รับเปิดภาษาเทพ ทางโทรศัพท์ นะครับ

ถ้าจิตนิ่งๆ หรือสมาธิดี ก็เปิดง่าย นะครับ

แต่บางคน คุณครูบาอาจารย์ก็ยังไม่ให้ไม่ให้เปิด โลกียญาณ(ตาทิพย์ หูทิพย์ จิตทิพย์) นะครับ

เกี่ยวกับความพร้อมบ้าง (อาจต้องผ่านบางอย่างมาให้ได้ก่อนนะครับ)
และก็บางคนควรใช้ธรรมะล้วนๆ ก็มีครับ ก็เลยแล้วแต่กรณี นะครับ

แต่นอกจากญาณแล้ว เราสามารถช่วยเหลือตัวเอง และช่วยคนอื่น โดยอาศัยทักษะอื่นๆได้เช่นกันนะครับ
นำทักษะ หรือความสามารถของเรา มาขับเคลื่อน ในการทำธรรมะให้แจ้งแก่ผู้อื่น

การหาอะไรเป็นกุศโลบายให้คนอื่นสนใจในการเข้าใจสัจจธรรม ตามความเป็นจริง
ก็เหมือนทำอาหารที่มีประโยชน์ ให้มีรสชาติอร่อยด้วย เพื่อให้คนอยากทานสิ่งที่มีประโยชน์นั้น
เพราะบางคนไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์บางอย่าง เพราะติดในรสชาติ ว่ารสชาติไม่น่าทาน นะครับ

ลองดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง มาประยุกต์ดูว่าจะนำไปใช้ เพื่อช่วยผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง นะครับ
ส่วนถ้าชอบเกี่ยวกับญาณ ถ้าคุณครูบาอาจารย์อนุญาต ก็ยินดีจะเปิดไปจนกว่า จะใช้ญาณได้ นะครับ

วาระต่อไป ของการมีญาณ ก็จะมีสิ่งที่ได้รับมอบหมาย นะครับ
แต่อย่างไรก็ตามก็ควรฝึกปล่อยวาง ไปตลอดเวลา เพราะสิ่งที่เรามีในปัจจุบัน อาจจะไม่ได้อยู่ตลอดไป นะครับ

ในที่สุด เราก็ไม่มีอะไร ที่เป็นของเรา
สมบัติก็เป็นของชั่วคราว ญาณก็เป็นของชั่วคราว อารมณ์ ความรู้สึก ก็เป็นของชั่วคราว

แต่ถ้าเราอยากจะช่วยคนอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะหยิบบางอย่างมาใช้ประโยชน์
ถือไว้ชั่วคราว ถือเท่าที่จำเป็น จนกว่าจะถึงวาระที่จะวางมือ แล้วกันนะครับ

เราจะกำหนดความสุข ความทุกข์ของตัวเราเองได้ ถ้าเข้าใจหลักการของจิต นะครับ
การช่วยผู้อื่นให้เขาพ้นทุกข์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องอาศัยการเข้าใจสภาวะของผู้อื่นเช่นกัน นะครับ
อยู่ในส่วนของการวินิจฉัยอาการผิดปกติ นะครับ
เพราะคนเราจะทุกข์ ก็จะเกิดอาการที่เรียกว่าทุกข์แล้วก็ต้องมีสาเหตุ ต่างๆ นะครับ
ถ้าจะช่วยเขาให้ได้ผล ก็จะต้องฝึกวิเคราะห์ปัญหา และหาทางแก้ที่ตรงจุด นะครับ

บางท่านก็อาจจะใช้ญาณ ในการทำนาย หรือ ช่วยรักษา ก็อยู่ที่ผลว่า จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน
และผลแบบระยะสั้น และผลระยะยาว เป็นอย่างไรนะครับ
ที่ต้องกล่าวถึงผลระยะยาว คือถ้าเรารู้จักใช้ญาณช่วยคนแบบยั่งยืน ให้เขารอดได้ด้วยตัวเองในอนาคต ก็จะดี นะครับ
เหมือนกับ ถ้าเราให้ผักคนอื่นไปทาน กับ ให้ความรู้สอนให้เขาปลูกผัก ได้เอง

