พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เดี๋ยว ขอเวลานึก มุขใหม่มาโชว์ ลุง อ.เพชร ครับ หุ หุ

 

ตาลุงลงทุนเปิดกรุนำมาให้ศึกษา ให้ผมได้เปิดหูเปิดตา ผมก็ตะลึงแล้วนะ สงสัยต้องร้อง อุ๊ สมใจตาลุงก่อน ไม่งั้นป้าของตาลุงสงสัยจะเป็นห่วงตาลุงไม่นอน เอาแต่คุ้ยหาของเก่า...

อุ๊....

 

พระฤาษีตาลุง ๑,๓๐๐-๑,๕๐๐ ปี ไม่อยู่อาศรม แต่ไปพักอยู่ condo 555555

 

ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หุ หุ

 

สุดยอดครับ

ว่าแต่ ทำไมผมเป็น ลุงด้วยล่ะครับ - -"
ยังสู้พวกพี่ๆไม่ได้สักเสี้ยวเลยครับ

 

เพียง อุ๊ เดียว นี่ทำเอาตาลุงถึงกับไม่ปกติเลยหรือครับ ตาลุงสำรวมๆหน่อยนะ..หุ..หุ..

 

คืนนี้ผมขอไปทำสมาธิถวายพระเสวยอายุของผมก่อนนะครับ จากนั้นก็จะไหว้ครู ขอพรปู่แล้วทบทวนท่องคัมภีร์เวชกรรมต่อละ post มาทั้งวัน ได้คุยกับกูรูน้องนู๋ ได้ล่อดูของดีตาลุง คุ้มค่ามากจริงๆครับ..

 

.


ฮือ!ปั้นพญามัจจุราชด้วยอัฐิ








ฮือฮา!หนุ่มเมืองปากน้ำสร้างพญามัจจุราชหน้าตักกว้าง 100 นิ้ว ผสมด้วยกระดูกและผ้าห่อศพผสมกับปูนริมถนนหน้าบ้านตัวเอง เตือนสติประชาชนและคนขับรถไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบรูปปั้นพญามัจจุราชองค์ใหญ่ สร้างด้วยกระดูกศพ อยู่ริมถนนคลอง7 ใครขับรถผ่านต้องชะลอความเร็วดู เพราะเห็นเป็นเรื่องแปลก บางคนก็เกิดความกลัว จึงได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว พบบ้านหลังดังกล่าวเลขที่15/3หมู่5 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบรูปปั้นพญามัจจุราชองค์ใหญ่ อยู่ที่ข้างบ้านริมถนนคลอง 7


สอบถามหาเจ้าของบ้านคือนายองค์ท้าวรุกกะเทวา พรมจะมุณี อายุ 46 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนชื่อนายบุญรอด สังข์ศาสตร์ ประกอบอาชีพทำประมงบริเวณคลองเสาธง ต.บางปู จ.สมุทรปราการ ต่อ มาเมื่อประมาณปี 2550 อยู่ๆก็เกิดความรู้สึกอยากสร้างอะไรบางอย่างเป็นเครื่องเตือนสติมนุษย์ ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทในชีวิต เพราะทุกคนก็หนีความตายไปไม่พ้น และรู้สึกอยากเปลี่ยนชื่อใหม่ จึงได้ไปเปลี่ยนชื่อเป็นนายองค์ท้าวรุกกะเทวา พรมจะมุณี ตอนแรกเจ้าหน้าที่ของอำเภอไม่ยอมเปลี่ยนให้เพราะเป็นชื่อที่สูง แต่ตนยืนยันว่าต้องการจะเปลี่ยน เจ้าหน้าที่จึงยินยอมเปลี่ยนชื่อให้ หลังจากนั้นตนก็ได้เตรียมหามวลสร้างเพื่อเตรียมสร้างท้าวพญามัจจุราช ส่วนสาเหตุที่สร้างท้าวพญามัจจุราชองค์ใหญ่ขึ้นที่ริมถนนหน้าบ้านตัวเองนั้น ก็ถือว่าเป็นเครื่องเตือนสติมนุษย์ และทุกคนที่ขับรถผ่านมองเห็น เนื่องจากท้าวพญามัจจุราชถือว่าผู้เป็นใหญ่ในนรก ใครตายไปแล้วจะต้องไปเจอกับท่านทุกคน ซึ่งจะเป็นการเตือนสติให้ทุกคนขับรถด้วยความระมัดระวังและนึกถึงความตายเป็น ที่ตั้ง โดยนำมวลสารครั้งสุดท้ายของมนุษย์คือกระดูกจากการเผาแล้ว โดยไปขอมาจากสัปเหร่อวัดตำหรุ และอธิบายเหตุผลที่ต้องการกระดูกในครั้งนี้ว่าเพื่อต้องการนำไปเป็นส่วนผสม กับปูนเพื่อสร้างท้าวพญามัจจุราชองค์ใหญ่ อีกทั้งการสร้างดังกล่าวยังเป็นอานิสงส์ผลบุญอุทิศให้กับกระดูกของคนที่เรา นำมาปั้นอีกด้วย พร้อมกับนำผ้าห่อศพมาฉีกเป็นริ้ว และบิดให้เป็นเกลียวเพื่อปั้นผสมกับปูน เป็นแซ่ในมือของท้าวพญามัจจุราช สัปเหร่อจึงได้มอบกระดูกของมนุษย์ที่เผาแล้วพร้อมกับผ้าห่อศพมาให้
นายองค์ท้าวรุกกะเทวา ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนปัจจัยในการสร้างครั้งนี้ก็ได้จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสร้างทั้งปัจจัย เรื่องเงินและกระดูกที่มีคนนำมาให้ โดยนำมาตำให้ระเอียดเป็นผง ส่วนข้าวของภายในบ้านก็เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ประกอบในพิธีการทำศพทั้ง สิ้น เป็นโลงศพ หัวกะโหลก เครื่องประดับของโลงศพต่างๆ เพราะถือว่าทุกคนหนีความตายไปไม่พ้น
และประมาณเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ก็ได้เตรียมสร้างท้าวผกาพรหม ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการเปิดทิศ โดยนำส่วนผสมจากกระดูกมนุษย์ มาปั้นคู่กันกับท้าวพญามัจจุราช หน้าตัก ประมาณ 100 นิ้ว นอกจากการปั้นดังกล่าวจะเป็นการเตือนสติมวลมนุษย์ไม่ให้ตั้งอยู่ในความ ประมาทแล้ว ยังเป็นที่กราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเองอีกด้วย
“ปัจจุบัน ได้มีคนที่ปวดเมื่อตามร่างกายมาหาให้ช่วยรักษา ตนได้ใช้ท้าวเหยียบน้ำมัน ไปเหยียบบนเหล็ก ที่ถูกเผาไฟร้อนๆ เพื่อไปเหยียบบนร่างกายของผู้ป่วยที่เจ็บป่วยโดยใช้ธาตุไฟรักษา ซึ่ง รักษาหายไปหลายคน โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ส่วนเรื่องดังกล่าวใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละคน”นายท้าว รุกกะเทวากล่าว


