หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, Natachai+, wanchai99, manopk, somlatri+, Indhus+, chantasakuldecha </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดียามค่ำก่อนทำวัตรแลงครับ
    ดูเหมือนเปิดใช้ระบบ check rating ได้ประมาณ ช.ม ระบบก็ล่ม สู้ๆครับทีมงาน
     
  2. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    โมทนาสาธุกับท่านผู้ใจบุญในการขุดบ่อและสร้างที่เก็บน้ำใช้ในวัดทุกๆท่านครับ
     
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    โมทนาสาธุกับความสำเร็จของงานบุญทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ปู่ประถม อาจสาครครับ

    การบริหารงานของทุนนิธิฯ เป็นแบบมืออาชีพ น่านับถือครับ
     
  4. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์...สู่กันฟังครับ
     
  5. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขออนุโมทนากับมูลนิธิฯ คุณปู่ประถม และท่านอ๊อด ที่ได้กระทำแล้วและกำลังจะกระทำทุกประการ ขอบุญกุศลทั้งหลายจงเกื้อหนุนให้ทุกท่านไปถึงฝั่งแห่งความพ้นทุกข์ และเข้าสู่แดนนฤพานได้ในเร็วไวถ้วนทั่วทุกท่านเทอญ
     
  6. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    สวัสดีครับ พี่น้องเพื่อนนรธ.ทุกท่าน
    ผมไปอยู่เชียงใหม่ 10วันได้กระมัง กลับมา กทม.เมื่อวันจันทร์เพื่อส่งลูกเข้าเรียนวันอังคาร เลยไม่ได้พบกับครูชาติที่เดินทางสวนกันอีกวาระหนึ่ง
    เล่าสู่กันฟังในเรื่องส่วนตัวหน่อยหนึ่งครับ ที่ไปในคราวนี้เป็นงานที่ชื่อว่าNAP (นิมมานเหมินทร์ อาร์ต พรอมมาหนาด) แสดงสินค้าอันเกี่ยวกับแนวคิดใหม่ๆ ศิลปะ วิถีของคนยุคใหม่ ส่วนผมก็ไปหยั่งตลาดสินค้าของผมดูว่าเป็นอย่างไร ด้วยว่ามีโครงการจะย้ายถิ่นฐานไปปักหลักที่เชียงใหม่ ตั้งใจมาแล้วหลายปีว่าปี2555 จะต้องเคลื่อนย้ายตัวเองและครอบครัวมาที่นี้ มองหาลู่ทางถึงการดำรงชีพดูแล้วคงพอเป็นพอไป และคงได้เริ่มดำเนินตามความตั้งใจนับแต่ต้นปีหน้านี้และเสร็จสิ้นทั้งหมดคงราวกลางปี
    กลับมายังบอร์ดตามอ่านให้ทันกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดมีขึ้น ก็ขออนุโมทนากับกุศลกรรมของท่านทั้งหลายที่กระทำดีแล้ว ขออานิสงค์แห่งการกระทำนั้นเป็นพลปัจจัย ให้ทุกท่านได้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป นำท่านทั้งหลายสู่พระนิพพานอันเป็นที่หมายในเร็ววัน ณ ปัจจุบันชาตินี้ด้วยเทอญ.
     
  7. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    เราได้เทียวไปเทียวมาที่เชียงใหม่กันหลายวาระและหลายโอกาสนะครับ ยินดีกับท่านครูชาติด้วยนะครับที่ได้ทั้งฝึกอบรม ได้ทำบุญและได้พาครอบครัวมาทำสิ่งต่างๆร่วมกัน ดูจากภาพแล้วคงมีความสุขและอบอุ่นดีนะครับ วิถีของเราก็ต้องเป็นเช่นนี้แหละครับ ดำเนินไปทั้งทางโลกและทางธรรม
     
