พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดีครับวันนี้ครอบครัวผมได้โอนเงิน 3000 บาท (06/02/11 เวลา 16:19 น.)
    ทำบุญผ้าป่าพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    (เข้าบัญชี 1890-13128-8) :cool:มาร่วมโมทนาบุญกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นายเฉลิมพล [​IMG]
    สวัสดีครับ
    ผมขอร่วมทำบุญจุดพลุ 1000 บาท
    และร่วมทำหนังสือ 1000 บาทครับ

    ผมจะโอนเข้าบัญชี กรุณาโทรบอกหมายเลขด้วยครับ

    โมทนาทุกประการครับ
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ jirautes [​IMG]
    สวัสดีครับ
    ผมขอร่วมทำบุญจุดพลุ 1000 บาท
    และร่วมทำหนังสือ 1000 บาทครับ

    ขอหมายเลขบัญชี ด้วยครับ

    โมทนาทุกประการครับ
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ไว้ผมแจ้งทาง Email นะครับ

    ขอเป็นช่วงค่ำๆครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    ผมส่งให้เรียบร้อยแล้วครับ



    .

    http://palungjit.org/threads/%E0%...2445.2199/

    .

    http://palungjit.org/threads/%E0%...2445.2200/

    .

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นิทานสอนใจ : สัจจะคุ้มกายใจ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">6 กุมภาพันธ์ 2554 11:32 น.</td></tr></tbody></table>
    หลายคนชักจะแก่เวทมนตร์ คาถากันแล้ว รู้ไว้ไม่เสียหาย คุยแนะนำคนอื่นได้ต่อไปว่า ฟังพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์รู้เรื่อง และทราบความศักดิ์สิทธิ์ของมนต์แต่ละบท ผู้เขียนเรื่องนี้จึงเลยขอถือโอกาสสาธยายมนต์บทขลังอีกสองบทสั้นๆ ให้ทุกคนได้อ่านกัน

    บทแรก เป็นคาถากันไฟไหม้ มักจะใช้สวดกันตอนขึ้นบ้านใหม่ หรือเปิดท้ายอาคารต่างๆ เพราะความเป็นมาของมนต์บทนี้กล่าวถึงลูกนกคุ่มพระโพธิสัตว์ (พระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า) ในแคว้นมคธที่อยู่ห่างไกลจากเมืองอื่นๆ ตามลำพัง ขณะที่พ่อแม่ออกไปหาอาหาร ลูกนกคุ่มตัวน้อยยังบินไม่ได้เดินก็ยังไม่ได้ เกิดไฟไหม้ลุกลามเข้ามาใกล้รังที่อยู่ทุกทีๆ นกตัวอื่นๆ รวมทั้งพ่อแม่ของนกคุ่มน้อยก็พากันบินหนีไปหมด

    แต่ด้วยความที่นกคุ่มตัวนี้ไม่ใช่นกธรรมดา เป็นนกพระโพธิสัตว์ผู้ได้เคยบำเพ็ญบุญบารมีมามาก จึงสามารถตั้งจิตอธิษฐานของอำนาจสัจจะทั้งหลายในสากลโลกและในตนเอง คุณของศีลที่มีอยู่ประจำโลก คุณของพระพุทธเจ้าผู้ทรงเพียบพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ผู้พ้นจากกิเลส ราคะ โทสะ โมหะโดยทั้งสิ้นเชิง ทรงประกอบด้วยสัจจะ ความเอ็นดู ความกรุณา และความขันติ อันมีอยู่ในจักรวาลทั้งปวง อีกทั้งคุณของพระธรรมทั้งหลายที่ช่วยสกัดไม่ให้ไฟลุกลามมาถึงรัง และกลับถอยห่างออกไป ไฟป่าถูกลมพัดตีกลับไปเป็นระยะทางยาวกว่า 16 กรีส (เท่ากับ 500 วา) เป็นปาฏิหาริย์ที่ปรากฎหลักฐานการไม่มีไฟไหม้อยู่ชั่วกัลป์

    คาถาที่สอง เป็นเรื่องขององคุลิมาลผู้เกิดในฤกษ์ดาวโจร ขณะที่คลอดนั้นอาวุธทั้งหลายในแผ่นดินส่องประกายสว่างโชติช่วง จึงถูกต้องชื่อว่า "อหิงสกะ" ที่แปลว่าผู้ไม่เบียดเบียน เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม

    ความจริงแล้วองคุลิมาลเป็นคนดี แต่ด้วยความซื่อ รัก และเชื่ออาจารย์จึงถูกหลอกให้ไปฆ่าคนให้ครบหนึ่งพันคน เพื่อเป็นการบูชาครู องคุลิมาลร้อยนิ้วของคนที่ตนฆ่าไว้รอบคอจนได้ 999 นิ้ว แล้วเมื่อมาพบพระพุทธองค์

    เมื่อได้ฟังธรรมแล้วจึงบวชเป็นพระภิกษุ แรกๆ นั้นเมื่อออกบิณฑบาตชาวบ้านต่างก็กลัว วิ่งหนีกันหมด วันๆ จึงบิณฑบาตไม่ได้ค่อยได้ ต้องอดๆ อยากๆ ภายหลังชาวบ้านรู้ว่าองคุลิมาลไม่ได้ดุร้ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จึงพากันทุบตีบ้างก็ขว้างปาด้วยก้อนหิน จนได้รับบาดเจ็บอยู่เสมอ ซึ่งเป็นผลมาจากกรรมที่ตนได้ก่อไว้

    วันหนึ่งได้พบหญิงมีครรภ์ พระองคุลิมาลจึงใช้สัจจะที่มีอยู่ในตนเองอวยพรให้หญิงมีครรภ์นั้น ตามที่พระพุทธองค์ตรัสสอนมีใจความว่า

    "ตั้งแต่เราบวชเป็น ภิกษุ ไม่เคยกระทำหรือคิดเบียดเบียนใครเลย ด้วยอำนาจแห่งสัจจะนี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่น้องหญิงและลูกในครรภ์ของเธอด้วย"

    ด้วยความให้พรนี้ ทำให้หญิงมีครรภ์ผู้ที่เคยกลัว เมื่อเห็นพระองคุลิมาลก็สามารถคลอดบุตรได้โดยง่าย เรื่องราวนี้จึงเลื่องลือไปทั่ว ชาวบ้านต่างก็พากันมาขอพรจากพระองคุลิมาลเป็นจำนวนมาก

    สัจจะอันเป็นความดี ที่มีจริงอยู่ในตัวใครก็ตาม สามารถนำเอามาอธิษฐานป้องกันภัยและรักษาโรคได้ ดังนั้นทุกคนอย่าได้นิ่งนอนใจ ควรสะสมสัจจะบารมีไว้มากๆ ถึงคราวจำเป็นก็นำออกมาใช้ได้เสมอ ไม่เสียหายอะไร


    .

