อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nanthiya1, 11 สิงหาคม 2010.

  1. DMZ_ZONE

    DMZ_ZONE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +649

    ผมว่าดีนะครับมีครูอาจารย์
     
  2. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ค่ะ คุณ DMZ ZONE..ทำให้เราอยากเป็นคนดี พอวันไหนขี้เกียจ จะรู้สึกว่าพระองค์ท่านทำหน้าดุ เลยค่ะ
     
  3. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    คุณ คะรุทาเห็นท่านทำหน้าดุ เห็นในจิต ใช่ไหมคะ
     
  4. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    อ่านแล้วมีความรู้สึกดีจัง เลยคะ คุณ ศิลามณี คำว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์บางท่านช่วยดึงจิต ดึงใจให้เราเข้าสู่ทางธรรม เพื่อหาหนทางกลับบ้าน ตุ๋ยชอบมากคำนี้ เพราะตุ๋ยดูตัวเองเหมือนคนเดินหลงทางอยู่ อยู่ในโลกสมุติ และกำลังหาทางกลับบ้านคือบ้าน ที่นิพาน
    ก็ยังหวังว่าไม่ชาติใด ชาติหนึ่ง ความหวังของตุ๋ย คงจะเป็นความจริงตุ๋ยตั้ง ธงชัยใว้ตั้งแต่ชาตินี้เลยแหละคะ
     
  5. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    แปลว่าที่เราเห็นท่านทำหน้าดุนี่ เราหย่อนปฏิบัติใช่ไหมจ๊ะคะรุทา มิน่าล่ะ ช่วงนี้หน้าแม่ดุชะมัด แหะแหะ
     
  6. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    รู้ทัน..นึกเชียวคุณนาคนครา..
    แม่นแล้ว..เพราะช่วงนั้นเล่นเกมส์นักไปหน่อย..3 วันติด เอาเวลาสวดมนต์มาเล่นเกมส์ในห้องทำงาน..ทีนี้ในห้องทำงานมีพระรูปองค์พ่อด้วย ...แต่เป็นพระรูปที่พระพักต์ธรรมดา
    แต่วันนั้น ตี 2. ยังนั่งเล่นเกมส์แบบเอาเป็นเอาตาย ตาจะฝาดได้ไง ..นั่นที่พระรูป มีเงาดำออกมาทางข้าง พอหันไปมอง เต็มๆตา จากจุดดำเล็ก ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่ขึ้น..เป็นคนชุดดำ ทรงม้า แล้ววิ่งหายไปข้างหลังเรา...โอ้ว์..แม่เจ้า...ไปสวดมนต์ก่อนนะคะ
     
  7. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ไม่ได้เห็นในจิตค่ะ คุณนัดทิยา..เห็นด้วยตาเนื้อ ไม่ใช่ตาในค่ะ
     
  8. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    แสดงว่าท่านแฝง อยู่ที่รูป ด้วยหรือเปล่า คอย มองคุณ คะรุทา ว่ากำลังทำอะไร กันไม่ให้ดื้อ นะคะ
     
  9. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ..แต่ความเป็นทิพย์ไปตรงไหนก็คงได้มั้งค่ะ...
     
  10. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    ตุ๋ยก็มีความรู้ สึกแปลกๆ เวลา นั่ง สวดมนต์ปฎิธรรม มีความรู้สึกว่าเหมือนมีใครมาสัมผัส ศรีษะ ข้างซ้าย เหมือนขนลุกก็ไม่ใส่ มันมีอาการแปลกๆ เฉพาะ ศรีษะข้างซ้ายนะคะ ไม่ใช่ทั้งตัว บางครั้งมันเกิดขึ้นจนตัวเองลำคาญ แต่ไม่ปวดหัวนะคะ มีเพื่อนๆ มีอาการแบบนี้บางหรือเปล่า
     
  11. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    ตุ๋ยว่าเป็นไปได้คะ เพราะตุ๋ยประสพด้วยตัวเองแล้วที่ เรื่องความเป็นทิพย์แฝงที่รูป แต่ไม่กล้าเล่าลงในกะทู้หรอกคะ ขอเก็บเอาใว้ในใจคะ
     
