ปรึกษาเรื่องการนั่งสมาธิ แล้วมีอาการสั่นวน ก้มเงย อย่างรุนแรง

ช่วงนี้ตอนนั่งสมาธิ ประมาณ 10 นาที จะเริ่มรู้สึกว่า ศีรษะหมุนวนอย่างรุนแรง บางครั้งพอหมุนวนเสร็จก็จะกลับมาหยุดนิ่งท่าเดิมเอาดื้อๆ พอนั่งไปซักประเดี๋ยวอาการเริ่มเป็นอีก นอกจากศีรษะหมุนอย่างรุนแรงแล้วบางทีก็ส่ายหน้า หันซ้าย-หันขวาอย่างรุนแรง หรือไม่ก็เป็นอาการก้มหน้า-เงยหน้าอย่างรุนแรง และบางครั้งตัวก็โน้มไปจนหัวจรดพื้น และ ตัวโน้มไปข้างหลังแต่ไม่หงายหลังตึง แต่ก็ไม่ได้บังคับอาการเหล่านี้ปล่อยให้มันเป็นไป ได้แต่เฝ้ามองอาการเฉยๆ บางครั้งศรีษะหมุนอย่างรุนแรงจนรู้สึกได้ว่าได้ยินเสียงกระดูกดังเอี้ยดเบาๆ และล่าสุดรู้สึกหัวหมุนตัวสั่นจนเหมือนจิตจะถูกเหวี่ยงออกไปให้ได้ และพอเหวี่ยงเสร็จนึกจะหยุดก็หยุดเอาดื้อๆ ซัก 5 นาทีก็เกิดซ้ำไปมา แต่ช่วงที่เหวี่ยงแล้วหยุดเอาดื้อๆ สังเกตุเห็น ว่าภายในจิตนั้นว่างเป่า นิ่ง สงบ เงียบ และสุขเหลือเกิน บางครั้งเวลาเกิดอาการแบบดังกล่าวที่ว่าไป จะไม่ตื่นกลัวไม่ลืมตา ให้มันเป็นไปเรื่อยๆ ดูมันอย่างเดียว และก็อธิฐานว่าหากเกิดอะไรจะตกจะตายก็ขอถวายต่อพระพุทธเจ้า อาการนี้พอมันหยุดเหวี่ยงซักพัก และผมนึกถึงพระคุณของ ศีล 5 นึกว่าเราจะยึดมั่นในศีล 5 ให้บริบูรณ์ เท่านั้นเอง อาการเหวี่ยงอย่างรุนแรงเกิดขึ้นอีกโดยฉับพลัน

ตรงนี้ไม่ทราบว่าจะเป็นเพราะตัวกิเลสในจิตมาลองใจ หรืออย่างไรหรือเปล่าครับ หรือว่าเป็นลักษณะของจิตเองที่เป็นแบบนี้ครับ ? รบกวนผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างในข้อนี้ด้วยครับ

 

อาการของ ฌาน 2 คือ ปิติ มีอาการ 20 กว่าอย่าง
หรือ ถ้ามนุษย์ที่ไม่รู้เรื่องเขาจะเรียกว่า ของขึ้น

 

อาการปิติเป็นอาการที่ถามกันมาก.....ซึ่งผู้ปฏิบัติมักจะข้องใจเมื่อเกิดอาการนี้....
<O</O

<TABLE style="WIDTH: 45%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" class=MsoNormalTable border=1 cellPadding=0 width="45%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #f0f0f0; BORDER-LEFT: #f0f0f0; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #f0f0f0; BORDER-RIGHT: #f0f0f0; PADDING-TOP: 0.75pt">อาการและอารมณ์ของอุปจารสมาธิ<O</O

