พระเครื่องในคอผู้เฒ่าประจำบ้าน.. น.๔๘๙ สุดยอดแห่งแดนใต้..

เครื่องราง

สำหรับผมเครื่องรางจริงๆก็ชอบมาพร้อมๆกับพระเครื่องนี่แหละครับ แต่จะเน้นที่ไปบูชาที่วัดหรือว่าคนที่ได้ไปรับกับมือจริงๆครับ เพราะเครื่องรางบางอย่างหาจุดจบยากครับ สำหรับรูปที่โชว์คือเป็นแผ่นตะกรุดที่หลวงพ่อจารเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ม้วนครับทางวัดนำมาใส่กรอบให้ศึกษาครับ และจัดได้ว่ายุคนี้หาเครื่องรางแบบนี้ได้ยากยิ่งครับ...ที่สำคัญสายวัดประดู่ทรงธรรมที่มีตำราสืบทอดกันมาเป็นร้อยๆปีครับ

 

อ่าฮ่ะ...ซื้อกับเจ้าของเดิม คนในพื้นที่...ราคายุติธรรมดีครับ...
เลือกเอาครับคุณนัน...ชอบแถวไหน จังหวัดไหน...มีคุณตี๋เป็นที่ปรึกษาแล้วครับ....

 

ยุคอยุธยา...ผมว่าเป็นยุคที่คนไทยอาศัยหรือใช้เครื่องรางเยอะนะครับ....
พระเกจิ ทั้งไทย และพม่า...ล้วนมีอาคมขลัง และเป็นกำลังใจสำคัญของนักรบในการทำศึกสงคราม....

น่าสนใจจริงๆครับ...

 

คงอีกหลายปีครับพี่เกรียง ยังผ่อนบ้านที่กรุงเทพไม่หมดเลย อิอิอิ เอาให้เป็นที่ๆไปครับ หลายทางเด๋วจะไม่ได้ซักทาง ดูแถวๆลำปางครับ ชอบครับ เพราะเห็นพี่โน๊ต อุดม บอกว่า หนาวมาก แต่จริงๆแล้วก็ชอบลำปางครับ ถนนคดเคี้ยวดีครับ ภูเขาเพียบ ลองสืบให้หน่อยครับพี่ตี๋ ว่าซักเท่าไหร่ครับ ประมาณว่าปลูกบ้านได้ มีที่ไว้ปลูกผักสวนพลู เอ้ย!! สวนครัว เผื่อจะลองหารวบรวมไว้ครับ

 

ขอเป็นกำลังใจให้พี่สวนพลูได้ที่เร็วๆนะครับ เผื่อน้ำท่วมจริงจะได้หนีไปอาศัยกะพี่ด้วยครับผม

 

ถ้าได้รางวัลที่ 1 จะปลูกเผื่อให้ครับ จัดให้ 1 หลังครับ อิอิอิ ..... เอาไว้หนีวันที่ภัยพิบัติจะมาถึง 555+ ยินดีต้อนรับคนจิตใจดีทุกท่านครับ ฝันที่อาจจะเป็นจริงของผม

 

ฮ่าๆๆๆ....
ท่านน้อง armchi อยู่กระบี่...พื้นที่น้ำท่วมตามคำทำนายซะด้วย...

-----------------------------------------------------------------------
อ่ะนะ...จะท่วมจริงรึป่าวก็ม่ะรู้...ว่ากันไปตามสังคมโลก....
ผมขอกินอิ่ม นอนหลับ มีฟามสุขทุกๆวันอ่ะครับ...ทำดีกับคนรอบๆกาย...
ถึงวันที่ต้องตาย...คงไม่เสียดายอะไรอีกแล้ว...ฮ่าๆๆๆๆ

-----------------------------------------------------------------------
ก่อนน้ำจะท่วม ...จะต่อแพเล็กๆเตรียมรับมือไว้ครับ...คริคริคริ...

 

โหะๆๆๆ...คุณนันใจบุญขนาดนี้....
ขอให้ได้รางวัลที่ 1 10 คู่เลยครับ...สาธุ สาธุ สาธุ....

 

อุตส่าห์แนะทางลัดให้คนโสดสนิท(เกณฑ์ของตรู)...ฮ่าๆๆๆๆ
เอ้า...รอก็รอ...

