อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nanthiya1, 11 สิงหาคม 2010.

  1. จิตอารี

    จิตอารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +223

    ข้าน้อย ขอคำแนะนำ ด้วย ค่ะ จักเป็นพระคุณ อย่างสูง...
     
  2. จิตอารี

    จิตอารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +223
    วัน อาทิตย์ ที่26 คุณภาราดรภาพ จะเชิญ แม่คำมี ญาณ ปู่ ท้าวเวสสุวรรณโณมาที่ บ้านเรือนไทย มีใครสนใจไปบ้างค่ะ...
     
  3. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    โปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่าน เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเห็นว่ามีประโยชน์ก็เลยเอามาลงในกะทู้นี้ เมื่อช่วงต้นปี ท่านเทพฯจะมาเรียกไปคุยกับท่านบ่อยๆ ทางจิต ทุกครั้งที่คุยกับท่านเมื่อออกจากสมาธิ ตุ๋ยก็จะเอาเรื่องราวที่คุยมาบันทึกเอาไว้ เพื่อมาพิจารณาในคำพูดเพราะตัวตุ๋ยเองก็ไม่ใช่ คนเชื่ออะไรง่ายๆ ตุ๋ยจะถามท่านความเป็นอยู่ของชาวสวรรค์ชั้นดาวดึงห์ว่าเขาเป็นอยู่กันอย่างไร?

    ท่านเทพตอบ ชาวสวรรค์เขาอยู่และวัดกันด้วยบุญ ใครมีบุญมากก็มีอำนาจบารมีมาก
    ถ้าใครมีบุญน้อน บารมีน้อย ก็เฉาไปเลย (ตุ๋ยแอบคิดพูดเหมือนหลวงพ่อวัดธรรมกายเลย)

    ตุ่ยถาม แล้วท่านละมี บุญบารมีมากไหม
    ท่านเทพ ก็ไม่มากปานกลาง ส่วนมากเราจะได้บุญจากเธอ
    ตุ๋ยถาม แล้วท่านอยากจะมีบุญบารมีมากกว่านี้ไหม
    ท่านเทพ อยากซิเราอยากมีบุญ อำนาจ บารมีมากกว่านี้
    ตุ๋ยถาม เทวดา ยังอยากจะมีอำนาจ บารมีอยู่อีกเหรอดิฉันคิดว่าจะมีแต่โลกมนุษย์
    ท่านตอบ เทวดาอยากจะมี อำนาจ บารมีเอาไว้เพือโชว์กันจะต่างกับโลกมนุษย์โลก
    มนุษย์อยากมีอำนาจบารมีเอาไว้ทำลายซึ่งกันและกัน เธอยังเป็นมนุษย์อยู่
    ยังมีโอกาส สั่งสมบุญสร้างความดี แต่เราหมดโอกาสแล้ว
    ตุ๋ยถาม เทวดาทำบุญไม่ได้เหรอ
    ท่านตอบ ทำได้แต่จะให้ครบแบบนุษย์ นั้นอยากส่วนมากมนุษย์ที่มาเกิดบนสวรรค์ชั้น
    ดาวดึงห์จะปรมาทกันเสียส่วนใหญ่ เทียวสนุกเพลิด เพลินหลงในสมบัติไม่
    คิดจะสั่งสมบุญต่อ ส่วนเทวดาไม่ประมาทก็มีแต่น้อย
    ตุ๋ยพูด ก็เพราะแบบนี้ดิฉันจึงไม่อยากไปเกิดบนสวรรค์ ถ้าสามารถไปนิพานได้ก็อยาก
    ไป
    ท่านตอบ เธอก็อธิฐานซิการเกิดบนเทวโลกจะไม่เหมือนเกิดเป็นมนุษย์ เกิดบน
    เทวโลกระลึกชาติได้เพราะมีทิพย์จักษุ ต่างกับเกิดเป็นมนุษย์ จะลืม
    อดีตหมด บนเทวโลกอดีตยังไม่ลืมต่างกันตรงนี้

    ตุ๋ยก็ขอบคุณท่านที่ให้ความรู้เรื่องนี้ ท่านก็ยิ้มๆ แล้วถามเธอจะถามอะไรอีก ตุ๋ยตอบหมดเรื่องจะถาม เอาไว้ถ้าเกิดเรื่องสงสัย เมื่อไรจะถามใหม่ ท่านตอบได้เลยแล้วท่านก็ยิ้มๆ
    เอาละตอนนี้ก็รู้แล้วว่าสวรรค์เขาวัดกันด้วยบุญ และความดีเรายังมีชีวิตก็เร่งสร้างกันเถอะเพราะเรายังมีโอกาส ถ้าหมดโอกาสจะกลับมาแก้ตัวอีกก็คงจะไม่ได้อีกแล้ว ข้อความข้างต้นเป็นคำพูดของท่านจริงๆ ท่านๆ อ่านแล้วก็ไปพิจารณาเอา
     
