ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ข้าพระองค์ยังระลึกถึงพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมไม่มีเสื่อมคลาย

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

 

แจ้งข่าวงานบุญ

วันที่ 5 พฤษภาคม 2554 ทางวัดชุมพลจะทำพิธียกช่อฟ้าใบระกาขึ้นประดิษฐานยอดพระอุโบสถ ตั้งแต่เช้า ไม่ทราบเวลาชัดเจน ถ้าทราบแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที

คุณพระราชมนูพาคุณแม่ไปร่วมอนุโมทนาบุญที่ได้สร้างถวายพระศาสนาในครั้งนี้ด้วยกันไหมคะ

งานผ้าป่าสามัคคีครั้งก่อนได้เกินเป้าหมายคือได้ปัจจัยเกินหนึ่งล้านบาท (คาดไว้ในเบื้องต้นว่าคงจะได้สัก 4 - 5 หมื่นบาทแต่ในวันงานกลับได้เกินความคาดหมายไปมาก เพราะคณะผ้าป่ามาร่วมกันอีกหลายคณะในวันเดียวกัน) ทำให้งานซ่อมหลังคาพระอุโบสถ สร้างช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ สำเร็จลุล่วงไปในคราวเดียว ทางสายธาตุปลื้มใจกับบุญที่ร่วมกันทำถวายพระศาสนาได้สำเร็จสมบูรณ์ งานบุญวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ขอให้ผู้อ่านร่วมตั้งจิตอนุโมทนาในบุญนี้ด้วยกันนะคะ สาธุค่ะ

 

เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงไม่สามารถที่จะชักชวนให้สมเด็จพระพี่นางพระสุพรรณกัลยาเสด็จจากหงสาวดีกลับคืนสู่กรุงศรีอยุธยาได้แล้ว ครั้น
ได้ฤกษ์งามยามดีพระองค์จึงทรงกระทำพิธีหลั่งทักษิโณทกประกาศอิสระภาพ
หลุดพ้นจากขอบขันธสีมาของพม่า คืนสู่ความเป็นไทนับแต่นั้นมา

ตอนพระนเรศประกาศอิสรภาพที่เมืองแครงfficeffice" /><O></O>​

( วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๑๒๗ ปีวอก จุลศักราช ๙๔๖ )<O></O>​

<O></O>
เมื่อนั้นพระนเรศมีเจตนา ประกาศว่าลูกศิษย์มิผิดไซร้<O></O>
มาคิดร้ายเราก่อนให้ร้อนใจ แผ่นดินไทยต้องแตกแยกจากกัน<O></O>
พระราชไมตรีมีถึงสิ้นสุด เหล่ามนุษย์เดือดร้อนทุกตอนนั่น<O></O>
พระหัตถ์เทสุวรรณภิงคารสู่ลานพลัน เป็นธาราสุวรรณสู่ชั้นดิน<O></O>
ออกพระโอษฐ์ดำรัสแล้วตรัสว่า เทพเทวามีฤทธิ์ดุจเนรมิตสิ้น<O></O>
แม้อยู่สารทิศใดโปรดได้ยิน ทั้งองค์อินเทวาอย่าอาลัย<O></O>
พระเจ้าหงสาวดีไร้สุจริตธรรม มาก่อกรรมก่อเวรแก่เราไซร้<O></O>
ฝ่ายกรุงศรีขอแตกแยกออกไป ขาดจากกันทันใดสิ้นไมตรี<O></O>
พระประสงค์ด้วยเหตุเจตนา จะรักษาหมายมุ่งเพื่อกรุงศรี<O></O>
ประกาศยกทัพกลับหน้ามุขมนตรี พระมหาเถรท่านนี้ผู้มีใจ<O></O>
ครัวเรือนมอญสองพระยาผู้กล้านัก เขาจงรักภักดีร่วมหนีใช่<O></O>
ทั้งญาติโยมไม่ผิดสุจริตใจ ควรยกไปกรุงศรีอโยธยา<O></O>

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 33 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 32 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>จงรักภักดี* </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ระหว่างทางเคลื่อนทัพจากเมืองแครงกลับสู่กรุงศรีอยุธยา

