เตือนภัย"กระทู้แอบแฝง"ผิดกฏ"มิฉฉาชีพ"

หลักการพ้นทุกข์
โดยขจรศักดิ์ ธรรมภัทรปัญโญเมื่อ 7 กันยายน 2011 เวลา 19:48 น.
นี่คือหลักการ ของความพ้นทุกข์....การพ้นทุกข์คือไม่ทุกข์ นั่นก็คือ มีความสุข ตอบง่ายๆ แค่นี้เอง

ท่านหิวข้าว ท่านทุกข์...ท่านกิน ท่านมีความสุข ท่านอิ่ม ความหิวหาย..ท่านหายทุกข์

ตวามสุขที่ได้กิน อย่ายึดติด...แต่ ความหายหิว หรือ ความปกติ นั่นเอง ที่ควรเข้าใจว่า ...การกิน คือ สุข มา ลบความทุกข์ คือความหิว ...คำตอบที่ได้คือ

หายหิว เมื่ออิ่ม เลิกกิน หายสุข...ได้คำตอบคือ ความปกติที่กาย ไม่หิว ได้ความปกติที่ใจ ไม่ทุกข์ ไม่สุข....คือ ความปกติ กายปกติ ใจปกติ
...
ทั้งหมด คือ คำสอนง่ายๆ จาก ศาสดา แต่..พุทธบริษัท คิดมากเกินไป ชอบทำอะไรที่มันยากๆ ชอบเข้าใจอะไรที่มันยากๆ ..ไอ้ที่มันง่ายๆ ทำไม ไม่เอา

การรู้ คือการรู้ แล้วเอามาใช้ ในชีวิตจริง ปัจจุบันจริง และ ใช้ได้ในยุคปัจจุบัน สุขเพราะสุข สุขเพราะเข้าใจความสุขที่แท้จริง เป็นยังไง... สุขที่ต้อง มีในชีวิตของคนเรา.. เข้าใจวิธีการสร้างความสุข และรู้จักมอบ ให้ ความสุขแก่คนอื่นเป็น และรู้คุณค่าของความสุข ....

กัปน์นี้ คือ ภัทรกัปล์ มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ องค์สุดท้าย ทุกท่านก็ คงรู้แล้วว่า พระศรีอาริย์ นั้น เป็นยุคแห่งคนดี แค่ฟังธรรม จากองค์พระศรีไม่กี่ประโยค ก็ บรรลุธรรม ได้

แล้วพวกท่าน คิดว่า ธรรมของพระศรี จักเป็นเช่นไรกันล่ะครับ

พระศรีท่านคงไม่พูด จากพระไตรปิฏก หรอกมั้ง อันนั้น มันสอนคนรุ่นเก่า คนโบราณ
ท่านคงต้องพูดธรรมที่เข้ากับคนยุคปัจจุบัน และ แก้ปัญญาของคนในยุคปัจจุบัน
เพราะการแสดงเหตุและผล....แสดงธรรม กับคนยุคขี่ม้ายิงธนู ไม่รู้จัก ไฟฟ้า พัดลม ตู้เย็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ เครื่องบิน รถยนต์ ...คอมพิวเตอร์

คนยุคปัจจุบัน เขามีเหตุผล พิสูจน์ได้ ทางวิทยาศาตร์ กันแล้ว ....พระศรี คงไม่แสดงธรรม แบบ เดียวกับ เจ้าชายสิทธัตถะ แน่นอน....ถึงเป็นธรรมอันเดียวกัน...แต่คน ไม่เหมือนกัน

ยุคเจ้าชายสิทธัตถะ มีแต่ ความเชื่อฟ้าฝน เทพ ดังที่ทุกท่านเคยอ่านมาแล้ว

แล้วยุคพระศรี...จะแสดง ธรรม การแก้ปัญญา ในใจคน แบบเก่าได้ยังไงครับ นี่มันยุคไหนแล้ว พวกท่านตะหาก ที่ ยึดติด ของเก่า....น้ำเก่าในแก้วใบใหม่ ...ถ้าไม่เอาของเก่าออกทิ้ง ไม่ได้...แล้วของใหม่ จะ เติมเข้าไปได้ยังไง

