พลังเอกภพยูเรอัส

พูดถึง ตอนที่เรียนใหม่ๆ
ผม เอง ก็ ไม่เคยมีความรุ้ ด้านนี้มาก่อน เลย
วันแรก ที่เข้าเรียน ยังไม่รุ้ เลย ว่าวิชาพลังเอกภพยูเรอัส
เป็น อะไร
ได้ยินมาเพียงว่า ใช้รักษาสุขภาพได้ ใช้รักษาโรคและความเจ็บป่วยได้​

แค่ นี้ ก็ วิ่ง แนบะ มาเรียนแล้ว
( ออฟฟิค ของอาจารย์ อยู่ใกล้บ้านผม เคยเดินผ่านอยู่บ่อยๆ)​

บอกตรงๆ ในช่วงแรกๆ ได้ยินเพื่อนที่มาเรียนเค้าคุยกัน
ผม เอง ยัง หด เสียตัว ลีบ เชียว
โอ พวกนี้ เค้า เก่งๆ ทั้งน้านเลย
เรา เอง ไม่เคยรู้ เรื่องเหล่านี้มาก่อน จนได้มาเรียน​

เค้า รับพลังจากอาจารย์ ได้ เป็นอย่างนั้น อย่างนี้
ผม เอง กลับไม่รุ้สึก อะไร ( แทบจะไม่รู้ เรื่องเอาด้วย)​

ยังดี ที่ ตั้งแต่วันแรก เข้าเรียน
ตอนอาจารย์ ยืนสอน หน้าห้อง
อาจารย์ ก็ ยืนบรรยาย ไป
ผม รู้สึก เหมือนตา เบลอๆ ไป .....
หน้าตา อาจารย์ เปลี่ยนไป เป็นใครไม่รุ้ .... 1 ละ​

สอนไป สอนมา เปลี่ยน อีกแล้ว
เรียนจนถึงเย็น เปลี่ยไป สามหน้า​

จน ผม เอง อดใจไม่ไหว
ต้อง เดินไปถามอาจารย์​

อาจารย์ ครับ ขอถามได้ไหม.....​

อ. ตอบ ...จะถามอะไร​

ถามจริงๆ ว่า หน้า อาจารย์ ตัวจริงๆ หน้า นี้หรือเปล่า......​

อ. ตอบ.... ยิ้มๆ แล้วตอบ ผม ไม่ ใช่พวก เข้าทรงนะ
55​

แต่ไม่ได้อธิบาย อะไรต่อ​

......​

ต่อเมื่อเรียนต่อมา ในระดับที่สูงขึ้นๆ​

จึงรู้ว่า​

ขณะที่อาจารย์ ท่านสอนเรา
ยังมี พระอาจารย์ อีกหลายท่าน มาช่วยสอนพร้อมๆกันไปด้วย
ข้อความที่เป็นคำพูด อาจารย์ ก็ บรรยายไป
ได้ยินพร้อมๆกัน
ข้อความ ที่มากับ กระแสพลัง ( ไม่มีเสียงหรอกนะ )
แต่ละคน อาจได้ มาไม่เหม้ือนกัน

ตัวอย่างเช่น
ตอนที่ผม เรียนจบระดับ4 แล้ว มาช่วยต้อนรับ น้องรุ่นใหม่ที่มาเรียนระดับ1
นังอยู่ในห้อง นั้นด้วย จนถึง ตอนอาจารย์ ให้ทำสมาธิ ก่อนที่จะรับพลัง

อาจารย์ สอนระดับ 1 แท้ๆ
แต่ผม กลับได้ ปุ่่มโทโบ มาใช้ เร่งพลัง
( ผมตั้งชื่อเอาเอง .. เพราะเวลาใช้ เหมือนเครื่องยนต์ ติดโทโบ กดปุ่มปั๊บ ฉีดไนตัสออกไซด์ เพิ่มแรงมามาอีก สองสามเท่าตัว)