ตอนกองทัพสยามยกทัพข้ามแม่น้ำสะโตงfficeffice" /><O></O>​

( วันศุกร์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๑๒๗ ปีวอก จุลศักราช ๙๔๖ )<O></O>​

<O> </O>​

พระเตรียมการเสด็จพร้อมเสร็จสรรพ ทั้งกองทัพละลานทหารกล้า<O></O>
ประทับที่เกยพระสำราญอุรา แสงส่องมาสุกสว่างกระจ่างใจ<O></O>
ดวงสว่างเคลื่อนคล้อยแล้วลอยผ่าน ทรงซาบซ่านภายในพระหทัยไซร้<O></O>
จากประจิมสู่บูรพาผู้กล้าไทย แล้วหายไปวาววับงามจับตา<O></O>
เมื่อนั้นกองทัพใหญ่โตสุดโอฬาร ขุนทหารเก่งครบนักรบกล้า<O></O>
ออกเดินทางแต่วันพากันมา ถึงถิ่นท่าแม่น้ำจะข้ามไป<O></O>
กองการจัดหาเรือมาเพื่อข้าม ต่อเรืองามร่างแหเป็นแพใหญ่<O></O>
ให้กองทัพแบกหามเดินข้ามไป ถึงทันใดไม่รอเดินต่อไป<O></O>
อันเรือแพลอยน้ำส่งข้ามนั่น ให้เผามันทำลายให้หายไซร้<O></O>
สิ้นประโยชน์หนุนลอยจะคอยใคร ถ้าเขาใช้ต่อมาจะฆ่ากัน
<O></O>
<O></O>

ตอนกองทัพพม่ายกทัพตามมาทันที่แม่น้ำสะโตง<O></O>​

<O></O>​

เมื่อนั้นฝ่ายหงสาเสียหน้านัก ถูกมอญหักศักดิ์ศรีเสียทีนั่น<O></O>
เอาความลับไปเล่าอย่างเมามัน จะเข่นฆ่าอาสัญให้มันตาย<O></O>
พระมหาอุปราชาจงมานี่ จัดให้ดีตามตีห้ามหนีหาย<O></O>
พลหนึ่งแสนไปสู้ลูกผู้ชาย เดินเรียงรายยกไปตามให้ทัน<O></O>
สุรกำมาผู้น้องเป็นกองหน้า ความเก่งกล้าหน้าหล่อแต่คอสั้น<O></O>
ให้ขี่ช้างพลายใหญ่บรรลัยกัลป์ มันดุดันเข้าท่าชอบท้าชน<O></O>
ยกทัพใหญ่เพลิดเพลินแล้วเดินมา จากหงสาทันใดได้ไกลพ้น<O></O>
ถึงทันใดเมืองแครงเสียดแทงคน ทำปี้ป่นสองพระยาอยากฆ่ามัน<O></O>
ไอ้มหาเถรตัวดีก็หนีไป มอญจังลัยผ้าเหลืองช่างเปลืองนั่น<O></O>
ทำลายแผนขุนนางปิดทางตัน นี่ปืนสั้นเป็นต่อพ่อให้มา<O></O>

 

ฝ่ายพม่าก็จัดทัพไล่ติดตามมา มาทันกันกับทัพหลังของไทยที่บริเวณแม่น้ำสะโตง สมเด็จพระนเรศวรทรงพระแสงปืนต้นยิงไปถูกสุรกำมา (สุรกรรมา)แม่ทัพพม่าสิ้นชีวิต

ตอนพระนเรศยิงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงfficeffice" /><O></O>​

