เป็นพระอรหันต์ทำไมน้ำตาร่วง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 13 มีนาคม 2012.

  1. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    แล้วผมพิมพ์ไป มันตัว ฎ หรือไงหละครับ

    ผมพิมพ์ไป ตัว ฎ ปะตัก ครับ

    สรุปว่ารู้แล้วใช่มั้ยว่าพระพุทธเจ้าแสดงปาฎิหาริย์ไว้จริง

    แล้วอย่าไปบอกใครเค้าหละว่าท่านทรงรังเกลียด
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระพุทธเจ้าทรงรังเกลียดอิทธิปาฏิหาริย์ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ครับ
     
  3. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ยมกปาฏิหาริย์ ผู้ที่ทำได้คือพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์เท่านั้น
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เรื่องพระปิณโฑลภารทวาชเถระ
    [๓๑] สมัยต่อมา ท่านพระมหาโมคคัลลานะกับท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะ ครองอันตร
    วาสกในเวลาเช้าแล้ว ถือบาตรจีวร เข้าไปบิณฑบาตในเมือง ราชคฤห์ อันที่แท้ ท่านพระปิณโฑล
    ภารทวาชะ เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ แม้ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์
    จึงท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะ ได้กล่าวกะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ไปเถิด ท่านโมคคัลลานะ
    จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้นของท่าน แม้ท่านพระโมคคัลลานะก็กล่าวกะท่านพระปิณโฑลภาร
    ทวาชะว่า ไปเถิด ท่านภารทวาชะ จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้นของท่าน จึงท่านพระปิณโฑล
    ภารทวาชะเหาะขึ้นสู่เวหาส ถือบาตรนั้นเวียนไป รอบเมืองราชคฤห์ ๓ รอบ ฯ
    [๓๒] ครั้งนั้น ท่านราชคหเศรษฐีพร้อมกับบุตรภรรยา ยืนอยู่ในเรือน ของตน ประคอง
    อัญชลีนมัสการ กล่าวนิมนต์ว่า ท่านเจ้าข้า ขอพระคุณเจ้าภารทวาชะ จงประดิษฐานในเรือนของ
    ข้าพเจ้านี้เถิด จึงท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ ประดิษฐานในเรือนของท่านราชคหเศรษฐี ขณะนั้น
    ท่านราชคหเศรษฐีรับบาตรจากมือของท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ แล้วได้จัดของเคี้ยวมีค่ามาก
    ถวายท่าน พระปิณโฑลภารทวาชะ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะได้รับบาตรนั้นไปสู่พระอาราม
    ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะปลดบาตรของราชคหเศรษฐี ไปแล้วและชาว
    บ้านเหล่านั้นมีเสียงอึกทึกเกรียวกราว ติดตามพระปิณโฑลภารทวาชะไปข้างหลังๆ พระผู้มีพระภาค
    ได้ทรงสดับเสียงอึกทึกเกรียวกราว ครั้นแล้ว ตรัสถามท่านพระอานนท์ว่า อานนท์ นั่นเสียงอึกทึก
    เกรียวกราว เรื่องอะไรกันท่านพระอานนท์กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ
    ปลดบาตร ของท่านราชคหเศรษฐีลงแล้ว พวกชาวบ้านทราบข่าวว่า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ
    ปลดบาตรของท่านราชคหเศรษฐีลง จึงพากันติดตามท่านพระปิณโฑลภารทวาชะมา ข้างหลังๆ
    อย่างอึกทึกเกรียวกราว พระพุทธเจ้าข้า เสียงอึกทึกเกรียวกราวนี้ คือเสียงนั้น พระพุทธเจ้าข้า ฯ
    [๓๓] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพราะเหตุ เป็นเค้ามูลนั้น
    ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะว่า ภารทวาชะ ข่าวว่า
    เธอปลดบาตรของราชคหเศรษฐีลง จริงหรือ
    ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ภารทวาชะ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม
    ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ไฉน เธอจึงได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นธรรม
    อันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่งบาตรไม้ ซึ่งเป็นดุจซากศพเล่า มาตุคาม
    แสดงของลับ เพราะเหตุแห่งทรัพย์ซึ่งเป็นดุจซากศพแม้ฉันใด เธอก็ฉันนั้นเหมือนกัน ได้แสดง
    อิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่งบาตร ไม้ซึ่งเป็น
    ดุจซากศพ การกระทำของเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน ที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้ว
    ทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ซึ่ง
    เป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พวกเธอจงทำลายบาตรไม้นั่น บดให้ละเอียด ใช้เป็นยาหยอดตาของภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุไม่พึง
    ใช้บาตรไม้ รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
     