​

หลายคนจะ เห็นได้ ตอนที่อาจารย์ ถ่ายทอดพลังให้เรา​

แต่ผม เห็นตั้งแต่ตอนสอน เลย
ตอนถ่ายทอดพลัง ไม่ต้องพูดถึง .... เยอะมาก...​

โดยเฉพาะวันที่ เรียนระดับ5
นับได้มาก กว่า 10 ท่าน ( พอนับไป สิบกว่า จนขี้เกลียดนับ )​

.......
ตอนรับพลัง แล้ว บางคนรุ้สึกได้ บางคนไม่ค่อยรู้สึก หรือ บางคนอาจไม่รู้สึก
ก็ตาม​

มีคำถามตามมา ว่า ทำไม
ตรงนี้ หาคำตอบได้ แล้ว ... จะมีประโยชน์มาก
นำไป ประยุกต์ใช้ ตรวจสอบพลังได้ ตรวจคนไข้ ก็ ยังได้ หรือ ตรวจอื่นๆ​

ลองช่วยกัน หาคำตอบ หน่อย...... ..... ว่า ทำไม​

 

ตั้งแต่ส่งพลังมา มีครั้งนี้ที่รู้สึกมากค่ะ.....
คือท่านสามีเปิดกระป๋องนมอีท่าไหนไม่รู้ โดนที่เปิดกระป๋องบาด ที่จริงน่าจะเรียกว่าเจาะ เพราะลึกมากเลือดไหลมากมาย

ได้ทำการส่งพลังรักษาให้ และครั้งนี้จิตนิ่งมาก รู้สึกถึงพลังที่วิ่งไปที่บาดแผลได้ชัดเจน แบบไหลจู๊ดๆเลย.....

เล่าสู่กันฟังค่ะ เดี๋ยวเข้ามาอ่านอีกทีกระทู้นี้จะหล่นไปหน้าอื่น....หายากค่ะ

 

การรักษาบาดแผล ด้วยการส่งพลัง
จะได้ผล ดี และรวดเร็วมาก
โดยเฉพาะ เพิ่งเป็นใหม่ๆ
โชคดี ที่คุณสามี บาดเจ็บ ตอนอยู่ในบ้าน
คุณBook จึง มีโอกาส ช่วยได้ทันท่วงที....55

กรณี รักษาบาดแผลสด
ให้ทำความสะอาดแผล ให้ดี
แล้ว จับปากแผล ให้ ติดกันดังเดิม

ส่งพลังรักษา ให้ไป สักพัก
หาก ทำให้ปากแผล ติดกันได้ ไว้อย่างนั้น
ภายใน วันสองวัน แผลก็ จะติดกันได้อย่าง รวดเร็ว

หากเป็นแผลใหญ่มาก อาจต้องพึ่งหมอโรงพยาบาล
ให้่ ช่วยเย็บแผลก่อน ก็ จะดี

........
เท่าที่ประสบมา
การส่งพลัง รักษา บาดแผล

1. หากเรา อยูํ่ในเหตการ เป็นใหม่ๆ สดๆ จะเห็นผล รวดเร็วมาก
2. ความสะอาด ก็สำคัญ มากเช่นกัน
3. จัดปากแผล ให้ เข้ารุป ให้ดี ด้วย แผลจะได้สมานได้รูปดังเดิม
4. อาจต้องเพิ่มการรักษา ตามสถานะการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
........
​

 

ประสบการ เรื่องรักษาบาดแผล

1. ตอนนั้น ผมยังเพิ่งเรียนมาใหม่ๆ ระดับ1+2 เท่านั้น
วันนั้น เดินเที่ยวหาซื้อของแปลกๆ ริมรั่ว สวนจตุจักร
ขณะนั้น เห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง วิ่ง สวนมา ในมือถือมีดมาด้วย
นึกในใจ คงวิ่งหนี อะไรมา
ผม เองนะหรือ... ฉาก หลบ จะไปขวางทาง เค้าทำไม

เดินดูของ ต่อมา สักระยะหนึ่ง
เห็นเลือดที่พื้น เป็นหย่อมหนึ่ง
มองถัดไป เห็น ผู้ชาย คนหนึ่ง นั่งกับพื้น มีผู้หญิงอีกคนกำลังช่วยอยู่

