กายวัชระ หรือกายทิพย์ขั้นเพชร และการบำเพ็ญอาวุธทิพย์ชั้นเพชร

จิงดิช่วยเล่าประสบการณ์ ให้ฟังหน่อยดิ ผมชอบฟัง พอดีวันนี้อยู่คนเดียว บนตึก5 ชั้น และที่ปลูกสร้างเป็นป่าช้าเก่าด้วย หลอนดี จัดให้ฟังหน่อยสิ อยู่เป็นเพื่อนหน่อย นะครับทุกคน ขอฟังประสบการณ์จริง ๆ ไมใช่แต่งมา นะเล่ให้ฟังเรื่องแบบนี้หน่อย

 

อ้าว ครึก ครื้น กันหน่อย เร็ว อย่าเพิ่ง ง่วง

<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/DdQZGVNqEcw?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/DdQZGVNqEcw?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

 

ขอบพระคุณสำหรับธรรมทานในแบบรูป ผู้น้อยขอเสริมในแบบนามเพื่ออุทิศอานิสงค์อันเป็นกุศลทั้งหลายแด่ คุรุริมโปเช่ ครูบาอาจารย์วัชรโคตรและโคตรอื่นๆ บรรพบุรุษและทุกรูป ทุกนาม ทุกภพ ทุกภูมิ ทั่วทั้งสังสารวัฏ ดังนี้

ตามที่ได้ยินมา "วัชระ" หมายถึงสิ่งที่เข้มแข็งที่สุดที่ไม่มีผู้ทำลายได้ ในพจนานุกรมบางสำนักก็ใช้ในความหมายของ "สายฟ้า" บางสำนักก็ใช้ในความหมายของ "เพชร"

"เพชร" ผลิตมาจากธาตุคาร์บอนใต้พื้นพิภพถูกอัดอบด้วยความดันและความร้อนอย่างมหาศาลฉันใด เราจะผลิตเพชรภายในตนได้ย่อมต้องอาศัยความกดดันอย่างมหาศาลจากทุกข์และความเร่าร้อนจากเพลิงแห่ง "โทสะ" ฉันนั้น

สำหรับเราๆท่านๆผู้มักโกรธทั้งหลายย่อมทราบดีว่า "โทสะ" เปรียบเสมือนเพลิงอันเร่าร้อน

เมื่อขณะโกรธเราสามารถใช้สติคู่กับปัญญาได้จนกลายเป็นนิสัย
...เราจะเริ่มมี "ใจเป็นกระบี่" ทุกครั้งที่บันดาลโทสะ เรียกว่าเพลิงแห่ง "โทสะ" ได้ถูกเปลี่ยนเป็นกระบี่แห่ง "ปัญญา" กระบี่นี้หากใช้ไม่ถูกย่อมทำลายได้ทั้งตนเองและผู้อื่น

เมื่อขณะโกรธเราสามารถปล่อย "เมตตา" ซึ่งเปลี่ยนรูปมาจาก "ราคะ" ให้แสดงออกมาพร้อมสติปัญญาได้จนกลายเป็นนิสัย
..."ใจกระบี่" ของเราจะกลายเป็น "ใจทอง" ซึ่งมักถูกใช้ไปเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมอยู่เป็นนิจ

เมื่อใดพลังงานเห่ง "เมตตา" ของเราสมดุลกับพลังงานแห่ง "สติปัญญา" และถูกแสดงออกมาอย่างนั้นจนเป็นนิสัย
..."ใจทอง" ของเราจะเริ่มกลายสภาพเป็น "ใจเพชร" และจะทำหน้าที่สลายกิเลส "โมหะ" อยู่เป็นนิจ เนื่องจากราคะกับโทสะได้กลายสภาพเป็นเพชรแล้วและ "โมหะ" ก็เป็นสิ่งเดียวที่เพชรกำลังเผชิญหน้าอยู่ เมื่อเพชรสลายโมหะอันขมุกขมัวไปแล้วมักเกิดแสงสว่างหรือที่วัชรยานมักเรียกว่า "แสงกระจ่าง"

ในวัชรยานมักพบ "วัชระ" อันเป็นสัญลักษณ์ของเมตตา วางคู่กับ "กระดิ่ง" อันเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอยู่เสมอ เพื่อเตือนใจลูกศิษย์ให้ใช้ "เมตตา" คู่กับ "ปัญญา" จนกลายเป็นนิสัย จนได้ "วัชรยาน" หรือยานแห่งเพชรอันไม่มีสิ่งใดทำลายได้