  5. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ------------------

    ยังดื้อด้านอ้างถึงพระองค์ในทางที่ผิดอีก
    คุณควรจะหาอ่านให้มากกว่านี้ ไม่ใช่สรุปอะไรไปก่อน

    ความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าท่านทรงสนับสนุนเรื่องฤทธิ์ และใช้ฤทธิ์อยู่บ่อย ๆ แต่ทรงใช้เมื่อเห็นว่า เกิดประโยชน์เท่านั้น ไม่ใช่แสดงฤทธิ์ เล่นสนุก ๆ หรือ แสดงตามคำขอร้อง การแสดงฤทธิ์ เป็นเครื่องช่วยให้เกิดความเลื่อมใสเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องตัดอาสวะกิเลสโดยตรง

    ดูสาระคดีให้มากๆ ซะด้วย พระไตรฯมีทั้งจริงและแต่งขึ้น
    ไม่ใช่จะเอาพระไตรฯที่ผิดๆ มาอ้าง ผู้มีปัญญาจะรู้ได้เมื่อมันขัดแย้งกับข้อเท็จจริง




     
  6. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เหมือนจะได้ความรู้ดีครับ
     
  7. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    พระพุทธเจ้าห้ามสาวกแสดงปาฏิหาริย์ แม้พระองค์จะแสดงเองก็ตาม
    และปาฏิหารย์ก็ไม่ได้เป็นตัววัดว่าจิตหลุดพ้น คุณsutanon จะเชื่อตามนั้นก็ให้คุณเชื่อไปเถอะ
    คนที่หลงทางมีอยู่มากมายจนประมาณไม่ได้ ทำไมต้องสนใจคนๆเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2012
  8. ksriuta

    ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +2,970
    อ่านมานาน รังเกียจ เขาสะกดด้วย ไม่ใช่หรือครับ หรือผมแก่แล้ว สมัยนี้เขาใช้ รังเกลียด หรือ

     
  9. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    คุณบำรุง แสดงว่าคุณไม่ได้เคยอ่านพระไตรฯบ้างเลย
    ว่าพระพุทธเจ้าทรงแสดงปาฎิหาริย์ไว้อย่างไร มากน้อยแค่ไหน

    คุณไม่มีความรู้ก็ไม่ควรจะแสดงความเห็นปรามาสผู้อื่นเค้า
     
  10. ฟาสิรี

    ฟาสิรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    396
    ค่าพลัง:
    +729

    ใช่ ความรู้เยอะกันทั้งนั้น ภาษาไทย ภาษาตัวเองยังใช้ไม่ถูก ???
     