    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000016005

    .



    .



    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันจันทร์ แจ่มใส ครับ


    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เขมรไทยหยุดยิงแแล้วทหารไทยเจ็บ14

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]




    คมชัดลึก :ทหาร เขมรปะทะเดือดทหารไทยรอบ 3 ส่งผลชาวบ้านบาดเจ็บ 3 รายทหาร 14 ราย ติดในหมู่บ้านนับร้อย โฆษก ทบ.เผยเขมรใช้พลุส่องสว่างก่อนระดมยิงจรวดใส่ ทหารไทยจึงจำเป็นต้องใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้



    (6 ก.พ. 54) แหล่งข่าวตามแนวชายแดนด้านภูมะเขือ บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนคาดว่าจะเป็นอาวุธประจำกายยิงปะทะกันช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 5 นาที บริเวณที่เกิดเหตุปะทะเป็นจุดเดียวกับที่ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี หัวหน้าชุดยิง ร.16 พัน.2 ค่ายบดินทร์เดชา จ.ยโสธร หน่วยเฉพาะกิจที่มาปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ถูกซุ่มยิงจากฝ่ายตรงข้ามด้วยกระสุนปืนอาก้า เอสเค 47 เจาะเข้าเหนือคิ้วซ้ายทะลุท้ายทอยเสียชีวิตคาที่ เป็นสาเหตุให้เกิดการปะทะรอบ 2 ซึ่งการปะทะครั้งนี้ไม่มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
    "หลังเหตุการณ์ปะทะทหารไทยได้จับตัวทหารกัมพูชาได้ 6 คน แต่ได้ปล่อยกลับไปหมดแล้ว เนื่องจากไม่อยากให้เกิดภาวะตึงเครียดเพิ่มขึ้นอีกหลังสถานการณ์เริ่มจะคลี่ คลาย หลังจากเจรจากันระหว่าง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กับ พล.อ.เจีย มอน แม่ทัพภูมิภาคที่ 4 กองทัพกัมพูชา และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผบ.พล สนับสนุนที่ 3 ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ใช้อาวุธปืนปะทะกันอีก ขณะเดียวกันได้มีการส่งมอบตัวทหารไทยทั้ง 4 นาย ที่ถูกกักตัวไว้ในวันที่เกิดเหตุปะทะรอบแรกวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา" แหล่งข่าวเปิดเผย

