พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ณ วัดถ้ำพวง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ในประเทศไทย

    สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ สถานที่ประสูติ

    [​IMG]

    ประมาณปี 2541 เป็นต้นมา ทางวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม-ถ้ำพวง และคณะกรรมการ ญาติโยม ลูกหลานทั้งที่อยู่ใกล้ไกลได้รวมกำลังสมัครสมานสามัคคีร่วมแรงร่วมใจลงมือ ก่อสร้างสังเวชนียสาถน คือ สถานที่ประสูติซึ่งได้ออกแบบเป็นเจดีย์สถูปทรงกลม มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2541 โดยคุณไพศาล ปันทวังกูร และได้ทำการก่อสร้างมาเรื่อย ๆ โดยโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ความกว้างของฐานเส้นผ่าศูนย์กลาง 13 เมตร ความกว้างของตัวเจดีย์เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร ความสูง 17 เมตร ภายในเป็นห้องโถงใหญ่มีรูปหล่อพระนางสิริมหามายาเทวีประดิษฐาน ปางยืนประสูติพระโพธิสัตว์ราชโอรส หล่อด้วยทองเหลืองเท่าองค์จริง พระหัตถ์ขาวเหนี่ยวกิ่งสาระ มีความเด่นสง่าพิสดารสวยงามมาก ผนังทางด้านหลังรูปหล่อเขียนเป็นภาพวิวทิวทัศน์ภูเขาด้วยสีน้ำมองดูแล้วสวย งามมาก บนฝ้าเพดานจะปั้นเป็นรูปพระธรรมจักรขนาดใหญ่มีลายไทยล้อมรอบทาด้วยสีทอง เหลืออร่าม ส่วนบนยอดเจดีย์บรรลุพระบรมสารีริกธาตุหลายพันองค์
    โดยมีพระสุธรรมคณาจารย์(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2542 ทางด้านหน้าของเจดีย์มีเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชจำลองเท่าของจริงมีความเด่น เป็นสง่ามีตัวหนังสือจารึกบ่งบอกว่าสถานที่นี้คือสถานที่ประสูติพระ โพธิสัตว์ราชกุมารบริเวณรอบเจดีย์ปลูกไม้สาระเป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่า ตอนที่พระนางประสูติอยู่ที่สวนลุมพินีวันนั้นก็คือป่าไม้สาระในระหว่างกึ่ง กลางของ เมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะนครด้วยเหตุดังนั้น ไม้สาระจึงเป็นส่วนประกอบอย่างสำคัญซึ่งจะขาดเสียไม่ได้ตั้งแต่สมัยครั้ง พุทธกาลตลอดถึงยุคปัจจุบัน ก็คงถือว่าไม้สาระเป็นไม้มงคล เป็นไม้ที่มีความหมายสำหรับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราแต่ไม้สาระ อินเดียและไม้สาระเนปาลมีความหมายแตกต่างกันพระเจดีย์สิริมหามายาใช้เวลาใน การก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ
    สิ้นงบประมาณในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ 1,300,000 บาท (หนึ่งล้านสามแสนบาทถ้วน)

    สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ สถานที่ตรัสรู้
    ภาพถ่ายพระ เจดีย์ศรีมหาโพธิ์จำลอง ณ วัดถ้ำพวง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์จำลอง
    เมื่อพระเจดีย์สิริมหามายาเสร็จสิ้นไปแล้วก็ได้ลงมือก่อสร้างเจดีย์ศรีมหา โพธิ์จำลองต่อไป เริ่มต้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2542 เป็นต้นมาโดยลงมือเทพื้นฐานรากของตัวเจดีย์ เมื่อเสร็จแล้วได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์วันที่ 27 เมษายน 2542
    โดยมีพระเดช พระคุณ พระเทพวราภรณ์ วัดโสมัสวิหาร กรุงเทพฯ และพระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานสงฆ์ จากนั้นก็ลงมือก่อสร้างมาเรื่อย ๆ โดยย่อส่วนจากของจริงที่ประเทศอินเดียลงครึ่งหนึ่ง คือกว้าง 12 เมตรจตุรัส สูง 29 เมตร โดยโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่มีพระประธาน 5 องค์ เรียงลำดับตั้งแต่ปางเสวยวิมุติสุขจากการตรัสรู้ไปถึงปางนาคปรก ด้านหลังพระประธานจะเขียนด้วยสีน้ำมันเป็นรูปพระศรีมหาโพธิ์และประกอบด้วย วิวทิวทัศน์ป่าไม้ภูเขาเขียวชะอุ่มเย็นตา ทัศนียภาพที่กว้างไกลออกไปจะเห็นภูเขาหิมาลัยขาวโพลนไปด้วยหิมะด้านหน้าศรี มหาโพธิ์จะมีลักษณะเป็นลำน้ำ คงหมายถึงแม่น้ำเนรัญชรา ดูตามรูปพุทธประวัติแล้ว พระองค์คงอธิษฐานลอยถาดแล้วจึงได้ไปนั่งตั้งสัจจาธิษฐาน ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ก่อนจะตัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ชั้นบนมีพระประธานองค์ใหญ่ปางยืนสูงประมาณ 3 เมตร รอบนอกจะมีระเบียงและมีเจดีย์องค์เล็กอยู่ตามมุมทั้ง 4 ภายในเจดีย์เล็กจะมีพระพุทธรูปปางยืนทุกองค์ เว้นบันไดทางขึ้น

    ด้านนอกของเจดีย์จะมีพระพุทธรูปองค์เล็กองค์ใหญ่เรียงรายอยู่ตามผนัง จนถึงโคนยอดประมาณ 200 กว่าองค์ตามแบบของจริงที่อินเดีย นอกจากนั้นฐานล่างรอบนอกจะเต็มไปด้วยลวดลายต่าง ๆ ทั้งลายไทยและลายแขกผสมผสานกันไป ทั้งนี้ล้วนแต่ทำตามแบบของจริงทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ส่วนใต้ฐานยอดเจดีย์ทำเป็นห้องโถง 4X4 เมตร พื้นปูด้วยหินแกรนิต ฝ้าผนังบุด้วยกระเบื้องคอตโต้ เป็นห้องบรรจุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พื้นชั้นล่างปูด้วยไม้มะค่าโมงแผ่นใหญ่เคลือบด้วยยูรีเทน บี 52 ตลอดถึงประตูใหญ่อีกด้วย ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว บริเวณรอบนอกพระเจดีย์เทคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้านหน้าและด้านหลังปลูกต้นศรีมหาโพธิ์สายพันธุ์จากประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รอบพระเจดีย์ทั้งสามด้านมีรั้วเหมือนกับที่อินเดีย เว้นด้านทิศตะวันออกซึ่งติดกับเขา เสาเอกทางเข้าประตูใหญ่ได้มาตรฐาน บนเยอดเสาเป็นลวดลายกาบบัวงามวิจิตรพิศดารเป็นเอกลักษณ์ของอินเดียทุกประการ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 2ปีเศษสิ้นงบประมาณในการก่อสร้าง 5,400,000 บาท (ห้าล้านสี่แสนบาทถ้วน)

