ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

ก็สูตรเดียวกันกับหลายๆท่านทีสร้างแจกนะครับ ของผมสร้างมาถ้าพระธาตุขึ้นก็จะแจกให้คนทั่วไปด้วย แต่จะเอาไปให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านปฎิบัติดี เมตตาอธิษฐานให้ก่อนแจก เพื่อความสบายใจครับ ล็อตไหนที่สร้างพระธาตุไม่ค่อยขึ้น ผมก็จะนำบรรจุกรุบ้างครับ

 

รูปถ่ายพระพุทธเจ้า

โดย พี่สิทธิ์



หลายปีก่อนมีการเผยแพร่รูปภาพที่อ้างว่าเป็นรูปถ่ายพระพุทธเจ้าที่ต้นโพธิ์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยมีการกล่าวอ้างความเป็นเจ้าของฟิล์มทั้งพระและฆราวาส

อันที่จริง ภาพเขียนหรือรูปประดิษฐ์ใด ๆ ก็ตาม ที่สื่อถึงพระพุทธองค์ย่อมมีคุณค่าคู่ควรต่อการสักการะบูชาทั้งนั้น แต่การสร้างเรื่องเท็จขึ้นมานั้น ไม่ควร

รูปที่แนบมาทั้ง 2 รูป จะทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจได้ในทันทีว่าที่แท้ที่มาของรูปที่ว่าเป็นรูปปาฏิหาริย์ถ่ายติดพระพุทธเจ้าที่โคนต้นโพธิ์นั้น ก็มาจากรูปวาดนั่นเอง แต่ก็ยอมรับว่าเป็นภาพที่งดงามมากทีเดียว



รูปเขียนนี้ ไม่ปรากฏนามศิลปินผู้เขียนภาพ พระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยให้ข้อมูลผมว่าไปพบภาพเต็ม คือ ภาพพระพุทธเจ้าปางผจญมาร จากบ้านโยมคนหนึ่ง จึงขอถ่ายไว้ คาดว่าศิลปินได้เขียนภาพนี้เมื่อราว 70-80 ปีมาแล้ว

ทีนี้คงเข้าใจแล้วว่า มีผู้ Corp ภาพนี้ เอาเฉพาะพระพุทธเจ้าตรงกลาง แล้วสร้างเรื่องที่มาอันเหลือเชื่อขึ้น

สรุปคือ ชาวพุทธต้องเป็นผู้หนักแน่นในเหตุผล เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา ความเชื่อต้องอยู่บนฐานของปัญญา มิใช่ความงมงาย

อย่างไรก็ดี การจะเข้าสู่ วิมุติ ก็จำเป็นต้องอาศัย สมมุติ อย่างที่หลวงปู่สอนไว้ เพียงแต่ต้องรู้ชัดว่าสมมุติก็คือสมมุติ เปลือกคือเปลือก แก่นคือแก่น แก่นไม่ใช่เปลือก และตัองตระหนักความสำคัญของสมมุติในแง่ที่ว่า ถ้าแก่นไม่มีเปลือกก็จะมิอาจตั้งอยู่ได้นาน

 

แผ่นภาพบูชา ขนาดพกพา ทันหลวงปู่อธิษฐานจิต

มีให้บูชาที่ วัดสะแก แผ่นละ 50 บาท เด้อ

 

มันอยู่ที่กำลังใจด้วยครับพี่ วันไหนกำลังใจดี พระธาตุขึ้นสวย วันไหนใจหดหู่พระธาตุไม่ขึ้นเลยครับ ผมถือเป็นการปฎิบัติธรรมอย่างหนึ่งครับผม ถือว่าสู้กับตัวเองน่ะครับ จะหวังกับมวลสารอย่างเดียวบ่ได้แล้วครับ

 

ไปเจอมา เป็นประสบการณ์ที่ลูกศิษย์ หลวงตาม้า นำมาเล่าให้ฟังครับ จากเวปสบายใจบอร์ด ลองอ่านกันดูนะครับ


<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>prosth
ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า

ออฟไลน์

กระทู้: 7




</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>สดๆร้อนๆ ประสบการณ์ประคำขาวของหลวงตา “ ถูกรุมยิงด้วยอาวุธสงคราม 6 กระบอก “
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2010, 12:08:15 PM »

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20>อ้างถึง </TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>สดๆร้อนๆ ประสบการณ์ประคำขาวของหลวงตา

