ลูกอมผงพรายกุมาร/ประคำ/ตะกรุด หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ 3 แบบ 3 ราคา/หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 20 เมษายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    อธิษฐานจิตในพิธีเปิดโลกพร้อมกับเหรียญเปิดโลก


    [​IMG]

    เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง เนื้อตะกั่ว หายากมาครับสร้างน้อยมากครับ

    จัดสร้างโดย คณะกรรมการวัดพนัญเชิง วาระงานประจำปี ๒๕๓๒ ได้นำมาขอเมตตา หลวงปู่ดู่ อธิษฐานจิต ที่พิเศษคือหลวงปู่ดู่อธิษฐานจิต ให้ สองครั้งโดย อธิษฐานจิต ตอนทำวัตรเย็น ในกุฎิหนึ่งครั้งและ อธิษฐานจิต ในพิธีเปิดโลก พร้อมกับเหรียญ ล.ป.ทวด เปิดโลก (ตอนค่ำ) อีกครั้ง โดยจัดสร้างเป็นเหรียญทองคำ เงิน ตะกั่ว อลูมิเนียม และ ทองแดง ไม่ระบุจำนวนสร้าง ปัจจุบันวัตถุมงคลที่ผ่านการปลุกเสกในพิธีเปิดโลกค่านิยมสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เหรียญที่ลงในชมรมนี้เป็นเหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง เนื้อตะกั่ว ค่านิยมยังไม่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเหรียญเปิดโลก จำนวนการสร้างน้อย ไม่เกิน 200 เหรียญ เป็นเหรียญพระพุทธคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปลุกเสก ๒ วาระน่าบูชามากครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    รับประกันความแท้จนเหรียญละลายกันไปเลยครับ 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2011
  2. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ปรกหลวงปู่ดู่ ปี 31 ตอกโค๊ด (นิยม)

    [​IMG]


    รับประกันความแท้จนเหรียญละลายกันไปเลยครับ 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2011
  3. ebankky

    ebankky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +62
    ขอทราบราคาทางpmครับพี่
     
  4. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852

    ขอบพระคุณมากครับที่ให้ความสนใจ
     
  5. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    หลวงปู่ดู่เปิดโลก เนื้อผงพิธีเปิดโลก (องค์ที่ 3 )

    ผงเปิดโลกจัดสร้างจำนวนขัดเจนที่ 5000 องค์ หายากมากหนึ่งเดียวในเว็ป

    พระผงเปิดโลก พิมพ์นี้จะไม่ค่อยได้เห็นลงประมูลกันครับ เพราะท่านที่มีเก็บกันไม่ยอมออกมา ได้พบกันแต่เหรียญเปิดโลกราคาก็ไปถึง เกือบ 40000 แล้วครับ

    รับประกันความแท้ ชั้น๑ ตลอดกาลทุกกรณีไม่มีเงื่อนไข


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    สนใจสอบถามได้ครับ มาแรงสุดๆครับ

    คณะของคุณวรวิทย์ ด่านชัยวิจิตร มีศรัทธาสร้างรูปของหลวงปู่ แต่ท่านให้สร้างเป็นรูปของหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดแทน
    ในวันพิธีเสกวัตถุมงคล หลวงปู่ทวด ฝนตกลงมาอย่างหนัก ผู้เขียนรู้สึกประหลาดใจ เพราะเมื่อไปถึงวัด ผู้คนวันนั้นมีมากเกินกว่าที่คิดไว้ ของที่นำมาปลุกเสก ทั้งจากผู้สร้างและผู้นำมาเข้าร่วมพิธี สูงจนท่วมตัวหลวงปู่ ทุกคนที่มาในพิธีอาจจะคิดไม่ถึงก็ได้ว่า นี่เป็นวาระสุดท้ายที่หลวงปู่จะโปรดพวกลูกศิษย์ของท่าน ซึ่งหลวงปู่ได้เป็นผู้กำหนดวันพิธีไว้ล่วงหน้าคือ วันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๒
    วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วย
    ๑.เหรียญทองคำ ๒๔๐ เหรียญ
    ๒.เหรียญเงิน ๑,๐๓๖ เหรียญ
    ๓.เหรียญทองแดง ๑๐,๕๐๐ เหรียญ
    ๔.พระผง ๕,๐๐๐ องค์
    (ในจำนวนนี้มีพระผงที่ฝังพระธาตุเอาไว้ด้วย จำนวน ๓๖๐ องค์)
    ๕.ตะกั่วผสมพลวง ๑,๐๐๐ เหรียญ
    ๖.โปสเตอร์รูปหลวงปู่ดู่ ๑๐,๐๐๐ แผ่น
    ๗.ลูกแก้วสารพัดนึก ๕,๐๐๐ ลูก
    นอกจากนี้ยังมี
    ล็อกเกต รูปไข่และรูปสีเหลี่ยม รูปคู่หลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวดเดี่ยว หลวงปู่ดู่เดี่ยว มีรูปอมยิ้มและธรรมดา ด้านหลังบรรจุผงมหาจักรพรรดิ์และเกศาของหลวงปู่ดู่ ที่สร้างโดยร้านทองแม่ทองใบเพื่อแจกลูกค้าของร้านประมาณ1000 อัน
    เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง ปี 2532 มีเนื้อ ทองคำ เงิน ตะกั่ว และทองแดง จำนวนไม่ระบุ ปลุกเศกที่วัดพนัญเชิงก่อนที่จะนำมามาปลุกเศกพิธีเปิดโลกอีกที
    สำหรับเหรียญทองคำ เงิน และทองแดง ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญหลวงพ่อหวล ภูริทัตโต วัดพุทไธศวรรย์ ในวาระอายุครบ ๕ รอบ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๒....
    ในพิธีพุทธาภิเษกนี้ นอกจากหลวงพ่อหวล เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราชแล้ว ยังได้กราบอาราธนาพระผู้ทรงวิทยาคุณองค์อื่นๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ หลวงพ่อทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา และอาจารย์แม้น วัดหน้าต่างนอก นอกจากนี้ก็ยังมีศิษย์ของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ พระอาจารย์สุทิน วัดสะแก ศิษย์ของหลวงปู่ดู่ และหลวงพ่อมหาวีระ วัดท่าซุง ฯลฯ
    วัตถุมงคลต่างๆ ที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ คณะของคุณวรวิทย์ได้แจกจ่ายให้กับศิษย์ที่ปฏิบัติธรรมโดยไม่ต้องเสียเงินใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นเหรียญชนิดเงินและทอง ซึ่งคิดเท่ากับต้นทุนตามที่มีผู้สั่งจอง
    ปัจจุบันวัตถุมงคลดังกล่าว ยังมีเหลืออยู่บ้างในจำนวนไม่มากนัก ซึ่งต้องแล้วแต่กาลเวลา เพราะต้องดูโอกาสที่ควรจะเปิด ท่านที่อยากได้ก็จงอธิษฐาน ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา นึกถึงหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ถ้าวาสนาของท่านดี คงมีโอกาสได้รับวัตถุมงคลรุ่นนี้ ที่เรียกกันว่า "รุ่นเปิดสามโลก" หรือที่เซียนพระเรียกว่า "รุ่นดัง" นั่นเอง
    มีเพื่อนของลูกศิษย์ผู้เขียนเคยนำหนังสือ พระผู้จุดประทีปในดวงใจ ซึ่งพิมพ์ครั้งพระราชทานเพลิงศพของพ่อผู้เขียน ไปถวายเพื่อนของเขาซึ่งบวชเป็นพระภิกษุ เมื่อเขาเห็นหนังสือ เขาได้บอกว่า "เพิ่งจะรู้ว่าหลวงพ่อดู่ที่หลวงพ่อเกษมกล่าวถึงคือองค์นี้เอง" จึงได้เกิดการซักถามกันขึ้น พระจึงเล่าให้ฟังว่า เคยไปนมัสการหลวงพ่อเกษม กับโยมมารดาของท่าน ตั้งแต่ยังไม่ได้บวช มารดาได้พาไปนมัสการหลวงพ่อเกษม เพื่อจะขอบารมีให้ลูกชายบวช หลวงพ่อเกษมท่านนั่งหลับตานิ่งอยู่ ได้เอ่ยถามมารดาของท่านว่า "รู้จักหลวงพ่อดู่ วัดสะแกไหม" ซึ่งมารดาเรียนตอบท่านว่า ไม่เคยรู้จัก หลวงพ่อเกษมท่านจึงพูดต่ออีกว่า "เคยได้ยิน เหรียญเปิดโลกไหม" เธอก็ตอบอีกว่า "ไม่เคยได้ยิน" หลวงพ่อเกษมจึงพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า "ให้ไปหามาบูชา เหรียญนี้ดี กันนิวเคลียร์ได้" พระองค์นี้ก็ได้แต่สงสัยว่า หลวงพ่อดู่อยู่ที่ไหน และจะหาเหรียญได้ที่ใด เป็นเวลาเกือบปี จึงเกิดความกระจ่างจากหนังสือที่ได้รับ

