ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

พระบูชาเนื้อผง

จากหนังสือพรหมปัญโญเถระ

 

พระบูชารูปเหมือนคณาจารย์

จากหนังสือพรหมปัญโญเถระ

 

อนุโมทนาด้วยครับ

แมวตัวนี้หรือเปล่าครับ ?

 

ผมว่ากระทู้หลวงปู่ดู่ของเราว่างเว้นเรื่องเล่าประสบการณ์กันไปพักใหญ่ๆแล้ว เพราะมีแต่ผมเอาเรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่มาลง แต่เพื่อนสมาชิกก็แวะมาทักทายกันเป็นประจำแต่ไม่ได้มาเล่าอะไรกันมากมาย วันนี้ผมขอเล่าบ้างเกี่ยวกับพระเครื่ององค์ไหนของหลวงปู่ดู่ที่ผมมีประสบการณ์มากที่สุดครับ



พระของหลวงปู่ดู่ที่ผมมีประสบการณ์มากที่สุด และเชื่อว่าเพราะบารมีของพระองค์นี้ทำให้ผมผ่านพ้นเรื่องราวลำบากมาได้หลายต่อหลายครั้งพระองค์นี้ก็คือ พระเหนือพรหมพิมพ์กลาง ซึ่งพระองค์นี้ผมได้มาฟรีสมัยเล่นเวบวัดถ้ำเมืองนะ และคนให้พระองค์นี้มาก็อยู่แถวๆนี้แหละ หุหุ ต้องขอขอบคุณท่านจริงๆที่กรุณามอบให้ผมมา เพราะถ้าไม่ได้มาผมคงไม่มีปัญญาไม่เช่าหาพระของหลวงปู่ครับ พระพรหมพิมพ์กลางองค์นี้อยู่กับผมมาน่าจะประมาณ 2 ปี แล้วครับ เป็นพระองค์ที่หลังจากผมเลี่ยมเงินแล้วผมก็แขวนติดคอตลอดทั้งอาบน้ำ นอน ไปเรียนหนังสือ

ผมแขวนพระพรหมองค์นี้เป็นหลักในคอตลอดคือสร้อยด้านในไม่เคยเปลี่ยน ที่ผมจะเปลี่ยนพระบ่อยๆคือสร้อยด้านนอกครับ ประสบการณ์ที่ผ่านมากับพระองค์นี้คือ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ, ได้พบแต่กัลยาณมิตรที่ทำบุญร่วมกันมา, เพื่อนฝูงรักใคร่, ผ่านพ้นเรื่องลำบากมาหลายครั้งแล้ว เรื่องลำบากครั้งแรกในชีวิตนักศึกษาคือเรื่องที่ผมเคยเขียนเกี่ยวกับสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จว.เชียงราย ที่มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล จนในที่สุดทางวัดจะเอาเรื่องผมว่าผมไปใส่ร้ายวัดเขา ผมก็อธิษฐานขอหลวงปู่และพระพรหมองค์นี้เพื่อให้เรื่องราวจบลงด้วยดี และในที่สุดก็จบลงด้วยดีจริงๆ ครับ

เวลานั่งสมาธิผมก็ใช้พระองค์นี้แหละกำนั่งสมาธิรู้สึกกำลังใจดีสงบที่สุดแล้วครับ ส่วนอีกเรื่องที่ผมเชื่อว่าพระท่านสงเคราะห์ให้ผมผ่านพ้นไร้อุปสรรคก็คือเรื่องการสอบ Exit Exam ซึ่งมหาวิทยาลัยของผมมีระบบนี้คือหลังจากเรียนจบปี 4 แล้วต้องมีการสอบวัดความรู้ในสายวิชาที่เราเรียนมา และความรู้ทั่วไปด้วยคือ 1.วิชาเมเจอร์ 2.วิชา IT 3.วิชา Globalization (โลกาภิวัฒน์) 4.Ellis (ทดสอบภาษาอังกฤษ) ซึ่งยากพอสมควร ถ้าใครไม่ผ่านรอบหนึ่งก็จะต้องเสียเงินค่าสอบอีก 500 บ. เพื่อสอบครั้งต่อไป และถ้าใครสอบไป 8 รอบแล้วยังไม่ผ่านก็คือต้องเรียนปี 4 ใหม่ครับ ซึ่งหินพอสมควร แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อคือผมเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเรียนอยู่แล้ว เกรดเฉลี่ยก็ 2.2 นิดหน่อย ผมอ่านหนังสือ 2 วันก่อนไปสอบแบบตายเอาดาบหน้า ซึ่งผมก็ได้แต่อธิษฐานถึงหลวงปู่ดู่กับพระพรหมองค์นี้แล้วไปสอบ ผลสุดท้ายก็คือผมสอบผ่านในรอบแรก แบบไม่ต้องจ่ายเงินสอบรอบต่อเลย แล้วเพื่อนผมอีกหลายคนที่เก่งกว่าผมมาก คือเกรดเฉลี่ย 2.8 - 3.3 ยังตกกันเลย พวกมันยังถามผมเลยว่าผมมีของดีอะไร ทำไมถึงผ่านได้ นี่แหละครับคือประสบการณ์ของผม

