::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

มาเร็ว เคลมเร็วจริงๆ ครับ พี่หนานผาบ

สรุป
1....ส่วนที่เขาเอาปั๊ม เป็นวัดป่าสักนั้น คนจะทำนั้นไม่ยาก จะเอาแบบไหน ประมาณ 300
2... พศ 20 นั้น...จะสร้างยันต์ แต่ละผืน...เขาจะนิยม เขียนมือ ...จึงไม่พบได้บ่อย
3... ความนิยม แผ่นยันต์สกรีนนั้น นิยมมา น่าจะไม่ถึงสิบปี

ต่อยอดความคิด ตามเส้นทาง "ชำระประวัติศาสตร์" ของเราต่อไป

"หลวงพ่อฟ้าหลั่ง" ที่วัดฟ้าหลั่งยังพอมีให้บูชาครับ
9 นิ้ว ส่วนใหญ่สวยทุกองค์ แต่ 5 นิ้ว เหลือไม่ถึงสิบองค์
และส่วนใหญ่จะมีคราบเขียวๆ จากความชื้น...

"ยกเว้น... องค์ที่ตั้งอยู่บนตู้วัตถุมงคล
องค์นั้นบูชาได้ครับ... ผมบอกลายแทงให้แล้วนะ"

ช้าหมดอดเน้ออ้าย...

ธีระยุทธ

 

พี่หนานผาบถามถึง รูปหล่อหลวงพ่อฟ้าหลั่ง (พระพุทธรูป)
ผมมีแต่ภาพรูปหล่อหลวงปู่ฟ้าหลั่ง ซึ่งเป็นรูปเหมือน หลวงปู่ครูบาอิน
ผมถ่ายเองในสตูดิโอเล็กๆ มุมหนึ่งของห้องผม...

ฝากรูปหล่อชุดนี้ก่อน...
เดี๋ยวจะนำรูปหล่อหลวงพ่อฟ้าหลั่งมาฝากครับ...











บูชาได้ด้วยตนเองที่วัดฟ้าหลั่งครับ...

ธีระยุทธ

 

รายการวัตถุมงคล
พระครูวรวุฒิคุณ (หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท)
ณ วัดใหม่หนองหอย สมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท
(หมายเหตุ: แก้ไขรายการ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓)

เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อเงิน - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ ๑,๕๐๐.-
เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อทองแดงรมดำ - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ ๑๙๙.-
เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อทองแดงรมดำ - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ พร้อมประคำ ๒๙๙.-
เหรียญยืนสี่เหลี่ยม อายุ ๙๒ ปี รุ่นแรกวัดใหม่หนองหอย (๒๕๓๖) ๒๙๙.-
เหรียญรุ่น สันติสุขกำเนิด (๒๕๓๖) เนื้อทองแดงผิวไฟ ๒๙๙.-
เหรียญรุ่น สันติสุขกำเนิด (๒๕๓๖) เนื้อกาไหล่ทอง ๔๙๙.-
เหรียญกลมเล็ก รุ่นฉลองอายุ ๑๐๐ ปี (๒๕๔๕) ๙๙.-
เหรียญรุ่น ๑๐๑ ปี (๒๕๔๕) ๙๙.-
ล็อกเกตใหญ่พร้อมห่วง รุ่นลายเซนต์ (สีเขียว/ สีฟ้า/ สีส้ม) ๓๕๐.-
รูปถ่าย เคลือบกรอบวิทยาศาสตร์ รูปนั่ง/รูปยืน ๑๙๙.-

พระสมเด็จ ๙๙ หลังยันต์นะ ตะกรุดเงิน ๖๙๙.-
พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังรูปเหมือน ติดจีวร ๙๙.-/ โรยพลอยกินบ่อเสี้ยง ๑๕๙.-
พระสมเด็จผาสุข หลังปั๊มยันต์แดง ๑๓๙.-
พระสมเด็จไจยะเบงชร พิมพ์กรอบกระจก หลังยันต์ฟ้าฟีก ๒๙๙.-
พระคงเนื้อดินเผา รุ่นแรก ๙๙.-

ผ้ายันต์นางกวัก ยุคต้น ๑๙๙.-
ผ้ายันต์พระพรหม ยุคต้น ๑๙๙.-
ผ้ายันต์จั๊กกิ้มล้อมโลก ปี ๒๕๔๕ ฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ๙๙.-
ผ้ายันต์กุณพระเจ้า ปี ๒๕๔๕ ฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ๙๙.-
ผ้ายันต์ อภิมหายันต์ ๑๐๘ ขนาดโปสเตอร์ สีเหลือง/สีแดง ๑๙๙.-
ผ้ายันต์ธงแขวนรถ ๙๙.-
เสื้อยันต์มหาอุด รุ่นแรก ๓๙๙.-
ดาบสะหลี๋กัญไชย มหาไจยะมงคล ๑๐๑ ปี (ดาบเดี่ยว) ๗,๕๐๐.-


วัตถุมงคลที่จัดสร้างหลังจากที่หลวงปู่มรณภาพแล้ว

พระผงอังคารธาตุ (มี ๖ สี ดำ-ขาว-เขียว-เหลือง-สีไม้-ก้นครก)
พิมพ์เล็ก ๔๙.-/ พิมพ์ใหญ่ ๑๙๙.-/ ก้นครก ๒๙๙.-/ ชุดกรรมการ ๖ สี ๑,๔๙๙.-

รูปหล่อครูบาอิน หน้าตัก ๙ นิ้ว ที่ระลึกพระราชทานเพลิงศพ เนื้อปูน ๑,๕๐๐ (ไม่จัดส่งทางไปรษณีย์)

ล็อกเก็ตรุ่น "มหามงคล ๑๐๘" ชุดกรรมการ (สี่เหลี่ยมสององค์) ๙๙๙.-
ล็อกเก็ตรุ่น "มหามงคล ๑๐๘" ล็อกเก็ตรูปไข่ใหญ่ ครึ่งองค์ ๒๙๙.-
ล็อกเก็ตรุ่น "มหามงคล ๑๐๘" ล็อกเก็ตรูปไข่ใหญ่ เต็มองค์ ๒๙๙.-
ล็อกเก็ตรุ่น "มหามงคล ๑๐๘" ล็อกเก็ตรูปไข่เล็ก ครึ่งองค์ ๑๙๙.
ล็อกเก็ตรุ่น "มหามงคล ๑๐๘" ล็อกเก็ตรูปไข่เล็ก เต็มองค์ ๑๙๙.