  8. naicharty

    naicharty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +394
    ขออนุโมทนาสาธุด้วย ที่เล่าประสบการณ์ดีๆ ในนิมิตให้ฟัง....นิมิตแปลว่าความหมาย ซึ่งนิมิตเป็นสิ่งมาบอกมาเตือนให้เราทำคุณงามความดี การที่จะให้ผู้อื่นมาตีนิมิตให้เราเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เราต้องตีนิมิตนั้นเอง และที่สำคัญให้ตีเป็นธรรมมาสอนใจตนเองครับ.....
    ขอให้เจริญในธรรม
     
  9. naicharty

    naicharty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +394
    หากคุณภูเบศวร์ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่เชียงใหม่ผมขออนุโมทนาสาธุล่วงหน้าด้วย.... เพราะขนาดผมมาอยู่ที่นี่ได้ 5 วันยังรู้สึกรักและอยากอยู่ที่เชียงใหม่ สมกับดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนแห่งพุทธภูมิจริงๆ มีสถานที่วัดวาอารามที่เป็นมงคลเยอะมากเลย และที่สำคัญอากาศดีมาก ผู้คนที่นี่ก็นิสัยใจคอดี....สรุปแล้วดีทุกอย่างหากมาได้ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย...ขอให้เจริญในธรรม
     
  10. naicharty

    naicharty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +394
    ขอบคุณครับ ผมมาถึงที่นี่ ช่วงกลางวันก็เข้าอบรมปั่นงานให้เสร็จ ตอนเย็นก็พาครอบครัวออกตะเวนไหว้พระทำบุญครับ ครอบครัวก็อบอุ่นดี คงเป็นเพราะพระธรรมรักษาครับ....เสียดายไม่ได้เจอท่านภูเบศวร์ ไม่เจอกันนานคิดถึง และปีใหม่นี้คงได้เจอกันที่ภูดานไหนะครับ...ขอให้เจริญในธรรม
     
  11. naicharty

    naicharty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +394
    ขออนุโมทนาสาธุกับผู้ใจบุญทุกๆ ท่าน รวมทั้งพี่ใหญ่ใจดีของเราท่าน ดร.นนต์ ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในครั้งนี้ด้วย ให้ทุกท่านจงมีความเจริญทั้งทางโลก และทางธรรมจนได้บรรลุธรรมถึงมรรคผลนิพพานด้วยเทอญ......สาธุ...
     
  12. Indhus

    Indhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +113
    ขอบคุณครูชาติที่แนะนำครับ จะพยายามแปลความหมาย หาที่มาและที่ไปของสัญญลักษณ์ที่ปรากฎในนิมิตให้ได้ครับ
     
  13. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขออนุโมทนาและขออวยชัยให้ท่านภูเบศร์และครอบครัวจงประสบความสำเร็จในวิถีทางโลกที่จะย้ายถิ่นฐานไปที่เชียงใหม่ พร้อมๆกับวิถีทางธรรมที่เดินคู่กันไปอย่างมั่นคง บุญกุศลที่ท่านได้สร้างสั่งสมมามากแล้ว แถมยังเป็นผู้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปในภพนี้ ย่อมส่งผลให้ท่านมีความสุขความเจริญตามที่ท่านปรารถนาทุกประการครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    16 ธันวาคม 2554
     
