บันทึกประหลาด

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย omio, 13 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เมื่อจดหมายรัก ประหลาดได้ส่งไปถึงมือหล่อนแล้ว ฉันก็เฝ้าคอยคืนคอยวันจิตใจปั่นป่วน ยิ่งวันเดือนหงายก็ยิ่งกลุ้มใจไม่ได้หลับนอน ได้แต่จ้องมองดูห้องบนตึกสีตองอ่อนชั้นบนก็ปิดเงียบ เสียงเปียโนก็มิได้ยิน จิตใจมันว้าวุ่นไม่มีความสงบ นึกกลัวโน่นกลัวนี่ ให้กระสับกระส่าย อยากจะเห็นหน้าของหล่อนใจแทบขาดใจ

    ความรักมันมีอานุภาพเช่นนี้ อีกใจหนึ่งก็นึกไปว่าบัดนี้หล่อนได้รู้ความจริงแล้วว่า เราเป็นคนหลักลอยต้องมาอาศัยบ้านเขาอยู่ อาศัยข้าวเขากิน หล่อนคงดูถูกฉัน ไม่เจียมตัวยังจะมีหน้าเสมอมารัก หล่อนคงเห็นฉันเป็นตัวไส้เดือน กิ้งกือเป็นที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงหล่อนคงหัวเราะเยาะเย้ยต่อหน้าฉันว่า รู้ตัวว่าเป็นคนยากจนแล้วไม่เจียมตัว หวังเอื้อมมาเด็ดดอกฟ้า

    ฉันนึกเช่นนี้แล้วฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา คล้ายกับว่าหล่อนมายืนอยู่ข้างหน้า หัวเราะใส่หน้าฉันจริงๆ เพียงแต่ความนึกคิด ทำให้ฉันเกิดหยิ่งในศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายขึ้นมา ฉันจะไม่ยอมง้อผู้หญิงที่เย่อหยิ่งจองหองบูชาเงินเป็นพระเจ้า ดูถูกคนยากจน ในชาตินี้ฉันจะหนีผู้หญิงพวกนี้ไปให้ไกลที่สุด ฉันจึงคิดว่าจะปรับความรู้สึกให้ออกไปเสียก่อนที่จะถอนตัวไม่ขึ้น


    ฉันได้พยายามหักใจเมื่อนึกถึงเหตุผล แม้ว่าความรู้สึกได้เกาะกินหัวใจ และภาพของหล่อนได้หลอกฉันอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันก็พยายามปลดออกคล้ายกับปลดรูปออกจากข้างฝาแต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะฉันกลับมาคิดนึกว่า นี่กำลังจะบ้าคิดหลอกตัวเอง หล่อนต้องเป็นคนดี หล่อนจะไม่ทำอย่างนั้น เรายังไม่ได้ทราบความจริงจากหล่อนเลย เราเพ้อไปคนเดียวเหมือนคนเสียสติ
     
  2. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    กำลังอ่านสนุกเลยค่ะ รีบมาเล่าต่อนะคะ
     
  3. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
     
  4. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ต่อมาก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับตัวฉัน คือ วันหนึ่งฉันจำได้ว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาในเขตบ้านที่ฉันอาศัย ถามหาฉันว่ามีธุระสำคัญอยากจะพบ เมื่อฉันได้เดินออกไปพบ เขาก็วางท่าทางใหญ่โตแล้วพูดแนะนำตัวเองว่า เขาเป็นพี่ชายของนางสาวนวลน้อยหญิงสาวข้างบ้านที่ฉันหลงรัก เขาแสดงกิริยาและท่าเป็นนักเลงเต็มตัว ความจริงฉันไม่สนใจในท่าทาง

    แต่ฉันก็ไม่สบายใจ กลัวจะมีเรื่องกระทบกระเทือนถึงนายฝรั่งทั้งสองที่มีพระเดชพระคุณต่อฉัน ที่ฉันเคารพนับถือ ทั้งกิริยาท่าทางของนายคนนี้ก็หยาบคายขาดความสุภาพ ไม่สมกับเป็นพี่ชายหญิงสาวชึ่งเป็นผู้มีกิริยานุ่มนวลอ่อนหวานเรียบร้อย ฉันจึงพูดไปว่า

    “คุณมีธุระอะไรกับผมหรือ”

    เขาตอบห้วนๆ ว่า “ธุระมีแน่ ถ้าฉันไม่มี ฉันก็ไม่ลดตัวมาหาคนอย่างแกหรอก ฉันมาที่นี่ก็จะมาเตือนแกให้รู้ไว้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายว่า ฉันห้ามแกอย่างเด็ดขาดไม่ให้ไปยุ่งกับน้องสาวของฉัน ถ้าแกไม่เชื่อคำเตือนของฉัน แกจะเจ็บตัวจำเอาไว้ อย่าได้นึกว่าฉันขู่และคนอย่างแกก็ควรดูสารรูปเสียก่อน ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงตัวเองอยู่แล้ว บ้านช่องยังต้องอาศัยเขาอยู่ ยังบังอาจเอื้อมรักน้องสาวของฉัน มันน่าขัน เราผิดกันราวฟ้ากับดิน จำเอาไว้นะฉันไม่พูดมาก”

    พูดแล้วชายผู้นั้นเดินออกไปจากบ้านอย่างยโส ไม่เหลียวหลังมามองดูฉันอีก ฉันฟังคำพูดแล้วตะลึงและเจ็บแสบในใจฉันได้แต่ฟัง มิได้โต้ตอบประการใดเพราะทุกอย่างเป็นความจริง ฉันมันก็ยากจนจริงๆ แล้วทั้งยังมีความรักต่อสาวนวลน้อย ทั้งๆ ที่อาศัยบ้านเขาอยู่สมกับเขาดูถูกแล้ว แต่บางครั้งใครมาพูดความจริงเราก็โกรธ

    แม้เราจะยากจนเราก็ไม่ต้องการให้ใครมาดูถูกว่าใส่หน้า อยากจะชกหน้าสั่งสอนคนปากโว แต่ฉันโกรธไม่ได้ เพราะฉันเห็นแก่เจ้าของบ้านที่ฉันและแม่อาศัยอยู่ ไม่อยากนำความเดือดร้อนมาสู่ผู้มีพระคุณ ที่ได้ให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่เราสองคนแม่ลูกตลอดมา เป็นบุญคุณที่ล้นเหลือที่ฉันไม่สามารถจะตอบแทนได้