สนใจร่วมทำบุญ
สามารถติดต่อบูชาด้วยตนเองได้ที่วัดใหม่หนองหอย หรือติดต่อ...
พระครูสังวรยติกิจ (พระอาจารย์อินทร จิตตสังวโร) เจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหอย
หมู่ที่ ๖ ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๖๐ โทร. ๐๘-๑๙๙๒-๐๔๐๗ โทรสาร. ๐-๕๓๓๖-๗๙๗๑

หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาทุ่งเสี้ยว (สันป่าตอง)
ชื่อบัญชี กองบุญครูบาอิน อินโท เลขที่บัญชี ๖๖๑-๒-๒-๓๐๐๔๗

รายละเอียดวัตถุมงคลแต่ละชนิด สามารถติดตามได้ในกระดาน -:- สนทนาเกี่ยวกับวัตถุมงคล -:-

สุโข ปุญฺญสฺสํ อุจฺจโย
การสะสมบุญนำมาซึ่งความสุข <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ต้องขอบคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wannabexcite<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4000092", true); </SCRIPT> มากๆ ครับ ที่ตอบกระทู้มา

เดี๋ยวขึ้นไปเชียงใหม่ แล้วจะแวะ ไปครับบบบบบบบบกระผ้มมมมมมมมมมมม

 

เห็นรูปที่คุณไก่เอามาลงแล้วสวยจริง ๆ ผมก็ยังไม่ได้ถ่ายรูปหลวงปู่ยืนวัดใหม่หนองหอยมาลงให้ดูตามเคย ติดไว้ก่อนนะครับ

ตอนนี้ยังเคลียร์งานไม่ได้เลยแต่ว่าปีหน้าเดือนพ.ค. ผมต้องไปเชียงใหม่อย่างแน่นอนครับ 10000000 % เลยครับ คราวนี้ไม่พลาดครับผม ไม่แน่ผมอาจจะโอนเงินให้คุณธีระยุทธช่วยนิมนต์มาก่อนแล้วฝากไว้ที่บ้านก่อนครับ (กลัวหมด) แต่ขอเวลาหน่อยครับ

 

รบกวนคุณธีระยุทธด้วยครับ มีเพื่อน ๆ ฝากถามมาครับ

 

สวัสดีครับคุณศิวฤทธิ์

แถวแรกอ่านว่า กะหิตุง กุพทธัง (สีแดงนี้แปลกๆ)

ชุดที่สองอ่านว่า

ตันติตันโต นะโมตันติ
ตันติถะโก นะโมนะนะ

ไม่รู้ใครเขียนมา ลายมือสวยมากครับ

ธีระยุทธ

 

สวัสดีอีกทีครับ
ผมเพิ่งเขียนบทความเสร็จ เอามาลงให้อ่านกันครับ

ธีระยุทธ

----------------------------------

พระสมเด็จรุ่นแรก พระครูวรวุฒิคุณ (หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท)
พระสมเด็จฟ้าหลั่ง หลังยันต์ “ท้าวทั้งสี่” วัดฟ้าหลั่ง พ.ศ.๒๕๔๒

พระสมเด็จฟ้าหลั่งรุ่นแรก ของหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ผู้สร้างได้เชิญเอาอักขระยันต์ “ท้าวทั้งสี่” มาประทับด้านหลังองค์พระสมเด็จ เพื่ออารารธนาเอาพุทธคุณของพระยันต์ดังกล่าวเข้ามาสู่องค์พระสมเด็จ ทั้งนี้ อิทธิคุณของพระยันต์ท้าวทั้งสี่เชื่อกันว่ามีที่มาเกี่ยวเนื่องจาก อิทธิฤทธิ์บารมีของท้าวทั้งสี่ หรือท้าวจตุโลกบาลตามคติความเชื่อของล้านนา นั่นเอง

ประเภณีการบูชา “ท้าวทั้งสี่” ของล้านนา

“ท้าวทั้งสี่” หรือ “ต๊าวตังสี่” ตามสำเนียงล้านนา คือ “ท้าวจตุโลกบาล” ผู้รักษาทิศทั้งสี่ ตามตำนานทางศาสนา ท้าวจตุโลกบาลเป็นเทพในกามาวจรภูมิ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นแรกในจำนวน ๗ ชั้น อันได้แก่ จตุมหาราชิกา, ดาวดึงส์, ยามา, ดุสิต, นิมมานนรดี, ปรนิมมิตวสวัตดี

ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาตั้งอยู่บนเขายุคนธร ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดทิวเขา (สัตตบริภัณฑ์คีรี) ในระดับแรกที่รองรับยอดเขาพระสุเมรุ ยอดเขายุคนธรสูงจากพื้นผิวโลก ๔๖,๐๐๐ โยชน์ สวรรค์ชั้นนี้นับเป็นพื้นที่พิเศษกว่ามนุษย์โลกในด้านความเป็นอยู่และความสุข กามาจรเทพชั้นนี้เรียกรวมกันว่า “จตุมหาราชิกเทวดา” ในสวรรค์ชั้นนี้แบ่งออกเป็น ๔ ส่วน ซึ่งมีมหาราชทั้งสี่องค์ครองอยู่ แบ่งกันเป็นส่วนๆ ไปคือ ท้าวธตรฐ, ท้าววิรุฬหก, ท้าววิรูปักข์, ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวเวสสุวรรณนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าท้าวกุเวร หรือในไตรภูมิพระร่วงเรียก ท้าวไพศรพณ์มหาราช ในสวรรค์ชั้นนี้มีพระอินทร์เป็นราชาธิบดี คือเป็นผู้ปกครองท้าวจตุมหาราชิกทั้งสี่องค์ ในอุโปสถสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย กล่าวว่า เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกามีอายุ ๕๐๐ ปีทิพย์ (๙,๑๒๕,๐๐๐ ปีของโลกมนุษย์) โดย ๑ วันและ ๑ คืนของสวรรค์ชั้นนี้ เท่ากับ ๕๐ ปีของโลกมนุษย์

