้าหันเอง
    หรือ เห็นอาการตึง หรือ เห็นสึนามิ หรือ มีอาการเวียนหัว

    ทำไมไม่ต่าง เพราะ สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่อง การรู้ออกไปจากสิ่งภายนอก
    ไม่ใช่การ พิจารณารู้เข้ามีที่จิต อะไรก็ตามที่ไม่ใช่การวิจัยเรื่อง จิต
    ให้ถือว่า ขณะนั้นรู้เรื่องภายนอก รู้ๆแล้วก็วางไป เพราะ เดี๋ยวก็มี
    อีกหลายอย่าง เป็นดั่งพวงดอกไม้งดงาม เอามาล่อเราให้ หลงระเริง
    โลดเต้น ไขว่คว้า(เพราะยินดี) หรือไม่ก็ หาทางหนีจากมัน(เพราะยินร้าย)
    เรียกว่า พวงดอกไม้แห่งมารคืออาการปรากฏที่ส่วนภายนอก(ขันธ์5)

    ถ้าพิจารณาเข้ามาที่จิต ก็คือ ภาวนารู้พ้นจากส่วนที่เป็นขันธ์5 เข้ามา
    เราก็จะห่างไกลข้าศึก ความยินดี ยินร้าย ย่อมทำร้ายต่อผู้ มุ่งรู้อยู่ที่จิต
    เพื่อรักษาจิต เพื่อรักษาธรรม ไม่ได้ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

    ดังนั้น จำหลักให้แม่นๆว่า ให้พิจารณารู้เข้ามาที่จิต

    ************

    ยกตัวอย่างการภาวนา

    นั่งสมาธิแล้วติดสุข ตรงนี้ พิจารณให้ดีๆว่า คุณของสมาธิคืออะไร คุณบอก
    ว่า จิตใจมันอยากกลับมานั่งสมาธิ อันนี้ก็คือ จิตมันละวางทางโลก สงัดจาก
    กามคุณห้า( ละคร ช๊อปปิ้ง ลิงผู้ชาย ฯลฯ )

    ดังนั้น ตรงนี้คือ คุณของสมาธิ ให้ยกพิจารณาคุณของสมาธิ และ ยอมรับ
    ว่า สมาธินั้นมีคุณอย่างนี้ๆ

    ***************

    ทำให้ ติดสุขอยากนั่งอีก อันนี้ ต้องผลิกคำพูดให้เหมาะ ให้ถูกต้อง อย่าไป
    ใช้คำว่า จิตมันติดสุขอยากนั่งสมาธิอีก จะทำให้ พิจารณาโทษของสมาธิผิด
    หลักการ จะเป็นการ ปรารภที่ทำให้ไม่อยากได้สมาธิจิตลึกๆ ทำให้นั่งเท่าไหร่
    ก็ไม่ได้ เพราะ จิตไปตำหนิจิตตัวเองที่อยากได้สมาธิ

    สังเกตดีๆนะ หากตั้งหรือ ปรารภผิด จะเข้าใจผิดคิดว่า ที่จิตไม่รวมอีกเพราะ
    อยากติดสุข จริงๆแล้วไม่ใช่ เป็นเพราะ เราไปเผลอ ตำหนิจิตตัวเองที่กำลัง
    ประกอบกุศล

    ดังนั้น ให้ปรับการปรารภใหม่ เพื่อ พิจารณาโทษให้ถูกคือ

    สมาธิจิตที่ประกอบมานั้น แสดงความไม่เที่ยง ให้เห็น ให้ตามรู้ไปว่า สมาธิ
    จิตที่เราประกอบนั้นก็เป็นของโลก เป็นโลกียธรรม ทำให้ เกิดการตั้งอยู่ไม่ได้
    แสดง ความไม่เที่ยง ให้เห็น

    อย่าลืมนะ เราจะอาศัยเห็นความไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเรียกว่าทุกข์

    แล้วเราภาวนาก็เพื่อฝึก กำหนดรู้ทุกข์ เป็นงานหลัก

    ไม่ใช่งานมุ่งทำสมาธิให้เที่ยง สมาธิเขาแสดงความไม่เที่ยงให้เห็นหนะดี
    แล้ว และ ถ้าจิตเรายังพิจารณาคุณของสมาธิไม่เสื่อมคลาย เราก็จะ
    กลายเป็นผู้หมั่นประกอบ สมาธิ อยู่เนืองๆ