เท่านั้นละ พลังส่งออกไปเอง ยังไม่ทันจะตั้งใจส่ง เลย
พลึบ..... ออกไป แบบอัตโนมัต

พอเดินเข้าไป ใกล้ๆ จนมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
พบว่า ชายคนนี้ ถูกฟันที่แขนขวา เป็นทางยาว
มิน่า จึงมี เลือดไหลกองที่พื้น
แต่ตอนนี้ แผล เข้ารูป และเลือดหยุดไหลแล้ว

สาธุ
คิดในใจ อย่าจองเวร จองกรรม ต่อกันเลย.....

.............
2. เรื่องที่สอง
ตอนนั้นเรียนจบ ระดับสาม ละมั้ง
เป็นช่วงปีใหม่ ไปเที่ยว เมืองปาย แม่ฮ่องสอน
อากาศก็หนาว ได้ที่
ตอนเช้า ๆ ออกมานั่งเล่นที่ศาลาหน้าบ้านพัก
กินน้ำเต้หู กับ ปาท่องโก้ ( มีคนใจดี ซื้อมาให้..55)

บ้านนี้ อยู่ห่างจากถนน สัก 60 เมตร
รอบๆบ้านพัก เป็นสวน อยู่บนเนิน มีต้นไม้ สวนผลไม้ โดยรอบ
เดินชมวิว รับอากาศยามเช้า
ด้วยว่า อากาศหนาว พอหายใจออกมา แรงๆ
ก็ มี ไอน้ำ เป็นควันขาว ออกมา
จึงมอง ตาม ไอน้ำ เพลินดี

ดุไป ดูมา

เอ๊ะ .... ไม่ได้ ออกมาจากปาก จากจมูก เรา ก็ มี นี่หว่า
ไอน้ำมาจากไหน

เป็นไอ ออกมา จากตัวเรา นี่ นา
มี ทั้งตัวเลย ทั้งแขนทั้งขา ทั้งตัว เลย

อาไร กัน ละ

ยินมอง สังเกตอยู่ นาน จนสรุปได้​

 

ยืนดู และ สังเกต อยู่นาน เป็น ชั่วโมงๆ

จน มั่นใจ ว่า มันไม่ใช่ ไอน้ำที่ ตัวเราหายใจออกมาจากจมูก หรือ ปาก ตอน ฮ่า... เป่าลมออกมา

มันเป็นไอ ขาวๆ คล้ายไอน้ำ .... บ้างก้อ เป็น ไอ แบบ เปลวใสๆ
ลอย ออกจากตัวเรา ทั้งตัว

จุดนี้ เป็น จุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผม เริ่มสังเกต
ต่อไป
จน มองเห็น อะไร ได้มากขึ้น.....

เอาไว้ เล่า ในเรื่อง การฝึการมองเห็นพลัง ดีกว่านะ


หลังจาก เดิน ยืนอยู่ นานมากแล้ว
กลับขึ้นบ้าน ไปอาบน้ำ ดีกว่า จะได้ตรียมตัว ไปเที่ยวต่อ

ตอนที่ กำลัง อาบน้ำ อยู่ในห้องน้ำ
ได้ยินเสียง
เบรค.........แล้ว ก็ โครม..........

ไม่ต้อง สืบ ก็ เข้าใจได้ว่า เกิดอะไรขึ้นที่ ถนนหน้าบ้านพัก

สภาพตัวเอง กำลังอาบน้ำ ไม่ต้องอธิบาย ว่า เป็นอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ รุ้สึกตัว ได้ว่า พลัง พลึบ.................. ออกไป รอบตัว
โดยที่ เรา ยังไม่ ทันนึกว่าจะทำอะไร

จะรีบออกไป ตอนนั้น ก็ คงไม่ได้
จำเป็นต้อง รีบอาบให้เสร็จ แต่งตัวออกไป ดู

พอไปดู เห็นรถมอเตอร์ไซค์ ล้ม อยุ่ข้างทาง คันหนึ่ง
คนขับเดิน เก็บทรัพย์สิน ของตนเอง ที่ กระจาย หล่นตามพืิ้นถนน

