แชร์ประสบการณ์หลวงพ่อแพและโชว์วัตถุมงคล

สวัสดีครับ พี่mayakarn และ ชาวเว็บ ทุกๆท่าน

ลำดับต่อมา คือ พระสมเด็จคะแนนธาตุ๔ นะ มะ พะ ธะ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2520 ครับ

รูปภาพได้รับความอนุคราะห์ จาก พี่ mayakarn ครับ

 

ได้เลยครับ พี่mayakarn จัดเต็ม มาได้เลย ({)(})

 

สงสัยกระทู้นี้ต้องเปลี่ยรเจ้าของกระทู้ซะแล้วเพราะเจา้ของกระทู้ ดูพระไม่เป็น+มีแค่องค์เดียว55+

 

สวัสดีครับ พี่mayakarn และ ชาวเว็บ ทุกๆท่าน

ลำดับนี้เป็นเครื่องรางกันบางนะครับ
นางกวัก รุ่นที่สอง สร้าง ปี พ.ศ. 2506 มีทั้งหมด 3 พิมพ์

1.เนื้อผง รูปแม่นางกวักนั่งในซุ้ม นั่งหันข้างไปทางซ้ายมือของเรา ด้านหลังเป็น เป็นยันต์พุฒซ้อน มีอุณาโลม ตามเอกลักษณ์ หลวงพ่อแพครับ

2. เหรียญหล่อเนื้อทองผสม พิมพ์หน้าตรงเนื้อทองผสม ยกขอบเหรียญขึ้นเป็นกรอบอย่างชัดเจน ด้านหลัง เป็นยันต์พุฒซ้อน ไม่มีอุณาโลม

3. เหรียญหล่อเนื้อทองผสม พิมพ์หันข้างนั่งบนดอกบัว อยู่ในครอบแก้ว เหรียญนี้ไม่มีการทำขอบข้าง เหมือนกับพิมพ์หน้าตรง ด้านหลังมียันต์พุฒซ้อน และอุณาโลม

ส่วนรูปด้านล่างเป็นของ พี่ mayakarn ให้ความอนุเคราะห์ครับ

 

หลวงพ่อแพ รุ่นแพกันภัย
ด้านหลังเป็นยันต์กลับครับ เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน ไม่ทราบว่ารุ่นอื่นมียันต์กลับอีกหรือไม่ครับ

 

องค์นี้สวยดีครับ ^ ^

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์ปี 2514 น่าจะเหมือนกับท่านเจ้าของกระทู้นะครับ
สภาพซ่อม บิ่น แต่ศรัทธาสุดหัวใจ เพราะตามประวัติหลวงพ่อแพไปกดพิมพ์นำฤกษ์ที่อินเดียแล้วนำมวลสารมากดต่อในเมืองไทย (ตามที่เคยได้ยินมา ท่านน่าจะไปเยือนอินเดียพร้อมกับหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวันนะครับ)

 

สวัสดีครับ คุณ UPPERCUT และ ชาวเว็บ ทุกๆท่าน


ลำดับต่อมา รูปเหมือนผง ที่ระลึกทำบุญอายุ 70 ปีหลวงพ่อแพ จัดสร้างในปี พ.ศ. 2517 ครับ จัดเป็นรูปเหมือนเนื้อผงรุ่นแรกของหลวงแพครับ
จากภาพพระที่ คุณ UPPERCUT นำลงให้ชมอยู่ในสภาพสวยมากๆ คุณสามารถอาราธนาหลวงพ่อแพท่านขึ้นคอได้แบบไม่ต้องอายใคร

 

สวัสดีครับ คุณ ONIGIRI และชาวเว็บ ทุกๆท่าน

ผมตรวจสอบจากในหนังสือหลายรอบแต่ไม่พบ รุ่น แพกันภัย จากในหนังสือ และการทำรุ่นยันต์กลับด้านก็ไม่มีในหนังสือเช่นกันครับ อย่างนี้ต้องทำการสอบสวนคุณ ONIGIRI แล้วว่า ความเป็นมาเป็นเช่นไรทำไมพระรุ่นนี้ถึงมาอยู่ คุณ ONIGIRI ได้ เพราะผมเองก็คิดสันนิษฐานว่าการรวบรวมวัตถุมงคลของหนังสืออาจจะมีการตกหล่นไปบ้างเช่นกัน อย่างเช่น พระสมเด็จแพพันพิเศษ 2539 และปี พ.ศ. 2540 ก็ไม่มีในบันทึกเหมือนกันนะครับ เลยไม่สรุปว่า
รุ่น แพกันภัย นั้นทันหลวงพ่อแพหรือเป็นรุ่นหลังจากที่ท่าน มรณะภาพไปแล้ว นะครับ

 