ท้าวธตรฐ หรือ ท้าวธตรัฏฐ เป็นองค์ที่หนึ่งในจำนวนมหาราชเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ครองชั้นจตุมหาราชิกา เป็นหัวหน้าหรือราชาแห่งคนธรรพ์ และวิทยาธร มีหน้าที่ดูแลทิศบูรพา (ตะวันออก) ของเขาพระสุเมรุ ท้าวธตรฐมีโอรสหลายองค์ โดยมีนามเรียกกันว่า “อินทร์” ทุกองค์ มีธิดาชื่อ “ศิริ” ในวิมานที่อยู่ของมหาองค์นี้ล้วนแล้วไปด้วยสิ่งต่างๆ อันเป็นที่น่ารื่นรมย์ อุดมด้วยเสียงดนตรีและการร่ายรำ เป็นที่ปรีดาแก่พระองค์และพระโอรสธิดาทั้งหลาย

ท้าววิรุฬหก เป็นเทวดาผู้ปกครองทิศทักษิณ (ใต้) ของเขาพระสุเมรุ หรือบางครั้งเรียกว่า ยมะ หรือเรียกว่า เทวดารักษาทิศใต้ มีบริวารคือ อสูร กุมกัณฑ์หรือราษส มีรูปร่างท้องป่องพุ่งใหญ่ ขาสั้น กำยำลำสัน ในมหาสมัยสูตรและบทภาณยักษ์ว่า โลกบาลแห่งทิศทักษิณทรงพระนามท้าววิรุฬหกมหาราช จอมกุมภัณฑ์ แต่ในอาฏานาฏิยปริตว่า เป็นจอมเทวดา ตามความเชื่อบางคติจะพบได้ว่าท้าววิรุฬหกคือผู้ปกครองครุฑ และนก เทวดาที่อุบัติเป็นพระโอรสของพระองค์ที ๙๐ องค์ แต่ละองค์ล้วนมีฤทธิ์อานุภาพแกล้วกล้าปรีชาชาญสง่างาม เป็นที่ยกย่องเกรงขามทั่วไป

ท้าววิรูปักข์ หรือ ท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองแห่งทิศปัจจิม (ตะวันตก) ของภูเขาสุเนรุราช ในสุธรรมเทวสภา นครปราการสุวรรณอันสวยงาม ผินพักตรไปทางทิศตะวันออก ท้าววิรูปักษ์เป็นจอมเทพผู้ปกครอง มีบุญญานุภาพ มีรัศมีมาก เทวดาที่อุบัติเกิดเป็นบุตรของพระองค์ก็มี ๙๐ องค์ ทั้งหมดล้วนแต่มีนามว่า "อินทร์" แต่ละองค์ล้วนแต่ทรงไว้ซึ่งพละกำลัง มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มียศ เป็นอันมาก ท้าววิรูปักษ์มหาราชยังทรงดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีปกครอง "หมู่นาค" อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ในขันธปริตร (โบราณเรียกพระปริตรกันงู) บทสวดเจ็ดตำนาน สวดเพื่อให้สวัสดีจากพวกสัตว์มีพิษทั้งหลายเพราะท้าวมหาราชพระองค์นี้ทรงมีพญานาคเป็นบริวาร

ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร เป็นพระยายักษ์ผู้เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์ อธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี มียักษ์ และคุยหกะ (ยักษ์ผู้เฝ้าขุมทรัพย์) เป็นบริวาร เป็นท้าวจตุโลกบาล ประจำทิสอุดร (เหนือ) ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ ประทับ ณ โลกบาลครอบคลุมทิศเหนือทั้งหมด มีนครหลวงชื่อ อิสนนคร เป็นมหานครที่อุดมด้วยทรัพย์สฤงคารเป็นอันมาก พระองค์ก็มีพระโอรส ๙๐ องค์ ทั้งหมดล้วนแต่มีนามว่า "อินทร์" แต่ละองค์ล้วนแต่ทรงไว้ซึ่งพละกำลัง มีฤทธิ์ มีอานุภาพ มียศ เป็นอันมาก

ท้าวจตุโลกบาล มีหน้าที่เกี่ยวกับโลกมนุษย์และโลกทิพย์ไปพร้อมกัน เสนาและราชบุตรของพระองค์ย่อมรับสนองเทวโองการ ในการรักษาความเรียบร้อยในโลกมนุษย์และเทวโลก เพื่อผดุงเหล่าธรรมิกชนทั้งหลาย ในวันขึ้นหรือแรมแปดค่ำ เหล่าเสนาบดีของท้าวมหาราชทั้งสี่ จะสำรวจดูผู้ดำเนินในศีลาจารวัตร เช่น คนเคารพพ่อแม่ สมณพราหมณ์ ผู้เฒ่า ผู้รักษาศีล และทำกรณียกิจอื่นๆ เป็นต้นว่า คนมาบำบวง เซ่นสรวง อัญเชิญคุ้มครองเคหาสถานบ้านใหม่ หรือในขวบปีหนึ่งมีการการเซ่นสรวงวันปากปี (วันที่ ๑๖ เมษายน ของทุกปี) ในวันขึ้นและแรมสิบห้าค่ำ จตุราธิบดีจะเสด็จมาเอง ทั้งนี้ท้าวมหาราชทั้งสี่ยังเคยถวายการอารักขาพระพุทะองค์ ครั้งยังอยู่ในพระครรภ์ของพระราชมารดา และยังถวายความช่วยเหลือพระพุทธองค์, พุทธสาวก และค้ำจุนพระพุทธศาสนา ในครั้งที่นายพาณิชย์ชื่อ ตปุสสะและภัลลิกะ ถวายข้าวสัตตุผง สัตตุก้อนและรวงผึ้งนั้น พระพุทธองค์ทรงปริวิตกว่า จะรับด้วยพระหัตถ์ก็จะเป็นการไม่เหมาะสม เมื่อท้าวจตุโลกบาลทรงทราบความในพระทัยก็ทูลเกล้าถวายบาตรแก้วมรกต ซึ่งโดยพุทธานุภาพทรงอธิษฐานให้บาตรแก้วรวมกันเป็นใบเดียวแล้วทรงรับบิณฑบาตดังกล่าว เวลาที่พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา มหาราชทั้งสี่จะเสก็จมายังสถานที่นั้นให้สว่างด้วยเทวรังสี และน้อมเกล้าพระธรรมเทศนาด้วยดุษฎีภาพ (อุดม รุ่งเรืองศรี, ๒๕๒๓)