    ปะทะรอบ3-ทหารเจ็บ2
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาบริเวณช่องโดนอาวน์ ภูมะเขือ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยช่วงแรกมีการใช้อาวุธประจำกายยิงซุ่มยิงทหารไทย และปะทะกันประมาณ 10 นาที จากนั้นมีการใช้ปืนใหญ่ไม่ทราบชนิดยิงตอบโต้กันประมาณ 10 ครั้ง เบื้องต้นพบว่ามีทหารได้รับบาดเจ็บ 2 คน การปะทะกันครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 หลังจากการปะทะกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
    พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า เมื่อเวลา 18.40 น. ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ใช้พลุส่องสว่าง หลังจากนั้นได้ยิงกระสุนปืนใหญ่รถถังเข้ามายังบริเวณช่องโดนอาวน์ ทำให้ทหารฝ่ายไทยไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องตอบโต้ตามกฎของการใช้กำลัง จากนั้นสถานการณ์ได้พัฒนาไปจนกระทั่งฝ่ายกัมพูชาได้ยิงจรวดดีเอ็ม 21 เข้ามายังฝั่งไทย ทำให้ทหารไทยต้องใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ ต่อมากองทัพภาค 2 ได้เริ่มต้นการเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชาเพื่อให้หยุดยิง ควบคู่ไปกับการใช้อาวุธยิงตอบโต้ ตามกฎการใช้กำลัง
    "เขมรเป็นฝ่ายที่เริ่มยิงกระสุนส่องสว่าง และยิงกระสุนปืนยาวก่อน เราจึงตอบโต้ และบานปลาย เขมรใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยังคงพยายามเร่งประสานกับเขมรอยู่ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยิงกระสุนส่องสว่างเข้ามาก่อน เข้าใจว่า รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรีทราบเรื่องแล้ว ยืนยันว่าขณะนี้เราตอบโต้ทางบกเท่านั้น ทางอากาศยังไม่มี เชื่อความสูญเสียมีแน่นอน แต่ยังไม่ได้รับรายงาน ย้ำว่าไทยตอบโต้อย่างพอเหมาะพอสม ที่เราไม่อยากทำหนัก เพราะกลัวคำครหาว่าเราไปรังแกประเทศที่ด้อยกว่า เพราะเรามีศักยภาพที่มากกว่า" พ.อ.สรรเสริญกล่าว
    โฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า สถานการณ์ขณะนี้จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ ทหารกัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่รถถังเข้ามาตกบริเวณบ้านพรายยาว ฝั่งขวาของเขาพระวิหารประมาณ 5 กิโลเมตร กินพื้นที่บริเวณรอบเขาพระวิหารลงมาทางช่องเขาสะพายโมย ส่งผลให้ฝ่ายไทยได้รับความเสียหาย สถานการณ์ยังพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อกองกำลังทหารกัมพูชาตอบโต้ด้วยการยิงจรวดติดรถแบบบีเอ็น 21 จำนวนมากถล่มเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องระดมยิงปืนใหญ่ตอบโต้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
    "ผมมั่นใจว่าทางผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ในระดับรัฐบาลพยายามประสานไป ยังผู้ใหญ่ฝ่ายกัมพูชาขอให้หยุดยิง ซึ่งยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ฉะนั้นทางฝ่ายหารไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบโต้เพื่อไม่ให้เกิดการเสีย เปรียบในการเจรจาหยุดยิง" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
    นายนคร ปริญญานันท์ รักษาการแทนนายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า เตรียมศูนย์อพยพประชาชนไว้ 12 จุด เช่น วัด โรงเรียน ศาลเจ้า เป็นต้น ส่วนเรื่องอาหาร น้ำดื่ม ห้องน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเร่งช่วยกันหาเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน หลังมีทหารไทยปะทะกัมพูชาครั้งที่ 3 ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ที่อพยพเข้ามาอยู่ในศูนย์รู้สึกตกใจและมีสีหน้าเครียด และกังวลตลอดเวลา
    ปืนใหญ่ถล่ม-13หมู่บ้านหนีตายวุ่น
    เมื่อเวลา 20.00 น. นายบุญรวม พงษาปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ขณะยังหลบอยู่ในหลุมหลบภัยว่า ช่วงเวลาเริ่มปะทะมีประชาชนในพื้นที่ประมาณ 300-400 คน จากนั้นมีเสียงตามสายให้ออกนอกพื้นที่ โดยมีชาวบ้านอยู่ที่หลุมหลบภัยของหมู่บ้านประมาณ 100 คน และยิงปืนใหญ่เข้ามาตกใกล้หลุมหลบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เลือกเป้าหมายว่าเป็นทหาร หรือประชาชน
    "ได้ยินเสียงปืนใหญ่ยิงกันประมาณ 1 นาที ต่อ 50 ลูก ตอนนี้ยังไม่รู้ใครเป็นไรบ้าง ไม่กล้าออกจากหลุมหลบภัย เราอยู่ในหลุมหลบภัยถ้าแค่สะเก็ดเราปลอดภัย แต่ถ้าลูกใหญ่มาก็ไม่รอด ที่ไม่ไปไหนเพราะเชื่อที่รัฐบาลบอกว่าคุยกันแล้ว เชื่อว่าการเจรจาน่าจะเป็นผล แต่ตอนนี้น่าจะไม่ใช่เช่นนั้น น่าจะเป็นสงครามกันแล้ว"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ รถยนต์จำนวนมากอพยพวิ่งสวนเข้าตัวเมืองด้วยความโกลาหล ทุกหมู่บ้านดับไฟป้องกันการโจมตี ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนทยอยออกจากที่ศูนย์อพยพเพราะไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัย
    นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวว่า ชาวบ้าน 13 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.เสาธงชัย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก พยายามเร่งอพยพชาวบ้านกว่า 1 หมื่นคน ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพหลายจุดที่เตรียมไว้ใน อ.กันทรลักษ์
    ขณะที่นางสาวสุปราณี มาตเนตร ชาวยโสธร แฟนสาววัย 20 ปีของ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี หัวหน้าชุดยิง ร. 16 พัน 2 ค่ายบดินทร์เดชา จ.ยโสธร หน่วยเฉพาะกิจที่มาปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหารที่เสียชีวิตจาก เหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา เสียใจที่ต้องเสียคนรัก ตอนนี้อยากให้เหตุการณ์สงบ อยากให้คนไทยปรองดองกัน อยากให้สองประเทศปรองดองกัน จะได้ไม่ต้องเกิดความสูญเสียขึ้นอีก
    อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า ได้มีการเจรจาหยุดยิงแล้ว ส่งผลชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทหารไทยเจ็บ 4 ราย และทางการไทยได้มีคำสั่งปิดด่านชายแดนโอมสะเม็ด จ.สุรินทร์
    อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 00.30น.วันที่ 7 ก.พ.นพ.วันชัย เหล่าเสถียรกิจ ผอ.รพ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สำหรับยอดทหารที่ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมดจำนวน 14 นาย ส่วนใหญ่จะถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกาย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 1 นาย ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุบลราชธานี อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลก็มีความพร้อมที่จะให้บริการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ตลอดเวลา
    พ.อ.สรรเสริญ เปิดเผยอีกว่า การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงค่ำและหยุดยิงเวลา 21.25 น. จากนั้นเวลา 23.40 น. ทางกองกำลังสุรนารีแจ้งว่าเกิดการยิงกันอีกประปราย โดยเฉพาะทางกัมพูชาต้องการจะยึดบริเวณเนินภูมะเขือและเขาสัปปะโสม ซึ่งเป็นพื้นที่ได้เปรียบแต่กำลังทหารไทยพยายามยิงตอบโต้ผลักดันทหารกัมพูชา และที่ผ่านมาเรารักษากติกาที่เจรจากันมาโดยตลอด ซึ่งคาดว่าทางกัมพูชาจะสูญเสียมากจึงเปิดฉากยิงก่อน
    นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การยิงตอบโต้กันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเย็นที่ ผ่านมา ได้หยุดยิงเมื่อเวลาประมาณ 21.45 น. โดยรัฐบาลได้รับแจ้งจากพื้นที่ว่า ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงตอบโต้กันแล้ว กรณีนี้ชัดเจนว่า ทางกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลง เป็นฝ่ายยิงก่อนชัดเจน ทางพื้นที่ก็ประท้วงไปแล้ว หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายทหารที่จะตรวจสอบถึงสาเหตุการละเมิดข้อตกลงดัง กล่าว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศก็มีการประสานกับทางการกัมพูชาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยการออกหนังสือประท้วงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ต้องประท้วงแล้ว
    "หลังจากนี้เราก็หวังว่าเราจะได้กลับมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนเรื่องสถานการณ์ชายแดนเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวง กลาโหมร่วมกันดำเนินการติดต่อประสานงานต่อไป ในส่วนการแก้ปัญหาระหว่างประเทศ ขณะนี้ยังเป็นระดับรัฐมนตรีอยู่ ขณะเดียวกันเราก็มีข้อตกลงในเรื่องสายด่วน สายตรงอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องให้ท่านนายกฯ โทรสายตรงถึงสมเด็จฮุน เซน เพราะเราคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขั้นกระทบต่อความสัมพันธ์ทั้งหมด ซึ่งปีนี้เป็นปีครบรอบความสัมพันธ์ 60 ปี เรายังมีโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ในหลายวิธี" นายปณิธานกล่าว
    นายปณิธานกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพออกจากพื้นที่ว่า เบื้องต้นรัฐบาลจะดูในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ถ้าสถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ และยังมีความไม่ปลอดภัย รัฐบาลก็จะต้องดูแล ยังไม่ให้กลับเข้าไปในพื้นที่ โดยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย จะลงพื้นที่ไปพบชาวบ้าน เข้าใจว่าเบื้องต้นจะต้องทำหลุมหลบภัยที่แข็งแรง รวมถึงสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ ให้ หลังจากรัฐมนตรีลงไปแล้วคงจะมีความชัดเจนขึ้นว่ารัฐบาลจะช่วยอะไรบ้าง ขณะเดียวกันก็ต้องรอดูว่าทางฝั่งกัมพูชาจะตอบกลับมาอย่างไร หลังจากเราทำหนังสือประท้วงไปว่าเขาละเมิดข้อตกลงก่อน
    บุรีรัมย์ทหารยังคงตรึงกำลังพื้นที่ชายแดน
    หลังจากมีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่บริเวณชายแดน จ.ศรีสะเกษ ทำให้บรรยากาศตามแนวชายแดนที่บริเวณช่องสายตะกู และช่องโอบก ที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังคงมีกำลัง ทหารพราน และ ตำรวจตระเวนชายแดน .ดูแลรักษาความสงบ ขณะที่ทางอำเภอได้ประสานไปยังผู้นำท้องถิ่น ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนประชาชนหมู่บ้านตามแนวชายแดน โดยเฉพาะชาวบ้าน ม.6 ต.จันทบเพชร ที่อยู่ห่างจากชายแดนเพียง 5 กิโลเมตร บางส่วนได้เข้าไปกรีดยางและใช้ชีวิตตามปกติ
    นายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกัมฝ่ายกัมพูชาที่บริเวณชายแดน จ.ศรีสะเกษ ส่งผลกระทบกับการเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนบริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ที่จะต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ทั้งนี้หากสามารถเปิดจุดผ่อนปรนบริเวณช่องสายตะกูดังกล่าวได้ จะส่งผลดีกับประชาชนทั้ง สองฝ่าย เพราะจะสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้ ดังนั้นจึงอยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวยุติลงโดยเร็ว
    ตชด.อพยพ5พันชีวิตหนีการปะทะไทย-เขมร
    พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ประกาศ เป็นพื้นที่ภัยภิบัติ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศีรสะเกษ โดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เข้าไปดูแล นำรถบรรทุกเข้าไปช่วยเหลืออพยพประชาชนทั้งสิ้น 5 พันคน และประสานกับทหารและฝ่ายปกครองให้มาพักอาศัยในที่ที่ปลอดภัย ดูแลทรัพย์สินของประชาชนไม่ให้เกิดการลักทรัพย์ขึ้นระหว่างที่มีการอพยพไป อยู่ที่อื่น ดูแลการขนย้ายประชาชนกลับพื้นที่หลังเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดูแลโรงเรียนตระเวนชายแดนในพื้นที่ นอกจากนั้นตชด.ต้องเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูบ้าน โรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย ส่วนกองบัญชาการตำรวจภูธณภาค 3 นั้นก็ให้เข้าไปดูแลช่วยเหลือผู้อพยพทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน
    กรณ์ชี้แก้ปัญหาไทย-เขมรต้องเปิดโต๊ะเจรจา

