ข่าวภัยพิบัติ แจ้งเตือนภัยก่อนปี 2555

ผมจะอัญเชิญ พระหินเขียวของหลวงปู่ฟัก ที่ผมติดตัว ไปจุ่มตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วก็อาจจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปหย่อนลงตามแหล่งน้ำธรรมชาติ

 

พอพระอาทิตย์ขึ้นสองดวง...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

แต่มันใกล้เวลา...มากไปหน่อย

เอาใจช่วยนะครับ

 

เราก็อยากจะย้ายไป แต่คงได้แต่คิด เพราะงานต้องทำ มีกิจการต้องดูแล ทิ้งไปดื้อๆคงไม่ได้ ทุกวันนี้ยังวางแผนไม่ถูกเลย

เราก็ได้แต่พยายามทำดี อนาคตจะเป็นไงก็ไม่รู้ คงแล้วแต่กรรมจัดสรรจริงๆ

 

ตั้งสติ เจริญ ทาน ศีล ภาวนา อกุศลใดที่ยังไม่ละให้ละ กุศลใดไม่มีต้องรีบทำ และเร่งความเพียรค่ะ ขณะเดียวกันก็เริ่มวางแผนหาสถานที่ที่เราคิดว่าน่าจะปลอดภัย แต่การที่จะโยกย้ายไปทั้งครอบครัวนี่ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรเพราะบางคนเชื่อบางคนไม่เชื่อ บางคนครอบครัวใหญ่ บางคนครอบครัวเล็ก (อันนี้เหนื่อยหน่อย ต้องพยายามหาข้อมูลมาให้พวกท่านเยอะหน่อย)

 

เรื่องดาวนิบิรุ นี่ก็น่าแปลกมาก เพราะถ้าเป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างในตัวเอง ไม่น่าจะโคจรเป็นอิสระได้ขนาดนี้ และการที่ดาวฤกษ์จะจุดปฏิกิริยานิวเคลียส์ฟิวชั่นขึ้นได้นั้น ต้องมีมวลมากกว่าดาวพฤหัสบดีอย่างน้อย 80 เท่า ซึ่งก็คือดวงอาทิตย์ดีๆนี่เอง ถ้ามวลน้อยกว่าดาวพฤหัสบดี 80 เท่า มันก็จะเป็นได้แค่ดาวเคราะห์ก๊าสเท่านั้น ไม่อาจจุดระเบิดนิวเคลียส์ฟิวชั่นให้ตัวเองได้ เพราะแรงโน้มถ่วงไม่พอ

ถ้ามันมีจริง และเข้ามาใกล้ระบบสุริยจักรวาลได้ ทุกอย่างจะพังพินาศไปหมด เพราะวงโคจรต่างๆจะวิบัติ สนามกาล-อวกาศ (time-space) จะบิดเบี้ยวมากขึ้น ด้วยแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลของดาวฤกษ์

ที่บอกว่า โลกจะหยุดหมุนชั่วคราว มันผิดหลักฟิสิกส์อย่างร้ายแรงเลยทีเดียว เพราะโลกต้องหมุนรอบตัวเองและดวงอาทิตย์ ด้วยความเร็วคงที่ เพื่อรักษาสมดุลย์ของ กาล - อวกาศ ด้วยกฏฟิสิกส์พื้นฐานบอกเราว่า วัตถุใด(โลกก็คือวัตถุเช่นกัน) ที่เคลื่อนที่ ย่อมมีแรงเฉื่อย เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนเราขับรถไปที่ความเร็วคงที่ 100 กม/ชม เราจะรู้สึกเฉยๆ แต่พอเราเหยียบเบรกกระทันหัน ทั้งตัวเราจะคะมำไปข้างหน้าทันทีคล้ายถูกถีบหลัง นี่แหละแรงเฉื่อย
ลองนึกสภาพของโลกที่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วประมาณ 1600 กม/ชม ซึ่งเร็วกว่าความเร็วเสียงเสียอีก อยู่ๆโลกหยุดหมุนกระทันหัน อะไรจะเกิดขึ้น ที่แน่ๆตัวเราและวัตถุทุกอย่างในโลกจะถูกแรงเฉื่อยเหวี่ยงออกไป ด้วยความเร็วเหนือเสียง สรุปก็คือ ตายอย่างสยดสยองอย่างยิ่ง และเมื่อโลกหยุดหมุน ก็แสดงว่าความสมดุลย์ของ กาล- อวกาศ ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์จะถูกทำลายลงไป โลกจะถูกดวงอาทิตย์ดูดเข้าหาทันที (มวลมากดูดมวลน้อย) นึกสภาพลูกชิ้นปิ้งบนเตาถ่านให้ดีๆ