  4. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    คุณตุ๋ย คะ ได้รับแล้วนะคะ เดี่ยวจะส่งไปคุยคะ
     
  5. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ศิลามณี ว่าคุณแม่คุณจิตอารี ท่านสบายดี คุณจิตอารีไม่ต้องกังวนไปหรอกนะคะ และ คิดว่าบุญกุศลที่คุณจิตอารีทำไปให้ ถึงท่านแน่นอน

    ก็คุณจิตอารีเล่าเองไม่ใช่หรือ... ว่าคุณแม่คุณจิตอารี ชอบไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญบ้างตามกาล ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ .ก็ต้อง...ไปอยู่ในภพภูมิสุขคติอยู่แล้วคะ

    อีกอย่างอ่านจากที่คุณจิตอารีเล่า ท่านก็เป็นหมอดูที่ดูแม่นมาก ไม่ใช่หรือคะ ถ้าแม่นมาก ก็แสดงว่าศีลที่คุณแม่คุณจิตอารีถือ ก็ต้องบริสุทธิ์ทั้งหมด หรือ ไม่ก็เกือบหมด อาจพร่องไปข้อใดข้อหนึ่ง ไม่งั้นไม่แม่นหรอก

    แปลว่าท่านก็ต้องเป็นคนที่มีศีลธรรมอันดี... แล้วแบบนี้คุณจิตอารีจะต้องไปห่วงอะไรละคะ .....ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจหรือให้สบายใจนะ พูดเรื่องจริงคะ ;)
     
  6. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    คุณโมก อย่าลืมมาเล่า เรื่องการฝึกปราณนะคะ รออ่านอยู่นะคะ
     
  7. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ศิลามณีอยู่ต่างจังหวัด คงไม่ได้ไปร่วมสังเกตุการในวันนั้นคะ แต่ขอบคุณนะคะที่บอกให้ทราบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2010
  8. จิตอารี

    จิตอารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +223

    รับทราบ ค่ะ ท่านพี่...
     