-http://www.komchadluek.net/detail/20120111/119987/%E0%B8%AE%E0%B8%B7%E0%B8%AD!%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%B4.html#source_video-

.

คลิปไปชมตามลิงค์ครับ

http://www.komchadluek.net/detail/20120111/119987/ฮือ!ปั้นพญามัจจุราชด้วยอัฐิ.html#source_video
.

 

.

ว่อนเน็ต! คลิป ซี 7 ตบบ้องหูเจ้าหน้าที่สนามบินแก้วหูแตก



-http://hilight.kapook.com/view/66392-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก [ame="http://www.youtube.com/watch?v=CN0an4lZ9bk"]Youtube.com โพสต์โดย BilingualThailand[/ame]

คลิ ปข้าราชการกรมศุลฯ ตบเจ้าหน้าที่สนามบินแก้วหูฉีกว่อนเน็ต ในชื่อ "C8 กรมศุล ตบแก้วหูฉีก" ด้านกรมศุลฯ สั่งย้ายด่วนแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบ ยืนยันเป็นข้าราชการซี 7 ไม่ใช่ซี 8 ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้า

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกไซเบอร์ เมื่อมีคลิปที่ได้ใช้นามแฝงว่า "BilingualThailand" ได้อัพโหลดวิดีโอผ่านเว็บไซต์ยูทูบ โดยตั้งชื่อว่า "C8 กรมศุล ตบแก้วหูฉีก" ซึ่งมีความยาว 1.14 นาที และเผยแพร่ลงเว็บไซต์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา

โดยในคลิปดังกล่าวได้บันทึกเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ในวันที่ 8 มกราคม เวลา 13.02 น. ที่จุดตรวจค้นอาวุธภายในท่าอากาศยานแห่งหนึ่ง ซึ่งจุดดังกล่าวต้องมีการค้นตัวและตรวจสิ่งของก่อนรอขึ้นเครื่องบิน และ ได้บันทึกภาพเจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่ง กำลังขออนุญาตนำเครื่องตรวจจับอาวุธขอตรวจค้นชายวัยกลางคน ที่ในคลิปอ้างว่า เป็น C8 ของกรมศุลกากร ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นอาวุธ ทั้งนี้เหมือนกับว่าเจ้าหน้าที่กำลังพยายามชี้แจงอะไรสักอย่าง แต่ชายผู้นั้นได้ใช้มือทั้งสองข้างตบเข้าไปที่บ้องหูเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะชี้หน้าด้วยความโมโหแล้วเดินจากไป

ทั้งนี้ ใต้คลิป "C8 กรมศุล ตบแก้วหูฉีก" ผู้อัพโหลดได้ระบุใต้คลิปไว้ว่า "น่า สมเพชคนเหล่านี้จริง ๆ ยิ่งมีหน้าที่การงานสูงแต่จิตใจต่ำทราม ไม่เคยเข้าใจกฏกติกามารยาททางสังคม แก่เพราะกินข้าวจริง ๆ กับคนไทยด้วยกันทำเป็นกร่าง พอออกต่างประเทศอะไรก็ยอมเค้าหมด..อนาถ"

ส่วนบรรดาชาวเน็ตเมื่อได้ดูคลิปดังกล่าว ต่างพากันแสดงความไม่พอใจ โดยแสดงความคิดเห็นว่า ...

