ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466


    ภาพนี้ได้มาจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือสดร.
    ขอขอบคุณ : Science - Manager Online -
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เชิญมาผ่อนคลายกับหลุยส์ วิตตอง กันครับเสียดายที่ไม่มีภาพให้ชม

    สวยรับใบไม้ร่วง/หนาว กับหลุยส์ วิตตอง


    <!-- main-content-block --><!--17 มิถุนายน 2554 - 00:00-->
    17 มิถุนายน 2554 - 00:00


    ได้เวลาเปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานและครองใจคนไทยมาทุกยุคทุกสมัยอย่าง หลุยส์ วิตตอง “ภายใต้คอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2011-2012” แล้ว
    เริ่มกันที่คุณสุภาพสตรี คอลเลคชั่นนี้เป็นการนำเสน่ห์อันเร้นลับของผู้หญิงมาผสมผสานกับความเป็นแฟชั่น เพื่อให้เกิดพลังและความหลงใหลที่ดูลึกลับ จึงทำให้เสื้อผ้าที่ออกมานั้นดูทรงพลัง ขณะเดียวกันก็ยังคงแฝงความเรียบร้อยและความเย้ายวน ตลอดจนความมีเหตุผลและไร้เหตุผล มารวมไว้ในเสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อคอร์เส็ท เสื้อแจ็กเกตทหาร เสื้อแบบผู้ชาย และเสื้อโค้ตที่ดูนุ่มนวลด้วยช่วงไหล่ที่กว้าง และเอวคอดเข้ารูปด้วยตะเข็บเย็บมือ หรือจะเป็นชุดกระโปรงที่ดูนิ่งๆ แต่เก๋ด้วยกระดุมดำมันวาวด้านหลัง นอกจากนี้ยังมีเสื้อถักธรรมดาที่โดดเด่นด้วยลูกเล่นน่ารักดูอ่อนเยาว์ อย่างปกเสื้อคอบัวสีขาวหรือบ้างก็ตัดเย็บจากหนังแก้ว โดยอยู่ภายใต้โทนสีดำ เทา ขาว และแซมด้วยสีแดงทับทิม สีเขียวมรกต และสีนู้ดเบจบ้างในบางลุคส์
    สำหรับเสื้อผ้าสุภาพบุรุษประจำฤดูกาลนี้ เป็นการนำเอาความเรียบโก้สไตล์ Amish (อามิช หรือกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายอามิช ที่นิยมการแต่งตัวที่เรียบง่ายด้วยโทนสีดำและขาว) มาผสมผสานกับสไตล์และความแหวกแนวของผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดังอย่างเดวิด ลินช์ (David Lynch) จึงทำให้คอลเลคชั่นนี้เต็มไปด้วยสีดำ โดยเฉพาะเสื้อแจ็กเกตที่เป็นทรงตรง หรือเสื้อโค้ตกันฝนตัดเย็บจากผ้ากันน้ำแมคอินทอชเคลือบยางแบบด้าน และตกแต่งด้วยหนังงูเคลือบเมทัลลิก ที่เข้าคู่กับกางเกงลูกฟูกลายทางกว้างฟอกด้วยสีซีด และเสื้อแจ็กเกตที่ตกแต่งด้วยหนังกลับสีเงินช่วงเอว และเสื้อแจ็กเกตผ้ากำมะหยี่ประดับลายโมโนแกรม ที่ตกแต่งด้วยด้ายและเลื่อมตามรอยโมโนแกรม เป็นต้น.


    แหล่งที่มา : http://www.thaipost.net/x-cite/170611/40288
     
  3. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ...ภาระแห่งการปกป้อง ดูแล ความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คงไม่ใช่เป็นเพียงแค่ภาระความรับผิดชอบของบรรดาทหารหาญแต่เพียงเท่านั้น ขึ้นชื่อว่าเป็น คนไทย รายไหนก็เถอะ!!! ถ้าหากต้องการที่จะเห็นความสุข ความสงบเรียบร้อย ความมีสันติภาพ ระหว่างผู้ซึ่งเกิด เติบโตขึ้นมาในแผ่นดินเดียวกัน ภาระดังกล่าวย่อมถือเป็น หน้าที่ ไปด้วยกันทั้งสิ้น และถ้าหากไม่ต้องการ โยนภาระ เหล่านี้ ให้กลายเป็นเรื่องของ ทหาร หรือ กองทัพ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ละคน แต่ละราย ก็ล้วนแต่มี อำนาจ อยู่ภายในมือตัวเอง และสามารถนำเอามาใช้เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว หรือเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพา อาศัยอำนาจอื่นใด ไม่ว่าในแบบมองเห็น หรือมองไม่เห็นก็ตาม เพียงแค่กำแท่งประชาธิปไตยในมือตัวเอง ในแต่ละแท่ง แต่ละด้าม เอาไว้ด้วยความมีสติ มีเหตุมีผล ยิ่งมีปัญญาเสริมยิ่งดีใหญ่ อย่าเพียงแค่เขย่าๆ แท่งประชาธิปไตยไปตามอารมณ์ ความรู้สึก แบบไร้เหตุไร้ผล ไร้สติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไร้ความตระหนักถึงคุณค่าของคุณธรรม ศีลธรรม อันเป็นแก่นสาระสำคัญที่จะยึดโยงสังคมแต่ละสังคมเอาไว้ได้...
    --------------------------------------------------------------
    พูดง่ายๆ ก็คือว่า...ถ้าหาก ประชาชน ได้พยายาม ทำหน้าที่ ของตน ไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แสดงออกถึงคุณภาพ และคุณธรรมอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ว่าอำนาจไหนต่ออำนาจไหนก็เถอะ แทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงออกถึงอำนาจใดๆ อีกต่อไป ความสุข ความสงบเรียบร้อย ที่มันจะบังเกิดขึ้นมาจากคุณภาพ และความเข้มแข็งของประชาชนนี่เอง ไม่เพียงแต่จะทำให้ ความมั่นคงภายใน สามารถดำรง และดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น มันยังสามารถนำไปใช้ปกป้อง ปัดเป่า ความทรหวล ป่วนคลั่ง ซึ่งกำลังแผ่ซ่านไปทั่วทั้งโลก และสาดใส่เข้าสู่ประเทศต่างๆ อย่างทั่วถึงกันไปทั้งหมด...