    สังเวชนียสถาน แห่งที่ ๓ สถานที่แสดงปฐมเทศนา
    ธัมเมกขสถูป (ที่แสดงปฐมเทศนา) จำลอง
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2544 โดยมีพระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานสงฆ์ จากนั้นได้ทำการก่อสร้างมาเรื่อย ๆ
    ความกว้าง ของฐาน 23 เมตร ความกว้างของตัวสถูปเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 เมตร สูง 15 เมตร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
    ภายในตัวสถูปเป็นห้องโถงใหญ่ มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ทัง 5 หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลือง
    รอบผนังจะเป็นซุ้มประกอบลวดลายสวยงามประดิษฐานด้วย พระอสีติมหาสาวก 14 องค์หล่อด้วยทองเหลืองเท่าองค์จริง
    บนฝ้าเพดาน ปั้นเป็นรูปธรรมจักรขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยลวดลายไทย ทาด้วยสีทองเหลืองอร่ามเป็นที่งดงามยิ่งนัก
    บริเวณรอบนอกถัดจากระเบียง ลูกกรงออกไปราว 6 เมตรจะเป็นรูปปั้นธรรมจักรขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร และกวางใหญ่คู่หนึ่งพร้อมด้วยหัวเสาของพระเจ้าอโศก คือหัวสิงห์ 4 หัวแกะสลักจากหินทรายภูเขาเหล่านี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ส่วนประกอบในบริเวณ ธัมเมกขสถูป ถ้าดูตามตำนานแล้วป่าอิสิปตนมฤคทายวันนั้นแปลว่า เป็นที่ให้ชีวิตหรือให้อาหารแห่งกวาง
    แม้แต่ในอดีตที่ผ่านมา สมัยที่พระองค์เป็นโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นหัวหน้าแห่งฝูงกวางทั้งหลายและ ยังได้อาศัยบริเวณพื้นที่แห่งนี้ และที่สำคญอีกประการหนึ่งก็คือเป็นสถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเป็นครั้ง แรกในโลก อันมีผลก่อให้เกิดพระสงฆ์เป็นองค์แรกในโลกเช่นเดียวกัน และพระพุทธองค์ทรงจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้เป็นพรรษาแรกเช่นเดียวกันหลังจากแสดงธรรมโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ต่อมาก็กลายเป็นพระอารามใหญ่โตรโหฐาน จะเห็นจากตำนานและซากปรักหักพังจากอิฐทั้งหลายที่ระเกะระกะอยู่ทั่วบริเวณ ปัจจุบันทางรัฐบาลอินเดียยังรักษาสภาพพื้นที่เอาไว้เพื่อเป็นสิ่งแจ้ง ประจักษ์ว่าสถานที่ยังพอมีร่องรอยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน และเป็นการรำลึกถึงพระพุทธองค์และพระอริยสงฆ์ในยุคนั้น
    เจดีย์ธัมเมกขสถูปใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 3,327,146 บาท (สามล้านสามแสนสองหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยสี่สิบหกบาทถ้วน)

    สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ สถานที่ดับขันธปรินิพพาน

    ภาพ ถ่าย เจดีย์วิหารปรินิพพานจำลอง
    [​IMG]

    พระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐสถานอยู่ภายในอาคาร ดับขันธปรินิพพาน ซึ่งน้อยครั้งที่จะเปิดให้เข้าชม
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ก่อสร้างตามแบบเดิมทุกประการเพียงแต่ย่อส่วนให้เล็กลงตามความเหมาะสมเท่า นั้น ส่วนพระพุทธรูปปางปรินิพพานคงไว้ขนาดเดิม คือยาวประมาณ 7 เมตร ส่วนตัวพระวิหารและองค์เจดีย์ด้านหลังนั้นย่อส่วนเข้าให้กะทัดรัด คือกว้าง 18 เมตร ยาว 24 เมตร ความสูงขององค์พระเจดีย์ 13 เมตร พื้นล่างยกสูง 3 เมตร เท่าของจริงที่อินเดีย แต่ของเขาปิดเอาไว้ ส่วนของเราเป็นฐานโล่งสามารถอำนวยประโยชน์ในการใช้สอยได้ตามอเนกประสงค์ ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โดยมี
    พระเดชพระคุณ พระเทพญาณวิศิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กรุงเทพฯ เป็นประธานสงฆ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2545
    มีคุณเสริม เหวียนระวี พร้อมครอบครัวเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ สิ้นงบประมาณในการก่อสร้าง 6,414,157 บาท (หกล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดบาทถ้วน)

    ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี
    สังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบลได้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยของเราซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่หาโอกาสได้ไม่ ง่ายนักเราพิจารณาดูก็คงรู้ว่ามีไม่กี่แห่งในเมืองไทย แต่ที่แน่ ๆ ของเราก็คือการเน้นรูปลักษณ์ลวดลายและทรวดทรง คือถ้าหากไม่จำเป็นจริง ๆ ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจุบันมีคนไปกราบนมัสการที่ดินแดนประเทศอินเดียเป็นจำนวนมาก ถ้าหากจำลองไม่เหมือนของจริงแล้วก็จะทำให้เสียความรู้สึก และไม่สร้างศรัทะาให้แก่ท่านผู้ที่มาพบเห็น แต่สำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นของจริงนั้นอย่างไรก็ได้ ฉะนั้น ทางคณะกรรมการจึงพยายามพิถีพิถันในการก่อสร้างอยู่ไม่น้อยและทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้น ทางวัดจึงใคร่ขอขอบใจอนุโมทนาทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้าง สังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงความสำเร็จทุกประการ ถือว่าพวกเราทุกท่านทุกคนได้มีส่วนร่วมผลงามอันโดดเด่นเป็นสง่าสร้างบารมี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นมงคลและเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไพศาล เป็นประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญของท่านผู้แสวงหาบุญทั้งหลาย เป็นศูนย์รวมกราบไหว้บูชา
    คงเป็นผลานิสงฆ์ไม่น้อยกว่าไปกราบในแผ่นดิน พุทธภูมิแห่งประเทศอินเดีย และยังเป็นหลักฐานมั่นคงในทางพระพุทธศาสนา
    สืบ ทอดไปถึงลูกหลานตราบนานเท่านานจนหาประมาณมิได้

    หมายเหตุ รวมค่าก่อสร้างสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 16,041,900 บาท (สิบหกล้านสี่หมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยบาทถ้วน


    วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม หรือวัดถ้ำพวง และพิพิธภัณฑ์อาจารย์วัน อุตตโม

    พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารอาจารย์วัน อุตฺตโม
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระมงคลมุจลินท์ในวิหารถ้ำพวง
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประวัติการก่อ ตั้งวัดถ้ำพวงโดยสังเขป

    เดิมทีราว พ.ศ. 2504 พระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้เริ่มก่อตั้งวัดถ้ำอภัยดำรงธรรมและจำพรรษาอยู่ ณ วัดแห่งนี้ จนมีพระภิกษุสามเณรเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
    ในปี พ.ศ. 2514 ท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันสร้าง
    ถนน ขึ้นสู่ยอดเขาภูผาเหล็กซึ่งมีถ้ำอีกแห่งหนึ่งมีชื่อว่า "ถ้ำพวง" ด้วยความสามัคคีพร้อมเพรียง
    แห่งแรงศรัทธา ได้ร่วมกันสร้างถนนจนเสร็จเรียบร้อยเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร พร้อม
    ทั้งได้สร้างวัดขึ้นด้วยคือ "วัดถ้ำพวง" บนยอดเขาภูผาเหล็ก (เป็นส่วนหนึ่งของวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม)
    แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปมักชอบเรียก ว่า "วัดถ้ำพวง" จากนั้นได้สร้างอาคารเสนาสนะ และได้สร้าง
    พระพุทธรูปปาง นาคปรกหน้าตักกว้าง 5 เมตร ไว้ ณ ถ้ำพวง นามว่า "พระมงคลมุจลินท์"
    พร้อม ทั้งได้สร้างวิหารครอบองค์พระพุทธรูปเป็นที่เรียบร้อยในเวลาต่อมา
    เมื่อท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2523
    ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ตำบลคลองหลวง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัด
    สกลนคร (ธ) ได้แต่งตั้ง พระอธิการหลอ นาถกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สืบแทน
    ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2523 เป็นต้นมาจนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระครูอุดมญาณโสภณ"
    จน ถึงปัจจุบัน ท่านได้ทำนุบำรุงและพัฒนาวัดถ้ำพวงจนเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป


    การเดินทาง
    ใช้เส้นทางสาย สกลนคร-อุดรธานี เส้นทางหลวงหมายเลข 22 ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอสว่างแดนดิน เลี้ยวซ้ายผ่านอำเภอส่องดาวไปถึงวงเวียนอนุสาวรีย์พระเวสสันดรระยะทางอีก ประมาณ 27 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์หากแยกขวาจะไปวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม ตรงไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงพิพิธภัณฑ์ พระอุดม สังวรวิสุทธิ สร้างเป็นรูปทรงจตุรมุข 2 ชั้น ประดับด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ชั้นล่าง ตกแต่งเป็นห้องแสดงภาพวาดเกี่ยวกับประวัติของพระอาจารย์ตั้งแต่เกิด ส่วน ชั้นบน มีรูปปั้นของท่านในท่านั่งขัดสมาธิ พร้อมเครื่องสักการะบูชาที่ตกแต่งสวยงาม และตู้กระจกแสดงเครื่องอัฐบริขารของท่าน บริเวณใกล้เคียงกันมีถ้ำพวงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระมุจรินทร์องค์ใหญ่ และยังมีสังเวชนียสถาน 4 ตำบลขนาดใหญ่อยู่ด้วย


    ที่มา:
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , รองประธานชมรมพระวังหน้า และ สมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    เนื่องจากมีผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า ผมได้ส่งรายละเอียดของท่านนี้ ไปให้ทุกๆท่านในวาระการประชุมชมรม การรับสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้าเรียบร้อยแล้ว

    ผมรบกวนทุกๆท่าน แสดงความคิดเห็นมาด้วยครับ

    ส่วนท่านประธานฯและรองประธานฯ หลังจากท่านสมาชิกแสดงความคิดเห็นแล้ว ผมรบกวนให้ท่านประธานฯและท่านรองประธานฯ แสดงความเห็นและลงมติมาให้ด้วยว่า จะรับหรือไม่รับในการสมัครเป็นสมาชิกชมรมพระวังหน้าครับ

    ขอบคุณครับ
    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พี่ไฟดูดฝากแจ้งข่าวมาว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้เพื่อนๆชาวพระวังหน้า แขวนพระวังหน้าไว้ทุกท่านนะครับ ของ ๔,๐๐๐ ปีนี่ท่าจะแรง หาของแรงๆ เอาไว้รับมือกันหน่อยครับ เมื่อคืนเตรียมพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์เอาไว้เตรียมไปเลี่ยมวันนี้ก็ได้รับข่าวสารจากพี่ไฟดูดพอดี ที่เตรียมไว้เพื่อจะอาราธนาไปหอพระวังหน้าในวันที่ ๗ ช่วงเช้ามีทำบุญถวายอุทิศแด่พระบาทสมเด็จปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ผมไม่อยากให้เพื่อนๆชาวพระวังหน้าพลาดเลย...
     
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    โมทนาสาธุครับพี่...
    ว่าแต่ "ของ ๔,๐๐๐ ปีนี่ท่าจะแรง" คืออะไรรือครับ?
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    "ของ ๔,๐๐๐ ปี" นี่ "เขา" ทำมาแบบเน้นฤทธิ์ล้วนๆ จะมากระทำมิดีกับบ้านเมืองเรา ก็สมัยพุทธกาล แบบนี้ขออาราธนาพลังอิทธิคุณของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ของพระอรหันต์เจ้า หรือพลังพุทธคุณของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ปลอดภัยไว้ก่อนครับ

    การเปิดให้กราบสักการะพระศักดิ์สิทธิ์ ที่หอพระวังหน้า ท่าจะไม่ใช่เหตุบังเอิญเสียแล้ว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2011
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พี่เพชรช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับคนไกลแบบผมจะได้ทันรับมือกับสถานการณ์ได้ครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับสมาชิกชมรมพระวังหน้า และ ผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า ห้อยพระวังหน้ากันทุกๆท่านอยู่แล้วครับ


    .
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขยายอีกหรือครับ s6..s6..ท่านว่า ผู้มีวิชาที่มีฤทธิ์ท่านนี้ import มาจากเมื่อ ๔,๐๐๐ ปีก่อน จะเข้ามาก่อความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองเรา ท่านว่าได้สอบมาหลายสายแล้ว อย่างน้อย ๓ สายก็ได้ความตรงกัน ลองคิดดูเอาละกันว่า จะป้องกันตัวเองจากท่านผู้นี้ได้อย่างไร