ต้นไม้ ก่อนที่มันจะงอกใบใหม่ มันยังต้อง ร่วงใบเก่าๆ ทิ้งไป จะเก็บใบเก่าๆ ไว้ทำไมกันครับ นี่แหล่ะ คือ ธรรมชาติ

ถ้าพวกท่าน เข้าถึงความเป็นธรรมชาติ ยังไม่เข้าใจธรรมชาติ ของโลก ของธาตุ แล้ว
พวกท่าน จักเข้าถึงธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติได้อย่างไร

ธรรมชาติ หมายถึง....ธรรม คือความจริงของธรรมชาติ....ชาติคือ การเกิด...รวมความแปลว่า ความจริงของการเกิด ขึ้น..ตั้งอยู่ ดับไป ...ถ้าพวกท่าน ไม่เข้าใจ ในความเป็นธรรมชาติ ไม่เข้าไตรลักษณ์แล้ว ....อย่าได้..ตัดสินว่า ผม มา บิดเบือนศาสนา เลยครับ

อยากให้พวกท่าน พิจารณาตนเอง ไม่ดีกว่าหรือครับ ว่า ไม่เข้าใจ ที่ผมพูด เพราะอะไร



การปฏิบัติ เพื่อความหลุดพ้นนั้น คือ หลุดพ้นสมมุติทั้งปวง คือ สมมุติที่ใจสร้างขึ้น รวมสรุป ใหญทๆ คือ สุขกับทุกข์ ไม่ว่าจะ สุขมาก สุขน้อย สุขนิด ..มันก็สุข เหมือนกัน ใครที่อยากใด้ ความสุขมาก ใครที่อยากให้ตนเองสุขอย่างเดียว เรียกว่าติดใจในความสุข เรียกว่า ความโลภ....ส่วนความทุกข์ ไม่ว่ามันจะทุกข์มากมาย ทุกข์ปานกลาง ทุกข์นิดนิด...มันก็คือ ความทุกข์ เรียกว่าทุกข์ อันเดียวกัน ใครที่ไม่ต้องการความทุกข์เลย ใครที่มีทุกข์แล้วต้องทนอยู่กับทุกข์ แบบหลีกเลี่ยงมิได้..ถ้าหนีไม่ได้ ก็เกิดความไม่พอใจ ในทุกข์ที่มั เรียกว่า ความโกรธ.........

แล้วใคร ที่ หลงสุข มีความโลภ ...ใครที่ไม่ชอบทุกข์ มีความโกรธ....ใครก็ตามที่มีทั้งสองอย่าง หรือมีอย่างไดอย่างหนึ่ง.....เช่น พวกในนรก หลงทุกข์ พวกในสวรรค์ หลงสุข....พวกในโลกมนุษย์หลงทั้งทุกข์หลงทั้งสุข.ใครที่มี โลภ กับโกรธ หรือ มีอย่างใดอย่างหนึ่ง เรียก ว่า พวกหลง

หลงกับสิ่งที่ใจมันพาไป เอาชนะใจตนเองไม่ได้ ....ไม่รู้ความจริงของใจ ปล่อยวางใจไม่ได้....ใจคือเครื่องรับรู้โลก....ตราบใดที่แพ้ใจ ก็คือ แพ้โลก

ถือว่า ยังหลงอยู่กับโลก...เพราะโลก คือ ต้นเหตุ แห่งกรรม ทั้งหมด ที่นำพา หลายๆคนไปนรก ไปสวรรค์....ในโลก นี่แหล่ะ...ทั้งโลกนี่แหล่ะ...มีอยู่สิ่งเดียว ที่ เป็นตัวรับรู้ ก็คือ..กาย กับใจ...แต่ใจ เป็น ตัวการใหญ่ที่สุด

