รุมโต้คำทำนาย“เด็กชายปลาบู่”-ยัน“เขื่อนภูมิพล”ไม่แตกแน่

จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ยังไงกันไว้ก็ดีกว่าแก้นะคะ

 

โดยส่วนตัวผมเชื่อ เพราะได้อ่านมาบ้างแล้ว
ขอบคุณท่าน จ.ข.ก.ท.ที่นำมาให้อ่านอีกครั้ง

 

ระวังโดนสำนักอื่นยำเละนะครับ กล่าวชัดเจนระบุตัวขนาดนี้
เพราะมีหลายท่าน ที่กล่าวว่าตนคือร5
บางท่านก็กล่าวว่า ร5 ตอนนี้ท่านเป็นเทพอยู่บนสวรรค์
อิอิ
ร5 คือหลวงพ่อไม่น่าผิดแน่ๆ
แต่ร1 นี่เท่าที่อ่านเรื่องจริงอิงนิทาน ท่านไม่กล่าวออกมาประมาณนั้นนะครับ

 

เชื่อในหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ว่าท่านเป็น.......

 

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ต้องฟังหูไว้หูครับ
ผู้มีอำนาจต้องตระเตรียมแนวทาง วางแนวทางอะไรๆให้ดีกว่านี้
อย่าคิดแต่.................!! เพื่อคนๆเดียวอยุ่เลย

 

ผมว่าต่าจะเตรียมตัวไว้นะ แต่เรื่องเงื่อนเวลา ผมไม่มั่นใจว่าจะเปงสิ้นปีนี้หรือสิ้นปีหน้านี่อะดิ

 

เขื่อนที่น่ากลัวว่าจะแตกได้ง่ายกว่าเขื่อนภูมิพล ควรกลัวเขื่อนศรีนครินทร์มากกว่า เพราะสร้างตัวเขื่อนคล่อมแนวรอยเลื่อน และยังเป็นแนวรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ หากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา ไม่ต้องถึง 7 ริกเตอร์ เขื่อนก็พังทลายลงได้

เขื่อนภูมิพล สร้างบนแผ่นดินที่ไม่มีรอยเลื่อนพาดผ่าน ออกแบบเพื่อป้องกันแผ่นดินไหวไว้อย่างดี(ที่ไม่เกิน 7 ริกเตอร์) ถือว่าปลอดภัยมากแล้วในด้านวิศวกรรมปัจจุบัน ถ้าไหวมากกว่านั้น มันย่อมทลายลงเป็นธรรมดา เพราะรับแรงเกินที่ออกแบบไว้ ไม่สามารถป้องกันใดๆได้ และเราไม่อาจทำนายการเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้เกิน 30 นาที
เราไม่อาจไปโทษใครๆได้เมื่อมันเกิด เพราะพวกเขาก็ได้ทำหน้าที่ตามที่เขาควรทำแล้ว

โอกาสที่เขื่อนภูมิพลจะแตกเพราะสาเหตุการกักเก็บน้ำไว้เกินความจุ ก็เป็นไปได้ยาก เพราะตัวเขื่อนก็มีระบบระบายน้ำส่วนเกินออกอย่างสม่ำเสมอ คือ ยอมให้น้ำท่วมพื้นที่ใต้เขื่อน ดีกว่าเขื่อนแตก และคงไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดกล้าเก็บน้ำจนล้นเขื่อนเป็นแน่แท้

ถ้าเกิดมีคนอุตริ คิดวางระเบิดเขื่อนภูมิพล เพื่อให้เป็นไปตามคำทำนายหล่ะ นี่ก็ยากมากๆ เขื่อนน่ะไม่ใช่กระท่อมหรือตึกเล็กๆ ที่จะทะลายได้ง่ายๆ ถ้าจะใช้ระเบิด TNT ระเบิดเขื่อน ก็คงต้องใช้รถสิบล้อหลายคัน เพื่อขนระเบิดไปวางใต้เขื่อน ทำไม่ได้ง่ายหรอก หรือถ้าใช้ระเบิดนิวเคลียส์สักลูก อันนี้เป็นไปได้มากกว่า แต่จะหาจากไหนได้ ใครจะขายให้