สำหรับประชาชนในล้านนาไทยนั้น นับถือท้าวจตุโลกบาล ซึ่งนิยมเรียกกันว่า “ท้าวทั้งสี่” ยิ่งนัก จะมีการอัญเชิญท้าวทั้งสี่มารักษางานต่างๆ เช่น งานขึ้นปีใหม่, การขอความคุ้มครองในวันปีใหม่ของทุกปี, การทำบุญกรรม, พิธีสืบชะตา และ งานฉลองสมโภชวัดวาอาราม ซึ่งจะกระทำก่อนเริ่มพิธีมงคล ศาสตราจารย์มณี พยอมยงค์ อดีตศาสตราจารย์เกียรติคุณประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีกรรมล้านนา ได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า จากรุปแบบพิธีกรรมดังกล่าว “ล้านนาไทยนับถือท้าวทั้งสี่ แต่ไม่ถือพระภูมิหรือพระชัยมงคลอย่างของภาคกลาง” (มณี พยอมยงค์, ๒๕๓๓)

เครื่องพลีกรรมและพิธีการบูชาท้าวทั้งสี่

เครื่องเซ่น หรือเครื่องพลีกรรม จะบรรจุอยู่ใน “สะตวง” ซึ่งนิยมเอากาบกล้าว มาหักพับเป็นสี่เหลี่ยม ความกว้างประมาณ ๑ คืบ สูงประมาณ ๒ นิ้ว เสียบด้วยไม้ไผ่ซึ่งจักเป็นตอกแข็ง ให้กาบก้วยคงรูปเป็นกระทงสี่เหลี่ยม เอาใบตองหรือกระดาษบุด้านในสะตวงเพื่อใช้วางเครื่องเซ่น ในหนึ่งชุดประกอบด้วย 6 สะตวง สี่สะตวงแรก บรรจุเครื่องเซ่น เครื่อง ๔ ประกอบด้วย ข้าว ๔ คำ, อาหาร ๔ ชิ้น,แกงส้ม ๔ คำ, แกงหวาน ๔ คำ, กล้วย อ้อย ผลไม้ อย่างละ ๔ คำ, หมาก พลู บุหรี่ เมี้ยง อย่างละ ๔ ชุด, ดอกไม้ ธูป เทียน ๔ ชุด, ช่อเหลือง แดง ขาว เขียว ๔ ชุด เป็นต้น


(เครื่องพลีกรรมสักการะที่บรรจุในสะตวง)

สะตวงทั้งสี่ใช้สำหรับบูชาจตุโลกบาล ส่วนสะตวงที่ห้า จัดเป็นเครื่องสักกาพระยาอินตาธิราช หรือพระอินทร์ ซึ่งเป็นมหาเทพผู้ “กินสองสวัรค์” คือ เป็นอธิบดีของสวรรค์ ทั้งชั้นดาวดึงส์และจตุมหาราชิก เป็นหัวหน้าปกครองจตุโลกบาลอีกชั้นหนึ่ง จัดเครื่องสักการะเหมือนกัน แต่เพิ่มจากเครื่อง ๔ เป็นเครื่อง ๕ พร้อมทั้งยอดช่อตุงชัย อีก ๑ ตัว และสะตวงสุดท้าย จัดเครื่อง ๒ เพื่อสักการะพระแม่ธรณี ซึ่งแม่ธรณีนั้นปรากฏในแง่ของ “ผู้จื่อจำน้ำอยาดหมายทาน” คือผู้เป็นสักขีพยานรับรู้ถึงการกระทำกรวดน้ำทำบุญทั้งปวงของมนุษย์ การบูชาท้าวทั้งสี่ นิยมบูชาทวยเทพทั้ง ๖ องค์ไปในคราวเดียวกัน

เมื่อเตรียมสะตวงเสร็จแล้ว เจ้าบ้าน หรือเจ้างานพิธี จะได้จัดเตรียมสะตวงทั้ง ๖ ใส่ไว้ในถามดหรือโตก พร้อมทั้ง ขันข้าวตอกดอกไม้ ขันน้ำขมิ้นส้มป่อย เงินค่าครู พร้อมทั้งจัดทำ “ก๊างท้าวทั้งสี่” เป็นแท่นซึ่งทำมาจากต้นกล้วย ซึ่งสมมุติว่าเป็นปราสาทของเทวดาทั้ง ๔ ตน โดยจะตัดต้นกล้วยสูงประมาณ ๑ เมตร มาปักไว้กับพื้นดิน แล้วเอาไม้ไผ่ แทงทะลุต้นกล้วยทำเป็นกากบาท ไขว้ให้เกิดมุม ๔ มุม จากนั้นตัดส่วนลำต้นของต้นกล้วยเป็นท่อนประมาณ ๑๐ นิ้ว ปักเอาไว้ให้เป็นมุมทั้ง ๔ ทิศ สำหรับวางสะตวง โดยเหลือบริเวณด้านบนของลำต้นตรงกลางไว้ ส่วนตรงกลางจะสูงกว่าสมมุติว่าเป็นวิมานของพระยาอินทาธิราชองค์ องค์ประมุขแห่งเทพทั้งสี่ บางแห่งอาจทำด้วยไม้ เพื่อความคงทน และสามารถนำกลับมาใช้ได้


(ก๊างท้าวทั้งสี่)

เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์ และเครื่องพลีกรรมแล้ว เจ้าบ้านจะได้เชิญ “ปู่จ๋าน” หรืออาจารย์วัดมาเป็นผู้ประกอบพิธี ในการเซ่นไหว้ ซึ่งเรียกว่า “การขึ้นท้าวทั้งสี่” ปู่จ๋านจะนำสะตวงไปวางไว้บนก๊างท้าวทั้งสี่ ทั้งสี่ทิศ การวางสะตวงจะวางตามสี สะตวงที่ปักช่อตุงสีแดงไว้ทางทิศตะวันออก ช่อตุงสีเหลืองไว้ทางทิศใต้ ช่อตุงสีขาวไว้ทางทิศตะวันตก ช่อสีดำไว้ทางทิศเหนือ สะตวงสักการะพระยาอินตาธิราชปลายปราสาท ช่อตุงสีเขียวส่วนสะตวงของพระแม่ธรณีนิยมวางไว้กับพื้นดิน ซึ่งสมมุติให้เป็นตีนเสาปราสาท