ผมก็เคยผ่อนคอนโดฯที่เมืองทองธานี...ไว้เก็บของตอนสมัยเริ่มทำงานใหม่ๆ...
พอดีเจอเนื้อคู่...มีบ้าน มีที่ดินพอปลูกผัก 20 กว่าไร่...เลยย้ายสำมะโนครัวมาอาศัยอย่างรวดเร็ว...
เสร็จสับ...วางแผนแต่งงานตีซึม...สบายไป...

ขืนรอเก็บตังส์...สงสัยจะยังไม่ได้แต่งงานเป็นแน่แท้...ฮ่าๆๆๆๆ

 

ผมจะหาทางลัดไม่ได้ครับ เพราะผมไม่ถูกโฉลกกับทางลัดครับ นี่หวังรวยทางลัดมาหลายงวดแล้วครับพี่เกรียง ไม่ได้รวยซักที อิอิอิ

คงต้องรอต่อไปครับ

 

ฮ่าๆๆๆ.....
ลิขิตฟ้า...รือจะสู้มานะตน...
ให้กำลังใจครับ...สู้ๆ...
----------------------------------------------------------------------
คนเรา...มีมานะน่ะ...ถือเป็นสายกลางและดีที่สุดแล้วครับ...

ผมเล่าเรื่องใกล้ตัวเกี่ยวกับโชควาสนา..อ่านเล่นๆนะครับ...
พี่ชายภรรยา...เคยถูกรางวัลที่ 1 ...สมัยนั้น...1 คู่ = 6 ล้านบาท...ล๊อตเตอรี่ใบนั้น ยังเก็บใส่กรอบอยู่ที่บ้านตอนนี้ครับ...

ที่มาของหวย...ไม่ได้ซื้อครับ....
ได้มาในบ่อนฯ แถวสุขุมวิท...สมัยก่อน เกือบ 20 ปีมาแล้ว...
แทงป๊อกเด้ง...หากได้ 2 เด๊ง...จะได้ลอตเตอรี่รัฐบาลแถมหนึ่งใบ...เพราะเป็นวันหวยออก....
แกได้มาเพียงคู่เดียว...ในวันนั้น...

พอถึงเวลาหวยออก...รางวัลที่ 1 ...เจ้าของบ่อน...ทราบว่าเลขที่ออก อยู่ในกลุ่มคนที่มาเล่น ประกาศแจ้งให้ทุกคนทราบ...

พี่ชาย..เดินเข้าไปดูของตัวเองที่มีอยู่ใบในห้องน้ำ...พอรู้ว่าตัวเองถูก...ก็แอบหนีออกจากบ่อนกลับบ้าน...

---------------------------------------------------------------------
รางวัลที่หนึ่ง...ในบ่อนการพนัน ก็มีจริงนะครับ...
บางครั้ง...โชควาสนาของคนเรา...มันก็ไม่ได้ขาวสะอาดหรือบริสุทธิ์ซักเท่าไหร่ครับ...
สุดแต่ฟ้าจะกำหนดจริงๆ

เราสู่กันฟังนะครับคุณนัน...
มิได้สนับสนุนให้ไปหาหวยในบ่อนฯนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ.....

 

ปาฏิหาริย์'หลวงปู่ทวด'ยิงไม่เข้า

ปาฏิหาริย์'หลวงปู่ทวด'ยิงไม่เข้า

ไอ้หนุ่มปล่อยเงินกู้ เจอมือปืนดักยิงใส่ กระชากสร้อยขาด ซัลโวโป้ง!ดับคาที่

เจ้าพ่อเงินกู้ห้อยหลวงปู่ทวดรุ่น 05 หนังเหนียว มือปืนโหดใช้.38 กระหน่ำยิงใส่ 4 นัดแรกไม่ระคายผิว ตะโกนใส่ มึงหนังเหนียวนักหรือ พร้อมตรงเข้ากระชากสร้อยคอห้อยหลวงปู่ทวดขาดตกลงกับพื้น แล้วใช้ปืนจ่อยิงขมับอีก 2 นัดล้มลงดับคาที่ ในเบื้องต้น ตร.พุ่งปมเหตุฆ่าล้างหนี้เงินกู้