    แล้วความดีที่เราได้จากการประกอบสมาธิ จะหนุนให้เรา ตามเห็นความ
    ไม่เที่ยง เพื่อไปเห็น ทุกขสัจจด้วยจิตใจตั้งมั่น(สัมมาสมาธิ)อีกทอดหนึ่ง
     
  6. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398
    ขอบคุณคะ ได้ความรู้เข้าไปอีกเยอะเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ถูกทาง
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สังเกตนะ

    เรา มาประกอบกรรมดี เรามา ภาวนา

    คนที่มาภาวนาเนี่ยะ สมควร ตำหนิจิต ตัวเองหรือเปล่า

    ถ้ารู้ว่าไม่สมควร เราก็จะมั่นใจในการ ประกอบกรรมดี

    ทีนี้

    เราแค่ จะเอาสิ่งที่ดี สิ่งที่ปราณีต ในแต่ละชนิด ที่ผ่านสายตา
    ผู้ภาวนาที่ฉลาด แหลมคม ในการพิจารณาใคร่ครวญ เฝ้นเห็น
    การแสดงความไม่เที่ยงของ สิ่งไรๆ เหล่านั้นได้หรือเปล่า

    ถ้าตามเห็นความไม่เที่ยงในสิ่งไรๆได้

    โศลกธรรมที่ว่า

    สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรม ดับไปเป็นธรรมดา มันจะไม่เหลือบ่า
    กว่าแรงในการ พิจารณาเข้าไปเห็น อรรถสาระ แล้วหงายมันขึ้น
    ให้เป็น การเห็นธรรม
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ตา+เห็น
    หู+ได้ยิน
    จมูก+กลิ่น
    ฯลฯ
    ใจ+ธรรมารมณ์ มันทำหน้าที่ของมัน


    นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงพระสวด


    ผู้ปฏิบัติธรรม ก็เพื่อรู้เข้าใจสัจธรรม คือว่า ทางอายตนะใด เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เป็นต้นยังไง พึงรู้ตามที่ตามเป็นจริง ทางอายตนะนั้นๆ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ถ้าเอาเฉพาะผลของการนั่งสมาธินะครับ..
    ถ้าเสียงสวดมนต์ที่ได้ยิน.แต่เป็นภาษาที่ไม่มีในโลก
    ขันต่อมาจะเป็น เสียงคลื่นความถี่สูง และต่อจากขั้นทั้งสองมา
    ถ้ายังไม่มีเหตุให้เลิกนั่งนะครับ..จะได้ยินเสียงของภพภูมิชั้นที่ไม่สูงได้ก่อนครับ..ต่อมาก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ..และคุณจะสามารถแยกได้เองว่าเป็นเสียงของชั้นไหน..แต่ละขั้นเสียงจะมาในแต่ละด้าน..และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปนะครับ..ไว้ได้ยินเมื่อไรแล้วมาเล่าสู่กันฟังนะครับ..
    อนุโมทนาสาธุ
     
  10. แม่หนูน้อย

    แม่หนูน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +96
    ขออนุญาติถามผู้รู้ด้วยคนนะคะ คือตัวเองเคยมีประสบการณ์เหมือนคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->odanhi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5885885", true); </SCRIPT> ค่ะ
    แต่ต่างตรงที่หลังจากนั่งสมาธิแล้ว (ไปปฎิบัติธรรมที่วัด 3คืนค่ะ)ถึงได้ยินเสียงพระสวดดังมาแว่วๆไกลๆแต่ติดอยู่ที่หู บางทีก็เป็นเสียงกลองซึ่งไพเราะมากไม่เคยได้ยินมาก่อน ถามคนที่อยู่ใกล้ๆก็ไม่มีใครได้ยินเลย บางทีก็กลิ่นหอมอวลรอบๆตัว หอมแบบที่น้ำหอมไม่มีขาย ทุกวันนี้จะได้กลิ่นหอมบ่อยมากแล้วมีโชคด้วยค่ะ พยายามไม่ยึดติดเรื่องกลิ่นแต่ก็ดีใจทุกครั้งที่ได้กลิ่น บอกไม่ถูกค่ะ
     