    แหล่งที่มา : ประชาธิปไตยที่มีสติ | ไทยโพสต์
     
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ต่อไปเป็นคิวของธรรมะ ครับ


    คนเราอยากฟังธรรม แต่ฟังแต่ที่เราชอบ

    เพราะจะฟังแต่ที่ชอบ เลยไม่เพิ่มพูนความรู้ ธรรมะในระดับหลุดพ้นฟังยาก เพราะมันสวนกระแสคน ละกาม อยู่สงบไม่วุ่นวายใครจะชอบ มีแต่คนชอบสนุก ชอบมันส์ๆ แล้วจะพบนิพพานกันได้อย่างไร เพราะแค่นิพพานชิมลองนั้นในเบื้องต้นคือปฐมฌาณ คุณสมบัติของปฐมฌาณ สงัดจากกาม สงัดจากธรรมอันเป็นอกุศล เมื่อสงัดจากสองสิ่งนี้ จิตจะสงบจากตัณหา ที่ๆสงบระงับจากตัณหานั่นเองที่เป็นนิพพานแม้จะชั่วคราวก็ตาม
    ข้างนอกไม่เคยสงบหรอกโลกนี้มันเคลื่อนไหวตลอด (มันเป็นธรรมชาติ ) แต่ข้างในซิสงบได้แน่ๆ อาศัยการฝึก รู้ลมไว้ (ว่าลมก็ไม่ใช่ของเราเกิดขึ้นเพราะมีเหตุแห่งรูปนามพยายามดิ้นรนเหลือเกินที่จะรักษาสถานภาพคือชีวิตนี้ไว้ เขาเรียกสภาพทุกข์ แต่ไม่มีผู้ทุกข์ แล้ววันๆนี้ใครทุกข์ใครสุข ใครนั้นมีได้เพราะหลงผิดไปสร้างเราปลอมๆเปล่าๆปลี้ๆ สร้างเองทุกข์เองจะให้ว่ายังไง)​


     
  5. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ขอต่อคิวธรรมะอีกหนึ่งอะครับ วันหยุดอย่างนี้คงมีเรื่องให้วุ่นวายใจกันมากบ้างน้อยบ้าง อยากจะสงบจิตสงบใจก็ลองอ่านกันดู เชิญติดตามเลยครับ

    เหตุหลักที่ทำให้ใจไม่สงบ

    ใจไม่สงบมีเหตุหลักให้สังเกตุได้เอง เวลาภาวนาแล้วฟุ้งซ่านอย่างที่ชอบบ่นกัน
    1 ติดในกามคุณ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่จิตไปยึดติดไว้ แว้บเข้ามาเรื่อยๆได้มือถือใหม่มันก็วุ่นคิดแต่มือถือ ได้รถใหม่มันก็แว้บไปไม่หยุด ชอบฟังเพลงนั้นเพลงนี้ กินนั่นกินนี่มันมากันเพียบ บ้างลากไปเปิดตู้เย็นเลยกว่าจะรู้ตัวก็กินน้ำจบไปแล้ว
    2 ความทุกข์ อกุศลจิตจากการทำผิดศีล ที่ทำผิดไว้นี่มากันจัง รู้ลมก็ไม่ไหว ใจเย็นๆ มองให้เห็นความจริง ถอยออกมาก้าวหนึ่ง เห็นว่ามันมีเหตุเกิดก็เกิดเรื่องจบแล้ววิบากทางใจยังเกิดอยู่ ละอารมณ์เสียวางทุกข์มาอยู่กับอุเบกขา ยากหน่อยแต่ทำไปเป็นแบบฝึกหัดแลัวจะเกิดปัญญาว่าทำไปแล้วเป็นทุกข์ทีหลังจะย้อนกลับมาเป็นอินทรีย์สังวรณ์ศีล เป็นศีลที่เกิดจากปัญญา
    3 อกุศลจากการสั่งสมมาแต่เดิมที่จะผุดออกมาเป็นระยะๆ นี่เป็นอาสวะเครื่องหมักดอง ต้องละอกุศลเจริญกุศลเบียดเข้าไปจนมันจางลง ทำในใจไว้ซึ่งอริยสัจให้เห็นว่านี้ทุกข์ มีทุกข์เพราะมีเหตุ การภาวนาอย่างนี้คือมรรค แล้ววันหนึ่งจะเกิดนิโรธไปเรื่อยๆเป็นขณะจนถึงที่สุด

    ทางแก้ก็อยู่ในมรรคมีองค์๘อยู่แล้ว
    1 เนกขัมมะออกจากกาม เพื่อให้เห็นว่าเราติด เพื่อให้พรากจะเห็นโทษ สุดท้ายเห็นมันเกิดดับไม่มีตัวตนแล้วปล่อยวางในที่สุด มันแค่ชอบเสพใจที่วูบวาบแค่นั้น แม้จะวางยังไม่ถึงที่สุดแต่ก็เพียงพอให้เดินทางได้สะดวกแล้ว
    2 ถือศีลไว้ จนถึงทำไม่ใช่แค่ไม่ฆ่าหรือเบียดเบียน แต่เต็มไปด้วยการให้ตลอดเวลาไม่หวังสิ่งตอบแทน ติดกุศลไว้ มีความสุขกับกุศลไว้ ส่วนข้ออื่นก็พิจารณาเอาเอง
    3 ละอกุศลในใจให้ไวๆแล้วเจริญกุศลรู้ลมแทน

    ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอุเบกขาสุข จนเหลืออุเบกขา มีความสุขสงบโดยไม่ต้องอาศัยใครหรือปัจจัยใดๆ เงินเหลือให้คนอื่นไปทำประโยชน์ ไม่มีข้อไหนที่บอกให้หยุดทำงานเลย เป็นพระก็ทำหน้าที่ของพระ เป็นใครก็ทำหน้าที่ของใคร ส่วนธรรมะอยู่ตรงที่การกระทำแล้วไม่เกิดเป็นอกุศลกรรม ใจเป็นสุขแม้จะไปสร้างวิบากในส่วนสุคติภูมิก็เถอะ แต่เรามีปัญญากำกับเสมอว่าไม่ว่าสุขเองก็เกิดดับ ไม่ยึดถือสุดท้ายก็อยู่เหนือเหตุที่ทำไปเอง ผลก็ไม่เอามาเป็นของเราเป็นธรรมชาติอย่างนั้นเอง ไปเอาทำไมของเกิดดับ แล้วจะไปไหนได้ถ้าหมดเหตุเกิด​


     
  6. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ขอให้กระทู้ดำเนินการไปเรื่อยๆ นะคะ รออ่านอยู่ค่ะ
     
  7. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ขอบคุณคุณน้องจุ๊บที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับกระทู้นี้ครับ เกือบจะนึกว่าจากไปเมื่อคราเว็บล่มครั้งที่แล้ว ถ้าจะติดตามรอคุณทางสายธาตุก็คงต้องคอยให้การเลือกตั้งพ้นผ่านวันที่ 3 ก.ค.ไปแล้วนะครับ คุณทางสายธาตุเธอส่งสัญญาณอย่างนี้ทำให้ต้องระมัดระวังตัวกันอยู่พอสมควรเพื่อความไม่ประมาท จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุแก่ตนเองและอาจเป็นสาเหตุให้เว็บต้องล่มอีกก็เป็นได้ จะอย่างไรก็ตามช่วยกันออกไปใช้สิทธิตามที่มีกันอยู่คนละหนึ่งเสียงนะครับ อย่านอนหลับทับสิทธิครับ

    วาทะวันนี้จาก จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา...ไม่มีวันที่ฝูงชนจะปกครองประเทศ หรือบัญชาการกองทัพได้...

    ช่วงนี้เนื้อหาสาระจึงค่อนจะไปแนวธรรมะก็อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ พยายามจะไม่ให้หนักเกินกำลัง จวบพอดีกับมีหนังสือเรื่อง"ปัญญาต้องคู่กับกรุณา จึงจะพาชาติรอด" โดยพระธรรมโกษาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่มีเนื้อหาหลายเรื่องที่สมควรจะนำมาเผยแพร่กันต่อๆไป โปรดรอติดตามกันนะครับ
     
  8. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เรื่องปัญญาพาให้รอดชีวิต

    เมื่อปี 2549 องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาตินำวีรกรรมของเด็กหญิงคนหนึ่งออกมาเผยแพร่ เด็กหญิงคนนี้มาเที่ยวเมืองไทยในช่วงที่เกิดสึนามิ เมื่อปี 2547 เธอมีปัญญาทั้งสามขั้นตอนคือ มีทั้งรู้จำ รู้คิด และรู้ทำ จึงสามารถช่วยให้นักท่องเที่ยวจำนวนร้อยคนรอดชีวิต

    เด็กหญิงคนนี้เป็นชาวอังกฤษ มีชื่อว่า ทิลลี่ สมิธ (Tilly Smith) ขณะนั้นเธอมีอายุ 11 ปี ในวันที่เกิดสึนามิ ทิลลี่กับคุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวอายุ 7 ปี กำลังเดินลงจากโรงแรมที่หาดไม้ขาว จังหวดภูเก็ต ไปที่ชายหาด เธอบอกคุณแม่ว่า "คลื่นยักษ์สึนามิกำลังจะมา พวกเราต้องหนีขึ้นที่สูง"

    คุณแม่ถามทิลลี่ว่า "เธอรู้ได้อย่างไร"
    ทิลลี่ตอบว่า "ตอนนี้คลื่นทะเลแตกเป็นฟองเหมือนฟองเบียร์"
    คุณแม่ซักว่า "เธอไปรู้มาจากไหน"
    ทิลลี่ตอบว่า "หนูเรียนเรื่องสึนามิกับคุณครูที่โรงเรียนที่กรุงลอนดอน 15 วันก่อนมาเมืองไทย"

    คุณแม่ไม่เชื่อลูกสาว ทำหน้าเบ้ยักไหล่เดินจากไปทางชายหาด ลูกสาวก็บอกเสียงดังว่าถ้าคลื่นยักษ์มา มันจะท่วมต้นไม้พวกเราจะตายกันหมด น้องสาวทิลลี่พอได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้วิ่งกลับขึ้นไปทางโรงแรมทันที คุณพ่อจึงวิ่งตามน้องสาว ทิลลี่วิ่งตามคุณพ่อ คุณแม่ก็วิ่งตามทิลลี่มาเป็นขบวน พนักงานโรงแรมถามว่าวิ่งมาทำไม คุณพ่อบอกว่าคลื่นยักษ์กำลังจะมาเพราะคลื่นทะเลแตกเป็นฟอง

