พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เหรียญทองหนึ่งรุ่นแรกที่เขาว่าเป็นรุ่นที่มีเทียนแยงตาเป็นของแท้ องค์นี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นยุคหลัง ชาวบ้านเขาอาจจะว่าปลอมอันนั้นเรื่องของเขา ที่ผมแน่ใจคือพ่อตาผมเขาเดินทางใต้เหนือออกตกมาทั้งชีวิต มีงานเก็บศพที่ไหนก็จะไปช่วยเขา ใจบุญ ใจดีมากๆครับ และไปถึงที่ไหนก็จะแวะวัดดังๆย่านนั้น ทำบุญบูชาเหรียญมาวัดละเหรียญ(เท่าที่ดูกรุของท่านแล้ว ส่วนมาก 95% เป็นเหรียญ)อันนี้จึงมั่นใจว่าแท้แน่นอนครับ หากนำไปให้อาจารย์ปู่ หรือพี่ใหญ่ตรวจดู สงสัยว่าท่านจะบอกว่า ปู่องค์ ๔ เสก...s6...s6...
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จานเด็ด4ภาค หลากรสปีใหม่

    [​IMG]

    ใกล้ถึงวันสิ้นปีเก่า ย้อนไปดูเมนูจานเด็ดในรอบปีที่ผ่านมา เปิดร้านอาหารแนะนำจานเด็ด เป็นตัวแทนของแต่ ละภาค ได้ดังนี้

    ทาง ภาคเหนือขอแนะ นำ แกงหน่อและน้ำพริกน้ำหน่อ อาหารพื้นเมืองของเมืองน่าน สูตรของนางกมลรัตน์ จอมเมือง หรือพี่แจ๋ว เจ้าของร้านขายอาหารพื้นเมือง ตลาดราชพัสดุ เทศบาลเมืองน่าน

    แกงหน่อหรือแกงหน่อไม้สด แกงพื้นเมืองรสชาติเข้มข้น เครื่องปรุงมีไม่มาก หน่อไม้สด ใบหญ้านาง ตะไคร้ ผักพื้นบ้านท้องถิ่นที่หาได้ง่าย

    เอา หน่อไม้สดมาแกะเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด หั่นบางๆ ต้มสุก จากนั้นเอาตะไคร้ 2 หัว ทุบพอแหลกใส่ลงหม้อ ตามด้วยปลาร้า ใบหญ้านางฉีกใส่ลงไป ต้มอีกสักพักจนส่งกลิ่นหอมหวน ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ยกขึ้นจากเตาได้

    กินกับข้าวเหนียวนึ่ง และผักเครื่องเคียง อร่อยเกินบรรยาย

    ลงมาที่ภาคกลางเยื้องไปตะวันออกที่เมืองระยอง มีไก่บ้านต้มระกำ ที่ร้าน "วัน...วานนี้"

    ระกำถือเป็นพืชประจำถิ่นแถบภาคตะวันออก ร้านวัน...วานนี้ นำมาเป็นส่วนผสมของเมนู ไก่บ้านต้มระกำ

    เริ่มจากคัดระกำเนื้อหนาและเปรี้ยวจัด เฉือนเอาแต่เนื้อ

    ตั้ง น้ำจนร้อนใส่ตะไคร้ทุบหั่นเป็นท่อน ข่าหั่นแว่น พร้อมเนื้อไก่ เติมเกลือเล็กน้อย ปิดฝาหม้อรอจนน้ำเดือดใส่ระกำลงไป ปิดฝาให้เดือดอีกรอบ ฉีกใบมะกรูดปิดท้ายปิดเตาไฟ ตักใส่ถ้วยที่ทุบพริกขี้หนูรอไว้ บีบมะนาวลงไปอีกนิด โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง

    ร้านเดินทางสะดวก ใช้เส้นทางสายล่าง (ถนนราษฎร์บำรุง) หรือถ้ามาจากสุขุมวิท ตรงข้ามห้างแหลมทองระยอง เลี้ยวเข้าวัดเนินพระ ซอยราษฎร์บำรุง 10 ผ่านวัดเนินพระเลี้ยวขวามือ ตรงไปจะเห็นป้ายร้านชัดเจน