<O></O>
เมื่อนั้นพระนเรศทราบเหตุการณ์ ทัพทหารจอมยุทธเก่งสุดหล้า<O></O>
กำลังยกประชิดตามติดมา รอเวลาข้ามเสร็จสำเร็จกัน<O></O>
อันไพร่พลเป็นห่วงไปล่วงหน้า เขาจะฆ่าของจริงเขายิงนั่น<O></O>
เราจะอยู่รอท่าดูหน้ามัน แม้สวรรค์ส่งมาอาจปราชัย<O></O>
ฝ่ายหงสามาถึงตะลึงลาน ขุนทหารสิ้นเรือทุกเมื่อไซร้<O></O>
หมดสิ้นวิธีส่งข้ามจึงถามไป เอาอย่างไรท่านสุรกำมา<O></O>
ฝั่งตรงข้ามไทยมอญนั่งนอนอยู่ มองก็รู้ดาษดื่นน่าหมื่นห้า<O></O>
มีแพใหญ่ลอยน้ำจะข้ามมา พระนเรศนี่นาตั้งท่ายิง<O></O>
สุรกำมาใส่เสื้อแดงมีแรงฤทธิ์ ตัวน้อยนิดระวังก็นั่งนิ่ง<O></O>
ปืนนกสับขึ้นตั้งแล้วนั่งยิง กระสุนวิ่งดิ่งมาลงวารี<O></O>
ฝ่ายมอญไทยไชโยเสียงโห่ร้อง ดังกึกก้องสามลาโห่ฮานี่<O></O>
ฝ่ายพระแสงปืนฝรั่งความหวังมี จัดเข้าที่ตามสั่งแล้วตั้งยิง<O></O>
พระตั้งศูนย์ขึ้นเพ่งแล้วเล็งไป สายตาไวห้ามดังพระสั่งนิ่ง<O></O>
สมาธิตั้งแน่วแน่ของแท้จริง พร้อมจะยิงไปนั่นแล้วลั่นไก<O></O>
เสียงดังเปรี้ยงจากปืนน่าชื่นจิต ไม่มีผิดเสียงก้องร้องว่าใช่<O></O>
สุรกำมาดับดิ้นถึงสิ้นใจ ล้มลงไปหนักหน่วงร่วงลงดิน<O></O>
ฝ่ายหงสาเสียหายละอายนัก จอมอัศดงทรงศักดิ์ถูกหักสิ้น<O></O>
อยากกราบทูลพ่อไปให้ได้ยิน น้ำตารินแจ้งทัพจงกลับไป<O></O>
ถึงเมืองแครงแล้วหนอหน้างอนัก ถูกหาญหักมหาเถรตัวเวรใหญ่<O></O>
อยู่ในศีลก่อกรรมยุ่งทำไม พากันไปใหญ่โตอโยธยา<O></O>
แล้วพักทัพกระเดื่องในเมืองแครง แสงร้อนแรงคิดไปมิใช่ท้า<O></O>
พระนเรศเก่งนักอวดศักดา ใยมิกล้าตอแยพ่อแม่กู<O></O>
<O></O>

 

ที่ผ่านตาท่านทั้งหลายไปแล้วนั้น เป็นบทขับเสภาของท่านพลตรี พิจิตร ขจรกล่ำ ที่คัดเลือกบางตอนมาฝากกัน ครับ

ส่วน VDO ข้างล่างนี้คัดลอกมาจากโพสของคุณทางสายธาตุ และเพลงประกอบก็เป็นผลงานของ
คุณ กัญญนัทธ์ ศิริ คงจำกันได้ ขอขอบคุณทั้งสองท่านที่ได้เอ่ยนามมาแล้ว ด้วยนะครับ


<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/-6UNVOXFuSQ&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

 

กองเรือราชบรรณาการจากสยามประดับธง "อีกาดำ" หรือน่าจะเป็นธง "ครุฑดำ" หรือสัตว์ชนิดที่มีปีกที่เป็นมงคล น่าจะเป็นสัตว์ที่เป็นมงคลมากกว่า ครุฑพาหนะของพระนารายณ์ สัญญลักษณ์แห่งพระมหากษัตริย์สยาม ถ้าหาหลักฐานได้ว่า "black crow flag" คือธงครุฑดำจริงน่าจะหาข้อมูลที่น่าสนใจได้อีกทางหนึ่ง สักวันอาจจะมีโอกาศรู้ในรายละเอียดเรื่องนี้ก็ได้ค่ะ รอให้ถึงวันนั้น