  11. rubian

    rubian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +483
    เฮ่อ หลังๆรู้สึกจะมีคนประเภทนี้เข้ามาบ่อยจัง เฮ่อ มั่นคงไว้ครับ สบายๆ กรรมจัดสรรให้แน่ๆไม่ช้าก็เร็จครับ วางใจเถอะ
     
  12. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    อืม... ใช่รังเกียจ คำบางคำ ก็สับสน เช่น น่าเกลียด ก็ใช้คำนี้ ความหมายคล้ายกัน

    สงสัยต้องเช็คทุกคำซะแล้วแฮะ


    m35.gif
     
  13. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [๓๓] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพราะเหตุ เป็นเค้ามูลนั้น
    ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามท่านพระปิณโฑลภาร ทวาชะว่า ภารทวาชะ ข่าวว่า
    เธอปลดบาตรของราชคหเศรษฐีลง จริงหรือ
    ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ภารทวาชะ การกระทำของเธอนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม
    ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ไฉน เธอจึงได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นธรรม
    อันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่งบาตรไม้ ซึ่งเป็นดุจซากศพเล่า มาตุคาม
    แสดงของลับ เพราะเหตุแห่งทรัพย์ซึ่งเป็นดุจซากศพแม้ฉันใด เธอก็ฉันนั้นเหมือนกัน ได้แสดง
    อิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่งบาตร ไม้ซึ่งเป็น
    ดุจซากศพ การกระทำของเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน ที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้ว
    ทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ซึ่ง
    เป็นธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พวกเธอจงทำลายบาตรไม้นั่น บดให้ละเอียด ใช้เป็นยาหยอดตาของภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุไม่พึง
    ใช้บาตรไม้ รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    "รังเกียจ" ถูกแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  15. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    สรุปว่า คุณอุรุเวลาก็เอาแต่ข้ออ้างบางตอนมา
    แล้วตอนที่พระพุทธเจ้าให้พระโมคคัลลาแสดงฤทธิ์ ไม่นำมาคู่กันบ้างหละท่าน

    อย่าคิดแต่จะเอาความเห็นที่เข้าข้างตนมาแอบอ้าง
    ทั้งๆ ที่ท่านเองนั้นเข้าใจเพียงด้านเดียว
     
  16. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    เอ... หรือว่าไม่รู้อีกว่าพระพุทธเจ้าให้พระโมคคัลลาแสดงฤทธิ์อะไร

    เหมือนกับที่ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าได้แสดงยมกปาฎิหาริย์
     
  17. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    พิจารณาธรรมไม่แยบคายก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าจะอ่านพระไตรปิฎกกต้องอ่านให้ครบถ้วน ดูลึกไปถึงเหตุผลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงจำแหนกไว้เป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าเห็นแค่ประโยคเดียวแล้วก็เอามาขยายผลด้วยความเขลา
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "อึดอัด ระอา เกลียดอิทธินาปาฏิหาริย์" ใช่ทรงตรัสเช่นนั้นในเกวัฎฎสูตร แต่ทำไมบางครั้งก็ทรงสั่งให้ภิกษุแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ต่อหน้าสาธารณชนทั้งที่ทรงกำหนดวินัยห้ามไม่ให้พระภิกษุแสดงฤทธิ์ มันไม่ดูขัดแย้งกันเองหรือ จริงๆแล้วไม่ขัดแจ้งเลยเพราะเหตุผลในการกำหนดวินัยนั้นมันมีอยู่ แต่คนมักไม่อ่านหรือแกล้งทำเป็นไม่เห็น การเอาเอาประโยคเพียงประโยคเดียวไปขยายผลจนเกินขอบเขตโดยไม่มองเหตุผลที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้ในพระสูตรนั้นๆ เป็นเพราะการเอาทิษฐิของตนเองเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอาธรรมเป็นที่ตั้ง
    ในพระวินัยการบัญญัติห้ามภิกษุแสดงฤทธิ์ก็เพราะพระปิณโฑลภารทวาชซึ่งเป็นพระอรหันต์แสดงฤทธิ์เพราะเหตุแห่งบาตรไม้จันทร์ การที่ภิกษุประกอบเหตุเพื่อลาภสักการะย่อมเป็นที่น่าติเตียน ยิ่งพระอรหันต์ทำก็อาจถูกคนภายหลังนำไปอ้างอิงได้ ศาสนาก็เสื่อม แล้วยิ่งนานๆไปเมื่อไม่มีพระพุทธองค์อยู่คอยชี้ขาด ด้วยเหตุนี้จึงทรงตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการบัญญัติวินัยนี้ขึ้นมาเพื่อความยั่งยืนของพระศาสนา
    แล้วทีทรงรังเกียจในอิทธิปาฎิหาริย์ก็ทรงแสดงเหตุผลไว้ในเกวัฎฎสูตรอย่างชัดเจนว่า เพราะมีวิชาอื่นๆที่อาจทำเลียนแบบฤทธิ์ทางใจได้ (เหมือนอย่างปัจจุบันนี้ พวกนักมายากลแสดงสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ จนมีบางพวกเชื่อไปว่าเป็นอภิญญาก็มี) คนที่ไม่เชื่อก็จะวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหายได้ นี่คือเหตุผลที่ทรงแสดงไว้ว่าทำไมทรงรังเกียจ เรื่องมีอยู่แค่นี้ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
    ทั้งๆที่มีเหตุผลปรากฎชัดในพระไตรปิฎกแต่บางหมู่บางคณะกลับทำเป็นมองไม่เห็น ตั้งหน้าตั้งตาโจมตีเรื่องปาฏิหาริย์อย่างไม่ลดละ ทำราวกับเป็นสิ่งชั่วร้ายเลวทราม ก็เพราะทิษฐิลึกๆที่มีในใจ จึงบิดเบือนพระธรรมแบบไม่กลัวบาป
     