    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่านายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามโครงการนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการประกันรายได้เกษตรกร โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ และโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
    ทั้งนี้ รมว.คลัง กล่าวว่า ราษฎรในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนได้รับประโยชน์จากโครงการประกันรายได้ที่เกษตรกรปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์และข้าว ซึ่งถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจของ จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนผลผลิตพืชเกษตรอื่น ๆ ที่รัฐบาลจะหาแนวทางการช่วยเหลือประกันรายได้ต่อไป

    นายกรณ์ กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติที่จะเป็นโอกาสให้เกษตรกรผู้ที่มีอาชีพอิสระ ที่ไม่อยู่ในหลักประกันสังคมสามารถที่จะออมเงิน โดยมีรัฐบาลจะสมทบเงินออมของประชาชน ซึ่งเป็นกองทุน ฯ ที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรหรือผู้ที่มีรายได้น้อยโดยตรง ซึ่งกฎหมายเพิ่งจะผ่านและอยู่ในช่วงการดำเนินการในขั้นสุดท้ายของวุฒิสภา คาดว่ากลางปี 2555 รัฐบาลจะเริ่มประกาศรับสมาชิกให้เริ่มต้นการออมได้ทันที
    สำหรับปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชานั้น รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนคนไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนไทยด้านความ ปลอดภัย และขณะนี้มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการค้าทางด้านชายแดนกัมพูชา ตลอดเวลาที่ผ่านมาฝั่งไทยได้เปรียบทางด้านการค้า ไทยเราสามารถจำหน่ายสินค้าให้กัมพูชามากกว่าเราซื้อสินค้าของกัมพูชา ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาก็มีผลกระทบกับพ่อค้าคนไทยอย่างแน่นอน และความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวไทยที่อยู่ตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตามรัฐบาลอยากให้ลดความตรึงเครียดลง และนำไปสู่โต๊ะเจรจาพูดคุยเพื่อหาทางออกโดยสันติซึ่งจะเป็นประโยชน์ของทั้ง สองประเทศ
    "เพื่อไทย"จี้"นายกฯ-กษิต"ลาออก
    ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาบริเวณแนวชายแดน จนมีทหารและพลเรือนเสียชีวิต ว่า พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจกับ 2 ฝ่าย ทั้งไทยและกัมพูชา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนความล้มเหลวของรัฐบาล และการขาดภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปล่อยให้ปัญหากรณีของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกจับกุมเรื้อรังเรื่อยมา ไม่เข้าไปจัดการเอง เอาแต่โยนให้กระทรวงการต่างประเทศ ที่มีนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งมีข้อพิพาททางใจกับนายกฯกัมพูชาดำเนินการ รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายด้านการต่างประเทศที่ไร้เดียงสา นำการแก้ปัญหาการเมืองไปภายในไปผูกโยงกับการเมืองระหว่างประเทศ เปลี่ยนจากสนามการค้าเป็นสนามรบ อยากให้รัฐบาลทบทวนนโยบายต่างประเทศเสียใหม่ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาล้มเหลวมาตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นนายอภิสิทธิ์ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ไปพร้อมกับนายกษิต ให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน คนในพรรคประชาธิปัตย์ยังมีดี ๆ เก่ง ๆ อีกเยอะ ในพรรคร่วมรัฐบาลก็มี

     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า
    รองประธานชมรมพระวังหน้า
    และสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    ในวาระการประชุม เรื่องของการซื้อเจดีย์และผอบ ผมได้ไปสอบถามเรื่องของราคาเรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]

    ผมรบกวนท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า แสดงความคิดเห็นกันผ่าน Email ด้วยครับ

    รายละเอียด ผมแจ้งให้ทราบทาง Email แล้วครับ

    sithiphong
    7/2/2554

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • paob.JPG
      paob.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49 KB
      เปิดดู:
      59
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองก็ได้เริ่มเตรียมในส่วนของผมที่จะต้องนำไปในงานสมโภชพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

    ในส่วนของชมรม ผมจะเบิกเงินของชมรมในการร่วมทำบุญผ้าป่าปลดหนี้ รุ่งเรืองบารมี ศรีชัยผาผึ้ง จำนวน 20,000 บาท

    ในส่วนที่มีผู้ร่วมทำบุญ
    1.ผู้ร่วมทำบุญ จำนวน 10,000 บาท ในการรับพระพิมพ์หลวงพ่อปาน (เนื้อชิน) อายุประมาณ 370 - 400 ปี