    ไปทางภาคอีสาน ร่วมแสดงความยินดีกับจังหวัดน้องใหม่ "บึงกาฬ"

    ชาว บ้าน 8 อำเภอของจังหวัดใหม่นี้ ชีวิตประจำวันมีความเกี่ยวข้องกับสายน้ำโขง อาหารจานหลักหนีไม่พ้นปลาน้ำโขง เมนูชูโรงจากฝีมือแม่บ้านชาวบึงกาฬหม้อนี้คือ "ต้มแซบปลาคัง"

    ปลา สับเป็นชิ้นพอคำ ตั้งน้ำให้เดือดเติมเกลือเล็กน้อย ข่าแก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด รากผักชี ใส่ลงหม้อก่อน ตามด้วยน้ำมะขามเปียก หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นยาว หอมหัวใหญ่หั่น หอมหัวแดงทุบหยาบๆ ปรุงรสให้ออกเปรี้ยวนำ

    ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างแล้ว ปิดท้ายด้วยปลาคังสับลงต้มจนสุก แล้วค่อยใส่ใบแมงลัก ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และพริกสดลงไป

    มีโอกาสไปบึงกาฬ อย่าลืมเลือกเมนูนี้มาลิ้มลอง

    ปิดท้ายกันด้วยอาหารประจำถิ่นใต้แกงไต ปลา ไม่ใช่ไตปลาธรรมดา แต่เป็นแกงไตปลา ทรงเครื่อง สูตรเด็ดจาก "ร้านเจ๊นีย์" เมืองพัทลุง

    แกง ไตปลาทรงเครื่อง ทางร้านจะใช้ไตปลาปลาช่อนหรือปลากระบอกเท่านั้น ส่วนเนื้อปลา ใช้นำปลาซาบะ ย่างด้วยไฟอ่อนๆ จนสุกหอม แกะเนื้อปลาเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้ เอาหมูเนื้อแดง กุ้งสด พริกไทย มาบดรวมกัน เสร็จแล้วใส่ภาชนะเตรียมไว้

    ต้มน้ำใส่ไตปลาลงไปรอจนน้ำเดือด ใส่เครื่องแกงส้ม เติมน้ำตาลพอประมาณ ตามด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เนื้อหมู-กุ้งบด เนื้อปลาย่าง รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง ใส่ใบมะกรูด แล้วยกลง เสิร์ฟพร้อมผักสด สะตอ ลูกเนียง ลูกเหรียง ยอดมะม่วงหิมพานต์ ฝักกระถิน

    ปีใหม่ใครล่องใต้ ผ่านไปพัทลุง ไปอิ่มอร่อยกันได้

     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “บะหมี่ไก่ผัดน้ำพริกเผา” อร่อยร้อนๆ หอมยั่วน้ำลาย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody> </table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ธันวาคม 2553 16:30 น.</td></tr></tbody> </table>
    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : กุ๊กเล็ก

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา “กุ๊กเล็ก” เพิ่งจะทำบะหมี่เกี๊ยว กินกับครอบครัว แต่ก็ยังเหลือเส้นบะหมี่เหลืองอยู่อีกหลายก้อน ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็คงจะบูดไปเสียก่อน ก็เลยจะใช้ทำอาหารให้หมดไปเสียเลย ด้วยเมนู “บะหมี่ไก่น้ำพริกเผา” ที่หวานกลมกล่อม ถูกปากเป็นที่สุด

    ส่วนผสม
    เส้นบะหมี่เหลือง 1-2 ก้อน
    อกไก่ 200 กรัม
    น้ำพริกเผา 2 ½ ช้อนชา
    น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
    น้ำปลา ½ ช้อนชา
    น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
    ยอดคะน้า 3 ต้น

    วิธีทำเริ่มจากลวกเส้นบะหมี่ให้สุกกำลังดี แล้วพักไว้ นำยอดคะน้าล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นท่อนยาวๆ ลวกให้สุกกรอบ จากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช พอร้อนแล้วใส่อกไก่ที่หั่นเป็นชิ้นพอคำลงไปผัดพอสุก ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาลทราย ผัดต่อไปสักพักจนเข้าเนื้อ แล้วปิดไฟ จัดจานโดยวางเส้นบะหมี่ตรงกลาง ด้านข้างวางคะน้า และนำไก่ผัดน้ำพริกเผาราดลงไปอีกข้าง หรือจะนำเส้นบะหมี่ลงไปคลุกเคล้าในกระทะเพื่อให้รสชาติเข้าไปทั่วถึงทุกเส้น ก็ได้