    พนักงานโรงแรมเห็นท่าไม่ดี จึงเป่านกหวีดเรียกนักท่องเที่ยวให้รีบกลับไปที่โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ในที่สูง เมื่อคนเหล่านั้นขึ้นไปถึงโรงแรม คลื่นยักษ์มาถึงพอดี นักท่องเที่ยวจำนวนร้อยคนรอดตายเพราะเด็กหญิงทิลลี่ เมื่อพวกเขากลับถึงยุโรปต่างก็พากันสรรเสริญวีรกรรมของทิลลี่ สื่อมวลชนขยายเรื่องราวของเธอไปทั่ว นิตยสารฝรั่งเศสฉบับหนึ่งให้รางวัล Child of the Year แก่ทิลลี่ สมาคมดาราศาสตร์ตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยที่ค้นพบใหม่ในตอนนั้นตามชื่อของทิลลี่

    ............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2011
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เรื่องของหนูน้อย ทิลลี่ สมิธ ยังไม่จบ โปรดอดใจรอตอนต่อไปสักนิดนะครับ
     
  10. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ความเป็น BMW ไม่ได้อยู่ที่ล้อหรือไฟหน้า
    วันที่ผมไปบรรยายที่ BMW และ DUCATI นั้น ได้มีคำถามว่านั่งสมาธิไม่ค่อยสงบนั่งได้ไม่ค่อยนานควรทำอย่างไร
    ผมหยิบแคตตาล็อค BMW ขึ้นมา บนปกเป็น BMW series 7 คันใหญ่โตสง่างาม ผมเปิดไปหน้าท้ายๆ เป็นเรื่องของไฟหน้าซีนอนและล้อขนาด 18" ผมอ่านข้อความ 2-3บรรทัดตรงนั้น แล้วบอกว่านี่คือ BMW หรือ? อะไรคือ BMW
    นั่นคือส่วนหนึ่งในความเป็น BMW ที่สนับสนุนให้เป็น BMW ถ้าเราพยายามวุ่นอยู่กับไฟและล้อเราอาจหลงหลุดจากความเป็น BMW แต่หากเราเข้าใจ Concept ของ BMW เราจะสร้างไฟที่เหมาะสมใส่ล้อที่เหมาะสม รถคันอื่นที่ล้อใหญ่กว่า ไฟดีกว่าไม่ได้แปลว่าจะดีกว่า แต่เมื่อความลงตัวสมดุลย์ในทุกๆด้านจึงจะประกอบกันเป็นรถที่เป็นเลิศ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เป็นองค์ประกอบให้เกิด สัมมาทิฏฐิ เมื่อเกิดสัมมาทิฏฐิจะเกิดความเข้าใจต่อการจัดสมดุลย์ หรือเพียรที่จะทำสิ่งต่างๆ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิจะเกิดขึ้นด้วยปัญญา ไม่ทำเพราะคนอื่นทำ ไม่ทุกข์เพราะเราไม่สงบคนอื่นสงบ ไม่ทุกข์เพราะคนอื่นทำได้มากกว่าเรา อย่าให้ Spec กำหนดรถ จงให้รถกำหนด Spec
    จะ Super car หรือ Eco car ล้วนสุดยอดด้วยกันทั้งสิ้น แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ดีกว่าจักรยานหรือเดินด้วยเท้าเปล่า

    แหล่งที่มา: ยินดีต้อนรับเข้าสู่ เว็บไซด์สวนยินดีธรรม

     
  11. จารุวณณร

    จารุวณณร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +1,207
    ดิฉัน เคารพเทอดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่สุดค่ะ
     
  12. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466

    อนุโมทนาครับ

    ด้วยความคารวะและชื่นชม กรุณากลับมาเยี่ยมเราอีกนะครับ
     
  13. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466

    คำกล่าวของคุณ จารุวณณร ข้างต้นนี้ ทำให้รำลึกถึงคำปฏิญานตนของเหล่าทหารรักษาพระองค์ ต่อหน้าพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ของทุกปีที่ลานพระราชวังดุสิตหรือที่เราเรียกกันว่าลานพระบรมรูปทรงม้า ขออนุญาตนำมาแสดงนะครับ

    คำปฏิญาณตนของ ทหารรักษาพระองค์ แด่พระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว ว่า
    " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า..(ทหารทุกนายกล่าวยศ นามของตนเอง)ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อ ใต้ ฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า
    ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า
    ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่
    ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชู และรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์
    ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยต่อใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาท ทุกประการ"


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2011
  14. Florence125

    Florence125 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +6
    อนุโมทนา กับคุณจารุวณณรด้วยนะคะ
     
  15. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เรื่องหนูน้อย ทิลลี่ สมิท ตอนต่อไปครับ

    ....ในระหว่างงานพิธีรับรางวัลจากนิตยสารฝรั่งเศส ผู้มอบรางวัลได้ประกาศยกย่องเธอเป็นอย่างมาก เมื่อเธอขึ้นไปรับรางวัลเธอได้กล่าวขอบคุณเพียงสั้นๆ แล้วออกตัวว่า "ที่ท่านชมว่าหนูเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ก็ดีหรอก แต่อย่าชมหนูคนเดียว ต้องชมคุณครูของหนูว่าสอนเก่งด้วย"

    ผู้สื่อข่าวถามทิลลี่ว่า ทำไมเธอจึงชมคุณครู ทิลลี่ตอบว่า "คุณครูสอนดีจริงๆ ถ้าสอนไม่ดี ป่านนี้พวกเราตายหมดแล้ว โดยเฉพาะแม่ของหนูตายก่อนเลย"

