มีใครเคยเจอฤทธิ์ของจริงมั่ง

ผู้ใด้เคอเจอฤธิ์ของผู้สงศีลบ้างครับ ถ้าเคยเจอมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ เชื่อว่าหลายๆ คนอยากฟัง ส่วนผมเองยังไม่เคยเจอ บางทีคิดแล้วอยากให้มีคนออกมาทำให้คนได้ดูบ้าง จะได้เกิดศรัทธา

หลายคนกำลังจะโพสท์ว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ และพระพุทธเจ้าไม่สนับสนุนใช่ไหมครับ แต่ก็อยากจะฟังอยู่ดี

 

ผมเข้ามาเพื่อจะบอกว่า มันเป็นของไม่เที่ยงครับ บังคับไม่ได้ และ เกิดขึ้นเอง

ครั้นจะทำให้มันเกิดอย่างที่ตั้งใจ มันก็ไม่ได้ แต่พอไม่ได้ตั้งใจทำ มันก็ได้

ผู้อื่นที่ไม่รู้ ก็จะเข้าใจว่าคนนั้นมีฤทธิ์ ทำอย่างนั้น อย่างนี้ได้ แต่พอเอาจริงๆ ทำไม่ได้

นี่คือเหตุที่แสดงให้ดูไม่ได้ ยกเว้นเป็นความบังเอิญ และ กว่าจะทำจนเป็นความชำนาญได้

ผู้นั้นก็เป็นพระอรหันต์แล้วครับ และ ย่อมไม่เห็นคุณค่าที่จะแสดงต่อสาธารณะชนอีกด้วย

เพราะจะทำให้เกิดเป็นความงมงาย ซึ่งมีผลที่จะบันทอน ให้การปฎิบัติภาวนาล่าช้าลงไป

สาธุครับ

 

ผมเชื่อ 100% แต่อยากฟัง สาธุครับ

 

อย่างท่านปิณโฑลภารทวาชะ เป็นต้นบัญญัติ ถูกห้ามเพราะอะไร เพราะถ้าไปทำอย่างนั้น คนก็ไม่ต้องการธรรมะ ต้องการพระแสดงปาฏิหาริย์ ถ้าขอให้พระแสดงปาฏิหาริย์ พระทำให้ คนนั้นตายแล้วเกิดใหม่ต้องไปเป็นทาสเขา ๕๐๐ ชาติ ถ้าพระไม่ทำให้แล้วโกรธก็เลยลงนรก

พระพุทธเจ้าจึงทรงห้าม แต่ว่าพระที่อยู่ในป่าท่านมีความจำเป็นก็ใช้ได้ แต่ต้องไม่ให้คนเห็น อย่างพระที่เข้านิโรธสมาบัติ ออกมาแล้วปั๊บร่างกายต้องการอาหารก็ต้องดู เราจะไปหาที่ไหน เห็นหน้าคนที่จะให้ปั๊บก็เหาะไปทันที แต่ต้องไม่ให้คนเห็น พอเห็นว่าคนจะเห็นก็ต้องลงเดิน ถ้าเหาะจริง ๆ แล้วไวมาก ตามบาลีว่าที่พระโมคคัลลาน์ขึ้นไปดาวดึงส์ในคราวนั้น บอกว่า "แค่ลัดนิ้วมือเดียว"ความจริงไวกว่านั้น แต่ศัพท์ภาษาไทยไม่รู้จะใช้อะไร ความจริงนึกก็ถึงเลย ..สวัสดี*

 

พึ่งรู้นะเนี่ย สาธุ

 

จริงๆแล้วทดลองทำได้ครับ แต่ต้องทำคนเดียว ทดลองคนเดียวครับ

และ ไม่ควรนำไปโอ้อวด เพราะหากมีความอยากเข้ามาปะปน จะทำไม่ได้ครับ

จิตต้องนิ่งจริงๆ และ เป็นสมาธิ มีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ จึงจะทำได้ครับ

และ ที่ว่าไวนั้น เพียงแค่นึกเท่านั้นครับ ก็ถึงได้เลย เห็นได้เลย

แต่ทางที่ดี ไม่ควรสนใจให้มากครับ เป็นเพียงดอกไม้ริมทางเท่านั้นครับ

"หนทางยังแสนไกล อย่ามัวมานั่งพัก" รีบเร่งปฎิบัติดีกว่าครับ

สาธุครับ

 