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<O</O

อาการของอุปจารสมาธิคือปีติได้แก่อารมณ์ความอิ่มใจเมื่อทำมาถึงตอนนี้อารมณ์
จะชุ่มชื่นมาก อารมณ์สะอาดเยือกเย็น มีความเป็นสุขอย่างยอดเยี่ยมไม่เคยพบความสุข
อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิตตอนนี้เวลาภาวนาลมหายใจจะเบากว่าปกติมาก อารมณ์เป็นสุข
ร่างกายของนักปฏิบัติที่เข้าถึงระดับนี้ผิวหนังจะนวลขึ้นเพราะอารมณ์ที่มีความสุขแต่อาการ
ทางร่างกายนี่สิที่ทำให้นักปฏิบัติตกใจกันมากนั่นก็คือ
๑.อาการขนลุกซู่ซ่าเมื่อเกิดอาการอย่างนี้หรืออย่างอื่นที่กล่าวถึงต่อไปจะมีอารมณ์
ใจเป็นสุขขอให้ทุกท่านปล่อยอาการอย่างนั้นไปตามสภาพของร่างกาย จงอย่าสนใจเมื่อสมาธิ
สูงขึ้นหรือลดตัวลงต่ำกว่านั้น อาการอย่างนั้นก็จะหมดไปเองอาการขนลุกพองถ้ามีขึ้นพึงควร
ภูมิใจว่าเราเข้าถึงอาการของปีติระดับหนึ่งแล้ว อย่ากังวลอาการของร่างกาย
๒. อาการของปีติขั้นที่ ๒ได้แก่อาการน้ำตาไหล
๓.อาการของปีติขั้นที่ ๓คือร่างกายโยกโคลงโยกไปข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง
บางคราวโยกแรง จนศีรษะใกล้ถึงพื้น
๔.อาการของปีติขั้นที่ ๔ตามตำราท่านว่าตัวลอยขึ้นบนอากาศแต่ผลของการปฏิบัติ
ไม่แน่นัก บางรายก็เต้นเหมือนปลุกตัว บางรายก็ตัวลอยขึ้นบนอากาศเมื่อลอยไปแล้ว ถ้าสมาธิ
คลายตัวก็กลับมาที่เดิมเอง(อย่าตกใจ)
๕. อาการของปีติขั้นที่ ๕คือมีอาการแผ่ซ่านในร่างกายซู่ซ่าเหมือนมีลมไหลออก
ในที่สุดเหมือนตัวใหญ่และสูงขึ้นหน้าใหญ่แล้วมีอาการเหมือนลมไหลออกจากกายในที่สุด
ก็มีความรู้สึกว่าตัวหายไปเหลือแต่ท่อนหัว
อาการทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดขึ้นอารมณ์ใจจะมีความสุข ฉะนั้นนักปฏิบัติให้ถืออารมณ์ใจ
เป็นสำคัญอย่าตกใจในอาการตามที่กล่าวมาแล้วนั้นพอสมาธิสูงถึงระดับฌานก็จะสลายตัว
ไปเองปีตินี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอารมณ์จะเป็นสุขคือถึงระดับที่สี่ ที่จะเข้าถึงปฐมฌาน ต่อไปก็
เป็นปฐมฌานเพราะอยู่ชิดกัน<O</O
<O</O

**************************************************<O</O

เข้าศึกษาได้ตั่งแต่เริ่มต้น...ทั้งหมด....ได้ที่นี่....หนังสือเล่มนี้เนื้อหาเพียงพอสำหรับผู้ที่จะปฏิบัติด้วยตนเอง....รวบรวมวิธี...และอาการทางสมาธิ...ทั้งหมด....ควรศึกษาให้เข้าใจสัก 1 รอบ(ไม่ยาวนัก)แล้วปฏิบัติได้เลย....คำถามทางสมาธิส่วนใหญ่ที่ถามในบอร์ดมักอยู่ที่นี่.......

วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ....โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ...

http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=7 <O</O

 

ขอหลักการปฏิบัติ เมื่อเกิดอาการดังกล่าวแบบนี้ด้วยครับ เราจำเป็นต้องบังคับให้อาการเหล่านี้หายหรือไม่ครับ หรือว่าควรปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ เพราะในใจคิดว่าอยากก้าวข้ามอาการแบบนี้ไปไม่อยากอยู่กับอาการหมุนวนอย่างรุนแรงแบบนี้

 

ขอบคุณ คุณ Krit59และคุณ Phanudet ที่ให้ความกระจ่างครับ

 

อาการนี้อยู่ใน อุปจารสมาธินะครับ.....ยังไม่ถึง ทุติยฌาน.....

บางคนจิตสงบแปล๊บก็มาแล้ว.....

ยังห่างไกลจาก ทุติยฌาน ครับ......

แต่เป็นระดับสมาธิที่ ๒ นี่ถูกครับ.....เพราะมีกำลังมากกว่าขนิกสมาธิเล็กน้อยเท่านั้นห่างกันเส้นยาแดงเลย....

 

สิ่งที่เกิดขึ้น ผมจะก้าวผ่านตรงนี้ไปได้อย่างไรครับ มีหลักปฏิบัติเสริมเพิ่มเติมอะไรแนะนำไหมครับ

 

ส่วนวิธีการปฏิบัตินั้น หลวงพ่อสอนไว้แล้ว จขกท. ศึกษาเองได้เลยครับ.....

โมทนาสาธุบุญ........ไม่ต้องตกใจนะครับ.....เรื่องปกติครับ.....

เพิ่มเติมก็คือ....ไม่ต้องเอาใจไปยึดในมันครับ....ใจคุณไม่ติด...แบบหลวงพ่อบอก....เดี๋ยวก็หาย...

 

ขอบพระคุณอีกครั้งครับ หมดความสงสัยในข้อนี้แล้วครับ

 

เค้าเรียกว่าสมาธิหมุน พอเราเข้าสมาธิแล้วเริ่มเคลิ้ม เกิดแรงดึงระหว่างสองส่วน ทำให้เกิดแรงหมุน แสดงว่าคุณเข้าไปใน จิตในจิตได้แล้ว
คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.plarnkhoi.com
*คุณไม่ต้องตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ มันไม่ใช่เรื่องของร่างทรง หรือมีองค์ อะไรทั้งสิ้น มันเป็นของเก่าของคุณทั้งนั้น
คุณอย่าเพิ่งกลัวแล้วเลิกปฏิบัตินะ ให้ปฏิบัติต่อไป มันเป็นมหาสติปัฎฐาน 4

 

ขอบพระคุณครับ ผมจะลองเข้าไปศึกษาดูครับ ขอให้กุศลในการแนะนำธรรมะนี้ จงถึงแก่ท่านทุกคนด้วยเทิด

 

จากการนั่งสมาธิผมจะสั่งเกตุตัวเองได้ว่า พอออกจากสมาธิ เข้าสู่ชีวิตปกติ ทำการงาน อะไร บางทีถ้าผมนั่งอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียว จะรู้สึกว่า ทั้งตัวมันหมุนเป็นเหมือนวงรี แต่หมุนเบาๆ ไม่หนักเหมือนตอนนั่งสมาธิ นี่เป็นผลจากสมาธิที่ได้ปฏิบัตินั้งสมาธิหรือเปล่าครับ ที่ทำให้ตัวผมหมุนได้เองบางเวลา

 

บางคนที่เจออาการปิติแล้ว.....พอจะนั่งก็เตรียมจิตเพื่อรอ....อยู่ตลอด.....บางครั้งก็ไม่มา(เพราะฟุ้งซ่าน).....ก็มัวแต่จดๆจ้องๆอยู่กับปิตินั้น.......ท่านเรียกว่าพวกติดปิติ.....สมาธิไม่ก้าวหน้าไปกว่านั้น......