อันว่า "ยาน" นั้นเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนสู่นิพพาน เมื่อเรายังไม่พร้อมจะ "เคลื่อน" สู่นิพพาน "ยาน" ย่อมไม่บังเกิดแก่เราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นยานชนิดใดก็ตาม

และไม่ว่า "ยาน" ชนิดใดเราก็ใช้ไปนิพพานได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าวัชรยาน มหายาน หินยาน ขอเพียงแต่เรามีมันและใช้มันได้ก็พอ

 

"ยาน" ใดๆแม้แต่ "ตันตระยาน" ล้วนมีครูและบรรลุธรรมได้จริงทั้งสิ้น ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่คุรุแห่งยานทั้งปวง ขอสัจจะกิริยานี้ได้ส่งผลให้พี่น้องเพื่อนฝูงลูกหลานนำ "ยาน" ไปใช้เพื่อมรรคผลนิพพาน ตรงกับวัตถุประสงค์และธรรมชาติของยานนั้นๆเทอญ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=I4_fMPXJcSU"]????????????? ????????? ????? - YouTube[/ame]​

 

อณุโมทนา ................

 

เมื่อสักกายทิฐิสิ้นแล้ว
การขวางกั้นธรรมไม่มี
กายเปิดรับพลังธรรม
เต็มที่ ไม่มีปิดกั้นภายใน


ส่งผลให้ร่างกายแปรปรวนได้
การเรียนรู้ธรรมจากภายใน (กายในกาย)
ก็สามารถทำได้ช่วงนี้ การกระทบกระทั่งกันภายใน
ก็เกิดชึ้นได้ช่วงหนึ่ง จนกว่าระบบธรรมภายในจะแน่วแน่นิ่งแล้ว
ใน "รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง" คือ ยังไม่หลุดพ้นจาก "การติดรูปแบบสภาวะ"


ก็จะเข้าสู่ "อนาคามีมรรค" ...

 

มรรคผล ๔ ตามระดับการสิ้น ของอาสวะมิใช่รึ อาจารย์เอ็งเป็นใคร

 

อันที่จริงคาถานี้..ผมก็ได้ต่อมาจากพี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขารู้ว่าในตัวเรามีบางสิ่งที่เป็นจำพวกคุณไสย์มนต์ดำอยู่ เล่นแบบประมาณว่าฝากผีไว้ในตัวอ่ะ
ไอ้เรา...ชีวิตก็มีแต่เรื่องซวยๆไม่จบไม่สิ้นสักที แต่ก็ไม่รู้ตัวนะว่า...ตัวเองเป็นอะไร มีอะไรอยู่...พอรู้จากปากพี่ชายคนนั้น แล้วได้คาถามา...
ก้เลยเริ่มลองพิสูจท์ทราบ...ก็เห้นผลนิดหน่อยในตอนนั้น คือ มีอาการเหมือนว่ามีไอร้อนๆระบายออกจากร่างกายเรา แต่ไม่มากนะ..แค่นิดหน่อย
เพราะหลังจากนั้นมาก็ใช้อีกนะ แต่คราวนี้..รู้สึกว่าไม่ค่อยได้ผลเท่าไร่ ก้เลย
ไปขอความปรึกษาจากพระบ้าง คนนู้บ้างคนนี้บ้าง...
จนมารู้ว่า...หลังที่ใช้ไม่ค่อยได้ผลน่ะ เพราะเราไม่ได้ปล่อยวาง จิตมันก็ไม่นิ่งเลย ผลมันเลยเกิดน้อยล
มาแต่มาช่วงนี้เริ่มคล่องแล้ว พอ....เอาตัวรอดได้ ดีว่ามีผู้เมตตาผมเย่อะ
เลยรอดตัวมาได้ เอาคร่าวๆตามนี้ก่อนนะครับ..

 

มีกายวัชระด้วย...............