    เสร็จแล้วยกไปเสิร์ฟร้อนๆ จะได้กลิ่นหอมหวนชวนหิว สีสันสวยสดชวนกิน ส่วนไก่ผัดน้ำพริกเผานั้นถ้าเหลือก็สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ แล้วนำออกมาอุ่นกินในมื้ออื่น หรือจะกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยกลมกล่อมเช่นกัน</td></tr></tbody> </table>

    Travel - Manager Online -
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันพฤหัสที่ผ่านมาได้เดินทางไปทางคลองใหญ่ (ห่างจากตัวเมืองตราดไปทางเขมรเลียบเทือกเขาบรรทัดไป 70ก.ม.) ผมกะว่าจะไปพบคุณลุงท่านหนึ่งที่เคยพบกันเมื่อ ๓ ปีก่อน ได้รับเมตตาจากคุณลุงสวงค์ และพี่สนิทมอบพระธาตุพระแม่กวนอิม และลูกแก้วสารพัดนึก เป็นข่าวเกรียวกราวจนทางนิตยสารโลกทิพย์นำเรื่องราวไปตีพิมพ์ จนทัวร์ต่างๆมาลงที่นี่กัน ช่วงนั้นลูกแก้วสารพัดนึกตกลงมาถี่มาก จนหมดวาระ พระแม่กวนอิมท่านก็หยุดประทานให้..

    วันที่ผมเดินทางไปนั้น ได้รับทราบว่าคุณลุงสวงค์ท่านได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เหลือแต่คุณป้าอายุมาก และพี่สนิทเท่านั้น พี่สนิทเขากล่าวว่าหากคุณแม่สิ้นบุญก็จะบวชที่วัดท่าซุง ตั้งแต่ปี 2541 ท่านได้ดำเนินตามคำสอนของหลวงพ่อฤาษีฯ ถือศีล 8 กรรมบถ 10 พรหมวิหาร 4 และสังโยชน์ 10 เรียกว่า จะไม่ยอมทำผิดศีลข้อใดข้อหนึ่งอย่างเด็ดขาด และทานวันละมื้อเท่านั้น

    ลูกแก้วสารพัดนึกส่วนที่เหลือเป็นของคุณลุงสวงค์ และพี่สนิทเท่าที่ผมเห็นน่าจะเหลือเพียง 3-4 ลูกเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย พระแม่ท่านไม่ประทานให้อีก เรียกว่ามีวาสนาจึงจะได้รับเท่านั้น บางครอบครัวได้รับร้อยกว่าลูกก็มี หากในคณะมีผู้ไม่ศรัทธาหลงรวมมาด้วย ก็จะไม่ได้รับกันทั้งคณะ พี่สนิทเขาบอกว่า ลุกแก้วที่เสด็จมามีราวพันกว่าลูก เพื่อนๆชาววังหน้าที่สนใจก็ลองเดินทางไปพบพี่สนิทนะครับ หากจะเดินทางก็ PM แจ้งผมก่อนก็ได้ จะได้ให้เบอร์โทรศัพทืพี่สนิทเขา สอบถามเส้นทางเดินทาง ระยะทางจากกรุงเทพก็ราวๆ 380 ก.ม. กระซิบอีกนิดครับลูกแก้วสารพัดนึกของพี่สนิทเขาเป็นลูกแก้วจักรพรรดิ เนื่องจากเสด็จมาในวันที่ในหลวงเสด็จขึ้นครองราชย์ครบ 50 พรรษานั่นเองเป็นครั้งสุดท้าย ลวดลายของลูกแก้วจึงต่างจากของคุณลุงสวงค์มาก บางองคืเป็นตัวหนังสือภาษาจีน ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่รวมกับของคุณลุงสวงค์แล้ว เหลือเพียง 3-4 ลูกหรือไม่ หากเดินทางไปรับลูกแก้วกัน ก็ขอความกรุณารับไปเพียงท่านละลูกนะครับ อย่ารับเผื่อคนนั้นคนนี้ ขอให้ถือว่าเป็นบุญ และวาสนากันดีกว่า เสด็จมาได้ ก็เสด็จไปได้เช่นกัน...