    ผู้สื่อข่าวยังถามต่อไปอีกว่า "อยากจะกลับไปเมืองไทยอีกไหม"
    ทิลลี่ตอบว่า "ยังอยากกลับไปอีก เพราะครั้งที่แล้วไม่ทันได้เที่ยวเมืองไทยคลื่นยักษ์ก็มาซะก่อน"

    ยูเนสโกส่งคนไปสัมภาษณ์คุณครูของทิลลี่ ว่าสอนอย่างไรจึงทำให้ทิลลี่ช่วยชีวิตคนอื่นได้ คุณแอนดรู เคอนี่ย์ (Andrew Kearney) คุณครูของทิลลี่ให้สัมภาษณ์ว่า เขาสอนประจำวิชาภูมิศาสตร์ เวลาสอนเรื่องสึนามิ เขาดึงเอาภาพจากเว็บไซต์ที่เป็นเหตุการณ์จริงที่ฮาวายมาให้เด็กได้ดูในชั้นเรียนแล้วอธิบายให้เห็นถึงอันตรายของมัน พร้อมกับเน้นย้ำว่าเวลาเจอสึนามิให้วิ่งหนีขึ้นที่สูงทันที นั่นคือคุณครูไม่ได้สอนแต่ทฤษฎี เขายังสอนภาคปฏิบัติอีกด้วย

    วิธีสอนของคุณครูแอนดรูให้ปัญญาครบทั้งสามขั้นตอนดังนี้

    1 สอนให้รู้ว่า สึนามิคืออะไร จัดเป็นสุตมยปัญญา

    2 สอนให้ติดตามจนตระหนักรู้ถึงเภทภัยอันตรายของสึนามิ จัดเป็นจินตามย

    ปัญญา

    3 สอนวิธีปฏิบัติตนเมื่อต้องเผชิญกับสึนามิ นั่นคือให้วิ่งขึ้นที่สูงอย่างเดียว

    จัดเป็น ภาวนามยปัญญา

    การศึกษาต้องสามารถพัฒนาปัญญาทั้งที่เป็นสุตะ จินตา ภาวนา แก่ผู้เรียน นั่นคือต้องสอนให้รอบรู้ลึกเชื่อมโยงภาคทฤษฎีเข้ากับปฏิบัติให้ได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษาที่เน้นการพัฒนาปัญญาเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ การศึกษาที่พึงประสงค์ต้องพัฒนาปัญญาควบคู่กับกรุณา
     
  16. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ทฤษฏีกระสุนปืน – วิวัฒนาการของโฆษณาชวนเชื่อในยุคสารสนเทศ

    ท่ามกลางความขัดแย้งในสถานการณ์ปัจจุบัน ผมคิดว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะมีความรู้สึกว่าข่าวสารประเภทต่าง ๆ ได้แพร่กระจายในสังคมอย่างมากมายหลากหลาย บางครั้งก็จะสร้างความสับสน บางครั้งก็เป็นการปลุกระดมความคิดให้คล้อยตาม หรือจะเป็นการปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายที่เป็นปรปักษ์ ด้วยการไหลเวียนของสารสนเทศต่าง ๆ ที่ถูกปล่อยเข้าสู่สังคมโดยผู้ส่งสารที่หวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นผลทางการเมือง ผลทางความมั่นคง ผลทางเศรษฐกิจ และ ผลทางสังคมเป็นต้น

    การใช้การสื่อสารสร้างอิทธิพลต่อความคิดของผู้อื่นนั้นเราจะเรียกว่า “การโฆษณาชวนเชื่อ” (Propaganda) ซึ่งเป็นวิธีการที่เก่าแก่ใช้กันมานาน โดยมีวัตถุประสงค์เริ่มแรกที่ใช้ในทางศาสนา เพื่อสร้างความเชื่อร่วมกันในพระเจ้าองค์เดียวกัน จากนั้นเริ่มมีการนำมาใช้ในการสร้างความรู้สึกซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินเกิด จวบจนกระทั่งใช้ในผลประโยชน์ทางการเมืองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ต้องโน้มน้าวประชาชนพลเรือนนอกเหนือจากทหารให้เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการเข้าทำสงครามของประเทศตน

    .........

    ในการโฆษณาชวนเชื่อนั้นนั้นจะมีหลักการที่สำคัญคือ ข่าวสารที่แพร่ออกไปนั้นอย่าให้ผู้รับข่าวเกิดความรู้สึกว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความกลมกลืนและสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายคือมุ่งกระทำต่อบุคคลสำคัญ และพยายามอย่าให้ถูกจับได้ว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ เพราะจะไม่สามารถทำการโฆษณาชวนเชื่อต่อไปได้.......

