ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอนโธนี เฉิง หมอดูชื่อดังซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยในฮ่องกง เปิดเผยคำทำนายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2555 ที่มีงูใหญ่หรือมังกรเป็นปีนักษัตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่จีน หรือที่เรียกว่าเทศกาลตรุษจีน
โดย แอนโธนี เฉิง ทำนายว่า เศรษฐกิจโลกจะยังแกว่งไม่มีความแน่นอนและไร้เสถียรภาพ เนื่องจากเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งหากอยากลงทุน รัสเซียและจีนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ส่วนเรื่องภัยพิบัติ เอเลียน เหยียว ซินแสชื่อดังอีกคนทำนายว่า ในปีมังกรยังจะมีน้ำมากและยังมีหลายพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวและเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้หลายพื้นที่ อย่าง ไทยและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนจะเกิดน้ำท่วมหนักอีก ส่วนอินโดนีเซีย ปากีสถาน อินเดีย และหลายมณฑลในจีน อย่าง เสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว จะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง
Mthai News



MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าโฆษกของบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง ฮิตาชิ (HITACHI)ได้ออกมาแถลงว่า บริษัทฮิตาชิตัดสินใจเลิกผลิตโทรทัศน์ ในปลายเดือนกันยายนนี้ แต่ยังคงจำหน่ายโทรทัศน์ให้บริษัทต่างชาติภายใต้ชื่อ “Wooo” ที่ผลิตโดยบริษัทคู่สัญญา
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของฮิตาชิ มีขึ้นในช่วงที่บรรดาผู้ประกอบการญี่ปุ่นหลายแห่ง กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแข็งค่าของเงินเยน ส่งผลกระทบต่อยอดขายในตลาดต่างประเทศและทำให้เงินที่ได้จากการดำเนินธุรกิจที่ส่งกลับประเทศลดลงไปด้วย
นอกจากนี้การแข่งขันด้านราคาส่งผลกระทบต่อรายได้จากการจำหน่ายทีวี ของบรรดาผู้ผลิตสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกหลายแห่ง
Mthai News



โฮเซ กราซีอาโน ดา ซิลวา
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา นายโฮเซ กราซีอาโน ดา ซิลวา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(เอฟเอโอ) กล่าวในที่ประชุมรัฐมนตรีเกษตรจาก 64 ชาติ ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีว่า ประชาชนในประเทศร่ำรวยทิ้งเศษอาหารมากถึง 220 ล้านตันในแต่ละปี หรือเท่ากับผลผลิตอาหารทั้งหมดในแอฟริกาตอนล่างของทะเลทรายซาฮารา
ทั้งนี้ สถิติของปี 2553 พบว่า อาหารที่ผลิตได้ในโลก กลายเป็นเศษอาหารเหลือทิ้งถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 1,300 ล้านตัน ขณะที่มีประชากรทั่วโลกต้องเผชิญความหิวโหยถึง 925 ล้านคน
ผอ.เอฟเอโอ กล่าวด้วยว่า มีความจำเป็นที่จะต้องให้การศึกษาเรื่องการกินอย่างถูกต้องให้มากกว่านี้ อีกทั้งการที่พฤติกรรมการบริโภคอาหารฟุ่มเฟือยจากประเทศร่ำรวยแผ่ขยายไปทั่วโลก จะนำไปสู่ความต้องการทรัพยากรธรรมชาติอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งที่ประชุมยังได้เรียกร้องการบริโภคอาหารอย่างมีความรับผิดชอบและรอบคอบ เพื่อลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง
ด้านนายดาซีออง ซีโอลอส กรรมาธิการเกษตรสหภาพยุโรป กล่าวว่า อาหารที่เหลือเฟือและมีอยู่ทุกหนแห่งในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งการปล่อยอาหารบูดเน่า เท่ากับเป็นการใช้เงิน ทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานไปโดยเปล่าประโยชน์
ขณะที่นายซุสโวโน อาริราฟ รัฐมนตรีเกษตรอินโดนีเซีย กล่าวว่า ในแอฟริกาผู้คนต้องทุกข์ทรมานจากความอดอยากหิวโหย ส่วนประเทศพัฒนาแล้วผู้คนก็กินอาหารมากเกินไปจนทุกข์ทรมานจากโรคอ้วน
Mthai News



MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สวนสัตว์หลายแห่งในแอฟริกาเปิดบริการเกมล่ายีราฟ เมื่อทำสำเร็จจะได้ถ่ายภาพร่วมกับร่างไร้วิญญาณของยีราฟหรือสามารถตัดอวัยวะบางส่วนกลับไปเป็นของฝากได้
เกมไล่ล่ายีราฟนี้กำลังได้รับความนิยมของชาวอเมริกันและยุโรปที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปแอฟริกา บางคนไปกันเป็นครอบครัว เพราะเด็กๆชอบคอยาวๆและขนตายาวๆของพวกมัน โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 10,000ปอนด์ และใช้เวลา 3-5 วันในการล่ายีราฟแต่ละครั้ง และเพิ่มค่าไกด์นำทางอีก 1,000 บาทต่อวัน โดยใช้ปืนไรเฟิล.458 เป็นอาวุธ เมื่อล่าได้แล้ว ก็จะได้ถ่ายรูปด้วย หรือหากต้องการนำอวัยวะบางส่วนเช่น ศีรษะ คอ กลับไปเป็นของที่ระลึกก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,500 ปอนด์
ทั้งนี้ เกมไลล่านี้เริ่มเป็นที่นิยมในขณะที่จำนวนของยีราฟเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว แต่การล่ายีราฟยังเป็นเรื่องถูกกฎหมายในแอฟริกาใต้ ในเมืองนามีเบียและซิมบับเว แม้ว่าสถิติจำนวนยีราฟจะลดลงมาก จากในปี 1998 จากจำนวนกว่า 140,000 ตัว เหลือเพียง 8,000 ตัว ขณะที่ในหลายประเทศของแอฟิกา ยีราฟได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ทั้งประเทศแองโกลา มาลีและไนจีเรีย
อย่างไรก็ตาม ดร.จูเลียน เฟนเนซซี่ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ยีราฟกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้จำนวนยีราฟลดลงนั้นมาจาก การที่บางประเทศในแอฟริกาที่การล่าสัตว์เป็นเรื่องถูกกฎหมายนั้นซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมาก โดยเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือ การที่ผู้ล่าไม่มีควมรู้ เมื่อยิงไม่โดนอวัยวะสำคัญก็ทำให้ยีราฟนั้นตายอย่างทรมาน นอกจากนี้ยังรวมถึงปัจจัยการบุกรุกเพื่อไล่ล่าก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้จำนวนยีราฟลดลงอย่างรวดเร็ว
Mthai News

เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

แท็ก : ล่ายีราฟ, แอฟริกา

 

สงสารยีราฟ จริงๆ

ขอให้มันไปดีอย่างสงบ T_T

 

น่าสงสารจริง ชีวิตที่ไม่สามารถอุทรณ์ได้
คนเราจิตใจทำด้วยอะไร

 

น่าสมเพชคนมากกว่าเพราะมีนรกเป็นที่ไป น่าสงสารเหล่าเวไนยสัตว์ที่มีโอกาสเข้าถึงพระพุทธศาสนาน้อย ศาสนาอื่นก็แค่ของหลอกลวง ซ้ำเติมเวไนยสัตว์เข้าไปใหญ่ ไม่งั้นพวกตายแล้วฟื้นไม่กลัวบาปสุดขั้วหัวใจเพราะไปเห็นของดีในนรกมา ทำบุญเลี่ยงบาปสุดตัว ไม่มีซ่าส์ต่อ... ก็ขอให้ทุกท่านได้แต่สงสารสมเพชคนชั่วดีกว่า รวมทั้งเด็กพวกนี้ที่ซึมซับของไม่ดีต่ออีก เฮ้อ.....