ท่านพลตรีพิจิตรนี้ท่านเก่งทางกลอนนะคะ สังเกตได้จากบทกลอนที่ท่านแต่ง แต่งไว้เป็นเล่มๆ หลวงพ่อสิงห์ทนแจกบทกลอนของท่านพลตรีพิจิตรมาให้หนึ่งเล่ม แต่งเก่งจริงๆค่ะ

 

ขอให้กระทู้ดำเนินไปเรื่อยๆ นะค่ะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรักพระองค์ พระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินไทยมีหลายพระองค์ ข้าพเจ้าจงรักภักดี เทิดไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมทุกๆพระองค์
แต่สิ่งหนึ่งที่มีต่อพระองค์เจ้าเหนือหัวผู้ชนะเหนือหงสา คือความรักความผูกพันธ์อย่างบอกไม่ถูกไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ถ้าในอดีตชาติเคยเป็นผู้รับใช้เบื้องพระบาทจะดีใจอย่างล้นพ้น เป็นบุญของลูกเหลือเกิน

 

ขออนุโมทนากับความรู้สึกที่ดีๆเหล่านี้ของน้องจุ๊บค่ะ

 

"พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" ยังมีอยู่ไหม

ข้อมูลจากกระทู้ในพันทิพย์

 

คำขอของคุณน้องจุ๊บเป็นสิ่งที่มีค่าและเป็นแรงใจให้เรา ต้องขอขอบคุณไว้
ณ โอกาสนี้ด้วย เราขอยืนยันในสิ่งที่เราได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่เริ่มกระทู้นี้ครับ
เริ่มตั้งแต่ชื่อของกระทู้ก็ได้บ่งบอกเจตนาและความมุ่งหมายไว้ชัดเจนเป็นปฐมบท หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องที่ขอทำความเข้าใจกันซึ่งเปรียบเหมือนกติกาหรือ
อาจกล่าวได้ว่าเป็นประหนึ่งธรรมนูญของกระทู้นี้ ขออนุญาตคัดลอกมาแสดงกันอีกครั้งนะครับ....

ต่อแนวทางของท่านผู้บัญชาการทหารบกที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ที่จะช่วยกัน ปกป้องและเทิดทูนสถาบัน กระทู้ "ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ขอน้อมรับและยินดีให้ความร่วมมือในทุกๆวิถีทางภายในขีดความสามารถ

เพื่อความรอบคอบและสอดคล้องกันในแนวทางดังกล่าวแล้วถือเป็นโอกาสและจังหวะอันดี
ที่จะปรับปรุงแก้ไขและเพิ่มเติมกติกาและข้อตกลงจากเดิม...

ท่านได้ยอมรับและมีความเข้าใจในกติกาและข้อตกลงพื้นฐานดังต่อไปนี้:

-เป็นศูนย์รวมสำหรับผู้ที่มีความจงรักภักดีและเคารพเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า และสถาบันพระมหากษัตริย์
-ไม่มีวัตถูประสงค์แอบแฝงอื่นใด
-โปรดแสดงข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะที่สุภาพ งดเว้นการใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย ฯลฯ -ข้อความหรือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอได้โปรดใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและเทิดทูน
-เจ้าของกระทู้จะไม่รับผิดชอบข้อความใดๆที่พาดพิงเบื้องสูงและ/สถาบัน
-ท่านจะต้องปฏิบัติตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อย่างเคร่งครัด
-การหมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ มีความผิดตาม มาตรา 14 แห่ง พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
--จะร่วมมือกันปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
-ความคิดเห็นต่างๆ บนกระดานข่าวเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน

-ขอสงวนสิทธิในการที่จะเพิ่มเติมกติกาและข้อตกลงเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ขอรองบาทราชวงศ์พงศ์จักรีจนชีวีสูญสิ้นดินกลบกาย<!-- google_ad_section_end -->

(หน้าที่ 145 บทความที่ 2887 ของกระทู้เดียวกันนี้)


ส่วนบางสิ่งบางอย่างที่คุณน้องจุ๊บยังบอกกล่าวไม่ถูกและยังไม่รู้นั้น ก็คงเป็น
เช่นเดียวกันกับหลายๆท่านทั้งผู้อ่านและผู้เขียนในกระทู้นี้เมื่อก่อนหน้านี้ และ
แล้วก็สามารถพบคำตอบได้ด้วยตนเอง ลองย้อนกลับไปอ่านกระทู้นี้ตั้งแต่ต้น
นะครับ ?