  12. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    เป็นบ่อยเหมือนกันค่ะ เวลาสวดมนต์ขนหัวลุก แต่เฉยๆค่ะ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ
    สักพักก็หาย แต่ติดตรงนี้ค่ะ เวลานั่งมันมีรอยแยกใสๆตรงกลางตา ในความมืด บางครั้งแยกใหญ่ แยกเล็ก พอมองไปมันเหมือนมีมิติที่ซ่อนอยู่หลังรอยแยกนั้น
    แต่เข้าไปไม่ได้สักทีค่ะ แต่ตอนนี้ รอยแยกนั้นแคบมากๆจนเหมือนจะค่อยๆปิดไปนะคะ
     
  13. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784

    น่าสนใจนะคะ คุณคะรุทา ตรงรอยแยก นี่แหละคะ ลองฝึกไปเลื่อยๆ เผื่อลอยแยกจะเปิดกว้างขึ้น ถ้าสมมุติรอยแยกเปิดกว้างขึ้นคุณลองกำหนดจิต เข้าไปดูซิคะ ถ้าไม่กลัว ถ้ากลัวก็ไม่ต้องไปคะ เผื่อจะมีอะไรอยู่ในนั้น ต้องขอโทษด้วยนะคะที่แนะนำแบบนี้ ตุ๋ยเป็นคนขี้สงสัยคะ
     
  14. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    มันมีรอยแยกใสๆตรงกลางตา? ฝึกจักระมาหรือป่าว?
    กลางดวงตาหรือกลางหว่างคิ้ว ถ้ากลางหว่างคิ้วมี 1 จุด จุดนั้นเป็นตําแหน่งตาที่สาม

    ถ้ากลางดวงตา ก็แสดงว่ามี 2 จุด ข้างละจุด ถ้าเป็นแบบนี้จะฝึกกรรมฐานเพื่อสมถขั้นสูงต่อไปในวันข้างหน้า จะลําบาก เพราะไม่มีแบบแผนจากครูอาจารย์
    อาการแบบนี้แนะนําให้ กําหนด รวมจุดนัยตาทั้ง 2 ข้างเป็น 1 เดียว เพื่อให้ถูกกับนิสัยเดิม ก็กําหนดรวมที่จักระที่ 6 คือกลางหน้าผาก หรือกลางหว่างคิ้วแล้วแต่จะเรียก หรือจะ ดึงมาเป็นแนวเส้นตรง บริเวณ ดั้งจมูก และหรือกําหนดมาที่ปลายจมูกก็อาจจะเกื้อกูลแต่การปฏิบัติในอนาคตมากกว่า เพราะแนวๆนี้ยังมีแม่แบบให้ศึกษาจากครูอาจารย์อยู่มาก

    แต่ถ้าจุดรอบแยกที่บอกนั้นอยู่บริเวณกลางหน้าผาก ให้กําหนดจิตกระแทกไปเบาๆเป็นจังหว่ะ ท่านว่าไว้ว่าจะเป็นการระเบิดทวาร ถอดจิตจะใช้วิธีการกระแทกจุดนี้ แต่ไม่แนะนํา ควรสอบถามครูบาอาจารย์และใกล้ชิด ผู้มีความรู้ด้านนี้จริงๆนะครับ แต่ถ้าต้องการจะพิสูญจน์ผลของการปฏิบัติให้ลองทําก่อนนอนนะครับ
     
  15. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    กลางคิ้วค่ะ ไม่เคยฝึกกับใครเลยค่ะ นั่งเอง ดูลมเอง เฉยค่ะ
     