เรื่องโลกหยุดหมุนนี่เป็นเรื่องเกิดขึ้นยาก เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เกิดได้ครั้งเดียว และจะไม่มีโลกให้เกิดซ้ำเป็นครั้งที่สอง

 

มีบ้านญาติที่เพชรบูณ์ ครูบาอาจารย์ก็อยู่ที่นู้น อยากไปใจจะขาด แต่ก็ไปไม่ได้ไหนจะครอบครัวเรา ไหนจะครอบครัวสามี ลูกอีก ก่อนหน้านี้เคยคิดจนเครียดว่าจะไปทำงานอะไรดีที่นู่นดี จะหาเงินสร้างที่อยู่ยังไง จะให้พ่อแม่เราพ่อแม่สามีไปอยู่ด้วยได้ยังไง ใครจะเข้าใจสิ่งที่เราคิด...จนผ่านมาถึงเรื่องน้ำท่วม กลัวมากปิดร้านพาลูกกับครอบครัวสามีหนีไปตจว. 1 เดือน บ้านอยู่ฝั่งธนพระรามสอง คิดว่าน้ำต้องมาแน่ๆ ลูกยังเล็กมากจะลำบาก ซื้อของเตรียมไว้ทุกอย่างเพื่อพ่อแม่ที่ไม่ยอมไป ถูกหาว่าวิตกจริต จนแทบจะมีปัญหาครอบครัว สุดท้ายน้ำไม่ท่วม...ในใจคิดว่ายังโชคดี...แต่ก็เป็นที่ถูกทับถมซะว่านี่เห็นไหมเธอเยอะเกินน้ำมันก็ไม่ท่วม บลาๆ สาระพัด....ร้านก็ขาดรายได้ต้องหายืมเงินมาจ่ายค่าเช่าร้าน....จนมาถึงขณะนี้ ตระหนักดีเกี่ยวกับภัยพิบัติที่ครูบาอาจารย์บอกกล่าวทุกอย่างตั้งใจทำได้ดีที่สุดคือรักษาศีลห้าเป็นปกติ ศีลแปดวันพระ ทำทานเท่าที่ความสามารถจะทำได้ สวดมนต์ทำสมาธิเกือบทุกคืน ระหว่างวันก็รักษาสมาธิระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย นิพพานเป็นที่ตั้งให้มากที่สุด หลีกหนีจากที่อโคจรต่างๆ...ถ้าเมื่อถึงเวลารอดก็ดีจะได้มีร่างกายไว้สร้างบุญบารมีต่อไปได้ หรือตายก็ชั่งก็ตั้งเป้าหมายไว้ที่พระนิพพานเพียงจุดเดียวเท่านั้น...คิดได้อย่างนี้เลยลดความเครียดกับเรื่องนี้ไปได้เยอะเลยค่ะ...แต่ก็ยังมีปัญหากับสามีจนได้ว่าเราเยอะเกินไปอีก...ก็ทำได้แต่คิดว่ากรรมใครกรรมมัน เกิดคนเดียวตายคนเดียวเมื่อถึงเวลาก็ต้องสะรัดบ่วง เมื่อชี้แนวทางแล้วไม่เดิน ก็สุดแต่.....

 

Good

วิทยาศาสตร์กายภาพกลายเป็นสิ่งล้าหลัง เมื่อเจอทฤษฎีของนักแต่งเพลง เข้าให้


"... ถ้ารอให้ฉันหยุดหัวใจ ก็คงต้องให้โลกหยุดหมุนไปก่อน ..."


"... จะมาร้ายดียังไง แต่ใจยังต้องการ ในทุกๆวัน โลกหมุนด้วยความรัก..."


อย่าคิดอะไรมาก คลายเครียดๆ


สมัย ม.ต้น จำได้นานเนิ่นมาแล้ว

กรณีคลื่นน้ำ
ความสูงของคลื่นจะสูงขึ้น ถ้ายอดคลื่นมาเจอะยอดคลื่น แล้วดันเคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งแบบสึนามิ อันนี้ก็น่าคิดน้อ


และถ้าเป็นกรณี คลื่นแบบอัดอากาศกระแทก-ขยายตามแนวยาว ละ จะเกิดจากอะไร ระเบิดนิวเคลียร์ได้มั้ยน้อ คงรอผู้มีความรู้มาบอก...