เฮอ........... โล่งอก ที่ ไม่มีใครเป็นอะไร

ถามเจ้าลูกชาย ของผม ที่ ยืนอยู่แถวนั้น
เจ้าลูก เล่าว่า.... มอเตอร์ ไซค์ สองคัน วิ่งมาถึงทางโค้ง ชนกัน โคม.... คนขับ คนนี้ แหละ
ลอย กระเด็นไป ไกล เลย
ส่วนอีกคัน เป็นผู้หญิง
แต่ ไปแล้ว

สรุปว่าเหตการ นี้
มอเตอร์ไซค์ สองคัน วิ่งสวนกัน
เนื่องจาก ตรงนี้ เป็นเนินทางลาดลง กับเป็นทางโค้ง ด้วย ( หน้าทางเข้าบ้าน ที่ผมพัก พอดี )
คง ไม่ทันมอง เห็น กัน
กินเลน มา คนละหน่อย
จ๊ะ เอ๋ กันพอดี
ชนกัน รถล้ม ไป คนละทาง คนขับฝ่ายหนึ่ง ติดไป กับรถ
คนขับผุ้ชาย คนนี้ ลอยกระเด็นไป ไกล

คนทั้งสอง ไม่ได้รับบาดเจ็บ รถ เสีย แต่พอวิ่งกลับไปได้

เจ้าลูกชาย ผม มัน ยังบอกว่า ลอย กระเด็นไปยังกะ X man
นึกว่า ต้องเรียก รถปอเต็กตึ่ง มารับ เสียแล้ว....55

.......

ที่เล่า มาสองตัวอย่างนี้

อยากให้ ทราบว่า
แม้น คนที่ เรียนมาเพียง ระดับ 1 2 3
แม้น ยังไม่ได้เรียน การส่งพลัง ทางไกล
การรักษา ยังต้อง แตะ ส่งพลังรักษา อยู่ ก็ตาม

ในเวลา ฉุกเฉิน พลัง เค้า ไม่ได้รอ เรา หรอก
เค้า รุ้ หน้าที่
เค้า ทำงานแบบ อัตโนมัต
ไป เอง ก่อนที่ เรา จะ คิด ช่วย เสียอีก​

 

เรื่องกระทะเหล็ก ที่บอกคุณBook ไป
นึกขึ้นมาได้ ว่า​

จะให้ กระทะเหล็ก มันคะนองฤทธิ์ ต้อง
ใช้ควบคู่ กับเตาไฟ แรงๆ​

จะสังเกตุได้ว่า พวกพ่อครัว ที่มีฝึมือ ในการผัด
เตาไฟ เค้า ต้องแรงมาก
เป็นเตาแก๊สตัวใหญ่ แบบ ร้านค้า ไม่ใช่ เตาเล็กๆ แบบใช้ในครัวเรือน​

บางครั้ง ยังต้องมา โมดิพาย อีกหน่อย
ให้แรง สะใจ
บางคน ก็ ห่อหุ้ม รอบเตา ด้วยวัสดุ เพื่อกันลม
บางคน ก็ นำไป ใส่ไว้ในเตา อังโล่
บางคน ใส่ไว้ ในตุ่มน้ำ ( ไม่มีน้ำนะ )​

เพื่อกันลม และ สร้างให้เกิดความร้อนสะสม
เวลา ผัดอาหาร จะได้ ความร้อน มากๆ​

เมื่อมี เตา ดังกล่าวแล้ว
เจ้ากระทะเหล็ก (เหล็กเหนียว ตีขึ้นรูป)
มันจะทำงาน ตามหน้าที่ ของมัน ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ.. ครับ​

เน้น นะ....
การผัดอาหาร แบบจีน
ต้องใช้กระทะเหล็กเหนียวบางๆ กับเตาไฟ ที่แรงจัด​

ทำให้อาหารมีกลิ่น หอมน่ารับประทาน
​

(เกิดจาก อาหารบางส่วน เกรียมไหม้ไปบ้าง)

