ฝันหรือสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ntdhama, 15 กันยายน 2011.

  1. ntdhama

    ntdhama สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ถึง ท่านสมาชิก

    ดิฉันมีเรื่องที่จะรบกวนขออนุเคราะห์ความรู้หรือความคิดเห็นคะ เวลานอนดิฉันจะเห็นแสงสีขาวขุ่นๆๆ คล้ายแสงของลูกบอลในผับที่เป็นดิสโก้สมัยก่อนคะ แต่ลำแสงนั้น มักจะมาวนข้างๆๆ ลักษณะบางครั้งคล้ายการเลื่อย บางครั้งเคลื่อนที่อย่างช้าๆๆ หรือบางครั้งก็พุ่งเข้ามาอย่างเร็ว ลักษณะการพุ่งหรือเคลื่อนเข้ามาหาตัวดิฉันซึ่งเพิ่งจะนอน แสงนั้นจะระยิบระยับ(สวยมาก) จากนั้นแสงก็จะค่อยๆๆหายไปคะ อาการนี้มักจะเป็นก่อนหน้าวันที่จะไปทำบุญหรือหลังกลับจากการทำบุญคะ (ซึ่งปกติดิฉันจะไปทำบุญทุกๆๆสิ้นเดือน)

    ดังนั้นดิฉันอยากจะขออนุเคราะห์ความรู้ว่า แสงดังกล่าวคือแสงที่ดิฉันสมมุติมาหรือเปล่าคะ

    ขอบพระคุณคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2011
  2. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    แสงนั่นอาจเป็นหนึ่งในสองนี้ครับ
    1.เป็นแสงในนิมิตที่ยังค้างอยู่นะครับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนนั้นไม่เก่งในการทำสมาธิครับ
    2.เป็นแสงของพวกโลกทิพย์ที่พยายามสื่อให้คุณว่า อยากให้คุณทำแบบนี้ตลอดไป ซึ่งแสดงว่าคุณมีของเก่าอยู่เยอะมากครับ เพียงแค่คุณยังค้นไม่พบเท่านั้นเองครับ

    ขอให้รักษาความดี ดั่งเกลือรักษาความเค็มครับ
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    คำว่า สมมติ ในทาง ธรรม เขาหมายถึง สัจจ เป็นความจริงแบบหนึ่ง

    เช่น ตัวคุณที่เกิดเป็น คน ในขณะนี้ ก็คือ สมมติ อย่างหนึ่ง แต่คนไทย
    พอได้ยินคำว่า สมมติ เราก็เข้าใจผิดคิดว่า "Lie" ก็เลยต้องเติมคำว่า "สมมติสัจจะ"
    ให้ดูครบเครื่อง แต่ จนแล้วจนรอด พี่ไทย เราก็แปลเป็น Lie หรือ โกหกพกลมไปหมด

    แต่ถ้า เรามาทำความเข้าใจใหม่กับคำ "สมมติ" ให้มันเป็นทางธรรมเสีย เรื่องที่คุณ
    ถามคุณจะตอบได้เองว่า สมมติ หรือไม่ ก็ในเมื่อแม้แต่ "ตัวคุณ" ในทางธรรมนั้นก็
    ถือว่า "สมมติ" แล้ว สิ่งที่ตัวคุณเห็น มันจะ "สมมติ" หรือไม่

    แล้วเมื่อไหร่ ถึงจะถือว่า เป็นเรื่อง "โกหก" ในทางธรรม สมมติ จะยังคงเป็น สัจจธรรม
    ปรากฏให้รู้ แต่จะผลิกเป็น โกหกทันทีที่เรา "ยึดมั่นถือมั่น" "ให้ความสำคัญ" หรือ ค้น
    หาความหมายพิเศษของคนพิเศษ อะไรเช่นนี้ เรื่องที่ สมมติสัจจะ อยู่ดีๆ ปรากฏให้รู้
    อยู่ดีๆ เรายึดจับมั่นหมายปั๊ป "โกหก" ทันที