 

นางนลินี ปาณานนท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในสตอกโฮล์ม เปิดเผยว่า นิตยสาร Travel News ซึ่งเป็นนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดัง ได้จัดงานประกาศผลและมอบรางวัลการท่องเที่ยว ประเทศนอร์เวย์ ประจำปี 2555 (Norway Grand Travel Award 2012) ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้แชมป์ประเทศท่องเที่ยวยอดเยี่ยม (The Best Tourist Country) ติดต่อกันเป็นปีที่ 9 และ การบินไทย ยังได้รับรางวัลสายการบินนานาชาติยอดเยี่ยม (The Best Intercontinental Airline Operate from Norway) ติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ด้วย
Mthai News

เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com





MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในเว็บไซต์ยูทูปมีคนนำคลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวจีน ที่ถ่ายติดภาพวิญญาณของเจ้าหญิงไดอาน่า ปรากฎบนซุ้มหน้าต่างกระจกสี ในโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
ทั้งนี้ในตอนแรกที่ถ่าย นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่ได้สังเกตุเห็นความผิดปรกติใดๆ จนกระทั้งนำคลิปไปเปิดที่บ้าน จึงเห็นภาพที่คล้ายกับ เจ้าหญิงไดอาน่า ปรากฎที่ซุ้มหน้าต่างกระจกสี

อย่างไรก็ตามนายไมเคิล โคเฮน และผู้เชียวชาญเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ กำลังพิสูจน์คลิปดังกล่าว ซึ่งนายไมเคิล กล่าวว่า ภาพดังกล่าวอาจเกิดจากการหักเหของแสงกับกระจก จนทำให้เกิดภาพลวงตา หรือไม่ก็อาจเป็นภาพวิญญาณของเจ้าหญิงไดอาน่าจริงๆ ก็ได้ เนื่องจากพระองค์มีความผูกพันกับสกอตแลนด์
Mthai News

เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

แท็ก : คลิปติดวิญญาณ, เจ้าหญิงไดอาน่า



ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
เศร้า! คนร้ายใช้ของมีคมผ่าท้องหญิงตั้งครรภ์ ขโมยลูกที่แอฟริกาใต้
เว็บไซต์ข่าวเดลี่เมล์รายงานว่า เกิดเหตุสยองขึ้นที่แอฟริกาใต้ เมื่อคนร้ายใช้ของมีคมกรีดเข้าที่หน้าท้องของหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่ง เพื่อขโมยลูกในท้อง เป็นเหตุให้ผู้เป็นแม่เสียชีวิต แต่โชคดีที่เด็กในท้องรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองรันด์ฟอนเทน ทางตะวันตกโจฮันเนสเบิร์ก โดยศพของนางบาเลนเซีย เบห์เรนส์ วัย 34 นอนจมกองเลือดอยู่ในบ้านของ ลอเรตตา คุก เพื่อนบ้านวัย 29 ปี คาดว่าเสียเลือดมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ได้รับโทรศัทพ์แจ้งเหตุฉุกเฉินจากเพื่อนบ้านของผู้ตายว่ามีเด็กคลอดอยู่ในบ้าน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบผู้หญิงรายหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่
“ระหว่างการตรวจสอบเราพบว่าท้องของเธอถูกกรีดและทารกถูกขโมยไป แต่ไม่พบร่างของเด็กทารก จึงเกิดข้อสงสัยว่าอาจเกิดการขโมยไป “

เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบภายหลัง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ท้องถิ่นแจ้งกับตำรวจว่า คุก ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน นำทารกรายหนึ่งมาตรวจร่างกายที่คลินิก ขณะที่ตัวเด็กทารก มีบาดแผลถูกกรีดบริเวณศีรษะ
ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นก็ได้ข้อมูลที่นำไปสู่การเข้าจับกุม คุก และอยู่ระหว่างการรควบคุมตัวหลังศาลปฏิเสธคำขอยื่นประกันตัว และคดีกำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
Mthai News

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เหนือตอนล่าง-อีสาน -กลาง-ตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิลด 1-3 องศา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 24 มกราคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว

ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และอุณหภูมิจะลดลงได้ 1-3 องศาเซลเซียส

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ ตอนบนของภาคอากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


ภาคกลาง อากาศเย็นทางตอนบนของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เร่งจ่ายเงินผู้ประกันรถยนต์-บ้านน้ำท่วม </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วานนี้(22 ม.ค.) นายชยธรรศน์ คุ้มปาลอินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยพระนครศรีอยุธยา

เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินให้กับผู้ทำประกัน ว่า จากการสำรวจพบว่ารถยนต์ที่ประสบภัยจากน้ำท่วมในพื้นที่ เกิดความเสียหายน้อยมากหากเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นที่ได้รับผลกระทบ โดยมีรถยนต์เสียหายเพียง 1,200 คัน ซึ่งทางสำนักงาน ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีน้ำท่วมทั้งคันและมีการคืนซาก ผู้เอาประกันจะได้รับเงินภายใน 15 วันนับจากยื่นคำร้อง โดยบริษัทประกันทั้ง 34 แห่งได้ทยอยจ่าย คาดว่าภายในเดือนมกราคมนี้ รถคืนซากจะจ่ายได้ทั้งหมด ส่วนการประกันที่อยู่อาศัยบริษัทได้ทยอยจ่ายใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน ซึ่งมีเงินทุนประกันเกือบ 2,000 ล้านบาท


สำนักงาน คปภ.พระนครศรีอยุธยาได้ทำหนังสือไปยังส่วนราชการทุกพื้นที่ ให้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เอาประกันได้ทราบว่า

รายใดยังไม่ได้รับสามารถแจ้งได้ที่สำนักงาน คปภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย ส่วนกรณีการซ่อมรถยนต์ต้องล่าช้า เนื่องจากโรงงานได้รับผลกระทบ จึงทำให้ขาดอะไหล่หรือมีรถยนต์ที่ต้องซ่อมจำนวนมาก พร้อมรับปากภายในเดือนกุมภาพันธ์จะดำเนินการได้แล้วเสร็จ หรือกรณีมีอะไหล่และมีการซ่อมล่าช้า ผู้เอาประกันสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากบริษัทคืนได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เม็กซิโกไข้หวัด 2009 คืนชีพดับแล้ว 9 ราย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก ในกรุงเม็กซิโกซิตี้ แถลงว่า

ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดครั้งใหม่ ของเชื้อไวรัส เอช1 เอ็น1 หรือที่เรียกกันว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศเม็กซิโก เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 9 ราย และตรวจพบผู้ติดเชื้ออีก 573 คน หรือประมาณ 90 % ของผู้ที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ และเข้ารับการตรวจรักษา ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 333 คนในวันพฤหัสบดี

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่า จะยังไม่มีการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งใหม่ เนื่องจากทางการได้เริ่มเฝ้าระวัง และติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว

โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แพร่ระบาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา ในเดือน เม.ย. 2552

ก่อนจะแพร่ระบาดไปทั่วดลกอย่างรวดเร็ว มีผู้เสียชีวิตประมาณ 17,000 ราย เฉพาะที่เม็กซิโกเสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 1,250 คน องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ยุติลงในปี 2553 เมื่อเชื้อโรคได้กลับคืนสภาพสู่รูปแบบของโรคตามฤดูกาล.
<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

24 ม.ค. 55 หนังรอบดึก

29 ก.พ.50 เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง
ที่ปลอดภัยคือพื้นที่ริมแม่น้ำโขง

เคอิสรากับเสาอากาศ
ให้ เคอิสราแจ้งเตือนภัย

13 มี.ค.51 แมลง พายุ ล้มลุก นักแสดง
ภัยพิบัติที่เกิด จะต้องเจอกับปัญหามากมาย ผู้คนจะไม่เชื่อในสิ่งที่พูด

14 มี.ค. 51 ชุมนุมนาฬิกาโลก
นอกจากในไทยที่มีผู้นำการหนีภัยแล้วทั่วโลกก็มีเช่นกัน

หมายเหตุ คำแปลหาดูได้จากหนังสือทำนายนิมิต

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

อ้อ คงเป็นน้อยหน่าเหล็กประเภทต่างๆ

 

๕๕๕๕ กระตุ้นหน่อยเดียวมาเป็นพรวดเชียว แล้วก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า ยกเอาบทกลอนโน่นนี่ มาตอบโต้ เปลี่ยนวิธีอื่นบ้างก็ได้นะครับ ออกจะน่าเบื่อ ว่าแต่คนทำเป็นเอาธรรมะมาว่าคนอื่นนี่ ยังไม่สามารถอวางเฉยได้ เปรียบไปก็เหมือนโจรถือพระไตรปิฎกหรือเปล่าครับ

 

<IFRAME style="POSITION: absolute; WIDTH: 10px; HEIGHT: 10px; TOP: -9999em" id=twttrHubFrame tabIndex=0 src="http://platform.twitter.com/widgets/hub.1326407570.html" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>สังเกตมาหลายทีแล้ว เรื่องวาฬเกยตื้น มาไล่เรี่ยกับแผ่นดินไหว รึคลื่นยักษ์เรื่อย

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วาฬนำร่อง กลับมาเกยตื้นที่ชายหาดนิวซีแลนด์ วานนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>24 มกราคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่หน่วยงานอนุรักษ์ของนิวซีแลนด์ รายงานว่า ฝูงวาฬนำร่อง 40 ตัว ได้ว่ายกลับมาเกยตื้นที่หาดโกลเดน เบย์ บนเกาะใต้ อีกครั้งวันนี้ ภายหลังพวกมันเพิ่งได้รับการช่วยเหลือจากอาสาสมัครจนสามารถกลับลงสู่ทะเลไปได้เมื่อ 1 วันก่อน

โดยวาฬฝูงนี้เป็นฝูงเดียวกับวาฬนำร่อง 100 ตัวที่ว่ายมาเกยตื้นที่หาดแห่งนี้เมื่อวาน จนทำให้มีวาฬล้มตายไปกว่า 30 ตัว

ทั้งนี้ การเกยตื้นของวาฬจำนวนมาก มีให้เห็นบ่อยครั้งแถบชายหาดของนิวซีแลนด์ จนถึงขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของปรากฏการณ์นี้

แต่เบื้องต้นคาดกันว่าน่าจะเกิดจากคลื่นโซนาร์ของพวกมันถูกรบกวนขณะว่ายเข้าเขตน้ำตื้นหรือเมื่อมีสมาชิกในฝูงตัวใดป่วย แล้วว่ายขึ้นฝั่ง ทำให้ตัวอื่นว่ายตามมาด้วย


Fiji Map

Fiji Islands Map - on World Map



South Pacific with Fiji Islands Map



South Pacific with Fiji Islands Map


<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหวกว่า 6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งฟิจิ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>24 มกราคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 6.3 บริเวณนอกชายฝั่งประเทศฟิจิ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกราว 582 กิโลเมตร และห่างจากกรุงซูวาไปทางใต้ประมาณ 759 กิโลเมตร

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิก ไม่ได้ประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์ในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ฟิจิ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ตั้งอยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง

วงแหวนแห่งไฟมีความยาวรวมประมาณ 40, 000 กิโลเมตร แผ่นดินไหวประมาณร้อยละ 90 ของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลกและกว่าร้อยละ 80 ของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ล้วนเกิดขึ้นในแนววงแหวนแห่งไฟ


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฟิจิสั่งอพยพด่วน! หลังฝนกระหน่ำ น้ำท่วมเกาะวิติเลวู</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>24 มกราคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กระทรวงสารสนเทศของฟิจิ รายงานว่า มีชาวนาจมน้ำเสียชีวิต 2 คน และประชาชนอีกกว่า 700 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หลังเกิดน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักกระหน่ำทั่วเกาะวิติเลวู ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าถนนที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือทางตะวันตก ถูกตัดขาดหลายสาย ขณะที่ทางการสั่งระดมกำลังทหารลงพื้นที่ช่วยอพยพนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเร่งด่วน ส่วนสถานการณ์ฝนตกหนักคาดว่าจะยังต่อเนื่องไปจนถึงวันพฤหัสบดี

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ที่ผมได้ยินจากคนในพื้นที่เค้าเล่าเรื่องหลวงพ่ออุตตมะให้ฟังอะครับว่า(อันนี้โปรดใช้วิจรณญาณครับ เพราะผมไม่รู้จริงเท็จประการใด) ชาวบ้านคนนึงเล่าให้ฟังว่า ครั้งนึงหลวงพ่ออุตตมะพูดทำนองประมานว่า จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามและจะใช่อาวุธนิวเคลียร์ในการต่อสู้กับฝ่่ายตรงข้าม แล้วหลวงพ่ออุตตมะก็บอกให้ชาวบ้านเอาก้อนหินก้อนนึง แล้วก็เสกให้แล้วบอกกับชาวบ้านว่า เมื่อน้ำท่วมถึงวัดท่าซุงเมื่อไหร่อีกไม่นานจะเกิดสงครามโลก อะไรทำนองนี้เหละครับ หลายท่านอาจจะงงว่าผมมาเล่าทำไมแล้วเกี่ยวกับเสมาเล็กตรงไหน

เกี่ยวตรงที่ว่า ประคำตำหรับหลวงพ่ออุตตมะสามารถกันรังสีนิวเคลียร์ได้ครับ ชาวบ้านเค้าบอกว่าทุกอย่างที่หลวงพ่ออุตตมะเสกสามารถกันรังสีนิงเคลียร์ได้ ล่าสุดปีที่ผ่านมาน้ำท่วมถึงต้นไทรวัดท่าซุงแล้วตามที่ชาวบ้านอ้างว่าหลวงพ่ออุตตมะบอกแล้ว ชาวบ้านก็เลยหาเก็บวัตถุมงคลหลวงพ่ออุตตมะกันใหญ่ครับ อันนี้ไม่รู้จริงเท็จประการใด หรือเป็นแค่การกล่าวอ้างเพื่อปั่นวัตถุมงคลของคนในพื้นที่ก็ช่าง (ข้อความบางส่วนของคุณ liontoto)

http://hilight.kapook.com/view/66830

เครียด! อังกฤษ-ฝรั่งเศส ส่งเรือรบมุ่งเข้าฮอร์มุซ (ไอเอ็นเอ็น)

กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลง เรือรบอังกฤษประสานความร่วมมือกับเรือรบฝรั่งเศส กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ช่องแคบฮอร์มุซ เตรียมตอบโต้โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน


สัญญาณเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ติดตามดูกันต่อไป กรรมเกิดจากการกระทำ ถ้ามนุษย์หยุดความขัดแย้ง ถอยหลังกันคนละก้าวก็คงไม่เกิด แต่ถ้าเดินตามเกมส์คนที่ชักใยอยู่ก็คงหนีไม่พ้น

 

สิ่งที่โลกไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้.....