​

..... ที่สำคัญ อย่าลืม ต้องใช้น้ำมันหมู นะครับ .....​

 

ห้องนี้มีหลากหลายวิชาจังครับ
ไม่ได้มีแต่เรื่องพลังๆ

 

ไม่รู้ ว่า ชม หรือ แซว ... ละนี่...55

ก็ น้องเรา เค้าจะขายอาหารตามสั่ง
ก็ เอาใจ ช่วยหน่อย

ก็ รู้ รู้ อยู่ ว่า ปกติเค้า
กิน มังสวิรัต
ยอมตัดใจ มาทำอาหารขาย
มันก็ ต้องมี เนื้อหนังมังสา หลีกเลี่ยงยาก

ก็ อดใจ ช่วยลุ้น ไม่ได้

"งานยาก ยาก มันก็ ยาก ตอนที่เราทำไม่เป็น"

เท่านั้น

ให้กำลังใจ กันหน่อย​

 

เทวรูป พระนารายณ์ สมัยลพบุรี
สำริด สนิมหยก

องค์ นี้เพิ่งได้มา เมื่อกลางปี ที่แล้ว
ส่งประกวดงานกองทัพเรือ
ได้รางวัลชมเชย มา

เอามาอวด แบ่ง ให้เพื่อนๆ ได้ปรื้มกันบ้าง

........​

 

-ขอบคุณค่ะพี่ดาวที่เอาเทคนิคการเป็นเชฟกระทะเหล็กมาฝาก มิบังอาจขายตามสั่งค่ะ ขายข้าวแกงกระหรี่ ข้าวหมูทอด ข้าวไข่เจียว มีแต่อาหารง่ายๆค่ะ กลัวแม่ค้าตามสั่งแถวนี้เคืองเลยไม่ขายเหมือนเค้า(ข้ออ้าง จริงๆทำไม่เป็น)

ส่วนใหญ่จะขายไอติมมากกว่า เมื่อวานวันเด็ก เด็กๆมากืนเยอะเลย วุ่นๆทั้งวัน
วันอาทิตย์ต้องกันไว้เป็นวันหยุด เผื่อ อจ.เปิดสอนจะได้ไปเรียนได้

นึกๆอยู่ว่า ตอนเสิร์ฟจะส่งพลังใส่ในอาหารเป็นของแถมให้ลูกค้า ดีมั้ยคะ

 

อย่างนี้ต้องรีบไปอุดหนุนกันแล้ว ใครอยู่ใกล้ๆๆต้องไปช่วยกันหน่อย..อิอิ

 

นาย ณรงค์ เพ็งลาภ อายุ 49 ปี ป่วยเป็นมะเร็งปอดข้างซ้าย มีอาการน้ำในปอด และ พูดไม่มีเสียง (เนื่องจากก้อนเนื้อเบียดเส้นเสียง)

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมบอกได้ค่ะ

โมทนาบุญในกุศลเจตนาของคุณดาว และทุกท่านค่ะ

สุชาดา

​

โรค นี้ รักษากันยาวนาน คงต้อง ส่งพลังรักษากัน ทุกวัน
งานนี้ ต้อง ของแรง จาก ท่านอาจารย์ และ เพื่อนๆพี่น้อง ด้วย
​

ขอความกรุณา จากเพื่อนๆ พี่น้องชาวยูเรอัส
ช่วยกัน ส่งพลังรักษา
ให้กับ คุณณรงค์ ด้วยครับ

ขอบคุณครับ
​

 

ผลการรักษา
ต้องขอให้ ทางคุณสุชาดา ช่วยติดตามผล
และ นำมาบอกเล่า ให้ทราบด้วย นะครับ​

 

วันแรก ที่ส่งพลังรักษาให้ คุณณรงค์
สามารถส่งไป ได้ แบบเบาๆ นุ่มนวล ราบรื่น
อาบไปทั่วทั้งตัว
แต่ ยังคง อาบและ ฉาบในระดับผิวกายภายนอก
วันที่สอง
การส่งพลัง รักษา
เข้าไป จากศรีษะ ซึมซาบไปตามศรีษะ คอไหล่ แขน
จนลงไป สู่ร่างกาย