    เรื่องเบา ๆ อีกเรื่องสำหรับวันนี้ เอาใจคนชอบพระเครื่อง
    อาจมีบางท่านอยากรู้เกี่ยวกับเหรียญเปิดโลกในแง่มุมต่าง ๆ ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติม
    เหรียญเปิดโลกทองคำที่สร้างจำนวน ๒๔๐ เหรียญนั้น แต่ละเหรียญช่างบังเอิญน้ำหนัก 9.9 กรัมพอดิบพอดี โดยไม่ได้วางแผนไว้ แล้วก็ให้เช่าราคาทุนจริง ๆ คือ เหรียญละ 3,400 บาท (ตอนนี้ไม่รู้เขาบูชากันเท่าไร) ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่รวมเหรียญทองคำพิเศษจำนวน 3 เหรียญ ที่แต่ละเหรียญมีน้ำหนัก 1 บาท โดยเหรียญพิเศษ 3 เหรียญนี้จะไม่มีข้อความ "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" เพราะเจ้าของเหรียญต้องการให้เป็นเครื่องระลึกถึงทั้งองค์หลวงปู่ทวดและองค์หลวงปู่ดู่ไปพร้อมกัน

    ภายหลังเหรียญทองคำสั่งทำพิเศษ 1 ใน 3 เหรียญได้ถูกคนงานขโมยไป แต่ภายหลังเจ้าของต้องตามสืบไปจนกระทั่งถึงตัวผู้ซื้อรายสุดท้าย แล้วเช่าบูชา (เหรียญของตัวเอง) กลับมาด้วยราคาหลักแสน

    ช่างอ๊อดผู้แกะพระรุ่นนี้ ได้รับเหรียญทองแดงที่หลวงปู่เสกแล้วกลับไปจำนวน 28 เหรียญ (เท่าจำนวนพระพุทธเจ้าในบทชินบัญชร) แต่ไม่นานก็ถูกคนขอไปจนหมดเกลี้ยง

    เหรียญเปิดโลกเป็นเหรียญที่มีคนนิยมมากอาจเนื่องด้วยรูปลักษณ์และความประณีตในการแกะ ประกอบกับมงคลนามที่คนตั้งให้ ที่สำคัญหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นพิธีใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนท่านจะละสังขาร

    มีคนไม่น้อยอ้างชื่อว่า....ก็อยู่ในพิธีเปิดโลกด้วย อันนี้ คณะผู้สร้างก็ไม่ทราบได้ เพราะของต่าง ๆ ที่ฝากเข้ามา ล้วนอยู่ในกล่องปิดมิดชิด ดังนั้น ผู้ที่ฟังก็ต้องใช้วิจารณญาณให้มาก ๆ นะครับ

    สุดท้าย โปรดเชื่อเถอะว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ดีทั้งนั้น หากไม่ติดที่ค่านิยม ก็อาจได้ของดีโดยไม่ต้องเสียเงินเสียทอง หรือเสียน้อยที่สุด
    บทความจากลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงปู่ดู่

    มีหลายคนทีเดียวที่กล่าวอ้างถึงชนวนวัตถุมงคลรุ่นเปิดโลก วันนี้ก็เลยถือโอกาสเปิดเผยข้อมูลที่ยังไม่เคยเปิดเผย แม้กับคนใกล้ตัว เพราะเหตุว่าไม่เห็นความจำเป็น แต่มาตอนนี้ สังเกตว่ามีหลายท่านสนใจเชิงลึกกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องวัตถุมงคล จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

    บทความจาก :http://www.navaraht.com/forum/forum15/topic610.html

    ในตอนสร้างวัตถุมงคลรุ่นเปิดโลกนั้น (ซึ่งตอนนั้นกิมิได้ตั้งชื่อรุ่นแต่อย่างใด เป็นแต่เรียกกันเองว่าเหรียญหลวงปู่ทวด ขอบลายกนก) คณะผู้จัดทำ ตระเวนขอเนื้อชนวนโลหะที่หลวงปู่เคยอธิษฐานไว้ให้กับลูกศิษย์อาวุโสหลายท่าน สุดท้ายก็รวบรวมได้ประมาณ 1 กล่อง (กล่องเบียร์สิงห์) ซึ่งก็ถือว่ามากพอควร จากนั้น ก็นำมาไปให้กับช่างแกะพระ (ช่างอ๊อด)

    ความจริงได้ถูกเปิดเผยภายหลังเหรียญจัดทำเสร็จ โดยช่างอ๊อดสารภาพว่าลืมนำเนื้อชนวนไปผสมทำเหรียญ พอนานวันไป ช่างก็ยังหาไม่พบเนื้อชนวนดังกล่าว สุดท้ายก็ไม่ได้เนื้อชนวนคืนจนบัดนี้ นี่คือเนื้อชนวนชั้นที่หนึ่งที่ไม่ได้นำมาผสม

    ส่วนเนื้อชนวนชั้นที่สอง คือเนื้อโลหะที่เหลือจากการปั๊มเหรียญเปิดโลกนั้น ก็ไม่มี เพราะไม่ได้ขอ (คณะผู้จัดทำมิได้มีเจตนาจะสร้างพระรุ่นใดต่ออีก) แต่อย่างไรก็ดี ทางช่างก็มอบเศษขอบเหรียญที่เหลือจากการปั๊มมานิดหน่อย ซึ่งภายหลังก็ได้นำไปผสมสร้างเหรียญรุ่นรวมใจไปจนหมด

    สรุปก็คือ ก่อนสร้างเหรียญเปิดโลก ก็ไม่ได้ใช้เนื้อชนวน ภายหลังสร้างก็ไม่ได้เก็บเนื้อชนวน เรื่องก็เป็นอย่างนี้ แต่ถามว่าทางคณะผู้จัดทำรู้สึกไม่มั่นใจในพุทธคุณของเหรียญนี้หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่มีนัยสำคัญแต่อย่างใดเลย เพราะคณะศิษย์ผู้สร้างมั่นใจในคุณธรรมของหลวงปู่ และมั่นใจในเจตนาการอธิษฐานพระของหลวงปู่ เนื่องจากครั้งนั้น หลวงปู่เป็นผู้กำหนดฤกษ์เอง ทั้งที่หลวงปู่ประกาศงดการอธิษฐานพระให้กับวัด หรือคณะใด ๆ ก่อนหน้านี้

    ประกอบกับหลวงปู่เคยยืนยันว่าหลวงปู่ทวดท่านบารมีเต็มแล้ว วัดไหนสร้างก็ศักดิ์สิทธิ์หมด เพราะบารมีหลวงปู่ทวดท่านเต็มท้องฟ้า แล้วนี่ เป็นเหรียญหลวงปู่ทวดที่หลวงปู่ดู่เสก ทำไมจะต้องคำนึงถึงเนื้อชนวนให้มากด้วยเล่า เข้าทำนองว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้

    หากข้อมูลนี้จะกระทบกระเทือนผู้ใดไปบ้างก็ต้องขออภัยครับ แต่ก็คิดว่าอาจตอบข้อสงสัยของหลาย ๆ คนได้ และโปรดเชื่อเถอะครับว่า สาระสำคัญมิได้อยู่ที่เนื้อชนวนหรอก หากแต่อยู่ที่จิตของผู้เสก และจิตของผู้บูชาเป็นสำคัญ

    ย้อนระลึกได้เพิ่มเติมว่าในช่วงที่กำลังติดตามดูความคืบหน้าของการสร้างเหรียญหลวงพ่อทวด (เปิดโลก) อยู่นั้น ทางช่างอ๊อดก็จะปั๊มเหรียญออกมาให้ดูเป็นระยะ ๆ เพื่อดูความคมชัดของการแกะ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์ของหลวงปู่ผู้ที่มีสัมผัสในทางนี้เดินทางไปด้วย พอเอาเหรียญลองปั๊มมากำดูก็แปลกใจว่าทำไมจึงมีพลังแรง ประกอบกับเห็นมีเทวดารักษาองค์พระ ทั้ง ๆ ที่เหรียญนี้ยังไม่ได้เข้าพิธี ซึ่งแต่ก่อนหลวงปู่เคยบอกว่าเฉพาะรูปถ่ายพระอริยเจ้าเท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องเสก ส่วนเหรียญต่าง ๆ นั้นจำเป็นต้องเสก (ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างจากตุ๊กตุ่นตุ๊กตา)

    พอนำเรื่องนี้ไปกราบเรียนหลวงปู่ จึงได้ทราบว่าหลวงปู่อธิษฐานให้ตลอดกระบวนการผลิต นั่นหมายความว่าฤกษ์ที่หลวงปู่กำหนดนั้น เป็นเพียงนำวัตถุมงคลทั้งหมด (ที่หลวงปู่แอบเสกให้ก่อนแล้ว) มาเสกต่อยอดอีกที ทำให้ศิษย์หายสงสัยว่า ทำไมท่านจึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกนาน ๆ กับพระเครื่องบางรุ่น

    จากลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงปู่ดู่


    จากการที่ได้พบว่ามีผู้สนใจพระเครื่องรุ่น “เปิดโลก” เป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกที ข้อมูลบางอย่างที่ปรากฏตามหนังสือ อินเทอร์เน็ต และสื่อต่างๆ เริ่มมีความเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนจากความจริง และเป็นความคลาดเคลื่อนที่มีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้ ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ประสานงานดำเนินการจัดสร้างพระรุ่นนี้ จึงจำเป็นต้องบันทึกและเผยแพร่ที่มาของวัตถุมงคล เพื่อให้ผู้สนใจได้ทราบวัตถุประสงค์และรายละเอียดการจัดสร้างพระรุ่นนี้

