ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในกรุวัดราชบูรณะ ได้เจอพระแสงขรรค์ชัยศรี มีผู้ที่สามารถสัมผัสได้บอกไว้ว่าเป็นพระแสงขรรค์ชัยศรีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั่นเอง (ทางสายธาตุเคยเขียนไว้ในตอนต้นๆอ้างถึงอาจารย์สามตาแห่งเวปพลังจิต) เหตุผลพระแสงขรรค์ชัยศรีเป็นหนึ่งในเบญจราชกกุธภัณฑ์ ที่เจ้าสามพระยายังทรงเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ขณะสร้างวัดราชบูรณะ ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะทรงนำเบญจราชกกุธภัณฑ์ของพระองค์เองบรรจุเข้าไปในพระปรางค์ เพราะเบญจราชกกุธภัณฑ์เหล่านี้มีไว้เพื่อแสดงถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ผู้ยังทรงครองราชย์อยู่

อย่างที่สอง วัดราชบูรณะในแผนที่ฝรั่งก่อนสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(จำไม่ได้ชัดว่าก่อนรัชสมัยใดนะคะ ขอเช็คอีกทีจากรูปวาดในหนังสือกรุงศรีอยุธยาในแผนที่ฝรั่งค่ะ) เจดีย์ประธานเป็นทรงระฆังคว่ำไม่ใช่พระปรางค์ มีรูปวาดโบราณแสดงไว้ ดังนั้นคิดว่าพระเจดีย์ประธานเคยถล่มลงมาเพราะเป็นปกติธรรมดาที่สิ่งปลูกสร้างที่มีอายุหลายร้อยปีจะต้องเสียหายไปตามกาลเวลา ดูตัวอย่างวัดมหาธาตุที่อยู่ข้างๆวัดราชบูรณะ สร้างในสมัยต้นอยุธยาเช่นเดียวกัน องค์พระปรางค์ได้ถล่มลงมาในสมัยพระเจ้าทรงธรรม และถูกทิ้งไว้อย่างนั้นจวบจนมาถึงสมัยพระเจ้าปราสาททองจึงทรงทำการบูรณะพระปรางค์ขึ้นใหม่ พร้อมสร้างเจดีย์รายอีกหลายองค์ ในรูปวาดโบราณวาดพระเจดีย์ประธานวัดมหาธาตุเป็นทรงปรางค์มาแต่ต้นและบูรณะใหม่คงรูปพระปรางค์ไว้ ผิดกับวัดราชบูรณะที่วาดเป็นทรงเจดีย์ระฆังคว่ำแต่บูรณะใหม่เป็นทรงพระปรางค์ในภายหลัง

ทำให้นึกถึงพระสุวรรณภิงคารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จะทรงถูกบรรจุไว้ในพระปรางค์วัดราชบูรณะด้วยหรือไม่ เนื่องจากทรงเป็นบูรพมหากษัตริย์อันทรงพระคุณประเสริฐ เครื่องราชูปโภคจึงไม่สมควรให้มีใครนำไปใช้ได้อีก คนโบราณจึงเห็นพ้องต้องกันว่าถวายเป็นพระพุทธบูชาจึงจะเหมาะและควรที่สุด

สีเขียวเป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ แต่ว่าหลักฐานเรื่องภาพวาดวัดราชบูรณะกับวัดมหาธาตุมีอยู่ที่บ้าน ไว้วันอาทิตย์กลับจากไปร่วมงานบุญงานในช่วงเช้าแล้วจะมาโพสให้ดูค่ะ

 

เพิ่งจะเจอกระทู้นี้ค่ะ ปกติไม่ได้อยู่ห้องนี้ จับพลัดจับผลูมากระทู้นี้ได้ไง ยัง งง
เลยเริ่มอ่านตั้งแต่หน้าแรกเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไป พออ่านถึงโพสอันนี้ ไม่ไหวแร้วววววคร่ะ ขนหัวลุกอย่างแรงส์

 

รำลึกแผ่นดินแม่ ใต้ร่มพระบารมี

วลีนี้กินใจจังเลยค่ะ ขอแสดงความยินดีกับ คุณโมเย ด้วยนะคะ

 

อนุโมทนา บุญด้วยกันนะคะ

บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาทั้งหมดทั้งมวลนี้

ขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระสุพรรณกัลยา
สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุรีรัตน์
พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ​

ขอพระบารมี แผ่ไพศาล ปกป้องคุ้มครองผืนแผ่นดินไทย แห่งนี้ ให้สงบสุข ร่มเย็น
เป็นผืนแผ่นดินแห่งการสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไปด้วยเทอญ​

 

ขอบพระคุณ ท่านจมื่นราช คุณพี่ทางสายธาตุ

คุณ พี่ศรัทธา_พิสุทธ์ และ น้องฟอร์ท ค่ะ

 

ได้วันเวลา แล้วค่ะ

จะกำหนดให้มีพิธีถวายพระแสงของ้าว

ในวันเสาร์ ที่ 10 กรกฎาคม 2553

ในเวลา 09.19 น.

