ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    เคยได้ยินไหม “มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสดุ้งจนเรือนไหว”
    “ถ้ามีทองเท่าหนวดปลาหมึก คงนอนกระตุกจนตึกไหว”
    เรื่องนี้ต้องพิจารณา มันมีทั้ง 2 ด้าน ในสถาณะการณ์โลกข้างหน้า
     
  2. Naraporn_N

    Naraporn_N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +1,002
    ปกติจะเล่นเก็งกำไรระยะสั้นอะค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจะทยอยเก็บเป็นรูปพรรณไว้บ้างดีก่า *0*

    เคยได้ยินไหม “มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสดุ้งจนเรือนไหว”
    “ถ้ามีทองเท่าหนวดปลาหมึก คงนอนกระตุกจนตึกไหว”
    เรื่องนี้ต้องพิจารณา มันมีทั้ง 2 ด้าน ในสถาณะการณ์โลกข้างหน้า
    <!-- google_ad_section_end --> >>> ยังไงเหรอค่ะ?? ตกลงดีหรือไม่ดี รบกวนช่วยบอกเป็นวิทยาทานจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ :d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2010
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    บอกเพื่อนที่ kl ให้สังเกตเมฆแผ่นดินไหว เค้าบอกว่า เมื่อเช้าขับรถมาเห็นเมฆแผ่นดินไหว แต่เค้าไม่รู้ทิศทางจ้า เลยเอามาบอก

    พูดถึงการสังเกตเมฆแผ่นดินไหวค่อนข้างแม่นนะ ลองสังเกตกันได้จ้า
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปาระเบิดใส่ ตร.ปัตตานีขณะเคารพธงชาติ ตาย 1 เจ็บ 43 นาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 เมษายน 2553 10:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    [​IMG]
    ระเบิดขว้างชนิดสังหาร M67 (ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต)​

    ปัตตานี – เกิดเหตุคนร้าย 2 คนขว้างระเบิดลงกลางกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ บริเวณลานหน้า สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บประมาณ 43 นาย และล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 1 นาย

    เมื่อเวลา 08.29 น. วันนี้(21 เม.ย.) ขณะที่ พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก. สภ.อ.เมืองปัตตานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ปรากฏว่า ได้เกิดเสียงระเบิดขึ้น บริเวณหน้า สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนต่างวิ่งแตกตื่น จึงได้รีบออกไปดู พบว่าเสียงดังกล่าวคือเป็นเสียงระเบิดตรงบริเวณลานหน้า สภ.เมืองปัตตานี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายสิบนาย นอนจมกองเลือดร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในโรงพักและหน่วยกู้ภัยต่างเร่งช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลปัตตานี

    เบื้องต้น ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ จากสภ.เมืองปัตตานี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ปัตตานี ประมาณ 43 นาย โดยทุกนายถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว ซึ่งในจำนวนนั้นมีทั้งบาดเจ็บสาหัส และบาดเจ็บเล็กน้อย และในจำนวนนี้ล่าสุดมีรายงานว่า ด.ต.สมพงษ์ คงดำ ผบ.หมู่งานกำลังพล ภูธร จ.ปัตตานี ถูกสะเก็ดระเบิดบาดแผลฉกรรจ์ หลายแห่ง แพทย์ช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

    นอกจากนี้มีรายงานว่า มีตำรวจหญิง อาการสาหัสอีก 1 นาย ทราบชื่อคือ พ.ต.ต.หญิง กูมัทนา เบญจมานะ สารวัตรงานกิจการพลเรือน ภูธร จ.ปัตตานี มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ทั้งนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วนได้ถูกลำเลียงไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาด้วย

    จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกว้าง 30 ซม. และพบกระเดื่องระเบิดขว้างชนิดสังหาร เอ็ม 67 และแรงระเบิดยังทำให้สะเก็ดไปถูกรถยนต์ที่จอดอยู่ที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย 3 คัน

    เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสิรฐเมธ ผกก.อำนวยการ ภูธร จ.ปัตตานี ได้นำข้าราชการตำรวจระดับสัญญาบัตรและชั้นประทวน จำนวน 60 นาย ยืนตรงเคารพธงชาติในเวลา 08.00 น.เป็นประจำทุกวัน และทันใดนั้นได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ใช้ระเบิดขว้างเข้าไปกลางกลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่กำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ จึงได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000054533
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • m67.jpg
      m67.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.2 KB
      เปิดดู:
      2,902
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2010
  5. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    สวัสดีค่ะ ลุงๆ ป้าๆ ผู้ใจดีทุกท่าน หนูชื่อน้องเนยค่ะ ตอนนี้หนูอายุ 2 เดือน
    กว่าๆ หนูเป็นเด็กพิการแต่กำเนิดค่ะ ตอนอยู่ในท้องแม่ คุณหมอบอกว่าหนูครบ
    สมบูรณ์ดี แต่พอคลอดออกมาหนูมีแขน ( ที่ไม่สมบูรณ์ ) เพียงข้างเดียวเท่านั้น
    ตอนนี้หนูกินนมเก่งมากๆ หนูรบกวนลุงๆป้าๆที่ใจดี ช่วยเหลือค่านมหนู ครอบครัวหนู
    รายได้น้อยเพราะพ่อทำงานคนเดียว ถ้าลุงๆป้าๆอยากช่วยเหลือหนูให้ติดต่อป้าจิ๋ว ,
    ป้าตาล , ป้าแอ๊ด วางแผน AIC นะคะ หนูขอขอบพระคุณลุงๆป้าไว้ล่วงหน้าค่ะที่ช่วย
    เหลือค่านมหนู ค่ะ
    ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ


    - น้องเนย กินนม ดูเม็กซ์ Pre - Bio แรกเกิด – 1 ปี - ใช้มามิโปะโกะ size S
    ค่ะ เคยลองยี่ห้ออื่นแล้ว น้องเนยม มีอาการแพ้ มีผื่นคัน


    - เลขที่ บัญชีของ ธ.กรุงไทย สาขา นิคมอุตฯ ลาดกระบัง 028-037-9897 ชื่อบัญชี
    นส. จันจิรา เกิดแก้ว เพื่อ ดญ.พลอยประภัส บุญขุนทศ


    บิดา ชื่อ นายเจนรบ บุญขุนทด มารดา ชื่อ น.ส.จันจิรา เกิดแก้ว Tel 08-09821003
    แม่น้องเนยเองค่ะ


    ที่อยู่ (เผื่อใครอยากส่งของเล่นมาให้หนู) 789/96 ม.9 ซ.รุ่งนภา ถ.ฉลองกรุง
    แขวง ลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520


    คุณแม่น้องเนยชื่อน้ำค่ะ คุณพ่อน้องเนยอายุ 18 นะคะคุณพ่อเจนรบ ทำงานที่บริษัท
    แอนด์เซลล์นิคมอุตสาหรรมลาดกระบัง ทำมาได้ประมาณ 6-7เดือนแล้วค่ะ
    เงินเดือนถ้าไม่มีโอทีตก6,000-8,000บาท ถ้ามีโอทีราวๆ90,00-10,000
    อยู่ด้วยกันมาราวๆปีกว่าแล้วอยู่ที่บ้านคุณพ่อ ตอนนี้ขาดทุนทรัพย์เพราะว่าต้อง
    พาน้องเนยไปหาหมอ
    ถึง 3 โรงพยาบาล นวมินทร์ ศูนย์สิรินทร์ รพ.เด็กอนุเสาวรีย์
    หากท่านใดประสงค์ช่วยเหลือน้องเนย สามารถส่งของเล่นของใช้ไปให้น้องเค้าโดยตรง
    ได้นะคะ
     
  6. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    Daily News Online > หน้าการเมือง > สกู๊ปหน้า 1 > 'รัตนโกสินทร์' ๒๒๘ ปี
    ที่มา Daily News Online ครับ


    ย่างปีที่ ๒๒๙ ไทย 'พ้นทางตัน??'

    ณ เวลารุ่งเช้าแล้วเก้าบาท หรือ เวลา 06.54 น. ของวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จุลศักราช 1144 หรือ วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325 ณ วัน- เวลาดังกล่าวนี้ เป็น “ฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์” ซึ่งในทางโหราศาสตร์ถือเป็นฤกษ์ “ดวงเมืองประเทศไทย” เรื่อยมา...

    มาถึงวันนี้ “กรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 228 ปี” แล้ว...

    เป็นการครบรอบขณะที่ “ไฟการเมืองกำลังลุกโชน !!”

    ย้อนไปในอดีต เมื่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระนครขึ้นทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับที่ตั้งของกรุงธนบุรี โดยมีการทำพิธีตั้งเสาหลักเมืองของพระนครใหม่ ตามฤกษ์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น

    พระนครอันเป็นราชธานีใหม่ของไทยนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์ อโยธยา” ต่อมาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแก้นามพระนครเป็น “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินท์ มหินทอยุธยา”

    ครั้นถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนคำว่า บวร เป็น อมร เปลี่ยนคำว่า มหินทอยุธยา โดยวิธีการสนธิศัพท์เป็น มหินทรายุธยา และเติมสร้อยนามต่อ ทั้งเปลี่ยนการสะกดคำ สินท์ เป็น สินทร์ จนเป็นที่มาของชื่อเต็มของกรุงรัตนโกสินทร์ หรือกรุงเทพมหานคร ราชธานีของประเทศไทย

    นั่นคือ... “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลก ภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหา สถานอมรพิมาน อวตารสถิตย์ สักกะทัตติยะ วิศณุกรรมประสิทธิ์”

    มีความหมายว่า... “พระนครอันกว้างใหญ่ ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบชนะได้ มีความงามอันมั่นคง และเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง มีพระราชนิเวศน์ใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้”

    ทั้งนี้ กรุงรัตนโกสินทร์ถือว่ามีชัยภูมิชั้นเยี่ยมในการป้องกันศึกมาแต่อดีต แม้ในยุคล่าอาณานิคมจะเคยมีเรือรบฝรั่งเศสประชิดใกล้กรุง และแม้ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กรุงจะเคยถูกโจมตีทางอากาศจากฝ่ายสัมพันธมิตร-ถูกทิ้งระเบิด แต่ที่สุดแล้วความเสียหายใหญ่หลวงก็มิได้เกิดขึ้นกับกรุงรัตนโกสินทร์ราชธานีของประเทศไทย ซึ่งทั้งราชธานี ประเทศไทย ประชาชนคนไทย ก็มีการพัฒนาก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง

    แต่ในบางช่วงก็เกิดเหตุร้ายฉุดรั้งการพัฒนาอยู่เนือง ๆ

    โดยเฉพาะจากปัญหาการเมือง...เหมือนที่เกิดขึ้นตอนนี้

    กับความขัดแย้ง-แตกแยกทางการเมืองที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาทางการเมือง แต่ส่งผลต่อทุก ๆ เรื่องของประเทศไทย ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และอีกหลาย ๆ ภาคส่วน ต่างระส่ำระสายไปหมด ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่า “สงครามกลางเมือง” อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะบั่นทอนประเทศชาติ-ประชาชนอย่างร้ายแรง

    ความเป็นไปของประเทศไทยและประชาชนคนไทยนับจากนี้ นอกจากในทางรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ หันดูในทางโหราศาสตร์ก็มีการวิเคราะห์บ่งชี้ ซึ่งน้ำหนักมักเทไปในทางร้าย แต่ในทาง “ดี” ก็พอมี

    กรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 228 ปี...จะ “ย่างปีที่ 229”

    วาระดังกล่าวนี้บางโหรมีการพยากรณ์ไว้ว่า “ส่งผลดี”

    นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย อ.ธนกร สินเกษม เคยทายทักไว้ตั้งแต่ช่วงใกล้มีการตัดสินคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร วันที่ 26 ก.พ. 2553 สรุปได้ว่า... ช่วงหลังวันที่ 26 ก.พ. ก่อนถึง 21 เม.ย. 2553 ดาวอาทิตย์-ดาวการเมือง เป็นกาลี และกุมลัคนาดวงเมือง ประเทศไทยจะวุ่นวายหนัก บ้านเมืองจะไม่สงบเพราะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งอย่างหนัก มีการนำวิธีการสกปรกต่าง ๆ เข้ามาใช้โจมตีทำลายล้างกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน บรรยากาศทางการเมืองจะร้อนระอุ มีโอกาสเลือดตกยางออกสูง ทำให้บ้านเมืองไม่มั่นคง

    อย่างไรก็ตาม อ.ธนกรเคยทายทักเพิ่มเติมไว้ในตอนนั้น และล่าสุดก็ยังย้ำผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” อีกครั้งว่า... หลัง 21 เม.ย. หรือหลังวันเกิดดวงเมืองครบ 228 ปีแล้ว และจะย่าง 229 ปี ดาวพฤหัสฯจะเป็นศรี ประเทศไทยจะเริ่มฟื้นและดีขึ้น บรรยากาศต่าง ๆ จะเริ่มคลี่คลาย ดาวอาทิตย์ที่กุมลัคนาดวงเมืองก็จะเป็นมนตรี หมายถึงจะมีความ “อะลุ้มอล่วยทางการเมือง” นักการเมือง กลุ่มทางการเมืองต่าง ๆ จะ “ตกลงกันได้”

    “อาจมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย หรือมีการลงสัตยาบันทางการเมือง บ้านเมืองจะกลับสู่ความสงบ ถึงเวลาที่การเมืองประเทศไทยจะพ้นจากทางตันแล้ว” ...อ.ธนกร ทายทัก

    ในทาง “ร้าย” คำทายทักของโหรรายนี้ถือว่าสอดคล้อง

    ในทาง “ดี” หวังว่าจะแม่น-เรื่องร้ายคงจบลงเสียที ??.


    ========================================

    สุขสันวันเกิดครับ กรุงเทพฯ ขอให้มีความสุขทั่วไป ซาวสยามไทยสามัคคี แฮบปี้ๆ หลายๆ เด้อคับเด้ออออออออ
     
  7. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7083 ข่าวสดรายวัน


    อังกฤษไม่เว้น เมา-ขับรถตุ๊กตาบาร์บี้ก็จับ!



    [​IMG]เมื่อวันที่ 20 เม.ย. เดลี่เมล์รายงานเหตุจับกุมคดีเมาแล้วขับแบบพิลึกในอังกฤษ เมื่อนายพอล ฮัตตั้น คุณพ่อม่ายลูกสี่ วัย 40 ปี อดีตวิศวกรการบินของทัพฟ้าอังกฤษ ถูกตำรวจสายตรวจจับกุมใกล้กับที่พัก ในเขตโคลเชสเตอร์ เมืองเอสเส็กซ์

    หลังจากนายฮัตตั้นซึ่งอยู่ในสภาพเมาหัวราน้ำ อุตรินำรถตุ๊กตาบาร์บี้คันจิ๋ว ขับเล่นด้วยความเร็วเพียง 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ฝ่าฝืนคำสั่งของสายตรวจที่สั่งให้หยุดรถ จึงถูกนำตัวไปเป่าเครื่องตรวจที่โรงพัก พบแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติมาก ศาลอังกฤษพิพากษาพักใบอนุญาตขับขี่ถึง 3 ปี ปรับอีกราว 4,250 บาท

    ก่อนหน้านี้ นายฮัตตั้นซึ่งกำลังศึกษาหลักสูตร วิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า ไปพบรถของเล่นสีชมพูหวานแหววที่ออกแบบมาสำหรับตุ๊กตาบาร์บี้ถูกทิ้งมา 10 ปีแล้ว จึงเกิดร้อนวิชาเก็บกลับมาดัด แปลงซ่อมแซม พร้อมกับนายไซมอน ลูกคนโตวัย 17 ปี ซึ่งกำลังเรียนช่างกล ทาสีใหม่เป็นสีขาว และทำให้วิ่งได้จริง

    นายฮัตตั้นสารภาพว่าตนดื่มหนักมากและตั้งใจจะขับรถคันนี้ไปอวดเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างไป 500 เมตร แต่ดันไปเจอสายตรวจ ตนรู้ตัวว่าเมาจึงพยายามขับรถหนีจนถูกจับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องไม่ควรต้องไปถึงศาล ตนไม่ทราบมาก่อนว่าเมาแล้วขับรถบาร์บี้นี่มันถูกจับได้ด้วย

    จีนโต้ลั่นรีไซเคิลน้ำเสียให้น.ศ.อาบ



    ไชน่าเดลี่รายงานว่า เมื่อ 20 เม.ย. มหา วิทยาลัยเจียงหนาน ในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ออกมาตอบโต้ว่าไม่ได้นำน้ำเสียอุตสาหกรรมที่ปนเปื้อนสารตะกั่วมารีไซเคิลใช้ในห้องอาบน้ำตามที่ข่าวทีวีนำเสนอ ส่งนักข่าวปลอมตัวเข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจและพบสารตะกั่วเกินมาตรฐานจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโดยเฉพาะในอินเตอร์เน็ตที่เป็นห่วงสุขอนามัยของนักศึกษา ทางมหาวิทยาลัยสั่งปิดห้องอาบน้ำทันทีหลังตกเป็นข่าว

    นายอู๋ เจิ้งกัว โฆษกมหาวิทยาลัยเจียงหนาน กล่าวว่า น้ำในห้องน้ำของมหาวิทยาลัยเราได้มาตรฐานสำหรับการใช้สอย ไม่ได้มีตะกั่วเกินกำหนด เราทดสอบเป็นปกติทุกปีว่าน้ำมีความปลอดภัย และตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยเปิดห้องอาบน้ำให้ใช้ได้แล้ว

    รายการทีวีท้องถิ่น เฟิร์สต์ วิว ได้รับจดหมายร้องเรียนว่าบริษัทหวางเฉิงฮอตเวเตอร์ซัพพลาย รีไซเคิลน้ำเสียจากโรงงานถลุงโลหะแล้วส่งไปให้มหาวิทยาลัยและโรงแรมใช้เป็นน้ำอาบ จึงส่งนักข่าวปลอมตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจและพบสารตะกั่วเกินกำหนด 10 เท่า

    ช่วยหมี



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>นักชีววิทยาสัตว์ป่าใช้ไม้สะกิดตัวเจ้าหมีหนัก 55 ก.ก. หลังมีผู้พบในป่าข้างทางหลวง ในรัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐ วิ่งพล่านชนต้นไม้ล้มลุกคลุกคลาน เนื่องจากหัวเข้าไปติดอยู่ในถังรองนมวัวนาน 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ต้องยิงยาสลบใส่ก่อนเข้าช่วยนานกว่า 45 นาที (เอพี)

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]





    เก็บรักษา



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>พระพุทธรูปคลุมด้วยผืนพลาสติก หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเก็บจากวัดที่พังถล่มลงมาเพราะแรงแผ่นดินไหว ในเมืองเจียกู่ เขตหยูซู มณฑลชิงไห่ เมื่อ 20 เม.ย. ซึ่งทางการจีนประกาศให้เป็นวันไว้ทุกข์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 2,046 ราย (เอเอฟพี)





    "มีนาคม2553" อุณหภูมิโลกร้อนทะลุเดือด!



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>มีนาคม ค.ศ.2010 หรือ พ.ศ.2553 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประวัติศาสตร์ด้านอุตุ นิยมวิทยาของโลก ต้องบันทึกไว้ว่า

    เป็นเดือนที่มีค่าอุณหภูมิความร้อนเฉลี่ยสูงสุด นับตั้งแต่เคยมีการบันทึกสถิติกันมาทั่วโลก!

    โดยหน่วยงานระดับโลกผู้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว คือ

    สำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐ อเมริกา (NOAA-โนอา)

    "สภาพอากาศร้อนเกินกว่าปกติ เกิดขึ้นทั่วโลกตลอดเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบแอฟริกาเหนือ เอเชียใต้ และแคนาดา

    "เมื่อนำอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกทั้งอุณหภูมิพื้นผิวแผ่นดิน และในมหา สมุทรที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2553 มารวมกันจะได้เท่ากับ 13.5 องศาเซลเซียส (56.3 องศาฟาเรนไฮต์)

    "ถือเป็นตัวเลขสูงสุดเท่าที่เคยบันทึกมาในเดือนมีนาคมปีก่อนๆ

    "และสูงกว่าสถิติอุณหภูมิความร้อนค่าเฉลี่ยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งอยู่ที่ 12.7 องศาเซลเซียส" โนอา แถลง

    แถลงการณ์โนอา ระบุด้วยว่า จากการวิเคราะห์ของศูนย์ข้อมูลสภาพอากาศสหรัฐ ชี้ว่า

    ถ้าดูเฉพาะค่าอุณหภูมิเฉลี่ยของมหาสมุทร ตัวเลขอุณหภูมิในเดือนมีนาคมปีนี้สูงกว่ามีนาคมของทุกปี นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติกันครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1880 (พ.ศ.2423)

    หรือเมื่อ 130 ปีก่อน!

    ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยบนแผ่นดินนั้น มีนาคม 53 จัดว่าเข้ากลุ่มร้อนที่สุดเป็นอันดับ 4



    โนอา เปิดเผยต่อไปว่า พื้นที่โซน "เอเชีย" ที่อากาศช่วงเดือนมีนาคม 53 ทำสถิติทะลุจุดเดือด ยกตัวอย่างเช่น

    เขตปกครองทิเบต ประเทศจีน อากาศเดือนดังกล่าวร้อนที่สุด นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2494

    ด้านกรุงนิวเดลี เมืองหลวงประเทศอินเดีย เริ่มทำสถิติสภาพอากาศเมื่อปีพ.ศ.2444 กระทั่งมาถึงเดือนมีนาคมปีนี้ อุณหภูมิทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับ 2

    อย่างไรก็ตาม ขณะที่บางส่วนของโลกร้อนแทบคลั่ง <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    แต่ "ความวิปริตผิดเพี้ยนของอากาศ" ทำให้พื้นที่บางส่วนของโลกต้องผกผันเผชิญอากาศหนาวเย็นผิดปกติช่วงมีนาคม

    อาทิ เขตมองโกเลียของจีน

    ฝั่งตะวันออกของรัสเซีย

    ฝั่งตะวันตกและตอนเหนือของยุโรป

    ออสเตรเลียตอนเหนือ

    ฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสกา และพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ



    สํานักงานโนอา อธิบายว่า หนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลให้อากาศโลกเดือนมีนาคม 53 ร้อนระเบิดเถิดเทิง ก็คือ

    ปรากฏการณ์ "เอลนินโญ่" ซึ่งผสมผสานเข้ากับวิกฤตโลกร้อน กระทั่งส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลในมหาสมุทร สูงขึ้น

    หลักฐานประการหนึ่งที่ใช้เป็นสัญญาณบ่งบอกความร้อนผิดปกติของอากาศเดือนมีนาคม ได้แก่

    ปริมาณ "น้ำแข็ง" ในมหาสมุทรอาร์กติกแถบขั้วโลกเหนือในเดือนมีนาคม

    ซึ่งลดต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานเป็นปีที่ 17

    โดยมีนาคมปีนี้ ปริมาณน้ำแข็งที่ปกคลุมอาร์กติก มีทั้งสิ้นประมาณ 15.1 ล้านตารางกิโลเมตร

    หรือน้อยกว่าปี 2522-2534 ถึง 4.1 เปอร์เซ็นต์



    ข้อมูลสถิติสภาพอากาศเดือนมีนาคม ครั้งล่าสุดของโนอาคาดว่า จะกลายเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักอีกชิ้น ซึ่งสนับสนุนทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่ระบุว่า

    ภาวะโลกร้อนเป็นวิกฤตการณ์เร่งด่วน และต้องใช้ความร่วมมือจากประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหา

    ที่ผ่านมา "สห ประชาชาติ" (ยูเอ็น) พยายามเป็นแม่งานชักชวนรัฐบาลทั่วโลกเปิดประชุมกำหนดมาตรการบรรเทาภัยโลกร้อน

    แต่ดูเหมือนจะยังไม่สัมฤทธิผลเท่าไหร่นัก

    เพราะวงประชุม สุดยอดเรื่องโลกร้อนครั้งสุดท้ายที่ "กรุงโคเปนเฮเกน" เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2552 ก็ล่มล้มไม่เป็นท่า โดยไม่ได้แนวทางชัดเจนอะไรออกมา รวมถึงไม่มีการประกาศเกณฑ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญก่อปัญหาโลกร้อน เพราะทุกฝ่ายห่วงในความอยู่รอดทางเศรษฐกิจมากกว่าความอยู่รอดของธรรมชาติ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    มีนาคมปีหน้า ถ้าอากาศโลกร้อนมหากาฬจนปรอทแตกอีกรอบ...