เมื่อพร้อมแล้ว ปู่จ๋านจะได้จุดธูปเทียน กล่าวชุมนุมเทวดา พร้อมทั้งอ่านโองการ ซึ่งบทโองการอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องที่ เช่น

สัคเค กาเม จ รูเป ศิริสิขะระตะเฏ จันทะลิกเข วิมาเน, พรหมาทาตะโยจะ จะตุโลก ปาลาราชา อินโท เวสสุวัณณราชา อะริยะสาวะกา จะปุถุชชนะ กัลยาณะจะ สัมมา ทิฏฐิเยวะ พุทเธ ฐานะโต ยาวะ ปรัมปรา อิเมสุ จักกะวาเลสุ เทวะตา คะตายัง มุนิ วะระวะจะนัง สาธาโว โน สุณันตุ (๓ ที คือ ๓ หน) แล้วว่า

สุณันตุ โภนโต เทวะสังฆาโย คูรา พระยา เทวดาเจ้าชุตน คือว่า พระยาธะตะระฐะ ตนอยู่ รักษาหนวันออกก็ดี พระยาวิรุฬหะ ตนอยู่รักษาหนใต้ก็ดี พระยาวิรูปักขะ ตนอยู่รักษาหนวันตกก็ดี พระยากุเวระ ตนรักษาอยู่หนเหนือก็ดี พระยาอินทราเจ้าฟ้า ตนเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่เทวดาในสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า มีท้าวทั้งสี่ เป็นต้น เป็นประธานภายต่ำใต้ มีพระยาอสุระและนางธรณีเป็นที่สุดๆ บัดนี้ผู้ข้าทั้งหลายก็ได้ป่ำเป็ง (บำเพ็ญ) ภาวนา มาจ๋ำศีลกินตานมาจำศีล กินทานมากน้อยเท่าใดก็ดี ผู้ข้าทั้งหลายขอถวายกุศลส่วนบุญนี้เตื่อมแถมสมภารเจ้าทั้งหลายตนประเสริฐ จุ่งจักมาอนุโมทนายินดีเซิ่งผู้ข้าทั้งหลาย แล้วขอเจ้ากูทั้งหลาย ซุตน จุ่งจักมาพิทักษ์รักษา พ่อแม่ ลูกเต้า หลานเหลน ทาสีทาสา ช้างม้าข้าคน งัวควาย เป็ดไก่ หมูหมา ของเลี้ยง ของดูของผู้ข้า ทั้งหลาย จุ่งหื้อพ้นจากกังวล อันตรายทั้งหลายต่าง ๆ ก็จุ่งหื้อรำงับกลับหาย แก่ผู้ข้าทั้งหลายชุตัว ชุคน มีพระยาเวสวัณและนายหนังสือ ชุตน อันจัดโทษจัดคุณ จัดบุญจัดบาป ตนเลียบโลกทั้งมวล ผู้ข้าทั้งหลาย ขอจุ่งหื้อหลีกเว้นจากเขตบ้านเมืองแห่งผู้ข้าทั้งหลาย แล้วขอหื้อผู้ข้าทั้งหลายประกอบไปด้วยสรรพสวัสดี ขออย่าหื้อได้เจ็บได้ไหม้ ได้ไข้ได้หนาว ขอหื้อยินดีชะราบ หื้อพ้นจากภัยทั้งมวล แล้วขอหื้อผู้ข้าทั้งหลาย ประกอบไปด้วยข้าวของเงินคำ ช้างม้าข้าคน งัวควาย แก้วแหวน ข้าวเปลือก ข้าวสาร ทาสีทาสาพร่ำพร้อมบัวระมวล ตามคำมักคำผาถนา (ปรารถนา) ชุเยื่องชุประการ นั้นจุ่งจักมี เที่ยงแท้ดีหลีแด่เทอะ

แล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก พร้อมกับกล่าว “ปุริมัสมิง ทิสา ภาเค กาเย มัง รักขันตุ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสวาหาย” (๓ หน)

หันหน้าไปทางทิศใต้ ไหว้กล่าวว่า “ทักขิณสมิง ทิสาภาเคยา กาเย มัง รักขันตุ อะหังวันทามิ สัพพะทา ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสวาหาย” (๓ หน)

หันหน้าไปทางทิศตะวันตกไหว้กล่าวว่า “ปัจฉิมมัสมิง ทิสาภาเค กาเย มัง รักขันตุ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสวาหาย” (๓ หน)

แล้วหันหน้า ไปทางทิศเหนือกล่าวว่า “อุปริ มัสสสมิง ทิสาภาเคยา กาเย มัง รักขันตุ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสวาหาย สัพพะอันตะรายา วินาสันตุ” (๓ หน)
เป็นเสร็จพิธี


(ขึ้นท้าวทั้งสี่ พิธีลงเสาเอก อาคารกิจกรรมนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มช.)


เครื่องสักการะพลีกรรมดังกล่าว จะตั้งทิ้งไว้บนก๊าง จนกว่าจะมีนกกา มาจิกกินเป็นอาหาร หรือจนกว่าจะเสร็จพิธีมงคล เช่นเสร็จงานขึ้นบ้านใหม่ สืบชะตา ปัจจุบันการขึ้นท้าวทั้งสี่ ส่วนใหญ่นิยมสำหรับงานมงคล โดยเฉพาะงานขึ้นบ้านใหม่ และวันปากปี๋ ช่วงป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง บทที่ใช้ท่องสวดนั้นทั้งภาษาบาลีและคำแปลเป็นภาษาคำเมือง มีนัยความหมายเป็นการไหว้วอนขอให้ท้าวทั้งสี่ รวมทั้งพระอินทร์ และพระแม่ธรณี ช่วยมารักษาสถานที่แห่งนั้น ให้ผู้อยู่อาศัย สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร ตลอดจนข้าวของเงินทองได้อยู่เย็นเป็นสุข และมีความเจริญรุ่งเรือง