    ที่พี่พิมพ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าหลังพุทธกาล ๑,๐๐๐ ปี ใกล้เคียงกับหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้าอันนี้ผิดครับ ต้องเป็นก่อนสิ้นพุทธกาล ๑,๔๐๐ ปีสิ..ก็เตรียมรับมือครับ ไม่รู้ว่าท่านผู้ใด export มา
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ถ้าให้ดี พี่ไฟดูดน่าจะเข้ามาบอกความโดยละเอียดให้กับน้องๆได้ทราบกันโดยตรงดีกว่าครับ คงจะมีคำถามอีกมาก..555555
     
  12. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    แต่ถึงยังไงก็ขอขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านที่คอยชี้แนะบอกกล่าวไม่ให้ประมาท จะได้เตรียมระวังตัวนะครับ
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ท่านเพชรนี่เร็วดีนะครับ ผมกำลังจะรอตรวจสอบรายละเอียดพรุ่งนี้แล้วค่อยแจ้ง ครับแบบว่ามาไม่ชัด ต้องขอตรวจสอบก่อนครับได้ความอย่างไรจะแจ้งเท่าที่ทำได้ครับ หุ หุ
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ยังไงตรวจสอบแล้วขอความกรุณาคุณพี่อย่าลืมกระซิบดังๆบอกน้องอย่างผมด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งเลยครับผม
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เช็คเสร็จหรือยังครับคุณน้องนู๋ รอฟัง...
     
  16. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ผมคิดว่า พระสยามเทวาธิราชและอดีตมหากษัตริยาธิราชเจ้าและมหาราชทุกพระองค์คงไม่ปล่อยให้ "ของ" นั้นมาทำไม่ดีกับบ้านเมืองเราครับ
    หากผู้ใดทำการอันร้ายกับบ้านเมืองของเรา ผมอยากเห็นพิธี "ปฐมกรรม" (สมัยองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า) ให้คนไทยเห็นอีกครั้งในยุคปัจจุบันนี้ครับ
     
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ยังครับ ต้องรบกวนผู้ใหญ่รอสักครู่ครับ วันสองวันนี้ล่ะครับ ส่วนพระพิมพ์ผมอยากเสริมนิดนึงครับเดี๋ยวจะหาว่าเชียร์แต่พระของตัวเองอีก(โดนครหา) ผมเน้นว่าหรือพระพิมพืที่อยู่ในกลุ่มองค์อภิญญาใหญ่ท่านเมตตาเสกให้ก็น่าจะได้ครับ หุ หุ
     
  18. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    เอ...ฟังดูแล้ว ยังไม่ต้องถึงระดับหลวงปู่ใหญ่เสกเลยนะเนี่ย s6s6 :cool:

    เมื่อคืนคุยกันกับปฐม เธอบอกว่าชักติดเบี้ยแก้แล้ว แม้ยามนอนต้องอยู่ใกล้ๆท่าน คิดว่าเป็นคนเดียว ที่ไหนได้สำหรับผมเอง...แม้ของสำคัญมีจะอยู่พอสมควร แต่ยามนอนก็ขาดเบี้ยแก้หลวงปู่อิเกสาโร+ศิษย์(หลวงปู่ภู) ไม่ได้เช่นกันคร๊าบ หุหุหุ
     
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    บางท่านห้อยทีเกิน 1 องค์ด้วยสิ ...

    พระกริ่งปวเรศ สามารถเรียกท่านเป็นพระวังหน้าได้หรือเปล่าครับพี่?
     
  20. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่าจริงๆด้วยพี่ไฟดูดโทรมาแจ้งว่าไม่พอ ต้องหลวงปู่ใหญ่เท่านั้นครับ ส่วนทางผมรายละเอียดยังไม่มาครับ ก้ยังแจ้งมากไม่ได้ก็ต้องตามผู้ที่แจ้งครับ หุ หุ

     

แชร์หน้านี้

Loading...