ในการปฏิบัตินั้นท่านไม่ได้ให้ไปสนใจหลอกครับ.....เพราะมันไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรหลอกนะ......ท่านเพียงแค่ให้รู้แล้วก็ผ่านไป.....ไม่ได้ให้ไปยึดไปกอดไว้นะ.....เพราะว่ามันไม่เป็นสาระเท่าไร.....แต่เมื่อใดก็ตามถ้ามาถึงจุดนี้แล้วก็ให้รู้ว่า....จิตเราอยู่ในอุปจารฌานเท่านั้น.....เท่านั้นเองครับ........

บางพวกติด.....ยึ่งติดบางครั้งมันยิ่งส่ายนะ.....ยิ่งตรึกมันยิ่งส่าย.....เมื่อไรเลิกตรึก...เลิกสน....เพียงแค่รู้...แล้วก็เลยผ่าน....จบครับ.....สมาธิก็ก้าวหน้าต่อไป.....

ในสถาวะปกติ...ที่คุณมีความชิน...มันก็เข้าของมันเองได้ครับ....เมื่อคุณทำความสงบใจ.....เพราะจริงๆแล้ว....สมาธิขั้นนี้....ไม่ได้เป็นสมาธิขั้นที่สูงอะไรเลย.....อันนี้ต้องตอบตามครูบาอาจารย์ท่านนะครับ.....

แต่บางครั้งก็ต้องดูนะ....ถ้าไม่ได้ต้องการสงบแล้วมันส่ายแบบเวียนๆหัว....อันนี้โรคทางกายนะครับ....อาจเกี่ยวกัยระบบใหลเวียนโลหิต.....หาหมอเช็คด่วนครับ.....

ไปลองดูนะ....ลองดูก่อนครับ...ไม่ลองไม่รู้ด้วยตนเอง....มันก็จะมัวแต่มีคำสงสัยอยู่.....ไปรู้ว่ามันเป็นอย่างไร......มันไม่ของเก่า....ของใหม่อะไรทั้งนั้นหละ......ของปัจุบันนี้หละเห็นๆกัน....ตรงนี้เลย......อย่างไรคงพอก่อน......เจริญในธรรมตั้งใจปฏิบัติกันถ้วนหน้า....

 

อย่างคุณ ภานุเดชได้อธิบายนั่นแหละครับ
บางทีก็หมุนยืดยาว ม้วนยังกับคองู จะเป็นอะไรก็แล้วแต่นะครับ
ใช้โอกาสนี้แหละเฝ้าดูมันไปเรื่อยๆ ดูสิมันจะยาวจะหมุน ไปถึงไหน
ถ้ามันแน่ให้มันยาวไปเลย เรามีหน้าที่เฝ้าสังเกตอย่างเดียว
มีสติรู้อยู่ที่สภาวะนั้น มันเกิด มันยาว มันหยุด มันหายไปแล้วก็ต้องรู้ตามสภาวะตามจริงไป
อย่าไปอยากให้มันยาวต่อ อย่าไปบังคับต่อ หรือแม้แต่อย่าไปอยากให้มันหายไป
ดู(สังเกตุการณ์)เฉยๆ ปล่อยมันไปตามสภาพที่เป็นอยู่อย่างนั้น เรียกว่าอาการตามดูนะครับ อาการตามดูต่างจากอาการจ้องดู หรือมันเกิดเราตาม อย่าไปตามมัน
ดูแล้วก็พิจารณาสภาวะเกิดดับนั้นๆนะครับ

อนุโมทนาในการปฏิบัติครับ

 

ขอบคุณครับ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Mr.Boy_jakkrit<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3505852", true); </SCRIPT>

 

ผมเองเล่นpsiball 4 วันติด เอาจิตจับรู้อยู่ที่สภาวะหมุนตลอด
ผมเป็นอาการแบบที่คุณเล่านี่เลย วันนั้นหมุนเหมือนจะอ้วกแตกตาย จากที่ไม่ได้เป็นอะไรเลยนะครับ ผมเองกำหนดจิตดึงลมปราณกลับตันเถียน อาการต่างๆหายเฉยเลย
ตอนหลังไปถามอาจารย์สอนสมาธิหมุนนี่เค้าว่าเลยตรงนี้ไปก็ระลึกชาติ