​

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lazaza

25 ธ.ค. 53

เมฆสีแดงกับการทะลายของตึก

ในภาพ(นิมิต)ได้เห็นก้อนเมฆสีแดง ที่สามารถทำให้บ้านเกิดเพลิงไหม้ได้ อีกภาพได้เห็นอาคารหลายแห่งเกิดการถล่มทะลายลงมา

ขอขยายภาพให้ชัดเจนขึ้นอีกนิด เมฆสีแดงที่ผมได้เห็นจะมีลักษณะทรงกลมรี ถ้ามองในภาพรวมก็จะเห็นเป็นสีแดงทั้งก้อนแต่ถ้ามองให้ชัด เมฆก้อนนี้จะสวยงามมีลายจุดหลากสีพอสมควร ไปถึงไหนก็จะบรรลัยที่นั่น เพราะสามารถทำลายเครื่องบินหรือทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านได้ หรือทำลายอาคารบ้านเรือนให้เสียหายทันทีได้ ผมไม่ทราบว่าจะเป็นเมฆก้อนเดียวกับดาวนิบิรุหรือเปล่า? เพราะผมไม่เคยเห็นดาวนิบิรุ

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน
</TD></TR></TBODY></TABLE>
วิเคราะห์ผลกระทบจากดาวหาง Planet X Nibiru

เนื่องจากมันเป็นดาวหางขนาดยักษ์ ซึ่งถ้ามันโคจรเข้าใกล้ๆวงโคจรของระบบสุริยะนี้ ก็สร้างความปั่นป่วนได้แล้ว (ปัจจุบันดาวยูเรนัสกับเนสจูนโดนเป็นประจำ) และวิถีโคจรของมันโดยองค์กรนาซ่าบอกว่า...จะโคจรเข้า มาใกล้มากๆ และมันจะโคจรเข้าเป็นเส้นตรงพอดีในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ก็คือ ดวงอาทิตย์ โลก และนิบิรุ อยู่ในระนาบเดียวกันพอดี วันนั้นจะเป็นวันวิบัติซึ่งจะมีผลดังนี้

1.สร้างความปั่นป่วนให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลก
2.น้ำจะขึ้นสูงมากๆจนเกิดวิกฤติการณ์ที่เรียกว่า น้ำท่วมโลกหรือซุปเปอร์สึนามิ
3.แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดไปทั่วโลก
4.ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,คอมพิวเตอร์, และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด)
5.การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
6.ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์ รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนแออย่างมาก
7.สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
8.กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมาย จะเฉียดเข้าใกล้และตกลงมายังโลกได้ง่ายขึ้น(ฝนอุกกาบาต)
9.แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม(โลกอาจถึงขั้นพลิกกลับหัว)

ไม่หมดเพียงเท่านี้ หลังจากเหตุการณ์นี้ไม่กี่เดือน เราจะเจอพายุสุริยะเข้าอย่างจัง ซึ่งอย่างที่รู้ๆกันว่า สนามแม่เหล็กโลกช่วยป้องกันไม่ให้มันมีผลกระทบมากนัก เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็ก โลกก็วิบัติ

โดยคุณ Spy-Spy-Spy 28 Jan 2009, 12:38

ทีมา http://www.thaigaming.com/general-discussion/47038.htm<!-- google_ad_section_end -->

 

พระโพธิสัตว์ ก็ยังทรงต้องปราบมาร
(ไม่ได้ทรงถืออุเบกขาเพียงอย่างเดียว)​

​

สาเหตุที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทรงมีอายุเพียง 80 ปี
(พระธรรมเทศนา โดยพระราชพรหมยาน)

สำหรับวันนี้ ก็จะขอเทศน์เป็นการตัดอายุ.... เนื้อความก็มีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ ในวันนั้นองค์สมเด็จพระบรมครู ไปทรงกล่าวกับบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า....

“ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัพเพ สัตตา มริสสันติ มรณันตังหิ ชีวิตัง คนเราเกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น”

หมายความว่า คนทุกคนและสัตว์ทุกประเภท ที่เกิดมาแล้ว มันก็ต้องตาย และต่อมาภายหลังจากนั้นไซร้ เมื่ออายุ 80 ปี องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เสด็จดับขันธ์ คือ ตาย

ในตอนนี้ไซร้ ก็ปรากฏว่า มีอรรถกถาจารย์ทั้งหลาย พยายามรวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เทศน์ไว้ อยากจะทราบว่า เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา เคยเทศน์ไว้ว่า.... คนที่มีการคล่องใน อิทธิบาท 4 คือ....

ฉันทะ ความพอใจ
วิริยะ ความเพียร
จิตตะ การจดจ่อ การเพียรในกิจการงานที่ทำ
วิมังสา การใคร่ครวญการงานที่ทำเสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคล่องในอิทธิบาท 4 ในด้านของการปฏิบัติธรรม ผู้ที่คล่องจริง ๆ ในอันดับต้น ได้แก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แต่ว่าที่คล่องรองลงมาก็คือบรรดา พระอรหันต์ทั้งหลาย ก็ท่านทั้งสองประเภทนี้ คือพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี ถ้ามีอิทธิบาทไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ จะบรรลุคือตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานไม่ได้ แต่ว่าทำไมองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา ทรงเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่เคยคล่องในอิทธิบาท 4 ประเภทนี้ สามารถจะอธิษฐานตน ให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่ง หรือกัลป์หนึ่งก็ได้ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กลับมานิพพาน เมื่อระหว่างอายุของพระองค์ได้ 80 ปี

ตอนนี้พระอรหันต์ทั้งหลายก็มีความสงสัย แต่ทว่าบรรดาพระอรหันต์ตั้งแต่ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี ได้อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่สงสัย รู้ด้วยอำนาจของอตีตังสญาณ แต่ทว่า สำหรับพระอรหันต์ขั้นสุกขวิปัสสโกนี้ต้องสงสัย เพราะว่าไม่ได้ญานวิเศษ จึงต้องค้นคว้าคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์

ในที่สุดก็พบว่า สมเด็จพระนราสภ คือ.... องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แทนที่จะมีอายุ 1 กัป อย่างที่กล่าวไว้ แต่ทว่าการที่องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา ต้องมีอายุ 80 ปี เหตุผลก็เป็นมาอย่างนี้ ตามที่องค์สมเด็จพระชินศรี ทรงกล่าวว่า....