"วัยวุฒิขนาดนี้มันไม่ใช่พัฒนาจิ­ตใจบ้างเลยเหรอ? วัยขนาดนี้แล้ว อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ น่าจะเริ่มหาความสงบทางจิตใจได้แล้วนะ"

"น้องคนที่โดนทำร้าย อย่ายอมความนะ เอาให้ถึงที่สุด ให้ตายไปจากระบบราชการเลย"

"เป็นถึงข้าราชการระดับนี้ ไม่น่าทำแบบนี้เลยครับ"

"ประเทศเรา ถอยหลัง ลดอันดับในอาเซียน เพราะข้าราชการที่แหละ อย่ามามัวแต่โทษนักการเมืองเลย พรรคข้าราชการนี่หละ ยิ่งใหญ่อลังการ อยู่คู่ทั่วนาตาปี ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ประเทศไทยเจริญลงทุกวัน"

ทั้ง นี้ จากคลิปดังกล่าวที่กลายเป็นกระแสดังในขณะนี้ ล่าสุด นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร ยอมรับว่า ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว รู้สึกตกใจมาก เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ ตนได้มีคำสั่งให้ข้าราชการคนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่สำนักงาน ศุลกากรกรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราวแล้ว พร้อมกับได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน และขอยืนยันว่า ข้าราชการคนดังกล่าวเป็นข้าราชการระดับซี 7 ไม่ใช่ข้าราชการระดับซี 8 ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ อธิบดีกรมศุลกากร ยังได้กล่าวขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิทุก ๆ คน และระบุว่า ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อเข้าไปในพื้นที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ ต้องทำตามกฎและระเบียบของทางสนามบินอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม

​

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก คมชัดลึก , กรุงเทพธุรกิจ และ ไอ.เอ็น.เอ็น.




-http://hilight.kapook.com/view/66392-


.

 

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ

คนพวกนี้ ไม่ควรจับเป็นเลย

อยู่ไปก็รกแผ่นดินเปล่าๆ


----------------------------------------------------------------

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อุกอาจ! คนร้ายขับเก๋งชน ร.ต.อ.ดับ ขณะล่อซื้อยาบ้า แต่ไม่รอดถูกรวบตัวไว้ได้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 มกราคม 2555 20:16 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://plus.google.com/_/apps-static/_/js/widget/gcm_ppb,googleapis_client,plusone/rt=j/ver=ubcfMCbP90g.th./sv=1/am=!bMxf2l2AOqKIHfWTkg/d=1/" async="true"></SCRIPT><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>


<SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสภาพศพร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง รอง สว.สส. สน.สุทธิสาร ซึ่งถูกคนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนเสียชีวิตขณะทำการล่อซื้อยาบ้า</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย อายุ 25 ปี คนร้ายซึ่งถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



คนร้ายแก๊งค้ายานรก ถูกตำรวจล่อซื้อยาบ้า ขณะส่งมอบของกลาง เกิดไหวตัวทันขับรถเก๋งพุ่งชน รองสว.สส.สน.สุทธิสาร ล้อรถทับศีรษะแหลกเสียชีวิตคาที่ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ถูกตะครุบตัวไว้ได้ สารภาพนำยาบ้ามาส่ง พอถูกเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมรู้สึกตกใจ จึงได้พยายามขับรถหลบหนี ยืนยันไม่มีเจตนาฆ่าตำรวจ

วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ธนภัทร สุขมี พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุคนร้ายขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดภายในซอยลาดพร้าว 48 แยก 3 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตสามเสนนอก กทม.จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รรท.รองผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 48 แยก 3 เข้าซอยไปประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า มีโอ สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน สธม 279 กทม.ล้มคว่ำอยู่ ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบศพ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง รองสว.สส.สน.สุทธิสาร สภาพศีรษะถูกรถทับแหลกละเอียด นอนจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีดำลายขาว กางเกงยีนส์ นอกจากนี้ ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 48 แยก 5-1 พบรถยนต์มาสด้า 2 สีขาวดำ ทะเบียน ฎฟ 7874 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของคนร้าย ชนกับ รถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน ณฉ 8066 กรุงเทพมหานคร ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน คือ นายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/1 พหลโยธินซอย 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.และ น.ส.ปรียานุช พุฒิกรณ์ อายุ 23 ปี แฟนสาว พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด และยาไอซ์ 4 กรัม ได้ที่ซอยลาดพร้าว 48 แยก 5-1