    ฉะนั้น ฉันจึงต้องอดทนไม่อยากมีเรื่องขึ้น จึงเป็นฝ่ายนิ่งต้องหวานอมขมกลืน คิดว่าฉันจะหักใจไม่นึกถึงหล่อนและรักหล่อนอีก เพราะเรื่องที่พี่ชายหล่อนมาต่อว่า และบังคับให้ฉันอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับหล่อนเด็ดขาดเช่นนี้ ก็เห็นจะทายไว้ว่า หล่อนต้องเอาจดหมายของฉันส่งไปถึงหล่อนนั้น ไปฟ้องพี่ชาย หรือให้พี่ชายของหล่อนอ่าน

    ต้นเหตุก็อย่างที่ฉันคิดนี่คงไม่ผิดแน่ เคราะห์ดีในวันที่พี่ชายของหล่อนมานั้น บังเอิญนายฝรั่งทั้งสองสามีภรรยาไม่อยู่บ้าน และคงไม่รู้เรื่องอะไร มิฉะนั้นฉันก็คงอับอายขายหน้าจนไม่อยากมองหน้าใคร เพราะฉันนึกว่ามันเป็นเรื่องบัดสี น่าอดสูใจ

    คนในบ้านก็มีแม่ฉันเป็นคนซักรีด และเป็นคนใกล้ชิดนายทั้งสอง นอกจากนั้นก็ยังมีป้าแฟงเป็นคนมีหน้าที่ทำกับข้าวหรือเรียกว่ากุ๊ก และมีเด็กแจ๋วเป็นคนมีหน้าที่ยกอาหารและทำงานเช็ดกวาดหรือเป็นกุลี นอกนั้นก็ยังมีนายหมัดแขกชวาเมื่อก่อนขับรถม้าเลี้ยงม้า แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นรถยนต์แกก็ขับรถยนต์และเป็นคนทำสวน ตัดหญ้าสนาม อาหารการกินต่างหากเพราะเป็นอิสลาม ส่วนฉันเป็นผู้ช่วยเหลืองานทั่วไป ทุกคนรักใคร่เอ็นดูฉัน

    นายฝรั่งทั้งสองสามีภรรยาเป็นคนดี มีความรู้ทางภาษาไทยทางหนังสือและศัพท์สูงๆ ตลอดการพูดจาอ้างเหตุผลทุกอย่างมีคติ อย่างน่าเคารพนับถือ และคอยหาเหตุผลสั่งสอนจึงทำให้คนในบ้านอยู่กันด้วยความสุขไม่เบียดเบียนกัน ต่างก็มีความเคารพนับถือรักใคร่ เพราะไม่มีคนขี้อิจฉาริษยาและอยู่กันด้วยความเห็นอกเห็นใจ ฉะนั้น ถ้าใครได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในร่มไม้ชายคาของนายฝรั่งทั้งสองแล้วก็ไม่มีใครอยากจะไปอยู่ที่อื่น เพราะที่นี่มีความร่มเย็นเป็นสุข ทุกคนจึงมีความรักใคร่เคารพบูชาในความดีของนาย
     
  5. fay10

    fay10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,760
    มาติดตามอ่านเช่นเคยค่ะ
     
  6. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ขอบคุณค่ะ ๆๆ
     
  7. ปรีชา_พงษ์

    ปรีชา_พงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +495
    รอติดตามอ่านครับ
     
  8. มอน

    มอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +153
    แล้วทำมายต้องขยักไว้ด้วย รีบๆปล่อยออกมาให้หมดเถอะน่ะ
     
  9. fay10

    fay10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,760
    แม้คงทนไม่ไหวละซิค่ะฝ้ายก็เช่นเดียวกันค่ะ เฮอะๆๆ
     
  10. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ฉะนั้น สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดก็คือสิ่งใดที่จะทำให้นายเดือดร้อนเป็นที่กระทบ กระเทือนแล้วฉันไม่ยอมทำเป็นอันขาด และฉันคิดว่า การที่ฉันถูกพี่ชายของสาวที่ฉันหลงรักต่อว่าเอานั้น คงจะไม่เดือดร้อนถึงนาย หากฉันจะพยายามเลิกติดต่อกับหล่อน แต่แล้วเย็นวันหนึ่งนายฝรั่งกลับมาบ้าน บอกว่า “นายแม็กหลังอาหารแล้วฉันอยากจะพูดอะไรกับเธอสักหน่อย”

    พอนายพูดเท่านั้นฉันก็ตกใจคิดว่า คราวนี้คงมีเรื่องแน่ นายเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะ ปลอบฉันด้วยการตบหลังเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องตกใจ ไม่มีอะไรร้ายแรงสำหรับเธอ มีแต่เรื่องดี”

    ฉันได้ฟังเช่นนั้นก็เบาใจ เมื่อถึงเวลาฉันก็ขึ้นไปห้องชั้นบน เพื่อพบกับนายตามต้องการ นายได้ยิ้มให้กำลังใจฉันแล้วพูดขึ้นว่า “เราเห็นจะต้องสนทนากันนานสักหน่อย นั่งบนเก้าอี้ให้สบาย”

    เมื่อฉันได้นั่งลงด้วยความตื่นเต้น ไม่รู้ว่านายจะมีเรื่องอะไรพูด แต่ก็ยังเข้าใจที่นายรับรองว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร เมื่อนายยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า

    “ฉันรู้สึกว่า นายแม็กหมู่นี้มีกริยาแสดงความไม่สบายใจ ฉันจึงอยากทราบต้นเหตุที่ทำให้นายแม็กไม่มีความสบายใจเนื่องจากอะไร ถ้าฉันช่วยได้ก็บอกมาฉันยินดีจะช่วยเหลือ เพราะเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เมื่อมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นก็ควรจะได้รับรู้ อย่าปล่อยให้สายเกินไป”

    ฉันได้ฟังนายฝรั่งพูดขึ้น รู้สึกว่านายได้เอาใจใส่สังเกตดูแลฉันอย่างใกล้ชิด อดที่จะนึกถึงพระคุณมิได้ฉันจึงพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณนายอย่างไรถูก ที่คอยเอาใจใส่ทุกข์สุขในตัวผม ทั้งให้ความอุปการะเราสองแม่ลูก ได้พึ่งบุญอยู่เย็นเป็นสุขในบ้านแล้ว ผมยังจะนำความเดือดร้อนมาสู่ผู้มีพระคุณมากผมพูดอะไรไม่ออก”