    ก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยปลุก "จิตสำนึก" ผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายได้สำเร็จหรือไม่!?!



    "มีนาฯไทย"ร้อนทำลายสถิติ

    เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สภาพอากาศของไทยก็ร้อนที่สุดชนิดติดกลุ่มทำลายสถิติเก่าๆ ของเดือนมีนาคมในอดีตเช่นกัน โดยศูนย์ภูมิอากาศ สำนักงานพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า

    มี.ค. 2553 ไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตั้งแต่ต้นเดือน โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบนหลายพื้นที่มีอากาศร้อนจัด และอุณหภูมิที่ตรวจวัดได้นั้น "สูงกว่าสถิติเดิม" มีสาเหตุจากหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึง มีนาคม

    สถานีอุตุนิยมวิทยาในแต่ละจุดของไทย บันทึกตัวเลข "สถิติอุณหภูมิสูงสุด" ใหม่ล่าสุด ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนมี.ค. 2553 ดังนี้

    1. เพชรบูรณ์ : 42.2 องศาเซลเซียส วันที่ 25 (สถิติเดิม 42.0 องศา)

    2. ทองผาภูมิ กาญจนบุรี : 41.3 องศา วันที่ 25 (สถิติเดิม 40.9 องศา)

    3. สระแก้ว : 39.9 องศา วันที่ 25 (สถิติเดิม 39.0 องศา)

    4. สกษ.ฉะเชิงเทรา : 40.0 องศา วันที่ 25 (สถิติเดิม 39.1)

    5. แหลมฉบัง ชลบุรี : 37.5 องศา วันที่ 18 (สถิติเดิม 37.3)

    6. เกาะสีชัง ชลบุรี : 36.0 องศา วันที่ 18-19-25 (สถิติเดิม 35.8)

    7. สะเดา สงขลา : 38.5 องศา วันที่ 3 (สถิติเดิม 38.0)

    8. ภูเก็ต : 37.8 องศา วันที่ 5 (สถิติเดิม 37.7)

    นอกจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเกือบทั่วไปแล้ว ประเทศไทยตอนบนยังมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกหลายพื้นที่ เพราะมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาปะทะกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตก เคลื่อนตัวผ่านภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของไทยบางช่วง ทำให้หลายพื้นที่อุณหภูมิลดลงและอากาศคลายความอบอ้าวลงในช่วงเวลาสั้นๆ





    รู้จัก"เอลนินโญ่"

    ปรากฏการณ์ "เอลนินโญ่" คือ ชื่อเรียกสภาวะการไหลย้อนกลับของผิวน้ำทะเลที่อุ่นในช่วงเวลาหนึ่งจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ไปแทนที่กระแสน้ำเย็นที่ไหลอยู่เดิมตามบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและบริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำทะเลได้แผ่ขยายกว้าง ส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของบรรยากาศ ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนแผ่ขยายกว้างออกไปนอกเหนือจากบริเวณน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก

    "เอลนินโญ่" มีความเชื่อมโยงด้านปรากฏการณ์ความผันแปรของระบบอากาศในซีกโลกใต้ ซึ่งทั้งสองสิ่งได้เชื่อมโยงกัน เรียกว่าปรากฏการณ์ "เอนโซ" ที่ถูกระบุว่าเป็นตัวอย่างเด่นชัดของการ แปรปรวนทางภูมิศาสตร์ปีต่อปี เนื่องจากเอนโซเกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนของบรรยากาศและน้ำในน่านน้ำแปซิฟิก

    หากเอนโซเกิดขึ้นรุนแรงจะนำไปสู่ความผิดปกติทางภูมิอากาศอย่างมากได้ อาทิ ทำให้เกิดความแห้งแล้งในบริเวณที่เคยมีฝนตก หรือเกิดมีฝนตกหนักบริเวณที่เคยแห้งแล้งอยู่แต่เดิม ตัวอย่างของภูมิอากาศที่ผิดปกติที่เชื่อมโยงกับเอนโซ คือ ความแห้งแล้งในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย คาบมหาสมุทรอินเดียแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกากลาง ขณะที่มีฝนตกหนักหรือน้ำท่วมบริเวณศูนย์สูตรของแอฟริกาและในยุโรปใต้กับมีฤดูหนาวที่มีความหนาวน้อยกว่าปกติบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ

    (ข้อมูล : ข่าวสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม)

    พบสัตว์ไม่พึ่งออกซิเจน นักวิทย์ทึ่ง-3ชนิดใต้ทะเล



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องอาศัยออกซิเจนในการดำรงชีวิต ไม่ว่ามนุษย์ สัตว์ หรือพืช แต่การค้นพบล่าสุดที่ก้นทะเลเมดิ เตอร์เรเนียนทำให้นักวิทยาศาสตร์พากันตกตะลึง เมื่อพบสิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีพอยู่ได้ในสภาวะไรออกซิเจน!

    ศ.โรเบอร์โต ดาโนวาโร ประธานสมาคมศึกษาน่านน้ำในประเทศแห่งอิตาลีและศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยมาร์เช่ โพลิเทคนิค ในเมืองอันคอน่า ประเทศอิตาลี เป็นหัวหน้าโครงการสำรวจสัตว์ประจำท้องถิ่นลุ่มน้ำแลตตาแลนเต้แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ทับถมไปด้วยตะกอน โดยสำรวจมานานนับทศวรรษและต้องพิศวงอย่างยิ่งเมื่อพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ 3 ชนิด มีชีวิตและสืบพันธุ์โดยไม่ต้องอาศัยก๊าซออกซิเจน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พวกมันอาศัยอยู่ในลุ่มน้ำแลตตาแลนเต้ ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของเกาะครีต 200 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ท้องทะเล 3.5 กิโลเมตร ซึ่งเกือบจะไม่มีออกซิเจนอยู่เลย

    สัตว์แปลกประหลาดทั้ง 3 ชนิดนี้ มีขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร ลักษณะคล้ายแมงกะพรุน เพราะมีวุ้นหุ้มตัวมันเหมือนเปลือกหอย มีชื่ออย่างเป็นทางการแล้ว ได้แก่ "สไปโนโลริคัส ซินเซีย" ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ภริยาของ ศ.ดานาวาโร ส่วนอีก 2 ชนิด ได้แก่ "รูจิโลริคัส" และ "พลิซิโลริคัส"

    สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ทั้ง 3 ชนิด มี 2 ชนิด ที่มีไข่ด้วย แม้นักวิทยาศาตร์ไม่สามารถนำสัตว์พวกนี้ขึ้นมาบนบกได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงการมีชีวิตอยู่โดยไร้ออกซิเจน แต่คณะวิจัยประสบความสำเร็จในการนำไข่ขึ้นมาฟักในสภาพไร้ออกซิเจนบนเรือ ซึ่งตัวอ่อนของมันออกจากไข่ในสภาพปราศจากออกซิเจนได้อย่างสมบูรณ์แบบ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ศ.โรเบอร์โต ดาโนวาโร



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ศ.ดาโนวาโร กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดอย่างยิ่งที่พบสิ่งมีชีวิตที่ไม่ต้องพึ่งออกซิเจน เพราะองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในขณะนี้พบว่า สิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวที่ไม่ต้องพึ่งพาออกซิเจน คือแบคทีเรีย ดังนั้น การค้นพบโลริซิเฟอแรนชนิดใหม่ทำให้เข้าใจถึงการปรับตัวขนานใหญ่ของสัตว์ที่วิวัฒนาการให้ดำรงชีพได้ในภาวะไร้ออกซิเจน หรือเรียกว่า เขตมรณะหรือเดด โซน ซึ่งนับวันพื้นที่ที่เป็นเขตมรณะในมหาสมุทรทั่วโลกขยายใหญ่ขึ้นทุกที

    ด้านน.ส.ลิซ่า เลวิน นักวิชาการจากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปส์และนักวิจารณ์จากวารสารบีเอ็มซี ไบโอโลจี กล่าวว่า ก่อนการค้นพบสัตว์ชนิดใหม่ทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่มีใครพบสิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีวิตและสืบพันธุ์ได้ในสภาวะที่ปราศจากออกซิเจนได้เลย โลริซิเฟอแรน จึงเป็นรายงานการค้นพบที่หาได้ยากยิ่งและจะต้องมีการศึกษาอีกมากมาย เพื่อไขปริศนาถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นที่มีสภาพบรรยากาศแตกต่างไปจากโลกของเรา

    หมูขนหยิก

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ดูไกลๆ เหมือนแกะ พอดูอีกแว้บก็เหมือนหมู

    เอ๊ะ! ตัวอะไรกันแน่เนี่ย

    เดลี่เมล์รายงานว่า มันคือ "แกะ-หมู" หรือ sheep-pigs หรืออีกชื่อว่า "แมนกัลลิซ่า" อยู่ในสวนสัตว์ที่ซัสเส็กซ์

    ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า สัตว์ชนิดนี้เคยมีในอังกฤษ แต่สูญพันธุ์ไปเมื่อปี 2515

    ต่อมาไปพบเข้าที่ออสเตรีย และฮังการี จึงริเริ่มกลับมาฟื้นฟูประชากรในอังกฤษ

    "ผู้คนต่างแห่มาดูว่าหมูขนหยิกหน้าตาเป็นยังไง และต้องการเห็นกับตาว่ามันมีอยู่ในประเทศ" เจ‰าของสวนสัตวŒกลˆาว

    แถมเพ่งดูด้วยใช่มั้ยล่ะว่า มันโดนดัดขน รึเปล่า??

    ลูกเห็บขนาดเท่าไข่ถล่มแม่สาย-บ้านพังเพียบ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ลูกเห็บถล่ม - ชาวบ้านในเขตอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ถ่ายรูปลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าลูกกอล์ฟที่พัดถล่มย่านการค้าและบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลัง ไฟฟ้าดับหลายจุด เมื่อวันก่อน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เชียงราย - เมื่อกลางดึกวันที่ 19 เม.ย. ได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนและลูกเห็บพัดถล่มเขตเทศบาลตำบลแม่สาย จ.เชียงราย อย่างหนัก กินเวลานานกว่า 30 นาที โดยมีชาวบ้านที่เก็บลูกเห็บขนาดเท่าลูกกอล์ฟ หรือไข่ไก่ มาถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จากการออกสำรวจเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลตำบลแม่สาย ได้รับรายงานความเสียหายจากชาวบ้านว่า มีบ้านเรือนของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สายหลังคาได้รับความเสียหายหลายสิบหลัง รวมทั้งหลังคาของมัสยิดอัรนูรแม่สายก็พังเสียหาย นอกจากนี้ บ้านพักของตำรวจหลัง สภ.แม่สาย ก็ได้รับความเสียหายไปหลายหลัง ร้านค้าย่านตลาดดอยเวา และสายลมจอยผ้าใบก็ได้รับความเสียหายจำนวนมากจากเหตุการณ์พายุลูกเห็บถล่มส่งผลให้กิ่งไม้หักหลายจุด และมีไฟดับกินวงกว้างในเขตอำเภอแม่สาย ทำให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องเร่งซ่อมแซมเป็นการด่วน

    หลังเกิดเหตุ นายวิศิษฐ์ สิทธิสมบัติ นายอำเภอแม่สาย พร้อมด้วยนายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สาย ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยออกสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งให้ผู้นำชุมชนแต่ละชุมชนออกสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด

    [FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2010
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศรุนแรงขึ้น

    [​IMG]

    ส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค มีครัวเรือนที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว 20,000 ครัวเรือน...