อตีเต กาเล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย.... ในอดีตกาล ตถาคตเสวยพระชาติเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถอยหลังจากชาตินี้กลับไปหลายพันชาติ เวลานั้นสมเด็จพระบรมโลกนาถ ทรงบำเพ็ญบารมีใกล้จะถึงปรมัตถบารมี

พระวรกายของพระองค์นี้ มีส่วนพิเศษอยู่จุดหนึ่ง คือ.... เท้าทั้งสอง ในอุ้งระหว่างกลางเท้าทั้งสองนี่ มีรูปกงจักรอยู่ด้วยเป็นสีแดง ในเวลานั้นองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดเป็นลูกคนจน ทำมาหากินอยู่ในป่า ต่อมาท่านบิดาก็ตาย เหลือแต่มารดาผู้เดียว ท่านก็ปฏิบัติตนเป็นคนประกอบไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ หาเช้ากินค่ำ หรือหาค่ำกินเช้า นำเอาอาหารมาเลี้ยงมารดาเป็นที่รัก คือว่าท่านเป็นคนป่า ก็ตัดฟืนขาย เข้าป่าก็แต่เช้า กลับมาจนบ่ายจนเย็น อาบน้ำอาบท่า กินน้ำบริโภคอาหารเสร็จแล้ว ก็นำฟืนเอาไปขาย ได้เงินมาเท่าไรก็มามอบให้แก่มารดา มารดาก็จัดเงินทั้งหลายเหล่านี้ จัดอาหารมาเลี้ยงดูกัน

เป็นอันว่า รายได้ขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา เวลานั้นก็เต็มไปด้วยการฝืดเคืองมาก ในคราวนั้น พระราชามีความลำบากด้วยยักษ์ตนหนึ่ง ที่เขาเรียกว่า “รากษส” นี่มีสภาพเหมือนยักษ์ แต่เป็นยักษ์ที่อยู่ในโพรงและอุโมงค์ใต้ดิน น่ากลัวจะเป็นยักษ์ปลาไหล เพราะอยู่ในโพรง และใต้ดินมันมีบ่ออยู่ แต่ทว่าทางขึ้นก็ทำเป็นปล่องขึ้น การขุดอุโมงค์อยู่ใต้ดิน

เจ้ารากษสตัวนี้ ปรากฏว่าถึงเวลาฤดูหนึ่ง ถ้าเปรียบเทียบกับเวลาตรุษสงกรานต์ เป็นงานเกี่ยวกับนักขัตฤกษ์ประจำปี เจ้ารากษสตัวนี้ ก็ขึ้นมาจับคนเอาไปกินเป็นอาหาร ทำอย่างนี้เป็นเวลา 2–3 ปี ในแดนไกล ต่อมาพระราชาทรงทราบจากบรรดาประชาชนทั้งหลายว่า.... เจ้ารากษส ขึ้นมาอาละวาด เจ้ารากษสตัวนี้ขึ้นมาเป็นเวลากาล ถ้าถึงฤดูนั้นถึงเดือนนั้นวันนั้น มันก็ขึ้นมาจับคนกินเป็นอาหาร เพื่อเป็นเสบียงกรัง ทำอย่างนี้เป็นเวลา 2–3 ปี

จนเป็นที่แน่ใจของประชาชนทั้งหลายว่า วันนี้แหละเจ้ารากษส จะขึ้นมาจับคนไปกิน จึงไปกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ พระราชาก็ให้ป่าวประกาศหาคนดีมีฝีมือ ให้ไปสู้กับเจ้ารากษส ไปดักอยู่ปากปล่องของรากษสที่จะขึ้นมา ถ้ารากษสขึ้นมา ก็จะฆ่ารากษสให้ตาย แต่ว่าบรรดาผู้ฟังทั้งหลาย รากษสมีสภาพเป็นยักษ์ มีความดุร้าย มีกำลังมาก แทนที่คนทั้งหลายที่รับอาสาพระราชาจะไปฆ่ารากษส ก็กลายเป็นอาหารของรากษสอย่างดี

คือรากษส ไม่ต้องไปหากินไกล จับคนทั้งหลายที่จะไปฆ่าเขา นำกลับไปกินเป็นอาหาร ต่อมาพระราชา เห็นว่า คนทั้งหลายไม่สามารถสู้รากษสได้ การประกาศให้บรรดาคนที่มีฝีมือทั้งหลาย ภายในขอบเขตของพระราชฐานหรือใกล้พระราชฐาน ก็ไม่มีใครรับอาสาไปปราบรากษส พระราชาได้ประชุมอำมาตย์ ข้าราชบริพารว่า.... เราไม่สามารถปราบรากษสนี้ได้เพียงใด ความเป็นพระราชาของเราก็ไม่อาจจะคงอยู่ เพราะเราไม่สามารถจะให้ความปลอดภัยกับบรรดาประชาชนได้

แล้วอาศัยที่พระราชาพระองค์นี้ ใช้ทศพิธราชธรรมอันดี เป็นที่รักของปวงชนทั้งหลาย บรรดาอำมาตย์ ข้าราชบริพารจึงประชุมกันว่า ถ้าหากพวกเราไม่สามารถฆ่ารากษสได้ พระราชาก็จะสละราชสมบัติ แล้วคนที่มาใหม่จะดีเท่าองค์นี้ หรือไม่ดีก็ยังไม่แน่นัก จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี จะให้พระราชาครองราชย์ต่อไป ในที่ประชุมก็กล่าวกันว่า ทางที่ดีควรประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลายทั่วประเทศ ที่มีความสามารถ

เข้าใจตรงกันว่า พระราชามีบุญญาธิการอย่างนี้ และมีความเดือดร้อนอย่างนี้ ราษฎรจนที่ไหน พระองค์ก็ทรงจนด้วย ราษฎรลำบากที่ไหน พระองค์ก็ทรงลำบากด้วย หาทางช่วยราษฎรให้เป็นสุข พระราชาอย่างนี้ หาได้ยาก ถ้ากระไรก็ดี ก็ควรกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ ว่า.... คนในประเทศของเรา ไม่มีเท่าที่เห็น เพราะอยู่ในแดนไกล ในขอบเขตต่าง ๆ มีมากมาย ควรจะประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลายที่มีความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชา ที่จะรับอาสาฆ่ารากษส ในที่สุดเขาก็กราบทูลให้พระราชาทรงทราบ แล้วก็ทำตามนั้น มอบทองคำเท่าลูกฟัก สำหรับผู้รับอาสา

ต่อมาพระราช ก็ส่งคนไปประกาศว่า ถ้าบุคคลใดสามารถจะฆ่า รากษส ให้ตายได้ ในช่วงแห่งการรับอาสาจะมอบทองคำเท่าลูกฟัก หนักเท่าตัวบุคคลผู้รับอาสา ให้เป็นทุนสำรองไว้ก่อน ทั้งนี้ก็เผื่อว่า ไปพลาดพลั้งถูก รากษส ฆ่าตาย ทางบ้านก็จะได้ใช้ทองคำนี้ จับจ่ายใช้สอย เป็นการประทังชีวิตให้มีความสุขสบายแทนผู้ตาย ถ้าบุคคลใดฆ่า รากษส ตาย แล้วตัวเองก็ไม่ตาย ทองคำก็ได้เป็นสิทธิ์อยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาที่กลับมาประเทศเขตพระนคร พระราชาจะให้เป็นมหาอุปราช คือไปมีตำแหน่งรองจากพระราชา