 

กทช.ส่งเสริมให้คนไทยมีโทรคมนาคมที่มีคุณภาพและทันสมัย​

ใช้อย่างทั่วถึง เท่าเทียมกันทั่วประเทศ​

และอยากเห็นคนไทยมีความสมัครสมานสามัคคีกัน​

หวงแหนแผ่นดินอันเป็นที่เกิด ที่อยู่อาศัย และทำกิน​

เพื่อรำลึกถึงพระคุณของ​

บรรพบุรุษที่มีบุญคุณต่อแผ่นดินแม่​

ด้วยบทเพลง​

รำลึกแผ่นดินแม่​

ใต้ร่มพระบารมี​

--------------​

บทเพลงแห่งศรัทธา​

๑. ไม่ไกลห่าง(บทเพลงโดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)​

๒. พระนเรศวรมหาราช​

๓. ในความจงรักภักดี เทิดพระบารมี ปิยะมหาราช​

๔. เทิดไท้พระสุพรรณกัลยา​

๕. มิ่งแก้วเจ้าจอม​

๖. หนึ่งเพชรล้านนา​

๗. ไม่ไกลห่าง (บรรเลง)​

ขอแสดงความยินดีต่อความทุ่มเทและความสำเร็จของคุณโมเยในครั้งนี้ และขอถือโอกาสน้อมรับเอาไว้เป็นศิริมงคลของกระทู้นี้ด้วยนะครับ​

 

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเดชานุภาพมากค่ะ ยินดีที่เข้ามาอ่านนะคะ

 

ชุดสาวชาวฮั่น สมัยราชวงศ์หมิง

อันนี้แจ่มค่ะ คล้ายที่เคยเห็น

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wCFKRQ1rQrM&NR=1"]YouTube - Chinese HanFu (Traditional costume of Han-Chinese nationality)[/ame]​

อีกอันก็น่าเอามาโพส จัดไปยาวเต็มพิกัดเลยแล้วกันนะคะสำหรับหน้านี้ ในอันที่สองนี้บางฉากจะเห็นสวนจีนซึ่งเป็นบรรยากาศบ้านผู้ดีชาวจีนโบราณซึ่งจะมีบ้านอยู่ในสวนขนาดใหญ่ เรียกว่าบ้านในสวนดอกไม้ซึ่งมีสระน้ำรายล้อมไปทั่ว

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=tltinPnq5Bw&NR=1"]YouTube- Chinese Traditional Costume---Hanfu ??[/ame]​

เมื่อวานบอกบุญเรื่องการสร้างพระพุทธรูปและพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้กับญาติธรรมท่านหนึ่ง ท่านนี้เกิดศรัทธาคงจะได้เป็นเจ้าภาพสร้างพระโดยจองหนึ่งสถานีตำรวจค่ะ เรียนพระอาจารย์พระมหาฤทธิชัยไปเมื่อวานแล้ว ญาติธรรมนี้คงจะโทรหาท่านโดยตรงเองค่ะ​

นึกไปนึกมา นึกขึ้นมาได้ว่า ผู้ที่ใช้นามแฝง "อัศวินอโยธยา" จะเป็นอดีตทหารต่างชาติทีมาเกิดในไทย เคยเป็นพลเม่นปืนชาวโปรตุเกส ขึ้นตรงต่อพระยาราชสงคราม หรือเปล่าหนอ ....นะ ​

บางท่านอ่านชื่อนี้แล้วก็คงทราบว่าทางสายธาตุกล่าวถึงใครค่ะ เพราะท่านนี้เป็นคนเล่าเรื่องนี้ให้ทางสายธาตุฟังเอง .....​

 