    นายสิทธิ พิพัฒน์ชัยกร นายอำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ นับวันจะมีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดได้ประกาศภัยพิบัติแล้วในพื้นที่ 15 ตำบล 209 หมู่บ้าน มีครัวเรือนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง 20,000 ครัวเรือน และราษฎรที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจำนวน 100,000 คน ส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยนำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนแล้ว กว่า 500,000 ลิตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยแล้งในเบื้องต้น

    กรมชลประทานเดินหน้าโครงการอ่างฯ คลองเคียนงาม ตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง จ.ระนอง แก้วิกฤติขาดแคลนน้ำ อนุมัติงบ 20 ล้านบาท ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนายจรูญ พจน์สุนทร ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 14 เปิดเผยว่า กรมชลประทานมีแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองเคียนงาม อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางแห่งที่ 2 ของจังหวัด ต่อจากอ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง ที่จะแล้วเสร็จในปี 2554 นี้ ทั้งนี้เป็นไปตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางในเขตพื้นที่จ.ระนอง เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในช่วงหน้าแล้ง และรองรับการใช้น้ำในพื้นที่ทางการเกษตร

    ด้านนายประวัติ รัฐิรมย์ รองผวจ.ศรีสะเกษ ตรวจเยี่ยมบริเวณก่อสร้างฝายน้ำล้น (ชั่วคราว) ห้วยสำราญ บริเวณชุมชนหนองเม็ก บ้านหนองกิโล ต.หนองครก ได้มีการนำกระสอบทรายไปกั้นน้ำในเขตลำน้ำห้วยสำราญ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรและอุปโภค-บริโภค โดยโครงการชลประทานศรีสะเกษ จะระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู และอ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ รวม 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เสริมน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือราษฎรใน 6 อำเภอ 92,696 ครัวเรือน โดยอบต.ต่าง ๆ จะนำกระสอบทรายมาช่วยกันกั้นน้ำเพื่อกักเก็บน้ำ และชะลอน้ำไว้ใช้ในช่วงก่อนฤดูฝนที่จะถึงนี้

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ.2553

    แดงสกัดรถไฟที่ขอนแก่น อ้างขวางทหารเข้ากรุง

    [​IMG]

    เสื้อแดงชุมนุมที่สถานีรถไฟขอนแก่น อ้างขวางขนทหารสลายม็อบในกทม. ลั่นปักหลัก 5 วัน บานปลายลุยจับผวจ. ด้านทหารอ้างไปสับเปลี่ยนกำลังใต้...

    21 เม.ย. กลุ่มคนเสื้อแดงรวมตัวชุมนุมบริเวณสถานีรถไฟขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อสกัดไม่ให้ขบวนรถไฟลำเลียงทหาร อาวุธและยานพาหนะกว่า 20 โบกี้ออกจากสถานี เนื่องจากเกรงทหารจะเข้าร่วมสลายการชุมนุมในกรุงเทพฯ ต่อมา นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.อ.กนก ภู้ม่วง ผบ.กรมทหารราบที่ 8 และนายอำนวย นะมี หัวหน้าสถานีรถไฟขอนแก่น เข้าเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมให้สลายตัว แต่ยังไม่เป็นผล

    นางซาบีน่า ซาร์ แกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า สาเหตุการชุมนุมในครั้งนี้ เนื่องจากทราบว่าจะมีการขนย้ายกำลังพล รวมทั้งรถบรรทุกลำเลียงเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเกรงจะไปสลายพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยปรึกษากับนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงแล้ว สรุปว่าให้ชุมนุมอยู่ที่สถานีรถไฟจนกว่าสถานการณ์ที่กรุงเทพฯจะคลี่คลาย เป็นไปได้ขอ 5 วันจะดีที่สุด

    ด้านพ.อ.กนก กล่าวว่า กำลังพลและรถบรรทุกจะถูกนำไปสับเปลี่ยนกำลังในภาคใต้ โดยมีข้อบังคับต้องให้กำลังพลเข้ารายงานตัวตามกำหนดเวลาเดิมที่ตั้งไว้ จึงขอให้แกนนำเปิดเส้นทาง ขณะที่พล.ต.ต.พัฒนี กล่าวว่า ได้เจรจากับแกนนำเพื่อขอให้ปรับลดเวลาลงเหลือแค่ 1 วัน แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยนางซาบีน่าระบุว่า เพื่อความสบายใจและเป็นขวัญกำลังใจของผู้ชุมนุมที่อยู่กรุงเทพฯ จึงขอปิดตามกำหนดเดิม แต่ถ้าสถานการณ์รุนแรงบานปลาย อาจมีการจับตัวผู้ว่าราชการจังหวัดไว้เป็นประกัน ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงอีสานมีมติว่า ให้เสื้อแดงอีสานจากทุกจังหวัดเดินทางมารวมตัวที่ขอนแก่นทั้งหมด

    ทั้งนี้ มีรายงานว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ขบวนรถไฟสายอีสานมุ่งหน้าจ.หนองคาย ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวไม่มีกำหนด ส่วนผู้โดยสารที่ตกค้างมีการนำรถโดยสารมารับไปส่งยังปลายทางแล้ว

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ.2553

    แฉใช้ RPG ถล่มคลังน้ำมัน ก่อวินาศกรรม

    [​IMG]

    วินาศกรรมยิงระเบิดใส่คลังน้ำมันเครื่องบิน ริมถนนวงแหวนที่ปทุมธานี ไฟเผาถังน้ำมันจุ 20 ล้านลิตรนับชั่วโมง โชคดีไม่มีคนได้รับอันตราย...

    21 เม.ย. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้คลังน้ำมันของบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) ตั้งอยู่ ม.11 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคลังน้ำมันขนาดใหญ่สำหรับเครื่องบิน โดยมีพื้นที่ด้านหนึ่งติดถนนวงแหวนตะวันนออก แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับอันตราย

    ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เกิดขึ้นกลางดึกที่ผ่านมา โดยเพลิงลุกไหม้บริเวณถังเก็บน้ำมันดีเซลขนาดความจุ 20 ล้านลิตร แต่ขณะเกิดเหตุมีน้ำมันประมาณ 9 ล้านลิตร เปลวเพลิงสูงประมาณ 10 เมตรมองเห็นได้ไกล เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

    จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่า จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร ถังน้ำมันมีรูขนาดประมาณ 2 นิ้ว สันนิษฐานว่าลักษณะคล้ายการยิงระเบิดเข้าใส่ด้วยเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี หรือเอ็ม 79 ไม่ใช่อุบัติเหตุ ล่าสุดมีรายงานว่า หลังการตรวจสอบจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนของหางระเบิดอาร์พีจีชนิดเจาะเกราะ ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นคาดว่ามีการยิงเข้ามาจากถนนวงแหวน จึงนำชิ้นส่วนดังกล่าวให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมทั้งเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2010
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/04/21 17:20:31 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -15.239 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -172.828 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.0 </td><td valign="top"> SAMOA ISLANDS REGION</td></tr></tbody></table>
    10-degree Map Centered at 15°S,175°W

    Skip to earthquake lists [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    21 เม.ย. 53


    รู้ไม่จริง-----------อยู่นิ่งๆ--------ให้เฉยไว้
    อย่าปล่อยไก่------ตัวใหญ่-------ให้เขาขำ
    อันองค์อินทร์------มิใช่----------องค์อัมรินทร์เข้าใจกัน
    ที่กล่าวขาน-------ผู้เป็นใหญ่-----ไตรโลกา

    ดาวดึงษ์-------บนนั้นมี-------33องค์มานพ
    ต่างก็ยก--------อินทราช------ให้เป็นใหญ่
    อีก32องค์------ที่เหลือ--------รองลงไป
    มีนามไซร้------องค์อินทร์-----ถิ่นดาวดึงษ์

    พระองค์ท่าน------ทรงช้าง--------33เศียร
    ให้เทียบเคียง------องค์มานพ------33องค์
    ทุกวันนี้-----------ภาพที่เห็น-------ก็ลดลง
    เหลือ3องค์-------ช้าง3เศียร------โปรดเข้าใจ





    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ดวงเมือง 2553 รัฐประหารครั้งใหญ่ ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจ

    [​IMG]

    ศาสตร์แห่งโหร ปี 2553 จะเปิดตัวในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคม 2552 ใครอยากรู้อนาคตธุรกิจการเมือง ปีขาล 2553 ต้องรีบซื้ออ่านโดยพลัน ประชาชาติออนไลน์ ตัดตอน คำพยากรณ์ของ"โสรัจจะ นวลอยู่"มาเป็นออร์เดิร์ฟ อ่านแล้ว อาจเตรียมตัวตั้งรับวิกฤตได้ทันท่วงที

    ....ปี 2553 ดวงดาวยังคงเดินในสภาพไม่ปกติ เป็นปีเสือดุสุดหฤโหดมหาวิปโยคอย่างแท้จริง "พระเสาร์ยังสถิตอยู่ในราศีกันย์ตลอดทั้งปี และพระราหูสถิตราศีธนูทั้งปี เช่นกัน" "ดาวอังคาร ดาวสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีตุล ในวันที่ 4 กันยายน 2553 เล็งลัคนาเมือง"

    "26 เมษายน 2553 ดาวพฤหัสบดี อันเป็นดาวฝ่ายคุณธรรม ฝ่ายศาสนาและเป็นดาวแห่งความดีเดินเข้าสู่ราศีมีน เป็นวินาศกับดวงเมือง สถิตร่วมกับดาวพุธและมฤตยู

    ปีนี้ดาวเสาร์เล็งกับมฤตยู ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ใหญ่ทั้งสองดวงพร้อมด้วยอังคารโยคหลัง อนึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2553 ดาวอังคารบาปเคราะห์ที่รุนแรงแบบทะลุทะลวงได้เข้าสู่ราศีกรกฎ ทำมุมฉากหรือมุมข้อพับกับราศีเมษ"

    @ เกิดปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง

    เมื่อร่วมผนึกกำลังกันเข้าตรึงลัคนาราศีเมษกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน เสนาบดีมีเหตุอาเพศตางๆ เกิดการจลาจล รัฐประหาร ยึดอำนาจ คว่ำกระดาน บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง

    เป็นปีแห่งการทุกข์ทรมานของนักการเมือง ที่ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ก่อไว้ ถูกประจานตีแผ่ความเลวร้าย ชั่วช้าสามานย์ ที่แอบแฝงซ่อนเร้นต่อผู้คนที่คอยตักตวงผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาเป็นเวลาช้านาน จะต้องถูกคิดบัญชีจากวัฏจักรของดวงดาว ซึ่งส่อถึงความล่มสบายของอาณาจักร เกรงกลัวหรือไม่ก้แล้วแต่ท่านทั้งหลาย เพราะจุดจบของประเทศจะเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักการเมืองชั่ว และบุคคลที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างไร้คุณธรรมอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าจะให้ผ่านจุดนั้นไปให้ได้และจะไปให้ถึงเวลาฟ้าใสของประเทศ