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สน.สุทธิสาร สืบทราบว่า จะมีผู้ต้องหานำยาบ้ามาส่งให้กับสายลับ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร จึงนำกำลังไปดักซุ่ม พบผู้ต้องหาขับรถยนต์มาสด้า 2 มาที่จุดนัดพบ จากนั้นคนร้ายได้โยนยาบ้า และยาไอซ์ของกลางทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะขับรถหลบหนี ซึ่ง ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมนำรถ จยย.เข้าไปขวางไว้ แต่คนร้ายไม่ยอมหยุด จึงถูกคนร้ายชนจนตกไปอยู่ใต้ท้องรถเก๋งของผู้ต้องหา และถูกลากไถลไปเป็นระยะทางประมาณ 20 เมตร จนเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดหนึ่ง ซึ่งดักซุ่มอยู่บริเวณโดยรอบ ได้ขับรถกระบะพุ่งชนเพื่อสกัดคนร้ายและสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ดังกล่าว

พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมในคดีค้ายาเสพคิดเมื่อเดือน ก.ย.2554 ในท้องที่ สน.มักกะสัน ซึ่งคนร้ายได้ประกันตัวและกำลังอยู่ระหว่างสู้คดี ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า นายอลงกรณ์ เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย ไม่ใช่เครือข่ายใหญ่โตอะไร โดยหลังจากนี้ ก็จะให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจค้นห้องพักที่ย่าน จ.นนทบุรี หลังจากผู้ต้องหาให้การว่า ยังมียาเสพติดเก็บอยู่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

จากการสอบสวน นายอลงกรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่แฟลตเอื้ออาทร อาคาร 51 ชั้นที่ 1 ห้องที่ 1 ภายในซอยวัดกู้ จ.นนทบุรี โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปรับ น.ส.ปรียานุช แฟนสาว และนำยาเสพติดมาส่งภายในซอยลาดพร้าว 48 จากนั้นเมื่อส่งยาเสพติดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าจับกุม ตนรู้สึกตกใจกลัวมาก จึงขับรถหลบหนีและพุ่งชนตำรวจดังกล่าวจนเสียชีวิต ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าตำรวจ

ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายเป็นนักค้ายาเสพติดรายย่อย ที่เคยถูกดำเนินคดี และได้รับประกันตัวออกมาแล้วครั้งหนึ่ง และจากเหตุที่เกิดขึ้นก็เกิดจากการนำทีมตำรวจเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ค้ารายย่อย แต่ก็คิดตัดสินใจฆ่า จนท.ตร.ถือว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างเสี่ยง ซึ่งก็จะมีการปูนบำเหน็จให้แก่ตำรวจที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ส่วนมาตรการการปราบปราม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการกำชับให้ดำเนินการจับผู้ค้ารายย่อยอยู่แล้ว แต่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากอาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่เสี่ยง และก็อยากให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือสื่อมวลชนก็ตาม ช่วยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงานด้วย




-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000004539-

.

 

ข่าวเครียดๆครับ ลุงหนุ่ม อ่าตาลุงผมหามุขมา โชว์ ลุง อ.เพชร และลุงหนุ่มได้แล้วครับ องค์ธรรมดาๆ มือผี แบบนี้ ดีปล่าวแรงปล่าวครับ หุ หุ

 

.

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 24 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 17 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, Berial004, chantasakuldecha+, nongnooo+, Buddha_bless, :::เพชร:::+, nandaray </TD></TR></TBODY></TABLE>


อ่า มีมาอ่านเรื่องของลุง:::เพชร::: และลุงกูรูnongnooo ซ๊ะเยอะเลย อิอิ


.

 

.



องค์นี้ ลุงข้างบ้านกูรูnongnooo นำมาถาม
ถ้าเป็นของ ลุงข้างบ้านกูรูnongnooo ดีอยู่แล้ว




เหอๆๆๆ แล้วองค์นี้ล่ะครับลุง:::เพชร::: และลุงกูรูnongnooo มือผีป่าวครับ ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ

.



.

