ช่วยแนะนำ พระขุนแผน ที่แรง เร็ว เรื่องสาวๆ ครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ิbadiya, 20 พฤษภาคม 2010.

  1. เอิ๊กๆ

    เอิ๊กๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +148
    [​IMG]

    ห้อย ชิล ชิล ครับ
     
  2. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    สวยครับ บ่งบอกเลยครับ ว่าสาวอย่ามองนะ มองเป็นเคลิ้ม:cool:
     
  3. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,854
    ขาว เนียน ดีจัง(k)
     
  4. เอิ๊กๆ

    เอิ๊กๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +148
    ^-^
    ช่วงนี้มีสาวดวงตกอยู่ สองคน ครับ ^-^

    เสื้อใช่มั๊ยครับ เพราะเนื้อดำ ทั้งคน ทั้งพระ 55
     
  5. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ชะตาขาดซะแหละ

    องค์ใหญ่เรียกมา

    องค์เล็กฟันลูกเดียว

    อิอิ
     
  6. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029
    ใครๆ ใครกินบะหมี่ หิวๆๆๆๆๆๆๆ 555
     
  7. น้ำหนาว

    น้ำหนาว เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,177
    ค่าพลัง:
    +3,306
    อยากกินมั่งงงงงpig_cryy
     
  8. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    อะไรอ่ะครับ ไม่ทันเห็น:'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2011
  9. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    สวยครับ พี่เก่ง องค์เดียวอยู่ครับ :cool:
     
  10. choke

    choke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    937
    ค่าพลัง:
    +1,648
    ไม่ใช่ครับล่าสุด เกือบถูกหวยเอาเลขใต้ฐานไปแทงด้วยความรีบร้อนมองเลขไทยเป็นเลข 4 ที่ไหนได้กลับมาดูใหม่หลังหวยออกเป็นเลข 52 เสียดายมากเลยครับ เฮ้อสำหรับท่านที่ผมแนะนำไปอย่าลืมดูเลขใต้ฐานนะครับสำหรับงวดหน้าครับ
     
  11. เอิ๊กๆ

    เอิ๊กๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +148
    กระซิบบ้าง อะไรบ้างครัย อิอิ
     
  12. เอิ๊กๆ

    เอิ๊กๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +148
    [​IMG]
    [​IMG]

    " พระผงสมเด็จปรกโพธิ์ ปี 45 ( แจกครั้งแรกงานปิดทอง ณ อุโบสถวัดตาลกง ( หลังใหม่ ) "

    หลังจากที่พระในวัดท่านฉันอาหารเพล เสร็จเรียบร้อย ก็เป็นเวลาของพวกลูกศิษย์ทั้งหลาย ( ได้เวลากินข้าวก้นบาตรพระกันแล้ว ) กับข้าวมากมายถูกนำมาวาง ดูแล้วในใจหมู่เอกคิด ดีกว่าภัตตาคาร( มีอาหารให้เลือกกินหลายอย่าง )  ขณะนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่นั้น ก็มีการพูดคุยถึง ลพ.อุ้น กันต่างๆนา

    แล้วก็มีลุงแก่ๆ คนหนึ่งซึ่งหมู่เอก ไม่เคยพบปะพูดคุยกันเลย  มานั่งข้างๆ ก่อนพูดขึ้นลอยๆ ว่า

    " แหมๆ ตอนนั่นไปเอาผงกระดูกนางพันธุรัตน์ยักษ์ให้ คุณพ่อ.อุ้น มาทำพระแจกงานปิดทอง นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของ คุณพ่ออุ้นยังขนลุกไม่หาย "หมู่เอกตอนนั้นกำลังจะตักข้าวเข้าปากก็ต้องหยุดชะงักเล็กน้อย  พลัน !!! นึกถึงคำพูด
    ของ ลพ.อุ้น  ที่เคยเปรยๆ ตอนแจกสมเด็จปรกโพธิ์ งานกฐินปี 48ให้ลูกศิษย์ว่า " เก็บไว้ให้ดีนะ มีผงกระดูกนางพันธุรัตน์ด้วยนะ "
    หมู่เอกได้ทีรีบสอบถาม " ลุงๆ เล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมว่าความเป็นมาของผงนี้เป็นอย่างไร "   แกบอกว่ากินข้าวให้อิ่มก่อนนะ เดี่ยวไปคุยกันที่ตู้พระเพราะว่าจะมารับซองกฐินไปแจกให้พรรคพวกร่วมทำบุญสร้างวัดครึ่ง ชม.ผ่านไป..........หลังจากสอบถามประวัติชื่อเสียง เรียงนามในขั้นต้น