ในระดับ นี้ น่าจะเป็นผลดี ที่ผู้ป่วยน่าจะรับรู้ ได้บ้างแล้ว

น่าสงสัยว่า
1. บริเวณใบหน้า และคอ ไหล่ มีอาการอย่างไรบ้าง
2. อวัยวะในช่องท้อง กระเพาะลำไส้ มีอาการอย่างไรหรือเปล่า

คุณณรงค์ หรือ ญาติ ใกล้ชิดที่ทราบ ช่วยแจ้ง อาการให้ทราบหน่อย​

 

เทียมได้แจ้งให้พี่ณรงค์ทราบแล้วเรื่องที่คุณดาว มีกุศลเจตนาที่จะส่งพลังมาช่วยเหลือ จะสอบถามอาการและความรู้สึกของพี่ณรงค์และแจ้งให้ทราบค่ะ

อนุโมทนาบุญในกุศลจิตของคุณดาวและทุกๆท่านค่ะ

 

สวัสดีครับคุณ ดาวทะเลทรายและทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งและขอโมทนาในจิตที่เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม
ที่เมตตาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับทุกข์จากการเจ็บป่วยเป็นต้น
ภาพผมที่เห็นอยู่นี้ถ่ายตอนยังไม่มีอาการเป็นมะเร็ง มีร่างกายเป็นปรกติ
เมื่อเทียบกับตอนนี้ ต่างกันมาก จากนน้ำหนัก 60 กว่า เหลือตอนนี้แค่ 45 กิโลกรัม
ไม่ค่อยมีกำลัง พูดเสียงไม่ออก เหนื่อยง่าย น้ำท่วมปอดด้านซ้าย
ได้รับทุกขเวทนาทางกายพอสมควร แต่ทนไปเรื่อยๆให้ถือเป็นธรรมดาของสังขารที่กำลังป่วย
ทั้งที่ไม่อยากเป็น แต่มันก็เป็นไปแล้ว รักษาเท่าที่ทำได้ ด้วยอาศัยบุญกุศล เบื้องบนคือองค์ครูบาอาจารย์คอยช่วยประคับประคอง
หากท่านใน ณ ที่นี้สามารถส่งพลังช่วยได้ ก็ขอความกรุณาด้วยครับ
ความทุกข์จะได้ลดไปจากผมได้บ้าง ผมไม่อายหรือคิดมากจากการที่เอาความเจ็บป่วยของผมออกสู่สาธารณะ
เพราะสุดท้ายของสัตว์โลกหนีไม่พ้นความแตกดับ สลายแล้วก็จบกันในหนึ่งชาติ
หากท่านๆทั้งหลายช่วยส่งพลังรักษาให้ผมหายได้ ก็จะได้อาศัยใช้ร่างกายนี้ทำความดีต่อไป
ตอนนี้อยู่ด้วยกำลังของใจเป็นหลัก และ รักษากายด้วยยาสมุนไพรไปด้วย
กับแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีแนวทางรักษาสำหรับผู้อยู่ในขั้นผมแล้วครับ
ขอบพระคุณอีกครั้ง โมทนากับทุกดวงจิตที่เมตตานะครับ
ณรงค์ เพ็งลาภ

 

วันนี้ผมก็ส่งกำลังใจให้คุณณรงค์ แล้วนะครับ
หายป่วยเร็วๆนะครับ

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ

 

วันวาน ได้เจอเพื่อนเก่า
ที่รู้จักกันมา ไม่น้อยกว่า 15 ปี
สมัยก่อน เจอกันบ่อย แทบตัวจะติดกัน ดัวยว่า มีงานอดิเรก ชอบแบบเดียวกัน​