    ตามดวงดาวบ่งบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาให้ผ่านช่วงเคราะห์กรรมไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ก่อกรรมไม่ดี จะถูกลงโทษจากสรวงสวรรค์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลประเทศ เพราะสยามประเทศนั้นไม่มีอะไรที่จะมาทำลายร้างให้สูญสิ้นไปได้ ซึ่งที่ทำนายมานี้ไม่มีอคติต่อใครๆ ทั้งสิ้น หรือสาปแช่งบุคคลใด แต่ไปเป็นไปตามดวงดาวลิขิตจริงๆ สิ่งที่จะลบร้างคำทำนายให้เบาลง ทุกๆ คนต้องสร้างแต่ความดีถือศีล 5 ทำจากใจจริงไม่ใช่เฉพาะภายนอก หรือชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

    พรรคการเมืองทั้งเล็กและใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันถึงกาลอวสาน สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะแตกสลายไปเองตามอิทธิพลของดวงดาว และจะเกิดสิ่งใหม่หรือมิติใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเองยากแก่การคาดการณ์ได้ ดาวมฤตยูเจ้าแห่งการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ได้เดินเข้าทำมุมตรีโกณกับราศีมิถุน ประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย และจะทำมุมอยู่อย่างนั้นเกือบถึง 7 ปี ระหว่างนี้จะมีบาปเคราะห์มาเข้าร่วมมุม ทั้งมุมกากบาท ทั้งมุมสามเหลี่ยม บ่งถึงไทยเรายังมีรัฐบาลที่ดันทุรังและไม่ฉลาดไม่เห็นการณ์ไกล

    ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อคุณภาพของการพัฒนาประชาธิปไตย และนำมาซึ่งความขัดแย้งทางสังคม

    เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยกเคียดแค้น ปิดร้านค้ายึดเป็นที่มั่นยิงต่อสู้กัน ทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมืองไปหลายวัน จะก่อความยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา

    ข้อสังเกตเหตุการณ์รับกันนองเลือดครั้งนี้เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประชาธิปไตย จึงรบกันนองเลือดระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯ มา

    อาจต้องใช้กำลังทหารเข้าแก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ต้องรบราฆ่าฟันกัน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ตอนต้นปีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย

    @ ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ

    ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของพระเคราะห์ แห่งสุริยะระบบ จึงไม่มีอะไรไม่ว่าสิ่งอันมีชีวิตหรือสิ่งอันเป็นนามธรรม กับสิ่งอันอุบัติขึ้นจากการก่อตัวของเหตุการณ์หนึ่งๆ จะต้องถูกครอบงำด้วยพระเคราะห์ทั้งสิ้น เราคนไทยกำลังดิ้นรน เพื่อการคงอยู่ อนาคตนั้นก็ย่อมจะเป็นไปตามอำนาจของดวงดาวและกาลเวลา

    พยายามดื้อรั้นฝืนดวงดาว เอาแต่ใจตนเอง โดยถือประเทศชาติเป็นสนามทดลองความดื้อของตนเอง ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ผู้เห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมาแก้ไขสถานการณ์นี้

    บ้านเมืองเมื่อไรจะสงบเสียที เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ความมืดมนเหล่านี้จะเบาลง ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานมาก มันเกี่ยวพันกับภูมิภาค เกี่ยวพันกับดวงชะตาของโลก เพียงแต่ขอตอบว่ายังไม่มีวันสงบ อีกหลายปีจึงจะเบาบางลง

    กรุงเทพฯ บางส่วนเริ่มถูกน้ำทะเลท่วมเข้ามาถึง อาจจะจมน้ำหายไปและจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี และอาจจะจมหายไปจากแผนที่โลกหรือแผนที่ประเทศไทย อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นภาครับต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ ควรหาทางป้องกันไว้ก่อน

    เดือนเมษายนเป็นที่สังเกตว่าดาวพระพฤหัสบดี แห่งไทยสยามกำลังโคจรร่วมกับพระพุธและดาวมฤตยูเป็นสัญญาณบ่งถึงการแทรกแซง ในราศีมีนเป็นวินาศกับลัคนาเมือง จะมีเหตุยุ่งยากเกิดขึ้น ผู้รักษาอำนาจการปกครองจะต้องระมัดระวัง อย่าได้หลวมตัว ตัดรอนอำนาจพิษสงของตนเองตามคำเรียกร้องต่างๆ ซึ่งวางกลลวง ในการแสวงหาลู่ทาง ให้ฝ่ายของพวกพ้องตนเองได้มีโอกาสเอาสถานการณ์บังหน้า ก่อเหตุวุ่นวายขึ้น

    ขอย้ำว่าในปีนี้เหตุการณ์ไม่สู่สงบ จำเป็นต้องมีความรักและสามัคคีต่อกันและกันและมีเสถียรภาพด้วย

    @ ปีแห่งการก่อการร้าย

    ส่วนปัญหาทางภาคใต้ อิทธิพลของดาวเสาร์และดาวอังคารทำให้ยังเป็นปีแห่งการก่อการร้าย และการก่อวินาศกรรมทั้งปี เหมือนปี 2552 ที่แล้วมาแต่ยังแก้ไม่ตก จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาล อาจเสียอำนาจทางภาคใต้ของประเทศประกาสแบ่งแยกเดินแดนแล้วทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างขาดลอยไป เนื่องจากดาวอังคารคงเดินแบบวิกล เพราะดวงผู้นำประเทศ ทำให้การก่อการร้ายปานกลายเป็นสงครามระหว่างภาค ขยายวงกว้าง ออกไปทางภาคใต้การฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงดำเนินต่อไป มิมีอะไรมาหยุดยั้งได้ ผู้ก่อการร้ายกระทำครั้งนี้เป็นกลุ่ม ศาสนาถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้อง ยังเอาโรงเรียน สถานที่ราชการ วัดวาอาราม ใช้อาวุธที่มีอานุภาพรุนแรงระเบิดพลีชีพ ประหนึ่งเป็นสงคราม จนทำให้องค์กรสหประชาชาติยื่นมือเข้ามา

    ประเทศไทยจึงเป็นที่กล่าวขวัญในทางที่น่าสะพรึงกลัวไปทั่วโลก สื่อต่างประเทศมาทำข่าว ชาวต่างชาติไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยว ผู้คนบริสุทธิ์ ทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ นักปกครอง เด็กและสตรีต้องอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัยกว่าในดินแดนแห่งใหม่ ผู้ที่จะมาชำระสะสางความมืดมน ความเคลือบแคลงให้กระจ่างออกมา ทุกคนทุกวันนี้ก็รู้กันดีอยู่ว่าการกระทำอันอุกอาจครั้งนี้ ย่อมจะต้องใช้กำลังผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองบ้านเมือง ย่อมจะไม่หย่อนสมรรถภาพถึงขนาดไม่รู้เบาะแสอะไรเลย เพียงแต่ว่าความจริงบางอย่างเปิดเผยออกมา จะต้องมีจังหวะเวลาอันสมควรด้วย ย่อมกระทบกระเทือนต่ออะไรมากมาย รวมทั้งสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศกับบ้านใกล้เรือนเคียง

    เนื่องจากในกลุ่มชาติอาหรับผู้เป็นเจ้าของน้ำมันส่วนใหญ่ของโลก ยังมีปัญหาข้อพิพาทและรบราฆ่าฟันกันยังไม่จบสิ้น ยังคุกคามความสงบสุขของประชากรโลกต้องเดือดร้อนยิ่งขึ้นไปกว่าปีที่แล้วเพราะอาจขาดแคลนน้ำมัน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้รวมหัวกันขึ้นราคาน้ำมันโดยไม่หยุดยั้ง บางช่วงก็ใช้น้ำมันเป็นเครื่องต่อรองกับประเทศมหาอำนาจทางตะวันตก ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลง ทำให้ข้าวของแพง ผู้คนลำบากไปทั่ว

    ส่วนในบ้านเรานอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงจะขึ้นราคาไม่หยุดแล้ว แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคาอย่างหนักเช่นกัน สร้างความปั่นป่วนเดือดร้อน

    @ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น

    อีกนัยหนึ่งปี 2553 นี้ เมื่อว่ากันในแง่โหราศาสตร์ฮินดูก็เห็นว่า การวู่วามใด ๆ รังแต่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น บ่งถึงว่าถ้าดื้อรั้นจะเอาแต่ฝ่ายตนท่าเดียวโดยมิได้ผ่อนปรนใดๆ บ้านเมืองก็คงฉิบหายและจะเป็นการปลุกให้ผู้ถืออาวุธทนไม่ไหวคิดเข้ามาแก้ไขสถานการณ์อันไม่สงบ มันจะไปกันใหญ่ นอกจากทุพภิกขภัยจะเล่นงานเอาอย่างอ่วมอรทัยแล้ว น้ำผึ้งหยดเดียวก็จักบันดาลให้เกิดอะไรต่ออะไรที่เลวร้ายอย่างใหย่หลวงได้

    ผู้มีอำนาจวาสนา อย่าได้นิ่งนอนใจ ระวังสุขภาพ ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนอย่างรุนแรง จักสำแดงโทษ ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหลักต่างๆ จะประมาทต่อสถานการณ์ใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น ระวังกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ อย่าวางใจในสิ่งที่ตนคิดว่าตัดรากถอนโคนแล้วคงไม่มีเขี้ยวเล็บ ประวัติศาสตร์ที่ยุ่งยากมาเป็นร้อยเป็นพันปี สอนไว้ได้ดีว่า ในโลกนี้หามีความเที่ยงแท้อะไรไม่

    ความผันผวนยุ่งยาก เป็นการแสดงให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ยังคงดำเนินสานต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง และโดยทั่วไปสภาวะในประเทศเปรียบเสมือนน้ำเดือดพล่านบนหม้อที่มีเชื้อไฟข้างใต้โหมอย่างรุนแรง ประชาชนพลเมืองอาจจะประสบปัญหาที่ไม่เคยประสบมาก่อน คือ คนว่างงานจำนวนมาก มีการเดินขบวน วุ่นวาย ต่างๆ นานา และอาจถูกปราบปรามจนต้องสูญเสียชีวิตไปมิใช่น้อย มีสงครามเบ็ดเสร็จในแต่ละท้องที่ผู้คนจะตายหมู่กันมาก

    @ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย

    เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้พร้อมกับเศรษฐกิจทั่วโลกก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน ประชาชนคนไทยเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ยิ่งกว่าปีก่อน เป็นปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย ธนาคารของรัฐไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลงอย่างสนิท ตลาดหุ้นถูกกระทบอย่างรุนแรง ร่วงหล่นต่ำสุด และปิดตัวเองลง มีคนฆ่าตัวตายเป็นเบือ พลเมืองประสบความยากจนข้นแค้นมากขึ้น แต่องค์ประกอบของรัฐได้ซ้ำเติมประชาชนด้วยการขึ้นค่าสาธารณูปโภคทุกรูปแบบ

    ปี 2553 นี้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรง ทั้งปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้งทำให้ขาดแคลน ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนืออย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน สัตว์เลี้ยง และผู้คนเดือดร้อน บางจังหวัดและบางอำเภอดินแตกระแหงไม่สามารถปลูกพืชธัญญาหารได้เลย ทำให้ผู้คนอดอยากแต่ขาดความเหลียวแลเอาใจใส่ของภาครัฐ หลายครอบครัวถึงขั้นขุดรากไม้และดินกินเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตให้รอดไปก่อน

    เกิดพื้นดินถล่มและทรุดตัวไปทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งกรุงเทพมหานคร เราอาจจะต้องสูญเสียแผ่นดินทางภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนองลงมา และจมลงสู่ใต้ทะเลไปทีละน้อย

    ราวปลายปีแถบชายฝั่งทะเลอันดามันรวมทั้งเกาะภูเก็ต กระบี่ พังงา ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่ กวาดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบ้านเรือนลงทะเลจำนวนมาก และยังต้องระวังกับวาตภัย ทำให้เกิดความเสียหายแก่เรือกสวนไร่นามหาศาล เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้ง กรุงเทพฯจะจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลานาน เป็นที่น่าทุกขเวทนายิ่งนัก มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมา

    เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี ผลเสียหายมาก เป็นมหาวาตภัยเรือประมงจมร่วม 100 ลำ ลูกเรือสูยหายไปเป็นพัน และปลายปีพายุถล่มรอบสองรุนแรงมาก คนตายเรือนพัน จังหวัดชุมพรเสียหายร่วม 100 เปอร์เซ็นต์

    @อาเพศสุดๆ จะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ

    ประเทศไทย ปีขาล 2553 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศพิสดารสุดๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสยามประเทศจะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" และปริมณฑล คนไทยทั่วประเทศตกตะลึงและพูดกันไปต่างๆ นานา ในความอาถรรพณ์วิปริตผิดธรรมชาติประโคมข่าวไปทั่วโลก เป็นลางร้ายแก่คนกรุงเทพฯ และประชาชนชาวไทย ทั้งภยันตรายจากโรคติดต่อที่ร้ายแรงใหม่ๆ และคร่าชีวิตทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนชรา ไปเป็นจำนวนมาก และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายๆ ด้าน ทั้งวัฒนธรรม-ประเพณีดั้งเดิม และการปกครองการเมืองที่สุดคาดเดา

    @ เกิด "เขื่อนยักษ์แตก"

    ที่เคยเกิดรอยร้าวสะสมมานาน ได้พังทลายลง เกิดคลื่นน้ำขนาดมหึมา พุ่งตรงลงสู่เบื้องล่าง เข้าท่วมไร่นา ที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้างของผู้คน อย่างไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้สูญเสียชีวิตผู้คน สัตว์เลี้ยง และทำลายสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพืชผลการเกษตรเสียหายทั้งหมดหลายจังหวัดต่อเนื่องมาถึงกรุงเทพฯ

    น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นและมหาสมุทรสูงขึ้น เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ บางส่วนของโลกถูกน้ำท่วมใหญ่จมหมายลงไปในทะเล

    กรุงเทพฯ ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์และสัตว์ หรือเป็นเชื้อไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์ติดต่อมาถึงคน ทำให้สูญเสียชีวิตมนุษย์มากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์

    ภูเขาไฟในเกาะสุมาตราระเบิดอย่างรุนแรง มีการปะทุอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน พ่นแก๊สร้อนขี้เถ้าแผ่กระจายเป็นรัศมีกว้างไกล ทำให้ท้องฟ้ามืดมิดบดบังแสงแดดกลายเป็นกลางคืน

    เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในหลายแห่งทั่วโลก ประเทศไทยได้รับผลอย่างจัง จมเรือหลายลำ พุ่งตรงเข้าไปตามชายฝั่งที่อยู่ติดกับทะเลด้านอันดามัน กวาดเอาหมู่บ้านจำนวนมากหายตกทะเลไป ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่คาดไม่ถึง ไม่ทันตั้งรับ เสียชีวิตอย่างอนาถ

    เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ กวาดและทำลายสิ่งก่อสร้างและชีวิตคนจำนวนมาก นับเป็นเหตุการณ์วิปโยคต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง คลื่นทะเลยักษ์เริ่มปะทะและโจมตีดินแดนชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเสียหายมากมายอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน

    ความผันผวนต่างๆ จะแผ่ซ่นไปทั่ว ทุกประเทศจะต้องประสบ ดังเช่นญี่ปุ่น เยอรมนี ตะวันออกไกล ส่วนประเทศในยุโรปนั้น จะเข้าสู่สภาวะมิคสัญญีจะประสบภาวะเดือดร้อนและเดือดพล่านโดยทั่วกัน

    นาวาของปวงประเทศทั้งหลายจะต้องเผชิญต่อมหันภัยของมรสุมอีกหลายลูก ประมุขของประเทศต่างๆ ใครจะมีฝีมือ จะเป็นรัฐบุรุษของโลกขนาดไหน ก็ต้องดูความสามารถกันในช่วงปีนี้แหละ

    ถึงคราวแล้วที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สงครามที่เราไม่เคยมีมาเลยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง อิทธิพลของดาวงดาวคือพระราหูทำมุมเสียกับลัคนาประเทศ ถ้าประเทศไทยยังเฉยเมยไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที เสมือนดูหมิ่นสยามประเทศมาโดยตลอด

    ดังนั้นปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมาก ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน

    @ ช่วงปลายปี′53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ

    ประเทศในอ่าวเปอร์เซียกับตะวันออกกลาง อยู่ในเกณฑ์ของความอดทนอย่างถึงที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย การเคลื่อนกำลังอาวุธอาจจำเป็นต้องกระทำสงครามยุทธนาวีหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ดาวของประเทศมหาอำนาจ (สหรัฐ) กับตะวันออกกลาง และอ่าวเปอร์เซียเป็นแนวทางการเคร่งเครียด การขัดแย้ง การวิบัติ ที่ฉายเงารางๆ ให้เห็น

    ประเทศที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ปีนี้จะมีเหตุไม่ราบรื่นในการสัมพันธ์กับนานาชาติ และภายในประเทศของตนเริ่มมีสัญญาณแห่งการขัดข้อง ความไม่ราบรื่นดังเคย จะมีผลยืดเยื้อที่จะกระทบต่ออนาคตอย่างแน่นอน เงาของความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างประเทศกับความไม่ทัดเทียมกันทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เห็นเหตุให้ชาติที่กำลังรีบเร่งไปสู่อนาคตที่แจ่มจรัสเบื้องหน้า เริ่มเห็นทางตัน มนุษยชาติกำลังเผชิญต่อภาวะความสับสนกับความเดือดร้อนต่อชาติอันยากจนข้นแค้นของประชากรโลกส่วนใหญ่ ความมืดมนกำลังเตรียมปักหลักเป็นแกนนำ บัดนี้โลกจะต้องระวังการหวังพึ่งพิงพลังงานใหม่ๆ เข้ามารับใช้มนุษยชาติในด้านอุตสาหกรรม ในด้านธุรกิจซึ่งกำลังตะบึงไปข้างหน้าอันเต็มไปด้วยหมอกหนาแห่งความไม่แน่ใจ

    ดาวบาปเคราะห์ใหญ่ จะกระจายกันเข้าตรึง 4 ทวาร 4 มุม โดยมีดาวเสาร์เดินนำหน้า มันเป็นจุดคับขันที่สุดของโลก เป็นปีที่จะเกิดสงครามล้างผลาญโลกครั้งใหญ่ ทำลายล้างกันอย่างย่อยยับยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เป็นมาในประวัติศาสตร์ของชาติมนุษย์

    ช่วงปลายปี′53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ และตะวันออกกลางเริ่มเปิดฉากแข็งกร้าวขึ้น อาวุธปรมาณู อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมีร้ายแรง อาวุธมหาประลัย นำมาใช้กัน ทำให้เกิดจุดวิกฤตการณ์ของโลกที่เขม็งเกลียวที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และเมื่อนั้น ปีขาลหฤโหดจะสำแดงฤทธิ์ อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาตคือ สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ และจีน ส่วนสหรัฐแน่นอนละ ฐานทัพนอกประเทศจะถูกทำลายสิ้นไม่มีเหลือ ส่วนประเทศไทยเราจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามยืดเยื้อไปถึงปี 2554 จนอาจจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้

    ...อ่านจบแล้ว อาจรู้สึกเครียด เราแนะนำให้ แฟนประชาชาติฯ ทำความดีให้มาก ส่งผ่านความดีไปสู่คนอื่นๆ และเรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น

    ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
    http://news.hunsa.com/detail.php?id=19293
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 43705.jpg
      43705.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      1,055
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2010
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ศรีสะเกษ-โรคตาแดงระบาดหลังสาดน้ำสงกรานต์

    [​IMG]

    หลังการเล่นสาดน้ำสงกรานต์และอากาศร้อนจัดทำให้ชาวศรีสะเกษป่วยเป็นโรคตาแดงแห่ไปพบแพทย์จำนวนมาก

    ขณะนี้สภาพอากาศของ จ.ศรีสะเกษ ร้อนอบอ้าวรุนแรงทุกวันส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวศรีสะเกษเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอากาศร้อนจัดทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ที่มากับอากาศร้อน พบว่าโรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ประชาชนแห่ไปพบแพทย์กันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ทำให้ป่วยเป็นโรคตาแดง เนื่องจากน้ำที่ใช้สาดเล่นอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนมาด้วย นอกจากนี้ยังป่วยเป็นโรคหน้าร้อน อาทิ โรคอุจจาระร่วง ไข้หวัด

    นายแพทย์ประวิ อ่ำพันธุ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่าจากสภาพอากาศร้อนจัดทำให้ชาวศรีสะเกษป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วง และโรคไข้หวัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคอุจจาระร่วงมากที่สุด ซึ่งสาเหตุสำคัญเนื่องจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดเพียงพอ และอีกสาเหตุเกิดจากการอาหารบูดเน่าเร็ว เมื่อรับประทานเข้าไปทำให้ป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงได้ต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่เฉลี่ยวันละกว่า 500 คน

    จึงขอเตือนประชาชนชาวศรีสะเกษว่า ก่อนที่จะรับประทานอาหารควรล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อนเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรค และต้องรับประทานอาหารที่สุกและสะอาด โดยรับประทานอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เพื่อจะได้ปลอดภัยจากเชื้อโรคอุจจาระร่วง และไม่ควรตากแดดเป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กเพราะจะทำให้ป่วยเป็นไข้

    ข่าวทีวีช่อง 3วันพฤหัสบดี ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

    มหาสารคาม-โค-กระบือกว่า 3 แสนตัวกำลังขาดน้ำ

    [​IMG]

    สถานการณ์ภัยแล้งใน จ.มหาสารคาม ขยายวงกว้างมากขึ้นส่งผลกระทบไปถึงสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร กว่า 300,000 ตัว ปศุสัตว์จังหวัดต้องสำรองพืชอาหารสัตว์กว่า 60 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

    นายธเนศ ถวิลหวัง ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม 13 อำเภอ เกษตรกร 80,000 กว่าราย ที่เลี้ยงสัตว์ประเภทโคเนื้อ โคนม และกระบือ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 320,000 ตัว จากกการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ส่อเค้ารุนแรงและยาวนานกว่าทุกปี และครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำดื่ม และพืชอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง

    อย่างไรก็ตามสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดได้เตรียมแผนรับมือภัยแล้งไว้ 3 ระยะ เพื่อลดระดับความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยระยะแรกก่อนการเกิดภัยได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรจัดหาฟางข้าว และหญ้าแห้ง รวมถึงจัดหาแหล่งน้ำสำรองไว้เลี้ยงสัตว์ให้มากที่สุด ระยะที่ 2 ขณะเกิดภัยได้ประสานไปยังสถานีพืชอาหารสัตว์อำเภอเชียงยืนเพื่อสำรองพืชอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์ไว้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ กว่า 60 ตัน

    และพร้อมนำออกให้ความช่วยเหลือทันทีเมื่อได้รับการร้องขอโดยเป็นเพียงการประสานทางโทรศัพท์ระหว่างจังหวัดและอำเภอ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว และระยะที่ 3 เป็นการช่วยเหลือหลังเกิดภัยเน้นการฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ การให้อาหารทีมีแร่ธาตุสูงรวมถึงให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์หญ้าเพื่อให้เกษตรกรนำไปปลูกในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบหรือสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ ซึมเหงาให้รีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือต่อไป

    ข่าวทีวีช่อง 3วันพฤหัสบดี ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

    เชียงใหม่-ทะเลสาบดอยเต่าแห้งขอด

    [​IMG]

    ทะเลสาบดอยเต่าแหล่งต้นน้ำเขื่อนภูมิพลแห้งขอด แพประมงของชาวบ้านได้รับผลกระทบเกยตื้น รายได้หายไปเดือนละหลายหมื่นบาท ต้องปรับขึ้นมาปลูกผักบนดินที่ใช้น้ำน้อยแทน