    เป็นที่น่าแปลกว่า ลูกแก้วรุ่นของคุณลุงมีความคล้ายคลึงกับลูกแก้วสารพัดนึกรุ่นแรกของหลวงพ่อฤาษีฯมาก ส่วนลูกแก้วของพี่สนิทเป็นลูกแก้วจักรพรรดิ ผมไม่สามารถ post ภาพให้ชมได้ เนื่องจากอาจจะมีผู้หวังประโยชน์นำไปทำเลียนแบบ..
     
  5. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    ขอแสดงความยินดีกับทุกๆท่านครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์เช้าวันอาิทิตย์หรรษาครับ



    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า และผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    ผมได้ส่งรายละเอียดในการเลือกประธานชมรมฯ , รองประธานชมรมฯ ,เลขานุการชมรมฯ , 2 ผู้ช่วยเลขานุการชมรมฯ ให้ทุกท่านได้ทราบทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    ผมมาแจ้งบนบอร์ดอีกครั้ง

    มีผู้ที่สมัครสมาชิกชมรมรวมทั้งหมด 19 ท่าน เป็นอดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า 14 ท่าน เป็นผู้ที่สมัครใหม่ 5 ท่าน

    ผู้ที่ได้รับเลือกจากสมาชิกเป็นประธานชมรมพระวังหน้า คือ พี่เปี๊ยก

    รองประธานชมรมพระวังหน้า คือ คุณnongnooo

    เลขานุการชมรมพระวังหน้า คือคุณsithiphong

    ผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า คือคุณpsombat

    ผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า คือคุณPinkcivil

    สำหรับอดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือท่านใดที่ผมเคยส่ง Email ไปหาท่าน หากเปลี่ยนใจต้องการที่จะสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า หรือมีความต้องการที่จะสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า ให้ท่านแจ้งความประสงค์ของท่านผ่านทาง Email มาหาประธานชมรมฯ หรือ รองประธานชมรมฯ หรือเลขานุการชมรมฯ

    ทางประธานชมรมฯ หรือ รองประธานชมรมฯ หรือเลขานุการชมรมฯ จะเปิดประชุมในการรับสมัครสมาชิกใหม่ และการลงมติในการรับสมาชิกใหม่ ต้องใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการ(ประธานชมรมฯ หรือ รองประธานชมรมฯ หรือเลขานุการชมรมฯ)

    จึงเรียนมาให้ทุกๆท่านได้ทราบกันอีกครั้งครับ

    ขอบคุณครับ
    sithiphong.24/12/2553

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    สำหรับท่านใดที่สมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า

    ผมมีพระวังหน้ามอบให้กับทุกๆท่านด้วยครับ

    ไว้ผมทยอยจัดส่งให้ครับ

    ส่วนท่านที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือ ปริมณฑล คงนัดพบกันอีกครั้ง

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า และผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    ผมได้ส่งรายละเอียดในการเลือกประธานชมรมฯ , รองประธานชมรมฯ ,เลขานุการชมรมฯ , 2 ผู้ช่วยเลขานุการชมรมฯ ให้ทุกท่านได้ทราบทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    ผมมาแจ้งบนบอร์ดอีกครั้ง

    มีผู้ที่สมัครสมาชิกชมรมรวมทั้งหมด 19 ท่าน เป็นอดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า 14 ท่าน เป็นผู้ที่สมัครใหม่ 5 ท่าน

    ผู้ที่ได้รับเลือกจากสมาชิกเป็นประธานชมรมพระวังหน้า คือ พี่เปี๊ยก

    รองประธานชมรมพระวังหน้า คือ คุณnongnooo

    เลขานุการชมรมพระวังหน้า คือคุณsithiphong

    ผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า คือคุณpsombat

    ผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า คือคุณPinkcivil

    สำหรับอดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือท่านใดที่ผมเคยส่ง Email ไปหาท่าน หากเปลี่ยนใจต้องการที่จะสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า หรือมีความต้องการที่จะสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า ให้ท่านแจ้งความประสงค์ของท่านผ่านทาง Email มาหาประธานชมรมฯ หรือ รองประธานชมรมฯ หรือเลขานุการชมรมฯ