 

ลุงหนุ่มล่ะก็ ทำเป็นถ่ายใส่สีเขียวให้ดูไม่ชัด อีกล่ะ แล้ว เค้าจะไปหากันไงครับ หุ หุ

 

ขอบคุณมากครับที่แนะนำ.... ระยะหลังมานี้จะไม่หาเช่าพระเองแล้วครับเนื่องจากเจอของปลอมทั้งนั้น เพราะเราดูไม่เป็น คิดว่าผู้ให้เช่าดูน่าเชื่อถือแต่ก็โดน หลายปีมานี้จะเช่าจากเพื่อนสนิท แต่จะแพงตามกระแสตลาด ของสมเด็จท่านเขาก็ไม่ให้ง่ายๆและแพงมาก
แรกๆเข้าเน็ตเมื่อช่วงกลางๆปี จะได้รู้จักสมเด็จวัดพระแก้ว ลองศึกษาแล้วก็เกิดความโลภอยากได้ เจอหลายๆเวปให้เช่า หลักพัน , หมื่น ก็ไม่ไหวราคาสูง ไม่กล้าเพราะทั่วไปไม่ยอมรับและเราไม่รู้ว่าจะหาผูตรวจสอบได้อย่างไรครับ จนซักระยะหนึ่งไม่แน่ใจว่าเจอกระทู้พระวังหน้าได้อย่างไร ติดตามเข้ามาดูอยู่ซักระยะหนึ่ง ยังเสียดายเวลาว่าทำไมรู้จักช้า เมื่อก่อนทำบุญไม่กี่ร้อยหรือบริจาคเลือดเองครับ ก็รู้สึกมั่นใจและเป็นการร่วมบุญที่แท้จริงไม่ได้เข้ากระเป๋าส่วนตัวเหมือนเวปอื่นๆ
3-4 เดือนที่ผ่านมาผมเคยโพสถามพี่หนุ่มแล้วครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นทำบุญ 1,000บาท แต่พอดีปัจจัยไม่อำนวย ก็เลยปล่อยผ่านไปก่อน และก็เลยเริ่มเข้ามาศึกษาบ่อยขึ้น
พอดีจะสิ้นปี 2554 เห็นว่าอยากจะได้เป็นของขวัญปีใหม่ซักองค์หนึ่งจึงลองโพสมาอีกครั้ง พอดีได้พี่เพชรเมตตา จึงสมความปราถนาและรู้สึกซาบซึ้งมากครับที่พี่เพชรเมตตา ต่อไปขอพี่ๆสมาชิกทุกท่านให้โอกาสร่วมบุญและชี้แนะด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ
เทรน

 

ธรรมะทีดีจริงๆครับ ผู้ด้อยปัญญาเช่นผมอ่านแล้วกระทบใจ ยังไม่ถึงไหนแต่รู้สึกเหมือนตัวเองรู้ธรรมะเยอะ ทั้งๆที่ปฏิบัติไม่เกิด ไม่รู้ที่จิตจริงๆ

 

เรื่องคุณไสยนี้ เมื่อปี37 ช่วงนั้นพาคุณย่าไปหาเจ้าพ่อเขาใหญ่ที่สุพรรณบุรี เขาใช้ใบพลูวางตรงที่ปวด แล้วใช้มีดสับๆ จนมีเสียงกระทบเหล็ก แหวกออกมีหัวตะปู ดึงออกมามีเล็กบ้าใหญ่บ้าง บางจุดเป็นสายสิญขดเล็กๆ บางคนออกมาเป็นกระดูกก็มี แต่ไม่ใช่ว่าจะมีของออกทุกคน พี่ผมและอาผมทำแล้วไม่มีของออกเลยครับ
ผมเองตอนนั้นก็ลองครับ ค่าครู100เดียว ใบพลูซื้อต่างหาก พอดีเป็นไมเกรน ลองดูก็มีตะปูออกมาครับ แต่ผมจะรู้สึกเจ็บตรงที่เหมือนเขาใช้เล็บจิกแต่ก็ไม่มากนัก แต่ถามคุณย่าบอกว่าเวลาเริ่มสับๆๆ ซักแป๊ปก็เริ่มเจ็บแปล๊บวิ่งมาหาที่สับ เหมือนของวิ่งออกมาตรงนั้น ของคุรย่าจะมีตะปูและสายสิญที่ออกมาครับ
หลังๆมาเห็นอาบอกว่าแพง เหมือนกับว่าหาประโยชน์เข้าตัว หรืออย่างไรไม่ทราบ ก็ไม่ได้ไปอีก

 

เอ่อ กลัองที่ทำงานผม มันเป็นแบบนี้เองครับลุงกูรูnongnooo
ผมไม่ได้ทำอะไรเลย

องค์นี้ ผมเหน็บใส่กระเป๋าเสื้อมาครับ
.

 

.


อ่า สุดยอดจริงๆครับ






------------------------------------------------------------


ประมงสุดเจ๋งเพาะปลาทูครั้งแรกโลก

​

ประมงสุดเจ๋งเพาะ‘ปลาทู’ครั้งแรกโลก (ไทยโพสต์)

ทึ่ง! นักวิจัยกรมประมงเพาะพันธุ์ปลาทูสำเร็จครั้งแรกของโลก ใช้เวลาทดลอง 2 ปี จับพ่อแม่พันธุ์มาเพาะเลี้ยงในระบบปิด มีน้ำหมุนเวียน ปรับสภาพการเลี้ยงให้เหมาะสมกับระบบนิเวศในทะเล พบปลาทูวางไข่มากถึง 3 หมื่นฟอง หวังช่วยทดแทนการจับปลาทูมากเกินไป