  9. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    สหายธรรมกล่าวหนักเกินไปแล้ว สิ่งใดพอจะบอกกล่าวได้อันเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายก็จะบอก
    พลังปราณเป็นธาตุบริสุทธิ์ที่ลอยอยู่ในอากาศ และในธาตุบริสุทธิ์นั้นมีคลื่นแม่เหล็กหรืออะไรทำนองนี้ปนอยู่ด้วย ขณะกำลังเล่นปราณตอนเช้าเคยเห็นบ่อยๆตอนแรกนึกว่าตาฝาดค่ะ เอ้อ มันเคลื่อนที่ได้ด้วย ในเช้าวันที่มีแสงแดดอ่อนๆยิ่งเห็นชัด มันสามารถขยับมารวมกลุ่มกันได้ ไม่ได้อยู่นิ่งๆ
    แต่เนื่องจากเราหายใจไม่ถูกวิธีและดึงมันเข้าไปใช้ได้อย่างไม่เต็มที่ พลังปราณจึงไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควร แล้วยิ่งถ้าเราใช้พลังปราณบวกสมาธิด้วยล่ะก็ นั่นจะเป็นประโยชน์สูงสุด เราสามารถดึงพลังปราณเข้าร่างกายได้มากเท่าที่เราต้องการด้วยการหายใจอย่างถูกวิธีบวกกับท่าทาง
    ท่านทั้งหลายที่มีอาการดังว่าคือ หนักบ่า หลังคอตึงๆ สมองตื้อๆหนักๆ บางคนมีอาการนอนไม่หลับพ่วงด้วย นั่นเป็นสาเหตุจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เต็มที่
    เลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ก็ด้วยลมปราณพาไป ถ้าปราณมันติดขัดเดินไม่สะดวก ไปติดขัดตรงจุดไหน หรือมีน้อยไปไปเลี้ยงได้ไม่เต็มที่ จึงเกิดเป็นอาการปวดเมื่อยต่างๆ ซึ่งอาจลามไปถึงอาการป่วยเป็นเรื่องเป็นราว
    เอาล่ะคราวนี้มาดูวิธีบริหารกัน วิธีหายใจในการเล่นปราณมีสองแบบ
    1. ตามการหายใจของพลังจักรวาลฝรั่งที่ลอกตำราอินเดียมาอีกที เขาจะสอนให้หายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปาก โดยผ่อนลมออกมาทั้งหมด
    2. ตามการหายใจของการเล่นปราณแบบจีนหรือที่แปรสภาพเป็นกำลังภายในได้ เขาจะหายใจเข้าทางจมูกและออกทางจมูก แต่ออกไม่หมด เก็บส่วนหนึ่งไว้
    เอาล่ะ ตัวดิฉันเองตอนแรกเรียนทางพลังจักรวาลฝรั่ง ตอนหลังหันมาเล่นปราณแบบจีน เลยใช้เป็นลักษณะผสมผสานคือ หายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปากแต่ออกไม่หมด เก็บเยอะ ออกน้อย แรกๆจะอึดอัด ทำไปทำไมจะชินไปเอง สำหรับผู้ฝึกใหม่แนะให้หายใจเข้าทางจมูกและออกทางปาก โดยผ่อนลมออกมาทั้งหมด
    ท่าที่ 1
    ยืนตรง เอามือทั้งสองข้างจับหูทั้งสองไว้ นิ้วโป้งแนบหลังหู นิ้วชี้แยงเข้าไปในรูหู ทำแบบผ่อนสบาย และก้มหน้าลง อันนี้เป็นท่าเตรียมพร้อม
    ค่อยๆสูดลมหายใจเข้า มือกดหูแน่นขึ้น กดนิ้วชี้ในรูหูให้แน่นขึ้น พร้อมกับค่อยๆเงยหน้าขึ้นและแหงนหน้าขึ้นข้างบน สูดลมหายใจเต็มที่ ก่อนค่อยๆผ่อนลมหายใจ ค่อยๆคลายๆมือเหมือนท่าเตรียมพร้อม พร้อมกับแหงนใบหน้ากลับมาตั้งตรงตามปกติ
    ทำท่าเตรียมพร้อมแล้วทำซ้ำ
    (สำหรับท่านี้ท่านใดไว้เล็บยาวกรุณาตัดเล็บด้วย)
    ท่าที่2
    ท่าเตรียมพร้อมคือ ยืนตรงเอามือขวาจับหัวไหล่ซ้าย มือซ้ายจับหัวไหล่ขวา จะเห็นว่ามือทั้งสองของท่านพาดไขว้กันเป็นกากบาท
    สูดลมหายใจช้าๆพร้อมกับยกมือที่ไขว้กันไว้ขึ้นมาเกยคางของท่านและค่อยๆดันขึ้นไป ศีรษะของท่านจะถูกดันโน้มขึ้นไปจนสุดจนแขนตั้งฉาก สูดลมหายใจเต็มที่ก่อนค่อยๆผ่อนลมหายใจและผ่อนท่าทางกลับมาอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ทำซ้ำ
    ท่าที่3
    ท่าเตรียมพร้อมคือ ยืนตรง ยกแขนสองข้างขึ้นชิดลำตัวหงายฝ่ามือขึ้นเหนือหัวไหล่เล็กน้อย พยายามทำให้ฝ่ามือหงายราบมากที่สุดเท่าที่ทำได้ (อย่าเกร็งและอย่าฝืน ได้แค่ไหนแค่นั้นค่ะ)ท่าทางคล้ายกำลังแบกของ เงยหน้ามองด้านบน
    สูดลมหายใจช้าๆ พร้อมกับค่อยๆดันมือขึ้นไป ดันขึ้นไป เหมือนกำลังดันของหนักๆขึ้นไป สูงขึ้นๆ จนแขนตึงตั้งฉาก หายใจเข้าเต็มกำลัง ก่อนค่อยๆผ่อนลมหายใจ คลายท่าทางกลับมาอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ทำซ้ำ ท่านี้เรียกว่าอรหันต์แบกหิน
    ท่าที่4
    ท่าเตรียมพร้อมคือ ยืนตรงมือขวากำหมัดวางมือไว้ระดับเอว คล้ายท่าฝึกกังฟู
    ยกแขนซ้ายขึ้นตั้งฉากกับพื้นแบมือออก ฝ่ามือตั้งตรง
    สูดลมหายใจช้าๆ กวาดมือซ้ายไปทางซ้ายมือ สายตามองไปที่มือที่เคลื่อนไปลำตัวของท่านจะบิดไปทางซ้ายมือ อย่าให้เท้าขยับตามกำลังการบิด ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น เมื่อได้เต็มที่แล้วสูดลมหายใจเต็มที่ก่อนจะคลายลมหายใจแล้วผ่อนลำตัวกลับมาอยู่ในท่าทางเดิม
    ต่อด้วยสลับข้าง กำหมัดซ้ายวางมือระดับเอว แขนขวายกขึ้นตั้งฉากกับพื้นฝ่ามือตั้งตรง สูดลมหายใจเข้า ค่อยๆกวาดมือขวาไปทางขวา สายตามองตามที่มือที่เคลื่อนไป ลำตัวของท่านจะบิดไปทางขวามือ อย่าให้เท้าขยับตามกำลังการบิด ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น เมื่อได้เต็มที่แล้วสูดลมหายใจเต็มที่ก่อนจะคลายลมหายใจแล้วผ่อนลำตัวกลับมาอยู่ในท่าทางเดิม สลับไปทำข้างซ้าย
    สลับไปมาซ้ายขวาค่ะ
    ท่าที่5
    ท่าเตรียมพร้อมคือ ยืนตรง งอข้อศอกยกแขนสองข้างขนาบตัว กำหมัดทั้งสองข้าง มืออยู่ระดับหัวไหล่
    สูดลมหายใจเข้า กำหมัดแน่นพร้อมกับดึงแขนสองข้างไปข้างหลัง คล้ายกำลังเล่นเครื่องออกกำลังกาย หายใจเข้าเต็มที่ ดึงไปให้สุด ให้สะบักหลังเคลื่อนมาชิดกัน ค่อยๆผ่อนลมหายใจ คลายท่าทางกลับมาอยู่ในท่าทางเดิม ทำซ้ำ