การช่วยคนอื่นให้พ้นทุกข์แบบยั่งยืน ก็อาจจำเป็นที่จะต้องสอนให้เขารู้จัก สัจจธรรม
รู้จัก จิต
รู้จักแก้ปัญหาด้วยตนเอง ควบคู่ ไปด้วย นะครับ

ท่านใด ถ้าอยากมีญาณไว้ช่วยคน ก็ยินดีช่วยนะครับ
จนกว่าญาณจะใช้ประโยชน์ได้นะครับ
ถ้ามีสัญญาด้านนี้มา ก็เร็ว นะครับ แต่คนที่อาจจะไม่ได้สะสมมา ต้องใช้เวลา บ้าง
ถ้าต้องการจะช่วยคน ไม่ควรลืมวิริยะบารมี นะครับ

ถ้าเมตตากรุณา ต่อผู้อื่นด้วยใจจริง จะสามารถเห็นได้จากความพยายามว่าเราพยายามในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น ได้มากแค่ไหน
ถ้าการช่วยคนอื่นทำให้เราโดนลูกหลง ทุกข์เข้าเราบ้าง (ในวัฏฏะสงสารหลีกทุกข์ได้ยาก)เราเต็มใจ ยอมไหม

เราช่วยผู้อื่นเพราะ อยากให้เขาพ้นทุกข์ ด้วยใจจริง หรือต้องการประโยชน์ตน ต้องการบุญ ต้องการบารมี ถ้าเราจริงใจในการช่วยคนอื่น ก็จะทำให้อะไรต่างๆได้ผลมากขึ้น เพราะเราช่วยคนอื่นด้วยใจที่บริสุทธิ์
การให้ที่ยิ่งใหญ่ มักปราศจากการหวังผลตอบแทน นะครับ

คนที่ช่วยคนอื่น สุดท้ายก็อาจจะไม่ได้อะไร ยกเว้นการเป็นตัวกระทำ นะครับ

ถ้าสิ่งที่เราตั้งใจไว้ เป็นสิ่งที่ควรทำให้เกิดขึ้น ก็ลงมือทำไป นะครับ
เป็นกำลังให้ทุกท่าน ให้เดินทางไปสู่เส้นทางที่นำไปสู่ความสุขของท่าน และผู้อื่น นะครับ

 

ค่ะ..คุณแทนพูดได้ดีมากเลยค่ะ....การช่วยคนต้องช่วยจากใจจริง...ไม่หวังผลตอบแทน.....

 

แล้วเราอยากเปิดบ้างจะทำไง ได้ไหมคะ

 

ช่วงนี้รู้สึกตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิ ช่วยดูให้ด้วยค่ะว่าครู อยากให้เปิดหรือเปล่าคะ หรือถึงเวลารึยังคะ

ขอบคุณค่ะ

 

ขอรบกวนด้วยค่ะ

เท่าที่ได้อ่านมาตอนต้นไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือเปล่านะค่ะว่าทุกคนมีองค์ประจำตัว เพียงแต่ว่าองค์ที่อย่กับเราชัดเจนแค่ไหนขึ้นอย่กับการปฎิบัติธรรมของเราด้วยใช่มั้ยค่ะ ถ้าเราปฎิบัติดีองค์ก็จะเด่นชัดขึ้นและก็สามารถเปิดได้ คือตัวเองเป็นคนชอบดูดวง และบางครั้งก็ไปที่เขาเข้าทรงด้วยคะด้วยให้ดิฉันเปิดรับองค์ทานบอกตรงๆนะค่ะว่าไม่เชื่อเลยไม่ได้ทำตามที่เขาบอกคะ แตพอดิฉันไปดูแบบที่เป็นทางในเขาบอกว่าดิฉันมีแค่เทวดารักษาไม่ได้มีองค์ใดๆ ถ้าป็นแบบนี้จะเชื่อทางไหนได้ค่ะ แล้วเราจะทราบได้ยังงัยค่ะว่าเรามีองค์หรืออาจารย์อยุ่กับเราจริงๆ ดิฉันขอรบกวนด้วยนะคะ