    นายฝรั่งยิ้มแล้วยกมือขึ้นห้าม “นายแม็กพูดเช่นนั้นไม่ถูก ฉันอยากจะพูดว่านายแม็กเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวของเรานี้ ก็เพราะความดีของนายแม็กกับแม่ผู้มีความดีอยู่ในตัวเอง ทั้งแม่ของนายแม็กก็เป็นคนดีมีความซื่อสัตย์สุจริต และขยันในการงานความดีอันนี้ จึงเป็นการชักนำให้เราได้มาอยู่ร่วมกัน เพราะฉันชอบนิสัยยกย่อง นิยมผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความขยันอดทนคุณสมบัติอันนี้มีอยู่ในตัวของนายแม็กกับแม่ของเธอ ฉันจึงเกิดชอบและเกิดมีความเมตตาและสงสาร แหม่มและฉันรักเธอมาก เธอเป็นเด็กดี ฉะนั้น เธอจะไว้ใจเราได้ว่าไม่เป็นภัยกับเธอ เมื่อมีสิ่งใดเล่าบอกให้เราทราบ อย่าปิดบัง คิดว่าเธอคงเข้าใจในคำพูดของฉันดี”

    เมื่อได้ยินคำพูดของนายฝรั่งผู้หวังดีและได้มาไตร่ตรองดูแล้ว จึงหักห้ามความอายและความอดสูใจ เล่าความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายฝรั่งฟังจนหมดสิ้น เมื่อนายฝรั่งฟังแล้วก็นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอามือตบบ่าฉัน แล้วพูดว่า

    “ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรอาย และเสียหายอะไร คนไทยส่วนมากชอบคิดอย่างเดียวกัน ขอบใจที่เล่าให้ฉันฟัง”

    นายฝรั่งทำท่าคิดแล้วพูดว่า “นายแม็กยังมีอายุน้อยเกินไป พวกเราฝรั่งเรียกว่ายังเด็กมาก ความคิดรับผิดชอบทางครอบครัวยังน้อยมาก แต่มากด้วยอารมณ์ที่รุนแรงเหมือนชายหนุ่มทั่วๆ ไป เมื่อรักแล้วก็มุ่งหวังจะให้ได้ตามอารมณ์ ไม่ได้คิดถึงชีวิตอนาคตว่าจะเกิดความลำบากยากแค้นติดตามมาภายหลัง เรามีแต่ความรักอย่างเดียวเห็นจะไม่รอดแน่ ฉะนั้น พวกฝรั่งก่อนที่เขาจะมีครอบครัว ก็จะต้องคิดมากคิดถึงอนาคตจะต้องมีลูก ต้องสร้างฐานะให้มั่นคงมีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว เป็นเวลาไม่ใช่น้อย
     
  11. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ฉะนั้น พวกฝรั่งเราส่วนมากจึงแต่งงานกันเมื่ออายุมากแล้วไม่ต่ำกว่าสามสิบปี เพราะส่วนมากใช้เวลาที่ก่อสร้างตัวเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวได้ตลอดไปไม่ให้รับความลำบาก ฉะนั้น ถ้านายแม็กเชื่อฉัน จงสร้างฐานะของเราให้มั่นคงก่อน มิฉะนั้นเราก็จะมองดูอนาคตไม่สดใสเราจะเสียใจภายหลังว่า ความรักอย่างเดียวไม่ทำให้เรามีความสุข มีแต่ความทุกข์

    ฉันรู้ว่านายอนันท์พี่ชายของนางสาวนวลน้อยได้มาพูดดูถูกนายแม็ก แม้เขาพูดไปโดยไม่มีความหมาย แต่ก็ตรงความจริง อันคนจนถ้าทำอะไรเกินควรก็เป็นที่ดูถูกดูหมิ่น นายแม็กเอาไปคิดดูว่าคำพูดของฉันมีประโยชน์บ้างไหม ถ้านายแม็กเห็นจริงอย่างฉันพูดก็รีบสร้างฐานะให้มีหลักฐานเป็นปึกแผ่นเสีย ก่อน อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องมีเมีย

    ถ้าอยากทำงานเพื่อสร้างหลักฐาน นายแม็กก็ต้องมีความอดทนไม่เห็นแก่ความยากลำบาก ฉันจะฝากงานแนะนำให้นายแม็กไปทำงานอยู่กับฝรั่งเพื่อนรักของฉัน เขาอยู่ทางใต้เป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัททำยางทำเหมืองแร่เป็นคนใจดี เขาเคยจดหมายมาปรับทุกข์กับฉันว่า หาคนดีๆ ใช้ไม่ค่อยได้

    เขาเคยขอให้ฉันหาคนดีๆ มีความรู้และซื่อสัตย์สุจริตขยันและมีความอดทน เขาว่าถ้าได้คนอย่างนี้สำหรับเงินเดือนเขาบอกว่าไม่ต้องพูดถึงเขาจะ จ่ายอย่างงาม ฉันว่านายแม็กเหมาะสมกับงานนี้มาก เพราะมีทุกสิ่งที่เขาต้องการ คิดว่านายแม็กไปอยู่ ๔-๕ ปี ก็คงจะมีหลักฐานทั้งตัวได้ คิดดูให้ดี ถ้าสนใจบอกให้ฉันรู้”


    เมื่อฉันได้มาคิดดูคำพูดของนายฝรั่งแล้ว ล้วนแต่มีเหตุผลที่จะชักนำไปทางที่ดี เมื่อหวนไปคิดถึงความรักว่าหากฉันจะหุนหันพลันแล่น สมมุติว่าได้ตัวหล่อนมาเป็นคู่ครองแล้วหากเป็นไปได้ หากได้อยู่ด้วยกันเมื่อไม่มีเงินมีทองจะเลี้ยงดูกันเราคงไปไม่รอด ฉันคิดทบทวนดูหลายครั้งหลายหน ความรักที่ไม่มีเงินจะใช้จ่ายพอที่จะบำรุงบำเรอการครองชีพ เป็นความรักที่ต้นไม่โปร่งไม่ถาวรยั่งยืน ต้องเกิดความทุกข์ภายหลังแน่นอน แม้จะรู้เช่นนี้ฉันยังตัดสินใจไม่ถูก

    แม่ของฉันก็ได้ถามว่า “นายพูดอะไรกับลูกบ้าง” ฉันได้เล่าให้แม่ฟังถึงเรื่องนายชี้แจงเหตุผลให้ฉันนำมาคิด