ผมเคยเห็นพระรูปหนึ่ง ทางภาคอีสาณตอนกลางๆ.บนถนนสายหลัก.. ท่านหายตัวได้แบบเห็นๆแล้วไปปรากฎตัวอีกที่หนึ่ง.ตอนที่ผมไปกวาดถนนภายในวัดเวลาว่างๆไม่มีอะไรทำ...ระยะห่างประมาณ 20 เมตร.แล้วผมรีบเดินไปดูแบบเร็วๆ.แต่ท่านไปปรากฎอีกที่ๆห่างกันไปประมาณ 100 เมตรแบบมีทางเดินเส้นเดียวแต่ผมมองไม่เห็น....แต่ผมคิดว่าท่านไม่ได้อวดแน่นอนและคิดว่าคงไม่มีใครเห็น..แต่ผมบังเอิญสายตาผมดันไปมองเห็นเอง..ด้วยตาตัวเองครับ.และถ้าผมคุยกับท่านเรื่องภพภูมิ..เรื่องฤิทธิ์สำหรับท่านจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ..แต่ท่านจะไม่ค่อยสนทนากับใครง่ายๆในเรื่องแบบนี้.และจะไม่สอนสมาธิใครนอกจากจะถามแล้วถามอีกประมาณ 3-4 ครั้ง.เพื่อจะดูว่าเราจะผ่าน Check Point.ระดับการปฎิบัติอะไรบางอย่างเสียก่อน..และถามท่านเรื่องการฝึกความสามารถพิเศษอะไรท่านตอบได้หมดแบบละเอียด..และท่านก็บอกเสมอว่าเรื่องแบบนี้ทำได้..แต่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์...
สรุป คือยังมีอยู่แน่นอนในปัจจุบัน แต่ขอสงวนไม่เอ่ยชื่อนะครับ..ถ้าใครมีของเก่าและมีสัมพันธ์กับท่านๆบอกจะมีเหตุไปพบท่านได้เอง....
ปล. เป็นความเห็นส่วนบุคคล
ปล. ฟังหูไว้หูเพราะผมอาจตาฝาดไปเองก็เป็นได้
ขอบคุณครับ...

 

อันนี้อันเต็มครับอันนั้น ผมตัดตอนมาครับ

เรื่อง..คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์ "สัมปจิตฉามิ"

คาถาบทนี้ พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกหลวงพ่อในขณะที่หลวงพ่อพักอยู่ที่เมืองควีนทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๒๙ เวลา ๐๕.๐๐ น.

ก่อนนอนหลวงพ่อนอนภาวนาเป็นปกติ ตื่นขึ้นมามีอาการปากขยับไม่ได้ มือขยับไม่ได้ รู้สึกอึดอัด คล้ายเป็นอัมพาต แต่ใจสบาย พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกว่า

"เวลานี้มีคนคิดทำให้เธอเป็นแบบนี้"

และท่านให้เห็นตัวผู้ทำชัดเจน พระ องค์ที่ ๑๐ ให้ภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" จึงคลายตัว คาถาบทนี้ไม่ได้ให้ใช้เฉพาะหลวงพ่อเท่านั้น อนุญาตให้พุทธบริษัทศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงพ่อใช้ได้ด้วย

ก่อนนอนภาวนา ให้ตั้ง นะโม ๓ จบ และต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

และสวด อิติปิ โส ฯ ๓ จบ จึงภาวนาเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาวนาให้ทำใจสบาย ๆ ผลของคาถาบทนี้ จะมีผลต่อผู้สั่ง ผู้รับคำสั่ง ผู้ร่วมมือ และผู้กระทำไสยศาสตร์มายังเราโดยฉับพลัน

ผลพิเศษ ถ้าตั้งใจรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ หรือ ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วน สามารถระงับนิวรณ์ได้ ภาวนาวันละ ๑ ชั่วโมงเป็นเวลา ๓ เดือนติดต่อกัน จะมีผลคล้าย "อภิญญา"

หมายเหตุ "สัมปจิตฉามิ" อ่านว่า สัม - ปะ - จิต - ฉา - มิ คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไม่มีผลสำหรับผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พระโมคคัลลาน์ท่านมายืนยันว่า คาถาบทนี้เป็นคาถาอภิญญา บอกว่าคนที่ได้อภิญญามาในชาติก่อน ถ้าใช้คาถาบทนี้ของเก่าจะรวมตัว คือว่า ทำไป ๆ ถ้าเข้าถึงผรณาปีติจะรู้สึกว่าตัวไม่มีเหลือแต่หน้า ต่อไปก็ไม่มีอะไรเหลือเลย หน้าก็ไม่มี ถ้าทำได้เช่นนี้บ่อย ๆ ไม่ช้าก็รวมตัวจะไปไหนก็ได้ เที่ยวต่างประเทศเรื่องเล็ก ฆราวาสทำได้ทุกอย่าง แต่พระห้ามแสดงต่อหน้าคน