ถ้าฝึกสติปัฏฐาน เอาชนะใจตนเองไม่ได้ รู้ความจริงของใจไม่ได้ ปล่อยวางใจ ไม่ได้ ....ท่านก็ ยังไม่หลุดพ้น ..สมมุติของโลก...อยู่นั่นเอง

แต่เมื่อใดที่ท่าน หลุดพ้นโลกได้ เอาชนะความคิด อุปทานทั้งหมดของใจได้แล้ว เป็นต้นว่า กิเลสทั้งหลาย ตัณหาทั้งหลาย อารมณ์ทั้งหลาย ความคิด ตวามสงสัย ความอยาก ความรู้ อัตตา ตัวตน.วิญาณ สังขาร สัญญา....ทั้งหมด นี้ มัน เกิดจากใจ ทั้งนั้น

เมื่อใดที่ท่าน เข้าใจในสิ่งที่ใจมันสร้าง ได้...ท่านก็จะไม่หลงไปกับใจ ไม่หลงไปกับโลก อีกต่อไป...ก็จะไม่ทุกข์ไปกับใจ ไม่ทุกข์ไปกับโลก อีกต่อไป
..
แต่
..
แต่ ความจริง คือเรายังไม่ตาย เรายังมีชีวิตอยู่...ดังนั้น ชีวิตเก่าที่ไม่รู้ว่าอะไรสมควรทำไม่สมควรทำ ชีวิต ที่เคยหลงไปกับใจ หลงไปกับโลก หลงไปกับ ความโกรธ ความโลภ...นั้น จะไม่มีอีกต่อไป ...ก็แสดงว่า ความทุกข์ ก็ไม่มีอีกต่อไป ไม่มีความหลงกับใจ ไม่มีความหลงกับโลก ก็จะไม่ทุกข์กับใจ ไม่ทุกข์กับโลก อีกแล้ว

แต่ ชีวิตที่เหลืออยู่ มันต้องเป็นชีวิตของเราจริงๆ เรากำหนดชีวิตของเราได้จริงๆ...โดย สร้างชีวิตใหม่ ความคิดใหม่...อยู่ภายในกรอบ ของ มรรค 8 โดยอัตโนมัติ.....ที่ผ่านมา ชีวิต แบบนี้ มีอยู่ในเขตอภัยทาน กรอบของวัด สมมุติของสงฆ์เท่านั้น ที่สามารถรองรับ จิตของคนที่พ้นโลกได้

แต่...ต่อไปนี้ ...อนิจัง ทุกขัง อนัตตา ต้องไม่มีในโลก เพื่อที่ คนจะได้ อนิจังสุขขังอนัตตา นอกวัด กันได้ อนิจังสุขขังอนัตตา ในโลกในใจ ...นี้ให้ได้

ดังนั้น สังคม ที่ มีแต่คนดี สร้างความสุขเป็น มอบแต่ความสุขให้กันและกัน จักต้อง ปรากฏ และ พิสูจน์ ได้...ใน สังคมทั่วไป ...ไม่ไช่ อยู่ภายในวัดอย่างเดียว

 

29-08-2011, 10:37 PM #68
ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด.
ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด



วันที่สมัคร: Jul 2008
ข้อความ: 1,609
พลังการให้คะแนน: 712

เว็บพลังจิตได้แบน "ไร้กรรม" เรียบร้อยแล้ว
ขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกอย่าไปต่อปากต่อคำหรือทะเลาะกับผู้อื่นนะครับ
หากพบข้อความไม่เหมาะสม ช่วยกดปุ่มแจ้งลบครับ

สำหรับสมาชิกที่โพสต์ไม่เหมาะสม กรุณาลบกระทู้ของท่านออกด้วยนะครับ
ร่วมด้วยช่วยกัน คนละไม่ละมือนะครับ เพื่อเว็บพลังจิตของเราครับ

 