    ก็เหมือน พระวินัยของสงฆ์ ที่ยกให้เรื่อง ฌาณ เรือนว่าง วิมุตติ เหล่านั้นเป็น บัญญัติที่
    เรายกขึ้นเพื่อให้เป็น สัจจ เป็น วาจา เอาไว้สื่อสารกัน แต่หากมีผู้ใด สำคัญตนว่า ได้อยู่
    ได้เข้า ได้มี ได้เป็น แล้ว บอกแก่ผู้อื่นว่า ได้อยู่ ได้เข้า ได้มี ได้เป็น ปั๊ป ก็ ปรับ อาบัติ
    จนถึง ปราราชิก ได้ทันที

    สรุป

    สิ่งที่คุณเห็น เป็น สมมติ หรือไม่ ในทางธรรม จะตอบว่า เป็น สมมติ

    แต่ สิ่งที่คุณเห็น จะเป็น สัจจะ ดีอยู่ หากคุณไม่กล่าวโดย การสำคัญมั่นหมายอย่างหนึ่ง
    อย่างใด

    เราจะ อาศัย สมมติ เพื่อรับรู้ การปรากฏให้จิตรู้ จิตเห็นเท่านั้น และก็ เพื่ออาศัยระลึก ไม่ใช่
    เพื่อปรารภว่า "มี" ว่า "เป็น"

    เมื่อทำบุญมากๆเข้า เห็นมันบ่อยๆ เราก็อาศัยระลึกบ่อยๆ ตามเห็นความไม่เที่ยง ความแปรปรวน
    ของมันเอาไว้เนืองๆ ก็ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้

    * * * *

    กลับมาในแง่ของ "จั่ว"คำถาม ที่คนดี"หามมา"ถาม

    ก็จะตัดสินกันที่ การให้น้ำหนัก ความสำคัญ ว่า ถามไปแนวไหน

    ถามเพื่อ จี้จุด ยกความสำคัญมั่นหมาย ยกตน ยกเหตุ ยกผล ให้บังเกิดขึ้นให้ผู้อื่น
    รับทราบถึงการ เข้าถึง การมี การเห็น ของตน ก็จะเรียกว่า "ฝัน"

    แต่ถ้า ถามเพื่อ ยกขึ้นเป็น บัญญัติ เพื่อการสื่อสาร ผ่านๆ เพื่อถามหาวิธีความก้าว
    หน้า หรือ วิธีการตามเห็นความแปรปรวน จะยกจิตพิจารณาอย่างไร แบบนี้ เป็น "สมาธิ"

    อีกแง่หนึ่ง

    หาก มีเพื่อนๆคนใด ตอบคำถามแล้ว เราเกิดความพอใจก็ดี ไม่พอใจก็ดี นั่นคือ "ฝัน"

    หาก มีเพื่อนๆคนใด ไม่ว่าจะตอบคำถามมาอย่างไร จิตเรา สงบ ตั้งมั่น นั่นคือ "สมาธิ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2011
  4. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน..เล่าจังปัง..คัต...เช็ดน้ำลายก่อน แล้วตัดเข้าโฆษณาเลย.
     
  5. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    จขกท..ลองบอกการปฏิบัติประจำวัน มาเป็นข้อมูลด้วยซีครับ เช่น รักษาศิล หรือเคยนั่งสมาธิไหม นานกี่ปี.."ธรรมใดเกิดแต่เหตุใด พุทธองค์ทรงตรัสถึงเหตุแห่งการเกิดนั้นและการดับไปของเหตุนั้น" อนุโมทนาครับ
     
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมขอตอบนะครับ อาจจะไม่ตรงกับคำถามครับ

    แสงที่คุณได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งดี หรือ ไม่ดี

    ก็ควรทำใจยอมรับ ด้วยความเต็มใจ

    แต่เท่าที่คุณบอกกล่าว บ่งบอกว่าเป็นสิ่งที่ดี

    เมื่อเป็นสิ่งที่ดี ก็ยอมรับ และ รับรู้ ว่ามีเกิดขึ้น

    เพียงผ่านเข้ามา และ ก็ผ่านออกไป ไม่คงทนถาวร

    มุ่งเน้นในการปฎิบัติต่อเถอะครับ มองประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ดีกว่าครับ