(หมายเหตุ: การจัดเตรียมเครื่องสักการะพลีกรรม และคำโองการขึ้นท้าวทั้งสี่ ในแต่ละท้องถิ่น อาจจะแตกต่างกัน)

กล่าวโดยสรุปก็คือ “ท้าวทั้งสี่” เปรียบเสมือนเทวดาผู้พิทักษ์ ดูแล และอำนวยอวยพรความอยู่ดีมีสุข ด้วยเหตุนี้จึงเกิดประเพณีการขึ้นท้าวทั้งสี่ เพื่อเป็นการบอกกล่าวงานศีลงานบุญ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมสำหรับงานมงคล โดยเฉพาะงานขึ้นบ้านใหม่ พิธีสืบชะต๋า ทำบุญอายุ และในวัน “ปากปี๋” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นประเพณีปีใหม่ของล้านนา บทที่ใช้ท่องสวดนั้นทั้งภาษาบาลีและคำแปลเป็นภาษาคำเมือง มีนัยความหมายเป็นการไหว้วอนขอให้ท้าวทั้งสี่ รวมทั้งพระอินทร์ และพระแม่ธรณี ช่วยมารักษาสถานที่แห่งนั้น ให้ผู้อยู่อาศัย สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร ตลอดจนข้าวของเงินทองได้อยู่เย็นเป็นสุข และมีความเจริญรุ่งเรือง

ด้วยนัยที่กล่าวมาข้างต้น ปราชญ์ล้านนา จึงได้ทำการผูกพระยันต์ ที่เรียกว่ายันต์ท้าวทั้งสี่ขึ้น เพื่อน้อมนำเอาอิทธิบารมีของท้าวจตุโลกบาล ตามหลักความเชื่อของล้านนา เข้ามาสู่ในพระยันต์และวัตถุมงคลที่ใช้พระยันต์นี้ประกอบ เชื่อกันว่า พระยันต์ท้าวทั้งสี่ มีมาแต่เดิม อันจะเห็นได้จากบันทึกปั๊บสาโบราณอายุนับร้อยปี ก็มีการบันทึกพระยันต์นี้ แต่วัตถุมงคลที่มีการใช้พระยันต์ท้าวทั้งสี่ และได้รับความนิยมมากที่สุด คงจะเป็นวัตถุมงคลหลายๆ รุ่นของหลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล ไม่ว่าจะเป็นเหรียญรุ่นหมดห่วง ปี พ.ศ.๒๕๑๗ เหรียญรุ่นคณะศิษย์กรมชลประทาน เหรียญรุ่นเปิดวิหารหอประชุมมูลนิธิสว่างวิชาธรรมสถาน เป็นต้น




ในระหว่างที่หลวงปู่ครูบาอิน จำพรรษาอยู่ที่วัดฟ้าหลั่ง ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ซึ่งรวมไปถึงครอบครัว “ชวนไชยสิทธิ์” ซึ่งมีพระอนุรักษ์ สุชีโว วัดสันป่าข่อย เมื่อครั้งยังมิได้อุปสมบท (ชื่อเดิม นายอนุรักษ์ ขวนไชยสิทธิ์) มีคุณแม่เป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนบ้านสามหลัง ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดฟ้าหลั่ง ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ อุปัฏฐาก และจัดสร้างวัตถุมงคลถวายหลวงปู่ครูบาอินหลายครั้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ.๒๕๔๒ จึงได้กราบขออนุญาตหลวงปู่ครูบาอิน จัดสร้างพระผงสมเด็จรุ่นแรก เรียกว่า “สมเด็จฟ้าหลั่ง” ขึ้นมา เพื่อถวายหลวงปู่ แจกเป็นที่ระลึก ฉลองมงคลอายุ ๙๙ ปีของหลวงปู่ครูบาอิน ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓

ครอบครัวชวนไชยสิทธิ์ และพระอนุรักษ์ เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของหลวงปู่คำแสน และด้วยความสนใจในวัตถุมงคลของพระอนุรักษ์ จึงได้ศึกษาตำหรับตำราที่ได้สืบทอดมาจากลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงปู่คำแสน และเมื่อมีความคิดที่จะจัดสร้างพระสมเด็จฟ้าหลั่ง จึงได้ขออนญาตหลวงปู่ครูบาอิน นำเอาพระยันต์ท้าวทั้งสี่ ที่หลวงปู่คำแสนท่านใช้เป็นประจำ มาประทับด้านหลังพระสมเด็จฟ้าหลั่งรุ่นแรก ซึ่งหลวงปู่ครูบาอิน ท่านก็ได้เมตตาอนุญาต พร้อมทั้งได้อธิษฐานจิตผงมวลสารต่างๆ อาทิเช่น ผงพุทธคุณ ผงธูปบูชาพระประธานวัดฟ้าหลั่ง ผงพระเก่าแตกหักที่หลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกไว้ เกศา ชานหมาก มารวมกับผงมงคลต่างๆ ที่พระอนุรักษ์ได้รวบรวมไว้ แล้วจึงนำมากดพิมพ์เป็นพระสมเด็จพิมพ์พระประธาน เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๒

จำนวนการสร้าง
๑. พระสมเด็จ ฝังตะกรุดทองคำ โรยเกศา จำนวน ๙ องค์... ตะกรุดทองคำทั้ง ๙ ดอก หลวงปู่เป็นผู้ลงอักขระ "นะชาลีติ" ทั้งหมด
๒. พระสมเด็จ ฝังตะกรุดเงิน โรยเกศา จำนวน ๑๐๐ องค์... ลงอักขระเดียวกัน แต่พระอนุรักษ์เป็นผู้ลงอักขระ
๓. พระสมเด็จฟ้าหลั่ง ธรรมดา จำนวน ๒,๐๐๐ องค์

หลวงปู่ครูบาอินอธิษฐานจิตเดี่ยว ๗ วัน พระสมเด็จตะกรุดทอง พระอนุรักษ์แจกเฉพาะผู้ใกล้ชิดและผู้ร่วมสมทบทุนจัดสร้าง พระสมเด็จตะกรุดเงินและแบบธรรมดา ถวายให้หลวงปู่ครูบาอิน ไว้แจกแก่ผู้มาร่วมทำบุญ และส่วนหนึ่งทางกองงานเลขาหลวงปู่นำออกให้บูชาที่วัดฟ้าหลั่ง