    2.เงินที่จะร่วมทำบุญพลุ (ปัจจุบัน มี ผมและครอบครัว , น้องปฐมและครอบครัว , คุณเฉลิมพลและครอบครัว , คุณณฑนนและครอบครัว)

    3.เงินที่จะร่วมทำบุญร่วมทำหนังสือประวัติการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง(กับพี่แอ๊ว) (ปัจจุบัน มี ผมและครอบครัว , น้องปฐมและครอบครัว , คุณเฉลิมพลและครอบครัว , คุณณฑนนและครอบครัว)

    4.การถวายพระบูชา ...... ( รายละเอียด หากท่านใดต้องการทราบ โทร.สอบถามผม และ มีผู้ร่วมทำบุญ(ผมและครอบครัว ,น้องปฐมและครอบครัว และคุณpinkcivil และครอบครัว) เรียบร้อยแล้ว)

    5.การจัดเตรียมพระวังหน้า (ชุดละ 100,000 บาท และ ชุดละ 20,000 บาท)

    6.การจัดเตรียมพระวังหน้า ถวายพระภิกษุที่มาช่วยงานพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และมอบให้กับฆราวาส(บางท่าน) ที่ช่วยงานพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

    7.การซื้อน้ำดื่ม เพื่อที่จะไว้ในการถวายพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่ หรือ พระภิกษุ ที่ท่านมาช่วยงานพระเจดีย์ หรือ ท่านที่ขึ้นไปร่วมงานพระเจดีย์ ฯลฯ ซึ่งแล้วแต่พระอาจารย์นิล หรือ พี่แอ๊ว เห็นสมควร (ผมจะซื้อในวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554)

    8.การจัดเตรียมน้ำมนต์ เพื่อขึ้นไปมอบให้กับท่านที่มาร่วมงานพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ในกรณีนี้ ท่านต้องเตรียมขวดน้ำขึ้นไปเพื่อต่อน้ำมนต์กับผมเองครับ

    -น้ำมนต์ (น้ำสรงพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , น้ำมนต์ที่หลวงปู่ 11 พระองค์ (หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า , หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า , หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) , หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าหรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) , หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี) , สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ , หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว , หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก) มีพระเมตตามาอธิษฐานจิต )

    -น้ำมนต์ (หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า , หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า , หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า , หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) , หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าหรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) , หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี) , หลวงปู่แจ้งฌาณ (ครูฝึกของคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร คณะโสณะ-อุตระ) ) , สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง , หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ และหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง) อธิษฐานจิต

    -น้ำมนต์ (พระแม่ธรณี , พระแม่โพสพ และพระแม่คงคา) อธิษฐานจิต

    9.มะพร้าวน้ำหอม ผมได้รบกวนให้คุณกุ้งมังกอน ช่วยหาให้ประมาณ 2 ทลาย เพื่อถวายพระอาจารย์นิล

    ฯลฯ

    โมทนาสาธุครับ
    .

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ฆ์ผาผึ้ง-อ-บ้านเขว้า-จ-ชัยภูมิ.68899/page-103

    .

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ฆ์ผาผึ้ง-อ-บ้านเขว้า-จ-ชัยภูมิ.68899/page-103

    .
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมได้นัดพบคุณ Pinkcivil และได้มอบชุดหยก ๑๒ นักษัตรให้กับคุณ Pinkcivil เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๓๑ มกราคมที่ผ่านมาแล้ว

    ผมได้นัดคุณ Pinkcivil ไปพบอาจารย์จันทร์เพ็ญที่ลำลูกกาในวันเสาร์ที่ ๕ ก.พ. เพื่อทำการมอบเงินจำนวน ๔๐,๐๐๐ บาทให้กับอาจารย์เองโดยตรงเพื่อทำบุญสร้างถนน แต่คุณ Pinkcivil ได้โทรมาแจ้งติดธุระคืนวันศุกร์ที่ ๔ ก.พ. โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีผมมาแทน

    รุ่งเช้า ผมสามารถถอนเงินสดได้เพียง ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) เนื่องจากข้อจำกัดในบัญชีที่ผูกกับธนาคารไว้ ผมได้แจ้งอาจารย์จันทร์เพ็ญว่า เงินทำบุญสร้างถนนอีก ๒๐,๐๐๐ บาทจะทำการโอนเข้าบัญชีของอาจารย์จันทร์เพ็ญในวันจันทร์ที่ ๗ ก.พ. อาจารย์ได้กล่าวอนุโมทนามายังคุณ Pinkcivil ด้วยครับ

    ผมได้แนบหลักฐานใบโอนเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) ธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๕๔ และระบุการมอบเงินสดจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) รวมทั้งสิ้น ๔๐,๐๐๐ บาท(สี่หมื่นบาทถ้วน) เป็นไปตามวัตถุประสงค์การนำหยก ๑๒ นักษัตรของวังหน้ามาช่วยสร้างถนน...

    สรุปรายการเงินทำบุญสร้างถนน ๕๐,๐๐๐ บาท

    ครั้งที่ ๑ โอนเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เข้าบัญชี วันที่ ๓๐ พ.ย. ๒๕๕๓(คุณchantasakuldecha และคุณPinkcivil)

    ครั้งที่ ๒ มอบเป็นเงินสด ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) วันที่ ๕ ก.พ. ๒๕๕๔(คุณPinkcivil)

    ครั้งที่ ๓ โอนเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) เข้าบัญชี วันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๕๔(คุณPinkcivil)

    ขออนุโมทนา..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010258.JPG
      P1010258.JPG
      ขนาดไฟล์:
      218.1 KB
      เปิดดู:
      40
    • P1010214.JPG
      P1010214.JPG
      ขนาดไฟล์:
      256.2 KB
      เปิดดู:
      38
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมได้นัดพบคุณ Pinkcivil และได้มอบชุดหยก ๑๒ นักษัตรให้กับคุณ Pinkcivil เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๓๑ มกราคมที่ผ่านมาแล้ว

    ผมได้นัดคุณ Pinkcivil ไปพบอาจารย์จันทร์เพ็ญที่ลำลูกกาในวันเสาร์ที่ ๕ ก.พ. เพื่อทำการมอบเงินจำนวน ๔๐,๐๐๐ บาทให้กับอาจารย์เองโดยตรงเพื่อทำบุญสร้างถนน แต่คุณ Pinkcivil ได้โทรมาแจ้งติดธุระคืนวันศุกร์ที่ ๔ ก.พ. โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีผมมาแทน

    รุ่งเช้า ผมสามารถถอนเงินสดได้เพียง ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) เนื่องจากข้อจำกัดในบัญชีที่ผูกกับธนาคารไว้ ผมได้แจ้งอาจารย์จันทร์เพ็ญว่า เงินทำบุญสร้างถนนอีก ๒๐,๐๐๐ บาทจะทำการโอนเข้าบัญชีของอาจารย์จันทร์เพ็ญในวันจันทร์ที่ ๗ ก.พ. อาจารย์ได้กล่าวอนุโมทนามายังคุณ Pinkcivil ด้วยครับ

    ผมได้แนบหลักฐานใบโอนเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) ธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๕๔ และระบุการมอบเงินสดจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) รวมทั้งสิ้น ๔๐,๐๐๐ บาท(สี่หมื่นบาทถ้วน) เป็นไปตามวัตถุประสงค์การนำหยก ๑๒ นักษัตรของวังหน้ามาช่วยสร้างถนน...