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากความต้องการปลาทูจำนวนมหาศาลนี้ ทำให้ชาวประมงมีการพัฒนาเครื่องมือการทำประมงปลาทูให้มีประสิทธิภาพในการจับที่สูงขึ้นจนเกินกำลังการผลิตของธรรมชาติ ส่งผลให้แนวโน้มของประชากรปลาทูในปัจจุบันเริ่มลดน้อยลง ที่ผ่านมากรมประมงได้ใช้มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการห้ามจับปลาทูในฤดูวางไข่ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 15 พฤษภาคมของทุกปี ในเขตทะเลอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถึงสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาทูในช่วงฤดูวางไข่

"ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมประมงมีความพยายามในการศึกษาวิจัยการเพาะขยายพันธุ์ปลาทูเพื่อทดแทนการจับจากธรรมชาติ โดยได้วางแนวทางและกำหนดนโยบายให้นักวิชาการประมงผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพ เน้นการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาครประสบความสำเร็จเพาะพันธุ์ปลาทูในระบบปิดได้เป็นครั้งแรกของโลก" อธิบดีกรมประมงเผย

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาครริเริ่มการศึกษาวิจัยเพาะเลี้ยงปลาทู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตปลาทูทดแทนการใช้ทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติอย่างเกินความพอดี แต่เนื่องจากปลาทูเป็นปลาที่มีความอ่อนแอ ใจเสาะ จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำขึ้นจากทะเลมาเพาะเลี้ยง จึงต้องเริ่มดำเนินการจากการรวบรวมข้อมูลทางด้านชีววิทยา ฤดูกาลวางไข่ ลักษณะของนิเวศที่อยู่อาศัย ชนิดของอาหารที่พบในกระเพาะอาหารของปลาทู เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านวิชาการ และประยุกต์ในการผลิตปลาทูเชิงพาณิชย์ ด้วยการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ด้วยการให้อาหารที่มีคุณภาพและใช้ระบบน้ำหมุนเวียน

น.ส.พรรณติยา ใจอ่อน นักวิชาการประมงปฏิบัติการ และทีมเพาะเลี้ยงปลาทู ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งสมุทรสาคร กรมประมง บอกว่า เลี้ยงปลาทูพ่อแม่พันธุ์ที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงที่ได้มาจากทะเลในกระชังที่ขึงไว้ในบ่อดินนาน 6 เดือน จนปลาเติบโตถึงวัยเจริญพันธุ์ จึงย้ายปลาขึ้นมาเลี้ยงในถังเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ในโรงเพาะฟัก โดยให้อาหารสูตรเฉพาะของศูนย์ฯ และเลี้ยงในระบบกรองน้ำแบบชีวภาพด้วยเครื่องโปรตีนสกิมเมอร์ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำที่เหมาะสมปราศจากเมือกโปรตีนที่ตกค้าง มีการควบคุมความเค็มที่ระดับ 27-30 ส่วนใน 1,000 และควบคุมอุณหภูมิให้มีค่าคงที่อยู่ระหว่าง 29-32 องศา

"จากความพยายามมานานกว่า 2 ปี ก็ได้เกิดผลสำเร็จขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2554 โดยปลาทูได้วางไข่และสามารถอนุบาลในระบบปิดได้สำเร็จ ทั้งนี้ แม่ปลาทูวางไข่ครั้งละประมาณ 15,000-30,000 ฟอง และมีพฤติกรรมวางไข่แบบรวมฝูง แม่ปลาทั้งฝูงจะวางไข่เป็นระยะ ๆ ต่อเนื่องกันหลายวันไปจนหมดฤดูผสมพันธุ์" น.ส.พรรณติยา

สำหรับไข่ของปลาทูเป็นแบบไข่ครึ่งจมครึ่งลอยน้ำ มีหยดน้ำมันและถุงไข่แดงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับระบบร่างกาย ไข่มีขนาดประมาณ 0.80 - 0.96 มิลลิเมตร ใช้ระยะเวลาในการฟักประมาณ 16-17 ชั่วโมง ถุงไข่แดงของลูกปลาเริ่มยุบและหมดไปภายใน 3 วัน ลูกปลาตั้งแต่วันแรกที่ฟักออกจากไข่ถึงอายุ 7 วัน อนุบาลด้วยแพลงก์ตอนที่ประกอบไปด้วยทั้งสาหร่ายสีเขียวและสีน้ำตาล ร่วมกับโรติเฟอร์ โคพิพอต และหลังจากนั้นลูกปลาจะสามารถกินอาร์ทีเมียแรกฟักและอาหารเม็ดได้

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3485-7136 หรือ 0-3442-6220 ในวันเวลาราชการ