 

ไม่ทราบว่าผมสามารถ เปิดญาณ ได้บ้างไหมครับ

 

อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แต่ผมไม่มีญานเลย คงต้องฝึกอีกนาน

ขออนุโมทนากับคุณแทนครับ

 

สวัสดีครับ..
ผมนี้สามารถให้ท่านชี้นำหรือเปิดให้ได้ไหมครับ
อย่างน้อยก็ช่วยร่นระยะทางในการเพียรสั่งสมบารมี สามารถต่อบุญเดิมไปได้อย่างต่อเนื่อง
มิทราบว่าเข้าใจถูกหรือไม่
และก็อยากทราบเช่นกันว่า
เทพประจำตัวผมคือท่านองค์ใด
ถ้าท่านสามารถช่วยเปิดให้ได้ก็อยากทราบว่า
จักต้องเตรียมตัวหรือกระทำการในสิ่งใดบ้าง


ขอบคุณครับ
weruwan-we@hotmail.com

 

ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าผม พอจะเปิดได้บ้างมั้ยครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

"ครับ ก็เป็นการย่นเวลาในการปฏิบัติได้ด้วย นะครับ
ปล. คุณมีคุณบาอาจรย์สายพระ หลายองค์นะครับ
ถ้าต้องการให้ก้าวหน้า ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน นะครับ
ถ้ายังอยากช่วยโปรดสัตว์ ก็พยายามดึงศักยภาพที่เรามีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นะครับ
แล้วก็พยายามปล่อยวางส่วนที่ไม่จำเป็น เท่าที่จะเป็นไปได้ นะครับ จะได้สร้างบารมี แบบรู้สึกทุกข์น้อย นะครับ
ถ้าอยากจะลาพุทธภูมิ ก็จุดธูปบอก ให้ชัดเจน ให้หนักแน่น นะครับ"

และเพิ่งทราบเช่นกันว่าผมนี้ได้เคยปราถนาพุทธภูมิไว้ในอดีต
ส่วนอาจารย์สายพระ ก็หาได้รู้ไม่ว่ามีท่านใดบ้างที่ผมจักมีวาสนาไปเป็นศิษย์ท่าน

ดังตามคำที่ผมได้กล่าวไปว่าจักให้ท่านช่วยต่อสัญญาเก่า
ก็ใคร่ที่จักขอถามสักเล็กน้อยว่าระหว่างให้ทานช่วยทางโทรศัพท์กับพบท่านด้วย กายภาพสนทานทางจากตัวตนไม่ผ่านเทคโนโลยี วิธีใดที่จักดีกว่ากัน หรือมิมีข้อแตกต่างอันใด
ที่ถามก็มิได้ปราถนาลองภูมิรู้เช่นใดนะครับ เหตุเพราะผมยังเป็นผู้ที่ต้องศึกษาอีกมาก

เวฬุวัน ว.มุจลินทร์ (นามนี้เป็นเพียงนามเรียกขานเท่านั้น)
weruwan-we@hotmail.com

 

ขอบคุณมากครับคุณแทนที่แนะนำ ที่ปฏิบัติอยู่ตอนนี้ก็ฝึกตามแบบของคุณวิษณุ ที่นับลมนับพุทโธ ท่องเกษาโลมา นขา ทันตา ตโจ แผ่เมตตา พิจารณาขันธ์ 5 ตามกระทู้นี้ครับ http://palungjit.org/threads/การฝึกสมาธิ-ในทางอภิญญา.245552/ ขอบคุณคร้าบ

 

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=0Qc7ENoeMls&feature=related]YouTube - เปลียนผู้อื่นไม่ได้[/ame]

 

ขออนุญาตก็อปได้ไหมคะ
อนุโมทนาบุญค่ะ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆค่ะ

 

กอปได้เลยนะครับ เผยแพร่ธรรม ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