<center>

</center>อย่างท่านปิณโฑลภารทวาชะ เป็นต้นบัญญัติ ถูกห้ามเพราะอะไร เพราะถ้าไปทำอย่างนั้น คนก็ไม่ต้องการธรรมะ ต้องการพระแสดงปาฏิหาริย์ ถ้าขอให้พระแสดงปาฏิหาริย์ พระทำให้ คนนั้นตายแล้วเกิดใหม่ต้องไปเป็นทาสเขา ๕๐๐ ชาติ ถ้าพระไม่ทำให้แล้วโกรธก็เลยลงนรก

พระพุทธเจ้าจึงทรงห้าม แต่ว่าพระที่อยู่ในป่าท่านมีความจำเป็นก็ใช้ได้ แต่ต้องไม่ให้คนเห็น อย่างพระที่เข้านิโรธสมาบัติ ออกมาแล้วปั๊บร่างกายต้องการอาหารก็ต้องดู เราจะไปหาที่ไหน เห็นหน้าคนที่จะให้ปั๊บก็เหาะไปทันที แต่ต้องไม่ให้คนเห็น พอเห็นว่าคนจะเห็นก็ต้องลงเดิน ถ้าเหาะจริง ๆ แล้วไวมาก ตามบาลีว่าที่พระโมคคัลลาน์ขึ้นไปดาวดึงส์ในคราวนั้น บอกว่า "แค่ลัดนิ้วมือเดียว"ความจริงไวกว่านั้น แต่ศัพท์ภาษาไทยไม่รู้จะใช้อะไร ความจริงนึกก็ถึงเลย ..สวัสดี*

 

คุณ แจ็กซ์ 69 ครับ ผมนำโพสของคุณมาขยายเพิ่มนะครับ ไม่ได้นำมาโต้เถียงนะครับ

ผมรีบเข้ามาบอก เพราะกลัวเข้าใจผิดครับ

สาธุครับ

 

เคยเห็น รัศมี แบบสีทองของพระสงฆ์รูปหนึ่งอยู่ที่วัดถ้ำผาจม จังหวัดเชียงราย เห็นด้วยตาเนื้อครับ มีคนเห็น 2 คน พอเห็นก็รีบก้มลงกราบท่าน เพราะตกใจมาก

สนทนากันท่าน ท่านก็บอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเห็นไปได้ยังไง ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเพราะจิตตกหรือเปล่า ก็ไม่ใช่ ท่านก็ทรงฌานอยู่ไม่มีขาดเป็นไปได้ไงนะ หัวเราะ คนเห็นนะบ้าหรือเปล่านะ

 

แต่เรื่องรัศมีนี่แปลกอยู่ เพราะในภาพคริสต์ก็มี แต่ผมฟังๆ มาหลายๆ เรื่องในนี้น่าสนใจครับ ดีครับ

 

ของคุณแจ๊คนี้มาจากพระฤาษีหรือเปล่าครับ

 

ผมก็มีเรื่องเล่าเหมือนกัน มหัศจรรย์มาก ตอนนั้นแม่ผมเพึ่งหันมานับถือหลวงปู่ทวด แม่ผมให้คาถามาบอกว่าสุดยอด ผมไม่ค่อยเชื่อ แม่บอกให้ภาวนาขอให้เห็นจะๆเลย ผมก็ภาวนาเลย ผมบอกถ้าท่านมีจริงช่วยแสดงปาฏิหารย์ให้เห็นหน่อยครับ ขอให้แฟนคนแรกโทรมาหาผม แฟนคนนี้ไม่เคยติดต่อกับผมมาประมาณ 5 ปี ไม่เคยโทรไม่เคยสนใจ ผมท่องประมาณ 4 ทุ่ม แล้วก็คุยกับแม่ จนหลับไป ตื่นมาตอนเช้า หยิบโทรศัพท์มาดู เชื่อไหมครับ แฟนโทรมาตอน 5 ทุ่ม เป็น missed call...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากนั้นผมนับถือตลอดมา สุดยอด เรื่องหลวงปู่ทวดนี่มีเยอะๆ เจอมากับตัว

 

ของจริงที่เจอมา

ของจริงที่ เคยเจอมา เเละยังเจออยู่เรื่อยๆ

ก็คือ ใจ ตัวเองที่เปลี่ยนไป เพราะ ความศรัทธา เเละความไว้เนื้อเชื่อใจ ต่อ ผู้ทรงศีล