    ดอกไม้ริมทาง เป็นเพียงสิ่งที่ผ่านเข้ามา และ ก็ผ่านออกไปครับ

    เพราะถึงจะรู้ไป ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ครับ

    สิ่งเดียวที่ได้ คือ การที่ได้รับรู้ แค่นั้นครับ

    เพราะคุณอาจจะต้องเจออีกมากมาย ก็เป็นได้ครับ

    คงต้องขออภัย หากคำกล่าวของผม ทำให้รู้สึกไม่ดีนะครับ
     
  7. ธรรมภัฎ

    ธรรมภัฎ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +734
    เวลานอน น้อยมากที่จะเกิดนิมิตจากสมาธิ เพราะ 90%คือมารหรือออวิชชา ส่วนอีก10%เป็นเทพนิมิต

    ถ้ายังเข้าฌานนอนไม่ได้ ก็ยังนับว่าฝันชัวร์ๆ ง่ายๆเลย

    อยากเจริญในทางธรรมและพระกรรมฐาน ต้องไม่ใส่ใจในนิมิต ยิ่งความฝันน่ะ ลืมไปได้เลย

    ฝันไปแล้ว นิมิตไปแล้ว อยู่กับปัจจุบันธรรม อดีตและอนาคตไม่มีความหมายสำหรับเรา

    เจริญธรรม
     
  8. testykhun

    testykhun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +90
    เก่งกว่าผมเยอะครับ T.T
     
  9. นิลจันทร์

    นิลจันทร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    เรื่องของพี่ntdhama ดีจังค่ะ เป็นนิมิตรหรือไม่นั้นหนูเองก็ช่วยตอบไม่ได้ แหะๆ
    แต่หนูอ่ะ หลอนมาสองอาทิตย์แล้ว สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงผู้หญิงสวดมนต์อยู่ข้างๆอ่ะค่ะ

    บางคืนเปิดมือถือใส่หูฟังแล้วฟังเทศน์อยู่ กำลังซาบซึ้ง..ก็มาตกใจเสียงเดิมตลอด หลอนมากๆ
    แม่ต้องคอยตื่นมารับโทรศัพท์ดึกๆ ทุกที ช่วยแนะนำด้วยค่า ขอบคุณมากๆค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2011
  10. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเสียงอะไร ลองทำตามนี้ดูครับ หนึ่งเมื่อได้ยินเสียงลองสวดมนต์แผ่เมตตาครับ แล้วต่อท้ายด้วยพระคาถา"เทวานังปิยตัง สุตวา"ครับ
    สอง ถ้าเป็นอาการหลอนของร่างกาย ให้กลั้นลมหายใจเอาไว้เล็กน้อย แล้วภาวนาว่าดังนี้ครับ" นิมิตตัง ทิสวานะตัง" ครับ
     
  11. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ถ้าเป็นตอนนั่งสมาธิน่าจะดีกว่านะครับ
    ทำให้ได้ตอนนั่งสมาธิดูสิครับ
     
  12. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    แวะมาเห็นกระทู้ แบบไม่ได้ตั้งใจ ><

    -----

    mamboo ... เป็นบ่อยนะคะ แสงขาวๆอ่ะ..

    มันเกิดจากการที่.. คุณ ไปทำบุญ (ไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่ ชอบนั่งสมาธิ สวดมนต์ด้วยหรือเปล่า)

    เมื่อเรานั่งสมาธิ สวดมนต์ จิตของเรา มันจะไม่เหมือนคนทั่วไปแระ มันจะนิ่งกว่า...

    แล้ว.. ถ้าวันนั้น คุณพักผ่อนน้อย.. ร่างกายอ่อนเพลีย (คุณอาจไม่รู้ตัวว่าอ่อนเพลียนะ เอาเป็นว่า พักผ่อนน้อยๆอ่ะ นอนไม่ถึง 8 ชม.ต่อวัน)

    เวลาล้มตัวนอน มันจะเห็นแสงสีขาวๆพุ่ง (เป็นเรื่องปกติ) เกิดกับทุกคนที่ พักผ่อนน้อย และชอบทำสมาธิ (หรือไม่ก็สวดมนต์)

    เพราะเวลาที่ล้มตัวนอน.. จิตของคุณ มันจะไปรวมกันที่.. ด้านหน้า... (ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว) .. แสงขาวๆที่คุณเห็นอ่ะ ถ้าคุณจ้องๆมันแบบมีสมาธิ จิตของคุณ จะพุ่งออกไปเลย..