 

ขออนุญาตอ้างอิงคุณน้องจุ๊บอีกครั้ง

"ข้าฯรัก องค์เหนือหัวผู้ชนะหงสา<!-- google_ad_section_end --> "

ลายเซ็นของคุณน้องจุ๊บนี้โดนใจกันตั้งแต่เริ่มโพสเข้ามาครั้งแรก ผมเคยเดาพระทัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าไว้ว่า พระองค์มีพระราชปณิธานที่จะบุก
หงสาวดีเพื่อลบรอยแค้นที่ฝังแน่นในพระราชหฤทัย พูดง่ายๆว่าจะต้องเอาชนะ
หงสาวดี จะต้องเป็นผู้พิชิตหงสาวดีให้ได้ แล้วพระองค์ท่านก็ทรงสามารถกระทำได้สำเร็จตามพระราชปณิธาน ขอยืมข้อความในลายเซ้นของคุณน้องจุ๊บ
มากล่าวแสดงไว้ ตรงนี้อีกครั้งว่า....

ข้าฯรัก องค์เหนือหัวผู้ชนะหงสา

 

ไกปืนของพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงเป็น ครุฑดำ

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>


เมื่อให้ความสนใจในเรื่องนัยของความหมายของธงครุฑดำ ทำให้สังเกตุว่า ไกปืน ของพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง องค์จำลองนี้ ที่สร้างจำลองจากองค์จริง ไกปืน เป็น ครุฑดำ

อีกทั้งมีลวดลายมงคลจีนและมงคลไทยประดับผสมผสาน น่าสนใจว่าปืนฝรั่ง ถ้าใช้ลวดลายประดับแบบไทยอย่างเดียวก็ไม่แปลก แต่เมื่อมีการผสานลวดลายมงคลจีนเข้าไปด้วย ทำให้น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความเกี่ยวข้องของบุคคลต่างๆในการสร้างพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงองค์นี้ถวายองค์เหนือหัวพระองค์ดำมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเราชาวไทย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

น้องจุ๊บดีใจค่ะ ที่คำขอมีค่าและเป็นแรงใจให้ ขอบคุณสิ่งที่มีค่ามากนี้เช่นกันค่ะ ยอมรับกฎ กติกา ข้อตกลงพื้นฐานที่วางไว้ทุกข้อโดยดุษฎีค่ะ จะค่อยๆอ่านข้อความในกระทู้ให้หมดบางครั้งกระโดดไปข้ามหน้าก็มีอย่างเช่น ลักษณะมหาบุรุษ 1-40 หน้า98-99 ได้อ่านแล้ว ชื่นชมพระปรีชาสามารถของพระองค์อย่างสูงมาก ซึ่งพระองค์ท่านมีอยู่ทุกข้อ และจะนำแบบอย่างมาปรับใช้ในการทำงานและการดำรงชีวิตค่ะ ปัจจุบันรับราชการอยู่ที่แปดริ้วค่ะ ไม่ใช่ทหารค่ะ แต่ลักษณะงาน ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการทำงานควบคู่กันไป

 

ขออนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ " สองคนยลตามช่อง..."

 

วันนี้วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2554 เป็นวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรสของ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ



ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรำลึกถึงด้วยความจงรักภักดี ขอทั้งสองพระองค์

จงทรงพระเกษมสำราญ สถิตย์เป็นมิ่งขวัญของเหล่าประชาชาวไทยชั่ว

กาลนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ




<TABLE id=post3241455 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>28-04-2010, 06:53 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1838 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->จงรักภักดี<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3241455", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 1,070
พลังการให้คะแนน: 262





</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3241455 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>6 ทศวรรษ...พระคู่ขวัญแห่งแผ่นดิน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 เมษายน 2553 06:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>