    ต่อไปนี้เป็นบทสนทนาระหว่างหมู่เอก กับ คุณลุงเจือ  อบอุ่น    ที่จะมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวให้ทุกๆท่านได้ทราบ ถึงความเป็นมาในการนำผงวิเศษมากดเป็น  พระสมเด็จปรกโพธิ์ ปี 45  ครับ   เรื่องจริง เหตุการณ์จริง ครับ !!!

    หมู่เอก : ลุงเจือเมตตาเล่าเรื่องที่ ไปนำผงที่เขานางพันธุรัสให้ทราบหน่อยครับ ผมก็เคยได้ทราบจาก ลพ.อุ้น บอกว่าแกให้ศิษย์ไปเอาผงมาทำองค์พระและก็พบกับเหตุอัศจรรย์มากมาย

    ลุงเจือ : ยิ้มๆ  ตาเปล่งประกาย ระลึกถึงความหลังที่ไปนำผงสำคัญที่เขานางพันธุรัตน์ อ.ชะอำจ.เพชรบุรี ก่อนเล่าให้ฟังว่า

    " ตอน พ.ศ.2544 ก่อนงานปิดทอง 1 ปี  ลพ.อุ้น ได้ใช้ให้คนรู้จักมาตามถึงที่บ้าน บอกให้ไปพบที่วัดตาลกง  ได้รับข่าวดังนั้นก็รีบเดินทางมาวัดตาลกงทันที " เมื่อพบกับ ลพ.อุ้นเจอหน้าท่านยังแทบไม่ทันจะได้พูดอะไร ลพ.รีบพูดก่อนเลย

    ลพ.อุ้น : ไอ้เจือ มึงไปเอากระดูกนางพันธุรัตน์ยักษ์ ให้กูหน่อย เขามาบอกให้กู

    ลุงเจือ : เขาน่ะใครครับ ลพ.

    ลพ.อุ้น :  มึงไม่ต้องเสือกรู้มึงไปเอามา

    ลุงเจือ : ผมไม่รู้จักว่าเป็นอย่างไร และ มันอยู่ตรงไหนของภูเขา ถ้า ลพ.ไม่บอก ผมคงไปเอาให้ ลพ.อุ้น  ไม่ถูกหรอกครับ ภูเขาลูกออกจะใหญ่โต  ( ลุงเจือเล่าถึงตอนนี้แล้วก็ขำ )

    ลพ.อุ้น : มึงเตรียมดอกไม้ธุปเทียน อาหารคาวหวานไปเซ่นที่ เจ้าพ่อเขาใหญ่  เดี่ยวจะมีคนนำทางไปเอาให้  พูดจบท่านก็รีบให้รีบกลับไปเตรียมตัว  พร้อมกับบอกให้ชวน ลุงทรึก สว่างโชติ หรือ ไอ้ทรึก ( ลูกศิษย์ของ ลพ.อุ้น อีกคนหนึ่งไปเป็นเพื่อน )

    เมื่อลุงเจือกลับบ้านก็ได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ลุงทรึกฟัง  ต่างคนต่างก็งง แต่ด้วยความที่เชื่อมั่นใน ลพ.อุ้น ก็ได้ชวนกันไปที่เขานางพันธุรัตน์ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เซ่นสังเวย สิ่งของต่างๆ กับ เจ้าพ่อเขาใหญ่เสร็จลุงเจือยังเมตตาเล่าให้ฟังว่า

    " ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงไหน คิดขำๆ ถ้ามันอยู่บนยอดเขา ลุงคงไม่ปีนแน่ๆ "