    ในช่วงกลางปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ข้าพเจ้าได้รับการติดต่อจากคุณวรวิทย์ ด่านชัยวิจิตร นักศึกษารุ่นพี่ชุมนุมพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ที่มีพระคุณต่อข้าพเจ้าอย่างมาก เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ข้าพเจ้าได้มาพบและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ในราวปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึ่งในการติดต่อครั้งนั้น คุณวรวิทย์ต้องการให้ข้าพเจ้าช่วยเป็นธุระหาช่างแกะพระที่มีฝีมือ เพื่อจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ทวด ซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่า “รุ่นเปิดโลก” ซึ่งข้าพเจ้าขอสรุปตามลำดับหัวข้อ ดังนี้

    ๑. ที่มาและวัตถุประสงค์ของการสร้าง
    ด้วยเหตุที่มีสัญญาณบ่งบอกว่าพระเครื่องพระบูชาของหลวงปู่ดู่ มีแนวโน้มที่เป็นที่ต้องการและหายากมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับองค์หลวงปู่ท่านก็มีอายุมากแล้ว (ขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๘๖ ปี) ทำให้พวกเราโดยคุณวรวิทย์ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่ม จึงมีดำริที่จะสร้างเหรียญสักจำนวนหนึ่งสำหรับแจกให้กับผู้ที่มีศรัทธาในองค์หลวงปู่ดู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีศรัทธาในการรักษาศีลและใฝ่ใจในการปฏิบัติสมาธิภาวนา จะได้ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมาก ๆ เพียงเพื่อให้ได้วัตถุมงคลของท่านสักชิ้นหนึ่ง

    เงื่อนไขในการแจกเหรียญเปิดโลกที่เน้นผู้มีศรัทธาในการฝึกฝนอบรมตนเองในแนวทางแห่งศีล สมาธิ และปํญญา นี้ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ได้กราบเรียนหลวงปู่ว่าขออนุญาตจัดทำเหรียญเพื่อแจกให้กับนักปฏิบัติ ซึ่งหลวงปู่ก็อนุญาตด้วยเมตตายิ่งทั้งที่หลวงปู่ได้งดอธิษฐานจิตวัตถุมงคลมาเป็นระยะเวลากว่า ๑ ปีแล้วด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ โดยหลวงปู่ท่านกำหนดวันพิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลรุ่นนี้ในวันที่ท่านเรียกว่าวันธงชัย ตรงกับวันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เวลา ๒ ทุ่ม ส่วนกำหนดเวลา ๒ ทุ่ม นั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเพราะท่านไม่ต้องการให้ไปรบกวนเวลาที่ญาติโยมมาทำบุญหรือสนทนาธรรมกับท่านในช่วงระหว่างวัน

    ๒. การออกแบบเหรียญ
    เดิมทีพวกเราเจตนาจะจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ แต่ท่านกลับแนะนำว่าสร้างรูปเคารพครูบาอาจารย์คือหลวงปู่ทวดดีกว่า ท่านเน้นว่ายังไงก็ต้องให้มีข้อความว่า “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” ด้วย และภายหลังจากที่คุณวรวิทย์ได้ไหว้วานให้ข้าพเจ้าช่วยดำเนินการ เพราะบ้านคุณวรวิทย์อยู่ที่อยุธยา จึงไม่สะดวก ข้าพเจ้ารับปากช่วยดำเนินการด้วยเหตุผลที่อยู่ทางกรุงเทพฯ และพอจะมีช่องทางติดต่อช่างแกะพระอยู่บ้าง โดยที่ข้าพเจ้าก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ เพราะนี่เป็นการสร้างพระครั้งแรกในชีวิต

    สำหรับรูปที่ใช้เป็นต้นแบบนั้น ได้อาศัยเค้าโครงจากรูปหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวดที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย เพราะให้รายละเอียดที่ชัดเจน สะดวกสำหรับช่างแกะพระ ในเรื่องช่างแกะพระนั้น พวกเราตัดสินใจเลือกคุณประหยัด ลออพันธ์สกุล หรือช่างอ๊อด ซึ่งวงการยอมรับในฝีมือ จากรูปแบบหน้าตาหลวงปู่ทวดที่ลงตัว ก็ขยายผลมาสู่รูปแบบที่เหลือทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กล่าวคือ

    · ฐานเป็นรูปดอกบัว ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ขององค์หลวงปู่ทวด เพราะสื่อถึงความเป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว

    · ลูกแก้วบนฝ่ามือหลวงปู่ทวด ซึ่งสร้างตามอย่างความนิยมของวัดพะโคะ จังหวัดสงขลา

    · อักขระ “พุท ธะ สัง มิ” ที่ด้านหน้า หมายถึงหัวใจของพระไตรสรณคมณ์ คือ พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ และสังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ซึ่งหลวงปู่ดู่ท่านให้ลูกศิษย์ใช้เป็นคำบริกรรมภาวนา

    · เส้นรัศมีโดยรอบขอบด้านหลัง หมายถึงอานุภาพแห่งคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ที่มีมากอย่างจะนับจะประมาณมิได้ และแผ่ออกไปได้ทุกทิศทุกทาง

    · อักขระ “นะ โม พุท ธา ยะ” ที่ด้านหลัง หมายถึงพระนามย่อของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อและคำกล่าวของหลวงปู่ดู่ที่ว่าหลวงปู่ทวด ท่านบารมีเต็มแล้ว ท่านจะมาตรัสรู้เป็นพระศรีอาริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕)

    · กึ่งกลางอักขระ “นะ โม พุท ธา ยะ” คือ “นะ” ที่มีเส้นขมวด ๓ รอบ ที่หลวงปู่ดู่ใช้จารในวัตถุมงคลของท่านเสมอ ๆ

    · ด้านซ้ายของชื่อพระพรหมปัญโญ จะพบพยัญชนะ “ด” ซึ่งหมายถึงหลวงปู่ดู่ ส่วนด้านขวาจะพบสัญลักษณ์คล้ายกากบ

    · รูปแบบขอบเหรียญที่เป็นลายกนก รวมทั้งลักษณะฐานบัวที่ประทับนั่งของหลวงปู่ทวดนั้น เป็นการออกแบบโดยช่างอ๊อด

