ทำอะไรกันนัก ไม่ต้อง พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้ทำ ที่ทำนั่นคิดมากกันไปเอง

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 24 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่ต้อง ทำอะไรกันนักหนา มากมาย
    ไม่ใช่ทางหลุดพ้นเลยสักทาง เพราะ
    ทำแล้วติดทำ ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ ก็
    มันเคย มันชิน มันติดภาวะ ติดอาการ
    ติดการกระทำ ว่ากระทำแล้วดี ควรทำ
    ติดทำอย่างนี้ พระพุทธเจ้าไม่สอนให้
    ทำ คิดกันมากไปเอง เลอะเทอะ ไม่..
    ไม่ต้อง ไม่ต้องทำ
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ถ้าพบทางหลุดพ้นแล้ว ก็ไม่ต้องทำแล้วซี


    ที่ยังทำกันอยู่ เพราะยังไม่พบทางหลุดพ้นนะลูกนะ
    เพราะไม่พบ เลยต้องหา ต้องไขว่คว้า ต้องมานั่งทำ
    ทำอย่างนี้ ไม่ใช่ธรรมอย่างนั้น ธรรมอย่างพระพุทธเจ้า
    นั้น ไม่ต้องไปทำ มันธรรมอยู่แล้ว ยังจะทำให้เป็นธรรม
    เป็นไปไม่ได้ มันจะธรรม ก็เป็นธรรมอยู่เองแล้ว ไม่ต้อง
    ไปทำ


    เช่นนี้ เลยทำได้ทั้งนั้นแหละ เพราะทำเป็นธรรมแล้ว
    ไม่ต้องทำให้เป็นธรรมอีก มันเป็นไปตามธรรมมันเอง
    อยู่แล้ว ไม่ต้องคิด ไม่ต้องนึก เป็นธรรมอยู่แล้วทั้งสิ้น
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระพุทธเจ้าแค่เฉลยในสิ่งที่คุณลังเล เพื่อให้คุณตรงทางเท่านั้น


    ไม่ได้ให้ไปทำอะไร ไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำอะไร ท่านแค่เฉลยในสิ่งที่คุณกำลัง
    จะเข้าใจ แต่ลังเลสงสัยในธรรมเท่านั้น มีหรือใครในโลกนี้ไม่รู้จักความไม่เที่ยง
    ว่าเป็นที่สุดของสรรพสิ่ง สรรพสิ่งย่อมดำเนินไปสู่ความไม่เที่ยงกันทั้งนั้น ก็รู้กัน
    อยู่แล้วทั้งนั้น ยังต้องไปทำอะไรกันอีก ไม่ต้องทำ ธรรมอยู่แล้ว เฉลยแล้ว คลี่ออก
    ให้เห็นแล้ว ให้หายสงสัย จะได้ตรงปลงใจตรงนิพพาน ตรงธรรม ไม่ลังเลอีกเท่านั้น


    ไม่ต้องทำ ไม่ต้องละเว้น ธรรมชาติมันพาไปเองอยู่แล้ว กรรมมันพาไปเองอยู่แล้ว
    มันเป็นกระบวนการชำระกรรมตามวิบากตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ถ้าธรรมชาติไม่ตรง
    แล้วมนุษย์คิดได้ตรงกว่าธรรมชาติหรือ? ที่คิดทำนั่นทำนี่กันอยู่นั้น เป๋ออกไปแล้ว
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่ต้องรู้ เพราะรู้กันอยู่แล้ว ยิ่งรู้ยิ่งลงไปวนนะลูกนะ