    หลายๆคน เรียกลักษณะการที่ จิตพุ่ง ออกไปสู่ โลกอีกโลกหนึ่ง ว่า.. ถอดจิต

    แต่ mamboo ไม่คิดว่า นี่เป็นการถอดจิต

    เพราะ.. เบื้องหลังแสงขาวที่คุณเห็นอ่ะ มันจะไม่ใช่โลกมนุษย์ แต่มันจะเป็น "โลกที่คุณสร้างขึ้นเอง"

    มันคล้ายๆโลกความฝัน แต่ต่างกันที่ว่า เวลาคุณฝันอ่ะ คุณสร้างเรื่องความฝันแล้ว แล้วคุณค่อยไปอยู่ในฝัน

    แต่ไอ้แสงขาวๆเนี่ย.. ถ้าคุณเข้าไปในนั้น.. โดยที่ไม่กำหนดให้มันเป็นอะไร มันจะเป็นคล้ายๆ สวรรค์ เป็นโลกที่มีแต่แสงขาวๆ ตัวเบาๆ รู้สึกดีและมีความสุข แต่ถ้าคุณกำหนดมัน เช่น ก่อนที่คุณจะเพ่งๆและโดนดูดเข้าไป คุณคิดว่า คุณอยากให้มันเป็น บ้านของคุณตอนวัยเด็ก .. พอคุณเข้าไปในนั้น มันก็จะเป็นอย่างงั้น

    ทั้งนี้ทั้งนั้น.. มันไม่มีวิธีแก้.. และไม่จำเป็นต้องแก้.. เพราะเป็นอาการปกติของคนที่ ทำสมาธิ และ ชอบพักผ่อนไม่เพียงพอ

    แต่ถ้าจะถอดจิตแบบ กายทิพย์ ต้องนั่งสมาธิได้ชาน 4 (คีย์บอร์ดไม่มีชอกะเชอ) แต่ถ้าถอดจิตแบบ วิธีทางการนอนแล้วเห็นแสงขาวๆเนี่ย มันไม่ได้ออกมาสู่โลกมนุษย์ มันเป็นการ ถอดจิตไปโลกความฝัน (บางคนอาจคิดว่าเป็นโลกทิพย์นะ แต่ mamboo ว่าไม่ใช่ เพราะมันจะเป็นอะไรก็ได้ ที่เรากำหนดให้มันเป็น มันเหมือนเป็นโลกความฝัน ที่ยังไม่ได้ถูกปรุงแต่งโดยจิตใต้สำนึกอ่ะ)

    สรุปคือ

    คุณอย่าไปคิดมากเรื่องนี้เลยค่ะ..

    mamboo ทำการศึกษาเรื่อง จิต และ โลกของจิตวิญญาณ มามาก.. บางคน ขยับตัวไม่ได้ ได้ยินเสียงดังข้างๆหู ก็คิดว่า ผี คิดว่า เทวดามาสวดมนต์ให้ฟัง บ้างล่ะ อะไรบ้างล่ะ

    จริงๆแล้ว ไม่มีอะไรเลย.. มันเป็น เรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นทุกๆวัน แต่อยู่ที่ว่า ตอนที่มันเกิด คุณมีสติไหม.. อย่างตอนนี้ คุณมีสติ (เพราะมันเกิดตอนล้มตัวนอนทันที) ถ้ามันเกิดช้าๆหน่อย คุณก็ไม่มีสติ จำไม่ได้ จดจำไม่ได้

    ถ้าคุณอยากรู้อยากเห็น ก็ลองฝึกมีสติตลอดเวลาสิ่ 24 ชม. เอาให้ได้ว่า.. "ตอนที่กำลังจะหลับ มันเป็นยังไง คุณจำได้ไหม คุณหลับไปตอนไหน ... " ถ้าคุณทำได้.. ถ้าคุณฝึกให้เห็นตอนที่กำลังจะหลับได้(คือ มีสติตลอดเวลา) คุณก็จะรู้จะเห็นว่า..