    มีเรื่องแปลกเกี่ยวกับการแกะองค์หลวงปู่ทวดที่ขออนุญาตบันทึกไว้ ณ ที่นี้ กล่าวคือในตอนแรกนั้น ผู้เขียนได้ยุติกับช่างอ๊อดว่าอยากให้หลวงปู่ทวดห่มจีวรให้เรียบร้อย พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ต้องการให้เห็นนมหลวงปู่อย่างที่เขานิยมแกะกัน ช่างอ๊อดก็รับไปดำเนินการ ระหว่างนั้นข้าพเจ้าก็เทียวไปเทียวมาในการดูและปรับแก้แบบ ตั้งแต่เป็นภาพสเก็ต กระทั่งเป็นฟิล์ม และเป็นต้นแบบบนแท่งเหล็กกลม ๆ ช่างอ๊อดใช้เวลาแกะบล็อคเหล็กต่อเนื่องกันนาน ๑๕ วันก็แล้วเสร็จ จากนั้นก็เริ่มดำเนินการปั๊มจริง แต่เมื่อปั๊มไปได้มากกว่าหนึ่งพันเหรียญ ช่างอ๊อดก็เพิ่งมาสังเกตเห็นว่าเหรียญที่ปั๊มออกมา ทำไมหลวงปู่มีนมทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีอยู่ในบล็อก จึงติดต่อให้ข้าพเจ้าช่วยไปพิจารณา พอเลิกงานแล้ว ข้าพเจ้าแวะเข้าไปช่วยกันดูจึงพบว่ามีเศษเหล็กปุ่มเล็ก ๆ ไปฝังติดอยู่ที่บล็อกตัวเมีย ในตำแหน่งหัวนมพอดิบพอดี เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงให้ช่างอ๊อดเขี่ยเศษเหล็กออกแล้วปรับปรุงบล็อคด้วยการแกะนมขึ้นมาให้เป็นเรื่องเป็นราว ด้วยสงสัยว่าหลวงปู่ทวดอาจต้องการรักษาเอกลักษณ์รูปแบบของท่านก็เป็นได้๓. ชนิดและจำนวนการสร้าง
    การจัดทำเหรียญหลวงปู่ทวดครั้งนี้ นอกจากเหรียญทองแดงแล้ว ยังมีเหรียญโลหะอื่น ๆ รวมทั้งเนื้อผง โปสเตอร์ และลูกแก้ว ซึ่งสรุปได้ดังนี้
    ชนิด จำนวน
    หมายเหตุ
    ๑. เหรียญเนื้อทองคำ
    ๒๔๐ เหรียญ
    ใช้ทองคำชนิด ๙๖% แต่ละเหรียญมีน้ำหนัก ๙.๙ กรัม
    ให้สั่งจองเท่าราคาทองคำรวมค่ากำเหน็จที่ช่างแกะพระคิด คือ เหรียญละ ๓,๔๐๐ บาท ในจำนวนนี้ มี ๓ เหรียญที่คุณวรวิทย์สั่งทำพิเศษ แต่ละเหรียญมีน้ำหนัก ๑ บาท
    ๒. เหรียญเนื้อเงิน
    ๑,๐๓๗ เหรียญ
    ให้สั่งจองเท่าราคาที่ช่างแกะพระคิด คือ เหรียญละ ๑๓๐ บาท
    ๓. เหรียญเนื้อทองแดง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ
    ไม่รวมส่วนที่ช่างแกะพระปั๊มเกินมาอีกจำนวน ๕๐๐ เหรียญ ภายหลังได้มอบให้ช่างแกะพระเป็นที่ระลึกจำนวน ๒๘ เหรียญ
    ซึ่งเหรียญเนื้อทองแดงนี้ ไม่ได้เปิดให้สั่งจอง เพราะเป็นส่วนที่มีเจตนาจัดทำเพื่อแจกแก่ผู้ปฏิบัติธรรม
    ๔. เหรียญเนื้อตะกั่ว
    ๑,๔๐๐ เหรียญ เป็นเหรียญที่ไม่มีข้อความ “หลวงพ่อทวดฯ” ๑,๐๐๐ เหรียญ
    เป็นเหรียญที่มีข้อความ “หลวงพ่อทวดฯ” ๔๐๐ เหรียญ
    ๕. เนื้อผง
    (รูปทรง ๔ เหลี่ยมขอบมนเล็กน้อย) ๕,๐๐๐ องค์ ใช้ผงมวลสารว่าน ๑๐๘ ที่อาจารย์ศุภรัตน์มอบให้ ซึ่งหลวงปู่ดู่อธิษฐานให้แล้ว ในจำนวนนี้ มีประมาณ ๓๖๐ องค์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่น่าเสียดายที่พระผงกว่า ๑,๐๐๐ องค์ ชำรุดระหว่างการขนส่ง เนื่องจากความรีบเร่งส่งของในขณะที่เนื้อผงยังไม่แห้งสนิทดี
    พร้อมกันนี้ คณะผู้จัดสร้าง ยังได้จัดทำโปสเตอร์หลวงปู่ดู่ในอิริยาบถต่าง ๆ บนฉากหลังที่เป็นรูปใบโพธิ์ ขนาด ๘ x ๑๐ นิ้ว อีกจำนวน ๑๐,๐๐๐ แผ่น และลูกแก้วใสเคลือบปรอทบาง ๆ (เป็นลูกแก้วที่ใช้ประดับตู้ปลาทั่วไป) อีกจำนวน ๕,๐๐๐ ลูก (ไม่รวมลูกแก้วชนิดเคลือบปรอทสีสันต่าง ๆ อีกจำนวนประมาณ ๕๐ ลูก) ๔. เหตุการณ์ในวันพิธี (อังคารที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๒) บ่ายเย็นวันนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ข้าพเจ้าพร้อมด้วยน้องชายของคุณวรวิทย์เร่งขับรถฝ่าพายุฝน เพื่อจะนำวัตถุมงคลที่เหลือ (ส่วนมากเป็นพระเนื้อผง) ไปที่กุฏิของหลวงปู่ดู่ให้ทันพิธี แต่พอมาถึงวัด ฝนก็หยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใสมากราวกับว่าได้ปัดเป่าสิ่งสกปรกออกไปจนหมดสิ้น พอใกล้เวลา ๒ ทุ่ม ก็ปรากฏว่ามีผู้คนมาร่วมพิธีกันจนเต็มตลอดพื้นที่หน้ากุฏิหลวงปู่ หลายคนได้นำวัตถุมงคลส่วนตัวมาร่วมพิธีด้วยเป็นจำนวนมาก คุณวรวิทย์ได้เปิดกล่องพร้อมนำตัวอย่างวัตถุมงคลที่จัดทำแต่ละชนิดออกให้หลวงปู่ได้ชม ทั้งเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง ตะกั่ว พระผง โปสเตอร์ และลูกแก้ว พอถึงเวลา ๒ ทุ่ม หลวงปู่เริ่มอธิษฐานจิต อัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏจักรวาล รวมทั้งบารมีครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มาประดิษฐานที่วัตถุมงคล และหลวงปู่ได้ตั้งจิตอธิษฐานให้สว่างไปทั้งสามโลก คือ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก สักครู่หนึ่ง หลวงปู่ลืมตาขึ้น ยกมือข้างขวาขึ้นลูบพระที่อยู่เบื้องหน้า สุดท้ายท่านก็กล่าวขอให้หลวงปู่ทวดและเทวดาปกปักรักษาวัตถุมงคลนี้ตลอดไป ให้ปิดกั้นภัยอันตรายทุกอย่าง จากนั้นท่านก็ให้ผู้ที่มาร่วมงานตั้งจิตอุทิศผลบุญไปทั่วโดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล
    พอเสร็จพิธี หลังจากกราบลาหลวงปู่แล้ว คุณวรวิทย์ก็แจกจ่ายเหรียญเนื้อทองแดงบางส่วนให้กับตัวแทนหมู่คณะหลายคน เพื่อหาโอกาสแจกจ่ายให้กับผู้เหมาะสมในโอกาสต่อไป ส่วนวัตถุมงคลอันเป็นสมบัติส่วนตัวของผู้ที่นำมาร่วมในพิธีนั้น ข้าพเจ้าไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง เพราะมากมายเหลือ เกิน ทราบว่าบางท่านก็นำมาชนิดหมดหิ้งพระที่บ้านตนเองเลยทีเดียวก็มี

    ๕. ทำไมจึงชื่อว่ารุ่นเปิดโลก เช้าวันรุ่งขึ้น ได้มีลูกศิษย์หลวงปู่ที่เป็นนักปฏิบัติบางคน ซึ่งไม่ได้มาร่วมงาน ได้กราบเรียนหลวงปู่ว่าเมื่อคืนไม่รู้ที่วัดสะแกมีอะไร กำหนดจิตดูเห็นหลวงปู่ทวดลอยอยู่เต็มท้องฟ้าวัดสะแก หลวงปู่ก็บอกกับผู้นั้น รวมทั้งลูกศิษย์คนอื่น ๆ ณ ที่นั้นว่า “เมื่อคืนข้าเสกให้แบบเปิดสามโลกเลยนะ” นี่เอง น่าจะเป็นที่มาของการพูดปากต่อปากกระทั่งกลายมาเป็นชื่อรุ่นว่า “รุ่นเปิดสามโลก” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “รุ่นเปิดโลก” ๖. วัตถุมงคลรุ่นเปิดโลกมีความศักดิ์สิทธิ์กว่าพระรุ่นอื่นจริงหรือ
    คำกล่าวข้างต้น ค่อนข้างจะกล่าวเกินเลย เพราะเหตุที่หลวงปู่เคยพูดให้เพื่อนข้าพเจ้าฟังว่า เวลาที่ท่านตั้งจิตอธิษฐานพระที่ทางวัดจัดทำมาให้นั้น ท่านจะส่งกระแสจิตอัญเชิญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บรรจุเข้าในวัตถุมงคลทั้งใหม่และเก่าทั้งหมดของท่าน ไม่ว่าจะวัตถุมงคลนั้นจะ ณ ที่ใดก็ตาม ดังนั้น เมื่อทราบความตามนี้แล้ว ก็ขอให้ผู้มีวัตถุมงคลของหลวงปู่รุ่นใด ๆ ก็ตาม ขอได้โปรดอย่าหวั่นไหวไปตามค่านิยมที่ตลาดเขาแต่งแต้มให้เลย และโปรดระลึกถึงพระที่หลวงปู่ให้ความสำคัญสูงสุด ที่หลวงปู่เรียกว่า “พระเก่า พระแท้” นั่นก็คือ จิตของเราที่ฝึกฝนอบรมดีแล้วนั่นเอง เพราะพระองค์นี้เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนของเราทุกคน การมีพระภายนอก ก็ล้วนต้องการที่จะโยงเข้าหาการสร้างพระภายในให้เกิดให้มีขึ้น หากปราศจากการสร้างพระภายในแล้วไซร้ การมีพระภายนอก แม้มากเท่าใด ก็ยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปลอดภัยอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่นับว่ารู้จักองค์แท้ของหลวงปู่ ดังที่ท่านกล่าวเชิงท้าทายนักปฏิบัติว่า

    “ตราบใดที่แกยังไม่เห็นความดีในตัว ก็ไม่นับว่าแกรู้จักข้าแต่ถ้าเมื่อใด แกเริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้ว เมื่อนั้น...ข้าจึงว่า แกเริ่มรู้จักข้าดีขึ้นแล้ว”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2011
  6. greattve

    greattve สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +10
    สอบถามราคาบูชาครับพี่ พร้อมราคาเหรียญเนื้อตะกั่วด้วยครับ
     
  7. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ขุนแผนนาคเกี้ยวของหลวงปู่ชื่น วัดตาอี ด้านหลังท่านลงยันต์ อักขระเดียวกับขุนแผนมะรุมมะตุ้ม "นะอกแตก" สาริกาตัวผู้ - ตัวเมีย