เป็นรุ่นที่ออกแบบได้สวยงาม และแนวความคิดการออแบบแม่พิมพ์ต่างๆ ก็สอดคล้องกับเหตุการณ์ดีมากเลยครับ
ให้คะแนนเต็มกับการออกแบบครับ ชั๊วๆ ชั๊ว

 

ใช่เลยครับ รุ่นเดียวกันเนื้อเดียวกันครับ

 

พระสิวลีหลวงพ่อแพรุ่นแรกและรุ่นสองวิธีดูให้ ดูที่ร่มรุ่นแรกร่มงอ รุ่นสองร่มจะตรงละแต่กรอบเป็นแบบเดิมๆอยู่ไม่ค่อยพบ ดูการเลี่ยมโบราณแบบเดิมๆ ประมาณนี้ครับ เลี่ยมเดิมจากวัด ปี 2511 คราสสิค

 

ขอบคุณมากๆนะครับ ที่เข้ามาเพิ่มเติม สาระให้กระทู้นี้ จะได้มีสีสันมากกว่า การโพสท์ กันอยู่ไม่กี่รายครับ

 

เดี๋ยวถ้าหาหลวงพ่อแพแปลกๆได้ผมจะนำมาโพสให้อีกครับ

 

พระสมเด็จ เนื้อโลหะ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี สร้างเมื่อท่านอายุ 93 ปี

หลวง พ่อแพท่านเป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี เกิดในราวปี พ.ศ.2452 ที่บ้านสวนกล้วย ต.ดอนสมอ อ.ท่าช้าง เมื่อบิดามารดาเสียชีวิต จึงย้ายมาอยู่กับบิดามารดาบุญธรรมที่วัดใหม่ อ.ท่าช้าง ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพิกุลทอง ตอนเด็กเรียนเขียนอ่านที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน แล้วเข้ากรุงเทพฯ เพื่อบวชเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนด้านพระปริยัติธรรมกับพระอาจารย์เขมร ที่วัดชนะสงคราม ท่านมีความใส่ใจและขวนขวายในการศึกษา อายุเพียง 14 ปีก็สามารถสอบได้เปรียญ 3 ประโยค

เมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระ ภิกษุ ได้รับฉายา "เขมังกโร" แปลว่า ผู้ทำความเกษมแล้ว ท่านเป็นพระภิกษุที่มีจิตมุ่งมั่นที่จะบำเพ็ญตนเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายๆ รูป อาทิ สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) พระครูภาวนา สำนักวัดโพธิ์ หลวงพ่อสี ผู้ทรงคุณวิเศษนานัปการ ฯลฯ ท่านจึงมีความเชี่ยวชาญและแตกฉานทั้งด้านคันถธุระ วิปัสสนาธุระ รวมทั้งไสยศาสตร์และวิทยาการต่างๆ

ต่อมาได้รับมอบหมายจากสมเด็จพระ วันรัต (เฮง เขมจารี) ให้เดินทางกลับบ้านเกิดและบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามในท้องถิ่นที่ชำรุดทรุด โทรม เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป ท่านจึงเดินทางกลับไปดูแลวัดพิกุลทอง ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของชาวบ้าน ด้วยบารมีและกุศลบุญของท่านและหลวงพ่อสี การบูรณะวัดพิกุลทองสำเร็จลุล่วงในเวลาเพียงปีเศษเท่านั้น นอกจากนี้ ท่านยังพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญควบคู่ไปด้วย ชื่อเสียงของท่านเป็นที่ร่ำลือขจรขจาย มีศิษยานุศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมากราบนมัสการอย่างเนืองแน่น หลวงพ่อแพท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2542