ถามก่อนสักนิดถ้าเปิดเเล้วจะสื่อถึงเทพได้เลยหรือเห็นมีการรวมองกับเทพองไดอะไรช่วยอธิบายให้กระจางพลากรด้วยเดี๋ยวโทรไปนะครับ

 

เรื่องของการสื่อ ก็สามารถนำไปฝึกฝนต่อไปได้ครับ
เพราะการสื่อจะมีหลายแบบ และความชัดเจน จะขึ้นอยู่กับสมาธิ และสภาวะจิต ด้วยครับ

 

เมื่อช่วงเย็น ติดต่อคุณแทนแล้วคุยกันสักครู๋ สายหลุดไปเองอ่ะค่ะ ไม่ทราบสาเหตุ เดี๋ยวจะขอรบกวนติดต่อคุณแทนใหม่อีกครั้งน่ะค่ะ ....

 

เรียนถามคุณแทน

แล้วผมจะเปิดได้หรือไม่ครัับ และต้องปฏิบัติอย่างไรก่อน ถ้าจะไปหาเลยได้หรือไม่ครับ

 

ขอบคุณมากครับ คุณเเทน แล้วผมจะปฎิบัติตามคำเเนะนำ

 

(^_^)
ก่อนเปิดก็แล้วแต่ นะครับ จะจุดธูป 16 ดอก กลางแจ้ง บอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลเราอยู่ก็ได้ครับ

หลังเปิด ไม่ได้มีอะไรบังคับ นะครับ

แต่ก็แนะนำให้หมั่น ปฏิบัติตามโอกาส เช่น ทาน ศีล ภาวนา และปัญญา นะครับ
ทาน คือ การให้
ให้แก่ ใครก็อยู่ที่เรานะครับ เช่น ให้พระ ให้บุคคลต่างๆ ให้สัตว์ ให้วิญญาณ
ให้อะไรแก่เขา ก็ตามกำลังของเรา นะครับ เช่น ให้ทรัพย์ ให้อาหาร ให้ธรรมะ ให้อภัย ให้ความช่วยเหลือ เป็นต้น นะครับ

ศีล คือ หลักเกณฑ์ให้ละเว้น อย่างน้อย ก็ควรมีศีล 5 เพื่อจะได้ไม่เพิ่มกรรม ใหม่ นะครับ
หนี้กรรมเก่า เราอาจจะมีอยู่แล้ว ถ้าเราไม่รักษาศีล ก็อาจเพิ่มหนี้เขาไปอีก นะครับ
แล้วการขออโหสิกรรม ถ้าศีล5 ไม่ครบ จะขอยาก ซักหน่อยนะครับ
เหมือนยังไม่แก้ไข แต่ไปขอโทษ นะครับ ขนาดปรับปรุงตัวแล้ว ขอโทษ ยังยากเลย นะครับ
ศีลแปด จะเกี่ยวกับการปลง การปล่อยวาง บางอย่าง ก็แล้วแต่เราจะถือปฏิบัติแล้วกันนะครับ

ภาวนา ก็คือ การปฏิบัติอะไรก็ได้ ที่ทำให้เราพัฒนา นะครับ
เช่น ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน เจริญปัญญา เป็นต้น

ที่สำคัญ อยากให้เน้น ด้านปัญญา นะครับ
เพื่อจะได้แก้ปัญหา แก้ความทุกข์ ได้ตรงจุด นะครับ

สำหรับชาวพุทธ ก็ให้น้อมนำพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นสรณะหลักก็ได้ครับ
นอกจาก ศรัทธาแล้ว ต้องนำคำสอน นำธรรมะ มาปรับใช้ ก็จะทำให้เราผ่านพ้นความทุกข์ทั้งปวงได้แน่นอนครับ

การขอพร จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรขอในสิ่งที่ควรขอ อะไร ที่เป็นกิเลส ตัณหา ถ้าเราขออาจไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขที่ยั่งยืน นะครับ