อ้างอิง
อุโปสถสูตร หน้า ๑๙๕ เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. ๒๕๔๘
มณี พยอมยงค์, ประเพณีสิบสองเดือน ล้านนาไทย (พิมพ์ครั้งที่ 2) เชียงใหม่: ส.ทรัพย์การพิมพ์. ๒๕๓๓
อุดม รุ่งเรืองศรี, เทวดาพุทธ (เทพเจ้าในพระไตรปิฎกและไตรภูมิพระร่วง) เชียงใหม่ : คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๒๓








พระสมเด็จฟ้าหลั่งรุ่นแรก ยังมีเหลือให้บูชาที่วัดฟ้าหลั่งครับ
ติดต่อบูชาด้วยตนเองที่วัด หรือ ท่านที่ไม่สะดวกไปด้วยตนเอง
โทรสอบถามที่ผมได้ที่หมายเลข 081-9520285 ครับ

ธีระยุทธ

 

ขอบคุณครับคุณธีระยุทธ พอดีทางเพื่อนกรรมการที่สร้างพระร่วมกัน นำยันต์นี้มาถามในกระทู้ครับบอกว่าเป็นคาถาของหลวงพ่อกวยครับ ผมยังไม่ได้ถามที่มาเหมือนกันครับ เดี๋ยวได้ความอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังนะครับ

 

โอ้โหพี่ไก่ถายภาพได้สวยขั้นเทพ....

 

ขอบคุณคร้าบบบบ... สำหรับกำลังใจ

มือสมัครเล่น... กับอุปกรณ์สมัครเล่นค้าบบบบ...

อ้ายไก่

 

โห..ไม่สมัครเล่นแล้วนะครับพี่ไก่ ถ่ายสวยจริงๆครับ ขอฝากตัวเป็นศิษย์ครับพี่ อิอิ

 

รายการวัตถุมงคล พระครูวรวุฒิคุณ
หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท
บูชาได้ที่วัดฟ้าหลั่ง วัดฟ้าหลั่ง (๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)

เหรียญรุ่นชยมังคลัง ๙๙.-
เหรียญรุ่นอายุ ๙๕ ปี อัลปาก้า ๙๙.-
เหรียญรุ่นอายุ ๙๕ ปี ไร้ห่วง ๙๙.-
เหรียญรุ่นอายุ ๘ รอบ ๙๙.-
เหรียญรุ่นอายุ ๙๗ ปี ๙๙.-
เหรียญรุ่นกตเวที เนื้อทองแดง ๙๙.-
เหรียญรุ่นวัดพระธาตุดอยน้อย ๙๙.-
เหรียญรุ่นเราสู้ ชุด ๕ เนื้อ ๑,๕๐๐.-

พระสมเด็จฟ้าหลั่งรุ่นแรก ๒๕๙.-
พระสมเด็จ ๙๙ หลังยันต์นะ ตะกรุดเงิน ๖๙๙.-
พระสมเด็จไตรสรณคมน์ หลังยันต์มหาจักรพรรดิ ๑๙๙.-
พระสมเด็จพระธาตุดอยน้อย ๙๙.-
พระสมเด็จดำ ๙๙.-

พระกำลังแผ่นดิน ๙๙.-
พระไพรีพินาศ รุ่นไทยช่วยไทย ๙๙.-
พระผงหลวงปู่ทวด ๙๙.-
พระผงแม่ธรณี วัดพระพุทธบาทสี่รอย ๙๙.-

พระขุนแผนฟ้าหลั่งรุ่นแรก ๒๙๙.-
พระผงนางกวัก-สังกัจจายณ์ รุ่น ทอ. ๑๙๙.-
พระแก้วฟ้าหลั่ง สุริยรังสี ธรรมดา ๙๙.- โรยเกศา ๑๕๙.-
พระผงรุ่นเชียงใหม่ ๗๐๐ ปี วัดโป่งแยง ๙๙.-

พระรอดหลวงมหาจักรพรรดิ หลังยันต์ครู ๙๙.-
พระรอดรุ่น ๙๒ ปี ๙๙.-
พระปิดตารุ่นแรก ๒๕๙.-
พระปิดตาดินเผารุ่น ๙๙ ปี ๕๙.-

รูปหล่อหลวงปู่ฟ้าหลั่ง ๑ นิ้ว (ทุกแบบ) ๑๙๙.-
รูปหล่อหลวงปู่ฟ้าหลั่ง ๓ นิ้ว ๙๙๙.-
รูปหล่อหลวงปู่ฟ้าหลั่ง ๕ นิ้ว ๑,๙๙๙.-
รูปหล่อหลวงปู่ฟ้าหลั่ง ๙ นิ้ว ๔,๔๙๙.-
พระพุทธรูปเชียงแสน หลวงพ่อฟ้าหลั่ง ๕ นิ้ว ๑,๙๙๙.-
พระพุทธรูปเชียงแสน หลวงพ่อฟ้าหลั่ง ๙ นิ้ว ๔,๔๙๙.-

ล็อคเก็ตรุ่นโชคดี ๒๙๙.-
สร้อยประคำดินดำพร้อมเหรียญ ๑๕๙.-
สร้อยประคำกะลาตาเดียวพร้อมเหรียญ ๑๕๙.-

รูปถ่ายหลวงปู่สูบบุหรี่/ ยืน/ นั่ง ๓๙.-
กระดาษยันต์กลมเกลียว ๕๙.-

วัตถุมงคลที่จัดสร้างหลังจากที่หลวงปู่มรณภาพแล้ว

พระผงอังคารธาตุ พิมพ์เล็ก ๔๙.-
พระผงอังคารธาตุ พิมพ์ใหญ่ ๑๙๙.-

วัตถุมงคลวัดฟ้าหลั่งทุกรายการ สามารถติดต่อบูชาด้วยตนเองได้ที่วัดฟ้าหลั่ง (ทางวัดไม่สะดวกจัดส่งไปรษณีย์)
สำหรับท่านที่ไม่สะดวกบูชาด้วยตนเองที่วัด สามารถสอบถามได้ที่ ธีระยุทธ 081-9520285

รายละเอียดวัตถุมงคลแต่ละชนิด สามารถติดตามได้ในกระดาน -:- สนทนาเกี่ยวกับวัตถุมงคล -:-
หรือ โพสข้อความสอบถามได้ในกระดานสนทนาเดียวกันครับ

สุโข ปุญฺญสฺสํ อุจฺจโย
การสะสมบุญนำมาซึ่งความสุข

 

สาธุๆ




สวัสดีครับพี่ไก่

วันนี้โอนเงิน 2,100 บาท วันที่ 06/11/10 เวลา 16:51 น.
ฝากพี่ไก่เป็นธุระชุด 2,000 ด้วยนะครับ ^_^

ขอบคุณครับ​

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง​

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ คุณหมู

 

มีรูปมาฝากครับ...