เมื่อเราวิเคราะห์ด้วยข้อมูลท่ีเป็นเหตุเป็นผล จะทราบว่าโอกาสที่เขื่อนภูมิพลจะแตกนั้น จะมาจากสาเหตุแผ่นดินไหวระดับใหญ่ๆ เกิน 7 ริกเตอร์ ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดทราบเช่นกันว่าจะเกิดเมื่อไหร่ และจะป้องกันเขื่อนอย่างไรจากสาเหตุแผ่นดินไหว มันยากมากๆ เช่น
1 ถ้าผู้ว่าสั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงในวันปีใหม่ ถ้าทุกคนเชื่อและย้ายตามที่ท่านสั่ง (ถ้าเขื่อนไม่แตกในวันนั้น) แล้ววันอื่นๆหล่ะ ต้องอพยพอีกไหม เพราะมันอาจเกิดวันอื่นๆได้อีก แค่นี้ก็ปวดหัวแล้ว และทำไม่ได้ในทางปฏิบัติ
2 ระบายน้ำออกจากเขื่อนให้มากที่สุด (ไม่ต้องใช้ปั่นไฟ ไม่ต้องใช้เพื่อการเกษตร) รอจนกว่าแผ่นดินจะไหว หรือทำเช่นนั้นตลอดไป แล้วใครจะไปทำได้เล่า

3 เสริมความแข็งแรงของตัวเขื่อนให้รับกับแผ่นดินไหวระดับ 8-9 ริกเตอร์ให้ได้ วิศวกรโยธาจะตอบว่า ทุบของเดิมทิ้ง แล้วสร้างใหม่ดีกว่า จะง่ายกว่ากันเยอะเลย

จะเห็นว่า การป้องกันเหตุจากแผ่นดินไหวเป็นสิ่งทำได้ยาก ไม่เหมือนลมพายุ ไม่เหมือนฝนตกหนัก ไม่เหมือนสึนามิ เพราะภัยอื่นๆ ยังพอมีเวลาตรวจจับ และทำนายการเกิดได้ แต่แผ่นดินไหว ไม่มีเลย
คนทำนายไม่ว่าใคร ไม่ควรทำนายภัยพิบัติลักษณะเช่นนี้เลย เพราะความสามารถของมนุษย์ รับมือมันไม่ได้ ผู้ที่อยู่ในสถานะที่อาจได้รับภัย จะต้องอกสั่น ขวัญหาย ตลอดไป นอนผวาทุกคืน แม้ในชั่วชีวิตมันอาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ ก่อนจะรับรู้คำทำนาย พวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเรื่อยมา แต่วันนี้ ความทุกข์ระทมถาโถมเข้าใส่พวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยบุคคลที่อ่้างว่าพระโพธิสัตว์ที่รู้อนาคตบอกให้เตือน เตือนด้วยความหวังดี
แม้พระพุทธเจ้าเองก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำนายอะไร ที่มันไม่เกิดประโยชน์ ที่มันแก้ไขไม่ได้ ในสมัยพระองค์เอง ไม่เคยเลยที่จะทำนายว่า ปีนี้ ชมพูทวีปจะฝนแล้ง จะน้ำท่วม หรือพายุจะมา ให้ประชาชาชนเตรียมตัวให้ดี
ยุคนี้ให้นึกเสียว่า คนรู้นิ่งเสียสนิท คนไม่รู้พร่ำทำนายไปทั่ว

 

เคยมีผู้ศึกษาดูว่าถ้าเขื่อนภูมิพลแตก เราจะมีเวลาหนีน้ำกี่วันและน้ำจะมาสูงแค่ไหน
ลองดูกราฟกันนะครับ น้ำจะมาถึงตัวเมืองนครสวรรค์ประมาณ 100 ชั่วโมง หรือ 4.1 วัน
ด้วยความสูงประมาณ 2.0 เมตร ถ้าน้ำนี้จะไปถึงกรุงเทพก็คงต้องใช้เวลาอีกประมาณ
129 ชั่วโมง หรือ 5.3 วัน (นครสวรรค์ห่างกรุงเทพเท่ากับ 240 กม. เขื่อนภูมิพลห่าง
ตัวเมืองนครสวรรค์ประมาณ 185 กม.)
รวมแล้วคนกรุงเทพมีเวลาหนีประมาณ 9.4 วัน และน้ำคงมาสูงระดับไม่เกิน 1.0 เมตร