    ไม่ต้องรู้ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้รู้ ไม่ได้มีวิชชาความรู้มาเผยแพร่
    ไม่ใช่การเรียนในห้องเอาปริญญานะลูกนะ ไม่ใช่ ไม่ต้อง ไม่จำต้อง
    เป็นรู้ ช่างมัน รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ช่างมัน ถ้ามันมีกรรมต้องไปรู้ มันมาเอง
    ถ้ามันมีกรรมไม่ให้รู้ มันดับเองนะลูกนะ ไม่ต้องไปสอดรู้ ไม่ต้องหาความ
    รู้ ไม่ใช่เรื่องความรู้นะ เป็นเรื่องปัญญาเอาตัวเองหลุดพ้นไปเท่านั้น


    รู้ทำไมนักหนา ไม่ใช่ที่สุดนะ ที่สุดรู้แล้ว ไม่จำต้องมีรู้ ก็เป็นไปเองแล้ว
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่ต้องจำ ไม่ต้องจด ไม่ต้องสังคายนา ไม่ใช่สาระความรู้อะไร


    มันมีอยู่เองแล้วนะลูกนะ ธรรมชาติมีอยู่เองแล้ว แสดงตัวมันเองแล้ว
    ไม่ต้องไปแสดงธรรม ธรรมมันแสดงตัวมันเองแล้ว ตรงไปตรงมานะ
    ลูกนะ ไม่ต้องไปจำ ไม่ต้องไปจด ไม่ต้องไปบันทึก ไม่ต้องลงซีดี มี
    เกิดขึ้นแล้วดับไป ใครได้เห็นก็ด้วยกรรมวิบาก ใครไม่ได้เห็นก็ช่างเขา
    ไม่ต้องไปต่อ ไม่ต้องไปทำ ไม่ต้องไปพยายามให้ใครรู้ใครเห็นนะ จะ
    ต่อกรรมใหม่ กรรมดีก็ช่าง ไม่หลุดพ้นนะลูกนะ ปล่อยเขาไปตามกรรม
    เขาจะรู้ก็ช่าง ไม่รู้ก็ช่าง ไม่ต้องเสียดายธรรม ไม่ต้องเสียดายความรู้นะ
    เกิดแล้วดับไป ธรรมเป็นเช่นนั้นเอง ไม่ต้องเก็บไว้นะลูกนะ
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรม 84,000 ธรรมขันธ์ไม่ต้องไปทำนะ มันเป็นแค่เฉลยที่ลูกก็เกือบรู้อยู่แล้ว


    ธรรม 84,000 ธรรมขันธ์ ไม่ได้ให้ไปทำนะ ไม่ได้ห้ามการกระทำใดนะ ห้ามไม่ได้
    ใครห้ามกรรมได้บ้าง ห้ามหิวได้ไหม? ห้ามกินข้าวเย็นได้ไหม? ไม่มีใครห้ามใครได้
    นะ มีเอาไว้เฉลยเฉยๆ เฉลยว่าถ้าผิดไปจากธรรมวินัย ก็ยังไม่ใช่ จะได้รู้ไว้ จะได้ไม่
    หลงตัวเอง เป็นเครื่องระลึกในศีล เป็นศีลานุสติเท่านั้น ให้พ้นจากความหลงตัวเอง
    ให้สำนึกรู้ตนว่าผิดไปแล้ว เริ่มใหม่ เท่านั้น ไม่ได้ห้าม ห้ามใครได้ ไม่มีดอก เป็นธรรม
    ตามธรรมชาติ ห้ามใครไม่ได้ ปล่อยไปตามธรรม ตามกรรม ให้รู้ตัวเฉยๆ ให้สติตื่นขึ้น
    เฉยๆ ตื่นเต็มที่จนหลุดพ้นโพล่งออกมา ปัญญาจึงเกิดนะลูกนะ ไม่ต้องไปทำ ไม่ได้
    ห้ามทำ จะทำก็ทำ จะไม่ทำก็ช่าง เป็นธรรมนะ ดังนั้น ไม่ต้องไปทำ ไม่ต้องห้ามกระทำ
    เป็นไปเองตามธรรม อย่างนั้นเองนะลูกนะ
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ที่พากันไปทำนั่นทำนี่ ก็เป็นไปด้วยความคิดนำพาไปเอง