    4 ท่าแรกนี่ได้มาจากสมาธิค่ะ วันนั้นตื่นมามันเมื่อยมันล้ามาก ต้องพยายามลากสังขารมาเล่นปราณให้ได้ก่อนไปทำงาน แล้วท่าทางมันก็ออกมาเอง คือเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันต้องทำท่าแบบนี้ แต่มันเป็นไปเอง แล้วอาการเมื่อยล้าสมองล้าต่างๆ หายเกลี้ยง รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ส่วนท่าที่5เป็นท่าตามหนังสือที่การฝึกกำลังภายใน ไม่รู้ว่าใครที่บ้านไปเอามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ยักจะเคยเห็น แต่แปลกดีพอจะใช้มันก็มาให้เห็น เป็นหนังสือเก่าๆพิมพ์ที่ฮ่องกงค่ะ เคยอ่านคอลัมน์ชี่กงจากนิตยสารฉบับหนึ่ง ปรากฏว่าท่าฝึกคล้ายกันมาก

    หลักการฝึกที่สำคัญคืออย่าเกร็ง ทำเหมือนเราเป็นตุ๊กตา สังขารนี้ไม่ใช่ของเรา
    หายใจเข้าช้าๆ ดึงพลังปราณธรรมชาติเข้าร่างกายเต็มที่ ผ่อนออกช้าๆ เหมือนทำสมาธิในตัว สำหรับผู้ฝึกใหม่ค่อยเป็นค่อยไป ท่าไหนยกไม่ไหว ดึงกันไม่สุด
    อย่าฝืน ทำบ่อยๆจะชิน สำหรับท่าที่3 ตั้งชื่อว่าอรหันต์แบกหิน เพราะในสมาธิเห็นเป็นอรหันต์ทำท่านั้นก็เลยทำตามท่าน จริงๆยังมีอีกหลายท่าของอรหันต์ แต่จากอาการป่วยของท่านทั้งหลาย ห้าท่าทางนี้จะช่วยได้มาก
    สำหรับคอมพิวเตอร์ซินโดรม ที่เมื่อยล้าจากการนั่งใช้คอมพิวเตอร์นานไป กระดูกต้นคอจะล้ามากๆ ควรทำทั้งห้าท่า เพราะนอกจากกระดูกต้นคอจะล้าแล้ว การนั่งนานๆ หมอนรองกระดูกกดทับนานๆ จะป่วยเอาซะอีก ไหนจะสายตาที่จ้องหน้าจอ โดนหลายเด้ง เดี๋ยวนี้คนป่วยเพราะใช้คอมพิวเตอร์มากเกินไปก็เยอะ
    เอาเป็นว่าสหายธรรมทุกท่านถูกใจท่าใดก็ทำท่านั้นก่อนไม่ว่ากัน ก่อนทำฝึกหายใจเข้าทางจมูกออกทางปากสักพักก่อนเริ่มท่าทาง แต่ละท่าจะซ้ำกี่รอบแล้วแต่แต่ละท่าน มีเวลามากขยันมาก ทำมาก มีเวลาน้อยทำน้อย ดีกว่าไม่ทำเลย แล้วท่านที่มีระเบียง มีสวน ฝึกกันตรงนั้นจะยิ่งดี คือที่ที่มีอากาศจากภายนอกถ่ายเทให้ทำที่นั่น ถามว่าถ้าที่ทางไม่อำนวย ประชุมเสร็จมันเมื่อยมันล้าก็แวบหามุมเหมาะยืดเส้นยืดสายดึงปราณจะรู้สึกสดชื่นขึ้น
    ทั้งหมดที่กล่าวมานอกเหนือจากตำราแล้ว เป็นไปตามความเข้าใจส่วนตัวอันเกิดจากสมาธิขณะเล่นปราณ ผู้รู้ท่านใดแจ่มช้ดในเรื่องนี้ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2010
  10. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    สวัสดีคะ เพื่อนๆ ศิลามณีเอากระทู้นี้มาฝากคะ ลองเข้าไปดูนะคะเผื่อว่าสนใจจะได้ฝึกไปพร้อมๆกัน

    http://palungjit.org/threads/เปิดจักระขั้นพื้นฐานผ่านหน้าเว๊บ.254126/

    มีภาพของผลึกน้ำสวยๆ
    http://palungjit.org/threads/ผลึกน้ำและความสัมพันธ์กับจิต.255003/