    ขุนแผนนาคเกี้ยวของหลวงปู่ชื่น วัดตาอี ด้านหลังท่านลงยันต์ อักขระเดียวกับขุนแผนมะรุมมะตุ้ม "นะอกแตก" สาริกาตัวผู้ - ตัวเมีย ยันต์นี้หลวงปู่เป็นคนวางยันต์ โดยได้บอกไว้ว่า อานุภาพของยันต์จะเดินตามลมปราณหรือลมหายใจของผู้ใช้ ให้อานุภาพแผ่กระจายทางลมหายใจ ไปต้องผู้ใด เป็นมหาเสน่ห์ และเป็นมหานิยม ตลอดเวลาที่ใช้
    สุดยอดทางด้านมหาเสน่ห์ มหาหลง สายเขมรที่แรงและเข้มขลังใช้บูชาพกติดตัวเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจเพศตรงข้าม ใครเห็นรักชอบ ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์ ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน เป็นพระเครื่องเน้นทาง พุทธคุณครอบจักรวาล มีประสบการณ์ กับผู้ใช้มาแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า…สุดยอด ใครไม่มีแฟนก็จะได้แฟน ถ้าแฟนนอกใจก็จะได้คืน… หลวงปู่ชื่น ได้ทำจัดหามวลสารนานหลายปีกว่าจะได้ครบ มวรสารแต่ละอย่างต้องบุกป่า…ปีนเขา แม้แต่ไต่หน้าผา เพื่อหามวรสาร แร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่ได้ลุยมาทุกรูปแบบ เพื่อที่จะให้วัดถุมงคลของท่าน ผู้บูชามีอานุภาพ พุทธคุณครอบจักรวาล เห็นผลทันที เมื่อลูกศิษย์ใช้บูชา ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไป ในประเทศ และ ต่างประเทศ มากขึ้นเป็นลำดับ การสร้างขุนแผนนาคเกี้ยวในจึงเกิดขึ้นหลวงปู่ชื่น ท่านได้เดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อรวบรวมมวลสารนำมาจัดสร้างพระรุ่นนี้ เพื่อให้เป็นตำนานเล่าขานสืบต่อไปในอนาคต นอกจากว่านวัตถุอาถรรพ์ต่างๆ มากมายแล้ว หลวงปู่ชื่นท่านยังเมตตา ลบผงอ่อนใจรัก,ผงวิเศษ ๕ ประการ,ผงสาว สามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน ,ผงสาลิกาป้อนเหยื่อ,ผงเสน่ห์แม่ธรณี, ผงนะวนนะเวียน,ผงอยู่มิได้ และอื่นๆอีกมากมาย “ผงอ่อนใจรัก” เป็นผงวิเศษที่ให้ผลทางเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยมสูง ที่ข้าทาส บ่าวไพร่ ขุนนาง นางสนม ในราชสำนักเขมรโบราณใช้พกติดตัวและผสมเป็นแป้งทาหน้า ให้เป็นที่รักแก่เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน ซึ่งวิชานี้ได้สาปสุญหายไปกว่าพันปีแล้ว หลวงปู่ชื่นผู้รอบรู้ เวทวิยาคมสายเขมรโบราณอย่างถ่องแท้จึงได้การสร้างผงอ่อนใจรักขึ้น ในวันจันทร์สามค่ำจันทร์ตรี ฤกษ์พระรามแต่งงานกับนางสีดา เพื่อให้ทรงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ เป็นครั้งแรก และเป็นครั้งเดียวที่ ครบถ้วน ตามแบบแผนตำราของบรรพบุรุษชาว เขมร เมื่อรวมผงประชุมธาตุขึ้น เป็นองค์แล้ว หลวงปู่ชื่นยังได้ทำการปลุกเสกเพิ่มเติมในฤกษ์ “จันทคราส” ซึ่งโบราณถือว่า เป็นฤกษ์ที่ปลุกเสกวัตถุมงคล ให้มีอานุภาพอิทธิคุณสูงสุด ผงอ่อนใจรัก ตามอุเ ท่ห์ตำรา โบราณกล่าวไว้ว่าให้ลบเป็นผงพกติดตัว หรือผสมเป็นแป้งผัดหน้า ผู้ใดเห็นหน้าหายโกรธสิ้น คนใจแข็งก็อ่อนใจรักเราแล



    [​IMG]

    [​IMG]

    พิเศษครับที่ 1150 บาท
     
  8. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    [​IMG]


    เหรียญเศรษฐี หลวงปู่ดู่ เนื้อทองแดงๆๆ

    เหรียญปั๊มกลมรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ หรือที่เรียกกันติดปากว่าเหรียญเศรษฐีจัดสร้างในปี 2531 เป็นเหรียญที่ทางวัดสะแกได้จัดสร้างขึ้น โดยหลวงปู่ดู่เป็นผู้ปลุกเสก ส่วนรอยจารนั้นเป็นลายมือของหลวงลุงดำซึ่ง ได้รับมอบหมายจากหลวงปู่ให้จาร เหรียญ โดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุมงคลที่สร้างหลังปี 2525 หลวงลุงดำจะเป็นคนจารแทนหลวงปู่ ที่มาของคำว่า เหรียญเศรษฐีนั้นมาจากสมัยที่จัดทำเหรียญนี้มีคนสั่งจองน้อย คณะกรรมการวัดจึงเรียนให้หลวงปู่ทราบ ท่านบอกว่าไม่เป็นไรแล้วให้ดำเนินการจัดสร้างไปตามปกติ หลวงปู่ยังได้ปรารภว่าต่อไปเหรียญนี้จะหายาก และจะเป็นที่ต้องการเป็นอันมาก คนที่ใช้เหรียญนี้จะร่ำรวยกันทุกคน ภายหลังเหรียญนี้ จึงได้ถูกเรียกกันติดปากว่าเหรียญเศรษฐีจากคำกล่าวของหลวง ปู่นั่นเอง เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ 56 เหรียญ เนื้อเงิน 1,000 เหรียญ นวโลหะ 200 เหรียญ ตะกั่ว 300 เหรียญ และทองแดง 10,000 เหรียญ

    [​IMG]

    [​IMG]

    บูชาที่ 17000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2011
  9. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    หลวงปุ๋ทิม วัดระหารไร่ ปี 2512 กรมหลวงชุมพรปากน้ำประแสร์ (เหรียญประสบการณ์) ในหลวงเสด็จเททองด้วยพระองค์เอง


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ถามว่าแท้ไหม เอาเป็นว่า แท้ทุกสนาม รับประกันแท้ไม่มีเงื่อนไข

    เก๊คืนเต็มแถมค่าตกใจให้อีก เท่าตัว ครับ

    ส่วนที่อื่นเขาคืนหัก 20/30 เปอร์เซ็นครับ องด์นี้ไม่หักครับ

    "แท้ยันโลกแตก"


    บูชาที่ 4350 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2011
  10. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    มีดดาบหลวงพ่อรุ่ง/พ่อเดิม ศิษย์ผู้พี่หลวงพ่อเดิม

    หลวงพ่อเดิมท่านนำไปปลุกเสกด้วยค้วยครับ 33 นิ้ว

    "จริงแล้วหลวงพ่อเดิมครับแต่ไม่กล้าตี ตีเป็นหลวงพ่อรุ่งราคาหลวงพ่อรุ่งครับ"

    มีดดาบ ตะกรุด 12 ดอกสามกษัตริย์
    หาชมได้อยากนะครับสำหรับผู้ที่จะหาเก็บไว้บูชา

    มีดดาบด้ามนี้ฝังตะกรุดกันสะท้อนสามกษัตริย์ ตอกใบมีดเป็นเสมาเปลวเพลิง ส่วนปลายใบมีดตอกลายใบเป็นเถาวัลย์สวยงามมากครับ และมีตะกรุดสามกษัตริย์ ทอง นาค ทั้งหมด 12 ดอกฝังลงไปในสันใบมีด ที่หายากมากๆทีเดียวครับ มีความยาวรวมที่ 33 นิ้วส่วนความกว้างแค่ 1.5 นิ้ว. มีความสวยงามอย่างยิ่ง

    ความเกี่ยวพันกับหลวงพ่อเดิมฯ หลวงพ่อรุ่งมีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกับหลวงพ่อเดิม (เป็นพี่หลวงพ่อเดิม ๑๑ ปี) โดยโยมมารดาของท่านทั้งสองเป็น พี่น้องกัน หลวงพ่อรุ่งท่านก็เป็น ผู้ริเริ่มสร้างมีดหมอและดาบขึ้นมาก่อนเป็นลำดับแรก หลวงพ่อเดิม ท่านรู้เข้าก็มาเที่ยวที่วัดหนองสีนวล และมาศึกษาวิชาการทำมีดหมอจากหลวงพ่อรุ่ง และกลับไปทำเองที่วัดหนองโพ โดยมีบางเล่มที่หลวงพ่อเดิมก็ได้นำไปปลุกเสกและก็ทำการแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ท่าน ในระยะแรกๆนั้นหลวงพ่อเดิมท่านได้นำความรู้ในการทำดาบและมีดจากหลวงพ่อรุ่ง โดยการควบคุมในการทำจาก "หลวงพ่อสด" ทำตามขั้นตอนของหลวงพ่อรุ่งทุกประการ เมื่อทำดาบและมีดเสร็จแล้วก่อนที่หลวงพ่อเดิมจะปลุกเสกนั้นหลวงพ่อท่านได้ให้หลวงพ่อสดนำดาบและมีดที่ทำึ้ขึ้นหลังช้างไปวัดหนองสีนวลให้หลวงพ่อรุ่งปลุกเสกก่อนแล้วจึงนำกลับมาที่วัดหนองโพเพื่อทำการปลุกเสกอีกครั้งครับ ถึงจะได้นำไปแจกและจำหน่ายแกลูกศิษย์จนเริ่มโด่งดังในพุทธคุณเป็นลำดับ