    คิดว่าอย่างนั้นดี อย่างนี้ถูก อย่างนี้ควรทำ ก็พากันไปทำ ไปก่อกรรม
    ร่วมกัน กองบุญเป็นเครื่องสะสมใช่ไหม ภพเกิดไหมลูก? ชาติมีไหมลูก?
    ชรามีไหมลูก? มรณะตามมาไหมลูก? เห็นไหม ไปทำแล้วเกิดกรรม
    ต้องไปเสวยกรรมต่ออีก ไม่หลุดออกมาได้ ไม่ต้องไปวนทำ ธรรมไป
    เลย ตามธรรมเลย ไม่ต้องดำริทำ ไม่ต้องคิดทำ มันธรรมไปเองได้อยู่
    เด็กหิวข้าว ก็ไปหาข้าวกิน ไม่ต้องคิดใช่ไหมลูก? ถ้าไม่มีกิน ก็อดไป
    ใช่ไหมลูก? มันเป็นของมันไปเองตามธรรมชาติแล้วใช่ไหม ใสๆ นะ
    ไม่ต้องไปดำริทำ ไม่ต้องไปคิดเห็นชอบทำนะ ปล่อยทำไปตามธรรม
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สติมีไว้แค่รู้ตัวเฉยๆ ไม่ต้องเข้าไปจมกับตัวรู้นะลูกนะ


    รู้ตัวก็พอ ไม่ต้องไปสนใจไยดีความรู้ ดีก็ไม่ใช่ ชั่วก็ไม่ใช่ สาระใดหาไม่ได้
    รู้เฉยๆ ตื่นโพล่งขึ้นเกิดปัญญาสว่างไสว ก็ไม่ใช่ความรู้อะไร ไม่ได้รู้อะไรนะ
    มันตื่นขึ้นเพื่อกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้ของมัน เหมือนหนังยางที่ถูกดึงยืดแล้ว
    ถูกปล่อย มันกลับเข้าที่ทันที ฉับพลันใช่ไหม เป็นไปเองใช่ไหม มันดีหรือก็ไม่
    มันชั่วหรือก็ไม่ แค่กลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้ก่อนปรุงแต่งเท่านั้น ไม่ได้ดีหรือเลว
    อะไร ไม่ใช่อะไรกะอะไร เหตุปัจจัยก็ไม่ต้อง ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปวนกับ
    มัน มันจะนำพาไปสู่ความรู้ใหม่ๆ ก็ช่างมัน ความรู้ไม่ทำให้หลุดพ้นนะลูกนะ
    สติตื่นโพล่งฉับพลันกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้เลย เหมือนหนังยางเด้งกลับเลย
    ไม่ไปทางไหน ไม่ไปหน้า ไม่ไปหลัง ไม่ไปซ้าย ไม่ไปขวา กลับที่เดิมจุดศูนย์
    บวกก็ไม่ใช่ ลบก็ไม่ใช่ กลางเองเลย กลางอยู่แล้ว ตื่นแล้วกลับเข้าที่เดิมเลย
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมะไม่ต้องปฏิบัติ ธรรมมันดำเนินของมันตรงธรรมอยู่แล้ว


    คิดมาก รู้มาก พาออกนอกทางธรรม ปล่อยไปตามธรรม ธรรมมันพาไปเองนะ
    เคยไหม ไม่ต้องคิด ไม่ต้องหาเหตุผล ทำไปตามธรรม ไม่ทำก็เป็นไปตามธรรม
    ไม่ได้อยากหรือไม่อยากทำ หรือไม่ทำอะไร เป็นไปตามธรรมชาติทุกประการ
    ถ้ากิเลสขับดันให้ทำ ก็ทำไป มันพาไปชำระกรรมนะลูกนะ ถ้าไม่มีปัญญาเลย ก็
    จะก่อกรรมใหม่เอง มันจะพอดีกับเวลานิพพานของมันเองนะลูกนะ ถ้าใครมีปัญญา
    ก็จะรู้จักหยุดได้เอง ตามธรรมชาติของมันเองนะ ตามวาระของมันเองนะ เป็นไป
    ตามธรรมทุกประการ มีอยู่แล้วทั้งนอกและในตัวลูกนะ ครบ 84,000 ธรรมขันธ์
    เลยนะ ไม่ต้องหาที่ไหน ไม่ต้องสร้างใหม่ ไม่ต้องทำให้เกิดมี มันมีอยู่เองแล้ว