    ....ในปัจจุบันถึงแม้นวัตกรรมต่าง ๆ ได้ส่งผลให้สภาวะแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และหลายครั้งจะขาดความต่อเนื่องรวมถึงมีความซับซ้อนมากขึ้น การโฆษณาชวนเชื่อยังคงเป็นกระบวนการที่ได้ถูกนำมาใช้ในการโน้มน้าวความคิดของเป้าหมายให้เขาเชื่อในสิ่งผู้โฆษณาต้องการ และได้มีการพัฒนาแนวความของการโฆษณาชวนเชื่อไปใช้ในแนวคิดของศาสตร์ทางด้านการสื่อสารมวลชน ที่เรียกว่า ทฤษฏีกระสุนปืน (Magic Bullet Theory) หรือ ทฤษฏีเข็มฉีดยา (Hypodermic Needle Theory) โดยแนวความคิดของทฤษฏีกระสุนปืนนั้น อยู่บนพื้นฐานที่ว่า การปล่อยหรือฉีดเนื้อหาของข่าวสารแบบใดแบบหนึ่ง เข้าไปยังผู้รับสารทุกกลุ่มที่เปิดรับสารด้วยวิธีเดียวกันและสามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์โดยตรงและฉับพลัน เช่นเดียวกับลักษณะของเข็มฉีดยา หรือ การเปรียบเทียบว่าข่าวสารคือกระสุนปืน ที่ถูกยิงไปทะลุทะลวงเข้าสู่ความคิดและจิตใจของผู้รับสาร
    การเกิดขึ้นของทฤษฏีกระสุนปืนนั้นจะได้รับอิทธิพลมาโดยตรงจากการโฆษณาชวนเชื่อ ที่นิยมใช้ในทางการเมืองโดยฝ่ายรัฐ และฝ่ายตรงข้าม หรือใช้ในทางทหารโดยมีเป้าหมายให้ฝ่ายเราเป็นฝ่ายได้เปรียบ ส่วนทฤษฏีกระสุนปืนนั้น จะถูกนำมาใช้โดยการสื่อสารมวลชน ดังจะพบได้ในปัจจุบันว่า พลังอำนาจที่สามารถชี้นำหรือโน้มน้าวสังคม ได้นั้นจะมีพลังอำนาจจากสองกลุ่มคือ นักวิชาการและสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีศาสตร์ทางด้าน “การสื่อสารการตลาดแบบประสมประสาน” (Integrated Market Communication: IMC) ที่ใช้สื่อทุกประเภทในการรณรงค์ต่าง ๆ และมีผลต่อมวลชนอย่างชัดเจน

    ดังจะเห็นได้จากในปัจจุบันที่มีการนำ IMC มาใช้ในการดำเนินการทุกอย่าง เช่น ภาคเอกชนที่ใช้ IMC ในการสร้างแบรนด์ (Brand) หรือ ตอกย้ำในแบรนด์ เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในสินค้า นอกเหนือจากภาคเอกชนแล้ว ในภาครัฐก็มีการนำ IMC มาใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การภาพลักษณ์ของการบริการที่ดีขึ้นของหน่วยงานราชการ หรือ การนำ IMC มาใช้ในทางการเมือง อย่างเช่น การสร้างภาพลักษณ์ให้เกิดในลักษณะประชานิยมที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน หรือ การนำ IMC มาใช้หน่วยงานอิสระต่าง ๆ เช่น การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดย IMC จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ส่งผ่านข่าวสารเข้าสู่มวลชนที่มีประสิทธิภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างรวดเร็ว

    สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ถ้าเราพยายามที่จะทำความเข้าใจแล้ว เราจะพบว่ามีความพยายามที่จะโน้มน้าวให้ประชาชน หันมาเชื่อข่าวสารตามที่ฝ่ายตนเองได้ปล่อยเข้าสู่สังคม โดยต่างฝ่ายต่างใช้ แนวความคิดของ IMC เป็นเครื่องมือในการส่งมอบข่าวสารเข้าสู่สังคม เราจะพบว่าต่างฝ่าย ต่างพยายามใช้สื่อทุกประเภทเพื่อให้สารที่ตนเองส่งไปนั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตนเองต้องการ เพราะฉะนั้นถ้าเรามองปัญหาอย่างเข้าใจแล้ว ผมคิดว่า การวิจารณญาณ ประกอบกับ การเลือกบริโภคข่าวสารแล้วจะช่วยให้เราไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กระบวนการคัดง้างทางอำนาจหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในลักษณะทางโครงสร้างนั้นจะต้องมีการดำเนินการที่เหมาะ เพราะถ้าเลือกวิธีดำเนินการที่ไม่เหมาะสมผลเสียย่อมตกอยู่กับส่วนรวมและประเทศชาติ การแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากนโยบายสาธารณะนั้น คงต้องเลือกแนวทางที่สันติน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด การแก้ปัญหานั้นหลายครั้งหลายคราจะต้องแลกด้วยเวลา การหักด้ามพร้าด้วยเข้าอาจจะไม่ส่งผลที่ดี อยากวิงวอนให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหาหัน อย่ายึดมั่นถือมั่นกันนัก อำนาจต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นหัวโขนวันหนึ่งเราต่างก็ต้องถอดมันออก ขึ้นอยู่กับว่าวันที่เราสวมหัวโขนอยู่นั้นเราทำอะไรไว้อย่างไร เวลาถอดมันออกจะมีคนแซ่ซ้องสรรเสริญ หรือ สาปแช่ง ทุก ๆ ท่านต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ทำอะไรคงรู้อยู่แก่ใจ อย่างไรไม่ว่าปีนี้เป็นปีมงคลท่านทั้งหลายนึกถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว ฯ ของเราปวงชนชาวไทยกันหรือเปล่า ถ้านึกถึง พ่อหลวงของเราอย่างจริง ๆ แล้วทุกคนจะทราบดีว่าต้องทำอย่างไร อย่าจงรักภักดีกันแต่ปากสักแต่พ่นลมเท่านั้น......


    แหล่งที่มา : http://tortaharn.net/contents/index.php?option=com_content&task=view&id=80&Itemid=75
     
  17. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ประชาธิปไตย – เรารู้จักกันแค่ไหน ?