    นั่งพูดกับไอ้ทรึกไม่ทันไรเสียงไก่ขันหันไปมองตามเสียง เห็นไก่แจ้ ตัวเมียอยู่ตัวหนึ่งโก่งคอขันนึกแล้วยังบอกไอ้ทรึกมึงว่าใช่คนนำทางเราป่าววะ 555 

    เจ้าไก่ตัวเมียเวลาโก่งคอขันเสร็จก็ค่อยๆบินขึ้นเขา ตอนนั้นลุงก็รีบเดินตามขึ้นไปเดินไปอยู่พักใหญ่  สักครึ่งเขาน่าจะได้  ไอ้ไก่ตัวเมียนั้นก็หายไป  แต่บริเวณที่ ไก่หายไปนั้นเป็นแอ่งกว้างๆ เหมือนกระทะ  ก็หยุดแล้วคิดในใจ ว่าน่าจะอยู่แถวนี้

    ลุงช่วยกันเดินหากับไอ้ทรึก แต่ก็ไม่รู้ว่ารูปร่างหน้าตาของกระดูกนางพันธุรัสมันเป็นอย่างไรเหนื่อย ก็ เหนื่อย เลยนั่งพักข้างๆ โขดหิน  ไปเจอก้อนหินอยู่หนึ่งก้อน ขนาดเท่าประมาณลูกนิมิตร งานปิดทองบ้านเรานี่แหละ  เห็นแล้วก็เอ๊ะ !!!  ไอ้ลูกนี้มันแปลกดี เลยเอามือลองไปจับปรากฏว่า  " ก้อนหินแตกออกมาเป็นสองเสี่ยง พร้อมกับมีผงละเอียดสีขาว เหมือนผงปูนอยู่ด้านใน "

    ตอนจับครั้งแรกความรู้สึกเย็นวาบๆ  เหมือนน้ำแข็ง   ความรุ้สึกตอนนั้นว่าใช่แน่ๆ ผงขาวเหมือนกระดูก ( หรือจะเป็นอุบายในการบอกของ ลพ.อุ้น )  ก็เลยช่วยกัน กอบใส่ถุงปุ๋ย ซึ่งขณะนั้นนำไปด้วย จำนวนครึ่งถุงปุ๋ย  แต่เหตุอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นอีก  เมื่อขณะแบกเดินลงมาจากเขานั้น  ปรากฎว่าเดินได้ไม่เกิน 10 ก้าว สักทีก็ต้องวางถุงลงทั้งๆที่มีจำนวนไม่มากตอนนั้นลุงก็ยกมือท่วมหัวก่อนกล่าวดังๆว่า

     " เจ้าพ่อเขาใหญ่ ลูกได้รับมอบหมายจาก ลพ.อุ้น เจ้าอาวาสวัดตาลกงให้มานำกระดูกนางพันธุรัตน์ยักษ์ เพื่อที่จะนำไปสร้างเป็นพระสมเด็จแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิตร วัดตาลกง เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปอย่าให้ได้มีอุปสรรคใดๆ มาขวางกั้น ขอให้ลูกได้นำผงวิเศษนี้กลับไปให้ครูบาอาจารย์ ด้วยเถิด "

    หลังจากบอกกล่าวเสร็จ ก็ลองยกถุงที่บรรจุผงกระดูกฯ อีกครั้ง ปรากฏว่า ลุงตัวคนเดียวสามารถแบกลงมาได้แต่เหตุอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นอีกในขณะที่จะลงมานั้น  มีลิงป่าจำนวนหลายร้อยตัวมากมายเต็มไปหมด  ติดตามมาส่งทั้งๆที่ตอนขึ้นไปไม่มีสักตัว พอลงมาถึงตีนเขาหันขึ้นไปมองพวกลิงพวกนั้นก็หายไปหมด ไม่เหลือสักตัว  ( ลุงเจือเล่าให้ฟังพร้อมกับชี้ให้ดูขนที่ลุกซู่ตามตัว ให้หมู่เอกดู )  แกบอกมาตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นหลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นก็ได้เดินทางไปกราบ ลพ.อุ้น  พร้อมนำผงให้ท่านดู  ท่านเห็นผงแล้วยิ้มน้ำหมากกระจาย  หัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่ บอก " นี่แหละๆ ของดี " พร้อมเล่าเหตุอัศจรรย์ที่เจอกับไก่ตัวเมียขันนำทาง และ ลิงป่ามาส่งหลายร้อยตัว ลพ.อุ้น ได้แต่หัวเราะ  ก่อนบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจังว่า