เพิ่งจะไม่ค่อยได้เจอกัน ก็ สัก สี่ปี หลังมานี่แหละ​

คน คน นี้ เค้า รักษาตัว ดีมาก
( เค้าเข้าใจ เอง หรือ เปล่า ไม่รุ้ )​

ตรวจสุขภาพ เป็นประจำ ทุกปี
เจ็บป่วยอะไร ก็ ไป พบแพทย์​

เค้า คิดว่า เค้า เป็นคนรักษาสุขภาพ
ทั้งบุหรี และ เหล้า ก็ แทบจะไม่ได้แตะ ( อาจมีบ้างนิดหน่อย )​

ไม่ได้เจอกัน นานเป็นปี​

เห็นหน้า แล้ว ตกใจ​

อา ไร กัน นี่ น้า​

แก่ ก็ แก่ ตาม อายุ นั่นแหละ เดินจะไม่ไหว อีก
พุง ปริ้น เลย.........55​

เฮอ.... อานิจ จา วัฏ ฏะ สัง ขา รา​

คิดในใจ ว่า ทำไม ปล่อย เนื้อ ปล่อยตัว ขนาด นั้น​

..........​

เค้า ยัง มา เตือน ให้ผม ไป ตรวจสุขภาพ บ้างนะ​

.......​

ทำให้ ผม เอง ฉุ คิด​

คน เรา เค้า คิด อะไร ผิดหรือเปล่า กัน นี่​

การไป ร.พ. หาหมอ ตรวจสุขภาพ เป็นประจำ
มัน ก็ ดี ... มีประโยชน์​

เป็นอะไร ก็ ได้รู้ ก่อน ได้รักษาแต่ เนิ่นๆ​

แต่ มันไม่ได้ แปล ว่า ท่าน ได้รักษาสุขภาพ ตัวเอง นะ​

ปล่อย ให้ หมอ ต่างหาก ที่เค้ารักษาท่าน ตอนเจ็บป่วย​

ตัวท่านเอง ไม่ ได้ทำอะไร เพื่อรักษาสุขภาให้ ตัวเอง เลย​

การกิน ก็ ดู ยุ่งยาก
นั่นก็ ไม่ ดี มี ไขมัน แยะ อันนี้ หวานมาก เดี๋ยวเป็นเบาหวาน​

กิน แต่ เนื้อๆ​

ที พืช ผัก ผลไม้ นี่สิ น่ากิน
ก็ ไม่ค่อยจะ กิน กัน​

เดินไกลหน่อย ก็ เหนื่อย แดด ร้อนหน่อย ก็ ไม่เอาแล้ว​

อะไร จะ เปราะบาง ขนาดนั้น​

การเดิน สัก หนึ่ง กม. มันไม่ได้ ไกล หรอกนะ
แต่ ตน กทม. รู้ สึก กันไป เอง ว่า มันไกล​

คน กทม. ลอง เดิน สัก สองสามป้ายรถเมล ละ ก้อ คงบ่น
ไป หลายวัน​

ดู กัน ไปแล้ว คนเรา สมัยนี้ ทำตัว ให้ไม่ สบาย เอง​

เชื่อ แต่ สื่อ ที่ได้ยินมา แบบ ไม่ ลืมหู ลืมตา​

" อาหาร ฟาสฟูด มันไม่ดี ต่อสุขภาพ"
ก็ ทำที รังเกียจ มัน​

แล้ว ท่าน กิน อะไร กัน เล่า ที่ ว่าดี ต่อสุขภาพ หรือเปล่า​

........​

ยิ่ง พวก กินไอสครีม ผลไม้
หาก ชอบ ก็ กินไป เถอ​

ได้ยินมาว่า เค้า บอกกัน มัน โลว์ แฟต โลว์แคลลอรี่​

กิน เพราะอย่างนี้ หรือ

............55


ไอสครีม หาก กลัว ไขมัน และ น้ำตาล
จะไม่ กิน มันก็ได้ ไม่ต้อง เสียงสตางค์ ด้วย........ จริง หรือเปล่า ......55

แล้ว จะไป กิน อะไร ที่ มัน ไม่ อร่อย แล้ว ก็ ราคาแพง ทำไม ..... เน้อ ​