    พุทธคุณในอานุภาพมีดหมอหลวงพ่อรุ่ง ไม่แตกต่างอะไรกับ หลวงพ่อเดิม ครับ เพราะได้รับการปลุกเสกรากบรมครูทั้ง 2 ท่าน

    ครับสำหรับท่านที่หาบูชาอยู่ . . . ติดใว้สักเล่มท่านไม่ผิดหวังหรอกครับ

    รับประกันความแท้อย่างถาวร

    ขอบพระคุณมากๆครับ

    วิธีการบูชามีดดาบด้ามครูที่ให้เกิดอนุภาพสุงที่สุด

    บางท่านอาจจะมีมีดดาบไว้บูชาที่บ้านแต่ท่านอาจจะไม่ทราบวิธีที่จะบูชา อย่างทุกหลัก เพื่อให้เกิดอนุภาพสุงสุดในมีดดาบของอาจารย์ที่ได้ทำขึ้นมาครับ

    ผมขอที่จะอธิบายให้ฟังอย่างคร่าวๆครับ

    1. มีดดาบ นั้นตามตำราถือได้ว่าเป็น เครื่องรางชั้นสุง อย่างหนึ่งในประเภทเครื่องรางของขลัง เลยที่เดียวครับ การที่เราจะเสาะหาบูชาแล้วนำมาบูชาที่บ้านเรือน เราจะ ต้องอาราธนาบอกกล่าวหรือทำพิธีรับเข้ามาในบ้านเรือนของเราก่อนอื่นเป็นอันดับแรก เพื่อที่ป้องกันสิ่งอัปมงคล ไสยเวทย์มนต์ดำ และในการช่วยรักษาอาการต่างๆนั้น ก็จะต้องมีวิธีการอาราธนาบอกกล่าวต่อบูรพาจารย์ผู้ที่จัดสร้างหรือทำมีดดาบนั้นแล้วถึงได้กระการได้ตามที่บอกกล่าวไป
    แต่ในยามที่เก็บไว้เฝ้าบ้านเรือนนั้นถ้าเป็น มีดขนาดเล็กที่มีปลอกจึง ควรดึงใบมีดออกจากฝักอยู่เสมอประมาณ 1 นิ้ว เพื่อให้พลังอำนาจพุทธคุณ บูรพาจารย์ที่สร้าง มีดหมอแผ่บารมีปกป้องบ้านเรือนและบุคคลในครอบครัว

    2. มีดดาบขนาดใหญ่ ที่มีฝักและไม่มีฝัก การจัดสร้างตามเจตนารมณ์ของบูรพาจารย์จะแบ่งได้ 2 ประเภท ครับ

    2.1 มีดดาบขนาดใหญ่ที่มีฝัก ตามตำราโบราณได้กล่าวไว้ว่าเป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว ในยามหมู่ศัตรูที่จองมาทำร้าย เป็นการทำลายอาคมหรือถอนอาคมของบุคคลนั้นๆให้สิ้นไป เป็นการป้องกันตัวโดยแท้

    2.2 มีดหมอขนาดใหญ่ที่ไม่ทำฝัก ตามตำราโบราณที่บูรพาจารย์สร้างขึ้นมาไว้เฝ้าบ้านเรือน การสร้างยิ่งมีความยากมากที่จัดสร้าง เป็นการตั้งป้องกัน ไสยเวทย์ คุณไสย มนต์ดำ สิ่งอัปมงคล ต่างๆ ซ้ำต้องลงพระคาถาสำทับในการทำลายอาคมหรือถอนอาคมผู้ที่บุกลุกเข้ามาในบ้านเรือนที่มีอาคมแก่กล้าอีกด้วย
    สำหรับวิธีอาราธนาใช้นั้นคือ ในสภาวะปกติให้ท่านเก็บคมมีดลงเพื่อให้มีดหมอ(หรือดาบ)น้อมนำนำพาสิ่งที่ดีเป็นสิริมงคลเสริมสร้างความร่มเย็นให้กับครอบครัวและเสริมบารมีให้กับผู้ที่บูชา
    แต่ในยามที่ท่านบังเกิด ความรู้สึกในจิตใจว่าจะมีสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่ชั่วร้ายจะเข้ามาแผ้วพาน ตำรากล่าวไว้ว่าให้ท่านอาราธนาบอกกล่าวแล้ว ยกมีดหมอหรือดาบเอาด้านคมหงายขึ้น เพื่อป้องกันเหตุร้ายนั้นๆโดยอาศัยอำนาจพุทธคุณชั้นสุงของมีดหมอหรือดาบของบูรพาจารย์ให้ช่วยขับไล่ขจัดออกไปให้สิ้นซาก
    (หมายเหตุ ผู้ที่บูชาจะรับรู้ความรู้สึกดังกล่าวได้ด้วยพุทธานุภาพของมีดหมอและดาบได้)

    มีดดาบเล่มนี้ท่านใดสนใจสอบถามมาได้นะครับมีความยาวอยู่ที่ 33 นิ้ว

    ตะกรุดกันสะท้อน 12 ดอก เป็นยุดแรกๆครับทางวัดได้ทำออกมาไม่มาก และ
    ที่ สำคัญตามประวัตินั้นหลวงพ่อเดิมท่านได้นำไปปลุกเสกสำทับอีกหนหนึ่งครับ

    จากผู้รู้ในเรื่องของดาบ 2 บูรภาจารย์ท่านได้บอกว่า "อาคม" ของในดาบนั้นจะมีอาคมอยู่ 2 แบบ แบบเปิดและแบบปิดครับ
    อาคมเปิด คืออาคมทั่วๆไปเพื่อนำความร่มเย็นมาสู่เจ้าของที่บูฃา และคุ้มครองไม่ให้ภัยหรือคุณไสยเข้ามาได้
    อาคมปิด ไว้ใช้สำหรับรักษาผู้ที่ถูกคุณไสยต่างๆหรืออาการต่างๆโรคภัย โดยต้องมีผู้มีอาคมกระทำการเปิดอาคมนั้นออกมาครับ


    ของแท้ๆตัวจริงแบบนี้ขอบอกเลยว่ายากที่จะหาบูชาหรือชมนะครับ

    รับประกันแท้ทุกประการ ขอให้ท่านผู้รู้และศึกษามาพิจารณาดูนะครับ
    มีดยุดเก่านั้นเป็นงานทำด้วยมือ แต่ละเล่มงานจะออกมาไม่เหมือนกันนะครับ โปดรพิจารณาดูครับ

    ขอบพระคุณทุกๆท่าน



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สนใจสอบถามได้ครับ

    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     
  11. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    หลวงปู่สี ฉันทสิริ พระอริยสงฆ์เจ้า ผู้ซึ่งมีฉายา "พระอรหัต์ ๗ แผ่น"

    แห่งสำนักสงฆถ้ำเขาบุญนาค(ปัจจุบันคือวัดถ้ำเขาบุญนาค) ตาคลี จ.นครวรรค์ ท่านมีอายุที่ยืนยาวถึง ๑๒๘ปี ซึ่งจักถือได้ว่า ท่านเป็นพระสายวิปัสสนาจารย์ "พระผู้ทรงรัตตัญญู" คือ พระผู้ทรงอภิญญาจารย์ผู้รู้กาลถึงฌาณวิปัสสนาทุกแขนงอย่างแตกฉานอย่างสูงสุด...แม้กระทั่งลพ.ฤาษีลิงดำ ยังแวะเวียนมากราบสักการะท่านและสนทนาธรรมเป็นประจำ ทั้งนี้ยังมี ลป.บุดดา ถาวโร,ลป.แหวน สุจิณโน ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นพระสหายธรรมกับลป.มั่นซึ่งเคยร่วมธุดงค์และปฏิบัติธรรมด้วยกัน
    บัดนี้..แม้นท่านมรณะภาพแล้วก็ยังละสังขาร (ร่างกลายเป็นหิน) ให้คนรุ่นหลังได้กราบไหว้บูชาสักการะ


    [​IMG]

    [​IMG]


    เหรียญมหาลาภ อรหันต์ 7 แผ่นดิน เหรียญไม่ผ่านการใช้สวยๆครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    สนใจสอบถามได้ครับ

    บูชาที่ 5550 บาทครับ
     
  12. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ขุนแผนกุรบ้านกร่าง ขุนพลพระกุรเนื้อดินสุพรรณบุรี


    [​IMG]

    เป็นพระกุรที่มีความนิยมมากที่สุดของพระพิมพ์ขุนแผน พุทธคุณประสบการณ์มีมาช้านาน ทางด้านเมตตาและคงกระพันชาตรี
    ที่พระพักตร์ ไม่ได้แตกร้วนนะครับเป็น เม็ดแร่ของกรุบ้านกร่างที่พระพักตร์พอดีสวยงามมากครับ


    ประกันพระแท้ตลอดกาล ช่วงลดราคาบูชาเพื่อออกพระใหม่ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    บูชาที่ 6550 บาท ครับ

    สนใจสอบถามเพิ่มเติมมาได้ครับ
     
  13. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    [​IMG]


    หลวงปู่ทวด หลังตัวหนังสือเล็ก ปี 2505 วัดช้างให้ ปัตตานี พร้อมเลี่ยมทองคำแท้อย่างหนาสวยๆครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    รับประกันแท้ตลอดกาล บูชาที่ 15050 บาท
     