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมไม่สนใจใน "อิทธิปาฎิหาริย์" ท่าน sutanon สนใจเป็นเรื่องของท่าน ใครทำอิทธิปาฎิหาริย์ได้ผมไม่สนใจครับ เทวดา พรหม และมนุษย์หลายคนก็ทำได้ เห็นกาย เวทนา จิต ธรรม อัศจรรย์กว่าเยอะครับ
     
  19. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    -----------------

    ผมไปบอกตอนไหนว่าผมสนใจปาฎิหาริย์
    ผมแค่นำมาหักล้างกับคำที่คุณกล่าวไว้ ว่าพระพุทธเจ้าทรงรังเกียจ
    แล้วจริงหรือไม่หละครับ ว่าพระองค์ได้แสดงยมกปาฎิหาริย์ไว้จริง
    อีกทั้งยังให้พระโมคคัลลาใช้ฤทธิ์ด้วย

    ในที่นี้ที่เราคุยกันประเด็นคือ คุณกล่าวสิ่งไม่จริง
    ผมจึงแก้ต่างให้พระพุทธเจ้า ก็เท่านั้น

    ว่าแต่รู้หรือไม่พระพุทธเจ้าให้พระโมคคัลลาแสดงฤทธิ์อะไร
    เออ.... ดูสิจะรู้เหมือนตอนยมกปาฎิหาริย์หรือไม่
    ไม่รู้ก็ไปหยิบอะไรมามั่วไปหมด ส่อให้เห็นคุณนั้นไม่ได้มีภูมิรู้ และละเอียดในการเข้าใจในพระไตรฯ เลยแม้แต่น้อย
     
  20. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    คุณอุรุเวลา

    ถ้าคุณจะกล่าวถึงพระพุทธเจ้า ก็ควรจะเข้าใจในเจตนาของพระองค์ด้วย
    อย่างที่คุณนำมา ว่าการแสดงฤทธิ์เพื่อแลกกับบาตร หรือกับการกระทำอันใดไม่เหมาะสม
    พระองค์จึงตรัสไว้เช่นนั้น กันเอาไว้

    ถ้าพระองค์ทรงรังเกียจจริง มีหรือจะแสดงเองหรือรับสั่งให้สาวกแสดงฤทธิ์ในวาระต่างๆ

    ควรจะเข้าใจในเหตุผลและเจตนาที่แท้จริงด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...