    ช่วงระยะเวลานี้ เรื่องที่สำคัญและฮิตติดลมก็คงเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง ส.ส.ตามระบอบประชาธิปไตย เราจึงน่าจะมาทบทวนหรือรีวิวในเรื่องประชาธิปไตยกันสักหน่อยน่าจะดี

    นอกเหนือจากรูปแบบของการใช้อำนาจโดยตรงและผ่านผู้แทนของประชาชนแล้ว สิ่งที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยได้แก่ปรัชญาของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมองไปที่ธรรมชาติของมนุษย์ กฎแห่งธรรมชาติ และ สภาวธรรมชาติ โดยปรัชญารากฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยนั้นสามารถรวบรวมได้ดังนี้ (ศ.ดร. สมบัติ ธำรงธัญวงศ์, การเมือง: แนวความคิดและการพัฒนา, พิมพ์ครั้งที่ 15, สำนักพิมพ์ เสมาธรรม, กรุงเทพฯ: หน้า 249 – 258)

    * ธรรมชาติของมนุษย์ (Human Nature): มนุษย์เป็นผู้ที่มีเหตุผล สามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจต่อโลกภายนอกได้ มีความสามารถในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีสำหรับตน ถึงแม้ดุลยพินิจของมนุษย์จะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะกระทำแต่สิ่งที่ดีสำหรับตนมากกว่าผู้ปกครองตัดสินใจให้ นอกจากนี้มนุษย์ยังมีการใช้มโนธรรมส่วนบุคคลประกอบการตัดสินใจร่วมกับเหตุผล แต่มโนธรรมที่แตกต่างกันทำให้ประชาคมทางการเมืองต้องอาศัยการวินิจฉัยร่วมกันของคนส่วนใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรากฐานแนวคิดของเสียงส่วนใหญ่ (Majority Rule) ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
    ...........

    * อำนาจอธิปไตยของประชาชน (Popular Sovereignty): เมื่อประชาชนมีเสรีภาพและความเท่าเทียมกันในสังคมแล้ว ในระบอบประชาธิปไตยอำนาจจะตกเป็นของประชาชน โดยประชาชนได้ตกลงร่วมกันจะมอบอำนาจให้กับผู้ปกครองหรือผู้แทน ซึ่งเมื่อได้มอบอำนาจให้กับผู้ปกครองหรือผู้แทนแล้ว การมีหลักประกันว่าทำอย่างไรจะให้ผู้ปกครองหรือผู้แทนของตนไม่กระทำการใด ๆ ก็ตามที่อาจจะละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชน
    ประชาชนจึงมีสิทธิที่จะควบคุมให้ผู้ปกครองหรือผู้แทนทำการปกครองด้วยความเป็นธรรมและเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งถ้าผู้ปกครองหรือผู้แทนละเมิด ประชาชนก็มีสิทธิที่ถอดถอนผู้ปกครองหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจไป ดังนั้นระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยจึงเป็นของประชาชน
    .............

    ไม่เพียงแต่ปรัชญารากฐานสำคัญที่ก่อให้เกิดระบอบประชาธิปไตยแล้ว หลักการของประชาธิปไตยก็มีความสำคัญไม่แก้กัน โดยหลักการของประชาธิปไตยนั้น ศ.ดร. สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ได้แบ่งออกเป็น 5 ประการ (ibid, หน้า 258 – 273) คือ
    1. หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน (Popular Sovereignty): ในหลักการข้อนี้จะเป็นเรื่องของการให้ความสำคัญกับอำนาจอธิปไตยที่จะต้องเป็นของประชาชน เพื่อให้การปกครองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยประชาชนมีอำนาจในการเลือกผู้แทนที่จะเข้าไปปกครอง และรวมไปถึงอำนาจในการถอดถอนผู้แทนที่ตนเองเลือกเข้าอีกด้วย
    ..............
    5. หลักเสียงข้างมาก (Majority Rules): ปัจจุบันประชากรของรัฐแต่ละรัฐนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งคงเป็นการยากที่จะให้ทุกคนในรัฐมีความคิดเห็นเหมือนกัน ดังนั้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยหลักการเสียงข้างมาก เพราะเสียงเอกฉันท์คงจะเป็นไปได้ยาก ส่วนการใช้เสียงข้างมากแค่ไหนเป็นเกณฑ์นั้นขึ้นอยู่กับความสำคัญของปัญหา ถ้าสำคัญมากคงต้องใช้เสียงข้างมากที่มากกว่าครึ่งหนึ่ง อย่างก็ดีหลักการเสียงข้างมากนั้นก็ไม่อาจจะละเลยสิทธิของเสียงข้างน้อย (Minority Rights)ได้ ทั้งนี้จะต้องมีหลักประกันที่ให้ความคุ้มครองกับเสียงข้างน้อย เพื่อป้องให้ไม่ให้เสียงส่วนใหญ่กดขี่ข่มเหงเสียงส่วนน้อย

    ....หลาย ๆ ท่านอาจจะเห็นภาพของแนวคิดที่เป็นรากฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ล้วนแต่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกาภิวัตน์ทำให้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้นมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละสิ่งแวดล้อมของแต่ละรัฐหรือประเทศ แต่โดยกรอบแนวคิดแล้วระบอบประชาธิปไตยในทุก ๆ รัฐ ยังคงต้องมีบรรทัดฐานของหลักการทั้ง 5 ข้อ ตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น จะขาดข้อใดข้อหนึ่งไปไม่ได้ .....


    คัดลอกบางส่วนจาก : Tortaharn.net - ��ЪҸԻ��� � �������ѡ�ѹ����˹ ?
     
  18. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    วาทะวันนี้ จาก ชาร์ลส์ โยสต์ ...ประชาธิปไตยมิใช่เป็นเรื่องของอารมณ์ หากเป็นเรื่องของการมองการณ์ไกล ระบบอะไรก็ตามที่ไม่คำนึงถึงการณ์ไกล ก็จะเผาไหม้ตนเองมอดไปในระยะเวลาอันใกล้...