รูปวัดราชบูรณะ

ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง วัดราชบูรณะยังเป็นทรงเจดีย์อยู่ค่ะ แสดงว่าวัดนี้ถูกบูรณะใหม่ทั้งหมดให้เป็นทรงพระปรางค์ ตั้งแต่ยุคพระเจ้าปราสาททองเป็นต้นไปค่ะ .... แล้วพระแสงขรรค์ชัยศรี พระสุวรรณภิงคาร ตลับแป้งรูปสิงโตปักกิ่ง พระมาลาทองคำ(ที่อเมริกา) และเครื่องทองอื่นๆในพระปรางค์จะเป็นของพระองค์ใดบ้างหนอ.......​

 

ขอเสนออีกสักอัน อันสุดท้ายแล้ว บังเอิญเจอค่ะ เป็นฉากสุดท้ายของราชวงศ์หมิง ที่พระมหาจักรพรรดิทรงผูกพระศอสิ้นพระชนม์ที่ภูเขาหลังพระราชวังต้องห้าม ทางสายธาตุดูไปขนลุกไป แสนเสียดายความรุ่งเรืองที่เคยมีมา ทุกสิ่งมิพ้นคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้สักอย่างเดียว ..... เป็นบุญหนักหนาที่ได้เกิดมาพบกับคำสอนของพระพุทธองค์.... ขอสักการะต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยหัวใจเคารพศรัทธาอย่างสูงสุด

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=W-r19We1CQQ&feature=related]YouTube - The story of Chinese Emperor (长河东逝MV)【明朝/崇祯、永历】[/ame]​

 

โมทนา สาธุการ ครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนา ครับ

 

เดิมใช้ 華大柱 อ่านเป็นภาษาจีนกลางว่า ฮั่ว ไท่ จู่ ข้าพเจ้าคิดอยู่นานเนื่องจากไม่เก่งภาษาจีน จึงคิดเรียบเรียงใหม่ น่าจะเป็น

華泰主 ภาษาจีนกลาง อ่าน hua tai zhu แปลว่า พระราชาผู้สง่างามจากประเทศสยาม คิดว่าอันนี้มากกว่า ตรงนี้แสดงว่าพระราชาผู้สง่างามจากประเทศสยามนั้นเดินทางไปประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1573 เพื่อเจริญพระราชไมตรีด้วยพระองค์เองค่ะ

กำลังพยายามอ่าน หมิงสือลู่ ช่วงที่เกี่ยวกับสยามอยู่ค่ะ แต่แปลไม่ค่อยได้ต้องอ่านก่อน

 

...."หิริ-โอตตัปปะ"!
"ธรรมที่เป็นโลกบาล" หมายถึงธรรมที่เป็นเครื่องคุ้มครองโลก
โลกทั้งใบ หิริ-โอตตัปปะยังรักษาได้ สำมะหาอะไรกะแค่แบงก์ชาติ ถ้าผู้นำมีหิริ-โอตตัปปะเสียอย่าง จะมีอานิสงส์คุ้มครองไปถึงทุกระบบของประเทศด้วยซ้ำ
หมดห่วงเรื่องโกง เรื่องห่วงเอาแบงก์ชาติไปอยู่ใต้อาณัติการเมือง เพราะคนมีหิริ จะมีความละอายต่อสิ่งไม่ถูกต้อง ละอายแล้วก็มีโอตตัปปะ คือเกรงกลัวด้วย
เกรงกลัวทั้งตัวเอง ยึดมั่นเกียรติยศ คุณธรรม ตนเตือนตน-ติเตียนตนเองได้ ๑ เกรงกลัวต่อผู้อื่น ต่อประชาชน ต่อสังคมชาติ ไม่กล้าทำสิ่งผิด-สิ่งชั่ว ๑ เกรงกลัวต่อผลของความผิด-ความชั่วที่ตัวทำลงไปแล้วจะต้องได้รับ ๑ และสุดท้าย เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง!
เมืองไทยนั้น คนเก่งเยอะ เต็มไปด้วยสารพัดผู้รู้ตามตำรา แต่สังคมชาติเวลานี้ "ป่วยหนัก" ไม่ปฏิเสธผู้รู้ตำรา แต่ว่าการรักษาโรคเฉพาะหน้า ต้องการผู้รู้ตำราที่ "ประกอบด้วยธรรม" มานำวิชาไปปฏิบัติ
สถาบัน-องค์กรในชาติขณะนี้ หลายต่อหลายแห่งอยู่ในสภาพง่อนแง่น ....