เรื่องอยู่เฉยๆแล้วหมุนนี่ ปกติลมปราณหมุนเป็นวงอยู่แล้ว อาจจะไม่ได้สงบจนเห็นการหมุนของมัน ทีนี้ลมปราณมันเดินแล้ว ความแรงมันมากขึ้นจึงเห็นได้ง่าย
พวกนี้ถ้าฝึกซ้อมกับเพื่อนก็ต้องระวังเพื่อนช้ำในด้วย
เพิ่มความแรงด้วยการยืนจั่นจวง รำไทเก๊ก ฟาหลุนกง สมาธิหมุน
ข้อห้ามคือ การช่วยตัวเอง เสียปราณได้มากกว่าคนปกติ อาจจะหยางพร่อง ไตไม่ดี
มีอาการหนาวตลอดเวลา ขาไม่มีแรง ปวดข้อ นี่แหละอาการ

สนใจสายลมปราณ เสิร์ช ฟาหลุนกง , สมาธิหมุน ,เวบไทเก๊ก

 

ตอนนี้ กระผมนั่งก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ผมจะนั่งสมาธิก่อนนอนทุกคืนประมาณ ตีหนึ่ง ถึง ตีสอง หรือไม่ก็นั่งสมาธิประมาณ ครึ่งชม. ณ วันนี้ ผมรู้สึกเจ็บที่บริเวณคอ ทั้งสองค้าง เป็นการเจ็บกล้ามเนื้อคอนะครับ เมื่อคืนมีแปลกนิดนึงครับ เหมือนกับในจิตผม เห็นวงหมุนเป็นเกลียว ดึงลงไปในจิต เป็นเส้นหมุนลางๆ เหมือนหมอกควันกำลังหมุนอยู่ แต่วันนี้ปวดคอมาก ไม่แน่ใจว่าจะวันนี้จะฝืนนั่งสมาธิต่อดีหรือไม่ แบบนี้ถ้าอาการแบบนี้เกิดบ่อยๆ แล้วจะมีผลต่อร่างกายจะทำยังไงดีครับ จะเลิกนั่งสมาธิไปเลยหรือ? ที่ห่วงร่างกายเพราะก็ยังต้องดำรงสังขารนี้ต่อไป ณ ตอนนี้ยังมีหน้าที่ทางโลกที่ต้องรับผิดชอบอยู่ครับ

 

เจ็บเพราะไปเกร็งฝืน ปล่อยตามแรงไปสบายๆ ยิ้ม นึกถึงตอนไปเที่ยวที่ๆชอบไป
ผ่อนคลาย กินยาคลายกล้ามเนื้อ ยาระบายงามระหง 3เม็ดก็พอไหว
แล้วฝึกต่อ ดูซิจะหมุนไปถึงไหน


ตอนนั้นต้องนอนกะนั่งอย่างเดียว ยืนคือเวียนหัว เดินเอียงตลอด
ตอนนั้นผมทำแบบนี้เอามือประคองเหมือนอุ้มแตงหายใจออก ออกเสียงเฮิง
เอาลิ้นแตะเพดานปาก หายใจเข้าพอเต็มทรงไว้ เอาลิ้นออกจากเพดานปาก
ดันมือลงข้างตัว ออกเสียงฮา เอ่อ หายแฮะ ไม่หมุนละไม่มีไรเล่นแล้ว

คนเราไม่ตายกันง่ายๆหรอก ฝึกต่อ ครับ

 

ขอบพระคุณอีกครั้งกับทุกคำแนะนำ

 

ผมว่าเรื่องณานนี้ไม่น่าจะบอกกันได้นะเพราะถ้าปฏิบัติได้จริง มันจะรู้เอง ไม่รู้สิคนอื่นอาจจะไม่รู้มั้ง