    " ลิงและไก่พวกนั้น เป็นทหารของเจ้าพ่อเขาใหญ่เขา มาต้อนรับและมาส่งพวกมึง "และนี่คือที่มา ของหนึ่งในส่วนผสมของผงสมเด็จปรกโพธิ์ปี 45

    หมายเหตุ เขานางพันธุรัตน์ยักษ์เป็นภูเขาลูกหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนคนนอน อยู่ในพื้นที่ อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี  ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่านางพันธุรัตน์ยักษ์ ( นิยายเรื่องสังข์ทอง ) มาขาดใจตายบริเวณนี้ หลังจาก
    ที่อ้อนวอนให้พระสังข์ลงมาหา แต่พระสังข์ไม่ยอมลงจากเขา เนื่องจากอธิษฐานไม่ให้นางยักษ์ปีนขึ้นมาบนภูเขาลูกนี้ได้ ด้วยความที่เศร้าเสียใจนางจึงได้ขาดใจตายบริเวณนี้ ( ภูเขาเป็นรูปเหมือนผู้หญิงนอน )

    Cr. หมู่เอก
     
  13. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,329
    บริเวณเขาลูกนั้น มีอะไรแปลกๆมากมาย

    แล้วยังมีวัตถุมงคลหลายอย่าง ที่ได้มีมวลสารพิเศษมาจากภูเขาลูกนั้น

    ของดี ของอาถรรพณ์ ที่มีคุณวิเศษในตัว แม้ยังไม่ปลุกเสก

    ของดี ที่มีวิชา จินดาฯ ในตัว

    เรื่องบางเรื่องเล่าไม่ได้ ของบางอย่างอวดไม่ได้

    เล่าไปแล้ว ผมกับพี่พี่จะเจ็บตัว อวดไป ผมกับพี่พี่จะปวดใจ

    เจ็บป่วยจริงมิได้ล้อเล่น สงสัยอยู่ว่าหลวงพ่อคงจะไม่ให้เล่ามากนัก
     
  14. เอิ๊กๆ

    เอิ๊กๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +148
    องค์นี้เพิ่งได้มา หลังจากเคยอธิฐานขอ พระที่ถูกโฉลกกับตัวครับ ได้ไม่นานครับ
    ในราคาที่ไม่น่าเชื่อครับ ขึ้นคอแน่นอนครับองค์นี้

    สมเด็จเหม็นค่อยว่าอีกทีครับ
     
  15. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,854
    สมเด็จเหม็น
    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_1972.JPG
      SAM_1972.JPG
      ขนาดไฟล์:
      148.6 KB
      เปิดดู:
      1,423
    • SAM_1973.JPG
      SAM_1973.JPG
      ขนาดไฟล์:
      146 KB
      เปิดดู:
      1,407
  16. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    แจ่มครับ พี่เก่ง สมเด็จเหม็น องค์เล็กๆ แต่แขวนเดียวได้เลย:cool:
     
  17. เอิ๊กๆ

    เอิ๊กๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +148
    รู้สึกว่า สมเด็จเหม็น จะมีวิธีดูอยู่ครับ ว่าแท้ไม่แท้

    ง่ายๆเรยครับ

    ได้รู้มาว่า องค์แท้ จะละลายน้ำได้ครับ

    ตัวอย่างครับ
    [​IMG]
    Cr. หมู่เอก
    http://bbznet.pukpik.com/scripts/view.php?p=7&board=1&user=bigfish&id=144&c=1&order=numtopic

    ขำๆครับ แต่คิดว่าเจ้าของพระไม่ขำครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2011
  18. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,854
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ตุลาคม 2011
  19. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,854
    [​IMG]