เหตุการณ์รายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุรเซษฐ์ เกตุขาว สวญ.สภ.บ้านในหูต ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่ศาลาพักผู้โดยสาร หมู่ 11 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน และฝ่ายพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ริมถนนสายเอเซีย 41 หน้าสำนักงานขนส่ง จ.ชุมพร สาขา อ.หลังสวน ภายในศาลาที่พักผู้โดยสาร พบร่างของนายไมตรี คำมูล อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 43 หมู่ 6 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร นอนตายจมกองเลือดที่พื้นศาลา สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงยีน ที่พื้นใกล้กับศีรษะพบสร้อยสเตนเลส ขาดหล่นพร้อมพระเครื่องสามองค์ หัวกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด และหลักฐานอื่น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ชันสูตรพลิกศพ พบว่ามีบาดแผลที่ขมับด้านขวา 2 นัด ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 ส่วนที่ลำตัวพบบาดแผลที่ผิวหนังเป็นจ้ำๆ 4 แผล ทะลุผ่านเสื้อที่ผู้ตายสวมใส่

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินทางมาทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งฯ แล้วมีโทรศัพท์เข้ามาหาผู้ตายก่อนที่ผู้ตายจะเดินออกมาพบกับชายหนุ่มอายุประมาณ 30-35 ปี ไว้ผมยาว จากนั้นนายไมตรีผู้ตายได้คุยกับชายคนดังกล่าวที่ศาลาที่พักผู้โดยสารสักพักใหญ่ แล้วชายผมยาวดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ออกมากระหน่ำยิงใส่ลำตัว และบริเวณหน้าอกของผู้ตายจำนวน 4 นัด แต่นายไมตรี ผู้ตายได้แต่สะดุ้งแสดงอาการจุก แต่ไม่มีเลือดไหลออกมาจากร่างกายแต่อย่างใด คนร้ายตะโกนขึ้นว่า เหนียวนักหรือมึง แล้วเดินเข้าไปกระชากสร้อยคอสเตนเลสที่สวมพระเครื่องอยู่ 3 องค์ จนขาดร่วงลงไปกองกับพื้น จากนั้นคนร้ายจ่อยิงที่ศีรษะอีก 2 นัด จนร่างของผู้ตายล้มลงขาดใจตาย แล้วคนร้ายวิ่งขึ้นไปขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง จำทะเบียนไม่ได้ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบอีกว่า นายไมตรี ผู้ตายมีอาชีพ รับทำประกันภัยรถ ชั้น 3 และประกันแบบ พ.ร.บ. รวมทั้งออกเงินให้กู้ และได้รับฉายา ว่า "ตรีปากทรง" เป็นผู้กว้างขวางในวงการนักเลง ระดับเจ้าพ่อเงินกู้คนหนึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ นิสัยพูดจาโผงผางไม่กลัวใคร เป็นนักเล่นพระเครื่องตัวยงคนหนึ่ง มีพระเครื่องราคาหลักล้านติดตัวประจำ คือ หลวงพ่อทวด รุ่น 05 และเหรียญกรมหลวงชุมพร รุ่นล้อแม็กซ์ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรุ่นแคล้วคลาด เคยมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ทหารใน จ.ระนอง ลาดตระเวนถูกลอบยิงกระสุนโดนลำตัวเต็มๆ แต่ไม่ระคายผิว รวมทั้งเหรียญกรมหลวงวัดวนาราม ที่ปากน้ำชุมพร อีก 1 เหรียญ ทั้ง 3 เหรียญ ทำให้นายไมตรีรอดตายจากเหตุการณ์ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง จนผู้ที่สนิทกับผู้ตายให้การยอมรับว่า หนังเหนียว จนมาถูกยิงตายในครั้งนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนสาเหตุการสังหารโหดในเบื้องต้น ตร.พุ่งปมเหตุอาจมาจากการฆ่าล้างหนี้เงินกู้ หรือไม่ก็อาจมาจากเรื่องความแค้นส่วนตัว

 

เหรียญหลวงพ่อมุ่ย รุ่นวางศิลาฤกษ์ ๒๕๐๗

เหรียญหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ รุ่นวางศิลาฤกษ์ เนื้ออัลปาก้า หรือเรียกอีกอย่างว่าเหรียญ "ดาบหัก" ทำไมรึ ............?