    สรุปรายการเงินทำบุญสร้างถนน ๕๐,๐๐๐ บาท

    ครั้งที่ ๑ โอนเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เข้าบัญชี วันที่ ๓๐ พ.ย. ๒๕๕๓(คุณchantasakuldecha และคุณPinkcivil)

    ครั้งที่ ๒ มอบเป็นเงินสด ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) วันที่ ๕ ก.พ. ๒๕๕๔(คุณPinkcivil)

    ครั้งที่ ๓ โอนเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) เข้าบัญชี วันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๕๔(คุณPinkcivil)

    ขออนุโมทนา..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010258.JPG
      P1010258.JPG
      ขนาดไฟล์:
      218.1 KB
      เปิดดู:
      34
    • P1010214.JPG
      P1010214.JPG
      ขนาดไฟล์:
      256.2 KB
      เปิดดู:
      34
  11. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    ต้องขอโทษคุณเพชรด้วยครับที่ไปไม่ได้ครับ แต่ในใจลึกๆผมก็ต้องการให้คุณเพชรเป็นคนมอบเองครับ บุญนี้เกิดจากการสละของคุณเพชร ซึ่งผมแค่ช่วยให้สำเร็จอ่ะครับ ยังไงก็ต้องขออนุโมทนากับคุณเพชรด้วยครับ วันนึงคงมีโอกาสได้ไปพบท่านอาจารย์อ่ะครับ :cool:
    หวังว่าคุณเพชรคงได้ข้อแจ้งแถลงไขเรื่ององค์พระราหูแล้วเพราะเห็นเปลี่ยนโลโกเรียบร้อยแล้วครับ :p
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ คำกล่าวว่า "ถนนยิ่งตัดยิ่งยาว" เป็นความจริงครับ

    แต่หากผมขอเพิ่มเป็น ถนนบุญยิ่งตัดยิ่งยาวแบบนี้ก็คงไม่ผิดความจริงเท่าไหร่

    เรื่องขององค์พระราหูนั้น แรกเริ่มผมก็มีความรู้สึกพิเศษ และต้องเผชิญในวันหนึ่งข้างหน้า อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเตรียมตัวจึงน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ข้อมูลพระราหูตามคติต่างก็ได้พบ ได้เห็น ได้ทราบหมดแล้วตามหลักของโหราศาสตร์ หรือความเชื่อของคน จนวันหนึ่ง ผมก็ได้พบคำตอบจากองค์พระราหู ซึ่งต่างจากที่โหราจารย์ท่านว่าไว้บางประการ หรือความเชื่อต่างๆ ก็ถือเป็นธรรมทานในการบอกเล่าครั้งนี้

    ๑) พระราหูอาจจะส่งผลดี หรือไม่ดีก็ได้ ต้องดูตำแหน่งของดาวอื่นประกอบ หากไม่ดี ก็มักจะไปสะเดาะห์เคราะห์กัน การรับส่งพระเสวยอายุก็เป็นธรรมเนียมประเพณีถือสืบต่อกันมา แต่จากการบอกเล่าขององค์พระราหูท่านกล่าวว่า


    "ในญานของพระราหูที่แทรกเข้ากายธาตุของมนุษย์บางขณะที่ราหูอมจันทร์ ยามใดที่พระราหูโคจรเข้าในร่างกาย และดวงราศีเกิดของมนุษย์นั้น คำว่าดีนั้นดีอย่างไร จะดีเฉพาะคนที่ดีเท่านั้น คนที่ดี ณ เวลาใดที่ทำดี และดวงตกต่ำ ก็จะมีแต่ความดีดูแลคุ้มครอง เพราะฉะนั้นในดวงตกราหูถ้าเป็นคนที่มีบุญบารมีก่อนมาแล้วถ้าพระราหูเข้าเสวยในเคหะสถาน ของร่างกายบ้านเรือนก็ดีกายธาตุสังขาร เกณฑ์ดีนั้นจะดีประมาณ ๘๐-๙๐% เพราะฉะนั้นจะไม่ตก อันนี้คือดี สำหรับคนดี
    <O:p</O:p

    แต่ในกรณีที่คนไม่ดี มีภัยพิบัติโทษภัยในร่างกาย ก็คือคนชั่ว ทำดีก็ไม่ได้ ทำได้ก็ไม่ดี คือทำยังไงก็ไม่ได้ดี ทำดีก็ไม่ได้ดี"

    ๒) ดาว ๙ ดวงหลักๆในโหราศาสตร์ จะเรียกดาวราหู หรือเรียกเป็นภาพเงา ก็คงจะได้ ความเข้าใจตรงนี้มีความลึกซึ้งมาก คนทั่วไป มองราหูเป็นเรื่องของการพนัน เสี่ยงโชค สำมะเรเทเมา โชคลาภ การเงิน ความบันเทิงต่างๆ แต่การค้นคว้าลึกๆกลับพบว่า พระราหูเพียงองค์เดียวที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้าเป็นองค์ที่ ๕ นับจากองค์พระศรีอริยเมตไตรย การบูชาพระราหูจึงเป็นการบูชาพระโพธิสัตว์ในรูปกายแห่งเทพอสูร ภายในจิตใจมีแต่ความปรารถนาดีต่อมนุษย์ เคราะห์กรรมร้ายนั้นเกิดจากผลกรรมในอดีตชาติ และปัจจุบันที่ส่งผลตามกลไกของกรรม ดังนั้นพระราหูจึงเป็นพยานบุญบาปของมนุษย์นั่นเอง บาปบุญไม่สามารถหักกลบลบกันได้ คนละภพ คนละชาติกัน อยากได้ดี ต้องหมั่นทำความดี

    ๓) อีกนัยหนึ่งของพระราหูคือ กิเลสต่างๆเกิดได้กับทุกช่วงชีวิตของคน เมื่อได้เห็น และเข้าใจแล้ว จะสามารถผ่านกิเลสต่างๆเหล่านี้ไปได้อย่างไร ช่วงชีวิตของคนถูกจำลองมาอยู่ในดวงชะตาของมนุษย์บางช่วงดี บางครั้งพบอุปสรรคปัญหา บางครั้งสุข บางครั้งมีทุกข์ บางครั้งได้เลื่อนยศ มีเกียรติ บางเวลาเสื่อมยศ ไร้เกียรติ บางชีวิตอายุสั้น บางชีวิตอายุยืนยาว ก็เป็นวัฎสงสารของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามที่ล้วนต้องผจญด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่ารู้เท่าทันกิเลส บาป บุญนั้นหรือไม่

    ก็เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นในช่วง ๒-๓ ปีมานี้ครับ..
     