    กระทู้นี้ศิลามณีก็อยางช่วยแต่ไม่ทราบจะช่วยยังไงนะคะ ท่านผู้รู้ หรือ ครูบาอาจารย์ท่านผ่านมา
    ลองแวะเข้าไปดูหน่อยนะคะ
    http://palungjit.org/threads/ร้อนจังเลยทำงัยดีคะ.255091/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2010
  11. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    มาคุยต่อคะ

    เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ศิลามณีเข้าไปอ่านกระทู้หนึ่งคะ เรื่อง "ทำสมาธิทำให้เกิดปัญญา " อ่านๆไป แล้วทำให้นึกถึงบางเหตุการณ์ ที่เคยเกิดขึ้นกับศิลามณี ซึ่งคล้ายๆกับเรื่องที่คุณเจ้าของกระทู้นำมาฝากเพื่อนๆเลย เหมือนกันตรงที่ ขณะนอนหลับก็ได้ยินเสียงแว่วดังออกมาจากจิต เรียกชื่อของศิลามณี.... เสียงที่เรียกนั้นเหมือนเสียง ของคุณพ่อคุณแม่ศิลามณีเลยคะ มาเตือนสติเพราะขณะนั้นศิลามณีคิดไม่ดี เป็นอกุศลจิตคะ เรื่องมันมีอยู่ว่า


    เมื่อครั้งศิลามณียังเด็ก ตอนนั้นไม่รู้จักการทำสมาธิ แต่อยากทำคะ เพียงแค่ไปได้ยินได้ฟัง คนอื่นเขาพูดกัน ทั้งๆที่ตนเองก็ยังไม่เข้าใจ ราวๆว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียด ....แต่จะทำละ อย่างนั้นเลยคะ.... ก็ดังที่เล่าคือยังเด็ก เมื่อจะนอนก็เริ่มภาวนาโดยเอาจิต ไปกำหนดนึกถึงรูปของเพื่อนชาย ที่ศิลามณีแอบชอบเขาอยู่ ตอนนั้นไม่ทราบว่าผิด กำหนดได้สักพักเท่านั้นละ ศิลามณีก็เห็นภาพท้องฟ้ามืดมิด และ มีสายฟ้าผ่าลงมาพร้อมกับเสียงดังอัน กึกก้องอยู่ในจิต พร้อมๆกับได้ยินเสียงของ คุณพ่อคุณแม่แว่วออกมาในจิต เลยตกใจลืมตา... ตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่ทำอีกเลยคะ

    หลังจากนั้นอีกประมาณ 20 ปีละมั้งคะไม่แน่ใจ พอย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดเป็นการถาวรแล้ว ถึงได้มีโอกาสเรียนรู้ทางธรรมคะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2010
  12. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    คุณ ศิลามณี ตุ๋ยตอบ เมลย์ คุณแล้วพอจะส่งกับส่งไม่ได้ เขาบอกการเชื่อมต่อ hotmall

    มีปัญหา เขาบอกให้รอ ตุ๋ยก็เลยต้องรอเดี๋ยวถ้าหมดปัญหาจะส่งเมลย์ไปใหม่
     
  13. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ขอบคุณ คะคุณโมก อธิบายละเอียดดีจัง เดียวจะลองทำดูค่ะ
     
  14. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ขอบคุณ โมกมาก อธิบายละเอียดดีจัง เดี๋ยวจะลองทำดูคะ
     
  15. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ตุ๋ยก็เคยมีคล้ายๆ กันกับคุณ ศิลามณี เลยที่บ้านที่ เมื่องไทย เวลาตุ๋ยกลับไปเทียวเมื่องไทย ตุ๋ยจะนอนในห้องคนเดี๋ยวอยู่ชั้นบน แม่เขาจะนอนข้างล่างแต่
    พอ หกโมงเช้า ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนมีคนมาเคาะประตูเรียกปลุกให้ตื่นในความรู้สึก เหมือนเป็นเสียงของแม่ตุ๋ย พอลงไปถามแม่ได้ไปเคาะประตูเรียกไหม แม่บอกเปล่าไม่ได้ไป ตุ๋ยคิด เอใครหว่า ในใจคิดว่าสงสัยจะเป็นเจ้าที่
    คุณศิลามณี ว่าเป็นไปได้ไหม แล้วมาปลอมมาเป็นเสียง พ่อ แม่เรา
     