เครดิต ใคร "ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" คนใหม่? | ไทยโพสต์





"เมืองไทยนั้น คนเก่งเยอะ เต็มไปด้วยสารพัดผู้รู้ตามตำรา แต่สังคมชาติเวลานี้ "ป่วยหนัก" ไม่ปฏิเสธผู้รู้ตำรา แต่ว่าการรักษาโรคเฉพาะหน้า ต้องการผู้รู้ตำราที่ "ประกอบด้วยธรรม" มานำวิชาไปปฏิบัติ "

อนุโมทนา สาธุ

 

ฟังเพลงดวงใจที่ร้องโดยคุณศรีไศล สุชาติวุฒิมาตั้งแต่อยู่มัธยมต้น เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ซื้อรวมเพลงฮิตคุณสง่า อารัมภีร์มาฟังแบบ mp3 มีเพลงนี้ เช้านี้ขับรถมาทำงาน ฟังคลื่น 93.5 HD1 รายการ yes radio ซึ่งเปิดเพลงนี้แต่คราวนี้เป็นเสียงคุณแหวน ธิติมา สุตสุนทร ร้องในเวอร์ชั่นอครูชติก กีต้าร์ไฟฟ้า พอตั้งใจฟังแยกแยะเนื้อหาเพลงก็รู้สึกว่าเป็นเพลงน่ารัก ขอถวายความระลึกถึงพระองค์ท่านทั้งสองด้วยความภักดี (สีเขียวคือความเห็นส่วนตัวค่ะ)

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1025138/[/MUSIC]​

<TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 4px; BORDER-LEFT-WIDTH: 4px; BORDER-LEFT-COLOR: #cc0000; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 4px; BORDER-BOTTOM-COLOR: #cc0000; BORDER-TOP-COLOR: #cc0000; BACKGROUND-COLOR: #ccffff; BORDER-RIGHT-WIDTH: 4px; BORDER-RIGHT-COLOR: #cc0000" cellSpacing=5 cellPadding=5 align=center border=4><TBODY><TR><TD>

เพลง "ดวงใจ" ​

</TD></TR><TR><TD>คำร้อง-ทำนอง: สง่า อารัมภีร์
ขับร้อง: สวลี ผกาพันธ์,

ดวงใจ ทุกคนมีสิทธิ์จะรักกันได้
ถึงอยู่ห่างไกล ก็ยังส่งใจไปถึง
อ้อมแขนของฉัน คอยสัมพันธ์รักอันตราตรึง
คอยวันสุขซึ้ง จากดวงใจที่จริงจังมั่นคง ​

เธอเป็นคนต่างแดน แต่แนบแน่นด้วยไมตรีสูงส่ง
มีใจรักมั่นคง ฮืม... ไม่มีผู้ใดเสมอ

* เธอเป็นความสว่าง พร่างดั่งเพชรประกายเลิศเลอ

ฉันได้จุมพิศจากเธอ ฉันภูมิใจและสุขใจทุกคืนวัน

** ลา... ลา...

(ซ้ำ * , **)
ฉันสุขใจทุกคืนวัน ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ประวัติเพลง โดย คีตา พญาไท

เพลงนี้ครูสง่า อารัมภีร แต่งขึ้นในปี พ.ศ.2506 อันเป็นยุคภาพยนตร์ของเสียงในฟิล์ม ซึ่งนิยมแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย

บูรพา อารัมภีร เขียนเล่าเอาไว้ในหนังสือเบื้องหลังเพลงรัก สง่า อารัมภีร ว่า..."พ่อเล่าว่ามีอยู่เพลงหนึ่งที่คิดขึ้นได้ตอนนั่งรถราง คราวนั้นราวๆ ปี พ.ศ.2506 คุณปริญญา ทัศนียกุล เจ้าของโรงภาพยนตร์และเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ด้วย กำลังจะสร้างหนังเรื่อง เพชรตัดเพชร ที่ใช้ดาราแสดงนำทั้งดาราไทยและดาราจีนจากต่างประเทศ

ทั้งนี้เจ้าของภาพยนตร์ต้องการให้มีหลายๆ เพลงในภาพยนตร์เรื่องนี้ และอยากให้มีผลงานของนักแต่งเพลงหลายๆ คนด้วย ทำให้เพลงที่ใช้ประกอบภาพยนตร์มีหลายเพลง แต่เพลงที่ฮิตนั้นมีเพียงสองเพลงเท่านั้น เพลงแรกคือเพลงเพชรตัดเพชร ชื่อเพลงเหมือนชื่อเรื่อง เป็นผลงานประพันธ์คำร้องและทำนองของครูสุรพล โทณะวณิก...