'หลวงพ่อมุ่ย' มงคลวัตถุที่มีประสบการณ์สูงยิ่ง (จาก นสพ เดลินิวส์)
“อภินิหาร” ที่เป็นจริงและปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อแบบ “เหนือลิขิต?? ประกาศิตฟ้าดิน??” ในดินแดน “สุพรรณบุรี” นั้นมีมากมายหลายเหตุการณ์ชนิดบอกได้ว่าเป็นเรื่องที่ “เหลือเชื่อ” แต่ก็ทำให้ผู้คนเกิด “พิศวงงงงวย” กันมามากต่อมากอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่ผ่านมาแต่ก็ยัง ร่ำลือกันมาจนถึงทุกวันนี้ “เหนือลิขิต?? ประกาศิตฟ้าดิน??” ฉบับนี้จึงขอนำเรื่องราวมาขานไขให้ทราบกันเพราะเป็นอีกหนึ่ง “เรื่องจริง” ที่มีพยานยืนยันได้อย่างดีโดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชื่อเสียงของ “หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่” ขจรขจายจาก “ทุ่งเดิมบางนางบวช” ไปทั่วทั้ง “จังหวัดสุพรรณบุรี” แล้วเล็ดลอดมาถึง “กรุงเทพฯ” ก็เพราะมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับ “เสี่ยเจ้าของบ่อดินลูกรัง” มีชื่อว่า “นายแจ่ม สังข์งาม” หรือที่ชาวอำเภอเดิมบางนางบวชเรียกขานว่า “เสี่ยโห้” ปัจจุบันอายุ ๕๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๑๘/๔ หมู่ ๕ ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (เหตุที่บอกบ้านเลขที่ไว้เผื่อใครสนใจอยากไปฟังเรื่องราวกับหูตัวเองก็เชิญ ได้เลย) ซึ่งวันนั้นวันที่เกิดเหตุ “เสี่ยโห้” นั่งดื่มสุราอยู่กับพรรคพวก ๒ คนที่ร้านข้าวต้ม “เฮียฮ้อ” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ “สถานีรถเมล์” สายเดิมบางนางบวช ต.ท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น.

หลัง จากดื่มกินกันไปหลายขวดเพื่อนสองคนเมาจน “หลับพับคาโต๊ะ” จึงเหลือ “เสี่ยโห้” คนออกตังค์นั่งโจ้อยู่คนเดียวระหว่างกำลังดื่มเพลิน ๆ อยู่นั้นพลันก็มี “มีดดาบ” ฟันฉับลงบน “ลำคอเสี่ยโห้” ทางด้านหลังเต็มแรงยังผลให้ “เสี่ยโห้” หัวทิ่มลงไปกับพื้นพร้อมกับบังเกิดความมึนงงอยู่ชั่วขณะ พอตั้งสติได้จึงหันไปมองผู้ที่ย่องมาลอบทำร้ายก็พบเห็นเป็น “นายซีน” (ขอสงวนชื่อจริง) ลูกชายของ “ร้านตัดกางเกง” ซอยตลาดบนในตลาดท่าช้างนั่นเองซึ่งเป็นคนรู้จักกันดียืนผงาด “มือกำดาบ” ขาววับเล่มใหญ่กำลังเงื้อดาบหมาย “ฟันซ้ำ” อีก “เสี่ยโห้” เห็นเช่นนั้นรีบลนลานลุกขึ้นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนด้วยความกลัวท่ามกลาง “สายตาของชาวบ้าน” ที่เห็นเหตุการณ์หลายสิบคน “เสี่ยโห้” ที่วิ่งแบบไม่คิดชีวิตตามแบบฉบับของคน “หนีตาย” ไปได้ชั่วครู่ก็วิ่งไปชนเอารถเมล์ที่จอดอยู่ที่ “ท่าจอดรถ” เสียงดังสนั่นผลก็คือตัวเอง “ล้มกลิ้งกับพื้น” ทำให้ “นายซีน” ที่วิ่งไล่กวดมาติด ๆ พอเห็น “เสี่ยโห้” ล้มกลิ้งอยู่กับพื้นจึงใช้มีดดาบเล่มที่ถืออยู่ในมือ “แทงเสี่ยโห้” แบบไม่ยั้งกระทั่งดาบเล่มนั้น “หักคามือ” ท่ามกลางสายตาของ “ไทยมุง” ที่เรียงรายมาล้อมวงดูเหตุการณ์