พระของหลวงปู่ดู่แม้จะไม่มีประสบการณ์หวือหวา หรือขออะไรปุ๊บได้ปั๊บ แต่ผมเชื่อว่าท่านคอยค้ำจุนเราไปเรื่อยๆครับ ไม่ให้เราตกต่ำ มีทางตันก็แก้ปัญหาได้ แคล้วคลาดไปทุกทีครับ

ผมแขวนพระพรหมพิมพ์กลางองค์นี้มานาน ซึ่งช่วงก่อนที่ผมฝึกงานผมมีเงินเลยได้ไปบูชา พระเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่ มาแขวนกับเขาบ้าง อย่างว่าพระพรหมพิมพ์ใหญ่ ปี 17 คือยอดปราถนาของคนที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ เป็นพระเครื่องที่หลวงปู่แจกยากที่สุด คือท่านจะมอบให้กับคนที่ปฏิบัติกรรมฐานได้ดีในระดับหนึ่งเท่านั้นถึงจะมอบให้ ซึ่งยากมาก และพี่ที่ผมได้คุยกับเขา เขาก็เป็นศิษย์ที่ทันหลวงปู่ดู่ เขาก็บอกผมเน้นๆว่า ต้องพรหมปี 17 พิมพ์ใหญ่เท่านั้น ถึงจะเป็นพระที่สุดยอดที่สุดของหลวงปู่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง

หลังจากผมได้พระพรหมพิมพ์ใหญ่มา ผมรีบนำไปเลี่ยมเงินแขวนตอนที่ผมไปฝึกงานที่เชียงใหม่ 3 เดือน ผลเป็นอย่างไรรู้ไหมครับ ... ผมอารมณ์ร้อนขึ้น, อารมณ์ที่เคยมั่นคงเปลี่ยนไป, และสุดท้ายผมต้องเลิกกับแฟนคนที่ผมรักมากและคิดว่าเป็นคนแรกและคนเดียวที่ติดตามผมไปไหนต่อไหนในการทำบุญ เธอไม่เคยบ่นเลย เพราะถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นในวัยเดียวกันนี้ต้องเข้าเธค กินเหล้าครับ มีแฟนผมคนนี้นี่แหละที่ใจเป็นกุศลมากๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องเลิกกัน ..

ผมไม่ได้โทษพระนะครับว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่ผมคิดว่าสิ่งใดที่เหมาะกับเราที่สุด เราแขวนแล้วชีวิตเราไหลลื่น ทำการทำงานอะไรก็สะดวก มีความสงบสุขในชีวิต ก็คงจะเป็นพระคู่ชีวิตของเราตลอดไป ถ้าไปเห่อตามกระแสอาจจะได้พระที่ "ไม่ใช่ของเรา" ก็เป็นได้ อันนี้ความเห็นส่วนตัวของผมนะ คือผมคิดว่าผมอาจจะไม่เหมาะกับพระพรหมพิมพ์ใหญ่นี้ก็ได้ เพราะขนาดสมัยนั้นหลวงปู่ยังมอบให้กับศิษย์ยากมากเลย เพราะต้องดีให้ได้ก่อน แต่ปัจจุบันหลังจากท่านเสียไปแล้ว คณะกรรมการเปิดกุฏิของหลวงปู่ก็พบพระเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่มากมาย หลายไห ก็นำมาออกให้บูชาทำบุญกันให้พวกเราได้มีบูชาได้แขวนกันในปัจจุบันนี้ไงล่ะครับ เรามีเงินบูชาเลือกพระได้ แต่พระอาจจะไม่เลือกเราหรือเปล่านะ ... ?