  11. นันโท

    นันโท สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +2
    2รวมเป็น1

    จิตเป็นของละเอียด..เมื่อจิตไปตกนรกใครจะช่วยยกขึ้นได้แต่ถ้าหากจิตเป็นตัวเป้นตนก็คงจะพอช่วยกันได้.....เมื่อมีชีวิตอยู่ก็จิตดวงนี้...แต่ถ้าตายไปล่ะก็ไอ้จิตดวงนี้.....หวังว่าคนที่เป็นสัตรบุรษคงจะเข้าใจนะคับ....สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่จิตเพราะฉนั้นจงทำให้ 2กลายเป้น1 นั้นก็สำเร็จแล้ว...ไม่มีสิ่งใดต้องทำอีกแล้วเมื่อสิ่งที่ต้องทำเสร้จสิ้นแล้ว....บายนะคับ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ผมขออนุญาติตอบแทนแล้วกันครับ..
    ถ้ากลิ่นออกเหม็นๆแต่ไม่ติดจมูก จะเป็นพี่สัมฯ ให้อุทิศส่วนกุศล
    ถ้ากลิ่นธูป เป็นเทพหรือเทวดา
    ถ้าเป็นกลิ่นดอกไม้หอมมากๆเป็นชั้นพรหม และถ้ากลิ่นแบบคล้ายๆกัน แต่มีความรู้สึกว่ามีการโรยด้วยดอกไม้อะไรบางอย่างประกอบมากับกลิ่นด้วย.เป็นเทพทางจีน น่าจะเรียกว่าเซียน ที่คนจีนนิยมนำมาตั้งไว้ที่พื้นบ้าน..
    ของคุณจิตใจดีในระดับที่ว่า ท่านสื่อว่าเป็นมิตรและก็เมตตาด้วยเลยได้กลิ่นอย่างนั้นครับ...ส่วนเรื่องเสียงความสงบจากการทำสมาธิ สามารถได้ยินเสียงจากไกลๆได้..และได้ยินเสียงที่เป็นภาษาที่ไม่มีบนโลกได้..บางอาจารย์ชอบบอกว่าเสียงเทวดาท่านสวดมนต์ครับ...
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    คุณนันโท พูดก็ถูกครับ..เป็นสิ่งที่ดีมากครับ...แต่สถานะการณ์นี้เหมือนๆ..กับไปสอนไปบอกคนในบ่อนที่เค้ากำลังเล่นไพ่ ว่าการเล่นไพ่ไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ครับ...
    อนุโมทนาสาธุครับ..
     
  14. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    ช่วงไปบวชชีพราหมณ์ที่วัด เคยได้ยินเสียงสวดมนต์อยู่หลายคืนค่ะ ช่วงประมาณเที่ยงคืน - ตี 2 เป็นเสียงสวดมนต์หมู่ค่ะ พยายามฟังว่าเป็นบทสวดไหน แต่กลับฟังไม่ออก รู้สึกไม่ค้นหูน่ะค่ะ
     
  15. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณฟังพระสวดบ่อยไหมครับ หากฟังบ่อย หมายถึงทุกวันรึเปล่าน่ะครับ

    หากฟังบ่อยก็จะเป็นสัญญาที่เกิดขึ้นมาครับ พอจิตเริ่มที่จะสงบก็จะได้ยินเสียงครับ

    บ่งบอกว่าจิตยังไม่เป็นสมาธิเท่าไหร่น่ะครับ แค่กำลังเริ่มต้นครับ

    สาธุครับ
     
  16. แม่หนูน้อย

    แม่หนูน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +96

    ขอบพระคุณที่ตอบให้ค่ะ ได้รู้อะไรๆ(ที่ไม่ใช่คิดไปเอง)จากเวปพลังจิตมากเลยค่ะ ช่วงก่อนจะปฎิบัติธรรมที่วัดบ่อยแล้วมักมีปัญหาคาใจไม่รู้จะบอกหรือถามใคร เคยถามพระอาจารย์ท่านไม่ให้ยึดติด ตอนหลังพิจารณาจากสภาวะความเป็นจริงค่ะ ทุกอารมณ์ มันยากที่จะไม่เกิดโลภะ โทสะ โมหะ แต่ก็เบาบางลงไปมากเกิดปุ๊ปก็รู้ ดับทันบ้างไม่ทันบ้างค่ะ อนุโมทนา สาธุ สาธุ ค่ะ
     