  16. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ท่าจะใช่นะคะคุณตุ๋ย ท่านมาช่วยปลุก อาจจะเป็นว่าวันนั้นคุณตุ๋ยอาจต้องไปธุระ หรือ ไปทำอะไรสักอย่าง หากไม่ตื่นจะทำให้เสียงานเสียการไปก็ได้ แต่ของศิลามณีที่เล่าข้างบนนี่ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านมาเตือน. เพราะหากปล่อยไป จะมีผลเสียที่ร้ายแรงตามมา ( อาจทำให้เป็นบ้า เป็นคนเลื่อนลอย สติไม่อยู่กับตัว )

    ซึ่งมาทราบภายหลังจากครูบาอาจารย์ว่า การที่ศิลามณีเอาจิตไปกำหนดรูปเพื่อนชาย คือ ตอนนั้นกลัวจำหน้าเขาไม่ได้นะคะ ถึงขนาดเอารูปเขามาดู เพราะต้องการที่จะจำจนติดตา ... แบบนั้นเขาเรียกว่า กสิณโทษ ซึ่งมีสาเหตุมาจากไม่มีความเข้าใจในการปฏิบัติ ยังไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำคะ

    ศิลามณีถึงได้ย้ำเตือนเพื่อนๆของศิลามณีเสมอคะ หากต้องการปฏิษัติต้องมีครูบาอาจารย์ท่านแนะนำก่อน อย่าทำโดยที่ไม่มีความเข้าใจ หรือ รู้แค่งูๆปลาๆ ดังที่ศิลามณีเล่า เพราะท่านเหล่านั้นอาจจะไม่โชคดี เหมือนศิลามณีก็เป็นได้นะคะ ....
     
  17. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    คุยต่ออีกสักนิดนะคะ เพราะสงสัยว่า ศิลามณี อาจจะเข้าอินเตอร์เน็ตไม่ได้สัก 2-3 วัน เพราะกำลังจะเดินสายไฟทำระบบใหม่นะคะ .

    ....ศิลามณีจะเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งแรก ที่ทำให้เข้ามาปฏิบัติธรรม... ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะคะ ...หลังจากที่ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดได้สัก 4 ปี ศิลามณี ได้อ่านนิตยสารกุลสตรี ซึ่งดูเหมือนบังเอิญแต่ไม่ใช่คะ ในเล่นนั้นมีอยู่คอลัมน์หนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อเรื่อง "ความหลงในสงสาร" ของนักเขียนชื่อดังท่านหนึ่ง ศิลามณีจำชื่อของท่านไม่ได้แล้ว :( นะคะ

    ท่านเขียนนวนิยายแทรกธรรมะเข้าไปด้วย จำได้ว่าตอนหนึ่งของเรื่อง ที่ท่านเขียนนั้น เป็นเรื่องของการเข้ากรรมฐานที่วัดป่าแห่งหนึ่ง เนื้อความราวๆว่าคนไหนที่มีโอกาส ได้เข้ากรรมฐาน แล้ว จัดว่าเป็นคนมีบุญนะ....

    หลังจากนั้นอีกประมาณ 3 เดือนให้หลัง เพื่อนของคุณพ่อศิลามณี ท่านจะไปปฏิบัติธรรมนะคะ แล้วท่านพูดเปรยๆกับคุณพ่อของศิลามณีว่า แหมอยากจะชวนคุณลูกสาวไปด้วยจริง ...คุณพ่อท่านมาเล่าให้ฟังนะคะ

    :p ศิลามณีอยากเป็นคนมีบุญคะ .... เลยตกปากรับคำว่าจะไปปฏิบัติด้วย.. ก่อนที่จะเดินทางไป เพื่อเข้าปฏิบัติธรรมเช้าวันนั้น ก็ได้นิมิตเห็นคุณพ่อส่งศิลามณีขึ้นหลังช้าง .....ท่านส่งขึ้นหลังช้างอยู่ข้างหลังนะคะ


    ในนิมิตศิลามณีขึ้นบนหลังช้าง แล้ว เอามือกอดช้างไว้ พร้องกับบอกว่า กลัว..... ช้างที่ ศิลามณี ขึ้นไปสงสัยจะเป็นช้างวิเศษ พูดได้ด้วย เขาบอกว่าไม่ต้องกลัว แล้ว ก็พาเดินลิ่วๆๆตัวปริวไปเลยคะ .....มีความรู้สึกอันหนึ่งที่จำได้จนถึงบัดนี้ นั้นคือตอนที่ ศิลามณี เอามือกอดช้างทั้งสองมือ แล้วมือข้างหนึ่งเข้าไปอยู่ในปากช้างตัวนั้น สัมผัสที่ได้มันช่างอบอุ่นที่สุดเลยคะ....บอกไม่ถูก