วันนั้น ก็ปรากฏว่า หน่อพระบรมโพธิสัตว์ จะเข้าป่าไปหาฟืน แต่ยังไม่ทันจะเข้า เดินออกจากบ้าน ก็ได้ยินเสียงประกาศจจจากอำมาตย์ ข้าราชบริพารว่า ถ้าบุคคลผู้ใดรับอาสาฆ่ารากษสได้ พระราชาจะประทานทองคำเท่าลูกฟัก หนักเท่าตัวคนผู้อาสา เป็นเดิมพัน แต่ถ้าฆ่า รากษส ไม่ได้ ต้องตายไป ทองคำนี้ก็จะเลี้ยงครอบครัว และถ้าฆ่าได้ ก็จะแถมรางวัลพิเศษ คือ ให้เป็นมหาอุปราช

หน่อพระบรมโพธิสัตว์ จึงคิดว่า เราเป็นลูกคนเดียวของแม่คนเดียว หาเช้ากินค่ำ ทรัพย์สมบัติที่หามาได้ ก็พอกินบ้าง ไม่พอกินบ้าง มีความลำบาก ถ้าหากว่าเราจะยอมเสี่ยงชีวิตของเรา ตายแต่เพียงผู้เดียว ให้แม่ได้มีโอกาสรับทองคำเท่าลูกฟัก หนักเท่าตัวเรา แม่ก็จะกินอยู่แบบสบาย ๆ แม้กระทั่งตาย ทองคำก็ยังไม่หมด เมื่อหน่อพระบรมโพธิสัตว์ กำหนดอย่างนี้แล้ว จึงได้ขันรับอาสา แล้วก็รับทองคำมามอบให้แก่แม่ ตอนนี้แม่คัดค้านอย่างหนัก ไม่อยากจะให้ลูกตาย

ในที่สุด ก็ต้องจำยอม เพราะตกลงกับเขาแล้ว จึงได้มอบทองคำให้แม่ ตัวเองก็ไปเฝ้าพระราชาพร้อมกับอำมาตย์ เข้าไปเฝ้าแล้ว.... พระราชาถามถึงผลของความต้องการ เธอสามารถแน่ใจที่จะฆ่า รากษส ได้หรือ พระโพธิสัตว์ก็บอกว่ามั่นใจ ต่อไปพระราชา ถามว่า

เจ้าต้องการทหารเท่าไร ต้องการอาวุธอะไรบ้าง จะไปฆ่า รากษส

หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ก็ตอบว่า “ไม่ต้องการอะไรอะไรทั้งหมด ต้องการฆ่า ด้วยมือเปล่า”

พระราชาก็หนักใจ แต่ว่าเขาขันรับอาสาตามนั้น ก็ต้องปล่อยไป เขาก็นำไปส่งที่ปล่องของรากษส หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ขึ้นไปคอยอยู่ประมาณ 2 วัน พระราชาทรงให้ทหารไปเป็นเพื่อน นำอาหารไปบริโภค ไปคอยอยู่ที่ปากปล่องที่รากษสจะขึ้น ต่อมาเมื่อถึงวันนั้น คือวันกำหนดที่รากษสจะขึ้นมา มีเวลาเป็นประจำ ก็ขึ้นมาพอดี พอรากษสขึ้นมา ไม่ทันจะพ้นปล่อง หัวขึ้นมาพ้นปล่อง หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ยกเท้าขึ้นหวังจะกระทืบ คือจะกระทืบให้ รากษส คอหักตาย

รากษส แหงนหน้าขึ้นมา เห็นอุ้งเท้าของหน่อพระจอมไตรบรมโพธิสัตว์ มีกงจักร ในระหว่างท่ามกลางฝ่าเท้า ก็คิดว่า คราวนี้เราตายแน่ เราสู้ไม่ได้ เพราะคนนี้ต้องเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ เพราะกลางระหว่างเท้า มีกงจักรสีแดง

จึงได้พูดว่า.... ช้าก่อน ท่านอย่าพึ่งฆ่าเรา ท่านนี่เป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ จะได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าในอีกไม่นานนัก เพราะว่ากลางเท้าของท่านมีกงจักร หากท่านฆ่าเรา เราก็ตาย ถ้าท่านฆ่าเราไซร้ ท่านจะมีอายุสั้น ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ตามธรรมดาพระพุทธเจ้า จะต้องมีอายุ สองหมื่นปีบ้าง ถึงสี่หมื่นบ้างก็มี อีกประการหนึ่ง พระพุทธเจ้าสามารถจะอธิษฐานตนให้มีอายุถึงกัปหนึ่งก็ได้

หากว่า ท่านฆ่าเราตาย ในเวลานี้ เวลานี้เรามีอายุ 80 ปี ถ้าหากว่าท่านฆ่าเราตายในเวลานี้ เมื่อท่านเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็ต้องมีอายุ 80 ปี เท่านั้น การประกาศพระศาสนาของท่าน จะไม่มีผลตามความประสงค์

หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ก็กล่าวว่า...“เจ้าเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายมาก ไล่พิฆาต เข่นฆ่าคนเป็นอาหาร ถึงแม้นว่าเราจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า มีอายุแค่ 80 ปี เราพร้อมยอมตามนั้น” ในที่สุดหน่อพระบรมโพธิสัตว์ ก็กระทืบศรีษะยักษ์รากษส ยักษ์ก็คอหักตาย
............................................................................................................
นี่แหละบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ตามที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่า พระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ เมื่อเป็นพระพุทธเจ้า สามารถจะอธิษฐานอายุของตนให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่ง ก็ย่อมเป็นได้ เพราะคล่องใน อิทธิบาท 4 แต่ว่าที่องค์สมเด็จพระมหามุนีบรมศาสดา จะต้องนิพพาน ภายในอายุ 80 ปี ตามพระบาลี ท่านกล่าวว่า เหตุของการฆ่ารากษสตนนั้น จึงเป็นเหตุให้สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องนิพพานในอายุยังสั้น

ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมภาพในฐานะพรสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการ ขอจงดลบันดาลให้บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน มีความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบรรลุแล้ว ขอบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว จงเห็นธรรมนั้น ในชาติปัจจุบันนี้ เทอญ.

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้.

(คัดลอกเป็นบางส่วนจาก “ธัมมวิโมกข์” ปีที่ 27 ฉบับที่ 297 ธันวาคม 2548 ในหน้า 43 ถึง 47)

 

<TABLE border=0 width="100%" height=36><TBODY><TR><TD vAlign=top width="80%"><BIG><BIG>ปกติเมืองไทยไม่มีแมงมุมพิษร้ายแรง แต่ตอนนี้ การขนส่งทั่วโลกไปมาสะดวกรวดเร็ว แมงมุมพิษจากอีกซีกโลก อาจติดมากับระบบการขนส่งทั้งทางเรือ รึทางไหนได้</BIG></BIG>
<BIG><BIG></BIG></BIG>
<BIG><BIG>กัดคนถึงตาย แมงมุมมรณะ </BIG></BIG>
<BIG><BIG></BIG></BIG>
<BIG><BIG></BIG></BIG>
<BIG><BIG></BIG></BIG>
<BIG><BIG> </BIG></BIG>
</TD><TD vAlign=top width="20%" noWrap align=right> <!--InformVote=0--> </TD></TR></TBODY></TABLE>

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่หน้าห้องฉุกเฉิน รพ.ถลาง น.ส.ปรียนันท์ บุญศรี อายุ 27 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 100 หมู่ 3 ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พร้อมญาตินับสิบคนนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ของนายวันชัย วงศีลกร อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 3 หมู่ 3 ต.ดงหม้อทอง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร สามีที่เสียชีวิตจากพิษเฉียบพลัน จากสัตว์ไม่ทราบชนิดกัด เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ จ.สกลนคร

โดยมีญาติบางคนที่ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและขั้นตอนการรักษาของแพทย์ รพ.ถลาง จึงยังคงรวมตัวเพื่อรอพบ ผอ.รพ.ถลาง เพื่อสอบถามขั้นตอนการรักษาผู้เสียชีวิต

แต่เนื่องจาก ผอ.รพ.ไปราชการยังต่างจังหวัด มีเพียงตัวแทนแพทย์-นางพยาบาลผู้ชำนาญการออกมาพบญาติๆ พร้อมกับพาไปดูบาดแผลที่ร่างกายของนายวันชัย ซึ่งถูกแช่เย็นรักษาศพไว้ที่ห้องดับจิตภายใน รพ.