  14. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ธรรมนิมิต

    ขออนุโมทนากับความก้าวหน้าในวิถีปฏิบัติของท่านอินทร์ธัช การที่ท่านกล่าวว่าตัวเองยังช้ากว่าบุคคลอื่นนั้น คงไม่เป็นอย่างที่ท่านว่า เนื่องจากสภาวะที่ท่านกำลังเผชิญอยู่นั้น เป็นสภาวะของผู้ปฏิบัติที่เริ่มเข้าสู่วิถีการวิปัสสนากรรมฐานที่เริ่มละเอียดขึ้นแล้ว ความลังเลสงสัยในบางสิ่งโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวเองนั้น ย่อมเกิดขึ้นกับผู้ที่เริ่มสัมผัสสิ่งเหนือโลกได้ ละคนกับความตื่นเต้นยินดีหรือไม่ยินดีสลับกันไปมา เป็นสภาวะกระอักกระอ่วนอยากจะรู้ความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันจริงหรือไม่จริง บางครั้งก็ตัดใจได้เมื่อเริ่มฟังธรรมหรือภาวนา แต่บางครั้งมันก็ผุดขึ้นมาให้สงสัย เป็นอยู่อย่างนั้น
    <O:p</O:p
    กรณีของตัวผมเอง ก็เคยประสบสภาวะเช่นนี้มาแล้วคือ เมื่อเข้าสู่กระแสวิปัสสนาและมีสติระลึกรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน สภาวะความจริงรอบกาย และสภาวะที่เกิดจากการภาวนา ความละเอียดในการมองเห็นความจริงก็มากขึ้น สภาวะในจิตก็ไปต้านสิ่งที่บุคคลอื่นที่กำลังดำเนินอยู่ในวิถีของเขา เพราะมันเริ่มไม่เป็นไปตามความจริงที่เราเริ่มเห็นแล้วว่ามันไม่ถูกต้อง อาการเบื่อหน่ายจึงบังเกิดขึ้นจากจุดนี้เป็นเบื้องต้น แล้วลามไปสู่ความเบื่อหน่ายในวัฏฏะสงสารของผู้อื่นและของตัวเองตามลำดับ หากเรารู้ไม่เท่าทันอาการเบื่อหน่ายนั้น จะทำให้เราเกิดความทุกข์ที่ต้องทนอยู่กับสภาพเหล่านั้น จึงเป็นอาการเบื่อโลกอย่างที่ท่านว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารู้สภาวะความจริงของสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน หรือชีวิตส่วนตัว ผมก็โน้มนำเอามรรคมีองค์แปดมาพิจารณาในการดำเนินชีวิต ทั้งดำริชอบ คิดชอบ การงานชอบ ฯลฯ หรือสิ่งที่ชอบทั้งหลายมาเป็นอุบายในการทำงาน เมื่อเราเห็นความจริงว่า เราก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของโลกสมมุติอยู่ เราก็ต้องปรับตัวให้อยู่ในโลกสมมุตินั้นให้ได้ หากเมื่อถึงเวลาหรือมีบุญวาสนาจะได้ออกปลีกวิเวก เพื่อสร้างสมความเพียรให้ถึงที่สุดแห่งความพ้นทุกข์ มันก็คงจะเป็นไปตามบุญบารมีของเราเอง เมื่อภพนี้ลงมาเพื่อบรรลุธรรมก็ย่อมได้บรรลุธรรมหามีสิ่งใดมาขวางกั้นได้ไม่ หรือหากภพนี้บุญบารมียังไม่ถึงพร้อมแห่งกาลเวลาบรรลุธรรม(ติดคำพยากรณ์) เร่งความเพียรให้ตายมันก็ไม่ถึงซึ่งความพ้นทุกข์ไปได้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้สะสมบารมีสืบไปเพื่อจะได้ไม่เสียชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์ และยังได้พบกับพระพุทธศาสนาและพ่อแม่ครูอาจารย์ ผมเชื่อว่า พวกเราเหล่านักรบธรรมทุกคนล้วนมีบุญบารมีที่ถึงพร้อมแล้ว เพียงแต่ว่า ความปรารถนาเบื้องลึกของแต่ละคนอาจมีที่มาตั้งแต่ในอดีต หรือความเข้มแข็งของจิตใจในการที่จะตัดภพชาตินี้ อาจจะแตกต่างกันบ้าง <O:p</O:p


    ในส่วนของ “นิมิต” นั้น หลวงปู่ดุลย์กล่าวว่า "นิมิตนั้นมีจริง แต่ความจริงในนิมิตนั้นไม่จริง" หากตีความหมายตามคำกล่าวของท่านนั้น ภาพนิมิตของนักภาวนานั้นมีจริงๆ แต่ความจริงที่เห็นในนิมิตนั้นไม่จริง หมายความว่า มันไม่มีอยู่ในโลกจริงของมนุษย์นั่นเอง ดังนั้น นิมิตทั้งหลายให้รับรู้ไว้ว่ามันเกิดขึ้นจริง แต่ให้ละวางมันไว้เสีย หรือขอเป็นแค่กำลังใจ หรือนำเอานิมิตนั้นมาเป็นอุบายธรรมในการพิจารณาต่อไป ดั่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ท่านได้บอกสอนพวกเราอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม บางครั้งพ่อแม่ครูอาจารย์ทางโลกทิพย์ก็มาสอนธรรมในนิมิตก็มี ดังนั้นนิมิตอาจมีโทษถ้าเราหลง แต่จะมีคุณเมื่อเรานำมาเป็นอุบายธรรม แต่นิมิตที่เกิดจากญาณทัศนะที่แจ่มแจ้งนั้น หลับตาก็เห็น ลืมตาขึ้นมาก็เห็น นั่นเป็นญาณทัศนะของพระอริยเจ้า จึงมีความเที่ยงกว่านิมิตในฝันของพวกเราครับ