  14. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ส่วนรายการนี้เป็นลูกอมผงพรายที่มีค่านิยมให้การเล่นหาเป็นผงพรายล้วนๆ ออกที่วัดระหารไร่ครับ


    [​IMG]


    พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ของดีที่ใครก็อยากได้ไว้บูชา บางท่านมีแล้วก็อยากมีอีกหลายคนคงรู้สึกว่า * แพง * แพงสุดๆ ราคาขึ้นทุกพิมพ์ทุกอย่างทุกเวลา ต่อไปก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้บูชา ผมจึงอยากแนะนำให้หา ลูกอมผงพรายผงพราย - ลูกประคำผงพรายกุมาร - ตะกรุดสาริกา (เป็นตะกรุดที่ฝังหลังพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่)
    สามชิ้นที่ต้องหา มาแขวนบูชากันครับ ราคาเบากว่ากันมากครับ ตามจริงแล้วลูกอมกลมๆที่ปั้นเป็นลูกกลมนั้นเพื่อที่นำมากดเป็นพระพิมพ์ขุนแผนลูกใหญ่ก็พิมพ์ใหญ่เล็กก็เป็นพิมพ์เล็กครับ ลูกที่กดกดไม่ทันก็จะแข็งนำไปกดพิมพ์ไม่ได้ก็กลายมาเป็น "ลูกอมผงพรายมหาภูติและลูกประคำ"

    การสร้างลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ
    ไม่เป็นสองลองใคร

    พุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมมากๆครับ รับรองว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับพระพิมพ์ขุนแผนบูชาหลักแสนและล้าน ผู้ที่มีลูกอมลูกประคำตะกรุดสาริกาไว้บูชาย่อมทราบกันดีทุกๆท่านว่าได้ผลตามที่ต้องการ สำหรับท่านที่มีอยู่แล้วยังอาราธนาไม่เป็น ท่านที่ยังไม่มีแต่คิดว่าต่อไปคงจะได้มาบ้างสักลูก และท่านที่นับถือหลวงปู่ มาลองดูกันครับ

    วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)

    มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "
    หลวงปู่ตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"


    จากที่ผมประสพมา ท่านใดที่มีของหลวงปู่ทิมบูชาแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะหาเก็บตลอดไปถึงแม้ว่าราคาบูชาจะสูงขึ้นเท่าไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าบูชาแล้ว ล่ำรวย ไม่หยุดเช่นกัน หาบูชากันนะครับ ชิ้นเดียวก็พอ


    หากันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องของผมขอให้เป็นของแท้ๆก็พอ ก่อนที่ราคาบูชาจะทะลุ ไปมากกว่านี้

    ที่ผมก็ไม่มีแล้วหาเข้าเหมือนกันครับ มีแต่พวกสั่งมายังหาไม่ได้เลยครับ

    แนะนำครับ

    การเช่าหาควรจะศึกษาเสียก่อน ไปหาดูของแท้ก่อนที่ร้านมีมาตฐาน ผงพรายหลวงปู่ดูไม่ยากครับดูง่ายมากๆ
    "คำเตือน" อย่าโลภเห็นของถูกแล้วใจกลับเสียด่ายเงิน ของดีของถูกไม่มีหรอกครับ สู้เถอะครับของแท้ไม่แพง

    หลวงปู่ทิม เราท่านย่อมทราบกันดีว่าท่าน สำเร็จอภิญญา ชั้นสูง พระที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูงนั้นการที่บรรจุพุทธคุณย่อมเป็นไปตามที่ท่านอธิฐานจิตใว้

    ซึ่งชุดที่ผมนำมาให้ชมนั้นจะมีอยู่ในที่ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม ครับ


    สร้อยประคำ 108 ที่ท่านเห็นในภาพพิพิธภัณฑ์นั้นก่อนที่บริจากมานั้นมีคนให้ราคาบูชากันอยู่หลัก ล้าน บาทแต่เจ้าของไม่ขายให้ แต่นำมาบริจากให้ลูกหลานไว้ศึกษา เป็นพระคุณยิ่งๆ

    ขอขอบพระคุณภาพต่างๆจากพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม มาจากคุณ panda ขอบพระคุณครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]





    บารมีของหลวงปู่ทิม

    คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ
    พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518

    จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

    บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

    มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

    ยิงไม่ถูก

    มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

    ยิงไม่เข้า

    มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

    น้ำมนต์เดือด

    เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

    แคล้วคลาด

    นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

    ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต

    เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

    เสกตะกรุดใต้น้ำ

    คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

    เสกตะกรุดลอย

    ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง

    อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม

    แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยปิดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

    หลวงปู่ทิมเป็นพระที่สร้างของยาก

    มีผู้ไปขอสร้างของเสมอ แต่ถูกปฏิเสธไปเกือบทุกราย ท่านบอกว่าท่านไม่เก่ง แต่นับเป็นการประหลาดมากเมื่อครั้งที่คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องไปกราบนมัสการและขออนุญาตท่านสร้างพระเครื่องเพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญท่านอนุญาตให้โดยดี ทั้งๆ ที่ตัวผู้ขอสร้างเองยังหนักใจเรื่องทุนที่จะนำมาลงทุนสร้างซึ่งต้องใช้เงินหลายแสนเพราะมีการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พราะสังกัจจัยและพระปิดตาถึง 4 รายการด้วยกัน แต่หลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า "ทำไปเถิดและจะสำเร็จเอง" ถึงปรากฏเป็นเรื่องจริงขึ้น บรรดาทุนรอนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายให้ช่างหล่อกันก็มีลู่ทางและได้มาอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ หลวงปู่ทิมท่านพูดว่า "เป็นการสร้างของลูกศิษย์แท้ๆ และเงินทองจะไหลมาเทมา" หลวงปู่ทิมจึงอนุญาตให้คุณชินพรและคุณอารมย์ ทับสุวรรณ ครอบครูเป็นศิษย์ของท่านได้ทั้งๆ การจะครอบครูเป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่ทิมนั้นนับว่ายากมาก ศิษย์ที่จะได้รับครอบครูต้องปรนนิบัติรับใช้เป็นเวลาหลายๆ ปีจึงจะครอบครูให้


    เรื่องจากคุณธงชัย อุดมความสุข

    ตะกรุด 3 กษัตริย์

    นับเป็นยอดตะกรุดมหานิทรา ยิงไม่ออก ถ้านำไปแขวนไว้ที่เสาหมอจะสะกดคนในบ้านให้หลับไหลหมด ขึ้นหยิบทรัพย์สินได้และดูเหมือนจะประสบกับโยมวัดผู้หนึ่ง เสียของเกือบหมดบ้านเพราะนอนไมรู้สึกตัวเลย เนื่องจากเอาตะกรุด 3 กษัตริย์ไปแขนไว้ที่เสาหมอกลางบ้าน หลวงปู่ทิมทราบเรื่องจึงไม่คิดจะทำอีก

    อาของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่านางเอี้ยน เกสารัตน์ เสมียนประจำสำนักงานสหกรณ์ระยองไปขอตะกรุด 3 กษัตริย์จากหลวงปู่ทิม พอได้มาก็เอากลัดไว้กับเสื้ออย่างมั่นคง พอลากลับหลวงปู่ทิมถามว่าตะกรุดยังอยู่ดีหรือ? นางเอี้ยนก็ตอบว่าอยู่ค่ะ หลวงปู่หัวเราะแบมือให้ดู ปรากฏว่าตะกรุดอยู่ในมือหลวงปู่ทิม นายเอี้ยนหันมาดูที่เสื้อไม่พบตะกรุดก็ตกใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าหลวงปู่ทิมทราบดีว่านางเอี้ยนไม่ค่อยเชื่อถือท่านเท่าใดนัก จึงลองให้ดู ตะกรุด 3 กษัตริย์ของท่านนี้เล่ากันว่าเอาปืนยิงใส่บ้านยังไม่ออกเลย ไปยิงลิงยิงค่างถ้าเอาตะกรุดไปด้วยก็จะทำให้ยิงไม่ออกเช่นกัน


    เรื่องจากคุณชินพร สุขสถิตย์

    ปลาของหลวงปู่ทิม

    ช่างมงคล นาคแทน ผู้รับเหมาสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งคุณมงคลได้มาที่วัดเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง หลวงปู่ได้เรียกเข้าไปหาและสั่งว่าได้ขอร้องไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับปลาในสระแล้วทำไมลูกน้องจึงเข้าไปยุ่งอีก ขอให้ช่วยไปตักเตือนสั่งสอนด้วย คุณมงคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้หลายหนแล้วว่าให้กำชับคนงานอย่าให้ไปยุ่งกับปลาในสระน้ำ คุณมงคลจึงกลับไปที่พักคนงานและเรียกลูกน้องมาด่าทุกคน แล้วถามว่าใครไปจับปลาของหลวงปู่ ซึ่งทุกคนปฏิเสธ คุณมงคลจึงไปหาหลวงปู่อีกและออกรับแทนลูกน้องว่า ไมมีลูกน้องคนใดไปยุ่งเกี่ยวกับปลาของหลวงปู่เลย หลวงปู่ทิมจึงว่า "ไอ้คนดำมืดยังไง" คุณมงคลก็กลับไปใหม่ และไปเรียกนายดำซึ่งมีผิวกายดำมะเมื่อมอยู่คนเดียวมา และบอกว่า "หลวงปู่บอกว่าลื้อไปจับปลาของท่านมาจริงหรือเปล่า" นายดำได้ยินก็ตกใจพูดกับช่างมงคลว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรก็ผมไปแอบจับตอนตี 1 แล้วนี่ครับ