  13. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ
     
  14. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันอังคาร เบิกบาน ครับ


    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ชั่ง “กิโล” ให้ครบ “กิโล” <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">7 กุมภาพันธ์ 2554 14:52 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ก้อนเหล็กกล้าในบรรจุภัณฑ์สำหรับเดินทางไปสอบเทียบน้ำหนักที่ประเทศต่างๆ (BIPM)</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ก้อนโลหะที่ใช้เป็นกิโลกรัมมาตรฐาน ถูกเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์แน่นหนา 3 ชั้น ที่สำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ (AFP)</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">แบบจำลองตุ้มน้ำหนักมาตรฐานซึ่งแสดงไว้ที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ดร.สิวินีย์ สวัสดิ์อารี </td> </tr> </tbody></table>

    ปัญหาการชั่งน้ำหนักไม่ครบ “กิโล” นั้น ไม่ใช่ปัญหาที่เราพบเจอแค่ในตลาดสด แม้แต่ในห้องปฏิบัติการระดับโลก ที่ทำหน้าที่กำหนดนิยามของ “กิโลกรัม” ก็พบเจอปัญหาในทำนองคล้ายๆ กัน จนต้องหาว่า จะกำหนดมาตรฐานให้แก่หน่วยวัดนี้อย่างไร

    เป็นเวลานานเกือบ 122 ปีแล้วที่ “กิโลกรัม” สำหรับสอบเทียบการวัดมวลให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกถูกเก็บรักษาไว้อย่าง ดี ที่สำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ (International Bureau of Weights and Measures; BIPM) ซึ่งอยู่ในเมืองแซฟวร์ (Sevres) ทางตอนใต้ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

    อุปกรณ์สำหรับสอบเทียบมวลนี้ เป็นโลหะแพลติตินัมและเออริเดียมทรงกระบอก ถูกเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่ล็อคกุญแจแน่นหนาถึง 3 ชั้นและเก็บรักษาไว้ในฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 1889 ซึ่งมีโอกาสน้อยครั้งมาก ที่ตุ้มน้ำหนักมาตรฐานนี้ จะได้สัมผัสกับแสง เว้นแต่เมื่อทำหน้าที่สอบเทียบกับอุปกรณ์สอบเทียบอื่นๆ

    หากแต่มีข่าวอยู่เนืองๆ ว่าก้อนโลหะแพลตตินัมและเออริเดียมที่ใช้กำหนดมาตรฐานกิโลกรัมนี้ มีมวลที่คลาดเคลื่อนไป จนเป็นเหตุให้นักวิทยาศาสตร์ต้องมาทบทวนกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเลิกใช้วัตถุที่คนเราสร้างขึ้นกำหนดนิยามให้แก่หน่วยใน การวัดมวลนี้

    ตั้งมาตฐานหน่วย ชั่ง-ตวง-วัด

    นักมาตรวิทยาของไทย “ดร.สิวินีย์ สวัสดิ์อารี” ซึ่งปัจจุบันประจำอยู่ที่ฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) ได้รับรู้ถึงการหารือเพื่อเปลี่ยนนิยามใหม่ให้แก่ “กิโลกรัม” เป็นครั้งแรก ระหว่างการอบรมของสำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศเมื่อปี 2003 ซึ่งมีนักมาตรวิทยาไฟแรงจากทั่วโลกไปร่วมอบรมในครั้งนั้น

    ดร.สิวินีย์เล่าว่า การกำหนดมาตรฐานให้แก่หน่วยการวัดนั้น เกิดขึ้นในงานเอกซ์โปที่ฝรั่งเศสเมื่อ ปี 1887 ซึ่งมี 17 ประเทศคู่ค้าสำคัญของโลกร่วมลงนามในการสร้างหน่วยวัดร่วมกัน เป็นระบบหน่วยวัดระหว่างประเทศ (International System of Units) หรือระบบเอสไอ

    เริ่มจากการใช้ กิโลกรัม เมตร และวินาที ซึ่งเป็นหน่วยวัดในระบบเมตริกของฝรั่งเศส และตกลงให้สร้างมาตรฐานของหน่วยวัดทั้ง 3 ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1889

    หน่วยมาตรฐานถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศใน ฝรั่งเศส โดยประเทศต่างๆ ที่ต้องการนำความถูกต้องของหน่วยวัดไปถ่ายทอด จะเดินทางมาสอบเทียบเครื่องมือวัดกับหน่วยวัดมาตรฐานนี้

    ตุ้มน้ำหนักกิโลกรัม มาตรวัดเพียงหนึ่งเดียว

    สำหรับกิโลกรัมมาตรฐานของโลกนั้น มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว และ ไม่ได้ถ่ายทอดความถูกต้องให้แก่ตุ้มน้ำหนักของประเทศต่างๆ แต่มีตุ้มน้ำหนักอีก 6 อัน ที่ทำขึ้นจากแพลตตินัมและเออริเดียมเหมือนกันออกมา และทำหน้าที่ถ่ายทอดความถูกต้องให้แก่ตุ้มน้ำหนักของประเทศต่างๆ อีกทั้งยังใช้ตรวจสอบและสอบเทียบความถูกต้องของกิโลกรัมมาตรฐาน

    ส่วนประเทศไทยมีตุ้มน้ำหนัก T80 ที่ผลิตจากแพลตตินัมและเออริเดียมเช่นกัน ซึ่งถูกเก็บไว้ที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ และทำหน้าที่ถ่ายทอดความถูกต้องให้แก่กิจการชั่งมวลในไทย

    “ในการสร้างตาชั่งนั้น ต้องเอามวลที่ถูกต้องไปชั่ง แล้วดูว่าค่าที่ชั่งออกมานั้นได้เท่าใด ถ้าตาชั่งได้ค่าไม่ตรงกับค่ามวลที่ถูกต้อง แสดงว่าตาชั่งนั้นผิด แต่ถ้าได้ถูกต้องเราจะได้ตาชั่งที่ถูกต้องไปชั่งมวลของวัตถุที่เราต้องการ ทราบว่ามีน้ำหนักเท่าไหร่” ดร.สิวินีย์กล่าว