อาจขอให้ท่านช่วยฝึกจิตเรา เพื่อให้เรา รู้จักเอาตัวรอดจากทุกข์ทั้งปวง
เพื่อให้เราพบความสุขที่แท้จริง ก็น่าจะทำให้เป็นการขอที่มีค่า และไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุนะครับ

เพราะบางครั้งการขอ เป็นการดึงบุญเรา มาจ่าย โดยตรง นะครับ
เราอาจคิดว่าเราได้มาฟรีๆ

ถ้าถามว่า ทำไมต้องปฏิบัติ ทำไมต้องฝึกจิต
ก็จิตเป็นต้นตอของ ความทุกข์ ความสุข
ถ้าเราจะแก้โดยจะแก้สิ่งต่างๆภายนอก มันก็ไม่ตรงจุด และอาจวุ่นวายมากขึ้น นะครับ

เรามีความทุกข์ แล้วเราจะไปหาใคร
ในเมื่อความทุกข์ของเรา มันเกิดเพราะจิตของเรา แก้ที่เรา ก็ได้ นะครับ

ตัวอย่าง ทุกข์ เพราะ มีคนด่าว่า
เราอาจคิดว่า สาเหตุของความทุกข์ มาจากคนที่ด่าว่า เรา
แต่สาเหตุ ที่ใกล้ตัว อยู่ที่จิตเราปรุงแต่ง เสียงนั้น จนเราเกิดทุกข์ไปเองด้วย นะครับ
ปรุงแต่งว่า เสียงนั้น เป็นคำด่าว่า
แล้ว อุปทานต่อ ว่าคนที่เขาด่า คือเรา
สรุปเอาว่า เราถูกด่า โดยเขา
ความจำได้หมายรู้เดิม มีว่า คนถูกด่าเป็นทุกข์
เมื่อเราถูกด่า เราก็มักจะทำตามประเพณี คือ เป็นทุกข์ และถือโทษ ผู้ที่กระทำเรา

ขั้นตอนของความทุกข์ จะเห็นได้ว่า จิตของเรานี้แหละที่เป็นตัวการสำคัญ ของความทุกข์

ท่านที่ทุกข์ เพราะวิบากกรรม นอกจากจะมุ่งไปแก้กับเจ้ากรรมนายเวร แล้วที่สำคัญ แก้ที่จิตเราด้วยนะครับ

ปล. เปิดแล้ว เชิญองค์บารมีมาปฏิบัติกับเราก็ได้ครับ
จะได้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
การเชิญท่านมาปฏิบัติ จะผ่านร่างเรา หรือไม่ผ่าน ก็แล้วแต่นะครับ
ไม่ควรติดยึดว่า ท่านต้องมาผ่านร่างเท่านั้น นะครับ

ใครถึงวาระ ที่จะได้ญาณ บางคนท่านก็จะมาเปิดของท่านเอง นะครับ
ใครที่สื่อกับองค์ได้แล้ว การถามองค์ นอกจากถามทางโลก ถามทางธรรมบางก็ดีนะครับ

ไม่ได้เปิด เพื่อให้ หลง นะครับ
เพราะฉะนั้น อยากให้ทุกท่านเข้าใจ เดินทางที่ถูกต้อง (มรรค) ไปสู่เป้าหมายสูงสุด (ผล) นะครับ
ระหว่างทาง ให้องค์บารมีเป็นผู้ช่วยก็ได้ ส่วนผมก็ยินดีนะครับ ถ้าสามารถช่วยอะไรได้ นะครับ

ผมเป็นมนุษย์ธรรมดา นะครับ ที่ช่วยนี้ ปกติองค์ต่างๆจะเป็นผู้มาช่วยนะครับ

พระศาสดา ยังอยู่ พระธรรม ยังอยู่
หวังว่าปัญญา ก็จะอยู่กับทุกท่าน นะครับ (^_^) งั้นถ้าปัญญา ยังอยู่ นำเอาออกมาใช้ได้นะครับ แฮะๆๆๆ

ขอทุกท่านพ้นทุกข์ทั้งปวง พบความสุขที่แท้จริง โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เทอญ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