    แม่จึงพูดว่า “นายฝรั่งท่านมีความรู้ จะพูดอะไรแล้วย่อมมีเหตุผล ฉะนั้น ควรจะเชื่อถือเป็นครูบาอาจารย์ ทำตามคำของท่านเพราะเป็นความหวังดีและเป็นผู้มีบุญคุณต่อเรามาก แม่อยากให้ลูกพิจารณา อย่าชิงสุกก่อนห่ามอย่างโบราณว่า ถ้ามีความรักอย่างเดียว แต่ท้องมันหิวเราก็หาความสุขมาไม่ได้”

    ฉันฟังแม่พูดแล้วก็นิ่ง เป็นธรรมดาหนุ่มสาวเอาแต่อารมณ์ถือความรักเป็นอมตะ แม้มีความรักแล้วแม้จะอยู่ร่วมกันจะยากจนกัดก้อนเกลือกินกับข้าว ก็คิดว่ามีความสุขสมกับว่าความรักทำให้ตาบอด ไม่ลืมหูลืมตางมงายกล้าเอาชีวิตอนาคตเป็นเดิมพันเป็นการเสี่ยงภัย ฉันเองก็เคยคิดถึงความรักและความสุข เห็นหล่อนสวยงามหยดย้อยที่สุดในชีวิต คิดว่าหากจะได้อยู่ร่วมห้องกับหล่อนเพียง ๗ วัน แม้ตัวจะตายก็สุขใจเป็นความหลงใหลงมงายในความรัก

    บัดนี้ฉันรู้สึกเหมือนตื่นจากความฝัน เมื่อมีผู้มาปลุกให้ตื่นจากความฝัน เมื่อมีผู้มาปลุกให้ตื่นจากความงมงาย รักษาตาให้หายบอด มองเห็นเหตุผลแจ่มแจ้งจากภัยอนาคตที่จะเกิดขึ้น สำหรับผู้ยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว ขาดสิ่งส่งเสริมความสุข ฉันจึงได้พยายามหักใจที่จะลืมหล่อน เพื่อชีวิตในอนาคตที่ฉันจะก่อตั้งหลักฐานมั่นคง เป็นหลักประกันก่อนที่จะมีครอบครัว และเดินทางไปผจญชีวิตตามที่นายฝรั่งได้แนะนำ จึงอยู่ในระหว่างตัดสินใจ ฉันได้จำคำเตือนเป็นหลักไว้สองคำ “จงพยายามตั้งหลักฐานให้มั่นคงก่อนจะมีครอบครัว” และ “อย่าชิงสุกก่อนห่าม”
     
  12. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    วันต่อมาฉันได้รับ จดหมายฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายของนางสาวนวลน้อยที่ฉันหลงรัก ควรจะเป็นจดหมายที่ฉันตื่นเต้นดีใจ เพราะเป็นจดหมายฉบับแรกในชีวิตของฉัน ที่ได้รับจากหญิงที่ฉันรักและหลงใหลใฝ่ฝันถึงแทบจะไม่เป็นอันกินอันนอน แต่บัดนี้ความดีอกดีใจนั้นได้ลดน้อยถอยลง ไม่มากเท่าที่ควร ฉันยั้งความรู้สึกไว้เพราะคำเตือนของนายฝรั่งที่ว่า “ควรสร้างหลักฐานให้มั่นคงเสียก่อนค่อยมีครอบครัว” และคำเตือนของแม่ก็บอกว่า “อย่าชิงสุกก่อนห่าม”

    ฉันได้พิจารณาดูตัวเองแล้ว ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีภรรยา ไม่พร้อมที่จะต้อนรับเหตุการณ์ เพราะฉันยังยากจนไม่มีหลักฐาน ฉันขืนตามใจตามอารมณ์ตัวเองก็เท่ากับทำลายวิถีชีวิตในอนาคตที่จะรุ่งเรือง ต่อไป ให้อับเฉาย่อยยับลงไปความรักที่ร้อนแรง เมื่อแรกๆ ก็ค่อยๆ เย็นลงเพราะนึกถึงฐานะ ถึงเช่นนั้นก็ยังรู้สึกดีใจมากที่สุดในชีวิต ในจดหมายมีใจความตอนหนึ่งว่า

    “..... ฉันรู้สึกเสียใจที่พี่อนันท์ได้ไปหาคุณ กล่าวคำที่ไม่สุภาพตามนิสัยของเขา ฉันเพิ่งจะรู้ และฉันไม่ทราบว่าเขาละลาบละล้วง เอาจดหมายฉันซุกซ่อนไว้ไปอ่านได้อย่างไร การมาของพี่อนันท์นั้น ฉันไม่รู้เห็นด้วยเลย เมื่อฉันทราบว่าพี่อนันท์ได้ไปหาคุณ และแสดงกิริยาเกรี้ยวกราดต่อคุณซึ่งไม่บังควร ทำให้ฉันเกิดความสงสารคุณขึ้นมา ต้องขอโทษที่ฉันไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน

    ฉันชอบที่คุณเล่าความจริงให้ฟังไม่มีอะไรปิดบัง ชายอย่างคุณนี้หาได้ยาก มีแต่พวกที่คอยหลอกลวงอวดอ้างเป็นใหญ่เป็นโต อุดมด้วยทรัพย์สินเงินทองเป็นส่วนมาก นี่คุณเป็นคนพูดตรงไปตรงมาอย่างนี้ ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่รู้ใจเขา แต่สำหรับฉันขอรับสารภาพว่าฉันชอบชายชนิดนี้ เพราะเป็นคนเข้มแข็งอดทนต่อความลำบาก

    แต่คนเราก็ต้องมีหลักประกันความสุขสบายในอนาคต ฉะนั้น อยากจะขอร้องให้คุณพยายามใช้ชีวิตเพื่อสร้างหลักฐานให้มั่นคง ได้ทราบว่าคุณก็ยังหนุ่มมากทั้งมีวิชาความรู้พอที่จะประกอบการงานเป็นหลักฐานได้ จงใช้เวลาอดทนสักพักไม่นาน ก็คงจะได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากมองดูโลกได้เต็มตา เมื่อนั้นแหละทุกสิ่งทุกอย่างที่มุ่งหวังก็จะสำเร็จเรียบร้อยตามความปรารถนาของคุณ


    ฉันจะภาวนาเอาใจช่วย คุณคงจะเห็นด้วย คนเราส่วนมากถือเงินเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ในชีวิตสำหรับผู้หญิงในโลกนี้ ส่วนมากเห็นใครยากจนก็มีแต่ความกล่าวร้ายนินทา ถ้าดีเกินไปก็เกิดความอิจฉาริษยา มันเป็นธรรมดาของโลกที่ห้ามกันไม่ได้ ฉะนั้นขอให้สร้างตัวคุณเองและเพื่ออนาคต.....”
     