 

ลุงบอกว่า ปลาบู่บอก "โลกเปลี่ยนแปลง" แล้วลุงบอกว่า "ให้นึกถึงตอนใดโนเสาร์ตายหมด"
ถ้าเป็นจริงดั่งข้อความข้างบน มนุษย์ทั่วโลกตายเรียบแล้วจะหนีไปไหนพ้นครับ มันไม่ใช่เฉพาะเขื่อนที่บอกแล้วมั้ง เพราะแค่เขื่อนบ้านเราแตกไม่ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงหรอกแต่นี่ ขนาดโลกเปลี่ยนแปลง นี่มันหายนะไปทั่วโลกเลยนะนั้น มันขัดคำพูดตัวเองไหมลุง ตัวลุงเองก้ไม่รอดเหมือนกันน๊ะ ไหน ๆก็ไหน ๆแล้ว ก็ให้มันตายอยู่กับบ้านเกิดแล้วกันน๊ะลุง หรือตอนลุงเล่าลุงยังไม่สร่างเมาหว่า

 

ถ้าหากเกิด แผนดินไหวรุนแรง ต้องเร่งออกที่กลางแจ้งก่อนเลยครับ แต่ถ้าแรงขนาด ดินแยกแตกระแหง คง ลำบากอยู่ แต่คิดว่า ไม่ถึงขนาดดินแยก แต่ผมอ่านในเว็ปแห่งนี้ ไม่รู้ว่า ตอนไหน ท่านบอกประมาณว่า หนัง 2012 มัน Over เกิน ถ้าขนาดนั้นจริงๆ ไม่รอดสักรายเดียวแหละ ผมว่า อีกอันอ่านจากเว็ปนี้เหมือนกัน ไม่แน่ใจนะครับ จำไม่ได้ชัดนัก ท่านก็บอกประมาณว่า ไม่ใช่ 2012 ท่านว่า ปีนี้ 2554 ก็ ลองไปบวกลบเอาครับ

เจ้าพระคุณ อย่าให้เกิดเลย ขอใช้หนี้ให้หมดก่อน ยังมีหนี้อยู่ แต่คิดว่า ยังคงได้ใช้หนี้ต่อไป เพราะถ้าเป็นอย่างคุณปลาบู่บอก ผ่านครั้งนี้ไปได้ ประเทศไทย รวยหละครานั้น

 

ระวังโดนสำนักอื่นยำเละนะครับ กล่าวชัดเจนระบุตัวขนาดนี้
เพราะมีหลายท่าน ที่กล่าวว่าตนคือร5
บางท่านก็กล่าวว่า ร5 ตอนนี้ท่านเป็นเทพอยู่บนสวรรค์
อิอิ
ร5 คือหลวงพ่อไม่น่าผิดแน่ๆ
แต่ร1 นี่เท่าที่อ่านเรื่องจริงอิงนิทาน ท่านไม่กล่าวออกมาประมาณนั้นนะครับ<!-- google_ad_section_end -->