    เกี่ยวกับปลานี้

    คุณเพรียรวิทย์ จารุสถิติศิษย์ก้นกุฏิของท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงวันดีคืนดี หลวงปู่จะเดินลุยน้ำลงไปในสระ คลี่ชายจีวรออก จับกางสองมือแล้วช้อนปลาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง มีปลาเข้ามาขังอยู่ที่ชายจีวรแน่นไปหมด คุณเพียรวิทย์บอกว่าหลวงปู่ใช้มนต์จินดามณีเรียกปลามาหา

    เรื่องจากคุณ พ.เด็กวัด..หลวงปู่ทิมของผม

    สมัยที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม ท่านกำหนดจิตยกมือพนมเหนืออก ข้อศอกคู้แนบติดกับลำตัวย่างเท้าก้าวเดินอยางช้าๆ กำหนดเดินไปข้างหน้าเก้าสิบเก้าก้าว และกันหลังกลับถอยไปอีกเก้าสิบเก้าก้าว บริเวณที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม บริเวณที่เดินจงกรมนี้ต้นหญ้าไม่กล้างอกขึ้นมา แต่แปลกที่สุด ไม่ว่าพวกมดหรือสัตว์สี่เท้าใดๆ ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้น จะต้องเดินอ้อมพ้นเขตบริเวณจงกรม

    คาถาของหลวงปู่ทิม

    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
    หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

    พัดโบกหลวงปู่ทิม

    ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2517 ได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมบริเวณวัด ขณะนั้นหลวงปู่ทิมนั่งฟังเสียงน้ำหลากอยู่หน้าห้องของท่านพลันลุกขึ้นเข้าห้องหยิบผ้ายันต์ผืนสี่เหลี่ยม ถือเดินออกไปยังหอฉันเก่า ซึ่งผู้เขียนเกรงว่าจะถูกน้ำพัดพาไปด้วย หลวงปู่ท่านยืนเสกผ้าผืนนั้นซักอึดใจหนึ่งท่านก็โยดผ้าผืนนั้นลงไปตามกระแสน้ำ ผ้าผืนนั้นก็ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วท่ามกล่างคนงานที่ได้ช่วยกันเก็บเครื่องครัวอยู่บนวัดโดยไม่ทราบว่าหลวงปู่ได้ทำอะไร สักครู่หนึ่งทุกคนต่างตะลึงได้เห็นผ้าผื้นนั้นไหลทวนน้ำขึ้นมาหาหลวงปู่โดยหอบเอาอะไรมาสิ่งหนึ่ง หลวง ปู่ได้หยิบผ้าผืนนั้น ปรากฏมีลูกไก่เล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งอยู่ในอุ้งมือ ท่านเอามือลูบไล้ไปที่ลูกไก่สีขาวคู่นี้ด้วยความปราณีอย่างเมตตา



    บัตรการันตีจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ท่านใดที่มีความต้องการ ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม/เม็ดประคำผงพราย/ตะกรุดสาริกา

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี

    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ

    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน

    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"

    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ

    จากเพื่อนๆสอบถามกันมาครับ

    จากเพื่อนๆหลายๆท่านได้สอบถามมาว่า ผมมีเก็บแบบที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกใหมในราคาเบาๆแต่ออกวัดอื่น

    ผมขอเสนอครับ ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก

    ค่านิยมยังไม่แรงครับที่มาชัดเจน อนาคตดีมากเป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือครับ




    โทรสอบถามราคาบูชาได้ครับ 0827893576




    ขอบคุณมากครับ



    ........." บัญชีในการโอนและจองพระที่บูชา ".........
    - นาย กัณฐกะ ผดุงชอบ (เล็กทับน้ำ) 45 หมู่ที่ 4 ตำบททับน้ำ อำเภอบางปะหัน จังหวัดอยุธยา 13220

    - ธนาคาร ไทยพาณิชย์ 1222285288 สาขาถนนสิรินธร ออมทรัพย์

    (ตามชื่อและที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้ครับ)
    บัญชีโอนมาจากต่างประเทศ

    MR.Kanthaka Padungchob
    siam Commercial Bankpublic Company Limited
    สาขา ถนนศิรินธร

    เลขบัญชี (account No) 1222285288

    swife code. SICATHBK

    - สนใจสอบถามบูชาได้ 0827893576


    ลูกอมผงพรายกุมารที่มีความนิยมเล่นหาอันดับที่ 1

    [​IMG]

    ให้บูชาที่ 15000 บาท


    ลูกอมผงพรายกุมารที่มีความนิยมเล่นหาอันดับที่ 2


    [​IMG]

    ให้บูชาที่ 9000 บาท



    ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก

    ลูกอม วัดโพธิ์ สัมพันธ์ นาเกลือ บางละมุง จ.ชลบุรี เนื้อผสมผงพรายกุมาร พิธีปลุกเสก โดยมี ลป.ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ,ลป.โตะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ลป.คร่ำ วัดวังหว้า, ลป.ม่น วัดเนินตามาก และยังมีพระเกจิอาจารย์อื่นๆอีกมากที่เข้าร่วมปลุกเสกในพิธีนี้

    ราคาเบาๆสำหรับผู้ที่เคารพหลวงปู่ทิม ของแท้ๆที่ค่านิยมยังไม่แรงเพราะออกที่วัดอื่น มิใช่ออกที่วัดระหารไร่ ที่ผมเคยกล่าวไว้ครับว่า "มาตรฐานในการเล่นหา"

    ขอมอบให้บูชาแบ่งๆกันไว้บูชาครับ มีจำนวนไม่มาก

    ลูกอมผงพรายกุมาร ออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิม และหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก บูชาที่ 940 บาท ครับ


    ลูกที่ 1 ชุดที่ 3

    [​IMG]


    ลูกที่ 2 ชุดที่ 3

    [​IMG]


    ลูกที่ 3 ชุดที่ 3

    [​IMG]


    ลูกที่ 4 ชุดที่ 3

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2011
  15. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    พระผงกัมมัฏฐาน พิมพ์บัวข้าง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

    [​IMG]

    [​IMG]

    รับประกันแท้ เพราะเก๊มากเหลือเกิน

    บูชาที่ 1050 บาทครับ
     
  16. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852

    ปิดรายการนี้ครับ ขอบคุณครับ
     
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    หลวงพ่อฤาษี พิมพ์ขี่ปลา/ไก่/เม่น รุ่น สู่มาตุภูมิ ปี 2533 รวม3 องค์ (สำหรับผู้สะสม)


    [​IMG]

    [​IMG]


    พิเศษบูชาที่ 1050 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2011
  18. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852

    ปิดรายการนี้แล้วครับ แรงจริงๆ ขอบคุณครับ
     
  19. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    กริ่งไพรีพินาศ บัวแหลม วัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมกล่อง

    กริ่งไพรีพินาศ (บัวแหลม) วัดบวรนิเวศวิหาร พระกริ่งไพรีพินาศนั้นเป็นพระที่มีศิลปะที่งดงามและพุทธคุณสูง ขออ้างอิงประวัติให้ท่านศึกษาดูครับ เมื่อราว พ.ศ. 2391 มีผู้นำมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ซึ่งขณะนั้นยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และอยู่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าอเจ้าอยู่หัว พระไพรีพินาศองค์นี้ทรงแสดงอภินิหารให้ปรากฏอริราช ศัตรูที่คิดปองร้าย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต่างมีอันเป็นไป และพ่ายแพ้ภัยตนเอง พระองค์จึงโปรดให้ถวาย พระนามของพระพุทธ รูปองค์สำคัญนี้ว่า "พระไพรีพินาศ" โดยมีหลักฐานเป็นกระดาษพับสอดไว้ใต้ฐานมีอักษรเขียนว่า "พระสถูปเจดีย์ศิลาบัลลังก์องค์ จงมีนามว่าพระไพรีพินาศ ตตเทอญ" และอีกด้านเขียนว่า "เพราะตั้งแต่ทำมาแล้ว คนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ" หลักฐานดังกล่าวได้ค้นพบเมื่อวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ระหว่างซ่อมแซมพระเจดีย์ 96 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร พระไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งที่วัดเปิดโอกาสให้ขึ้นไปสักการบูชาไม่บ่อยครั้งนัก ท่านที่ไม่เคยไปกราบไหว้ หากมีโอกาสควรอย่างยิ่งที่จะได้ไปชมพุทธลักษณะของพระองค์จริงสักครั้งหนึ่ง จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หากใครคิดร้ายต่อเราก็จะได้เปลี่ยนใจมาเป็นมิตร เพราะ พระไพรีพินาศ ไม่ใช่แต่จะทำให้ ไพรีพินาศ แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่มีพุทธคุณทางด้าน เมตตามหานิยม อีกด้วย

    [​IMG]

    บูชาเบาๆที่ 750 บาทครับ
     
  20. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852

    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบคุณครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...