    ทางประธานชมรมฯ หรือ รองประธานชมรมฯ หรือเลขานุการชมรมฯ จะเปิดประชุมในการรับสมัครสมาชิกใหม่ และการลงมติในการรับสมาชิกใหม่ ต้องใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการ(ประธานชมรมฯ หรือ รองประธานชมรมฯ หรือเลขานุการชมรมฯ)

    จึงเรียนมาให้ทุกๆท่านได้ทราบกันอีกครั้งครับ

    ขอบคุณครับ
    sithiphong.24/12/2553

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    สำหรับท่านใดที่สมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า

    ผมมีพระวังหน้ามอบให้กับทุกๆท่านด้วยครับ

    ไว้ผมทยอยจัดส่งให้ครับ

    ส่วนท่านที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือ ปริมณฑล คงนัดพบกันอีกครั้ง

    .
    </td> </tr> </tbody></table>


    หลังจากปีใหม่แล้ว

    ผมตั้งใจว่า จะไม่แจกฟรีอีกแล้ว

    ต้องร่วมทำบุญเพียงประการเดียวครับ



    .
     
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    :cool:
    เมื่อวานตอนค่ำปฐมกับครอบครัว ได้มาอัญเชิญพระบรมฯกับผมและรับไปทานอาหารทะเลกันที่เกาะยอ สงขลา
    บรรยากาศดีมากๆครับพี่หนุ่ม หุหุ อาหารทะเลสด อร่อย ไม่ว่าจะเป็นปูนิ่มผัดพริกไทย ปูดำนึ่งเนื้อแน่นๆแกล้มกับน้ำจิ้มทะเล กุ้งชุปแป้งทอดนุ่มๆ ทอดมันกุ้งเนื้อแน่น ผักบุ่งทอดกรอบกับน้ำจิ้มรสเด็ด กลั้วคอด้วยแกงส้มปลากระบอก ปิดท้ายด้วยผลไม้รสหวานและน้ำมะพร้าว เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากเพราะมืดแล้ว

    ปฐมฝากพระขรรค์โสฬส เนื้อเงินแห่งวัดท่าขนุน สร้างไว้เมื่อวาระทอดกฐินปีที่แล้ว(23 ต.ค) ซึ่งต้องรอกฤษสร้าง 100 ปีมีครั้งเดียว ให้กับพี่หนุ่มและอีกเล่มสีทองมอบให้ผม ขอบคุณมากๆนะครับในน้ำใจนี้

    นอกจากนี้ ก็ได้พูดคุยกันในเรื่องพระพิมพ์วังหน้า กับประสบการณ์สายธรรมะ กว่าจะได้มาพบเจอพระวังหน้าด้วย สนุกดีครับ

    ปฐมอายุอาจจะอายุน้อยกว่านิดหน่อย.. แต่ภูมิธรรมไม่ได้น้อยกว่าเลย กลับมากกว่าเสียด้วยซ้ำครับ นายแน่มาก "ปฐม" ต้องยกนิ้วให้ :cool:
     
  10. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โหพี่สมบัติครับคงเทียบไม่ได้กับความมีน้ำใจของพี่ๆทุกท่านในนี้ที่เมตตากระผมหลอกครับ ทั้งพี่หนุ่มที่คอยให้ความรู้และสิ่งที่เป็นมงคลไว้คุ้มกาย รวมทั้งพี่สมบัติด้วย พี่เพชร และพี่กูรูรวมถึงพี่ๆทุกท่าน ที่คอยมอบความรู้ที่ผมไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อน ผมดีใจที่ได้เจอกัลยาณมิตรที่ดีๆในกระทู้นี้ ขอบพระคุณพี่สมบัติอีกครั้งนะครับที่อัญเชิญพระบรมธาตุมาให้กระผมได้สัการะนับเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตทำให้ผมได้มีโอกาสไปถวายพระบรมธาตุแก่ครูบาอาจารย์ของกระผม ถือว่าได้ทำบุญรับปีใหม่ รวมถึงเมตตาน้องอย่างกระผมให้พระระดับ top มาบูชาคุ้มกายถ้าไม่เพราะได้เจอกัลยาณมิตรที่ดีจะเรียกว่าอะไรละครับ:cool:
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบใจมากครับ

    อ่า แต่ว่า อิจฉาตาร้อนมากๆเลย อาหารอร่อยๆทั้งนั้นเลย

    หนูไม่ย้อม หนูไม่ยอม อดกิน :'( :'( :'( :'( :'(

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]


    [​IMG]


    วันนี้ตอนเช้า ผมได้ไปร่วมทำบุญกับทางทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธฯมา

    ไปพบกับคุณnongnooo ,คุณPinkcivil และคุณMEA

    หลังจากที่ทำบุญกับทางทุนนิธิฯแล้ว ผมกับคุณPinkcivil ได้ไปซื้อรังนก(ไม่มีน้ำตาล) ไปถวายหลวงปู่พระเทพกวีฯ

    หลวงปู่พระเทพกวีฯ ท่านอาพาธอยู่ ผมเห็นท่าน แล้วก็นึกไปถึงเรื่องของสังขาร สังขารไม่เที่ยง มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย เป็นธรรมดา และ เมื่อสมัยก่อนตอนที่ท่านสุขภาพยังดี อยู่ที่วัดระฆัง ก็มีแต่คนไปหา ตอนท่านอาพาธ ผมไปกราบท่านครั้งไหน ไม่เคยเห็นมีใครมาเยี่ยมท่านเลย ชื่อเสียงเกียรติยศ มีได้ ก็ เสื่อมได้ เป็นธรรมดาจริงๆ


    มาโมทนาบุญร่วมกัน



    ต่อจากนั้น ผมเดินทางไปที่วัดเบญจมบพิตร ไปกราบพระพุทธชินราช , รัชกาลที่ 5 เดินภายในวัด รู้สึกว่าเป็นสุขใจดีจัง

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.JPG
      11.JPG
      ขนาดไฟล์:
      25.8 KB
      เปิดดู:
      152
    • 12.JPG
      12.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.5 KB
      เปิดดู:
      1,650
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  13. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    [​IMG]

    ไปทำบุญครานี้ เสมือนว่าหลวงปู่..แม้ท่านจะอาพาธ ท่านก็ได้สอนธรรมะให้เข้าใจมากยิ่งขี้นทางอ้อม ทั้งอนิจจํ ทุกขํ ,ทั้งโลกธรรม8 ,ทำบุญเสร็จจิตใจอิ่มเอิบ มีปีติ นับว่าสมบูรณ์ดีแท้...

    โมทนาสาธุด้วยครับ

    กราบนมัสการหลวงพ่อพระพุทธชินราช องค์จำลอง
    กราบพ่อปู่ชีวกโกมารภัจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พี่หนุ่มถ้าได้ลงมาหาดใหญ่รวมถึงพี่ทุกท่านด้วยนะครับ ขอให้น้องอย่างผมจะได้ตอบแทนน้ำใจอันดีของพี่ๆท่านบ้าง
     
  15. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอโมทนาบุญด้วยนะครับพี่หนุ่ม ขอบพระคุณสำหรับข้อธรรมดีๆนะครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นิทานสอนใจ : ขนมชื่อว่า "ไม่มี" <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ธันวาคม 2553 10:57 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline"> ขอบคุณภาพประกอบจาก pla-tong-ko </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    ชื่อนิทานเรื่องนี้ อาจจะทำให้ผู้อ่านหลายคนเข้าใจผิดคิดถึงเรื่องของความขัดสนยากจน ถึงแม้เรื่องนี้จะขึ้นด้วยเรื่องของคนจน แต่ก็ลงท้ายด้วยความเป็นผู้มีทุกสิ่งทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้ความหมายของคำว่า "ไม่มี" ถ้าลองติดตามอ่านดู ก็จะทราบว่าเขาคนนั้นทำอย่างไร ถึงได้เป็นผู้ที่มีพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง


    เรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีครอบครัวของชายยากจนคนหนึ่งชื่อว่า "อันนภาระ" เขาอาศัยสุมนเศรษฐีอยู่โดยทำหน้าที่เป็นคนขนหญ้าเลี้ยงวัว เขาต้องตรากตรำทำงานหนักมาก วันหนึ่งอันนภาระได้ถวายบิณฑบาตแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เฉพาะตัว โดยไม่ได้สั่งสอนผู้อื่นและอยู่เพียงลำพัง) นามว่า "อุปริฏฐะ" แล้วจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า "ด้วยทานอันบริสุทธิ์ที่ข้าพเจ้าทำด้วยจิตอันเต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธานี้ คำว่าไม่มีอย่าได้เกิดแก่ข้าพเจ้าอีกเลยในทุกภพทุกชาติไป"

    ด้วยอำนาจแห่งทาน ตั้งแต่นั้นในชาติต่อๆ มาเขาก็ได้เป็นเศรษฐีผู้มั่งคั่งประจำพระนคร และได้สร้างบุญถวายแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก ตราบจนสิ้นชีวิต

    มาถึงสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "โคดม" อันนภาระก็ได้เกิดเป็นพระกุมารแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระนามว่า "เจ้าชายอนุรุทธะ" เป็นพระโอรสของพระเจ้าอาของพระบรมศาสดา ในวัยเด็กถ้ามีการแข่งขันตีคลีกันจะมีกติกาว่า ใครแพ้จะต้องเป็นผู้เลี้ยงขนม เจ้าชายอนุรุทธะทรงมีฝีมือค่อนข้างแย่กว่าเพื่อนคนอื่นๆ พระมารดาจึงต้องส่งคนรับใช้ให้นำขนมมาเตรียมไว้ให้เสมอ คราวหนึ่งเจ้าชายอนุรุทธะทรงแพ้ตีคลีหลายครั้งจนขนมหมด พระมารดาจึงส่งข่าวมาว่า "ตอนนี้ ขนมไม่มีแล้ว"

    เจ้าชายอนุรุทธะไม่เคยได้ยินคำว่า "ไม่มี" มาก่อนเลย จึงเข้าพระทัยว่าพระมารดาจะส่งขนมที่ชื่อว่า "ไม่มี" มาให้ จึงเร่งคนรับใช้ให้ไปเอามา ครั้นพระมารดาเห็นคนรับใช้กลับมารับขนมอีก จึงคิดว่านางปรนเปรอและตามใจลูกมากเกินไปจนไม่รู้จักคำว่าไม่มี พระมารดาจึงต้องสอนลูกรักให้รู้จักและได้เข้าใจว่า "ไม่มี" เสียที ดังนั้น พระนางจึงได้ส่งถาดเปล่าๆ ปิดคลุมด้วยถาดทองอีกใบหนึ่ง แล้วจะไปให้เจ้าชายอนุรุทธะ

    ขณะนั้น เหล่าเทวดาทั้งหลายซึ่งรู้ว่าเจ้าชายอนุรุทธะเคยตั้งความปรารถนาเอาไว้ว่า "เราไม่พึงฟังคำว่าไม่มี" ต่าง ร้อนใจคิดว่าถ้าหากตนนิ่งเฉยเสีย ศีรษะของท่าน (เทวดา) จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จึงเนรมิตรขนมทิพย์เป็นจำนวนมากบรรจุลงในถาดทองคำที่คนรับใช้ถือไปถวายเจ้า ชายอนุรุทธะ เมื่อพระองค์เปิดฝาครอบออก กลิ่นขนมทิพย์หอมฟุ้งไปทั่วพระนคร ครั้นเสวยขนมทิพย์แล้วก็ติดใจในรสชาติและกลิ่นหอม คิดว่าเพราะเหตุใดพระมารดาจึงไม่เคยส่งขนมอร่อยๆ เหล่านี้ให้เสวยมาก่อนเลย หรือว่าเมื่อก่อนนี้จะไม่ทรงรักพระองค์