  17. _nnn_123

    _nnn_123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +567
    สาธุคะ...ดิฉันก็ได้อะไรเยอะจากเวปพลังจิตเช่นกันและผู้รู้ที่ตอบให้ทราบ เพราะอย่างน้อยคนที่ไม่เคยสนใจธรรมมะแต่มาปฏิบัติเพราะมีเหตุให้มา และเจออะไรที่ไม่เคยเจอ ถามว่าสงสัยใม สงสัยคะ ไม่อยากติดคำว่าอย่าติดสงสัย แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่อยากรู้ ขอบคุณมากคะ..
     
  18. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398
    มาอัพเดทต่อคะ หลังจากที่ได้ยินเสียงพระสวดนะคะ หลังจากนั้นเวลานั่งสมาธิก็จะได้ยินทุกครั้ง แต่ก้ไม่นานคะ จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ นั่งไปเกือบ 2 ช.ม. แรกๆ ได้ยินตลอด เวลาเลยคะ ยอมรับคะว่าตอนแรก ตั้งใจฟังเพราะอยากรู้ว่าหูแว่วไปเองหรือจิตเราคิดไปเอง ก็ได้ยินเสียงเป็นพระสวดจริงๆ คะ จากนั้นก็ตัดไม่ฟังเสียงพระสวด จิตสงบพุทโธตลอด มีสมาธิมากคะ ทุกอย่างเงียบไปหมด เหมือนไม่ได้หายใจ รู้สึกว่าเราอยู่ได้ยังไง ทำไมไม่หายใจเลย แต่ก็สงบคะเพราะมีสติอยู่กับลมหายใจตลอด บางขณะก็เหมือนตกจากที่สูง แต่ก็อาการนั้นก็หาย สงบดีคะ เมื่อนั่งไปสักพักก็ลองมาฟังเสียงพระสวดก็ยังได้ยินอยู่ หลีกเลี่ยงที่จะรับรู้คะ ไม่อยากให้จิตเราปรุงแต่ง ไม่รู้ว่าจิตเราปรุงแต่งอะไรคะ นั่งจนผ่านเวทนาก็รู้สึกว่าหายจากอาการปวดต่างๆ แต่ิคิดว่าการนั่งสมาธิเป็นสิ่งที่ดีๆนะคะ จากที่เคยนั่งได้แค่ ครึ่งชั่วโมงหนึ่ง ก็กลับนั่งได้ ชั่วโมงครึ่ง สองชั่วโมง จนถึง สามชั่วโมง คะ สงบดีมาก
     
  19. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398


    แต่ก่อนก็เคยฟังคะหลังๆ ไม่ได้ฟังคะ จะเน้นที่การอ่านหนังสือธรรมะ ประวัติของพระอาจารย์ทั้งหลาย ชีวประวัติ การธุดง หรือการปฏิบัติธรรมคะ แต่ส่วนใหญ่ทุกคืนจะต้องสวดมนต์นอน และก็นั่งสมาธิ และที่ขาดไม่ได้และทำประจำคือเวลานอนจะกำหนดพุทโธ จนหลับไปทำจนชินเป็นนิสัยไปเลยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2012
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แล้วจะเอา "ความสงบ" เหรอ

    มาดูแบบนี้ดีกว่า แล้ว คุณจะพบว่า ความสงบ นั่นแหละ สิ่งปรุงแต่งตัวพ่อเลย

    ดูอย่างไร

    ก็ดูไปง่ายๆ ทำสมาธิแบบที่ทำอยู่ ทำแล้วก็ได้ความสงบ สงบแล้วก็เกิดวิตก
    แทรก ว่าเสียงสวดมนตอยู่ไหม ขณะได้ยินเสียสวดมน เคล้าเคลียกับเสียงสวด
    มันต์ไม่ผละออกมา(วิจาร) นั่นตกจากความสงบสงัด(กายรำงับ สังขารรำงับ)
    ไปแล้ว