ตอนนั้น มันโดนUser ท่านหนึ่ง ขู่มันเอาไว้ ทำไห้มันหายจากเว็บไปวัน-สองวันก่อนโดนแบน
สุดท้ายมันก็กลับมาพูดจาแบบเดิมไส่

และอีกโพส ก็ มาขู่ผมว่าหมดเวลาแล้ว... กัวตายอะ

 

ข้าพเจ้ากราบขอขมาพระรัตน์ไตยข้อความดังต่อไปนี้ก๊อปมามิได้มีเจตนาปรามาสพระรัตน์ไตยแต่อย่างใด แต่อยากแสดงให้สมาชิกใหม่ๆได้เห็น ในอนาคตหาก นายขจรศักดิ์กลับมาเรี่ยไรเงินหากินกับศาสนาก็จะได้มีคน ชั่งใจ มีข้อให้พิจรณา จะได้ไม่เป็นภัยศาสนาต่อไป

ข้อความโดย โดยขจรศักดิ์ ธรรมภัทรปัญโญเมื่อ

28-08-2011, 07:27 PM #50
ไร้กรรม
สมาชิก

วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 141
พลังการให้คะแนน: 56

ถามว่า ...พระพุทธเจ้า เป็น พระหรือเปล่า ถ้าเป็นพระ ใครเป็นอุปัชชาฌ์ บวชให้ท่าน

หรือ จะเอาเพิ่มมั้ย ว่าพระพุทธเจ้ามีศีลกี่ข้อ

 

ซึ่งตอนนั้น มีสมาชิกที่รับรู้การกระทำของมันมีเยอะครับ

 

กด SAVE ครับพี่น้อง

 

พิจรณากันเอง ไร้กรรม หรือ spiderman ในปัจุบัน ความจริงมีเลวกว่านี้เยอะ แต่มันลบออกไปหมดแล้ว

 

มันบอกว่าเรื่องโดนแบนสำหรับมัน ชิลๆ แต่ ก็จริงของมันครับ

 

ตอนนี้มันกำลังท้าทายอยู่ครับ..
มันบอกว่า.. อิ อิ เฮ้อ, ไม่นึกว่าจะมีคนสนใจเรามากขนาดนี้....
ไหน ใครน่ะที่จะค้นหลักฐานมาจับเรา เร็วๆหน่อยสิ อยากเห็น อิ อิ......
แมงมุมมันอ้อน !

 

ดูเจตนาไอแมงมุมกันนะคับ แทนที่จะออกมาแก้ข้อกล่าวหา กลับมาท้าชาวบ้านที่ตามสาปแช่งเพราะพฤติกรรมเลวทรามของตน หลักฐานทั้งหมดก็ปลอมขึ้นทั้งนั้นน่ะคับ เดี๋ยวทำมาให้ดูเกี่ยวกับรูปพระสามองค์และเรื่องเจดีย์มูลค่า5ล้านน่ะคับ ไปสืบค้นที่มาที่เขากล่าวอ้าง กลายเป้นว่าวัดนั้นไม่มีพระในรูปที่คุณขจรสัตว์นำรูปมากล่าวอ้างเลย แถมเรื่องเจดีย์วัดนั้นกำลังทำกันอยู่จริงแต่รูปที่ขจรสัตว์เอามามันเป็นคนละที่กันเลยน่ะคับ สถานที่ก็คนละที่กัน ไปอุปโหลกรูปวัดไหนมาไม่รู้คับ ประมาณว่าเขารู้ว่าวัดเสวนารามมีการกระทำการดังกล่าวจริง แล้วก็ไปหารูปมาเป็นหลักฐานเท็จไม่ได้ เลยเอารูปอื่นมาอุปโหลกแทนน่ะคับ

 