    เจ้าชายอนุรุทธะคิดดังนั้น จึงรีบกลับไปเฝ้ามารดา เพื่อทูลถามเรื่องขนมพร้อมทั้งตั้งเงื่อนไขว่า ต่อไปนี้จะเสวยแต่ขนม "ไม่มี" เท่านั้น พระมารดาไม่ทราบเรื่องมาก่อน จึงแปลกพระทัยมาก แต่เมื่อทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากคนรับใช้แล้วจึงคิดว่า ลูกของตนเป็นผู้มีบุญมากมาเกิดเป็นแน่แท้ เทวดาถึงได้เนรมิตรขนมทิพย์ให้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวลาที่เจ้า ชายอนุรุทธะต้องการเสวยขนม "ไม่มี" พระมารดาจะทรงล้างถาดทองคำแล้วปิดด้วยถาดทองคำอีกใบหนึ่งแล้วส่งไปให้ โดยหวังว่า เทวดาทั้งหลายจะเนรมิตรขนม "ไม่มี" ให้ แล้งทุกๆ ครั้งก็เป็นเช่นนั้น

    นายอันนภาระได้ให้ทานด้วยจิตที่มีศรัทธาเต็มเปี่ยม วัตถุทานที่เขาใช้ก็หามาได้ด้วยความบริสุทธิ์ และผู้รับทานยังเป็นผู้ประเสริฐยิ่งในโลก เขาจึงสมหวังดังคำอธิฐาน จึงอยากให้ท่านทั้งหลายสมหวังมีทุกๆ อย่างบริบูรณ์อย่างนายอันนภาระหรือเจ้าชายอนุรุทธะด้วย

    แต่พรนี้จะสัมฤทธิผล ก็ต่อเมื่อ ท่านทั้งหลายตั้งปณิธานเหมือนที่นายอันนภาระตั้งใจทำบุญช่วยเหลือ และสงเคราะห์ตามความเหมาะสมกับฐานะ มีความเมตตา มีน้ำใจต่อกัน และพร้อมที่จะให้อภัยกันเสมอ ทุกคนก็มีสิทธิ์ทำได้กันทั้งนั้น แม้จะไม่มีเงินทองก็ใช้มิตรภาพ เพราะบางครั้งคุณค่าแห่งมิตรภาพมันยิ่งใหญ่กว่าเงินทองหรือสิ่งของมีค่าใดๆ เสียอีก

    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000179876
    .



    .



    .
     
  17. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    สาธุ ขออนุโมทนาทุกประการครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>
    อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า วันจันทร์ แจ่มใส
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้ดำเนินการส่งรูป พระพิมพ์........ ที่ผมเคยแจ้งไว้ว่า ท่านใดสนใจ ผมส่งให้เรียบร้อยแล้วครับ

    นี่ก็เป็นอีกพิมพ์ที่ผู้ที่พอรู้ นำความรู้ที่มี ไปใช้ในสิ่งที่ผิด

    ผมส่งให้เพื่อเป็นวัคซีนในการป้องกันความไม่รู้ครับ

    กรุณาอย่าส่งต่อครับ

    ให้รู้และทราบเฉพาะกลุ่มเท่านั้นครับ

    การให้ความรู้ ต้องระมัดระวังกันให้มากๆ

    หากผมทราบว่า ท่านได้ส่งต่อ ผมเองอาจจะพิจารณาไม่ส่งให้อีก ผมแจ้งไว้ ณ ที่นี้ครับ

    .
     
  20. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ห้อยพระหลายๆ องค์

    กราบเรียน พี่หนุ่ม พี่สิทธิพร พี่ Nongnoo พี่เพชร พี่ Psombat และพี่ พันวฤทธิ์ ครับ
    ผมกราบขอความคิดเห็นของพี่ๆ เกี่ยวกับเรื่องการห้อยพระหลายๆ องค์ครับ คือว่าถ้าผมห้อยพระหลายองค์แต่พระพิมพ์ทุกองค์เป็นพระที่เสกโดยท่านผู้เสกองค์เดียวกันก็น่าจะดีใช่ไหมครับ (หมายถึงว่าพระพิมพ์ได้ถูกตรวจอิทธิคุณแล้วว่าท่านใดเสกให้)
    กราบขอบคุณในความคิดเห็นและวิทยาทานทุกท่านครับ
    คงภัค
     

แชร์หน้านี้

Loading...