    พระผงสมเด็จเหม็น หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี

    ในการสร้างวัตถุมงคลครั้งแรกของ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง นั้น คือพระผงสมเด็จเหม็น โดยหลวงพ่ออุ้น ร่วมกับพระสงฆ์ภายในวัดดาลกงช่วยกันทำ
    พระผงสมเด็จเหม็น เป็นพระสมเด็จคะแนนองค์เล็กๆ แต่พุทธคุณเรื่องเมตตาค้าขาย การเข้าผู้ใหญ่ สามารถใช้แทนกันกับพระปิดตาของหลวงพ่อแก้วตระกูลวัดปากทะเล และวัดเครือวัลย์ได้ไม่แพ้กันเลย
    เริ่มสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2495 แล้วมาสิ้นสุดลงในปลายปี พ.ศ.2497 รวมระยะเวลาในการสร้าง 3 ปี จำนวนสร้างประมาณ 84,000 องค์
    มวลสารที่นำมาเป็นส่วนผสมในองค์พระสมเด็จเหม็นนั้นประกอบด้วย ผงอิทธิเจของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ซึ่งเป็นผงเก่าที่ท่านทำไว้ในอุโบสถหลังเก่าของวัดตาลกงไว้ประมาณโอ่งนึง สมัยที่หลวงพ่อแก้วยังอยู่ที่วัดปากทะเล ผสมกับผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ของหลวงพ่ออุ้น แล้วนำมาหมักผสมกับข้าวสุกจากปากบาตร และข้าวก้นบาตรของพระสงฆ์ที่ได้บิณฑบาตรมา แล้วนำมาหมักผสมกับข้าวสุกจากปากบาตร และข้าวก้นบาตรของพระสงฆ์ที่ได้รับบิณฑบาตมา โดยการหมัก ครั้งใดใช้เวลาหมักนานก็จะมีกลิ่นเหม็นมาก แต่หากหมักเพียงชั่วข้ามคืน กลิ่นเหม็นดังกล่าวก็จะน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งกลิ่นดังกล่าวที่ปรากฏอยู่กับองค์พระจึงมีความเหม็นมากน้อยแตกต่างกันไป

    มีประสบการณ์ ดีทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปราบคุณไสย ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นพระใหม่มาแรง พุทธคุณสูง ได้รับความนิยม
    [​IMG]

    ลักษณะพระผงสมเด็จเหม็น:
    1. ยันต์หลัง ว.ต.ก. ชัดเจน ประมาณ 4,000 องค์
    2. ยันต์หลังและคำว่า ว.ต.ก. ไม่ชัดเจน เนื่องจากป้ายสีผึ้งประมาณ 30,000 องค์
    3. ยันต์หลังไม่ชัดเจน เนื่องจากพิมพ์สึกจนเลือนลาง ประมาณ 50,000 องค์
    สำหรับเนื้อที่พิมพ์ยันต์หลังชัดเจนจะมีเนื้อลองพิมพ์เป็นสีแดงอมน้ำตาล ประมาณ 500 องค์เนื้อแก่น้ำมันประมา 2,500 องค์ และผงเก่าในอุโบสถล้วน เนื้อจะออกขาวและยุ่ยอ่อน ถูกเบาๆจะเป็นรอย โดนน้ำไม่ได้จะละลายประมาณ 1,000 องค์ ทั้งหมดนำมารวมกัน และทำพิธ
    ปลุกเสกตั้งแต่ปี2497 - 2505 จึงได้นำออกแจก รวมระยะเวลาประมาณ 8 ปี
    ส่วนที่เรียกว่า สมเด็จเหม็น เพราะองค์พระมีกลิ่นเหม็น จากข้าวก้นบาตรที่ไปหมักผสมกับผงต่างๆจนบูด มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือน
    เครดิต ธรรมโม
     
  20. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,329
    สมเด็จเหม็น ต้องดูสีของเนื้อ และ กลิ่นขององค์พระนะครับ

    อย่าได้เห็นแก่ของถูกเชียวนะครับผม

    มิฉะนั้น อาจจะเศร้าได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...