ขอบคุณครับที่แนะนำ แต่ผมได้กล่าวไว้ชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้ให้ใครเชื่ิอตามผม สุดแล้วแต่ภูมิธรรมครับ ไม่รู้ว่าจะกลัวสำนักอื่นยำไปทำไม เขาคิดว่าเขาเป็นเขาใช่ก็ปล่อยเขาไป ปล่อยวางไม่โต้แย้ง มันก็จบ สำหรับคุณผมแนะนำให้กลับไปอ่านหนังสือเล่มนั้นใหม่ แล้วพยายามตีความที่หลวงพ่อกล่าวถึงบุคคลหลายชื่อ แต่เป็นบุคคลเดียวกันครับ นับตั้งแต่บางระจันแตก ผู้นำหมู่บ้านมิได้ตายขณะนั้นนะครับ(ต้องใช้คำว่าตายเพราะยังเป็นสามัญชนขณะนั้น) หลังจากนั้นการเลื่อนตำแหน่งต่อมา คุณต้องไปหารายละเอียดประมวลเหตุการณ์เอาเองครับ อีกอย่างที่ผมอยากบอกเด็กๆรุ่นหลังๆคือ ผมทันหลวงพ่อมีชีวิตอยู่ครับ ดังนั้นมีเรื่องมากมายที่เด็กรุ่นหลังๆไม่รู้ และมีเรื่องอีกมากมายที่ผมยังไม่รู้แจ้งครับ
สำหรับเรื่องเขื่อนแตกไม่แตก ผมก็ปล่อยวาง อะไรจะเกิดก็เกิด ถึงที่ตายก็ตาย มีชีวิตรอดก็ไปปลูกสร้างบ้านเรือนใหม่ ถ้ามัวมานั่งระแวงเตรียมการณ์อย่างโน้นอย่างนี้ ถึงเวลาเขื่อนแตก บังเอิญพวกคุณไปอยู่ตรงจุดนั้นพอดี ไอ้ที่เตรียมการณ์ไว้มากมายก็ไม่ช่วยชีวิตคุณ แต่ก็อาจจะมีประโยชน์กับท่านอื่น อันนี้ก็แล้วแต่ความละเอียดของจิตที่สะสมสมถะวิปัสสนามาครับ จะว่าไปเกิดเหตุก็แบกบ้านช่องทรัพย์สินไปไม่ได้มาก จะไปอยู่บนเขาก็ต้องไปปลูกสร้างบ้านใหม่ให้มันวุ่นวาย ขับรถขึ้นเขาลงเขาเพื่อรอเวลา สำหรับผม ขอเอาเวลาไปภาวนาดีกว่าครับ ไม่ได้ชักชวนให้ประมาท แต่เป็นความเห็นในภูมิธรรมส่วนตัวที่ตัวเองมีอยู่ ทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งขึ้น ดับไป เพราะกฎของกรรม แม้แต่การตายของคน หากสร้างบุญกรรมมาดีพอ ถึงเวลาเกิดภัยพิบัติ สิ่งเหล่านั้นจะมาไม่ถึงตัว เรื่องเหล่านีมีอยู่ในพระไตรปิฎก คงต้องไปค้นคว้าหาความรู้กันเอาเอง ขอทุกท่านอย่าตื่นข่าวจนเกินไป และเจริญในธรรมครับ

 

เท่าที่อ่านเรื่องราวอดีตของหลวงพ่อมา หลวงพ่อท่านเป็นหนึ่งใน10 ทหารคู่พระทัยของพระเจ้าตากคือพระยาศรีสิทธิสงครามหรือกำนันจันหนวดเขี้ยว และเกิดร่วมสมัยกับร.1 ฉะนั้นหลวงพ่อไม่น่าจะใช่ร.1 นะครับ

 

แนะนำให้คุณไปค้นคว้าต่อว่าหลังจากได้พระราชทานยศเป็นพระยาศรีสิทธิสงครามแล้วท่านไปไหนต่อครับ ท่านได้ยศอยู่ตรงนั้นจนสิ้นชีวิตหรือเปล่าครับ หรือหลังจากนั้นท่านได้เป็นเจ้าเมืองอื่นอีกหรือเปล่า จนกระทั่งมาเป็นเจ้าพระยาจักรี ลองไปค้นดูครับ ลูกศิษย์สายวัดท่าซุงของท่านส่วนใหญ่จะทราบครับ เพราะถ้าท่านไม่เมตตาเล่าสู่ให้ลูกหลานฟัง ผมคงไม่กล้านำมาลงให้พวกท่านครับ ไม่อยากให้เกิดกรรมกับตัวเองโดยให้ข้อมูลผิดๆครับ เจริญในธรรมครับ

 

