เปรตกู้รีเทิร์น

ตำรวจกองปราบฯ บุกจับอาจารย์กู้แอบอ้างร่างทรงปู่ฤาษีตาไฟผู้มีพลังวิเศษ ดูดวง เสริมดวงชะตา จนเหยื่อหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินค่าครูไปกว่า 3.2 แสนบาท



นายกร ปัสโรบล หรืออาจารย์กู้ หรืออาจารย์กิตติ ถูกตำรวจกองปราบปรามบุกเข้าจับที่บ้านพักย่านทุ่งสองห้อง หลังนางสาวกอ แจ้งจับฐานหลอกลวงให้เสริมดวงชะตา และต้องสูญเงินกว่า 320,000 บาท โดยอ้างตนเป็นร่างทรงปู่ฤาษีตาไฟ และเป็นผู้มีพลังวิเศษ ดูดวงและเสริมดวงชะตา ,เปลี่ยนตัวเลขล็อตเตอรี่ให้เป็นรางวัลใหญ่ได้ รวมถึงเสกกระดาษให้เป็นเงิน, ทำให้สามีรักสามีหลง และที่ทำให้เชื่อว่าอาจารย์กู้ มีพลังวิเศษ จากการสแกนหน้าบิดาตนเอง แล้วปริ้นท์มาให้ดูทำให้หลงเชื่อ จึงยอมเสียเงินจำนวนดังกล่าว แต่เมื่อเวลาผ่านไปชะตาชีวิตไม่ดีขึ้น จึงไปทวงเงินคืนแต่อาจารย์กู้ ปฏิเสธ จึงเข้าแจ้งความ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=htMaYrwQXgQ]เปรตกู้รีเทิร์น - YouTube[/ame]

ขณะที่อาจารย์กู้ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่า เสริมดวงชะตาให้กับผู้เสียหายจริง โดยรับเงินมาแค่ 100,000บาท และคืนเงินไปแล้ว 90,000 บาท คงค้างไว้เพียง 10,000 บาทเท่านั้น เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยอาศัยความอ่อนแอแห่งจิตของผู้ถูกหลอกลวง

สำหรับอาจารย์กู้ เคยถูกจับลักษณะเดียวกันมาแล้ว และศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน แต่ไม่เคยกระทำผิดมาก่อนโทษจำคุกให้รอลงอาญา

 

อะไร ทำให้เขา กลับมาทำเหมือนเดิม

 

ความเห็นนะครับ เพราะกิเลสเราเอง โทษใครไม่ได้หรอก

 

ถูกต้องนะคับ...............

 

มีใครในนี้ ตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อ นายตนนี้ บ้างไหมครับ

 

ขำทั้งโจทย์ จำเลย ตำรวจ นักข่าว อุอุ

 

ในวงการนี้ หารายได้ จากความเชื่อของคน เรื่องของเรื่องครับ วงการนี้แพงมากอยู่ลำบาก ถึงจะเก่งขนาดไหนมีฤทธิ์จริงๆแต่เก็บแพง ก็โกงประชาชนครับ
แต่ถ้าไม่มีอะไรเลยโม้เอาอย่างเดียว เก็บถูกๆ ทีละ100 200 ก็อยู่ได้ไม่โดนจับหรอก
เพราะผมเคยเจอบางสำนักที่จุดขายอยู่ที่ตรงอัธยาศัยดีมากของเจ้าสำนักและราคาถูกครับ

เพราะคนที่พึ่งทางนี้เพราะทุกข์ใจไม่มีอะไรให้พึ่ง ก็อยากเสียเงินซื้อปาฏิหาร!!!
เง้อ.....มนุษย์ ผมก็เคยฮะโดนไปหลายพันเลยพวกของเสนห์บ้างพรายบ้างกุมารบ้าง
ทุกวันนี้ขายขาดทุนไปแล้วบางตัวไม่มีราคาก็โยนทิ้งน้ำหมดแล้ว ปฏิบัติธรรมสายพุทธดีที่สุดครับ

 

รีเทิร์นอีกแย้ว

 

สิ่งที่ควรระวัง เวลาเล่นห้องวิทยาศาสตร์ทางจิตฯ

http://palungjit.org/threads/สิ่งที่ควรระวัง-เวลาเล่นห้องวิทยาศาสตร์ทางจิตฯ.304750/

 

..............................สุดยอด ครีเอถีฟ หนึ่งเดียวคนนี้ เดอะกู้:love:

 

บิดงอช้อนส้อม โถก็แค่มายากล

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zKY1lphrE70]มายากลงอช้อน - YouTube[/ame]

 

ว.วชิรเมธีชี้3ลัทธิทำชาวพุทธเขว

สำนักพุทธศาสนาระดมนักวิชาการเปรียญธรรม 9 ประโยคจัดทำหนังสือเรื่องแก้กรรมตามหลักพุทธให้สงฆ์ถือเป็นแนวทาง

หลงให้ผู้อื่นหลอกแก้กรรมเตือนหน้าที่สำคัญ5ประการ
ไทยโพสต์ * สำนักพุทธฯ ระดมนักวิชาการเปรียญธรรม 9 ประโยคจัดทำหนังสือเรื่องแก้กรรมตามหลักพุทธ สอนเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทั่วประเทศ พร้อมกำชับให้ควบคุมดูแลพระสงฆ์เดินตามคำสอนพระพุทธเจ้า ด้าน ว.วชิรเมธีสแกนสังคมไทยถูก 3 ลัทธินอกพุทธศาสนาครอบงำจนวิกฤติตกต่ำ ย้ำชาวพุทธมีหน้าที่ 5 ประการ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชา

นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการสอนเรื่องแก้กรรมหรือสแกนกรรมจนทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความสับสนและเข้าใจผิดเรื่องแก้แห่งกรรม ว่าผู้อื่นช่วยแก้กรรมได้ ดังนั้น พศ.จึงมอบหมายให้นักวิชาการที่สำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม 9 ประโยค ช่วยกันจัดทำหนังสือเรื่องแก้กรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเขียนด้วยภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ในเบื้องต้นจะจัดพิมพ์จำนวน 5,000 เล่ม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งจัดทำให้เสร็จในเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายพิมพ์แจกเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทั่วประเทศได้นำไปศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งได้ส่งหนังสือเวียนให้ช่วยกวดขันพระสงฆ์เผยแผ่หรือเทศนาธรรมให้เหมาะสมและประพฤติอยู่ในหลักพระธรรมวินัย

นายอำนาจกล่าวว่า ที่ผ่านมามีหนังสือให้ความรู้เรื่องกรรมหลายเล่ม พระสงฆ์และพุทธ ศาสนิกชนสามารถศึกษาค้นคว้าได้ตั้งแต่พระไตร ปิฎกและหนังสือที่พระนักวิชาการได้เขียนไว้ เช่น พระธรรมปิฎก ป.อ.ปยุตโต พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี และหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การจัดพิมพ์หนังสือเรื่องกรรมมุ่งให้ความรู้แก่พระสงฆ์เพื่อนำไปถ่ายทอดให้ชาวพุทธได้อย่างถูกต้อง ภาษาเขียนไม่เป็นในเชิงวิชาการ บางครั้งอ่านแล้วเข้าใจยาก ตนคิดว่าการจัดทำหนังสือดังกล่าวเป็นแนวทางหนึ่งในการให้ความรู้แก่พระสงฆ์เพื่อไม่ออกนอกลู่นอกทางพระพุทธศาสนาได้

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวว่า เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันวิสาขบูชา ที่ใกล้จะถึงนี้ อาตมาขอให้ชาวพุทธตระหนักถึงหน้าที่ตนเอง 5 ประการคือ 1.ศึกษา 2.ปฏิบัติ 3.สัมผัสผล 4.เผยแผ่ และ 5.แก้ไข ชาวพุทธจะต้องยึดหลักคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้า ในเวลานี้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องกฎแห่งกรรมว่า เห็นแต่กรรมเก่า กรรมไม่ดีและกรรมของตนเองนั้นให้คนอื่นแก้ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ชาวพุทธต้องลุกขึ้นมาแก้ไขและพัฒนากรรมด้วยตนเอง

ว.วชิรเมธีกล่าวว่า ทุกวันนี้มีลัทธินอกพระพุทธศาสนาประกอบด้วย 1.ลัทธิกรรมเก่า 2.ลัทธิเทพเจ้าบันดาล และ 3.ลัทธิบังเอิญ ทั้ง 3 ลัทธินี้กำลังปลอมปนกับคำสอนพุทธศาสนาในสังคมไทย เหมือนปูเสฉวนอยู่ในเปลือกหอย ชาวพุทธจะต้องแยกแยะพระพุทธศาสนาให้ออกจากลัทธิดังกล่าว ไม่ควรนำมาปะปนกัน ถ้าเราเชื่อลัทธิกรรมเก่า เราก็จะยอมจำนนแล้วให้คนอื่นมาแก้กรรมด้วยวิธีผิดๆ ทำให้เราเป็นคนโง่หรือหลงเชื่ออย่างงมงาย จึงถูกกรรมพาณิชย์ตบทรัพย์ได้

"หากเราเชื่อลัทธิเทพเจ้าบันดาล เชื่อว่าเทพเจ้าจะให้ตามสิ่งที่ร้องขอ เราก็จะไม่ลงมือทำด้วยตนเอง แต่จะเห็นได้ว่าเวลานี้เมืองไทยกลายเป็นสถานที่ชุมนุมของเทพเจ้าอย่างมากมาย ทำไมเทพเจ้าจึงไม่ช่วยให้เมืองไทยรอดพ้นจากวิกฤติต่างๆ ในบ้านเมือง ส่วนลัทธิบังเอิญ เรามักจะเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ทำให้เป็นคนไม่มีเหตุไม่มีผล แล้วก็จะปล่อยชีวิตเหมือนกอสวะลอยไปตามกระแสน้ำ ไม่มีจุดหมายในชีวิต ไม่เกิดการคิดหรือทำอย่างสร้างสรรค์"

ว.วชิรเมธีกล่าวอีกว่า ปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่ชอบหาความรู้ แต่กลับชอบหาความเห็น เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่ต้องใช้ความรู้ กลับไปใช้ความเห็น ผลก็คือเรื่องราวต่างๆ ถูกขยายประเด็นออกไปอย่างไม่มีหลักเกณฑ์ เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่มีความสำคัญก็ถูกทำให้หลงประเด็นไป พอสังคมไทยไร้หลักเช่นนี้ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่ยึด และไม่มีผู้ชี้ให้เห็นชัดๆ ว่าสาระสำคัญคืออะไร จึงเป็นเหตุให้คนไทยหันไปหาไสยเวท หรือผู้รู้จริงบ้างไม่จริงบ้างขึ้นมายกย่องเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ สังคมที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความรู้ จึงกลายเป็นสังคมที่อ่อนไหวต่อความเสื่อม และนับวันจะยิ่งเสื่อมลงไป

ดังนั้น สถาบันวิมุตตยาลัยจัดเสวนาธรรมเรื่องสแกนกรรมสังคมไทย ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เริ่มเวลา 14.00 น. ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ สวนรถไฟกรุงเทพฯ เพื่อให้ความรู้กระตุ้นเตือนสังคมไทยตระหนักอย่างลึกซึ้งมากขึ้น.

บรรยายใต้ภาพ
ว.วชิรเมธี