    ทั้งนี้ การถ่ายทอดความถูกต้องของการชั่งมวลนั้น จะมีความคลาดเคลื่อนไปตามลำดับขั้น และจำนวนครั้งของการถ่ายทอดถูกต้อง แต่ความคลาดเคลื่อนนั้นต้องเป็นที่ยอมรับได้

    มวลโลหะที่หายไป สู่การเปลี่ยนวิธีใหม่

    อย่างไรก็ดี ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนเป็นอนิจจัง ไม่มีสิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งก้อนโลหะที่เป็นตัวกำหนดมาตรฐาน “กิโลกรัม” ของโลกก็หนีความจริงข้อนี้ไม่พ้น โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่าในรอบ 100 ปี มวลของก้อนโลหะที่เป็น “กิโลกรัมมาตรฐาน” นั้น น่าจะหายไป 50 ไมโครกรัม จากการหลุดหายของอะตอมโลหะ

    การจะทราบว่ามีสิ่งใดที่เปลี่ยนไปนั้น ต้องมีสิ่งหนึ่งที่อยู่นิ่ง แต่กิโลกรัมมาตรฐานและก้อนโลหะอีก 6 อันที่ใช้สอบเทียบมวลกิโลกรัมมาตรฐาน ไม่มีอันใดที่อยู่นิ่ง จึงทำให้เกิดภาวะ “อึมครึม” ในกิจการชั่งมวลของโลก เพราะนักวิทยาศาสตร์ไม่ทราบแน่ชัดว่า มวลมาตรฐานโลกนั้นเปลี่ยนไปหรือไม่

    ทั้งนี้ ดร.สิวินีย์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กังวลกันมาก จึงต้องกำหนดนิยามกิโลกรัมใหม่ ที่มีเงื่อนไขคือ ต้องรู้เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง

    “กิโลกรัมเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ใช้ แม่ค้าหรือนักวิทยาศาสตร์ที่ส่งยานอวกาศไปนอกโลกก็ต้องใช้ ดังนั้น จะเปลี่ยนนิยามโดย 3-4 ประเทศที่มีความพร้อมเลยไม่ได้ ต้องมีหลายประเทศช่วยกันดู เพื่อช่วยกันพิจารณาว่ามาตรฐานใหม่นั้นถูกต้องเพียงพอและดีกว่า” ดร.สิวินีย์กล่าว

    เลิกเทียบกิโลกรัมกับวัตถุ หันใช้ค่าทางไฟฟ้า

    สำหรับการหานิยามใหม่ให้แก่ “กิโลกรัม” นั้น นักวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญกับค่าคงที่ของพลังค์ (Planck constant) ที่มีความเชื่อมโยงกับมวล และเป็นนิยามในปรากฏการณ์ทางไฟฟ้า

    ดร.สิวินีย์ ซึ่งจบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านฟิสิกส์ทฤษฎีจากมหาวิทยาลัยไลบ์นิซฮันโน เวอร์ (Leibniz University Hannover) ในเยอรมนี และทำวิจัยที่สถาบันมาตรวิทยาพีทีบี (Physikalisch-Technische Bundesanstalt: PTB) ของเยอรมนีด้วย กล่าวว่าเยอรมนีและอีกหลายชาติ พยายามหาค่าคงที่ของพลังค์ที่ถูกต้องที่สุด โดยการหาค่าคงที่อื่นที่เกี่ยวข้องกับค่าพลังค์ นั่นคือ เลขอาโวกาโดร (Avogadro's number)

    ทั้งนี้ ค่าพลังงานของแสง เท่ากับ ค่าความถี่ของแสงคูณด้วยค่าคงที่ของพลังค์ ซึ่งมวลและพลังงานเป็นสิ่งเดียวกันตามกฎของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คือ E=mc^2 ส่วนเลขอาโวกาโดรนั้น มีค่าเท่ากับจำนวนอะตอมของคาร์บอน-12 (C-12) ที่มีมวล 12 กรัม ดังนั้น เลขอาโวกาโดรจึงมีความสำคัญกับมวลเช่นกัน

    “ในชีวิตประจำวันนั้น เราอาจจะไม่เห็นความจำเป็นที่จะมีความถูกต้องของหน่วยกิโลกรัมถึงหลักทศนิยม ที่ 9 หลักทศนิยมที่ 10 แต่ยังมีงานที่ต้องทำไปจนถึงระดับอะตอม หรืออย่างนาโนเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น เราจึงต้องมีความสามารถในการจัดการขนาดเล็กๆ ระดับนั้น” ดร.สิวินีย์กล่าวถึงสำคัญของการนิยามและกำหนดมาตรฐานกิโลกรัม

    การชั่งมวลที่ถูกต้อง นอกจากจำเป็นต่อการจับจ่ายซื้อของในตลาดสดแล้ว ยังมีการประยุกต์ใช้อื่นอีก เช่น น้ำหนักในการเหยียบเบรกระหว่างขับรถนั้นต้องหนักกว่ารถ 3 เท่าจึงจะเบรกอยู่ ดังนั้นการวัดมวลที่ถูกต้องจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการออกแบบรถ หรือการฉีดยาที่ต้องมีความละเอียดมาก เป็นต้น ซึ่ง ดร.สิวินีย์กล่าวว่า ตัวอย่างเหล่านี้คือความสำคัญของมาตรวิทยาที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา

    อย่างไรก็ดี คาดว่าชาวโลกจะได้ร่างนิยามใหม่ของหน่วยวัดมวลนี้ ออกมาในเดือน ต.ค. 2011 แต่จะมีการลงคะแนน เพื่อตัดสินใจยอมรับมาตรฐานกิโลกรัมใหม่ในช่วงปี 2014-2015.
    .

    Science - Manager Online -
     
  17. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    สวัสดีครับ
    ผมได้โอนเงินมาทำบุญหนังสือและพลุแล้วครับ
    รายละเอียดแจ้งในEmail แล้วครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า
    รองประธานชมรมพระวังหน้า
    และสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกท่าน

    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat (<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->IT Man<!-- google_ad_section_end -->) ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากชมรมพระวังหน้า และขอเป็นผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้านับตั้งแต่วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป (รายละเอียด ตาม Email)

    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
    sithiphong
    เลขานุการชมรมพระวังหน้า
    8/2/2554


    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับเรื่องของการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับพระวังหน้าของคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat (<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->IT Man<!-- google_ad_section_end -->) ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชมรมพระวังหน้าทุกประการ


    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...