    เพื่อนๆละคะ เล่าบ้างสิ.... เดี๋ยวถ้าเดินสายไฟเสร็จ แล้วจะแวะมาคุยอีกนะคะ
    บายๆ
     
  18. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    คุณ ศิลามณี เรื่อง ความหลงในสงสาร ของ สุทัศ ออ่นค้อม คะ ตุ๋ยก็ติดตามผลงานของเขาคะ อ่านแล้วสนุกมากๆ ตุ๋ยอ่านนารีผล สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ความหลงในสงสารยังไม่ได้อ่านเลย ชื้อมาเก็บไว้ตั้งนานแล้วไม่ว่า บ้านที่อังกฤษ หรือบ้านที่เมืองไทยมีแต่หนังสือ ธรรมะทั้งนั้น ตุ๋ยชอบทางนี้ เห็นแล้วชอบขอให้ได้ชื้อ ถึงจะอ่านไม่จบก็ตามแม่
    ตุ๋ยก็บ่นจะชื้ออะไรหนักหนา ชื้อมาก็อ่านไม่จบทำไงได้ก็คนมันชอบนี่ มีเรื่องจะเล่าให้เพื่อนธรรมฟัง เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ช่วงเช้ามืดหลังจากเข้าห้องน้ำกลับมานอนตุ๋ยชอบนอนจับอารมณ์สมาธิ พอจิตเคลิ้มในความรู้สึกเห็น ลำตัวงู ตัวใหญ่มาก มีเกล็ดตามลำตัวแต่เกล็ด ออกเป็นสีขาวนวน ตุ๋ยเห็นก็ตกใจ ตุ๋ยเป็นคนกลัวงู พอจิตออกจากสมาธิก็ปลอบใจตัวเองว่า ไม่จริงคงจะไม่ใช่พยานาคหรอก ก็ปลอบใจว่าตัวเองคิดไปเอง ไม่มีอะไร
    แต่ถ้าจะมีก็ไม่น่าจะแปลก เพราะที่ห้องพระตุ๋ยมีเพชรพยานาคสีขาวใสหนึ่งอันเขาเรียกอันหรือองค์กันแน่อันนี้ตุ๋ยก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเทพที่เป็นพยานาคเฝ้าอยู่ก็ได้ เดาเอา ตุ๋ยจะมีพระธาตุ หลาย
    ชนิด แบบเมล็ดพันธ์ผักกาดก็มี หลายสี สีเงิน สีทอง สีฟ้า สีขาว สีเหมือนพลอยทับทิมก็มี
    ไปทำบุญพระให้มาบ้าง เสด็จมาเองบ้าง ถ้าอยู่เมื่องไทยพระธาตุจะเสด็จมาบ่อยอยู่อังกฤษพระธาตุ ไม่ค่อยเสด็จมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอไร
     
  19. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ตุ๋ยมีเรื่องประสพการณ์ ในผลการปฎิบัติธรรมช่วงแรกๆ ให้เพื่อนธรรมได้อ่านกัน คือช่วงแรกๆที่ ฝึกใหม่ๆ ฝึกด้วยตัวเอง เหมือนดังกับว่ายังไม่มีครูบาอาจารย์ จะว่ายังไม่มีครูบาอาจารย์ ก็คงจะไม่ใช่เรารักและเคารพพระองค์ใหน ก็นิมนต์ทางจิตขอเป็นลูกศิษย์ ท่านก็รับทั้งนั้นไม่ว่า จะเป็นพระที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือพระที่ท่านมรณะภาพไปแล้วถ้าเรามีจิตศัทธา รัก
    เคารพ บูชา ด้วยความ บริสุทธิใจ จิตปักตรงถึงท่าน ท่านก็จะมาสงเคราห์เราจริงๆ ประสพการณ์นี้ พบมาแล้วด้วยตัวเอง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตุ๋ยจะอยู่ต่างประเทศจะไม่คอยรู้จักพระอาจารย์ดังเท่าไร ไม่รู้เลยก็ว่าได้ปีหนึ่งจะกลับเมื่องไทยสักครั้งไปอยู่แค่ 4 อาทิตย์
    ไปอยู่ก็ไปเที่ยวอย่างเดียวไปทำบุญตามวัดก็ไม่ได้ไป สามีไม่ชอบ ตุ๋ยก็ไม่อยากขัดใจเดี๋ยวเลาะกันเปล่าๆ เป็นแบบนี้เลื่อยมา แต่ในใจก็ยังมีความสงสัยว่านรก สวรรค์ มีหรือ
    เปล่า จนรุ่นพี่เอาหนังของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาให้อ่านนั่นแหละพระสงฆ์องค์แรกที่รู้จักอ่านหนังสือ