โดยมี ร.ต.ต.ปรีชา รักจันทร์ ร้อยเวร สภ.ถลาง เนื่องจากนายวันชัยเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติร่วมตรวจสอบบาดแผลด้วย โดยพบ บาดแผลที่ด้านหลังหัวไหล่ขวา ซึ่งเป็นรูขนาดเล็กมีสีดำ คล้ายถูกแมงใช้เขี้ยวเจาะลงไป ไม่ลึกมากนัก เพียง 1 รู โดยสภาพศพทั่วไปที่บริเวณปาก - เล็บมือและเท้า มีสีดำ

ขณะเดียวกัน รอง.ผอ.และคณะแพทย์ ตลอดจนผู้ชำนาญการแขนงต่างๆ ของ รพ.ได้มีการประชุมหารือ-สรุปผลการรักษาและสาเหตุการเสียชีวิตของนายวันชัยที่ห้องประชุมเล็ก ชั้น 2 รพ.ถลาง อย่างเคร่งเครียด ซึ่งจะต้องรายงานผลไปยัง สสจ.ภูเก็ต เพื่อรับทราบปัญหา ขั้นตอนการรักษาและสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว

น.ส.ปรียนันท์ได้เล่าเหตุการณ์ขณะที่นายวันชัยสามีถูกแมงกัดว่า ก่อนเกิดเหตุช่วง 19.00 น.วันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายวันชัยกำลังอาบน้ำอยู่ภายในห้องน้ำ ได้ยินเสียงร้องเสียงหลงออกมาจากห้องน้ำ ตนเองได้รีบเข้าไปดู ปรากฎว่า เห็นแมงมุมตัวขนาดหัวนิ้วโป้ง คลานหนีออกมาจากใต้รักแร้ขวาของสามี และหายตัวไปกับกำแพงห้องน้ำ

สักครู่ นายวันชัยเริ่มมีอาการปวดที่บริเวณหัวไหล่ขวา เมื่อตรวจสอบดูเห็นรูคล้ายแมงกัดจำนวน 1 รูด้านหลังหัวไหล่ขวา แต่คิดว่าไม่น่าจะร้ายแรงอะไร

จากนั้น กลางดึกนายวันชัยเริ่มมีอาการปวดที่หัวไหล่และตามร่างกายหนักขึ้น จึงนำตัวส่ง รพ.ถลาง เพื่อให้แพทย์รักษา

เบื้องต้น แพทย์ได้ให้ยาแก้ปวดและนอนรอดูอาการที่ห้องฉุกเฉิน จากนั้น ได้กลับมานอนพักรักษาตัวที่บ้านพัก

จนกระทั่ง เวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 23 ม.ค. นายวันชัยเริ่มมีอาการทรุดและแย่ลง โดยที่บริเวณรูบาดแผล เริ่มเขียวช้ำและแดงไปทั่วหัวไหล่ เป็นวงกว้าง จึงนำส่ง รพ.ถลางอีกครั้ง

เมื่อมาถึง แพทย์ได้ฉีดยาแก้ปวดและให้นอนดูอาการที่ตึกผู้ป่วยใน จนกระทั่ง ช่วงสายวันที่ 23 ม.ค.นายวันชัยเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออกอย่างรุนแรง

แพทย์ได้พยายามปั้มหัวใจอยู่พักใหญ่ และเสียชีวิตในเวลา 13.00 น.ของวันเดียวกัน ท่ามกลางญาติพี่น้องของตนเองและสามี ที่งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการตรวจสอบใบมรณะบัตรของนายวันชัย แพทย์ได้วินิจฉัยสาเหตุการตายว่า พิษเฉียบพลันจากสัตว์ไม่ทราบชนิดกัด

เวลาที่ถูกกัดจนกระทั่งเสียชีวิต 15 ชม.แต่ไม่มีการระบุว่าสัตว์ดังกล่าวเป็นสัตว์ประเภทใด สร้างความกังขาให้กับบรรดาญาติพี่น้องที่เคลือบแคลงในขั้นตอนการรักษาของแพทย์ที่ล่าช้า ส่งผลให้นายวันชัยเสียชีวิตในที่สุด

www.dailynews.co.th/crime/9093
<!--VoteBody--><!--MsgIDBody=0-->

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=6aYEDckyPQo&feature=player_embedded"]http://www.youtube.com/watch?v=6aYEDckyPQo&feature=player_embedded[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=8hVvjMxNkUI&feature=player_embedded"]http://www.youtube.com/watch?v=8hVvjMxNkUI&feature=player_embedded[/ame]

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผลวิจัยชี้ “โตเกียว”อาจเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ภายใน 4 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>23 มกราคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=378><TBODY><TR><TD vAlign=top width=378 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นักวิจัยเผย กรุงโตเกียวมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 7.0 ภายใน 4 ปีข้างหน้า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - คณะนักวิจัยญี่ปุ่นเตือนว่ามีโอกาสถึง 70 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ถล่มกรุงโตเกียว ภายใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นอัตราเสี่ยงที่สูงยิ่งกว่าการทำนายครั้งก่อนๆ รายงานเผยวันนี้ (23)

คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยโตเกียว สรุปตัวเลขดังกล่าวจากสถิติแผ่นดินไหวรอบกรุงโตเกียวที่เกิดบ่อยครั้งขึ้น นับตั้งแต่เหตุภัยพิบัติสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 เป็นต้นมา หนังสือพิมพ์ โยมิอุริ ชิมบุน รายงาน

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แถลงว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระหว่าง 3.0-6.0 ในกรุงโตเกียวและบริเวณใกล้เคียงเฉลี่ย 1.48 ครั้งต่อวัน ซึ่งถี่กว่าก่อนเกิดสึนามิถึง 5 เท่า คณะนักวิจัยเผย

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเคยพยากรณ์ไว้ว่า กรุงโตเกียวมีความเสี่ยง 70 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ภายใน 30 ปีข้างหน้า

นาโอชิ ฮิราตะ หนึ่งในนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ระบุว่า ผลการศึกษาชี้ให้เห็นความถี่ของแผ่นดินไหวที่เพิ่มขึ้นในเขตเมืองหลวง ซึ่งทำให้แนวโน้มที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสูงขึ้นด้วย

แผ่นดินไหวขนาด 9.0 เมื่อปีที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น จนมีผู้เสียชีวิตและสูญหายไปไม่น้อยกว่า 19,000 ราย

อิทธิพลของคลื่นยักษ์ยังทำให้ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้า ฟูกูชิมะ ไดอิจิ เสียหาย ส่งผลให้แท่งเชื้อเพลิงหลอมละลาย และเกิดเป็นวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งใหญ่

กรุงโตเกียวเคยประสบแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1923 ซึ่งแรงสั่นสะเทือนขนาด 7.9 บริเวณที่ราบคันโตคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไปกว่า 100,000 คน โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้

ก่อนหน้านั้น ยังเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ที่เมืองเอโดะ ในปี 1855

หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “วงแหวนไฟ” ทำให้มีภูเขาไฟจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยที่สุดในโลก

กรุงโตเกียวตั้งอยู่เหนือจุดบรรจบของ 3 แผ่นทวีป ได้แก่ แผ่นยูเรเชีย, แผ่นแปซิฟิก และแผ่นทะเลฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อแผ่นทวีปทั้ง 3บีบอัดเข้าหากันอย่างช้าๆ จะทำให้เกิดแรงไหวอย่างมหาศาล

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คำอธิษฐานบารมี

<!--Main-->ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธพจน์ พระสัจจะธรรม ทั้งพระอรหันต์ พระอริยสงฆ์เจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดประทานพระเมตตาบารมี พระฉัพพรรณรังสี พุทธบารมีทุกประการ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรมา จงเป็นตบะเดชประสิทธิ์ประสาท รักษาผืนแผ่นดิน พระบวรพุทธศาสนา อภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถพร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ให้ทรงพระเกษมสำราญ รักษาชีวิตผู้ปฏิบัติการรักษาผืนแผ่นดิน ทั้งมนุษย์และวิญญาณตลอดทั้งปวงประชา ข้าราชการผู้ซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งข้าพเจ้าและครอบครัวให้รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงให้ประเทศชาติผู้คนพลเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ให้พืชพันธุ์ธัญญาหารทรัพยากรธรรมชาติ งอกงามอุดมสมบูรณ์

ขออัญเชิญพลังพระสัจธรรม น้ำทิพย์ น้ำอมฤต โปรดหมู่มวลมนุษย์ วิญญาณทั้งหลายทั่วสากลโลก ให้พ้นทุกข์ มีความสุข ขอบารมีพระเมตตาปรานีของพระองค์จงบันดาลให้มนุษย์ทั้งหลายมีหิริโอตตัปปะ รักธรรมะ ไม่เห็นแก่ตัว เลิกทุจริต ไม่คิดพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน ให้มีจิตเมตตาปราณี ประพฤติปฏิบัติธรรมะ ผู้หลงผิดขอให้คิดกลับใจ และขอให้พระสัจธรรมที่พระองค์ ทรงประกาศไว้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ให้ได้รับผลปรากฎเด่นชัดแก่ตาโลก ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ขอพระบารมีทุกประการที่กล่าวแล้ว แผ่กระจายขยายออกไปทั่วทุกภพมนุษย์ไตรโลกา หมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาลพิภพ จบเจ็ดคาบสมุทรตลอดสุดก้นบาดาล ให้เนืองแน่นไปด้วยบารมี ให้มนุษย์ทั้งหลายพากันมานับถือพระพุทธศาสนา โลกนี้จงได้อยู่เย็นเป็นสุข ขอพระพุทธบารมีโปรดบันดาล ให้คำอธิษฐานทั้งปวงนี้จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ทุกประการเทอญฯ
<!--End Main-->

 

คำอธิษฐานบารมี

<!--Main-->ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธพจน์ พระสัจจะธรรม ทั้งพระอรหันต์ พระอริยสงฆ์เจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดประทานพระเมตตาบารมี พระฉัพพรรณรังสี พุทธบารมีทุกประการ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรมา จงเป็นตบะเดชประสิทธิ์ประสาท รักษาผืนแผ่นดิน น่านน้ำของไทย พระบวรพุทธศาสนา อภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถพร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ให้ทรงพระเกษมสำราญ รักษาชีวิตผู้ปฏิบัติการรักษาผืนแผ่นดิน ทั้งมนุษย์และวิญญาณตลอดทั้งปวงประชา ข้าราชการผู้ซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งข้าพเจ้าและครอบครัวให้รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงให้ประเทศชาติผู้คนพลเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ให้พืชพันธุ์ธัญญาหารทรัพยากรธรรมชาติ งอกงามอุดมสมบูรณ์

ขออัญเชิญพลังพระสัจธรรม น้ำทิพย์ น้ำอมฤต โปรดหมู่มวลมนุษย์ วิญญาณทั้งหลายทั่วสากลโลก ให้พ้นทุกข์ มีความสุข ขอบารมีพระเมตตาปรานีของพระองค์จงบันดาลให้มนุษย์ทั้งหลายมีหิริโอตตัปปะ รักธรรมะ ไม่เห็นแก่ตัว เลิกทุจริต ไม่คิดพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน ให้มีจิตเมตตาปราณี ประพฤติปฏิบัติธรรมะ ผู้หลงผิดขอให้คิดกลับใจ และขอให้พระสัจธรรมที่พระองค์ ทรงประกาศไว้ว่า ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว ให้ได้รับผลปรากฎเด่นชัดแก่ตาโลก ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ขอพระบารมีทุกประการที่กล่าวแล้ว แผ่กระจายขยายออกไปทั่วทุกภพมนุษย์ไตรโลกา หมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาลพิภพ จบเจ็ดคาบสมุทรตลอดสุดก้นบาดาล ให้เนืองแน่นไปด้วยบารมี ให้มนุษย์ทั้งหลายพากันมานับถือพระพุทธศาสนา โลกนี้จงได้อยู่เย็นเป็นสุข ขอพระพุทธบารมีโปรดบันดาล ให้คำอธิษฐานทั้งปวงนี้จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ทุกประการเทอญฯ

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<!--End Main-->

 

อ่านเล่นไม่ต้องเครียด ถ้าเคลียด หรือแสลงนักก็ออกจากกระทู้ไปก็ได้นะไม่มีไครว่าหลอก k.ตาที่สาม
เบื่อพวกสร้างความขัดแย้ง ตอนเกิดน้ำท่ามเดือนตุลาเห็นเงียบกัน พวกที่ออกมาว่าชาวบ้าน ไม่เกิดๆ ๆๆไม่มีเลือนอีกๆ ไม่รู่ว่าจะสงสารหรือว่าจะหัวเราะดี มาจริงๆเดี๋ยวจะขำไม่ออก ไม่เข้าใจกับไปอ่านหน้าหลักนะไม่ต้องมาทำข้างๆครู ผมว่าคนที่เข้ามา หน้าจะมีการศึกษาพอ หรือว่าการคึกษาไม่ช่วยทำให้ไครดีขึ้น
หรือเป็นเพราะอย่างอื่น
ที่อ่านมาจะมีอยู่พวกหนึ่งเข้ามาป่วนกระทู้พอมีเหตุก็เงียบหายไป ลองสังเกตุดูๆ

 

เตือนภัย...เมื่อเกิดสงคราม...น้ำมันจะขาดแคลน...


​

22 ส.ค. 54

น้ำมันมีปัญหาหรือ?

เช้านี้ในนิมิต ผมเห็นผมขับรถอยู่ รถกลับไม่เคลื่อนที่ ผมตรวจดูปรากฎว่า ไม่มีน้ำมันเหลืออยู่ในถังเลย

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

โมทนาสาธุ สาธุ สาธุ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ทุกประการเทอญฯ