</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>











ขอทั้งสองพระองค์จงทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
















</TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นับจากวันที่ 28 เม.ย.2493 จวบจนวันนี้ ยาวนานมาถึง 60 ปีแล้ว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงครองคู่พระบารมี สถิตย์เป็นพระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย

เรื่องราวความรักของทั้งสองพระองค์ เป็นที่ทราบดีของปวงชนชาวไทย รวมไปถึงผู้ที่ได้มีโอกาสรับทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์มาจนถึงทุกวันนี้

ย้อนกลับไปในวันมหาประชาปีติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 วันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสเหมือนจะประกาศก้องให้คนไทยทั้งแผ่นดิน ได้ร่วมชื่นชมในความรักของพระมิ่งขวัญทั้ง 2 พระองค์

ในช่วงเช้าเมื่อได้เวลาพระฤกษ์เวลา 09.30 น.พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสได้เริ่มขึ้น ณ พระตำหนักของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม เริ่มจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมุดทะเบียนสมรส

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย จากนั้นพระคู่หมั้น หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ลงนามในสมุดทะเบียนสมรส โดยมี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระราชปิตุลา และ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ลงพระนามและลงนามเป็นราชสักขีพยาน พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในครั้งนั้น นับว่าเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ไทยในยุคประชาธิปไตย ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยทั่วไป
............



Manager Online











</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ขอรองบาทราชวงศ์พงศ์จักรีจนชีวีสูญสิ้นดินกลบกาย<!-- google_ad_section_end -->



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

บทเพลงพระราชนิพนธ์ เทวาพาคู่ฝัน

ประวัติเพลงพระราชนิพนธ์ “เทวาพาคู่ฝัน” “DREAM OF LOVE DREAM OF YOU”

เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลีลาวอลทซ์อีกเพลงหนึ่ง ที่ทรงพระราชนิพนธ์ต่อจากเพลงพระราชนิพนธ์ “อาทิตย์อับแสง” และโปรดเกล้าฯให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงประพันธ์คำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากบันทึกส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้แสดงถึงเจตนารมณ์ที่ทรงประพันธ์คำร้องเพลง “อาทิตย์อับแสง” และ “เทวาพาคู่ฝัน” ว่าในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มรู้จักชอบพอกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเมื่อครั้งยังทรงเป็น ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร อยู่นั้น ต่างประทับห่างไกลกัน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับตากอากาศอยู่ที่เมือง Davos ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับอยู่ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อต้องทรงจากกันก็เปรียบเหมือน “อาทิตย์อับแสง” และในพระราชหฤทัยของทั้งสองพระองค์ก็คงทรงหวังให้ “เทวาพาคู่ฝัน” มาให้ จึงทรงประพันธ์คำร้องเพลงทั้งสองนี้ถวาย
เทวาพาคู่ฝัน

ช่างงามทัศน์ทิวเขตคามงดงามน่าดู ทั้งมวลล้วนมีเป็นคู่ชิดชูเชยชมรมย์รื่น​

แต่ฉันดวงใจผูกพันใฝ่ฝันทุกคืน เฝ้าปองเคียงครองคู่ชื่นให้รื่นเริงใจ
โลกนั้นดังเมืองสวรรค์เทวัญสร้างไว้ พิศดูเป็นคู่ทุกสิ่งล้วนมีรักจริงยิ่งใหญ่
อันธรรมชาติไซร้ ใช้แรงความรักความใคร่ย้อมชีวิตให้ยืนยง

อยู่เดียวเปลี่ยวใจหทัยใฝ่ฝัน เดชกามเทพพันผูกใจให้หลง
แม้เคยทำคุณบุญส่ง ฟ้าคงปรานีดีอยู่
โปรดจงประทานความเอ็นดู ให้มียอดชู้เป็นคู่ชูใจ

จวบวันทิวาเฉิดฉันตะวันสดใส ฟ้าดลบันดาลรักให้สมดังดวงใจมุ่งมั่น
เฝ้าวอนพระทรงเสกพรไหว้วอนทุกวัน โศกทรวงดวงใจอัดอั้นตื้นตันอุรา
จวบวันราตรีเฉิดฉันดวงจันทร์แจ่มฟ้า พบความรักดังใจมั่นเหมือนเดือนตะวันกลางหล้า
สมพรจากฟ้า พระทรงประทานปวงข้า ชีวิตในหล้ายืนยง