มันทำอะไรไม่ห่วงลูกสงสารลูกมันเลยอุตส่าห์ให้โอกาสหยุดแล้ว
จะดูซิว่ามันจะมาไม้ไหนต่อ ถ้ามาแนวอวดอ้าวและบิดเบือนศาสนา เรี่ยไรเงินโดยไม่มีที่มาที่ไป คงต้องเอาจริงกับมัน ตอนแรกว่าตัวเองเป็นพระศรี แล้วก็พระยาธรรมิกอะไรของมัน ดูซิควรนี้มันจะเป็นอะไรต่อ

 

ของเค้าดีจริงๆๆๆ ............................... มีล็อกได้ด้วย

 

มันคงเก็บกดมานาน ที่ล็อคไม่ให้คนออกความเห็นคง ต้องการให้ตนเองดูดีในสายตาสมาชิกที่ไม่รู้กำพืดของมัน ประมาณกลัวโดนแฉ(เพราะเวลามันไปไหนมาไหนเจ้ากรรมนายเวรเพียบ) ที่แท้ก็มาไม้นี้ คิดว่าจะรอด หึหึๆๆๆๆๆๆๆ

 

ผมไม่รู้ว่าจะทำไงกับมันดี มันไม่ได้สำนึกอะไรเลยจริงๆ ไม่เคยมีแม้เศษเสี้ยวของสามัญสำนึกด้วยซ้ำ

 

อ้าวววววว

เกจิ จำแลง จะกลัวอะไรขนาดนั้นครับ ถึงกับต้อง ปิดทวาร หนีเลยเหรอครับ


ไม่เป็นไรครับ วันนี้เรามากระชาก หน้่ากาก มารศาสนากันอีกครั้ง
ซึ่งเราจะไม่กล่าวหาใครลอยๆ แต่เราต้องพร้อมด้วยหลักฐานครับ

จำได้ไหมครับหลังจากที่ นายขจรศักดิ์ โดนไล่บี่ ก็พยายามดิ้น
โดยการสร้างหลักฐานเท็จ ว่า พระพุทธรูปได้เคลื่ิิิิอนย้ายไปยังวัด
สุวนาราม (ซึ่งพยายามอำพราง บิดเบือน ป้ายวัดมานาน) เรียบร้อยแล้ว

วันนี้เรามาตามดูผลกันครับ

 

วันนี้, 09:40 PM #9
spider man
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2008
ข้อความ: 138
พลังการให้คะแนน: 54

และผมจะไม่พูด ถึง ฐานธรรม หรือ ....ฐานที่สี่..เพราะ คนที่ไม่ผ่าน ทั้งสามฐานมา
จะพูดฐานที่สี่ ยังไง ก็ไม่มีวันเข้าใจ

ส่วนของ อรหันต์ มรรค ไปสู่อรหันต์ผลนั้น....สอนกันโดยตรงครับ

ต้องชี้สภาวะกันโดยตรง...ด้วยใจถึงใจเท่านั้น
...
สอนกัน ทาง ตำรา หรือ ตัวหนังสือไม่ได้ครับ......ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
...
อิอิ

บอกแล้ว ..มอบ ชีวิต จิตใจ และ ทุกอย่าง ของพวกท่านมา....ให้กับผมซะ
จึงจะรู้ และ เข้าใจ...ที่เหลือ

อิอิ
__________________
สายใยแห่งรัก คือ ..สายใยใจ..หุ้มห่อเธอไว้ แล้วไปด้วยกัน..






วันนี้มันก็ยังบอกให้ทุกคนมอบชีวิตแล้วก็ทุกอย่างให้มันอีก

 

คงเป็นเวรกรรมของเค้านะ.. ที่ทำให้รูปแบบเค้าเป็นแบบนั้น. (พูดจาไม่เข้าหูมนุษย์)

 

เดี๋ยวนี้มันมาแผนใหม่ พูดๆเสร็จแล้วล็อคกระทู้ ไม่รู้มันไปฝึกมาจากไหน แต่บอกได้คำเดียวว่าแผนนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะมันเป็นการหนีคดี กลัวคนมาแฉ

 

ว่าไง jittinon มาสืบราชการลับหรอ