ระหว่างนั้น “จ่าธง” แห่ง “สภ.เดิมบางนางบวช” ได้ยินเสียงคนเอะอะจึงวิ่งมาดูเหตุการณ์พร้อมทำการ “ระงับเหตุ” ก็พบว่าผู้ถูกทำร้ายนอนสลบเหมือดอยู่กับพื้นแล้วจึงจับ “นายซีน” ไปโรงพักทางด้านเพื่อนร่วมดื่มของ “เสี่ยโห้” ที่บัดนี้หายเมาแล้วกลับคิดว่าเสี่ยโห้ถูกมีดแทงตายแล้วจึงช่วยกันหามร่าง เสี่ยโห้ไปยัง “ศาลาวัดท่าช้าง” จากนั้นก็ไปแจ้งข่าว “คุณพ่อคุณแม่” ของ “เสี่ยโห้” ให้ทราบเรื่องซึ่งพอทราบเรื่อง “คุณพ่อคุณแม่” ของเสี่ยโห้รีบรุดไปดูลูกชายทันทีแต่พอไปถึง “ศาลาวัดท่าช้าง” ก็เห็นลูกชาย “ลุกนั่ง” แต่อยู่ในสภาพ “โงนเงน” เต็มทีเลยตกใจเพราะตามคำของผู้ไปบอกนั้น “ลูกชาย” ถูกแทงตายแล้วจึงตรงไปสำรวจตรวจดูตามร่างกายปรากฏว่า “ลูกชาย” ไม่มี “รอยแผล” ใด ๆ เลยเพียงแต่ที่ “คอด้านหลัง” มีรอยแดงเป็นทางยาวปูดนูนออกมาให้เห็นชัดเจนส่วนลำตัวที่ถูกถอดเสื้อออกแล้ว พบว่ามี “รอยขีดข่วน” เต็มไปหมดที่ด้านหลังโดยที่ “พระเลี่ยมทอง” พร้อม “สร้อยคอทองคำ” ที่ใช้แขวนพระเป็นเพื่อนที่ช่วยหามเสี่ยโห้เก็บเอาไว้ก็พบว่าเป็น “สร้อยคอทองคำหนัก ๓ บาท” ที่อยู่ในสภาพ “ขาดกระจุย” ร่วงตกอยู่ในเสื้อของ “เสี่ยโห้” ที่เกิดจากแรงฟันของดาบส่วน “พระเลี่ยมทอง” ซึ่งก็คือ “เหรียญหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่” รุ่น “วางศิลาฤกษ์” ปี ๒๕๐๗ ที่มีเพียงเหรียญเดียวก็ยังอยู่ครบจึงเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่ผู้ที่เห็น เหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “เสี่ยโห้” รอดตายเพราะ “เหรียญหลวงพ่อมุ่ย” ช่วยไว้แน่นอนเพราะขณะโดนฟันโดนแทง “เสี่ยโห้” แขวนเหรียญหลวงพ่อมุ่ยเพียง “เหรียญเดียว” ที่แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า “เหรียญ ๕ เสาร์” แต่พอมีเหตุการณ์นี้จึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ใหม่ว่า “เหรียญดาบหัก”

“พระครูสุวรรณวุฒาจารย์” (มุ่ย พุทธฺรักฺขิโต) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๒ บิดาชื่อ “นายเหมือน” มารดาชื่อ “นางชัง” ในสกุล “มีศรีไชย” ที่บ้านดอนไร่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยมี “พระครูธรรมสารรักษา” (อ้น) วัดดอนบุปผาราม อ.ศรีประจันต์ เป็นพระอุปัชฌาย์ “พระอาจารย์ทวน” วัดบ้านกร่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ “พระอาจารย์กุน” วัดตะค่าเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “พุทธฺรักฺขิโต” หลังบวชแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน จึงสนใจศึกษาพุทธาคมกับ“หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา” และ “หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า” จนมีความชำนาญทางพระเวทวิทยาคม สามารถปฏิบัติได้เข้มขลังไม่แพ้อาจารย์ จึงเป็นที่เคารพนับถือจากชาวบ้านดอนไร่ และใกล้เคียงจำนวนมาก เมื่อเจ้าอาวาสวัดดอนไร่องค์ก่อนท่านสิ้นลงจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้า อาวาสวัดดอนไร่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้พัฒนาวัดดอนไร่จนเจริญรุ่งเรืองมีชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก ด้วยเห็นว่าเป็นพระแท้ที่มีศีลาจารวัตรงดงาม สมเป็นพุทธบุตรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “หลวงพ่อมุ่ย” มีชื่อเสียงกิตติคุณกว้างไกลจนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครู สุวรรณวุฒาจารย์” เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ “หลวงพ่อมุ่ย” ได้สร้างมงคลวัตถุไว้มากมายหลายรุ่นเนื่องจากมีลูกศิษย์และผู้ศรัทธา เลื่อมใสจำนวนมากจวบจนท่านอายุได้ ๘๔ ปี ในวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ จึงได้ละสังขารไปตามธรรมชาติแห่งสังขารของชีวิต คงทิ้งอนุสรณ์แห่งคุณงามความดีให้โชติช่วงสว่างไสวอยู่ตลอดกาลนาน