  13. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เมื่อฉันได้อ่านแล้ว ก็รู้สึกซาบซึ้งอัศจรรย์อย่างประหลาด เพราะฉันได้ถูกคนแนะนำสั่งสอนคราวเดียวกันตั้งสามคน แต่แล้วฉันก็ไม่มีโอกาสได้พบเห็นหญิงสาวข้างบ้านอีกเลย แม้จะคอยจ้องมองเช้าเย็นกลางคืน เห็นจะเป็นเพราะผู้ปกครองไม่ยอมรับกลับมาบ้านอีก เมื่อได้ทราบว่าเราจะมีการติดต่อกัน แม้ว่าฉันจะหักใจแล้วก็ตาม เมื่อได้รับจดหมายก็อดที่จะคิดถึงหล่อนมิได้ ที่สุดฉันก็ตกลงใจเดินทางไปทำงานภาคใต้ ตามที่นายฝรั่งได้ช่วยเหลือฝากฝัง และมีจดหมายของนายแนะนำติดตัวไปด้วยก่อนที่จะเดินทาง นายฝรั่งแสดงความยินดีกับฉันว่า

    “นายแม็กเธอเป็นคนดีมาก ถ้าฉันมีลูกสาวฉันยกให้เธอเลย”

    ชีวิตทางภาคใต้ ฉันได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้จัดการที่เป็นฝรั่ง ฉันได้รับความไว้วางใจในกิจการงานอย่างดีคล้ายกับฉันได้เคยทำงานอยู่ร่วมกันนานปี ฉันมีรายได้งดงาม ฝรั่งผู้จัดการได้เล่าให้ฉันฟังภายหลังว่าเขาได้รับจดหมายยกย่องความซื่อ สัตย์มั่นคง และความขยันของฉันโดยนายฝรั่งเป็นผู้เขียนฝากฝังมา เขาจึงพอใจมากเพราะผู้เขียนจดหมายแนะนำสนับสนุนมานั้นเป็นคนดีเชื่อถือได้ ฉะนั้นไม่มีอะไรสงสัยเขาจึงปฏิบัติต่อฉันเหมือนคนรู้จักกันมาก่อน ไม่ใช่คนใหม่หรือคนแปลกหน้า ฉันเป็นหนี้บุญคุณนายฝรั่งสองสามีภรรยาอีกเปลาะหนึ่ง

    การงานของฉันได้ดำเนินไปอย่างพอใจ ไม่ช้าฉันก็เรียนรู้กิจการงานในหน้าที่อย่างช่ำชอง ฉันเอาใจใส่มุ่งหวังสร้างฐานะ เมื่อฉันได้เงินก็นำไปลงทุนหาผลประโยชน์ที่มองเห็นว่าจะมีผลรุ่งเรืองต่อไป ทำให้เกิดเพิ่มพูนทรัพย์สิน ทั้งผู้จัดการฝรั่งเป็นผู้ช่วยเหลือให้ความเมตตากรุณาฉันไม่ผิดกับนายฝรั่งสองสามีภรรยา ทำให้ฉันลืมตาอ้าปาก มองดูโลกได้อย่างเต็มตาไม่น้อยหน้าใคร

    ฉันไม่ต้องห่วงแม่ เพราะนายฝรั่งได้ให้ความสุขสบายอย่างเพียงพอ และทราบข่าวว่าระยะหลังนี้ แม่ไม่ต้องลำบากในการซักรีดเพราะนายฝรั่งได้หาคนมาทำแทน ยกแม่ขึ้นเป็นแม่บ้านผู้ดูแลทั่วไป ฉันจึงนึกภาวนา นึกถึงพระคุณของนายฝรั่งผู้มีคุณธรรมสูงบางครั้งฉันนึกถึงพระคุณ อันนี้แล้ว ฉันก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    วันเวลาได้ผ่านไปปีแล้วปีเล่า ฉันเป็นคนโชคดีความซื่อทำให้ฉันมีตำแหน่งสูง การลงทุนก็เกิดประโยชน์มากมาย แต่ฉันไม่ได้ทราบข่าวจากนวลน้อยเลย ทางบ้านก็ไม่มีใครสืบทราบว่านวลน้อยเรียนสำเร็จแล้วไปอยู่ที่ไหน แต่แล้วฉันได้ทราบข่าวต่อมาอย่างน่าเศร้าใจว่า ตึกหลังใหญ่ที่นวลน้อยเคยอยู่ เขาจะขายทอดตลาดพร้อมทั้งทรัพย์สินในบ้าน ฉันตกใจมาก ฉันจึงตกลงจะรับซื้อตึกหลังนั้นพร้อมกับที่ดิน แม้จะราคาสูงเท่าใด

    ฉะนั้น ฉันจึงมอบตัวแทนซึ่งเป็นทนายความจัดการตกลงซื้อตึกรายนี้ให้ได้จากธนาคารผู้ รับจำนอง ในนามของฉันใช้ชื่อว่า “อัมพร” ฉันไม่อยากให้ใครทราบว่าฉันเป็นผู้ซื้อ โดยฉันไม่ต้องเดินทางมากรุงเทพฯ ด้วยตนเอง การทั้งนี้นายฝรั่งผู้จัดการได้ช่วยเหลือทั้งสิ้น ฉันคิดว่าเมื่อได้ซื้อตึกหลังนี้ไว้แล้ว การค้นหานางสาวนวลน้อยก็คงไม่ยากนัก


    แต่ฉันรู้สึกสลดใจมากที่ครอบครัวที่มั่งคั่งบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินสมบัติ แต่ต้องมาจากบ้านอันโอ่อ่า เคยให้ความสุขตลอดมา คิดแล้วก็เศร้า มนุษย์เราเกิดมาไม่มีอะไรแน่นอน มั่งมีแล้วก็จน คนยากจนแล้วก็มั่งมีไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ย่อมจะเปลี่ยนแปลงตามกรรมแห่งตนที่ประกอบขึ้น