“ ถูกรุมยิงด้วยอาวุธสงคราม 6 กระบอก “

ปรกติก็จะมีคนมาขอพระหลวงตากับผมอยู่เรื่อยก็แจกๆไปไม่ค่อยได้สอบถามอะไร แต่เมื่อวานนี้มีพี่พยาบาลที่ทำงานอยู่ดีๆก็มาขอประคำขาว จะให้พระผงจักรพรรดิแต่ไม่มีประคำก็ไม่เอา ให้พระบูชาผงจักรพรรดิองค์ใหญ่ๆ ก็ไม่เอา ก็เลยสอบถามว่าเพราะอะไร ( ปีก่อนสามีแกที่เป็นทหาร ถูกส่งไปปฏิบัติงานชายแดนภาคใต้ ก็ไม่เห็นมาขอพระ คนเชียงดาวแท้ๆ ใกล้เกลือกินด่าง ) แกเล่าว่าจะเอาไปให้สามี เพราะเพิ่งมีประสบการณ์ หน่วยเฉพาะกิจทหาร ออกซุ่มจับยาเสพติดบริเวณชายแดนแต่เผอิญมีชาวบ้านออกหาของป่าและมีปืนติดตัวด้วย ทหารเรียกให้หยุด แกไม่หยุดแถมยิงตอบโต้ ทหารเลยยิงถล่มด้วยอาวุธประจำกายใส่ชาวบ้านคนนี้ แต่ผลปรากฏว่า ปืน 6 กระบอก ไม่สามารถทำอะไรได้เลยทั้งๆที่เป็นระยะยิงแค่ประมาณ 20 เมตร และเป็นตำแหน่งจุดซุ่มซึ่งปรกติจะถูกวางให้เป็น killing zone สร้างความงุนงงแก่ทั้งคนยิงและคนถูกยิง อาวุธประจำกายทหารไม่ HK ก็ M16 ละครับ ไม่ใช่ปืนแก๊ป จากการตรวจสอบร่างกายภายหลังชาวบ้านที่ถูกยิงพบว่ามีเพียงรอยขีดถลอกที่แขนนิดหน่อยซึ่งเกิดจากปืนของแกเองที่ยิงไปโดนไม้แล้วสะเก็ดกระเด็นใส่ ส่วนที่คอก็

” ประคำขาวห้อยพระผงจักรพรรดิที่หลวงตาแจกฟรีนี่หละครับ ”



</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>prosth ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า

ออฟไลน์

กระทู้: 7



</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: สดๆร้อนๆ ประสบการณ์ประคำขาวของหลวงตา “ ถูกรุมยิงด้วยอาวุธสงคราม 6 กระบอก “
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2010, 12:09:05 PM »
</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20>อ้างถึง </TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>ไหนๆก็เล่าเรื่องประคำขาวแล้ว ประคำสีน้ำตาลก็ไม่น้อยหน้านะครับ เอาสักนิด หลวงตาเคยแจกประคำสีน้ำตาลห้อยพระหลวงปู่ทวด เนื้อผงกลมขนาดใหญ่เหมือนจตุคาม มีสีแดงกับสีดำ ด้านหน้ามีแต้มผงจักรพรรดิและเกศาหลวงตา ทำบุญกฐิน 500 บาท ได้รับ 1 องค์ และส่วนหนึ่งหลวงตาให้หลวงพี่โยธิน วัดป่าธาราภิรมณ์ ( ริมปิง) ไปแจก ท่านก็แจกจริงๆไม่ว่าทำบุญเท่าไรก็แจก แต่ก็ยังมีเหลือจนมาวันหนึ่งทหารค่าย ร.7 แห่กันมาขอไปจนหมดวัด เลยสอบถามกันได้ความว่าเอาไปลองยิงกันแล้วยิงไม่ออก เรื่องนี้หลวงพี่ท่านหนึ่งที่เคยอยู่วัดริมปิง ท่านเล่าให้ฟังตอนที่มาโรงพยาบาล ผมเลยกระซิบ ถามไม่เหลือบ้างเลยหรือครับ ท่านว่าหมดจริงๆ แต่มีติดย่ามอยู่องค์หนึ่งพิเศษกว่าองค์อื่น คือหลังฝังพระธาตุพระสิวลีด้วย ผมก็เลยได้รับความเมตตาให้มาบูชา อย่างไม่คาดฝัน อิอิอิ

( รุ่นนี้ปัจจุบันที่ถ้ำยังมีเหลืออยู่นะครับ ผมเองก็ทำบุญไว้เกือบสิบองค์ )