 

ไม่เคยเข้าบ่อนเลยครับพี่เกรียง เล่นก็แค่ตามงานศพ ตอนเด็ก พอโตมาก็เลิกเล่นไพ่ ไฮโล น้ำเต้า ปู ปลา เลิกหมด เหลือหวย เล่นแค่พอลุ้นครับ

 

เล่าให้ฟังเฉยๆครับคุณนัน...ฮ่าๆๆๆๆๆ
ผมก็เหมือนคุณนันแหล่ะครับ...ตอนนี้แทงหวยหนุกๆไม่เกินสองร้อยบาทต่อเดือน...

 

พี่เกรียงครับ ทุ่งทานตะวัน ที่ใกล้อำเภอเมืองลพบุรี อยู่แถวไหนบ้างครับ แฟนผมเขาต้องการไปครับ ส่วนผมไม่ต้องการ แต่ต้องตาม เฮ้อ.......... แถวอำเภอไกล้ๆตัวเมืองลพบุรีครับพี่ พอจะทราบบ้างไหมครับ

ปล.ที่ใดมีรักที่นั่นมีตุ๊ด ....ทุกข์ อิอิอิ

 

ดูข่าวแล้วขนลูกไปถึงต้นคอ พุทธคุณสุดจะกล่าว...แต่มือถึงที่ตายก็หนีกรรมเก่าไม่พ้น

 

ฮ่าๆๆๆๆ.....
คนสองคน...อีกหนึ่งร้อน อีกหนึ่งต้องเย็น...ถึงจะอุ่นครับ...
ธรรมชาติสร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้มีความแตกต่างครับ...แต่หากสองสิ่งที่แตกต่างกันอยู่รวมกันได้อย่างลงตัว..ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธมมชาติกำหนดไว้เช่นกันครับ...ฮ๋าๆๆๆๆ....

---------------------------------------------------------------------
ทุ่งทานตะวัน...ช่วงนี้เส้นบนเส้นทางจากตัวเมืองลพบุรี...เข้ามาตามแยกมินิแบร์...ผ่านเขาจีนแล...เข้าโคกตูม...ทะลุออกซอย 12 วัดพรหมรังสี...ตรงเข้ามาที่ตัว อ.พัฒนานิคม...เข้าสู่เขือ่นป่าสักฯ....
ยังพอมีให้เห็นตลอดเส้นทางครับคุณนัน....

 

ขอบพระคุณ..ท่าน Tanarkon มากๆครับ...ที่แวะมาทักทาย...

ผมนั่งดูข่าวตอนเช้า...ขณะรอแฟ้มผู้ป่วย ตึก ปกส. ศิริราช เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมาครับ....เพิ่งกลับมาหารายละเอียดเจอเมื่อเช้า..เลยโพสให้อ่านกัน...

สิ่งที่เกิดขึ้น...แสดงให้เห็นว่าอิทธิปาติหาร ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ....
และกรรม...ก็เป็นเรื่องจริงที่เรามิอาจหลีกเลี่ยงได้...

หลายคนเชื่อว่า...เงินเท่านั้นที่คือเหตุแห่งกรรม(กุศล/อกุศล)...ที่สามารถส่งผลให้ชีวิตเรามีสุข (ผลของกรรม/บุญวาสนา) เลยตั้งหน้าตั้งตาทำทุกข์วิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา..แลใช้เงินเป็นตัวกำหนดดี/เลว ของใครสักคนครับ...

ผมเองก็เคยคิดไม่แตกต่างจากนี้...และพยายามปรับตัวเองให้นึกถึงเงินน้อยลงครับ...

---------------------------------------------------------------------
อ่านข่าวแล้วรู้สึกขนลุกเช่นกันครับ...ฮ่าๆๆๆๆ

 

ตามหาเหมือนกันครับ

สำหรับพระเครื่องของหลวงพ่อมุ่ยก็ยังไม่มีครับ ขาดแต่กำลังทรัพย์มีวาสนาได้เห็นได้ชมของป๋าหน่องมาก็หลายองค์แต่เรายังไม่มี....หากมีวาสนาทรัพย์จะไปนิมนต์มาสักเหรียญหนึ่งครับ...