ทั้งนี้ ปลาทูเป็นสัตว์น้ำซึ่งเป็นอาหารที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน หลายคนคงคุ้นเคยกับการรับประทานปลาทูเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่มากมาย ทำให้ในแต่ละปีชาวประมงต้องจับปลาทูจากท้องทะเลไทยมากถึง 6 หมื่นตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงต้องมีการออกไปจับเพิ่มจากน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับในน่านน้ำไทยพบปลาทูได้ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ 1.ปลาทู 2.ปลาลัง หรือปลาทูโม่ง และ 3.ปลาทูปากจิ้งจก โดยปลาที่ชาวประมงจับได้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทูและปลาลัง ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่ปลาทูตัวแบนกว้างกว่าปลาลัง และส่วนหัวความกว้างกับความยาวของหัวปลาทูจะเท่ากัน แต่หัวของปลาลังความยาวมากกว่าความกว้าง เมื่อโตเต็มที่ปลาลังจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาทูมาก ชาวประมงจึงเรียกกันว่าปลาทูโม่ง ส่วนปลาทูปากจิ้งจกมีลำตัวเรียวยาว ซึ่งพบน้อยมาก



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



-http://www.thaipost.net/x-cite/120112/50962-

-http://hilight.kapook.com/view/66424-

.

 

.

เป็นกำลังใจให้ครับ



-----------------------------------------------------------

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก [ame="http://www.youtube.com/watch?v=RPvi58t1PKA&feature=related"]Youtube.com โพสต์โดยคุณ CiNNtv1[/ame]


กำลังใจเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในยามที่คนเราต้องเผชิญเรื่องหนักหนาสาหัสในชีวิต เพราะแม้จะเกิดเรื่องน้อยใหญ่มากมายเพียงใดก็ตาม แต่ขอเพียงแค่เรามีกำลังใจแล้ว เราจะสามารถผ่าฝันเรื่องทุกอย่างไปได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับที่ทางรายการตีสิบได้นำเสนอเรื่องราวของน้องกุ๊กกิ๊ก เด็กหญิงธีระรินทร์ อินพิลา หนูน้อยผู้เคราะห์ร้ายที่โดนรถ 6 ล้อชน และทับขาจนกระทั่งอวัยวะเพศรวมทั้งรูทวารหายไปทั้งหมด โดยเมื่อวันอังคาร ที่ 10 มกราคม น้องกุ๊กกิ๊ก ได้มาถ่ายทอดเรื่องราวของเธอ พร้อมกับคุณแม่ ถึงกำลังใจที่ไม่มีวันหมด


ก่อนอื่น น้องกุ๊กกิ๊ก ได้เล่าย้อนถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซึ่งทำให้เธอต้องเสียขาไปนี้ให้ฟังว่า คุณตาขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนเธอเป็นคนซ้อนท้าย เมื่อคุณตาขี่รถพาเธอไปถึงสามแยก คุณตาได้จอดรอเพื่อเตรียมที่จะเลี้ยวขวา ทันใดนั้น มีรถหกล้อบรรทุกอ้อยที่แซงรถคันอื่นมา ชนเข้ากับรถจักรยานยนนต์ของเธออย่างจัง ทำให้คุณตากระเด็นลอยไปตกอีกฟากหนึ่งของถนน แต่อนิจจาตัวเธอตกจากมอเตอร์ไซต์แต่กลับไปอยู่ใต้ท้องรถหกล้อ โดยที่ขาของซ้ายของเธอโดนล้อหน้าของรถทับอยู่ ไม่สามารถขยับพลิกตัวไปไหนได้เลย

​

ในขณะที่น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยผู้เคราะห์ร้าย กำลังโดนล้อรถทับขา เจ็บปางตายอยู่นั้น แต่เธอกลับได้ยินสิ่งที่คนขับพูดออกมาว่า "เด็กยังไม่ตาย ถ้ายังไม่ตายก็ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ต้องชดใช้ค่าเสียหาย แถมติดคุกอีกต่างหาก แต่ถ้าตาย ก็เสียค่าทำศพแค่นั้น" ว่าแล้ว คนขับก็ถอยรถกลับมาทับขาหนูน้อยอีกครั้ง ทับไปถึงสะโพก ก่อนลงจากรถแล้ววิ่งหนีไป


คุณแม่ของน้องกุ๊กกิ๊กเล่าว่า ตอนนั้นสภาพของน้องกุ๊กกิ๊กแย่มาก ขาตั้งแต่ส่วนสะโพกข้างซ้ายขาดออกจากกันแล้ว ต้องรออยู่นานกว่ารถพยาบาลจะมา แต่โชคดีที่มีคุณครู ซึ่งสอนตั้งแต่รุ่นตนมาจนถึงสอนน้องกุ๊กกิ๊กช่วยพาน้องกุ๊กกิ๊กส่งโรงพยาบาล และน้องกุ๊กกิ๊กก็หมดสติไปถึง 2 วัน คุณหมอต้องช่วยกันปั๊มหัวใจน้องกุ๊กกิ๊กให้ฟื้นคืน แต่หมอก็บอกให้ทำใจว่า เพราะโอกาสรอดมีไม่มาก ตอนนั้นตนยอมรับว่า ทำอะไรไม่ถูก พอเห็นสภาพลูกก็สงสาร แต่หมอก็บอกว่า อย่าร้องไห้ให้ลูกเห็น เดี๋ยวลูกจะไม่มีกำลังใจ ตนก็ทนดูได้ไม่นานก็ต้องออกมาร้องไห้ข้างนอก ด้วยหัวอกแม่ที่เป็นห่วงลูกจับใจ