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=t9PFwOQTE0M&feature=player_embedded#at=50]YouTube - ธีรนัยน์ ณ หนองคาย เทวาพาคู่ฝัน[/ame]​

 

รักแรกพบ...ของในหลวง กับ พระราชินี

ข้อมูลจากกระทู้ในคลังปัญญาไทย

​

..... ย้อนหลังไป ปี พุทธศักราช ๒๕๒๑
ปี ๒๕๒๑ ที่ ..... สมเด็จพระนางเจ้าฯ ..... พระราชทานสัมภาษณ์ในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง "ขวัญของชาติ"ออกเผยแพร่ .....ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชทานสัมภาษณ์ถึง ..... "รักแรกพบ" มีความตอนหนึ่งว่า .....

สำหรับ ..... ข้าพเจ้าเป็นการ "เกลียดแรกพบ" มากกว่า "รักแรกพบ" เนื่องเพราะ...... "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" รับสั่งว่า จะเสด็จถึงเวลาบ่าย ๔ โมง แต่ ..... จริงแล้วเสด็จมาถึง ๑ ทุ่ม ช้ากว่านัดหมายตั้ง ๓ ชั่วโมง ทรงทำให้ข้าพเจ้าต้องซ้อม ถอนสายบัวอยู่ จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการ "เกลียดเมื่อแรกพบ" มากกว่า "รักเมื่อแรกพบ"

ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนว่า พระองค์ท่านทรง "รักข้าพเจ้า" เพราะเวลานั้นอายุเพิ่งย่าง ๑๕ ปี ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักเปียโน เป็นนักเปียโนที่แสดงในงานคอนเสิร์ต ตอนพระองค์ท่านประทับที่โรงพยาบาล หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีพระอาการหนักมาก ตำรวจเขาโทรศัพท์ไปกราบบังคมทูล สมเด็จพระราชชนนี พระองค์ท่าน ..... รีบเสด็จไปทันที

แต่แทนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระราชปฏิสันถารกับพระองค์ท่าน กลับทรงหยิบรูปข้าพเจ้าออกมาจากกระเป๋า โดยที่ข้าพเจ้าไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าพระองค์ ..... ทรงมี "รูปของข้าพเจ้า" อยู่ แล้วพระองค์ ก็ตรัสให้นำตัวข้าพเจ้าเข้าเฝ้า พระองค์ทรงรักข้าพเจ้า

ตอนนั้นข้าพเจ้าคิดถึงแต่เรื่อง "ที่จะอยู่กับคนที่ข้าพเจ้ารักเท่านั้น" ไม่ได้ ..... นึกไปไกลถึง หน้าที่ และ ภารกิจ ของพระราชินีเลย .....




<CENTER>

กุหลาบควีนสิริกิติ์</CENTER>
กุหลาบควีนสิริกิติ์ (Queen Sirikit Rose) เป็นกุหลาบดอกใหญ่สีเหลือง เมื่อต้องแสงอาทิตย์ปลายกลีบจะมีสีส้ม ดอกมีกลิ่นหอม บางครั้งกิ่งหนึ่งอาจมีถึง 3 ดอก

นายอองเดร อองดริก ผู้อำนวยการไร่กุหลาบกร็องด์ โรเซอเร ดู วาล เดอ ลัวร์ (Grandes Roseraies Du Val de Loire) แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ในฝรั่งเศส เป็นผู้ตั้งชื่อดอกกุหลาบชนิดนี้ ตามพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514

ในเอกสารของไร่บันทึกเรื่องราวไว้ว่า

"พระราชินีแห่งประเทศไทย ทรงพระสิริโฉมเป็นเสน่ห์แบบตะวันออกเหนือตะวันตก"

ขอทวยเทพทั้งผองปกป้องพระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ ขอพระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญ


ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

ขอทั้งสองพระองค์เจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดกาลนานเทอญ...

ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ


ข้าพระพุทธเจ้าข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว