หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ก็โมทนาบุญกะคุณลุงด้วยที่ได้ร่วมทำบุญใหญ่ แถมยังได้ของดีหายากมีแห่งเดียวที่พอจะเชื่อถือได้...มาเป็นของแถมไว้แจกลูกหลานเหลน เยี่ยมจริงๆ

 

ใต้ฐาน(ก้น)พระกริ่งปวเรศ...บางส่วนครับ
มี link หาองค์จริง

 

<TABLE id=threadslist class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY id=threadbits_forum_131><TR><TD class=thead colSpan=7><CENTER>กระทู้ทั่วไป</CENTER></TD></TR><!-- google_ad_section_start --><TR><TD id=td_threadstatusicon_231506 class=alt1> </TD><TD class=alt2> </TD><TD id=td_threadtitle_231506 class=alt1 title=""> หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน) (3 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
psombat
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 1,537, จำนวนอ่าน: 20,058">

วันนี้ 11:37 AM
โดย IT Man ​

</TD><TD class=alt1 align=middle>1,537</TD><TD class=alt2 align=middle>20,058</TD></TR></TBODY></TABLE>

สถิติบอร์ดแห่งนี้ขึ้นหลักสองหมื่นวันนี้(12 เม.ย.2554)ครับ...

 

เอางั้นเลยนะครับคุณอ๊อด

ไม่รู้ว่าคณะหลวงพี่สิทธิพร...ทางเหนือ(บวชอังคารที่ 5 เม.ย)
กับหลวงพี่เพื่อนผม...ทางอิสาน...จะเป็นไงบ้าง(บวชวันเสาร์ที่ 9 เม.ย)
ที่สำคัญท่านได้ปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์สายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยซี
ต้องบอกว่าท่านเน้นสายตรงจริง...สาธุ สาธุ สาธุ
ผมคิดว่าจะเดินทางไปภาวนาถวายท่านราว 23 เม.ย.นี้...

 

วันนี้มีพระกริ่งปวเรศเสด็จมาโปรดอีกหนึ่งองค์ ซึ่งมาเร็วเกินคาด เป็นพระเนื้อนวโลหะ (สัมฤทธิ์) บางแห่งสีขาวคล้ายเงิน บางแห่งสีเหลืองน้ำตาล องค์เล็กกว่าพิมพ์อื่นๆ ไม่มีโค๊ดเมล็ดงา (ดร.ณัฐชัย บอกว่าถ้าไม่มีโค๊ดหมายถึงมีช่างแต่งพิมพ์คนเดียว) ก้นเนื้อเงิน เสียงเม็ดกริ่งดังกลวงๆ ผมพยายามอธิษฐานจิตถามพระเบื้องบนว่าสร้างในปี พ.ศ. ใด แต่แปลกมากท่านไม่ตอบอะไร คงต้องรบกวนท่านแหน่ง ท่านสมบัติ หรือ ดร.ณัฐชัย ช่วยอีกแรงครับ แต่ตรวจสอบพลังแล้ว ท่านดึงมือหมุนไปข้างหน้าแล้วขึ้นบนเหนือศรีษะ คงจะเด่นด้านเมตตาและโชคลาภกระมัง

 

เมื่อวานได้คุยกับลูกศิษย์(นักศึกษา)และเป็นลูกศิษย์ธรรมด้วย เขาได้คุยถึงเรื่องหลวงปู่หงษ์ จังหวัดสุรินทร์(ถ้าจำไม่ผิด) ว่าเป็นพระอริยเจ้าอีกรูปหนึ่ง ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง เขาจะไปกราบท่านในวันที่ 14 เมษานี้ ขณะที่คุยกันมีจิตหนึ่งที่ผมเกิดอยากได้สิ่งมงคลของท่าน(กิเลสยังมี)ขึ้นมา ก็เลยอธิษฐานไว้
วันนี้ นอกจากจะได้อัญเชิญพระกริ่งปวเรศองค์ข้างบนแล้ว ยังมีพระสมเด็จวัดระฆังอีกจำนวน 7 องค์ รวมถึงพญาครุฑเนื้อเงินของหลวงปู่หงษ์อีกหนึ่งองค์(มาเร็วเกินคาดเช่นกัน) พญาครุฑองค์นี้มีพลังพุทธานุภาพดึงมือผมเหวี่ยงไปข้างหน้า น่าจะมีพุทธคุณทางด้านมหาลาภ ใครเจออย่าให้พลาดนะครับ

 

ขอขอบคุณในนำใจไมตรีของคุณ Somlatri ล่วงหน้าครับซาบซึ้งครับที่จะทำหน้าที่เป็นสะพานบุญให้ผมได้ชมบารมีพญาเหล็ก แต่ผมอยู่ไกลไปหน่อยแต่บังเอิญครับผมกลับเพิ่งจะรู้ว่าผมอยู่ในดงพญาเหล็กจากข้อมูลของท่าน IT Man ปืติมากคงต้องหาขัอมูลที่ชัดเจนขึ้น ช่วงนี้ลูกชายคนโตกำลังจะเข้าเรียนต่อมหาลัยต้องใช้เงินก้อนโตเลยอยากให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนเผื่อจะมีโอกาสได้บูชาพญาเหล็กส้กองค์ครับ

 

คิดว่าคงจะได้ไปกราบหลวงปู่หวล และร่วมทำบุญกับท่านและบูชาพระพญาเหล็กของท่านอย่างแน่นอนครับ ตอนนี้ผมอยากมีของศักดิ์สิทธิ์ไว้บูชา 3 อย่าง (หว้งมากไปรึปล่าว...ครับ)
- พญาเหล็ก ของหลวงปู่หวล
- พระแก้วมณีโชติ
- ลูกแก้ว (แบบไหนนั้น...แล้วแต่บุญบารมี)
คงต้องเร่งสร้างสมบุญบารมีแล้วหล่ะครับ...สวัสดีครับ

 

สุดยอดขัอมูลครับท่าน IT Man เพิ่งทราบว่าแถวบ้านผมมีพญาเหล็กอยู่มากมายหลายชนิด ตามข้อ7.4,ข้อ9,ข้อ10 ยังขาดแค่ตัวเลข 3 ตัวก็ถึงบ้านผมแล้วครับ เป็นความรู้ใหม่สำหรับผมมากปกติจะได้ยินข่าวว่าพบตามถ้ำ ตามป่าลึกๆเช่นเข่าใหญ่ หรือทางอิสานเหนือสกลนคร หนองคาย หรือไม่ก็ชัยภูมิ แถวบ้านผมไม่ค่อยจะมีถ้ำมากนัก แล้วพบเจอพญาเหล็กบริเวณไหนครับท่านIT Man ช่วยกระซิบหน่อยครับ (เผื่อมีขัอมูล...ลึกๆ)

 

สวัสดีครับคุณ สมาชิกธรรม ยินดีที่ได้รู้จัก

 

สุดยอดครับ น่าจะเป็นที่ชุมนุมของสุดยอดในแผ่นดินมารวมกัน ใครมีอะไรเยี่ยมแบบนี้กรุณามาลงนะครับ ถือเป็นวิทยาธารครับ

 

อ่านนี่ดูครับ
<TABLE style="WIDTH: 675px; HEIGHT: 401px" cellSpacing=1 cellPadding=1 width=675 border=0><TBODY><TR><TD>การดึงพลังงานจากแร่เหล็กไหลมาใช้ในด้านอภิญญา</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>
การดึงพลังงานจากแร่เหล็กไหลมาใช้ในด้านอภิญญา การดึงพลังงานจากแร่เหล็กไหลมาใช้ในด้านอภิญญา เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกมาแบบอานาปานุสสติและการเดินลมปราณจักร
ใน ทีนี้จะใช้เฉพาะเหล็กไหลเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นแร่ที่มีอานุภาพมากที่สุด การดูดพลังงานจากเหล็กไหลมาใช้นี้ สามารถทำได้ง่ายๆ แค่อุปจารสมธิก็ทำได้แล้วโดยอย่างแรกผู้ที่ทำการดูดพลังจากเหล็กไหลจะต้อง ฝึกสมาธิแบบอานาปานุสสติหรือแบบเดินลมปราณมาก่อน จึงจะสามารถดูดพลังได้โดยง่ายปกติร่างกายมนุษย์จะเป็นตัวดูดพลังงานรอบตัวมา ใช้อยู่แล้ว เช่น การหายใจ แต่การฝึกสมาธิแบบอานาปานุสสติหรือแบบเดินลมปราณ จะทำให้เราสามารถดูดพลังงานทางผิวหนังมาใช้ได้ ซึ่งเป็นพลังงานที่ละเอียดกว่ามาก โดยจุดที่รับพลังงานได้ดีจะอยู่ที่ ปลายนิ้ว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จุดกลางหน้าผาก ณ ที่นี้จะเน้นเฉพาะ จุดรับพลังงานทางฝ่ามือ เพราะเป็นจุดที่รับและปล่อยพลังได้ง่ายที่สุด ส่วนจุดที่กลางหน้าผาก โดยส่วนมากจะเป็นจุดที่ไว้ใช้สำหรับรับข้อมูล การสื่อสาร การติดต่อต่างๆ เช่นโทรจิต การควบคุมสมองระยะไกล ซึ่งเกี่ยวข้องกับพลังจิตระดับการสั่งการ เพราะถือว่าเป็นจุดที่ใกล้สมอง เพื่อให้สมองได้ทำการแปลสัญญาณที่ได้รับมาและ เกิดการกระทำตอบกลับได้อย่างฉับพลันเป็นที่ทราบกันดีว่า พลังที่สามารถดูดซับจากรอบตัวมาได้นั้น เมื่อใช้ไปแล้วก็ต้องหมดไป จึงต้องมีการดูดซับซับเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อสะสมไว้ใช้เหมือนกับการรองน้ำให้เต็มอยู่เสมอ เพราะถ้าหากพลังงานหมดย่อมส่งผลทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย หรืออย่างหนักคือถึงขั้นเสียชีวิตได้พลังงานจากเหล็กไหลจึงเป็นพลังงานที่มี ความเสถียรมากที่สุดเพราะ ไม่มีวันหมด สามารถดูดพลังมาใช้ได้เรื่อยๆ โดยตัวเหล็กไหลเองเมื่อถูกดึงพลังงานไปก็จะสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นเองได้ เรื่อยๆ ตรงกันข้ามคือเหล็กไหลจะมีพลังงานมากกว่าเดิม เพราะเหมือนเป็นการไปกระตุ้นให้เหล็กไหลเกิดการแตกตัว คือแตกพลังออกงานได้มากขึ้นเรื่อยๆ

การดูดพลังจากเหล็กไหลในไว้ในตัว
อย่าง แรกให้สังเกตลมหายใจเข้าออกก่อน จนคิดว่าเราสามารถหายใจเข้าออกได้เบาในระดับหนึ่งแล้ว ทีนี้ให้สังเกตช่วงที่หายเข้าออกนั้น บริเวณมือเราทั้งสองข้างมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง (แนะนำให้ปิดพัดลมและหน้าต่างให้หมดก่อนจะได้สังเกตได้ง่ายขึ้น) อาการที่เกิดขึ้นคือสังเกตุว่า...
1. ขณะหายใจเข้าจะรู้สึกว่ามีกระแสบางอย่างดูดเข้ามาอยู่ในมือ
2. ขณะหายใจออกจะรู้สึกว่ามีกระแสบางอย่างถูกปล่อยออกไปทางฝ่ามือ

หรือจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังยืดออกและหดเข้าจากปลายนิ้วและฝ่ามือ
พูด ง่ายๆ ก็คือจะรู้ได้ทางกายเนื้อเลยว่า มือเรากำลังหายใจเข้าออกอยู่พร้อมกับการหายใจเข้าออกทางจมูก แต่การหายใจเข้าออกทางฝ่ามือนี้ เป็นการดูดพลังงานรอบตัวเข้ามาและปลดปล่อยออกไป ในทษฤฏีเดียวกัน พลังของเหล็กไหลก็เช่นดียวกัน หากเรานำมาวางไว้บนฝ่ามือแล้วลองสังเกตดู จะรู้สึกได้ถึงพลังงานไฟฟ้าที่วิ่งเข้ามาตามเส้นเลือดต่างๆในช่วงที่หายใจ เข้า และคายพลังงานที่ไม่ใช้ออกไป แล้วก็ดูดเข้ามาอีกเรื่อยๆแบบนี้ เพื่อดูดพลังงานมาสะสมไว้ และใช้เมื่อยามที่ต้องการ โดยจุดที่จะเอาไว้สะสมพลังงานนั้นก็มีอยู่หลายจุด แต่ตัวข้าพเจ้าเองจะรวบรวมเก็บไว้ที่ฝ่ามือมากกว่าเพราะสะดวกต่อการใช้งาน โดยพลังงานนี้สามารถใช้ในการเล่นฤทธิ์ช่วยคนและการรักษาคนก็ได้
(ถ้าสังเกตเทวดาที่มีฤทธิ์มากๆ ฝ่ามือจะมีสีแดงจัดที่บ่งบอกได้ถึงมีพลังงานจำนวนมากรวมตัวกันบริเวณฝ่ามือ)
การ ฝึกแบบนี้ ถ้าถามว่ามีประโยชน์ตรงไหน ก็ตอบแบบเข้าใจง่ายๆคือ สามารถดูดพลังงานใช้ได้เร็วกว่าเดิมเมื่อพลังงานของเราใกล้หมด เรียกว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะการจะสะสมพลังงานด้วยตัวเองนั้นต้องอาศัยเวลาพอสมควร ไม่เหมือนกับการดูดพลังงานจากเหล็กไหลมาใช้ เพราะประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่ามาก
เรียบเรียงโดย ๛ชมรมผู้สนใจพลังลี้ลับ
</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>การ ดูดพลังงานในทีนี้ คล้ายกับการขอบารมีจากสิ่งศักสิทธิ์ เมื่อเราขอบารมีไปแล้ว เราก็มีพลัง ความเป็นทิพย์ก็เพิ่ม แต่เมื่อพลังที่ขอมานั้นหมด ก็ต้องมีการขอมาใหม่เรื่อยๆ เพื่อให้ความเป็นทิพย์มีความเสถียรตลอดเวลา โดยสังเกตว่าเวลาที่เราขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาใช้นั้น เราจะสามารถรับได้ทางกายและใจเช่น จะมีอาการเย็นสบาย สงบ มีความสว่างไสวในจิตกว่าเดิมเป็นต้น และการขอบารมีจากสิ่งศักดิสิทธิ์จะรับทางจุดกลางหน้าผาก เพราะพลังจะวิ่งจากบนลงล่างจุดที่รับได้ง่ายที่สุดก็คือจุดบริเวณกลางหน้า ผาก และบริเวณกลางกระหม่อม
แต่การดูดพลังจากเหล็กไหลเป็นการรับพลัง จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยตรง (เพราะนำมากำไว้ในมือเลย) โดยไม่ผ่านสื่อทางอากาศแต่อย่างใด ทำให้เราสามารถดูดซึมซับพลังได้ง่ายกว่า เพราะจิตมีสมาธิ มีการจดจ่อในวัตถุที่กำลังสัมผัส
*** ในวิธีการดูดซึมซึบพลังนี้สามารถใช้ได้กับแร่กายสิทธิ์ทุกชนิด รวมถึงพระธาตุและวัตถุมงคล เพราะวัตถุมงคลส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของแร่กายสิทธิ์ ที่นำมาเป็นส่วนผสมด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้เขียน จิตทิพย์ ที่มา http://images.google.co.th/imgres?