เมื่อหลวง พ่อแพ มีบารมีมากขึ้นผู้คนเริ่มรู้จักตามลำดับ วัดหลายวัดต่างนิมนต์ หลวงพ่อแพท่านเป็นประธานในการก่อสร้างวัด วิหาร ถาวรวัตถุต่างๆมากมายหลายวัด และเมื่อ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2493 ทางวัด แถบ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ก้อได้นิมนต์ท่านร่วมงาน หลวงพ่อแพเล่าว่า ท่านเพลียมากจึงชวนศิษย์ไปจำวัด ที่หอสวดมนต์ โดยมีคนหลายนอนอยู่ก่อนแล้ว ก่อนนอนท่านเอาผ้าอาบน้ำฝนใส่ไว้ในย่าม จึงรู้สึกว่าย่ามใหญ่ คิดว่าคนที่นอนอยู่คงเข้าใจว่าเป็นเงิน ด้วยความอ่อนเพลียท่านจึงหลับไป พอท่านตื่นจากจำวัดเวลาเช้ามืด พบว่าย่ามหายไปแล้ว จึงแจ้งทางวัดทราบ สำหรับสิ่งของในย่าม มีเพียงของเล็กๆน้อยๆ แต่ของที่สำคัญก็คือ พระสมเด็จวัดระฆังฯ ซึ่งได้รับจากสมบัติของโยมวัดชนะสงคราม จึงเป็นของที่แท้ และทรงคุณค่าทางด้านจิตใจของหลวงพ่อมาก ท่านจึงเสียดายเป็นอย่างมาก ญาติโยมช่วยกันติดตาม ปรากฏว่าได้รับของอื่นคืนครบทุกชิ้น ยกเว้นพระสมเด็จ สอบถามผู้ขโมยได้ความว่าได้นำไปขายให้บุคคลไม่ทราบชื่อ ไม่สามารถติดตามคืนได้หลวงพ่อเล่าว่าท่านเสียดายมาก ระหว่างนั้นต้องไปขอยืมสมเด็จวัดระฆังจาก อาจารย์หยด ซึ่งเคยเป็นเจ้าอาวาส มาติดตัวไปก่อนด้วยความเคารพในบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต เป็นอย่างยิ่ง ทำให้หลวงพ่อแพ อธิษฐานขอบารมี ณ วัดไชโยวรวิหาร ขอสร้างพระโลหะพิมพ์สมเด็จ พระสมเด็จทองเหลืองขึ้นใช้เอง และแจกจ่ายให้กับผู้เคารพศรัทธา ในปี 2494 ประมาณเดือน 6 โดยนำช่างมาเททองหล่อ ที่ด้านใต้ โบสถ์หลังเก่า ได้รับโลหะจากผู้ที่มาร่วมพิธี นำมาหล่อเช่น เครื่องเงิน ขันลงหิน โต๊กทาน เชียนหมาก ตะบันหมาก สตางค์แดง สตางค์ข้าว สตางค์สิบ ทองเหลือง เป็นจำนวนมาก​

ข้อมูล : ข่าวสด
​

หลวง พ่อแพ ท่านเป็นพระเกจิที่เก่งและดังมากๆ อีกท่านหนึ่งของสิงห์บุรี ท่านมีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซียวัตถุ มงคลที่ท่านสร้างมีประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาด คุ้มครอง โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ลูกศิษย์ที่ใช้พระของท่าน เห็นมีข่าว ได้โชว์พระท่านกันบ่อยๆ เดี๋ยวนี้พวกสิงคโปร์กำลังนิยมเก็บพระเครื่องของท่านอยู่ด้วยนะครับ ต่อไปแพงแน่นอนครับ

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาด คุ้มครอง โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย

ผมก๊อบที่อื่นมานะครับผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับพี่น้อง

 

จัดไป...............

 

สาเหตุที่ แพ 1 พัน 2พัน 3พัน ในบ้านเรามีน้อยก็เพราะ ไปอยู่ สิงค์โปรหมดแล้วครับ ตอนนี้ทั้งแพง ทั้งหายาก ตามที่หนังสือพิมพ์ลงเลยครับ
:'''(

 

เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ เฉินหลง ก็ อาราธนาพระหลวงพ่อแพ ขึ้นคอ ด้วยเหมือนกันครับ

 

ดีจังมีคนมาคุยด้วยหลายคนแล้ว

จริงๆ ไม่ต้องแปลกหรอกครับ ธรรมดาของเรา คนอื่นอาจจะแปลกก็ได้

เอามาพูดคุยกันทุกรุ่นแหละ จะได้ถือโอกาสรวมพระหลวงพ่อแพท่านให้ครบซะเลย

 

สนับสนุนให้หลายๆคนมาร่วมกันแชร์เรื่องราวต่างๆที่ทุกคนไปประสบต่อตัวเองจากบารมี หลวงพ่อแพ รวมถึงการนำพระที่มาร่วมกันแบ่งปันความรู้และการเจริญศรัทธา โดยเล่าที่มาประกอบด้วย จะทำให้เกิดความสมบูรณ์ของเรื่องราวในสมัยที่ หลวงพ่อแพ ท่านยังอยู่ได้ถูกเติมเต็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ให้คนรุ่นหลังได้ทราบกัน หากเรื่องราวดีๆ ไม่ได้รับการจนบันทึก ปล่อยให้ความทรงจำทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดจะยั่งยืนสามารถทวนกระแสแห่งลักษณะสามัญของธรรมชาติได้ แต่คุณความดีของหลวงพ่อแพ ที่ควรได้รับการสรรเสริญ ต่างๆ มันก็คงหายไปพร้อมกับลมหายใจของพวกเราทุกๆคน หากเราว่าเก็บไว้เป็นความทรงจำของเราแต่โดยลำพัง จัดมาเลยนะครับแบบไม่ต้องยั้ง เทกันหมดหน้าตัก แต่ขอให้เป็นเรื่องจริงเท่านั้น เชิญครับทุกท่าน