    ปัญหาภัยแล้วคุกคามจังหวัดเชียงใหม่ขยายวงกว้างออกไป ล่าสุดทะเลสาบดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของเขื่อนภูมิพล พบว่าระดับน้ำแห้งขอดลึงลงไปกว่า 3 กิโลเมตร เนื่องจากมีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนภูมิพล ประกอบกับสภาพปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ระดับน้ำกักเก็บปีนี้น้อยกว่าหลายปีท่ผ่านมา นอกจากจะกระทบกับแพท่องเที่ยว และอาหารที่ต้องหยุดให้บริกาเนื่องจากไม่มีน้ำทำให้แพต้องเกยตื้นอยู่ริมฝั่ง ประกอบกับอากาศที่ร้อนจัดยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวหายไปทันที รายได้จากแพท่องเที่ยวต้องสูญเสียไปเดือนละเกือบ 100,000 บาท

    ล่าสุดพบว่าขณะนี้ระดับน้ำยังคงแห้งขอดลงไปอย่างต่อเนื่อง ร่องน้ำสำหรับการทำประมงของชาวบ้านในพื้นที่ ที่อาศัยแพประมงลอยน้ำเป็นบ้านพักกินนอน และทำการประมงต้องเกยขึ้นอยู่บนผืนดินที่แห้งแตกระแหง เนื่องจากไม่สามารถลอยแพไปตามระดับน้ำที่แห้งลงอย่างรวดเร็วได้ อีกทั้งรายได้จากการประมงก็หดหายลงไป จากที่เคยจับปลาได้วันละหลายร้อยกิโลกรัม มีรายได้วันละหลายพันบาท ทุกวันนี้ผู้ที่ยังจำทำการประมงอยู่ต้องอาศัยเรือหาปลาขับออกไปกลางทะเลสาบอีกหลายกิโลเมตร ซึ่งต้องแบกภาระค่าน้ำมันรายได้เหลือเพียงวันละ 100-200 บาท ชาวประมงบางส่วนต้องยอมปล่อยให้แพหาปลาเกยตื้น หันมาบล้อมรั้ว และปลูกผักสวนครัวประทังชีวิตไปก่อนจนกว่าจะถึงหน้าน้ำ

    สำหรับพื้นที่ทะเลสาบดอยเต่า ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่มีการสร้างเขื่อนภูมิพลเสร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ. 2507 จนทำให้เกิดเป็นทะเลสาบดอยเต่า เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และยาวประมาณ 140 กม. จาก อบต.ดอยเต่า ไปจนถึงเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก มีสภาพเป็นทะเลสาบซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่น้ำท่วมของ กฟผ. พื้นที่ประมาณ 58 ตารางกิโลเมตร หรือ 36250 ไร่

    ข่าวทีวีช่อง 3วันพฤหัสบดี ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2010
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีนัยยะที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ที่น่าเป็นห่วงและน่าจับตาครับ นัยยะนี้ขอไม่นับเอาประเด็นทางการเมือง ต่างประเทศ หรือเรื่องใครถูกใครผิดมาพิจารณาครับ

    เหตุการณ์ที่ พระสงฆ์ประท้วงในพม่า ไม่นาน ก็เกิด พายุนากิส ถล่มประเทศ ล้มตายเสียหายนับแสนคน

    เหตุการณ์ที่ พระธิเบตประท้วง ในธิเบต ไม่นาน ก็เกิด แผ่นดินไหวใหญ่ในเขต จีน ธิเบตขึ้นรุนแรง เมืองถล่ม

    ถามพระท่าน ท่านเมตตาบอกเหตุว่า

    "ครั้น สมณะผู้ควร สงบ เย็น เป็นที่พึ่ง เป็นร่มใจของหมู่ชน กลับ รุ่มร้อน กลับหวั่นไหวในโลกธรรมเอง เป็นประการที่หนึ่ง

    เหตุอันมีผู้ยุยงให้เกิดสังฆเภทอันเป็น กรรมหนักเป็นอนันนตริยกรรม หนึ่ง

    ย่อมยังผลเป็นอาเพส ต่อแผ่นดิน ต่อบ้านเมือง"

    ไทยเราเองนั้น ผมมองว่า สิ่งใด ธรรมใด ที่ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง ความเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ เราร่วมใจทำครับ
     
  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สถานการณ์สงครามในระดับโลกก็รุนแรงไม่แพ้กันครับ


    โสมขาวจับสปายโสมแดง-เตรียมยิงนุกหน3

    วันพฤหัสบดี ที่ 22 เมษายน 2553 เวลา 7:46 น
    [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG] <script src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type="text/javascript"></script> ​

    <table id="ext-gen5" class="x-tabs-strip" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr id="ext-gen4"><td class=" on" style="width: 72px;" id="ext-gen10">เนื้อหา ข่าว</td></tr></tbody></table>


    ตำรวจเกาหลีใต้จับตัวจารชนเกาหลีเหนือ 2 คน หลังพบเบาะแสแผนลอบสังหารอดีตเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ที่แปรพักตร์มายังเกาหลีใต้ ขณะเดียวกัน มีสัญญาณว่าเกาหลีเหนืออาจทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3

    เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ทางการเกาหลีใต้จับกุมตัวชาวเกาหลีเหนือ 2 คนที่ปลอมตัวเป็นผู้แปรพักตร์เข้ามายังเกาหลีใต้ และวางแผนลอบสังหารนายฮวาง จาง-ยอป อดีตเลขาธิการพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์มายังเกาหลีใต้ นายฮวาง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แปรพักตร์มายังเกาหลีใต้ในปี 2540 เขาได้เขียนหนังสือ และส่งบทความประณามรัฐบาลของนายคิมว่าเป็นเผด็จการ และขณะนี้ นายฮวาง ต้องอาศัยอยู่ภายใต้การคุ้มกันของตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความพยายามของเกาหลีเหนือ ที่จะเอาชีวิตเขา

    พนักงานอัยการระดับสูงกล่าวว่า ผู้ที่ถูกจับกุม ซึ่งมีอายุ 36 ปีทั้งคู่ สารภาพต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า พวกเขาได้รับคำสั่งให้รายงานเกี่ยวกับกิจกรรมของนายฮวางกลับไปยังเกาหลี เหนือ และเตรียมที่จะเชือดเขาอยู่แล้ว อัยการระบุด้วยว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยพยายามที่จะฆ่าตัวตายระหว่างการสอบสวน แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

    การจับกุมตัว 2 จารชนเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร มีขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่าง 2 เกาหลีกำลังขยายวงกว้าง กรณีการจมเรือรบเกาหลีใต้ ซึ่งเกิดระเบิดปริศนา และจมใกล้พรมแดนเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีการคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว

    รายงานข่าวระบุว่า ชายทั้ง 2 คน คือนายคิม มยอง โฮ และนายดอง มยอง วาน เดินทางผ่านเมืองหยานจี ประเทศจีน เข้าไทย โดยการปลอมตัวเป็นผู้แปรพักตร์ รัฐบาลไทยเนรเทศ 1 ใน 2 คนนี้ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนอีกคนเนรเทศในเดือนกุมภาพันธ์ และบุคคลทั้ง 2 ถูกจับหลังจากภารกิจของพวกเขาเผยความจริงออกมาระหว่างการสอบสวนเกี่ยวกับแรง จูงใจของพวกเขาในการแปรพักตร์

    ส่วนนักวิเคราะห์และผู้แปรพักตร์ กล่าวว่า รายงานข่าวของสื่อมวลชนในเกาหลีเหนือเมื่อเร็ว ๆ นี้ บอกเป็นนัยว่าเกาหลีเหนืออาจเตรียมทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือแถลงเมื่อต้นเดือนว่า รัฐบาลจะเพิ่มและทำให้อาวุธนิวเคลียร์ของตนมีความทันสมัยเพื่อป้องกันการโจม ตีจากสหรัฐ.







    -------------------------------


    กรณีอิหร่านครับ


    นายอาห์หมัด วาฮิดี้ รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน ออกมาปฏิเสธว่า อิหร่านมีแผนการพัฒนาขีปนาวุธวิถีโค้ง ที่มีขีดความสามารถโจมตีถึงเป้าหมายในสหรัฐ รวมทั้งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมกับระบุว่า อิหร่านไม่มีแผนการดังกล่าว และข้อกล่าวหานี้ เป็นส่วนหนึ่งในการทำสงครามจิตวิทยาของศัตรู

    นอกจากนี้ นายวาฮิดี้ กล่าวต่อไปว่า อิหร่านสามารถผลิตระบบป้องกันทางอากาศ พร้อมเรด้าร์ และขีปนาวุธพิสัยไกลเพียง 40 กิโลเมตร

    คำกล่าวของนายวาฮิดี้ เป็นการตอบโต้การแสดงความเห็นของนายเจมส์ มิลเลอร์ รองปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฝ่ายนโยบาย ที่กล่าวต่อวุฒิสภาว่า ในปีพุทธศักราช 2558 อิหร่านจะสามารถพัฒนาขีปนาวุธที่โจมตีถึงเป้าหมายในอเมริกาได้เลย และจากการประเมินความช่วยเหลือของต่างชาติ จะทำให้อิหร่านสามารถพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธให้มีความรุดหน้าอย่างยิ่ง.
     
  15. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เมื่อคืนฝันอีกแล้วจะ แต่ฝันว่าเหมือนบ้านเมืองมันร้างๆไงไม่รู้ ประมาณว่าจะมีพายุหรือเกี่ยวกับน้ำนี่แหละ ในฝันบอกครอบครัวว่าให้ไปหลบที่ศาลอาม่า(ศาลเจ้าแม่ทับทิม)ในฝันบอกพี่ๆว่าอาม่าท่านดูแลเรื่องน้ำเราจะปลอดภัย ก็ตื่นคะ
     
  16. Naraporn_N

    Naraporn_N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +1,002
    เมื่อวานก็ฝันเหมือนกันค่ะ ฝันว่าเพิ่งกลับจากเที่ยวไหนมาสักที พอลงจากเครื่องเข้ามาในสนามบินก็รู้สึกว่ามืดมากๆ ผู้คนโกลาหนวุ่นวายกันไปหมด เหมือนทุนคนกำลังหนี เราเองก็ต้องหนี แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนีอะไร และจะหนีรอดหรือเปล่า.. มีแค่เสียงในใจบอกว่าจะรอดไม่รอด อยู่ที่การกระทำของเราในวันนี้
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** น้ำ ****

    เมื่อสมณะ...ออกนอกคำสอนของตถาคต
    น้ำจากพระที่หลั่งไหลออกมา ก็เหมือนน้ำจากภูเขาไหลบ่าลงมาท่วมชาวบ้านพื้นราบลุ่ม

    สัจจะ...เราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    คุณหนุมาน ผู้นำสาร(พลังจิต.คอม) ได้บอกเอาไว้แล้วดังนี้เมื่อปี 50
    ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน 53 ให้พิจารณาและรู้เท่าทัน

    ------------------------------------------------------------------------
    *** พรโปรด คนไทยทั้งชาติ ****
    ณ วันนี้.......เราคนไทย ระวังถูกเขาหลอกใช้ สุดท้ายทำลายบ้านเมืองตัวเอง !!!!!!!
    ทุกวันนี้...คนไทยหลายคนกำลังถูกหลอกใช้… จากประเทศมหาอำนาจใหญ่ ๒ ค่าย ในปัจจุบัน
    ประเทศหนึ่ง ...ถูกยั่วยุ....ตลอดเวลา…… “อยากทำสงคราม อยากกำจัดให้สิ้น”
    ประเทศสอง....คิดเป็นใหญ่ อยากครอบครอง เป็นผู้นำ...คอยยั่วยุ และคอยสนับสนุน ยุยง
    ...ให้ประเทศน้อยๆ ยั่วยุ...ตลอดเวลา…….“ยิงดาวเหล็กจนล่วงเป็นลูกไฟ ไม่กลัวใคร ใครจะห้าม ฉันจะทำ”