    <O:p
    ปล. การนิมิตเห็นสมเด็จองค์ปฐม นับว่าเป็นสิ่งมงคลสูงสุดแล้ว บางทีนิมิตของเราก็แม่น อย่าได้ปรามาสเชียวนะครับ

    <O:p
    ขอเจริญในธรรม
    <O:pดร.นนต์
    <O:p16 ธันวาคม 2554
    <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2011
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    เป็นนิมิตที่ดีและเป็นไปตามจิตเดิม ขอให้กำลังใจศึกษาต่อไปครับ

    แต่โปรดระวังเรื่องจิตฟุ้ง เพราะจักเป็นเหตุให้หลง(ดี) เฉกเช่นที่พวกเราเคยประสบมา เหตุนี้...จึงไม่กล้าเข้าไปชี้นำให้มากนัก

    ท่านจึงแนะให้ตีความปริศนาธรรมตามจริต/วิสัยของตัวเองครับผม

    ปล: พวกเราก็คือ นักศึกษาธรรมหรือปุถุชนคนธรรมดาเช่นกันครับ...
    อีกนาน...กว่าจะได้บรรจุให้เป็นนักรบธรรมได้ ดังนั้นการชี้แนะ จึงอาจมีพลาดได้เสมอ.
     
  16. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ในบางกระทู้หรือบางเว็บมีการโต้แย้งว่า สมัยสมเด็จฯ โตท่านยังดำรงขันธ์อยู่นั้น ไม่มีการใช้ พ.ศ. แต่จะเป็น จ.ศ. ทำให้พิจารณาว่า พระพิมพ์ที่มีการบันทึกปี พ.ศ. ลงบนองค์พระนั้นเป็นเรื่องกุกันขึ้น ผมลองค้นหาดูก็พบหลักฐานบางชิ้นแจ้งว่า ในส่วนราชการนั้นให้เปลี่ยนจาก จ.ศ.เป็น ร.ศ. แต่พ.ศ.นั้นให้ดำรงไว้ในเรื่องงานเกี่ยวกับพระศาสนา
    รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม



    ที่มา การเปลี่ยนจุลศักราชเป็นรัตนโกสินทร์ศก เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่เท่าไร - มีคำตอบ - กูรู

    จุลศักราช เป็นศักราชที่ตั้งขึ้น และใช้ในเมืองพม่ามาแต่ก่อน ต่อมาได้แพร่หลายเข้ามาใช้ในราชการ ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในแผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชา (2112- 2133) ซึ่งขณะนั้นกรุงศรีอยุธยา ติดต่อเกี่ยวกับเมืองหงสาวดี ในฐานะเป็นเมืองประเทศราชอยู่ถึง 15 ปี เนื่องจากเสียกรุงแก่พม่าครั้งแรก
    ความเป็นมาของ จุลศักราช มีว่า "สังฆราชบุตุโสระหัน" เมื่อสึกจากสมณเพศได้ชิงราชสมบัติเป็นกษัตริย์ลำดับที่ 19 ในราชวงศ์สมุทฤทธิ์ในประเทศพุกาม ได้บัญญัติจุลศักราชขึ้น เมื่อพุทธศักราช 1182 (กำหนดแรกบัญญัติตั้งแต่วันพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว 1181 ปี) และต่อมาก็เลิกใช้ เนื่องจากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อจุลศักราช 1250 ได้มี "ประกาศให้ใช้วันอย่างใหม่" ว่า :
    "มีพะบรมราชโองการ ดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ด้วยทรงพระราชดำริห์ถึงวิธีนับวัน เดือน ที่ใช้กันอยู่ในสยามมณฑล และที่ใช้ในประเทศน้อยใหญ่ เป็นอันมากในโลกนี้ เป็นวิธีต่างกันอยู่มาก คือกล่าวโดยย่อ ก็เป็นวิธีใช้ตามจันทรคติอย่างหนึ่ง และสุริยคติอย่างหนึ่ง จึงทรงพระราชดำริห์ว่า วิธีนับวัน เดือน ปี อย่างดีที่สุดนั้น ควรจะประกอบด้วยเหตุอันควร 3 ประการคือ