 

แปลกดีผมเข้าใจที่คุณดอกไม้น้ำแข็งพูดทั้งที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรแบบที่คุณดอกไม้กล่าวมาเลย แต่ต่างกันตรงที่ถ้าไม่เข้าใจความมืดก็จะไม่เข้าใจความสว่างเช่นกันนั่นคือสิ่งที่ผมรู้มา เมื่อเข้าใจมืดและสว่างแล้ว ก็อยู่ที่จะหยีบใช้และเลือกมันตอนไหนเวลาใด เป็นจำนวนขนาดไหนกับใคร เมื่อไหร่เท่านั้นเอง เพราะถ้าเข้าใจแล้วมันก็อยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน แต่ก็อยู่ในขั้นเรียนรู้กันต่อไปเท่านั้นเองครับผมเพราะมีธรรมอีกมากมายเลยที่ยังไม่ได้เรียนรู้

 

-มีบุญสัมพันธ์กับสายวัชรยานครับ
-อาจมีอดีตชาติเป็นพวกพระลามะ

อาการที่เกิดอาจได้รับ "แสงธรรมวัชระ" เป็นแสงธรรมเหมือนประกายเพชร
อาจจะมาจากตัวหลวงพ่อรูปนั้น ส่งผลไม่ฉับพลันเท่าพลังสายฟ้าครับ ดังนั้น
คุณจึงมีอาการ "น้อมนำตามธรรม" นั้นๆ อย่างอ่อนๆ ไม่เป็นแบบทันทีทันใด

ซึ่งก็ดีแล้ว คุณจะได้ปรับตัว เพราะภาระทางโลกยังมี

ครูบาอาจารย์สายวัชรยานแท้ หายาก ผมเองก็เจอในป่าช่วงธุดงค์ ท่านไม่มี
วัดอยู่นะ ไปเรื่อยๆ แล้วแต่จะไป ท่านปฏิบัติจนกายทิพย์ข้างในสำเร็จเป็นกาย
วัชระ เหมือนเพชร ไม่ใช่ "กายแก้ว" นะ แบบกายแก้วของวัดธรรมกายนั้น นี่
เป็นแค่ขั้นเริ่มต้น ก่อนจะเป็นเพชรต้องเป็นแก้วใสให้ได้ก่อน

ยินดีสนทนาครับ (ปกติ ผมเบื่อธรรมะมากแล้ว ไม่ค่อยคุยแล้วครับ)

 

เขียน ๑๔.๑๙

อ้าว..งี้ก็คุยกันได้ เราก็เบื่อธรรมะขี้โม้เหมือนกัน หึหึหึ
ส่วนใหญ่ก็จำมาพ่น ทำก็ไม่ได้ แล้วยังจะมาโม้อวดอยู่ได้ ๕๕๕
กายวัชระ-หรือกายทิพย์ขั้นเพชร-และการบำเพ็ญอาวุธทิพย์ชั้นเพชรน่ะ

ท่านเคยเห็นใครทำได้ป่าว หรือคิดว่ามีใครทำได้บ้างไม๊
หรือเดาได้ป่าว ว่าในเวบนี้มีใครน่าสงสัยบ้างครับ
ฟังดูยากเย็นมากเลยนะ มีใครทำได้ไม๊เนี่ย

แล้ว การบำเพ็ญในสายสุริยะ ทั้งสามแบบ เจอใครทำบ้างไม๊ครับ
เอาแบบทำได้จริงๆ น่ะนะ ยังจะมีไม๊เนี่ย ยุคเนี้ย
ท่านเคยเจอบ้างรึเปล่าครับ


กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

อยู่ว่างๆ ก็เม้าท์ๆ ไปยังงั้นแหละครับ

ถ้าสนใจของจริงก็ไปที่วัด "ธรรมกาย" สิครับ
กายแก้วน่ะ สมภารท่านสอนให้ได้อยู่แล้ว
อีกหน่อยท่านก็จะได้เป็นพระสังฆราช
อยู่รอมร่ออยู่แล้วนี่ครับ

ยินดีกับทุกท่าน ล่วงหน้าด้วยแล้วกันครับ

 

เข้ามาติดตามอ่าน ประสบการณ์หน้าสนใจดีค่ะ ^_^ รู้สึกแบบนั้น

 

เขียน ๒๑.๔๕

ไม่ได้สนใจอยากฝึกครับ แต่สนใจอยากรู้สิ่งที่ถามไปน่ะครับ
ส่วนบริษัทธรรมกายไม่ไปหรอก จะไปทำไม เกลียดมันจะตาย หึหึหึ
กายแก้วของมัน หรือจะสู้กายเนื้อ และกายลมของเราได้ ของอั๊วแจ๋วกว่าแยะ