ส่วนอีกเพลงหนึ่งชื่อว่า "ดวงใจ" โดยให้พ่อเป็นผู้ประพันธ์ ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องแสดงถึงความรักของฅนที่ต่างชาติต่างภาษาและอยู่ห่างกันคนละประเทศแต่ทั้งสองก็มารักกันได้

พ่อเล่าว่า ตอนสายๆ ของวันนั้นหลังจากขับเจ้าม้าลายจากบ้านทุ่งกระสอมาจอดไว้ที่หลังห้างกมลฯ อย่างเคยแล้ว ก็นั่งรถรางจากหน้าห้างกมลฯ วังบูรพา ไปทำงานที่ห้องอัดเสียงทุ่งมหาเมฆ วันนั้นพ่อทำงานเสร็จตอนเย็นก็จะใช้เส้นทางเดิม คือนั่งรถรางกลับมาที่ห้างกมลฯ ระหว่างที่พ่อนั่งรถรางมา เมื่อรถวิ่งมาถึงบริเวณสามย่าน รถจอดรับผู้โดยสาร ตอนนั้นมีนักศึกษาชายหญิงคู่หนึ่งขึ้นมาบนรถ ทั้งคู่นั่งที่ตรงข้ามที่พ่อนั่งอยู่

เมื่อรถวิ่งมาถึงหัวลำโพงพ่อเห็นว่าหนุ่มสาวคู่นั้นเริ่มมีปากเสียงกัน

เมื่อฝ่ายชายพูดกับฝ่ายหญิงก็จะถูกฝ่ายหญิงหยิกแขนทุกครั้งไป จนมาถึงเยาวราช ทั้งสองเริ่มทะเลาะกันเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณวังบูรพาหน้าโรงภาพยนตร์แกรนด์ เมื่อรถจอดรับผู้โดยสาร นักศึกษาหญิงผู้นั้นได้ยืนขึ้นและเอากระเป๋าที่ถือมาด้วยฟาดใส่หน้าอกฝ่ายชายที่นั่งอยู่แล้วรีบเดินลงรถไปอย่างรวดเร็ว

พอฝ่ายชายรู้สึกตัวก็ลุกขึ้นและตะโกนตามหลังฝ่ายหญิงไปว่า

"นี่ ฉันมีสิทธิ์รักเธอนะ" พูดจบก็วิ่งลงรถรางตามหญิงสาวไป

พ่อยังคงนั่งอยู่ที่เดิมบนรถรางคันนั้นพลันก็ได้เนื้อเพลง ดวงใจท่อนแรกว่า

"ดวง...ใจ ทุกคนมีสิทธิ์จะรักกันได้..."

พ่อบอกว่า เมื่อรถรางวิ่งผ่านหน้าบริษัทกมลฯ ก็ไม่ได้ลงไปเอาเจ้าม้าลายเพราะเริ่มคิดเนื้อเพลงดวงใจได้ขึ้นเรื่อยๆ จนรถวิ่งไปถึงท่าเขียวไข่กา พ่อก็แต่งเพลงเสร็จ

หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันได้ให้วงดนตรี ฟรังโก้ ทอมเบ็ตต้า ที่บรรเลงประจำหน้าห้องอาหารโลลิต้ามาบันทึกเสียง พร้อมกับการขับร้องของสวลี ผกาพันธุ์ ลงแผ่นเสียงสปีด 15 (แผ่นเล็ก)

 

อนุโมทนา ครับ เพลงนี้มีความไพเราะมาก เวลาคุณสวลี เธอร้อง เสียงเธอสด

ใส กังวานและมีพลังครับ

 

พระองค์ท่านทั้งสองทรงมั่นคงต่อกันมาก...ดั่งภูผา...(rose)



บันทึก หมิงสือลู่ Entry - Southeast Asia in the Ming Shi-lu สามารถกดปุ่ม Previous เพื่อย้อนหลัง และ Next เพื่อไปข้างหน้า อ่านได้ทั้งเล่มค่ะ เป็นสื่อความรู้ฟรีบนโลกอินเตอร์เนต

ข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทยยังหาได้จากแหล่งข้อมูลบันทึกโบราณอีกหลายเล่ม ได้ทำไฟล์แนบไว้เป็นข้อมูลงานวิจัยของคุณ ปืยะมาศ สรรพวีรวงศ์ ซึ่งหาได้จากอินเตอร์เนตเช่นกันค่ะ