เป็นรูป พระพิฆเณศวร์ไม้แกะสลัก ทาทอง... หน้าตักประมาณ ๕.๕ นิ้ว
สร้างพร้อมกับดาบสหรีกัญไชย จำนวน ๑๗ องค์
เนื่องจากเป็นการแกะสลักทีละองค์
องค์พระพิฆเนศวร์แต่ละองค์ จึงไม่ได้เหมือนกัน 1๑๐๐%
บางองค์มีการทาทอง บางองค์ก้ไม่ได้ทางทองครับ

หลวงปู่ครูบาอิน อธิษฐานจิตเดี่ยว เป็นปฐมฤกษ์
วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๖ วันกองทัพไทย
และนำเข่้าพิธีสืบชะตาหลวง ๑๐๑ ปี วันเสาร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖

องค์ในรูปนี้ เป็นองค์ที่เก็บรักษาไว้ที่วัดใหม่หนองหอย (พิพิธภัณฑ์)
และใช้ในพิธีบวงสรวงบูชาพระพิฆเนศวร์ หรือ "ปิศหนู" ก่อนพิธีพุทธาภิเษก
และงานก่อสร้าง พิธีมงคลต่างๆ ของวัีดใหม่หนองหอยครับ...

อาจจะดูยากสักหน่อย เพราะไม่มีการระบุชื่อหลวงปู่ หรือชื่อวัด
จำนวนสร้างก็น้อยมาก... ไม่ค่อยเห็นในท้องตลาด
ราคาเล่นหา ผมเลยไม่ทราบเลยครับ...

 

สวัสดีครับคุณธีระยุทธ ผมน้องใหม่ขอติดตามผลงานพี่ไปก่อนนะครับพี่เขียนดีมากขอชมครับ ผมเข้ามาอ่านประจำครับ (ผมเคยบูชาสมเด็จรุ่นที่เรือนจำธนบุรีสร้างนะครับเลยจำชื่อหลวงปู่ได้ซึ่งก็รู้จากคุณเนาว์) คิดว่าคงมีโอกาสได้คุยกันนะครับพี่ ขอบคุณอึกครั้งครับ

 

สวัสดีครับ... คุณ THANARATH (ผมเดาว่าน่าจะอ่านว่า ธนรัตน์)

ขอขอบพระคุณสำหรับคำชมนะครับ...

พระสมเด็จรุ่นนี้ มีประสบการณ์ ปืน M16 ยิงกล่องพรุน
คุณเนาว์เคยนำมาเขียนแนะนำในนิตยสารพุทธคุณ
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปี 2545 นะครับ...
เนื้อพระก็สวย แตกลายงาตั้งแต่พระออกมาใหม่ๆ...
ไม่ทราบว่าคุณ THANARATH ทันเก็บทั้งสองพิมพ์หรือเปล่าครับ
เป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลดีๆ ที่หลวงปู่ได้มีโอกาสร่วมปลุกเสก
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็น... สงสัยคนที่บูชาไปจะเก็บเข้ากรุ เข้ารังกันหมด
ถ้ามีโอกาส ถ่ายรูปมาแจมกันบ้างนะครับ

ธีระยุทธ

 

ใช่แล้วครับ ผม จ.ส.อ.ธนรัตน์ อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ ฯ
ครับสวัสดีเช่นกันนะครับ คุณธีรยุทธ ปีที่บูชาคือปี 46-47 ผมเขียนจดหมายไปบูชาที่เรือนจำเลยครับแต่ช่วงที่ผมเขียนไปเหลือแต่พิมพ์สมเด็จ ฯ อยางเดียวแล้วครับ พิมพ์อกครุฑหมดไปนานแล้วครับ พระทำสวยมากครับราคาเบา ๆ ด้วยครับ ( แต่ผมยังถ่ายรูปไม่เป็นนะครับ )แล้วจะหาโอกาสลงให้ดูนะครับ มีอยู่ 5-6 องค์นะครับ

 

สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ...

ตอนนั้นผมทันได้บูชาแต่พิมพ์ใหญ่ เกศทะลุซุ้มเหมือนกันครับ
แต่ตอนหลังมาตามเก็บได้ในเวป
เพราะทราบประวัติ เลยอยากจะเก็บให้ครบชุด
ตอนนี้เลยมีอยู่แค่สององค์เท่านั้นครับ...

ช่วงปี ๒๕๔๓ จนถึงปี ๒๕๔๖ มีผู้สร้างวัตถุมงคล
หลั่งไหลกันเข้าไปที่วัดฟ้าหลั่ง และวัดทุ่งปุย
เพื่อขอเมตตาหลวงปู่ครูบาอิน อธิษฐานจิตวัตถุมงคล
มีหลากหลายรายการมาก...
ไม่ว่าจะเป็นพระของคุณสุธันย์ สุนทรเสวี หลายๆ รุ่น
พระของโครงการโพธิจิตร พระของคุณเนาว์ และพระัจากวัดอื่นๆ อีกมากครับ
อย่างเหรียยพระมหาธาตุเจดีย์ ๑๒ ราศี ที่เราเคยคุยกันในกระทู้้นี้
ก็เกิดขึ้นในยุคนั้น พระกริ่งยอดแก้ว วัดเกาะแก้วอรุณคาม สระบุรี
พระชุดวัดแม่ตะไคร้ วัดร้องขุ้ม ... มีอีกเยอะครับ... สาธยายไม่หมดแน่

ถ้ามีโอกาสคงได้หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังครับ

ธีระยุทธ