    จะเกิดอะไร...เมื่อประเทศสอง คอยสนับสนุน ประเทศน้อยๆ ที่เคยถูกประเทศหนึ่งเอาเปรียบ
    หลอกล่อให้ ประเทศหนึ่ง...ก่อสงคราม....คือวิธีที่เขาเลือก
    แต่...ทหารจะรบกัน....ต้องกินข้าว...ทั้งสองประเทศ จึงเหลือบตามองมาที่...ครัวของโลก

    ประเทศสอง...ไวกว่าได้เปรียบ เพราะเคยผูกพันธุ์กับไทยมานานมาก...ได้วางตัวผู้บริหารอยู่ทุกองค์กร
    หมดแล้ว...กำลังทำงานให้... แม้แต่เจ้าตัว ยังไม่รู้ตัวเลยว่า...สิ่งที่ทำไป เป็นการสนับสนุนเพื่อประเทศสอง
    ทั้งสิ้น....เพราะเขา ไม่รู้ว่าประเทศสองมีเป้าหมาย คือ ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของไทย
    ที่มีมายาวนาน และไม่เหมือนประเทศใดในโลก
    ….งานที่ประเทศสองมอบให้ช่วงนี้ คือ เผยแพร่วัฒนธรรม
    ประเทศสอง ให้ทั่วเมืองไทย เผยแพร่ความเชื่อของคนประเทศที่สอง เพื่อกลบและกลืนความเชื่อใน
    ศาสนาพุทธดั้งเดิมในไทยให้สูญหายไป...จากนั้น การครอบครองจึงทำได้ง่าย
    ประเทศหนึ่ง....เสียเปรียบ เพราะกลุ่มผู้ที่เคยทำงานให้...ถูกปลดหมดแล้ว....พยายามเอาตัวรอดอยู่…
    ประเทศหนึ่งจึงต้องเป็นกองหนุน สนับสนุนลับ...เพื่อให้กลุ่มผู้ทำงาน กลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง…
    บ้านเมืองจึงวุ่นวายกับคนไทย ที่ถูกหลอกใช้เหล่านี้

    แล้ว...จะเกิดอะไร...เมื่อคนไทยแก่งแย่งอำนาจ คนไทยจำนวนมาก รบรากันฆ่าฟันกันเอง….ในเมืองหลวง
    เมื่อผู้มีอำนาจทั้งหลายทั้งเก่าทั้งใหม่...ไม่มีสัจจะ....เริ่มทรยศสัตย์ปฏิญาณที่ให้ไว้

    ประเทศสอง...แผนลึกล้ำกว่า....นอกจากส่งคนของตนเข้าทำงานแล้ว...ส่งสื่อบางสื่อ สื่อบางคน คอยปั่นหัวคนไทยให้แตกแยกสามัคคีแล้ว.... ใช้วิธีก่อม็อบ ที่ชอบแสดงออกรุนแรง ...ปล่อยให้คนไทยฆ่าฟันตัดหัวกันเองแล้ว....ยังมีแผนสนับสนุนให้เพื่อนๆ รอบบ้านไทย บุกเฉือนดินแดนไทย

    แผนสนับสนุน...แขกเพื่อนบ้าน....ให้มายุยงคนไทยแบ่งแยกกันเอง เพื่อนบ้านได้เตรียมกำลังทหารเรียบร้อยแล้ว
    เพียงแต่รอเวลา...เขาไม่ใช้ทหาร แต่ใช้ชาวบ้าน ทหารไทยจึงติดกฎระเบียบทำงานได้ไม่เต็มที่...สร้างความหวาด
    กลัว ให้เกิดไปทั่วชายแดน....แต่เพื่อนบ้านบางคน ก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังลึก มีประเทศสอง แอบสนับสนุนทางอ้อม
    ผ่านทางเพื่อนแขกในดินแดนแขกกลาง… เขาจึงวางแผนจะสร้าง สุเหราที่ใหญ่สุด ในภาคใต้ของไทยเป็น
    ศูนย์กลางทางศาสนาแห่งใหม่ จึงต้องยึดมาปักธงใต้ชุมพร

    แผนสนับสนุน...ขอมเพื่อนบ้าน....โดยสนับสนุนให้ทุนพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านขอม และส่งเสริมให้ขอมมีกองทัพ
    ที่ทันสมัย อย่ารวดเร็ว...กองทัพไทยจึงตามไม่ทัน....เมื่อถึงเวลาที่ด้ามขวานทองเริ่มหัก ขอมจะอ้างประวัติศาสตร์
    โบราณ ที่ขอมเคยเกี่ยวข้องกับดินแดนขวานทองทางตะวันออกของไทยในอดีต....ขอมจึงวางแผนเข้ามาปักธงที่
    บางประกง....เกาะสีชัง และชายฝั่งตรงข้าม คือ จุดที่เขาจะนำมาอ้างได้...เพราะ ประเทศสอง เริ่มเล็งของดี
    ของมีค่า ของมีพลัง ที่อยู่ในอ่าวไทย....เมื่อ ขอมยึดสำเร็จ ประเทศสองจะมีส่วนทันที เพราะ เพื่อนขอม
    มีนายใหญ่คือ ประเทศสอง….เราคนไทยเลือดรักชาติ ต้องรีบรวบรวมประวัติศาสตร์ชาติไทย ไว้อ้างในคดีนี้...
    อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนเรื่องตัวเขา กับ ตัววิหาร

    แผนสนับสนุน...ชนกลุ่มน้อย....รอบตัวขวาน...ให้มาเฉือนดินแดนขวานทอง เมื่อเพื่อนบ้านแขก ทำงานสำเร็จ
    ....เพื่อนบ้านขอมทำงานสำเร็จ....ชนกลุ่มน้อย ที่ยังไม่มีดินแดนเป็นของตนเอง....จะได้รับการสนับสนุนลับๆ จาก
    ประเทศสอง ... พวกเขาจะรุมรอบด้านไทย....แต่ทหารไทยสูญเสียมากแล้ว อ่อนกำลังหมดแล้ว...จึงทำอะไรไม่ได้
    มาก แทบจะทำไม่ได้เลย....ขอบขวานทอง จะหักทางรั้วบ้านที่ติดอ้ายพี่ อ้ายน้อง...ทางขอบบนตัวขวาน ที่มี
    ชาวเขาเป็นพวกนักรบ รบเก่ง...และทางขอบขวานทางตะวันตกดิน....มันเป็นเวลาที่เหมาะสมของชนกลุ่มน้อย..
    .เพราะไทยหมดแรง มาหลายยก

    หาก...คนไทยยังปล่อยตัวเอง ให้ต่างชาติแอบบงการให้เราทะเลาะกัน...เขาจะออกทุนจ้างให้คนไทยเราไปรวมกลุ่ม
    ในเมืองหลวง....จำนวนมหาศาล...แล้วจ้างให้คนไทยอีกกลุ่มยิง ฆ่าคนไทยด้วยกัน
    ....พี่น้องไทยเราจะสูญเสีย
    มากมาย....จะกลายเป็นสงครามกลางเมืองพุทธศาสนา เขาจะจ้างให้ทำลายวัตถุวัฒนธรรมเก่าแก่โบราณ
    ...อาวุธจำนวนมาก จะแอบถูกส่งลำเลียงมาให้ คนไทยทรยศชาติบ้านเมือง.... สภาพบ้านเมืองเหมือนกรุงแตก
    ...เขาจะจ้าง ให้คนไทยด้วยกัน ที่ไม่พอใจคนไทยด้วยกัน....ทำลายทุกสถาบันให้หมด...
    เพื่อให้ทุกสิ่งที่แสดงความเป็นไทยหมดไป.... เมื่อสิ้นสุดเสียงปืน เสียงระเบิด...คนไทยทั้งมวล จะโศกเศร้ามหันต์กับสิ่งที่เกิดขึ้น....

    กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอก ก็สายเสียแล้ว....เพราะพวกเขาทั้งหมดทั้งเป็นคนละฝ่ายในตอนแรก ที่แท้ก็เป็นพวกเดียวกันหมด....แล้วเราจะหันไปพึ่งใคร...เพราะ หันไปทางไหน ก็มีแต่เหล่าคนหน้าเดิม ที่อยากเข้ามาสูบเลือด
    คนไทยต่อให้หมด....

    ยังไม่สายเกินไป ที่เราคนไทยจะช่วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ในตอนนี้
    เพราะ...ทั้งหมดนี้ คือ กรรม ที่กำลังจะเกิดกับคนไทยทั้งหมด
    ทางพ้นจาก กรรม...ในครั้งนี้ได้ ต้องพึ่ง "หลักสัจจะธรรม"
    คือ ...ต้องพึ่งการกระทำจากสัจจะ ของตัวเราเอง
    เราคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน
    ยังไม่สาย ที่เราจะถวายสัจจะ....ต่อในหลวง พ่อหลวงของเรา ว่า…

    …….ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ทำลายความสามัคคีของชาติไทย ตลอดชีวิต .......

    - “ หนุมาน ผู้นำสาร ”
    ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2010
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนาย .... ถิ่นกาขาว

    [​IMG]

    คำทำนายที่เคยมีมาช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
    พระอริยะสงฆ์ของไทยเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา

    ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
    พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร

    ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
    ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน

    ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
    จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา

    จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
    คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร

    ข้าราชการตงฉินถูกประณาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
    เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

    ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
    ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

    พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
    เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

    แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
    เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

    ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
    ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

    ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
    คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

    คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ...

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/hs0pdo1/2010/04/05/entry-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p6862784n1.jpg
      p6862784n1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      1,635
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2010
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    สงครามอาร์มาเกดดอน

    - สงครามอาร์มาเกดดอน เป็นเนื้อหาที่มีการจารึกอยู่ในพระคัมภีร์เก่าของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ (โอลด์ เทสเม้นท์) โดยศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ 7 ประการ หากมีเมื่อไร ให้มนุษยชาติจงรับรู้ เถิดว่าความฉิบหายวิบัติ กำลังจะเกิดขึ้นในโลกของเราแล้ว โดยในพระคัมภีร์เก่าเรียกว่า สงครามล้างโลก

    - เหตุการณ์ทั้ง 7 ประการจะเกิดก่อนมีสงครามล้างโลกนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวได้แก่

    1. มีการอาศัยศาสนาเป็นเครื่องหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนมาก

    2. มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในหลายๆ แห่งของโลก

    3. มีการเกิดสงครามระหว่างประเทศในหลายๆประเทศ

    4. เกิดสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ

    5. มีแผ่นดินไหวหลายแห่ง

    6. มีความวิปริตผันแปรทางธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศไม่เป็นไปตามที่เคยเป็น มีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า

    7. เกิดเชื้อโรคร้ายแรงระบาด รักษาไม่หายขาด

    - ณ บริเวณละติจูด 45 องศา จะกลายเป็นทะเลเพลิง ซึ่งหลายคนเชื่อว่า หมายถึง มหานครนิวยอร์ค จะเป็นสัญญาณให้ทราบว่าก่อนการเกิดสงครามอาร์มาเกดดอน รวมทั้งประเทศอาเจนติน่า จะถูกรุกราน เพราะเป็นแหล่งผลิตอาหารใหญ่ของอเมริกาใต้ ยุโรปจะมีปัญหาวิกฤต สหรัฐจะรวมจาไมก้า คิวบา ไฮติ และเม็กซิโก เข้าเป็นมลรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา กองเรือของสหรัฐอเมริกาจะถูกทำลาย รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐ เช่น อิสราเอล ตุรกี จะย่อยยับ แอฟริกาจะอดอยากแร้นแค้นมากขึ้น จีนจะรุกรานเวียตนาม ญี่ปุ่นจะมีปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก (ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ บางเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่อีกหลายเหตุการณ์ยังไม่เกิด คาดว่าจะเกิดครบ น่าจะเกิดครบในปี 2017 หรือ ปี 2560 โปรดเก็บเอกสารนี้ ไว้ตรวจสอบ)


     

แชร์หน้านี้

Loading...