พอเชื่อเเล้ว มันก็ ตั้งขึ้นเป็น สัจจะ ทางใจ

ปฎิหาร ระดับใหนๆ มันก็เกิดขึ้นได้ เเม้จะเพียงน้อยนิด เเต่ถ้า เราสังเกตุ อาการต่างๆ อยู่เสมอ ๆ ก็ จะรู้ได้ว่า นั่นเเหละ ปฎิหารของ พระธรรม ที่มีผลต่อใจตัว


มันเเนบกันจนเป็นเนื้อเดียว จะเเยกได้ กําหนดรู้ ก็ ต่อเมื่อ ใจเรามันอยู่ ใน สัจจะ ที่ถือครอง ครับ

 

ทักษะความรู้ผมน้อย แต่ผมเป็นคนเข้าใจคนง่ายมากครับ ผมแค่เอามาขยายความให้เข้าใจผู้คนอื่นมากขึ้นเท่านั้นครับ

 

ไม่ทราบคำต้อง ตาxโน่น อิอิอิ ผมเคยเกือบละลึกชาติได้ครั้งนึง เมื่อปีที่แล้วช่วงกินเจ
จำได้ว่าตัวเอง อยู่ในกรรมบท10 เป็นอารมณ์ตลอด กิเลสไม่มี ใจมีสุขตลอด กำลังไหว้เจ้าอยู่ศาลเจ้าจีนอยู่ดีๆเพลิน อยู่ๆมันก็วื๊ด...........................ไปเองแค่สั้นๆ........ทำไมถึงรู้ว่าสิ่งนั้นคือ ละลึกชาติ ก็ผมใจผมมันบอกว่างั้น ครับ แต่แค่สั้นๆเพราะผมไม่ได้ตั้งใจฝึกอย่างที่ควรพอผมออกเจ กิเลสก็ลั่วบ้างไม่ลั่วบ้าง อ่ะครับ

 

อิอิอิน่าแนบใจด้วยนะครับ

 

ผมมีมาเล่าใฟ้ฟังครับดูธรรมดาแต่ก็อัสจรรย์ใจอยู่นะ
พระอาจารย์ของผมเองผมบวชเณรที่วัดป่าแห่งหนึ่งอาจารย์ผมท่านก็พระธรรมดานี่ละไม่ได้ดังอะไรแต่กิจวัตรของท่านนั้นงดงามคืออยู่แบบสมถะเรียบง่ายไม่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มีทีวีไม่มีรถขี่เขาเอามาถวายท่านก็ไม่เอาบอกเปลืองน้ำมันเปลืองเงินสงฆ์ท่านว่ายังงั้นขนาดท่านเองยังจุดเทียนเลยคือไม่ใช้ของอะไรที่ฟุ่มเฟิือยเลยเอ่อนอกเรื่องไปนิดสรุปคือท่านปฏิบัติดีแล้วกันครับ
มาถึงเรื่องแปลกเรียกว่าฤธิ์ได้รึเปล่านะวันนั้นผมกับอาจารย์ไปนั่งใต้ต้นไม้คือมีแคร่อาจาร์ชอบไปนั่งภาวนาตรงนั้นผมตามไปรับใช้เห็นท่านหยิบหินมาก้อนหนึ่งกลมๆแบนๆประมาณเกือบเท่าไข่ไก่แต่แบนนะครับท่านกำไว้ในมือเห็นท่านหลับตาแปปหนึงแบมืออกมาหินแตกเป็น2ชิ้นครึ่งๆพอดีแล้วท่านก็หันมาหาผมแล้วยิ้มๆผมเห็นแบบนั้นเลยยื่นปากกาเมจิกให้ท่านบอกท่านว่าเขียนคาถาไส่ให้หน่อยจะเอาไปบูชาท่านก็เขียนให้ท่านวาดรูปพระพุทธรูปแล้วก็คาถาให้ผมก็เอามาไว้บูชาตอนนี้ยังอยู่หิ้งพระที่บ้านอยู่เลยส่วนคาถานั้นสึกหายไปตามเวลาเพราะผ่านมาเกือบ20ปีละครับที่แปลกใจคือกำหินแตกนี่ละครับหินนั้นผมดูแล้วถึงจะแบนแต่ก็หนาพอดูยากมากที่จะกำแตกได้ นั่นทำให้ผมแปลกใจมากทีเดียว
ส่วนคาถานั้นผมจำได้ขึ้นใจเลยครับ

 

ดีครับ ยังไงก็เพิ่มศรัทธาให้เราได้

 

เคยเจอผู้ทรงศีล ที่มีเจโตปริยญาณ และเห็นกรรมของผู้อื่นได้ และท่านเคยบอก เกี่ยวกับวิธีการหายตัวไว้ด้วย แต่ผมมันโง่ จำไม่ได้ + ปฏิบัติไม่ได้