ไม่มีทางล่ะมั้ง จะเป็นสังฆราชน่ะ มันได้แต่ฝันไปน่ะแหละนะ เนอะ
แม้จะยึดองค์กรสงฆ์ไปได้แยะแล้ว แต่ที่เหลือก็ยังต่อต้านอยู่นะ
วันก่อนเพิ่งยกเลิกธุดงค์บนถนนไปนี่ เห็นข่าวทีวีบอก เช่นนั้น

อย่าลืมตอบคำถามด้วย อยากรู้ว่ามีสมาชิกประมาณเท่าไหร่อ่ะนะ เนอะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

ขอแสดงความเห็นครับ
เหมือนทำให้จิตเรา เป็น universal adapter ที่แปลงพลังให้อยู่ในภาวะที่พร้อมใช้งานตลอด โดยไม่อิงว่า ต้นตอของแหล่งพลังงานจะเป็นรูปแบบไหน มองมันอย่างเขาใจโดยไม่เกลียดชัง "ยาน" ชนิดใดก็ไปส่งได้ ขอเพียงแค่เข้าใจและรู้ Waypoint ที่จะไป

เพชรกว่าจะสวยสดงดงามได้ก็ย่อมผ่านเพลิงและแรงกดดัน ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เพชรคงเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา เพลิงและแรงกดดันก็ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย เป็นตัวแปรที่สำคัญยิ่งในการซักฟอกธาตุขันธ์

 

ตอนที่ผมเข้าใจความมืดและความสว่างเสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นตอนที่ผมเข้าไปชำระตัวตนที่ติดอยู่ในหลุมดำ ทรมาณดีครับ ไม่ทราบท่านดอกไม้พอเข้าใจในเรื่องของหลุมดำมั่งไหมครับ

 

สิ่งที่พอเป็นไปได้คืิอ

จิตจักรวาลที่เชื่อมโยงกับสังขารเราอยู่นั้น จรย้ายไปในหลุมดำ
ทำให้รู้สึกทรมานได้ แต่นั่นไม่อาจทำให้ได้ "พระธาตุนิพพาน"
น้ำดับไฟได้ เพราะเป็นสมมุติหยาบๆ แต่จะใช้หลุมดำช่วยให้เกิด
พระธาตุนิพพาน ทำให้จิตจักรวาลนิพพาน คิดว่าไม่น่าจะได้

จิตจักรวาล เป็น มโนธาตุ เป็นธาตุละเอียด จะนิพพานได้นั้น
ย่อมดำเนินไปตามมรรคาของตัวเอง การเข้าไปในหลุมดำก็
เพียงแค่เข้าไปเรียนรู้เท่านั้นเอง แต่ไม่น่าทำให้นิพพานครับ

 

ไม่ทราบหรอกครับว่าจำนวนเท่าไร
ไม่เคยสำรวจสำมะโนประชากรน่ะครับ

 

ท่านดอกไม้ครับ ที่ชำระตัวตนที่ติดอยู่ในหลุมดำคือไปชำระอดีตหรือญาติที่โดนขังไว้ในหลุมดำเนื่องจากล่วงเกินเบื้องสูง ความลึกก็มีหลายระดับนี่ก็ค่อยๆแก้ไป โดยรับจิตเขามาอยู่ในกายหยาบของตัวผมครับแล้วค่อยๆปรับปรุงแก้ไขนิสัยสันดานให้ธรรมชาติค่อยๆขัดเกลาโดยตัวผมเป็นตัวรับสภาวะความพร่องของเขาไว้นะครับ เมื่อก่อนก็แค่อยู่ในโลกันต์ยังไม่เท่าไหร่พอเข้าหลุมดำนี่แรงกว่าหลายเท่าเลย ตอนนี้ก็พอปรับตัวได้พวกในหลุมดำส่วนใหญ่เป็นพวกธาตุแสงดื้อๆไม่ค่อยฟังใครครับเช่นซุสเป็นต้น ตรงนี้ละครับที่ผมเห็นยิ่งเข้าใจความมืดมากเท่าไหร่ก็เข้าใจความสว่างมากเท่านั้น เพราะมันต้องเข้าใจทั้งสองด้านครับผม