    ยิ่งไปคิด ไปหาเหตุผล ไปดำริทำ ก็จะพาออกนอกทางธรรมนะลูกนะ ปล่อยไป
    เหมือนขอนไม้ลอยน้ำนะ ไม่ติดฝั่งขวาและซ้าย ถึงจุดหมายปลายทางได้เองนะ
     
  10. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    สูญญตา สาธุ สาธุ

    กรรมใดๆ อันข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลายไปแล้ว ด้วยกาย วาจา ใจ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมด้วยครับ
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างธรรมใหม่ ก็ไม่ต้องเหนื่อยรับกรรม


    ทุกอย่างเป็นธรรมอยู่แล้ว ไม่มีอะไรผิดไปจากธรรมเลย ทุกอย่างทั้งในและนอก
    ตัวลูกธรรมอยู่แล้ว ไม่มีอะไรถูกหรอกนะ มันเป็นเช่นนั้นของมันเอง ไปคิดว่ามัน
    ถูก อย่างนี้ถูก อย่างนี้ใช่ อัตตาก็เกิดจากความคิดที่เราสร้างมาเองนี่แหละ หาที่
    ถูกก็ไม่มีนะลูกนะ ไม่มีใคร อะไร ที่ไหน ถูกเลยสักอย่าง เพราะมันไม่ผิดมานาน
    อยู่ก่อนแล้ว มันเลยไม่ต้องถูกนะลูกนะ ไม่ต้องไปจับ ผิดหรือถูกไม่ต้องจับ จับก็
    เป็นอัตตา จับผิดจับถูก อัตตาเกิดแล้วไม่เที่ยง เหมือนเล่นกับเงาตัวเองนะลูกนะ
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    อโหสิ อโหสิ อโหสิ...
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สติตื่นโพล่งเต็มที่ ไม่จดๆ จ้องๆ ตื่นแล้วปล่อยผึงเลย


    ปล่อยผึงเลยเหมือนคนปล่อยสายธนูนะลูกนะ สติตื่นแล้วปล่อยไปเลย
    ถ้าสติตรงกลางแล้ว ธนูเล็งตรงเป้าแล้ว แต่ยังไม่กล้า จดๆ จ่อๆ ไม่ได้
    อะไรนะ ฝึกสติตรงกลางเฉยๆ ไม่ได้ตื่นโพล่งเต็มที่ เหมือนคนที่ง้างคัน
    ธนูตรงแล้วไม่ยอมปล่อยเสียที ไม่ไปไหนนะลูกนะ แบบนั้นจะฝึกสติกัน
    ไม่จบไม่สิ้นเสียที เพราะอะไร เพราะไม่รู้จบตรงไหน ไม่รู้สิ้นตรงไหน ก็
    เลยต้องมาฝึกกันไปเรื่อยๆ ไม่จบสักที ไม่รู้จะจบการฝึกได้อย่างไรดี


    ตื่นโพล่งเต็มที่แล้วหลุดไปเลย ไม่ต้องจดๆ จ้องๆ ฝึกแล้วฝึกอีกนะลูกนะ
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    อนิจจังก็รู้กันอยู่แล้ว แต่ยังสลึมสลือ ตื่นไม่เต็มที่นะลูกนะ