    ในที่สุดตึกพร้อมที่ดินหลังนั้น ก็โอนกรรมสิทธิ์ในนามจริงของฉัน ตามที่ได้มอบฉันทะให้ทนายเป็นที่เรียบร้อยโดยจ่ายเงินให้ธนาคารตามเรียกร้อง ตกลงตามราคาเท่าที่ทางเจ้าหน้าที่และลูกหนี้ได้ตกลงปรองดองกัน นอกจากนั้นฉันได้สั่งให้ขอซื้อของในบ้านทั้งหมดเท่าที่มีเป็นเครื่องเรือน และเครื่องประดับห้อง และไม่ให้เคลื่อนย้ายสิ่งเหล่านั้นผิดจากที่เดิม เพราะยอมทุ่มเทด้วยอำนาจเงินทุกสิ่งตามรายการถึงเรียบร้อยตามที่ฉันต้องการ สั่งไว้ทุกประการ

    สิ่งที่ฉันสมใจมากก็คือ ห้องสีตองอ่อนนั้นไม่ให้โยกย้ายสิ่งใดทั้งหมดเป็นอันขาด โดยเฉพาะเปียโนที่ฉันอยากได้ที่สุด เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ระลึกถึงหญิงคนรักที่ฉันไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน แม้ฉันจะใช้คนออกสืบหานวลน้อยแทบจะพลิกแผ่นดินก็ยังไม่ได้ข่าว

    ต่อมา ฝรั่งผู้จัดการเหมืองแร่และสวนยางจะต้องกลับเมืองนอกตามสัญญา ฉันมีความอาลัยรักแก นับแต่แรกที่มาถึง ฉันได้รับความช่วยเหลือทุกสิ่งทุกอย่างตลอดมา นับว่าเป็นผู้มีพระคุณผู้หนึ่งที่ฉันลืมไม่ได้และแกก็มีความรักใคร่อาลัยฉัน และเพื่อนๆ ร่วมงานไม่น้อย แกบอกว่าหากมีโอกาสแกจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง แกมีความรักเมืองไทยและคนไทยมาก

    เราจึงจากกันด้วยความสุดแสนจะอาลัย คนงานมีทั้งชาวไทยและมลายู และชาวจีน และชาวสิงคโปร์ ต่างก็มีความเสียดายอาลัยรักแกทุกคน ตลอดทั้งกุลีเพราะแกเป็นคนไม่ถือตัว แกจับมือลาทุกคนด้วยน้ำตาคลอและทุกคนก็อดกลั้นน้ำตาไม่ได้ สำหรับฉันเอง ขอสารภาพว่าฉันร้องไห้ แต่ฉันใส่แว่นตาดำจึงปกปิดได้บ้าง คนดีอยู่ที่ไหนจะจากไปก็มีคนรักและอาลัยเสียดายผิดกับคนใจชั่ว แกบอกว่าถ้าไม่จำเป็นแล้วจะไม่ขอจากเมืองไทย
     
  14. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ชีวิตของฉันในตอนนั้น ก็พอจะเป็นหลักฐานการลงทุนหลายทาง ฉันจึงไม่จำเป็นที่จะอยู่ปักษ์ใต้ เพื่อทำงานเป็นลูกจ้างต่อไป แม้รายได้ของฉันในบริษัทจะได้มาก พร้อมทั้งเงินโบนัสแต่ละปีได้ไม่น้อยก็ตาม แต่เมื่อผู้จัดการคนเก่าซึ่งเป็นที่รักใคร่นับถือของฉันได้กลับประเทศบ้าน เกิดเมืองนอนแล้ว

    ฉันเกิดเหงาใจเสียดายคนดี ทำให้เบื่องานไม่อยากเป็นลูกจ้างต่อไป จึงได้ลาออกจากงานมาดูแลกิจการค้าส่วนที่ฉันลงทุนไว้มากมาย บัดนี้ก็เป็นล่ำเป็นสันเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาแล้วและมีรายได้ไม่น้อย ฉันจึงมอบหน้าที่ให้เพื่อนที่เคยร่วมงานกันมาก่อน เป็นผู้จัดการดูแลผลประโยชน์แทน เพราะฉันเลือกแล้วว่าเป็นคนชื่อตรงไว้วางใจได้

    ส่วนตัวฉันขอกลับมาอยู่กรุงเทพฯ และเข้ามาอยู่ในตึกที่ซื้อไว้ เพื่อให้ชีวิตเมื่อได้สร้างหลักฐานมั่นคงแล้วโดยใช้ชื่อว่า “อัมพร” ชายโสดผู้มั่งคั่งโดดเดี่ยว จริงอย่างนายฝรั่งว่าถ้าเรามั่งมีเงินทองมีหลักฐานมั่นคง ก็ย่อมเป็นสิ่งที่สนใจของหญิงสาวและไม่สาว และผู้ปกครองของหญิงสาวทั่วไป

    ฉะนั้น หลังจากฉันได้มาอยู่กรุงเทพฯ ชื่อเสียงดีจึงมีพวกพ่อสื่อ แม่สื่อ แม่ชัก มากคนด้วยกันคอยจะชักนำผู้หญิงสาวๆ สวยๆ และบางคนก็เป็นหม้าย บางคนก็มีลูกติดแล้วแต่จะประสงค์อย่างใด แต่ฉันเองไม่เคยสนใจใคร พวกแม่สื่อพ่อสื่อล้วนแต่มาพูดจายกย่องสรรเสริญคุณงามความดีหญิงคนนั้นสวย งามมากมีความรู้ดี พ่อแม่มีชื่อเสียง มีหลักฐานดีต้องการแต่งงานกับคนดีๆ ฉันก็ไม่เคยสนใจ จนฉันเกิดความรำคาญพวกแม่สื่อพ่อสื่อเหลือทน


    จึงประกาศออกไปว่าฉันจะไม่ยอมแต่งงานกับหญิงเคยมีสามีมาแล้ว หรือหญิงหม้ายลูกติดในชาตินี้เป็นอันขาด ของดอย่าได้แนะนำมาอีก นอกจากฉันจะขอแต่งงานกับหญิงที่มีชื่อว่า "นวลน้อย" เท่านั้น ถ้าใครหาที่อยู่ของหล่อนมาได้ ฉันจะให้รางวัลอย่างงามที่สุด การประกาศออกไปเช่นนี้ ทำให้ฉันพ้นความรำคาญไปมาก แต่ก็มีพวกแม่สื่อหาหญิงสาวสดงดงามและทรวดทรงองค์เอวสมส่วน บอกว่าชื่อนวลน้อย ซึ่งฉันอยากจะหัวเราะเพราะมันไม่ใช่ตัวจริง