  16. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784

    ตอนที่ตุ๋ยเริ่มฝึก สมาธิใหม่ๆ ส่วนมากตุ๋ยก็ชอบเอาจิตไปจับที่ตรงกลางระหว่าง ก็ฝึกเองเหมื่อนคุณ คะรุทานี่แหละคะ ก็จับไปเลื่อยๆ นั่ง นอน ยืน เดิน พร้อมกับคำภาวนาและรู้ลมหายใจไป ด้วย บางครั้งก็ลืมไปบ้างนึกขึ้นได้ ก็จับขึ้นมาใหม่ เอาหนังสือหลวงพ่อเป็นครูคะโดยจับภาพพระเพิ่ม ขึ้นมานึกเห็นในใจ เห็นบางไม่เห็นบางก็ทำไปตามความเข้าใจ ทำแบบนี้อยู่เป็นเดือน ผลปราฎกว่า ตรงกลางระหว่างคิว มันเกิดมีดวงขึ้นมา ให้ตุ๋ยเห็นเวลาหลับตาจับ สมาธิ บางครั้งก็เป็นดวงสีขาวบางครั้งก็ ดวงสีคล้ำ แต่ตุ๋ยก็ไม่ใส่ใจอะไรยังคงทำไปเลื่อยๆ ทำไป ทำมา ช่วงเช้าตื่นจากหลับจับสมาธิต่อ ดวงที่ว่ากลมๆ มันขยายขึ้น กลืนตุ๋ย เข้าไปอยู่ในนั้นเลย ผลออกมากายทิทย์ออกคะ แต่ออกไปก็มืด ตอนนั้นนะคะ ต้องอธิฐานขอบารมีของพระเอาถ้าอยากเห็นอะไรหรืออยากให้มีแสงสว่าง แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปแบบนั้นแล้วคะ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรหรือคงจะเกิดความกลัวลึกๆ อยู่ในใจระมังคะ
     
  17. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    [​IMG]
    เมื่อเจ้าตีเหล็กนะเจ้าเด็ก
    เจ้าอย่ากลัวตีเมื่อตัวเหล็กยังแดง

    กําหนดให้เป็นอุคหนิมิต บางทีมันอาจจะไม่กลมเกลี้ยง เดี๋ยวใหญ่เดี๋ยวเล็ก สีไม่ผ่องใส่ หรือถ้ามันยังแวปๆอยู่ แสดงว่ากําลังสมาธิยังไม่แน่วแน่เป็นอารมเดียว ดูการเกิดดับสีในนั้น ให้เห็นมันเกิดดับไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นจะเบื่อหน่าย จะเข้าใจความไม่เที่ยง ดวงไฟนั้นจะจนสีสรรเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใหญ่ ไม่เล็กขยับขยายอีก นอกเสียจากเราไปกําหนดให้มันแปลงสภาพ กําหนดสัญฐาณไว้ผ่านขั้นนี้ไปได้ จะเป็นอัปนาสมาธิ และปฐมฌาน ไล่ๆกันไป ตามกําลังปัจจุบัน และวาสนาเดิมที่สั่งสม

    การกระแทกจุดกลางหน้าผากบ่อยๆเพื่อกําหนดว่าจะถอดจิต จะเสียพลังงานและความต่อเนื่องของกรรมฐาน อาจจะได้คุณวิเศษอื่นมาก็จริง แต่องค์ฌานอาจจะไม่พัฒนา

    ส่วนใหญ่ผู้กําหนดจุดทางหว่างคิ้วนี้ มักหวังผลทางด้านอภิญญา ผมพูดแส่วนนี้ถูกมั้ยครับ

    การเห็นนิมิตแสงช่วงกลางหว่างคิ้วนี้จะเป็นการกําหนดให้เห็น
    การเห็นสิ่งอื่นภายนอกกําหนดไม่ได้ ถ้ากําหนดแล้วเห็นเป็นมายานะครับ

    ส่วนตัวผมเองก็จะกําหนดกลางหว่างคิ้วเป็นหลักแต่ก็ใช้การกําหนดลมหายใจด้วย ไม่ได้กําหนดจุดเหนือสะดือแบบธรรมกาย และไม่ได้กําหนดที่ปลายจมูก
    กําหนดรู้เฉยๆ