 

ผมก็ยังดูไม่เป็นครับ ไม่เคยได้สัมผ้สองค์จริงเคยอ่านเจออยู่ครั้งหนึ่งนานแล้วครับจำได้ว่ามีความเกี่ยวพันกับองค์หลวงปู่โต มีเทพเทวดาร่วมสร้างถวายเป็นพุทธบูชา มีองค์พรหมชินนะปัญจะระร่วมสร้าง รวมถึงพญานาคชื่อพญาศรีเสนก็มีส่วนร่วมในการสร้าง ไว้ผมจะค้นหาข้อมูลมาให้ศึกษาครับ เป็นพระแก้วกายสิทธิ์ที่จะทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปจนครบ 5000 ปี
องค์นี้ผมว่าใช่พระแก้วมณีโชติสวยงามมากๆครับมีอยู่หลายพิมพ์ยินดีด้วยครับ

 

ด้วยความยินดีครับ...ผม

 

ยินดีด้วยครับท่านอาจารย์nontayan ผมคงต้องทำอะไรส้กอย่างแล้วหละครับ
หลวงปู่หงษ์ท่านชราภาพมากแล้ว ปลายปี 2553 ผมได้ไปกราบท่าน ท่านเปรยๆเตือนเรื่องภัยพิบัติ ธรรมชาติจะลงโทษคนที่ไม่ดี ไม่ถือศีล แสดงว่าท่านเป็นพระอริยเจ้าอีกรูปหนึ่งแน่นอนครับ

 

อ่า..ขอบคุณครับ...กำลังต้องการดูข้อมูล/catalog พอดี หุหุ

 

ผมเองก็พึ่งจะรู้ครับว่า หลวงปู่หวลกับอ.เสือ...เคยเดินทางมาอัญเชิญพญาเหล็ก...ที่ถ้ำทางอำเภอแม่สอด โลกนี้ช่างกลมหนอ

 

โมทนาสาธุ...ขอให้ท่านได้ครบเครื่องต้มยำตามปรารถนานะครับ

 

ขอบคุณมากๆครับ ผมเคยลอง(แบบอัตโนมัติ)...หลังจากที่ได้มาจากคุณอ๊อดและได้นำติดตัวไปตลอด...ปกติไม่ค่อยมีอะไรพกพาให้รกร่างกายนัก มีเพียงพระกริ่ง หรือพระพิมพ์วังหน้าเพียงองค์สององค์

ในใจคิดว่าจะเลี่ยมแบบเปิดหน้าหลัง เพื่อให้สัมผัสท่าน(พญาเหล็ก)ได้โดยสะดวก

ทั้งนี้ท่านอ.ปู่ประถม ก็ได้แนะนำให้ทุกๆคนควรเปิดช่องให้องค์พระสัมผัสอากาศ เพื่อให้ครบทั้ง 4 ธาตุ...หมุนเวียนกันเป็นวงล้อแห่งพลังอิทธานุภาพ(มีอีกมากมายหลายเหตุผล...ลอง search ดูครับ)

 

​

​

​

สุขสันต์วันสรงกรานต์และวันปีใหม่ไทยปี พ.ศ. 2554
​

ข้าพเจ้าขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย,พระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์ไทยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทั่วทุกจักรวาล

โปรดดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,สมเด็จพระบรมราชินีนาถ,พระบรมวงศานุวงศ์,สหมิกธรรมของข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอให้ท่าน

จงประสบแต่ความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ปราศจากภัยอันตรายทั้งปวง หากประสงค์จะประพฤติปฏิบัติเพื่อให้ถึงซึ่งฝั่งพระนิพพานก็ขอให้เข้าถึงได้โดยง่ายในภพนี้ชาตินี้จงทุกคนด้วยเทอญ สาธุ

กราบขอบพระคุณพระพุทธมหากรุณาธิคุณด้วยเศียรเกล้า

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