    เห็นจะเปลี่ยนเสียตอนที่จะพามาหาฉันให้ดูตัว คงจะคิดว่ารูปร่างสวยงาม ท่าทางของหญิงสาวนั้นจะทำให้ฉันเปลี่ยนใจเพราะความสวยงาม รูปร่างท่าทางมีเสน่ห์ย่อมจะทำให้จิตใจชายหนุ่มอารมณ์รุนแรง ปั่นป่วน เปลี่ยนแปลงจิตใจไปได้ง่าย แต่ฉันเป็นคนที่ไม่ยอมเปลี่ยนจิตใจง่าย ตามความรู้สึกของพวกแม่สื่อ ฉะนั้นจึงผิดหวัง คงได้เพียงค่ารถเล็กๆ น้อยๆ รู้สึกว่าพวกนี้ไม่มีความอาย ความกระดาก ซึ่งคงจะไม่เข็ดที่เอาหญิงสาวมาย้อมชื่อเพื่อหวังประโยชน์ต่อไป

    วันหนึ่ง ฉันกำลังนอนฝันถึงชีวิตอยู่ในห้องสีตองอ่อน ชั้นบนเป็นห้องที่นวลน้อยเคยอยู่มาก่อนที่ฉันเคยเห็นเมื่อครั้งฉันยากจน คนใช้ขึ้นไปบอกมีผู้อยากจะพบคุณอัมพร ฉันจึงสั่งให้นำเขาขึ้นมาพบฉันบนห้อง แต่พอเขามาเห็นหน้าฉัน ก็ตกตะลึงเหมือนผีหลอกหัวใจแทบจะหยุดเต้นแล้วเดินกลับ แต่ฉันได้เรียกร้องให้แกนั่งลงด้วยกิริยาวาจาสุภาพ
     
  15. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เขาผู้นั้นคือคุณอนันท์พี่ชายนวลน้อย แกจึงนั่งอย่างเสียไม่ได้ก้มหน้านิ่งอย่างอายๆ แต่ฉันพยายามทำให้แกหายกลัวหายกระดากอาย ความเย่อหยิ่งจองหองเมื่อแกได้พบฉันครั้งแรกที่บ้านนายฝรั่งนั้น หายไปหมดไม่มีเหลือ

    ฉันถามแกว่า “คุณมาหาผมมีธุระอะไรหรือ ?”

    แกตอบฉันว่า “เปล่าครับ ผมตั้งใจจะมาทำความรู้จักกับผู้ซื้อบ้านผมไว้ ชื่อคุณอัมพร แต่- แต่ผมไม่นึกว่าจะเป็นคุณเมฆ”

    ฉันได้ชี้แจงเหตุผลแล้ว สั่งคนหาน้ำและเครื่องว่างมาเลี้ยง เพื่อเอาใจให้แกหายกระดากอายตื่นกลัว อยากให้แกเป็นกันเองมากขึ้น แต่เมื่อนึกได้ว่าแกคงเป็นคนชอบสุรา จึงกระซิบสั่งคนในบ้านจัดหาสุราอย่างดีและโซดามาพร้อมเพื่อรับรอง ไม่ช้าทุกสิ่งทุกอย่างก็พร้อม เหล้าต่างประเทศ โซดา อาหารยกมาตั้งโต๊ะตรงหน้าแก ฉันจึงเชิญให้แกดื่มกินเป็นกันเองไม่ต้องเกรงใจ ให้ถือว่าบ้านนี้เป็นบ้านของแกอย่างเดิม ในไม่ช้าเมื่อแกดื่มหน้าตึงๆ แล้ว ความเกรงกลัวกระดากแต่ต้นๆ ก็ค่อยๆ คลายลง

    ฉันจึงถามเหตุที่ต้องเสียบ้าน ได้ความจริงว่า การที่แกยากจนลงต้นเหตุเพราะแกคนเดียวเป็นผู้ทำลาย เพราะภายหลังจากผู้ใหญ่ได้สิ้นบุญลง ทรัพย์สินก็ตกอยู่ในมือแกเป็นผู้ดูแลจัดการมรดก ซึ่งน้องสาวของแกมีหุ้นอยู่ในทรัพย์สิน หากแต่การประพฤติของแกอยู่ขั้นนักเลง ทั้งสุรา นารี พาชี กีฬาบัตร พร้อมกันนั้นทรัพย์สินก็ถูกทำลายลงด้วยการเสียพนันหามรุ่งหามค่ำเป็นส่วนมาก เพราะแกไม่เคยทำมาหากินให้เป็นหลักฐานเหมือนคนอื่น

    ครั้งสุดท้ายแกได้นำตึกและที่ดินสิ่งก่อสร้างไปจำนองทางธนาคาร เพื่อจะได้เงินจำนวนมากไปลงทุนค้าของต้องห้าม คือ ฝิ่นเถื่อนตามคำแนะนำของพวกเพื่อนนักเลง แกก็มองเห็นแต่ทางได้ที่มีผู้ซื้อขายลงทุนน้อยแต่ขายได้กำไรหลายเท่าตัว แกมุ่งมองเห็นแต่กำไรอย่างเดียว

    สิ่งใดเป็นของต้องห้ามผิดกฎหมายนั้น ย่อมจะเสี่ยงภัยอันตรายหลบหลีกด้วยความลำบาก ไม่ใช่จะสะดวกสบายอย่างการค้าธรรมดา ทั้งแกเป็นคนหน้าใหม่แต่หวังร่ำรวยในทางผิด คิดว่าการซื้อมาขายไปง่าย ที่สุดแกก็ถูกหักหลังด้วยการที่ผู้ขายฝิ่นให้แกนั้นเป็นผู้รับสินบนนำตำรวจ จับฝิ่นของแกเพื่อหวังเงินรางวัลอีกต่อหนึ่ง ซึ่งทำให้ลูกน้องกำลังลำเลียงลงมาจากภาคเหนือถูกจับถูกริบของกลาง