    1. ให้ถูกต้องใกล้ชิดกับฤดูกาล
    2. ให้มีประมาณอันเสมอไม่มากไม่น้อยไปกว่ากันนัก กับ
    3. ให้คนทั้งปวงรู้ง่ายทั่วไปดีกว่าอย่างอื่น ทั้ง 3 ประการนี้ จึงจะสมควรที่จะใช้ในประชุมชนทั้งปวง…"ผลการประกาศฉบับนี้ ศักราชที่เคยใช้มาก่อนทั้งมวลเป็นอันงดใช้ และให้ใช้ "รัตนโกสินทรศก" เว้นแต่ในทางพระพุทธศาสนา คงใช้พุทธศักราชเท่านั้น

    รัตนโกสินทรศก เป็นศักราชที่ใช้ในสมัยรัตนโกสินทร์ กำหนดแรกบัญญัติ ตั้งแต่ปีที่ตั้งกรุงเทพพระมหานคร เป็นทางราชการ คือ ในปีพุทธศักราช 2325 เพราะฉะนั้น รัตนโกสินทรศก 1 ก็คือปีพุทธศักราชล่วงมาแล้ว 2324 ปี แต่รัตนโกสินทรศก ใช้กันอยู่ไม่นานนัก ก็เป็นอันเลิกใช้ใน
    ร.ศ.131 เป็นต้นมา สิ่งพิมพ์ต่างๆ และหนังสือราชการ ก็หันมาลงศักราช เป็น"พุทธศักราช" ในมาตรฐานเดียวกัน

    ที่มา: กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
     
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    สบายดีท่านภูเบศวร์
    มาอยู่ทางเหนือ...ดินแดนแห่งพุทธภูมิด้วยกันครับ
    ขอให้ความปราถนานี้...สำเร็จลุล่วงเน้อ...
     
  18. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    ภาวนาให้เชียงใหม่คงความเป็นเอกลักษณ์เดิม
    อย่าให้เป็นเช่นเกาะ.ที่พวกเราเคยไปสัญจร#1 เลย
     
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    wow! เจอคู่แฝดแล้วครับท่าน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  20. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขอบคุณท่านอ๊อดมาก ที่นำความรู้มาเสริมกัน นับเป็นวิทยาทานที่มีกุศลนะครับ

    จากหลักฐานดังกล่าว ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า การกำหนดปี พ.ศ. (พุทธศักราช) นั้นมีมานานมากแล้ว และใช้เฉพาะในกลุ่มประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา ดังนั้นประเทศไทยหรือรัฐสยามในอดีตได้นับถือพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว ฉะนั้น การใช้ พ.ศ. ก็ย่อมได้รับการยอมรับมาตั้งแต่แรก เรื่องพระพิมพ์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ก็ล้วนสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นวัตถุทางพุทธศาสนา เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา แล้วทำไมจะใช้คำว่า พ.ศ. ไม่ได้ ถ้าใช้ ร.ศ. มันก็ถูกทางราชการ แต่การใช้ พ.ศ. นั้นจะถูกต้องทางพุทธศาสนามากกว่า เพราะ พ.ศ. มันเกิดก่อน จ.ศ. และ ร.ศ. มากนัก เรื่องมันก็เป็นดั่งนี้แล

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    16 ธันวาคม 2554
     

แชร์หน้านี้

Loading...