    ท่านเกิดกำลัง ศัทธามาก แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะไปกราบท่านเพราะตุ๋ยอยู่ไกล ชอบท่านที่สอนให้ญาติโยมรู้จัก นิพาน นรก สวรรค์ อ่านหนังสือของท่านจะปลื้มปิติทุกครั้ง จนวันหนึ่ง
    ฝันว่าได้ไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่าน โดยพี่ชายพาไปหาหลวงพ่อฤาษีในฝันพี่เขาเป็น
    ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีอยู่แล้ว พี่ชายพาไปกราบท่านก็ถามพี่ชายพาใครมาพี่ชายตอบน้อง
    สาวครับ อยากมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ หลวงพ่อก็ตอบรับตุ๋ยเป็นลูกศิษย์ ถามตุ๋ยว่า
    ชื่ออะไรบ้านอยู่ที่ไหน ตุ๋ยก็ตอบตามความเป็นจริงเหมือนได้คุยกับหลวงพ่อจริงๆ เลยมีสติ
    ทุกประการ หลังจากหลวงพ่อรับเป็นศิษย์แล้วในความฝัน พอตื่นขึ้นมาก็มีความปิติใจมากพอมีโอกาสกลับเมื่องไทยก็ได้ไปกราบศพท่านและขอฝากตัวเป็นศิษย์อีกทีท่านมรณะภาพ
    ไปเสียเมื่อไรอันนี้ตู๋ยก็ไม่รู้ได้ พอกลับมาตั้งใจปฎิบัติธรรม ช่วงเช้ามืดหลังจากเข้าหอ้งน้ำ
    กลับมานอนตุ๋ยจะนอนทำสมาธิ เพราะช่วงนั้นเป็นจิตสะอาด มาก การฝึกสมาธิไม่จำเป็นต้องนั่งทำ ทำได้ทุกกริยาบท ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน เราสามารถทำได้ทั้งนั้น หลวงพ่อฤาษีจะมาสอนสมาธิให้แทบทุกเช้า ในอารมณ์เคลิ้มๆ ท่านจะมาแต่เสียงพูดกรอกหูตุ๋ยเลย
    หลวงพ่อท่านจะสอนให้ตัดร่างกาย อยู่เป็นประจำ บ้างครั้งเราไม่ได้ทำท่านก็ด่าก็มีตุ๋ยจะกลัวหลวงพ่อมากในสมาธิ ไม่ใช่หลวงพ่อฤาษีองค์เดียวที่มา มากันหลายองค์ มีเช้าวันหนึ่ง
    หลวงพ่อสดมาสอนธรรมะให้ตุ๋ยในสมาธิ ตอนนั้นตุ๋ยยังไม่รู้จักหลวงปู่สด พอท่านสอนเสร็จ
    ตุ๋ยก็ถามท่านในสมาธิ ว่าหลวงพ่ออยู่วัดไหนเจ้าคะ หลวงพ่อพูดว่า หลวงพ่ออยู่วัดปากนำภาษีเจริญ ตุ๋ยคิดอยู่ในใจตอนนั้นมันมีหรือวัดปากน้ำภาษีเจริญพอออกจากสมาธิมาหาดูจึงรู้ว่ามี แล้วจึงรู้ว่าหลวงพ่อชื่อ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ท้าวสหับดีพรหม ยังมาสอน
    สมาธิ ให้เลยท่านสอนว่า ให้ตุ๋ยมีสติอยู่กับ พุท โธ ตลอดไม่ว่าเธอจะทำอะไรจงมีแต่สติ
    อยู่กับคำภาวนาว่า พุทธ โธ แล้วเธอจะได้ไปอยู่ พรหม นี่แหละคะประสพการณ์ ครูบาอาจารย์ ทรงมีเมตตา เราตั้งใจปฎิบัติเราก็ได้พบจริงๆคะ เอาไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าประสพการณ์ไปเทียวเห็นพระจุฬามณีมาให้ฟังคะ
     
  20. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ใช่ๆๆคะใช่เลย เดี๋ยวนี้เขาทำเป็น MP3 ออกมาฟังง่ายและสนุก ขายก็ไม่แพงมากไป มีตั้งแต่ 150 ไปจนถึง 350 ไว้ถ้าคุณตุ๋ยมาเมืองไทย เดี๋ยวศิลามณีจะเอาฝากไปให้นะคะ

    คณะผู้จัดทำนี่เขาเข้าใจทำนะคะคุณตุ๋ย แถมมีข้อความข้างหลังติดดักคอไว้ด้วยว่า การคัดลอกหรือทำซ้ำโดยไม่ได้ขออนุญาตผิดศีลข้อ 2 :p ก็เข้าใจคะว่ามีต้นทุน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...