ประวัติศาสตร์คือสิ่งที่คนได้บันทึก จะทึกทักเองหรือเสริมแต่งเรื่องเข้าไป มันก็คือบันทึกที่สืบต่อกันมา จริงบ้างเท็จบ้าง บันทึกทักเอาบ้าง จึงเป็นที่มาของประวัติศาสตร์ แต่พระอริยะเจ้าเช่นหลวงพ่อฤๅษีฯ ญาณของท่านที่เมตตาเปิดหูเปิดตาให้ลูกหลานได้ทราบเรื่องราวบางเรื่อง ที่ประวัติศาสตร์ไม่อาจนำเรื่องจริงไปจารึกไว้ได้ เรื่ิองบางเรื่ิองสลับซับซ้อนเกินกว่าญาณคนธรรมดาจะทราบ โลกีย์ญาณมีเฝือให้เห็นบ่อยๆ กรรมบางอย่างผ่อนหนักเป็นเบาได้โดยพระอริยะ พระโพธิสัตว์ รวมถึงผู้มีฤทธิ์ที่จะเบี่ยงเบนเหตุการณ์ได้ ทยอยให้เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรับตรงๆ ตรงนี้เป็นความละเอียดของจิตแต่ละท่านที่จะรับรู้ ดังนั้นโต้แย้งกันไปก็เท่านั้น ต่างคนต่างถูก ไม่มีใครผิด ก็เลยมีคนถูกๆอยู่มากมายในเว็บครับ ( อย่าไปตีความหมายคนถูกของผมเป็นคนไม่แพงนะครับ) ขอทุกท่านเจริญในธรรมครับ

 

น้ำจากเขื่ิอนมาถึงนครสวรรค์ใช้เวลา 100 ชม แต่ตอนนั้นยังไม่เต็มทุ่งเหมือนตอนนี้ครับ ตอนนี้น้ำเต้มทุ่งไปหมดจนถึงภาคกลาง ฉะนั้นระยะเวลาตอนนั้นคงใช้กับตอนนี้ไม่ได้

 

ถูกต้อง ณ วันนี้ชาวไร่ชาวนา(ลูกๆ) ที่มาทำงานกรุงเทพฯ กันก็ทยอยกลับบ้านนอกหมดแล้ว ก็จะเหลือไม่กี่คนที่อยู่กรุงเทพฯ
ประชากร ประมาณ 5 ล้าน รวมต่างชาติและต่างจังหวัดที่อยู่อีก 3 ล้าน
วันสิ้นปี 2555 คงมีอยู่ 8 ล้านคน รวมสัตว์ต่างๆ อีก ประมาณได้ 450 ล้านชีวิต

ธรรมจะพาผู้รอดไปในที่เหมาะสมก่อนเช่นเหนือก็ขึ้นไปหมด อิสานก็กลับไปหมด
และไปอยู่ตามวัดต่างๆ หลังจากนั้นก็เป็นเรื่อง ภัยพิบัติ สงคราม ข้าวยากหมากแพง ทุกคนก็จะอยู่บ้านไม่กลับกรุงเทพ และทำมาหากินเหมือนสมัย 40 ก่อน
ผลิตยา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ(เกวียน) การสื่อสาร
แบบใหม่(สมัยเก่า)

ปฏิบัติดีไว้ บอกไปก็ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะ กรรมบังตา แม้บางคน พระอรหันต์อยู่ต่อหน้ายังไม่รู้ก็มี หรือรู้แล้วแต่ไม่ทำอะไรเลย

****************
จากที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เรื่องแผ่นดินใหวมี 8 อย่างใช่หรือเปล่า
และหากพระโพธิสัตว์เจ้าจุติในวันนั้นอาจเกิดภัยใหญ่ เพราะต้องรอ
ให้พระโพธิสัตว์โตเพื่อมาช่วยเหลืออีก 20 ปี ก็พอดีอยู่ในช่วงฟื้นฟู
สภาพครบ 20 ปีก็มีแต่คนดี

แนะนำ : โดยกลุ่มศิษย์พระสยามเทวาธิราช

ให้เรียนรู้การใช้ชีวิตพอเพียงไว้มากๆ และฝึกร่างกายโดยการกินน้อย ใช้น้อย
ลดทิฐิ ให้มากๆ

ทำไว้เกิดหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ตัวและจิตเราเท่านั้น ถ้าจิตดี
ตายที่ใหนก็ได้ ถ้าจิตดีมากๆ สามารถช่วยเหลือจิตดวงอื่นๆ ด้วย

 

ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่(ข้อมูลเริ่มเยอะเกิน) เรามาดูความรุนแรงของ 7 ริกเตอร์กันดีกว่า 7 ริกเตอร์จะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างมากมาย ส่งผลทำให้อาคารและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เสียหายอย่างรุนแรง แผ่นดินแยก วัตถุบนพื้นถูกเหวี่ยงกระเด็น (สิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนที่ไม่แข็งแรงพอ เจ๊งหมด ยิ่งสิ่งปลูกสร้างสมัยนี้ ไม่แข็งแรงเท่าสิ่งปลูกสร้างสมัยก่อน)
และจะขึ้นถึง 8 ริกเตอร์ได้ จะต้องคูณ 10 ของ 7 ริกเตอร์ ถึงจะเป็น 8 ริกเตอร์ได้
และ 10เท่าของ 8 ริกเตอร์ ถึงจะกลายเป็น 9 ริกเตอร์ ถ้ามันเกิน 7 ริกเตอร์จริงๆ ก็ไม่ต้องห่วงเขื่อนแล้วละ เพราะรัศมีการการทำลายล้างของ 8 ริกเตอร์ก็ 100 กิโลเมตร (รัศมีนะไม่ใช่เส้นรอบวง) และถ้าเป็น 9 ริกเตอร์ก็ รัศมีการล้างผลาญ คือ 1000กิโลเมตร ส่วน 10 ริกเตอร์ก็ไม่ต้องพูดถึง เห็นว่าทำลายล้างโลกได้ (ตามการคาดการ ไม่เคยเกิด จึงไม่มีบันทึกความเสียหายไว้) และถ้าเกิดขึ้นจริงเหมือนที่ไดโนเสาร์สูณพันธุ์ คุณจะมานั่งห่วงเขื่อนทำไม เพราะทุกอย่างบนโลกนี้คงจบสิ้นหมดไม่เหลืออะไร เขื่อนจะเป็นแค่เศษเสียวความเสียหาย ท่ามกลางความเสียหายอย่างประมาณการไม่ได้ของโลกนี้

เราเป็นพุทธ เอากาลามสูตร มาใช้บ้าง ความใคร่ความพิจารณาอย่างมีสติ เชื่อได้ แต่อย่างฟุ่งซ่าน ตื่นตระหนกวิตกจนเกินควร หากมันเกิน 7 ริกเตอร์จริง คิดว่าเอาเหล็กไปดามจะช่วยอะไรได้ เพราะถ้าเขื่อนจะพัง ภูเขาสองลูกที่ขนาบข้างนั้นก็จะต้องพังไปเช่นกัน ถ้าภูเขา ทนแรงสั่นสะเทือนขนาดนั้นไม่ได้และพังลง เรามนุษย์ธรรมดาจะไปเหลืออะไร และเราจะไปซ่อนใต้สิ่งปลูกสร้างใดที่อยู่ยงไม่พังทลายได้ช่วยบอกที

คำทำนายที่ลุงแกมาเล่าก็ได้อ่านเหมือนกัน แต่จริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้ และถ้าจริงไม่รู้ว่าลุงแกจะจำอะไรคาดเคลื่อนแค่ไหน จิตปรุงแต่งไปแค่ไหน แต่ทีี่ฟังมีประโยคเดียวที่รู้สึกฉุกคิดใจ คือ ตอนที่กำลังสนุกสนานเฉลิมฉลองในวันปีใหม่ จะเกิด..(อะไรก็ช่างเถอะ) และคนจะล้มตายกันมากมาย โดยปกติเมื่อเรามั่วแต่หลงสุข ต่างก็ลืมตายด้วยกันทั้งนั้น และนั้นเป็นเครื่องหมายแสดงว่าเราช่างประมาท และหากเกิดแผ่นดินไหวรุงแรงกว่า 7 ริกเตอร์จริง ก็ไม่ต้องห่วงเขื่อนแล้ว เพราะทุกอย่างก็จะวินาศสันตะโรหมดสิ้น ชีวิตก็คงจะวายไปก่อนเื่ขื่อนด้วยซ้ำ

 

ผมอ่านขาดตอนไปจริงๆด้วย ขอบคุณที่ชี้แนะนะท่าน

 

18.00 น. โดยประมาณ ช่อง 7 นำเรื่องเด็กชายปลาบู่มาออกอากาศติดตามชมนะครับ

 

เพิ่งดูจบ อิ อิ คุณตาดังใหญ่แล้วครับ นี่ถือเป็นการประกาศเตือนต่อสาธารณชนทั้งประเทศครั้งแรก ใครไม่เชื่อก็เป็นกรรมของเค้าแล้ว