    ผู้ปฏิบัติทางนี้การถอดจิตในขณะกรรมฐานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าจิตไม่แข็งแรงพอ อาจจะทําให้ดวงจิตนั้นแตกเพราะอาการตกใจ แก้วที่ร้าวรักษายังงัยก็ไม่เหมือนเดิม ต้องใจเย็นๆ แต่ทางพิสูจน์ยังมีอยู่ว่ามันจะสามารถถอดจิต หรือถอดวิญญาณได้จริงหรือไม่จริง แบบปลอดภัยและถูกใจพวกทดลองมากที่สุดคือ การกําหนดกระทบที่หน้าผากก่อนนอน จะเห็นผลได้ การถอดรูปแบบนี้ไปได้ไม่ไกลครับ เพราะร่างกาย และวิญญาณ ยังมีสัญญากันอยู่ จะมีสายสยายตนะ ผูกติดกันไว้ ร่างจะเค้วงไร้แรงดึงดูด การควบคุมมีได้น้อย พอสติรู้มา รูป และ วิญญาณ ก็จะรวมกันอีกครั้งด้วยสายใยที่ว่า

    พวกที่ไปไกลๆได้เพราะ อภิญญา ถึง การถอดแบบนี้ไม่ใช่ด้วยอภิญญา เป็นแค่กําทําให้จิตไร้แรงดึงดูดจากร่างเฉยๆ และจะไปได้อีกแบบ คือ เพราะมีคนในโลกวิญญาณพาไป กําลังตนเองระดับนี้ไม่มาทางไปได้เกินประตูห้องนอนครับแต่ก็ให้ชินกับสภาวะนั้นไปเรื่อยๆ ความสมดุลของวิญญาณจะเคยชินกับสภาวะโลกในมิติวิญญาณ เหมือนลืมตามองเห็นในที่มืด

    ความกลัวก็เป็นอุปสรรคให้วิญญาณยึดติดกับร่างครับ หรือไม่เชื่อมั่นในครูบาอาจารย์หล่ะ หืมมมมมมมม....

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.1161985/[/music]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2010
  18. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    คะ คุณอาภากร ปัจุบันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว บางครั้งไปมันน่ากลัว มันมีแต่ความมืดถ้าสติไม่ดีมันก็แย่เหมือนกัน ปจุบันนี้มาฝึกแบบธรรดาๆ เอาสติไว้ที่ตัว บางครั้งถ้าเบื่อก็ฝึกแบบ มโนมยิทธิ ที่ตัวเองไปเรียนมาจากวัดท่าชุง แต่ตุ๋ยชอบนั่นสมาธิโดยเอาเพลงประกอบให้จิตเป็นสมาธิ เพลงบันเลงนะคะ ฟังแล้วทำให้จิตเป็นสมาธิได้เร็ว ดีคะ เมื่อคืนก็นั่งสมาธิเกือบ สอง ชั่วโมง กับเพลงบันเลงทำให้จิตเป็นสมาธิ และจับภาพพระวิสุทธิเทพไปด้วย ทำไปแบบเบาๆสบาย ๆ เพลินๆ ไปเห็นตัวเองกำลังไปนั่งทราบ ท้าวมหาราชทั้ง 4 ที่วัดท่าชุงได้อย่างไรก็ไรรู้ คือกายในออกไปไหว้นะคะ การออกไปแบบนี้จะต่างกันกับแบบที่เล่าให้ฟังตามข้างต้น เพราะไปแบบนี้จะเบากว่า และไม่มืดเห็นท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 ชัดเจนพอสมควร ท่านแต่งองค์ทรงเครื่อง ชุดสีทอง ทั้ง 4 องค์ใสสว่างพอสมควร เห็นท่านแล้ว ก็ชื่นใจ พอออกจากสมาธิก็งงกับตัวเองว่าไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ก็ทำให้มีกำลังใจฝึกสมาธิมากขึ้น คะ
     
  19. DMZ_ZONE

    DMZ_ZONE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +649

    ผมว่าเราทำเท่าที่ร่างกายเราไหวนะครับ ผมก็ทำแบบนี้วันไหนเหนื่อยมากก็ทำแต่น้อยหน่อย วันไหนกำลังมากทำมากครับ
     
  20. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    คะรุทาปฎิบัติทุกวัน ไปตามกำลังค่ะ แต่ขี้เกียจไม่ได้ ถ้าเกิน 3 วัน เหมือนต้องรื้อกันใหม่เลยค่ะ พยายามทำทุกวัน ให้สม่ำเสมอค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...