    ขอขอบคุณ www.thaipost.net
     
  19. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถพระราชทานดอกไม้ หมอมุก


    “พระราชินี” พระราชทานดอกไม้พร้อมกระเช้าเครื่องใช้แก่หมอมุก “พญ.พรรณกร” เล่านำผ้าห่มพระราชทานห่มให้ ลูกถึงกับน้ำตาไหล .....................
    เมื่อวันพุธ เวลา 15.45 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัฒน์ ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทาน พร้อมกระเช้าของเครื่องใช้พระราชทาน มอบให้แก่ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. โดยมี พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา เป็นผู้รับมอบแทน จากนั้นท่านผู้หญิงฉัตรแก้วได้เข้าเยี่ยมหมอมุกในห้อง ไอซียู ก่อนพูดคุยเพื่อสอบถามอาการประมาณ 20 นาทีจึงเดินทางกลับ
    พญ.พรรณกรเผยว่า ท่านผู้หญิงฉัตรแก้วได้สอบถามอาการ รวมทั้งเรื่องคดีความและเรื่องอื่นๆ ซึ่งหลังได้รับมอบของใช้พระราชทานแล้ว ก็ได้นำมามอบให้กับลูก พร้อมบอกว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานของมอบให้นะ และได้นำผ้าห่มพระราชทานมาห่มให้ที่ตัวลูก ซึ่งทำให้ลูกน้ำตาไหล ส่วนอาการหมอมุกนั้นขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว โดยมักอ่านนิทานให้ลูกฟัง และพูดคุยประโยคสั้นๆ หรือบางครั้งก็เปิดเพลงพระราชนิพนธ์ให้ฟังเป็นประจำ....


    หลายๆท่านคงสนใจและติดตามข่าวของหมอมุก ก็ขอถือโอกาสร่วมนำเสนอข่าวนี้และขอเชิญชวนร่วมเป็นกำลังใจให้กับหมอมุกกันนะครับ สำหรับรายละเอียดและความคืบหน้าของข่าวทุกท่านคงได้ติดตามจากแหล่งข่าวอื่นๆกันอยู่แล้ว ต้องขออนุญาตไม่นำมากล่าวซ้ำครับ


    ขอขอบคุณ www.thaipost.net
     
  20. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เมื่อได้พูดถึงหมอมุก ก็ต้องขออุญาตพาดพิงถึงคุณพ่อของคุณหมอด้วยความระลึกถึงในบุญคุณและความเสียสละของท่าน ท่านคือ พันโทประสิทธิ์ อิ่มวิทยา ครับ ส่วนเรื่องราวและรายละเอียดของท่าน ผมต้องขออนุญาตคัดลอกมาจากเว็บไซต์ PANTIP ครับ ขอเชิญติดตาม

    <TABLE border=0 width="100%" height=36><TBODY><TR><TD vAlign=top width="80%"><B><BIG><BIG>หมอมุก ลูกสาวของนักรบที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติครับ ขอให้จับคนผิดมาลงโทษเร็วๆครับ </BIG></BIG></B></TD><TD vAlign=top width="20%" noWrap align=right>[​IMG][​IMG] <!--InformVote=0-->
    <SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[0], 0);</SCRIPT>[​IMG][​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!--VoteBody--><!--MsgIDBody=0-->ได้ติดตามข่าวของคุณหมออย่างต่อเนื่อง รู้สึกว่าสังคมไทยเลยร้ายลงทุกทีครับ เนื่องจากคุณหมอเป็นบุคคลที่ได้ทำประโยชน์ให้กลับประเทศชาติมากครับ
    จริงๆแล้วไม่ใช่เพียงแต่คุณหมอครับ ทั้งคุณแม่ที่เป็นอาจารย์หมอ รวมถึงคุณพ่อของท่านซึ่งเป็นนายทหารที่สละชีวิตเพื่อแผ่นดิน

    ซึ่งในยุคที่ ผกค. กำลังแผ่อิทธิพลในบริเวณพื้นที่ภาคอีสาน และในขณะเดียวกันก็มีนายทหารที่ได้ทำการออกปราบปรามอย่างหนัก
    ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ พ.ต.ประสิทธิ์ อิ่มวิทยา ซึ่งก็คือคุณพ่อของหมอมุกครับ

    วันนี้ผมได้เจอบทความที่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวขที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ประสิทธิ์ โดยข้อมูลนั้นเคยได้เขียนลงใน พันทิป เมื่อปี 52 โดยคุณ "Gunz_za" โดยใช้ชื่อว่า "นักรบทีมชาติ"
    จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ให้ทุกคนได้รับทราบครับ ขออนุญาตนำเนื้อหามาให้เพื่อนๆได้ดูและส่งกำลังใจไปให้คุณหมอครับ

    เครดิต โดยคุณ Gunz_za ครับ
    PANTIP.COM : W7643473 # �ҹ���¹�س��� �͹ �ѡú����ҵ� # [����ͧ����] <!--MsgFile=0-->
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=bottom width="10%">จากคุณ</TD><TD>: <!--MsgFrom=0-->reggae [​IMG] [​IMG] </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom width="10%">เขียนเมื่อ</TD><TD vAlign=bottom>: <!--MsgTime=0-->20 มิ.ย. 54 18:16:30 <!--MsgIP=0-->[​IMG] </TD></TR><TR><TD id=xscore0 vAlign=top>ถูกใจ</TD><TD id=score0>: [FONT=Tahoma,Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]UCF2007, aye_keng[/FONT]


    แหล่งที่มา : PANTIP.COM : A10711492 ����ء �١��Ǣͧ�ѡú����ӻ���ª������Ѻ�����ȪҵԤ�Ѻ ������Ѻ���Դ��ŧ����������Ѻ [��з���͡����ͧ]






    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...