 

จะถามว่าอะไรหรือครับท่าน ?

ผมช่วยเล่าคร่าวๆเรื่องประวัติท่านละกัน ครูบาบุญชุ่มท่านเป็นคนเชียงแสน แล้วได้บวชเณรศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ทางเหนือหลายรูปมาก ไม่ว่าจะเป็น ครูบาพรหมจักร วัดพระบาทตากผ้า, ครูบาชุ่ม วัดวังมุย, ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม, หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นต้น ท่านดังหลายเรื่อง สมัยก่อนตอนท่านยังเป็นเณรท่านยังให้หวยแม่นเลย แม่ผมเล่าให้ฟังว่าตากับยายผมชอบไปขอหวยท่านสมัยก่อนก็เรียกว่า เณรน๊อยๆ ไปที่ไหนคนก็มีโชค

ท่านปฏิบัติในไทยเป็นระยะเวลาหนึ่งก็ธุดงค์ไปทั่วหลายๆประเทศ เคยอ่านที่ท่านบันทึกไว้ท่านเคยไปป่าหิมพานต์ที่ธิเบตด้วยครับ สุดท้ายก่อนท่านจะกลับมาไทยล่าสุดท่านไปสร้างวัดที่ประเทศพม่า เมืองพงศ์ อยู่ได้ไม่นานมีปัญหาทางการเมือง ถึงกับจะส่งคนมาฆ่าท่าน ท่านรู้ล่วงหน้ารีบปลุกลูกศิษย์กลางดึกให้พาข้ามน้ำกลับมาฝั่งไทย เขาเล่ากันว่าทหารพม่าฆ่าลูกศิษย์ท่านที่วัดไปเสียมากมาย ท่านเลยตั้งสัจจะว่าจะไม่กลับไปพม่าอีก

ปัจจุบันท่านจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำโพธิสัตว์ราชคฤห์ จ.ลำปาง โดยตั้งสัจจะอธิษฐานไม่ออกจากถ้ำ 3 ปี ฉันแต่มังสวิรัติโดยทุก 7 วัน ศิษย์ถึงจะนำตะกร้าผลไม้มาถวายท่านทีหนึ่งครับ

 

ท่านปราถนาพระโพธิญาณ ท่านก็น่าจะมีวิชาไม่น้อยหน้าใครเหมือนกันครับ

หลวงปู่ดู่ท่านยังเคยบอกเลยใครอยากเห็น 'พระเหาะได้' ให้ไปหาครูบาบุญชุ่ม

ส่วนประสบการณ์เรื่องพระเครื่องอันนี้ไม่เคยได้ยินจากในวงการส่วนกลางเลย (เขาไม่เล่นกันเพราะไม่มีราคา) แต่ประสบการณ์น่าจะถามเอาจากชาวบ้านครับ สำหรับคนที่มาเที่ยว จ.เชียงราย และได้มาที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ที่มีพระพุทธรูปเชียงแสน 4 แผ่นดินอยู่ ให้หาตู้พระแถวนั้นจะมีพระเครื่องที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้อยู่ครับราคาถูกมาก มีทั้งเหรียญรูปเหมือน - พระเชียงแสนพิมพ์ปรกโพธิ์เนื้อชิน - ยอดขุนพลเชียงแสนเนื้อดิน - พระนาคปรก ฯลฯ เป็นพระที่มีพิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่โดยครูบาบุญชุ่ม พร้อมพระเชียงแสน 4 แผ่นดินองค์ใหญ่ครับ

 

แมวตัวนี้ผมก็เห็นเมื่อปี 51 ล่ะครับ ตอนพี่ท่านหนึ่งสร้างเหรียญเสมารูปเหมือนหลวงปู่ดู่ แล้วเราช่วยกันยกไปวางไว้หน้าหุ่นขี้ผึ้งของท่านเพื่อขอบารมีหลวงปู่ช่วยปลุกเสก ระหว่างที่เรากำลังสวดมนต์เพื่อขอบารมีหลวงปู่ แมวตัวนี้ก็มาจากไหนไม่รู้ มานอนบนลังพระเครื่องซะงั้น น่ารักดีครับ