 

ครับ Nibiru นี่แปลกมาก...เป็นดาวเคราะห์ก๊าซ...แถมมีบริวาร (สมมติว่า...มันมีอยู่จริง)

เรื่องหยุดหมุน...นี่ไม่ทราบว่า...หยุดได้อย่างไรเหมือนกัน...เพราะหน้าแรกของกระทู้บอกไว้เพียงเท่านี้...แต่คงตอบคำถามที่...คุณ CopperOxide แกให้ลองคิดดูว่า...คลื่นสูง 400 เมตร มาจากไหน

ส่วนโลกเมื่อหยุดหมุน...หากมีแรงของ Nibiru ต้านไว้...โลกก็อาจไม่ถูกดวงอาทิตย์ดูดเข้าไป...และ Nibiru กับดวงอาทิตย์ก็อาจ...ปั่น...โลกให้หมุนอีกครั้ง

หาก Nibiru สามารถสังเกตุเห็นได้...ดวงกล้องโทรทรรศน์...วันนั้นอะไรๆก็คงกระจ่าง...ครับ

 

ขอให้สติตั้งอยู่ รู้ในปัจจุบัน ก็น่าจะข้ามพ้นสิ่งต่าง ๆ ได้

 

จากการศึกษาความรู้ของราชาโยคะ ได้มีการเตือนให้อยู่ในสภาวะพร้อมเสมอฝึกสภาพให้มีสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณตลอดเวลา ให้อยู่ในการจดจำระลึกถึงสิ่งสูงสุด เราเรียกว่าบาบาซึ่ง เป็นจุดแสงที่มีพลังอำนาจสูงสุด อยู่ที่โลกนิพพาน บาบา ได้บอกว่าทุกอย่างจะเกิดทันทีทันใด ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ ทางธรรมชาติหรือสงครามนิวเคลีย ท่านได้เตือนเรื่องของเวลา ขณะนี้เหลือน้อยแล้ว และสิ่งที่เราต้องทำคือฝึกตนเองให้อยู่ในความสงบ ดูแลความคิดไม่ให้มีความไร้สาระ ใช้เวลาให้มีประโยชน์ที่สุด มีความเพียรพยายามอย่างจริงจังและกระตือรือร้น เพราะสุดท้ายสิ่งที่จะไปคือดวงวิญญาณ ส่วนร่างกายนี้ ที่ประกอบด้วยวัตถุธาตุทั้งห้า ก็ต้องกลับสู่สภาพดั้งเดิม ซึ่ง เหล่านี้มันไม่ทำได้ง่ายๆ มันต้องใช้เวลาในการฝึกฝน บาบาได้พูดถึงการจากร่าง ให้ออกไปเหมือนกับการถอดเสื้อ ไม่มีความผูกพันยึดมั่นใดๆ แล้วเพ่งความคิดไปหาบาบา จุดเดียว เมื่อมีสภาวะที่เป็นดวงวิญญาณ เราจะไปที่ใดได้ด้วยพลังความคิด ( ต่อไปเมื่อมือถือใช้งานไม่ได้ พลังจิต หรือโทรจิตจะต้องทำงานแทน )

 

หมั่นสร้างความดี ปฏิบัติธรรม ฝึกจิตกันไว้มาก ๆ สิ้นสุดโลกนี้ ยังมีโลกหน้าเริ่มต้นใหม่ อยากไปสู่ภพภูมิที่ดีก็ต้องหมั่นสร้างแต่ความดีกันนะ

------------------------
บุญกุศลใดๆที่เกิดขึ้นกับลูก ลูกขอให้พ่อแม่มีส่วนได้รับเสมอ

 

คิดดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทเท่าที่กำลังสติและปัญญาพึงมี หากเกิดตายไปเมื่อใดอย่างน้อยก็ไม่เคยคิดเสียดายที่ได้เกิดมาแล้วได้นับถือพุทธศาสนาค่ะ โมทนาสาธุบุญที่นำคำเตือนมาบอกกล่าวค่ะ ^^ ดีชั่วอยู่ที่ใจตน

 

ขอบคุณ คุณZZ มากค่ะ
ขอให้ทุกคนที่ย้ายไปไหนไม่ได้ ปลอดภัยกันทุกๆคนนะคะ
บุญรักษาค่ะ
(ขอชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ตายเป็นชาติสุดท้าย สู้ สู้ สู้ )

 

ให้อยู่กับปัจจุบันทิ้งอดีตอนาคตไว้ให้เตรียมตัวตายก่อนตายเจริญมรณะสติทุกลมหายใจเข้าออก..อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น

 

เช่นกันครับ สู้ สู้

 

ขออนุโมทนากับเจ้าของบทความนี้ครับ...สาธุ....สาธุ...สาธุ

 

ถ้าเป็นจริง
น่ากลัวมากๆครับ

 

อนุโมทนาด้วยครับ ถูกต้องที่สุด

 

จะพยายามเตรียมตัวตายให้ได้เร็วที่สุด
แต่เวลานั้นทุกข์จากการพลัดพรากมันคงเกี่ยวแขนไว้แน่น:'(
:z8..ตั้งแต่ลืมตาดูโลก เราก็พลัดพรากแล้ว หลวงพ่อท่านสอนไว้
ขอให้จิตเหมือนเซฟทีคัสด้วยเถิดจะได้..
ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด catt3
..ขอโทษค่ะ ไม่ได้โฆษณานะ..