    ไอ้ที่มองเห็นผี มองเห็นอะไรในห้อง (เวลาขยับตัวไม่ได้อ่ะ หรือที่หลายๆคนเรียกว่า ผีอำ) มันไม่ใช่ของจริงเลย ><

    มันเป็น.. สิ่งที่ จิตของเรา ปรุงแต่งขึ้นหมดเลย ><

    แล้วปรากฏการณ์ประหลาด ภาพนิมิต อะไรต่างๆ .. มันเป็นสิ่งที่.. เกิดขึ้นอยู่ ทุกๆวัน ตลอดเวลา เป็นเรื่องปกติ..

    แต่พอคนที่ทำสมาธิ (การทำสมาธิ จะทำให้คนๆนั้นมีสติมากกว่าคนที่ไม่ทำสมาธิ) พอทำสมาธิ ก็จะเริ่ม มีสติสัมปชัญญะมากขึ้น ทำให้รับรู้ถึง ประสาทสัมผัสทาง จิต..

    แต่.. การรับรู้เพียง นิดๆ หน่อยๆ ครึ่งๆ กลางๆ มันก็ใช่ว่าจะดี มันกลายเป็นข้อเสีย ที่ทำให้คนหลงคิดไปว่า เป็นผีบ้างล่ะ บางคนเข้าใจว่า ตัวเองเป็นผู้วิเศษบ้างล่ะ.. บางคนคิดว่า ตัวเองมีเทวดามานั่งสวดมนต์ให้ฟังบ้างล่ะ..

    แต่ mamboo จะบอกว่า.. มันเป็น สิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นหมดเลย!!! ><

    ถ้าอยากเห็นของจริง ต้องนั่งให้ได้ ชาน 4 .. ไอ้พวก ภาพ เสียง อะไรต่างๆนาๆที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะถึงชาน 4 เป็นของธรรมดา ปกติ ที่ถูกปรุงแต่งขึ้นโดยจิตของเรา หมดเลย >< ไม่มีของจริงเลย.. แล้วก็เป็นข้อเสีย ให้คนที่ทำสมาธิ หลงไปกับมัน.. อีก.. ต่าง.. หาก..
     
  13. นิลจันทร์

    นิลจันทร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณมากๆค่ะทุกๆท่าน...ที่ช่วยแนะนำ...ขอบคุณจากใจจริงค่ะ^^
    ก็ส่วนตัวแล้ว...สวดมนต์ก่อนนอนตลอดค่ะ มีนั่งสมาธิบ้าง ฟังเทศน์ในโน๊ตบุ๊ค บ่อยๆ
    บางทีได้ยินเสียงสวดแทรกขณะฟังเทศน์เป็นบางครั้ง...แผ่เมตตาให้..อุทิศให้..ก็เหมือนเดิม...เสียงสวดมนต์นั้นดังชัดเจนดีค่ะ...ฟังแล้วไม่น่ากลัวอะไร..(เริ่มชินมั้งคะ หุหุ) แต่ตกใจกว่าน่ะค่ะ...
    พยายามเดินจับโจร ว่าใครมาแกล้งก็ไม่มี เหอๆๆ
    เหตุการณ์ล่าสุด...ได้ยินเสียงสวดมนต์แล้วทนไม่ได้!!!!!! จากขี้เกียจสวดมนต์ก็เลยฮึดสู้ลุกขึ้นมาสวดมนต์ด้วยซะเลย 555
    เอ่อ...หนูลองกลั้นลมหายใจดูแล้ว ทำไมเสียงที่ได้ยินไม่หายไปคะ..ช่วยหนูด้วยย
     
  14. นิลจันทร์

    นิลจันทร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    หนูเองยังไม่กล้าคิดว่าเป็นเทวดาหรือผีจริงๆเท่าไรนัก และจิตใจหนูยังไม่หนักแน่นเข้มแข็งพอ..^^

    ขอบคุณมากๆๆค่ะ..ที่เขียนมานั้นเตือนสติได้ดีเหลือเกิน...

    ขอบคุณมากนะคะ...โชคดีเหลือเกินที่คุณแวะมาดูเรา
    ยังรับคำแนะนำเพิ่มได้อีกค่ะ....นิลจันทร์
     

แชร์หน้านี้

Loading...