ยกตัวอย่างที่เขียนไว้ในงานวิจัยนี้ ดังนี้

 

ทรงปราบโจรสลัด ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ที่กวางตุ้ง

สมเด็จพระนเรศวรทรงเคยส่งกองทัพออกไปปราบโจรสลัดหลินเต้ากาน หรือลิ้มโต๊ะเคี่ยม (ลิ้มโต๊ะเคี่ยมนี้เคยเป็นนายทหารในกองทัพหมิง แต่ภายหลังเกิดการความเข้าใจผิดและออกจากราชการทหารไปเป็นโจรสลัด ตั้งแต่สมัยพระจักรพรรดิองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์หมิง พระจักรพรรดิเจียจิ้ง และลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็คือพี่ชายของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่มีศาลเจ้าอยู่ที่ปัตตานีนั่นเอง)

http://www.moomkafae.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538978127&Ntype=11

 

บันทึก หมิงสือลู่ เรื่องทรงปราบโจรสลัด ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ที่กวางตุ้ง

วันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 1578 (พ.ศ. ๒๑๒๑) กวงเหมา เลขาธิการส่วนงานพิจารณาความในกระทรวงสงคราม (กระทรวงกลาโหม) บันทึกเข้ามาว่า โจรสลัด หลินเต้าเฉียน (ลิ้มโต๊ะเคี่ยม) ได้นำเรือของเขามาเทียบที่ ท่าเหอตู๋เหมิน ในเมืองเฉาหยาง พวกลูกน้องที่เป็นสมุนโจรได้เขียนสารภาพไว้ว่า บางคนที่หนีออกมาได้เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า เกิดขึ้นในรัชสมัยว่านลี่ ปีที่ 6 พวกโจรสลัดได้เข้าโจมตีเรือบรรทุกเครื่องราชบรรณาการจากประเทศสยาม ชื่อเรือ "อีกาดำ" แต่โจมตีไม่สำเร็จ พวกโจรสลัดถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือรอดชีวิตก็ถูกขับไล่ไปโดย the fan.(แปลไม่ออก)

เหตุการณ์นี้ทำให้พวกโจรขาดแคลนทั้งเงินและคน ซึ่งพวกโจรคิดจะกลับไปสิงสถิตย์ที่ท่าเรือเหอตู่เหมิน เพื่อที่จะสะสมเงินและเสบียงเพิ่มเติมทดแทนที่เสียหายไปเพราะถูกเผา พวกโจรสลัดเตรียมจะต่อสู้กับกองกำลังทหารหลากหลายนั้น (เข้าใจว่ามีทหารหลายเชื้อชาติบนเรืออีกาดำ) ซึ่งอยู่บริเวณแถวปากอ่าว (Hai men ไฮ่เหมิน ประตูทะเล) เมื่อสายลมตะวันออกเปลี่ยนทิศ จึงเป็นทีให้ฝ่ายกองเรือเครื่องราชบรรณาการจากต่างประเทศนี้ได้เปรียบ ทำให้แผนของพวกโจรเสียหายไป หากกองทัพจีนเชื่องช้าไม่ส่งกองกำลังมาช่วยอย่างทันท่วงที ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโจรสลัดครั้งนี้จะใหญ่โตมาก

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม (ท่าน จาง จวี เจิ้ง ดูแลเองโดยตรง) ได้ส่งคำสั่งด่วนซึ่งเป็นพระบัญชาขององค์พระจักรพรรดิ ให้ถ่ายโอนอำนาจการจัดการพวกโจรสลัดไปให้กับผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดวางแผนเพื่อยุติความเสียหายครั้งนี้ และให้กำหนดวันที่จะยกพลไปร่วมกับกองทหารที่กำลังปฎิบัติงานอยู่ แผนที่วางต้องเป็นแผนที่รัดกุมปลอดภัยเพื่อมุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเฉกเช่นเดียวกับจังหวะของกลอง เมื่อหัวหน้าโจรกบฎถูกกำจัดแล้ว พวกลูกสุมนโจรก็จะแตกกระสานไปเอง ภูมิภาคนี้ก็จะกลับมาสงบสุข ท่านรัฐมนตรีกลาโหมส่งบันทึกความจำถวายองค์พระจักรพรรดิสนับสนุนฏีกานี้ด้วย