    ที่สุดก็หมดทั้งลูกน้องก็ต้องรับเคราะห์ถูกจองจำแทนตัวแก ตึกที่จำนองไว้ทางธนาคารก็หมดปัญญาที่จะไถ่ถอนคืนรวมทั้งดอกเบี้ยก็ไม่ สามารถจะส่งให้ธนาคารได้ตามกำหนด ดอกทบทุนก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ที่สุดก็ขายทอดตลาด ทรัพย์สินเท่าที่มีอยู่แกก็หมดตัว และทำให้น้องสาวผู้ไม่รู้ไม่เห็นก็พลอยรับเคราะห์ไปด้วย ฉันทราบความจริงจากปากคำเล่าอย่างละเอียดแล้วก็เศร้าสลดใจ นึกถึงน้องสาวนวลน้อย ป่านนี้จะได้รับความลำบากอยู่แห่งใดก็ไม่รู้ ฉะนั้น จึงมอบเงินจำนวนหนึ่ง พอที่จะช่วยเหลือการครองชีพของแกได้นาน

    ทั้งๆ ที่แกกำลังเมา แกก็ตกตะลึงที่แกไม่เคยนึกว่าคนอย่างฉันที่แกเคยดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามว่า เป็นคนต่ำคนจนคนยาก ซึ่งบัดนี้คนผู้นั้นไม่เคยพูดถึงเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว ยังกลับมอบเงินจำนวนหนึ่งพอจะทำให้แกสบายไปได้อีกนาน แกตื่นเต้นดีใจจนร้องไห้ออกมาตามภาษาคนเมา แกยกบุญยอคุณว่า ฉันเป็นคนใจดีที่ไม่เคยถือโกรธเรื่องเก่าๆ ช้ำยังมอบเงินให้อีก ซึ่งเป็นบุคคลที่ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ฉันจึงบอกให้ลืมเรื่องเก่าๆ และทั้งแกก็มีส่วนช่วยเหลือทางอ้อมที่ทำให้ฉันเกิดมานะอดทนในการสร้างหลักฐานจนเป็นปึกแผ่น

    ที่สุดจุดสำคัญฉันก็ถามถึงนวลน้อย หญิงที่ฉันใฝ่ฝันถึงทุกคืนทุกวัน อยากทราบความเป็นอยู่ เมื่อถามแกแล้วรู้สึกแกนิ่งอึ้งไม่ยอมให้ความกระจ่าง ไม่บอกให้ทราบว่าเวลานี้น้องสาวของแกเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน ซึ่งฉันอยากพบ ฉันพยายามเซ้าซี้แก แต่แกขอเวลาให้แกไปถามความเห็นจากน้องสาวเสียก่อน แล้วแกจะได้พาฉันไปพบ แต่แกยังมีความเกรงใจน้องสาวอยู่จึงไม่กล้ารับปาก

    ฉันคิดว่าน้องสาวคงตกอยู่ในความลำบากไม่แพ้แกเป็นแน่ ฉะนั้น ฉันจึงเขียนเช็คใบสั่งจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเข้าบัญชีในนามของนางสาวนวลน้อย เพื่อนำไปฝากไว้ในธนาคารไว้ใช้จ่าย และพี่ชายแกก็ยินดีไปมอบให้น้องสาวต่อไป และรับรองว่าจะหาให้พบกับน้องสาวของแกภายหลัง บอกน้องสาวให้รู้ ซึ่งฉันก็มีความพอใจ คอยให้ถึงเวลานั้นด้วยความกระวนกระวายใจ

    ภายหลังที่ได้พบกับนายอนันท์แล้ว ฉันก็พยายามคอยที่จะพบนายอนันท์ด้วยจิตใจตื่นเต้นและจดจ่อ การหายไปของนายอนนท์ที่ผิดกำหนดที่นัดไว้นั้นทำให้ฉันหมดความสุข เพราะนายอนันท์เป็นกุญแจที่ไขประตูพาให้ใปพบกับเจ้าหญิงในฝันของฉันที่ไม่ เคยลืมเลย แม้บัดนี้ฉันจะอยู่ในห้องที่เธอเคยอยู่ เคยเล่นเปียโน เคยนอนเตียงที่เธอเคยนอน

    ฉันคอยๆ เจ้าของห้องที่จะมาอยู่อย่างเดิมและมาดีดเปียโน ฉันจะนั่งคอยฟังเสียงเพลงอันไพเราะ ในยามเดือนหงายแจ่มกระจ่างท้องฟ้า เสียงเพลง “ลาวดวงเดือน” ฉันได้แต่ฝันไม่ทราบว่าเมื่อไรจะสมตามความหวัง
    แต่แล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่เคยนึกฝันมาก่อน ก็คือเช้าวันหนึ่งฉันได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสำคัญประจำวันว่า

    นายอนันท์ได้ถูกคนร้ายใช้ตะไกรขาเดียวแทงบาดเจ็บสาหัส และได้ถึงแก่กรรมลงที่โรงพยาบาล
    ก่อนที่จะให้การสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่คงจะมีการอาฆาตทำลายล้างด้วยฝีมือ อั้งยี่ และก่อนถูกแทงนายอนันท์ได้ดื่มสุราเมามายจึงได้พบจุดจบที่ตรอกโรงโคม ข่าวนี้ทำให้ฉันตัวเย็นชาหมดความหวังที่จะพบกับหญิงที่รักก็ได้ถูกทำลายลง อีกครั้งหนึ่ง ฉันมารำพึงแก่ตัวเองว่า

    “ทำไมฉันจึงได้อาภัพรักนะ กรรมใดที่ฉันเคยสร้างมาแต่ชาติก่อน ได้ตามมาทำลายฉันในชาตินี้”
     
  16. ท่านเจ้าคุณ

    ท่านเจ้าคุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +32
    มีต่อหรือเปล่าค่ะ
     
  17. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ความสุขของ ๒ ท่าน จะตามมาในชาติหน้า ไหมค่ะ ?

    อร เชื่อว่า ของทุกอย่างมีเจ้าของ และวันนึง "หัวใจ" จะต้องกลับคืนมาสู่ "เจ้าของหัวใจ" แน่นอน

    แหม หันมองหน้าตัวเองใน Head shot อารมณ์ใช่เลย ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  18. ปรีชา_พงษ์

    ปรีชา_พงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +495
    จะคอยอ่านต่อครับ
     
  19. fay10

    fay10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,760
    มาคอยอ่านเหมือนเดิมค่ะกำลังซึ้งเลย
     
  20. kulthida

    kulthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    527
    ค่าพลัง:
    +4,622
    มารออ่านเหมือนกันค่ะซึ้งจังเลยชีวิตในเรื่องเล่าเหมือนนิยายหลายๆเรื่องที่ชอบอ่านมากอยากรู้ตอนจบเร็วๆจัง ขอบคุณ คุณ omio ที่นำมาเล่านะคะ และขอแซวคุณอรว่าแอบหวานนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...