ข้อมูลเหล่านี้ผมไม่มีเจตนาโปรโมทวัตถุมงคลแต่ประการใด เพียงแต่อยากให้ลูกศิษย์หลวงตาได้เชื่อมั่นในองค์หลวงปู่หลวงตาของเรา ว่าท่านไม่ทอดทิ้งในยามคับขันท่านยังสงเคราะห์ดูแลอยู่เสมอครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ความเป็นห่วงของหลวงปู่ที่มีต่อประเทศชาติ



เมื่อคราวที่เกิดการปะทะกันระหว่างไทยกับลาว ซึ่งถือว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ที่หมู่บ้านร่มเกล้า อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก

เหตุการณ์ก็รุนแรงและเริ่มส่อเค้าการก่อตัวของสงคราม ผู้เขียนได้ติดตามข่าวสารทั้งทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ รู้สึกเป็นห่วงพวกทหารหาญมาก คิดอยู่ในใจว่า จะกราบเรียนเรื่องนี้กับหลวงปู่ดีหรือไม่ เพราะอย่างน้อยท่านจะได้ช่วยอธิษฐานแผ่เมตตา แต่ก็คิดไม่ตก เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องทางโลก
วันหนึ่ง ผู้เขียนตกลงใจว่า อย่างไรก็ตาม จะกราบเรียนหลวงปู่ให้ได้ จึงตัดสินใจไปนมัสการท่าน แต่ผู้เขียนยังนั่งเงียบอยู่

หลวงปู่ "เอ้า มีเรื่องอะไรที่จะคุยด้วย"

ผู้เขียนสั่นหน้า "ไม่มีอะไรหรอกครับ"

หลวงปู่ "ทำไมไม่มี ก็เรื่องลาวกับไทยไง รบกันไปถึงไหนแล้ว"

ผู้เขียนเห็นเป็นโอกาสอันดี จึงรีบเรียนชี้แจงให้ท่านทราบถึงสถานการณ์ รวมทั้งการได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์

หลวงปู่

"เมืองไทยไม่เป็นไรหรอก ขอบารมีพระ บารมีเทวดา ช่วยคุ้มครองเดี๋ยวก็เลิกกัน การสู้รบมันต้องสูญเสียทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ"

ในวันนั้นมีคนนำพระประธานขนาดใหญ่ไปถวายหลวงปู่

ท่านบอกว่า "องค์ใหญ่ไม่รู้จะตั้งตรงไหน ข้าให้เขาไปถวายสมภาร สมภารบอกให้มาถวายข้า"

ขณะที่พวกเรากำลังดื่มน้ำชาอยู่ หลวงปู่ท่านมองมาที่พระแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานโดยไม่หลับตาเป็นเวลาประมาณ ๑๕ นาที ที่น่าอัศจรรย์คือ ตาท่านไม่กระพริบเลย ผู้เขียนเลยนั่งอธิษฐานตามท่าน พอครบเวลา ท่านกล่าวว่า

"นั่งดูซิ สว่างหรือเปล่า ข้าอธิษฐานเอาหลวงพ่อองค์นี้ไปช่วยประเทศชาติคลุมหมดทั้งประเทศ ขอให้หลวงพ่อช่วย แล้วก็ฝากเทวดาให้ช่วยเหลือด้วย อันที่จริงข้าก็ให้ทุกๆ วันไม่เคยขาด ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็เลิกกัน"

หลังจากนั้นประมาณ ๑ อาทิตย์ มีการเซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างไทยกับลาว ทำให้ผู้เขียนรู้สึกซาบซึ้งในความรักและห่วงใยของหลวงปู่ที่มีต่อประเทศชาติและทหารหาญของประเทศเป็นอย่างยิ่ง

 

ลงพระเครื่องบ้าง

พระพิมพ์วัดตะไกร ปี 20 (หลังจีวรติดเองนะครับไม่ได้มากับพระ)

 

พระพิมพ์วัดตะไกร ที่ผมเคยเห็นก็มีแบบเป็นสีๆด้วย แต่ไม่รู้จะมีตามหลักสากลไหม พี่สุขุม ช่วยแวะมาตอบด้วยนะครับ

ขอนำภาพจาก คุณ Rin เวบอุดร 108 เอามาลงให้ดูกันครับ

 

ยินดีครับที่ได้เผยแพร่ธรรมะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ครับ