แต่ด้วยปาฏิหาริย์ คุณหมอก็สามารถช่วยน้องกุ๊กกิ๊กไว้ได้ หลังจากการนอนสลบไปถึง 2 วัน น้องกุ๊กกิ๊กได้ย้ายมารักษาตัวที่ห้องไอซียูต่อ วินาทีแรกที่น้องกุ๊กกิ๊กฟื้นขึ้นมา ก็ร้องไห้ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ด้วยเพราะสายระโยงระยางจากเครื่องมือการแพทย์ที่กำลังช่วยชีวิตไว้ ผ่านไปไม่นาน น้องกุ๊กกิ๊กเริ่มรู้สึกแล้วว่า ขาเธอหายไป เธอจึงได้เอื้อนเอ่ยคำถามด้วยน้ำเสียงอันใสซื่อบริสุทธิ์ว่า "แม่จ๋า ขาหนูหายไปไหน" เพราะขยับตัวก็ไม่ค่อยได้ จะลุกขึ้นนั่งก็ทำไม่ได้ ตอนแรกน้องกุ๊กกิ๊กก็ได้แต่ร้องไห้จนต้องมีหมอจิตเวชมาช่วยดูแล คอยปลอบใจ และหลังจากนั้น อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ตามที่เห็นในปัจจุบัน

​

นอกจากนี้ น้องกุ๊กกิ๊กยังได้เปิดแผลที่เกิดขึ้นให้ดู พร้อมอธิบายวิธีการรักษาของหมอด้วยว่า ตอนนี้เธอไม่มีรูทวารหนักและอวัยวะเพศแล้ว นั่นหมายถึงว่า เธอไม่สามารถขับถ่ายเองได้ เธอจึงต้องต่อสายตรงหน้าท้อง เพื่อช่วยขับถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย และคุณหมอก็ได้ลอกเอาผิวหนังจากขาข้างที่ยังมีอยู่มาแปะผิวหนังในบริเวณรอยต่อของขาข้างที่ขาดด้วย


แต่แม้น้องกุ๊กกิ๊กจะพิการทางร่างกาย แต่บอกได้เลยว่า เธอไม่เคยพิการทางจิตใจ เพราะน้องกุ๊กกิ๊กคนนี้ เธอเป็นคนที่ไม่เคยท้อแท้สิ้นหวังเลย มาถึงตอนนี้เธอกำลังใจดีมาก เพราะขณะที่เธอเล่าเรื่องสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองนั้น เธอสามารถเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส ร่าเริง ไม่มีแววตาของความเศร้าหลงเหลืออีกต่อไป เธอสามารถพูดเล่น หยอกล้อ แม้กระทั่งสามารถบอกชื่อโรคที่เธอกำลังเป็นอยู่ ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และอธิบายมันออกมาได้ดีด้วย แสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กที่ร่าเริง มีกำลังใจพร้อมที่จะสู้กับสิ่งที่จะเข้ามาในชีวิต โดยประโยคสำคัญที่เธอมักท่องขึ้นใจเพือให้กำลังใจตนเองก็คือ

​

"แม้เสียขาไป 1 ข้างแต่เธอยังมีมืออีก 2 ข้างที่มันสามารถทำอะไรได้อีกมากมายในชีวิต"


และในขณะที่น้องกุ๊กกิ๊กพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เธอก็ร่วมกิจกรรมของทางโรงพยาบาลมากมาย ทั้งเข้าประกวดหนูน้อยเสียงดีจนได้รับรางวัลชนะเลิศ ตลอดเป็นหนูน้อยขวัญใจของคนไข้เด็ก ๆ ในโรงพยาบาล รวมทั้งยังเป็นจิตอาสา ช่วยให้กำลังใจ ปลอบใจผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายให้มีชีวิตต่อไปอีกด้วย

<IFRAME src="http://www.youtube.com/embed/RPvi58t1PKA" frameBorder=0 width=560 height=410 allowfullscreen=""></IFRAME>

คลิป รายการตีสิบ : หกล้อขยี้..อวัยวะเพศแหลก 1


<IFRAME src="http://www.youtube.com/embed/1J_MAZz2IRg" frameBorder=0 width=560 height=410 allowfullscreen=""></IFRAME>

คลิป รายการตีสิบ : หกล้อขยี้..อวัยวะเพศแหลก 2
​

-http://hilight.kapook.com/view/66445-


.