    พอระลึกได้ว่า ไม่เอาเสียงสวดมนต์ จะเกิด สภาวะจิตสองอย่าง คือ อยากสงบ
    ก็จะน้อมไปสู่ความเงียบ ควมระงับของกายสังขาร(ลมหายใจบ้าง เวทนากายบ้าง ฯ)
    แล้วน้อมไป สงบตัวพ่อ

    หรือ ถ้าไมเกิดอยากสงบ ก็เกิดอาการ ไม่ชอบใจเสียงสวดมนต์ ก็เลย ผลิกจิต
    เข้าสู่ห้วงของความ สงบตัวพ่อ

    แล้วก็วนเวียนอยู่แค่นั้น ไม่รู้จะเอา ปัญญาจากการปฏิบัติจากอะไร ก็เลย เหมา
    เข่งโดยเอาเรื่อง จำนวน เวลามหหลอกจิต ย้อมใจ ว่า ทำได้ผล มีผลงาน

    สุดท้าย โดนสงบตัวพ่อหลอก แล้วยังตามด้วยความฝุ้งซ่านเรื่องเวลาของการ
    สงบตอกผิดฝาโรง!!

    ก็จะเห็นว่า ความสงบ ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งปรุงแต่งตัวพ่อ มีอนุพยัญชนะ(รายละเอียด)
    อื่นๆเข้ามา ช่วยชูรส ให้ติดใจ ให้เห็นว่า ดีแล้วถูกแล้ว

    แต่ทว่า ไม่เกิดปัญญา อะไรเลย ไม่มีการปล่อยวางอะไรเลย

    ******************************

    จริงๆแล้ว

    เราก็ ปรุงความสงบอย่างนั้นแหละ แต่ อย่ามุ่งเอารายละเอียด หรือ คุณภาพ
    ของความสงบ ตรงนั้นไม่ใช่สาระ

    สาระของมันมีเพียงเล็กน้อย คือ ช่วยให้เรา สงัด หรือ ห่างไกล จาก กามคุณห้า
    ( ความพอใจในเสียงสวดมนต์ เป็นต้น หากเป็น กามคุณที่ถูกก็คือ ห่างไกลจาก
    ความชอบใจใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส นิมิต )

    แล้วโทษของมันหละ ก็ไม่ต้องไปพิจารณาโทษของมันให้ยาก ให้พิจารณาตรง
    ที่ มันไม่เที่ยง ความสงบเข้าไปอยู่ เข้าไปเป็น เดี๋ยวมันก็ต้องคลายออกมาเจอ
    รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อีกจนได้ และ นี่คือ ความจริง

    หากเราไปเน้นเอา เวลา เอาชั่วโมง เอานิ่ง เอาสงบ ก็จะปิดหูปิดตา ลืมพิจารณา
    ความจริง ที่กายเนื้อนี้มันกำลังเน่า กำลังชรา กำลังรอวันตาย ทุกๆนาที ที่อยู่ใน
    หลืบของความสงบ ความชรา ความตายก็เดินเข้าไปหาทุกที ๆ มันไม่ได้ ว่างเว้น
    ไปอย่างที่ เราโดนบางอย่างบังตา ไปจากการเห็นความเป็นจริง

    สิ่งที่บังตา และ แสบสุด ที่แทรกอยู่ได้ทุกๆการปรุงแต่ง ไม่ว่าจะกามคุณ5 หรือแม้แต่
    ความสงบตัวพ่อ ก็คือ อวิชชา ความไม่รู้ ความทอดธุระ ในกิจการเห็นอริยสัจจ4

    ****************

    พระบางท่าน นั่งสมาธิไป อยู่ในความสงบ 7 ชั่วโมง 7 วัน พอออกจากสมาธิมา
    โอยเนื้อตัวเหม็นไปหมด ขี้มูก ขี้ตา ขี้หู เกรอะกรัง บ้างหลุดร่วงลงมาเป็นสะเก็ด
    เป็นก้อน เห็นปั๊ป เท่านั้นแหละ โอยยย นี่เราลืมพิจารณาทุกขสัจจ นี่ ชาติ ชรา
    มรณะ หายจ้อย เพราะไปติดอยู่ใน ภพละเอียด คิดว่ามันคือ ..................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...