    จิตตรงทาง ตรงธรรม ตรงอนิจจัง ตรงนิพพาน เข้าทางโสดาบัน
    เข้าทางสัมมาทิฏฐินะ ตรงแล้วยังไม่ถึง มรรคแปดเกิดแล้วดำเนิน
    ไป ตัวที่หนึ่งไล่ไปเองตามธรรมชาติของมันเอง เป็นเหตุปัจจัยกัน
    ไปเอง ถ้าไม่มีอะไรมาขวาง ไม่มีเป๋ออกนอกทาง ตรงไปเรื่อยๆ ก็
    จะถึงมรรคแปดตัวต่อไปเรื่อยๆ เอง ดำเนินไปจนถึง "สัมมาสติ" ก็
    จะตื่นโพล่ง ตื่นเต็มที่ เต็มตัว เต็มกำลัง ไม่สะลึมสะลือ รู้แจ้งชัด ก็
    จะเข้าสู่ "สัมมาสมาธิ" ไปเอง ไม่ต้องไปทำสมาธิ มันดำเนินไปเอง
    ตามธรรมชาติของมันเองนะลูกนะ ถึงจุดนั้นแล้วเข้าใจเอง แจ้งเองนะ
     
  15. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ช่วงนี้ ลัทธิไม่ต้องทำ(อ่า)อะไร ระบาด อ้างปรมัตถ์กันยกใหญ่
    มาหลายแนวทาง ทั้งพระโพธิสัตว์ ทั้งเป็นพระศรี
    พวกเอาก้นกราบพระ
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เรื่องพ้นทุกข์ ....ต้องทำให้ตนมีสัจจะ ****

    ปลดนิสัยตนเอง
    วันละข้อ เป็นประจำทุกวัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    เห็นด้วยค่ะ ช่วงนี้มีแต่ลัทธิประหลาดๆเต็มเว็ปไปหมด เห็นแล้วไม่อยากจะอ่าน
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สรุป...นอกเหนือสัจจะ ไม่ใช่แก่นสาร ****

    ลัทธิความเชื่อ ...เป็นไฟเผาตัว
    สัจจะธรรม...เป็นแก่นสารความจริง
    สัจจะปฏิบัติ....เป็นหนทางหลุดพ้นทุกข์

    เขาทำกันไม่ได้
    เขาเสียดายเรื่องกามเรื่องวัตถุ
    เขาไม่ยอมปลด ไม่ยอมลด
    เขาจึงต้องทนทุกข์ต่อไป

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    รู้ธรรม ไม่ละเมิดธรรม ไม่ยึดมั่นถือมั่นในธรรม....คือให้รู้ธรรมเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ ไม่ละเมิดธรรมเพื่อให้ตั้งมั่นอยู่ในธรรม ไม่ขัดแย้ง ไม่ลด ไม่เพิ่มธรรมที่ได้ตรัสไว้แล้ว เพราะสิ่งที่ศาสดาได้ตรัสไว้แล้วคือสัจธรรมความจริงแท้แล้ว ไม่ยึดมั่นถือมั่นในธรรม เพราะเหตุว่าสาวกบางพวกเพ่งเลงกันด้วยเห็นว่าธรรมคือสิ่งเคร่งครัดและคือกฏระเบียบ แต่ไ่ม่ใช่เช่นนั้น ธรรมมีไว้เพื่อการปฏิบัติตามเพื่อความหลุดพ้น เมื่อสิ่งใดพร่องบ้างผิดบ้างก็จงอย่าติดไว้ในใจ แต่จงแก้ใขและเดินตามทางธรรมที่ได้ตรัสไว้แล้ว....ความเห็นของข้าพเจ้า
     
  20. โดเรมี่

    โดเรมี่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +9
    เข้าใจทุกประเด็น ขออนุโมทนา สาธุ (ต้องทำใจกับความต่างของคนนะท่าน)
     

แชร์หน้านี้

Loading...