การสอนดูจิตตอนนี้ ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 6 พฤศจิกายน 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผู้ถึงซึ่งการฟัง

    อาจาริโยวาท

    หลวงปู่ดูลย์ท่านเทศน์เอาไว้ว่า เพ่งเข้ามาดูข้างในรู้ข้างใน เป็นมรรค รู้นอกเป็นสมุทัย รู้ในแล้วมันมายกโทษตัวเอง เพ่งโทษตัวเอง แก้ไขแต่ตัวเอง ถ้ามองออกไปข้างนอก ไปมองเห็นความประพฤติคนอื่น ที่ไม่ถูกหูถูกตาเกะกะ ก็ยกโทษแต่คนอื่น

    หลวงปู่ตื้อนี่ไปเห็นต้นมะขามป้อม เอาตีนถีบ ต้นขนาดแขน ลูกมันดก ตีนถีบมันหล่นลงมาแล้วเก็บมาฉันเลย แต่หลวงปู่มั่นบอกว่า ใครอย่าไปดูถูกท่านตื้อนะ "ท่านตื้อเป็นพระเถระ" อย่างนี้เป็นต้น

    หัวใจโอวาทของพระอาจารย์ฝั้น ท่านว่า "อย่าปล่อยให้จิตอยู่ว่าง" ความหมายของท่านคือ ๑. อย่าให้ว่างจากการกำหนดรู้ ๒. อย่าให้ว่างจากอารมณ์อันเป็นกุศล ส่วนของท่านอาจารย์มั่น "อย่าไปว่าให้เขา ทัศนะของเขาเป็นอย่างนั้น" วิสัยของพระโสดาบัน ใครพูดมาฉันฟังได้หมด ดีฉันฟังได้ ชั่วฉันฟังได้ ฉันจะเอาหรือไม่เอานั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    หัดเป็นพระโสดาบัน

    เราจะทำอะไร จะพูดอะไร จะคิดอะไร พยายามอย่าให้มันมีความรู้สึกลบหลู่ดูหมิ่นครูบาอาจารย์และคน อื่น มานะความถือตนถือตัวนี่ ภูมิของอรหัตมรรค เป็นตัวตัดขาด มานะความถือตนถือตัวมันเป็นกิเลสละเอียด พอสมควร พระอนาคามีก็ละไม่ขาด โน่น! ต้องภูมิอรหัตมรรคจึงละได้ขาด

    พยายามหัดเป็นพระโสดาบัน โส-ตะ-ปัน-นะ แปลว่าผู้ถึงซึ่งการฟัง ใครพูดดีฉันก็ฟังได้ พูดเสียฉันก็ฟังได้ แต่ฉันจะเอาหรือไม่เอาเป็นหน้าที่ของฉันจะพิจารณาโดยเหตุผล โส-ตะ แปลว่า ผู้ฟัง ปัน-นะ แปลว่า ถึงแล้ว ซึ่ง การฟัง รวมความว่า ผู้รับฟัง ไปตรงกับมารยาทของสังคมว่า เคารพมติของผู้พูด
    ท่านอาจารย์วัน เพื่อนหลวงพ่อ ลูกศิษย์ท่านวิพากษ์วิจารณ์กรรมฐานคณะนั้นกรรมฐานคณะนี้ ท่าน นั่งฟังเฉย พอท่านจะพูดท่านก็ว่า "ทัศนะของเขาเป็นอย่างนั้น ความเห็นของเขาเป็นอย่างนั้น อย่าไปขัดคอ เขา" นี่แสดงว่าท่านผู้นี้รู้แจ้งเห็นจริงในธรรม ถ้าใครพูดมาไม่ถูกหูเรา เราเถียงคอเป็นเอ็น นั่นยังใช้ไม่ได้

    http://palungjit.org/threads/%E0%B...98.200224/<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> เล่าปัง*, วิษณุ12, กองทัพเทพ</td></tr></tbody></table>
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ แค่จิตและอาการของจิต ยังแยกไม่ออก
    แบบนี้เค้าเรียกว่าหน้ามืดตลอดการ หาทางสว่างไม่เจอ

    พูดแบบวกไปเวียนมาให้งงเข้าไว้ ไม่ได้แสดงว่ามีสัมมาทิฐิหรอก

    "ถึงวันหนึ่ง ใจมันก็แจ้งขึ้นมา มันจะรวมเข้าไป แล้วก็ตัดสินของตัวมันเอง
    เราจะเห็นเลย ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาให้จิตรับรู้ เป็นของชั่วคราวทั้งหมด"

    ถึงวันหนึ่ง จิต(ใจ)ก็แจ้งขึ้นมา แสดงว่ายังมีผู้รู้แจ้งขึ้นมา จึงบอกได้ว่าแจ้งขึ้นมาแล้ว
    แต่ในบางที่กับสอนว่า เจอผู้รู้ทำลายผู้รู้ ใครทำลายผู้รู้? ถ้าผู้รู้ถูกทำลายแล้ว บอกว่าแจ้งขึ้นมาก็โกหกชัดๆ

    ทุกสิ่งทุกอย่าง ดี ชั่ว สุข ทุกข์ รัก ชอบ ชัง ล้วนผ่านเข้ามาให้จิตรับรู้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจิตไม่ได้เกิดดับ
    ที่เกิดดับล้วนเป็นอาการของจิตทั้งนั้น เป็นของชั่วคราวทั้งหมด

    แต่วันดีคืนดี กลับสอนว่าจิตเกิดดับเป็นของเหลวไหล บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ให้อบรมจิต
    จะอบรมจิตไปเพื่ออะไร เมื่ออบรมแล้วเอาดีไม่ได้
    อบรมไปเสียเวลาทำไม พูกจากเลื่อนลอยเอาหลักอะไรไม่ได้เลย....

    ;aa24
     
  4. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    พี่ขวัญเห็นธรรมมารมชัดแบบนี้ เด่วนี้นั่งสมาทิบ้างไหมครับ
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ผูรู้ที่ไหนเปรียบเสมือนแพ มีแต่อริยมรรค๘จึงจะเปรียบเหมือนแพ
    ทำไมต้องทำลายแพ มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่คิดทำลายแพ

    อุตส่าห์อาศัยเค้าข้ามฝาก เมื่อถึงฝากฝั่งก็แค่ขึ้นจากแพก็พอ
    ไม่ต้องอาลัย ก็ไม่ต้องทำลายทิ้งก็ได้นิ

    จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่เห็นอยู่(พระพุทธวจนะ)
    ว่าความสิ้นไปแห่งโลภะ โทสะ โมหะ คือทางแห่งอมตะ

    ;aa24
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    พี่ภูติ อ่านดีๆ สิ ว่า เคขวัญเขายกธรรมมากล่าวอย่างไรกันแน่

    มองออกไหม มองไม่ออก อ่านภาษาไทยไม่ออก ผมจะลองชี้ให้ดูอีกทีนะ

    ตรงประโยค อย่าพึ่งทำลาย ตรงนี้จะเห็นว่า ใช้ในช่วงที่ปฏิบัติ ดังนั้น การปฏิบัติ
    ไม่มีการบอกว่าให้ทำลาย ดังนั้นก็ไม่เห็นมีอะไรขัดแย้งเลยนี่ครับ

    มาตรงประโยค เมื่อถึงฝั่ง ก็มีคำว่า "ขึ้นไปเลย" ก็จะเห็นว่า ไม่มีคำว่า ทำลายสัก
    หน่อย ไม่มีใครทำลายแพ เขาเพียงแต่ขึ้นไปจาก ละวางแพเอาไว้ ไม่ได้ทำลาย ที่วาง
    แพลงได้ก็เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่นในแพ ที่วางแพลงได้ก็เพราะทำลายความยึดมั่นถือ
    มั่นในใจ ละโลภ ละมานะ ละหลง อยากมี อยากเป็นนั่นเอง เมื่อละโลภก็หมดกิเลส ก็
    ควรไหมหละที่จะเรียกว่า ขึ้นฝั่ง
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่ได้นั่งสมาธิในรูปแบบอาศัยฟังเทศน์ฟังธรรม แล้วตามดูใจตัวเอง
    วอร์มอัพดูจิตแบบซ้อมๆ เช้า1รอบ เย็น1รอบ ตอนนั่งรถเมล์
    ไปทำงาน-กลับบ้าน ที่เหลือตามดูใจตัวเองเนืองๆในชีวิตประวันจำวัน
    อยู่ในเว็บบอร์ดนี่เหมือนทำข้อสอบ มีโจทย์ตลอด มันส์ดี กระทบแรง
    รู้ผัสสะแรงๆ บางทีก็ได้รู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ ได้เปิดหูเปิดตา ท่องโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ในเวปบอรฺดนั้น เป็นที่สาธารณะที่ใครจะแสดงทัศนะยังไงก็ได้
    เป็นที่ๆแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อความถูกต้องชอบด้วยธรรม

    ท่านเอาพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาอ้างอิงไม่ได้หรอกครับ ที่ท่านกล่าวกับศิษย์นั้นเป็นที่รโหฐาน
    ฉะนั้นท่านจึงอบรมลูกศิษย์ลูกหาของท่านโดยตรง ไม่ให้ไปเพ่งโทษผู้อื่นเอาเวลาไปปฏิบัตภาวนาดีกว่า

    ในที่สาธารณะ เมื่อมีใครนำทัศนะที่ไม่ถูกต้องมาลง แถมยังมองทัศนะของผู้อื่นเป็นของผิด
    ย่อมเป็นธรรมดาที่จะต้องมีการชี้แจงกล่าวแย้ง เพื่อความถูกต้องชอบธรรม

    ไม่คิดบ้างหรือว่า ทัศนะที่ท่านนำเอามาลงในนี้ เป็นการกล่าวลบหลู่พระพุทธวจนะของพระบรมศาสดา....

    ปล.เห็นหรือยังครับ ขนาดท่านอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น รับรองท่านอาจารย์หลวงปู่ตื้อ
    ท่านอาจารย์ใหญ่ ยังแค่บอกว่าท่านอาจารย์หลวงปู่ตื้อ เป็นพระเถระ เป็นพระแท้ฯลฯ

    ;aa24
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถึงวันหนึ่ง จิต(ใจ)ก็แจ้งขึ้นมา แสดงว่ายังมีผู้รู้แจ้งขึ้นมา จึงบอกได้ว่าแจ้งขึ้นมาแล้ว
    แต่ในบางที่กับสอนว่า เจอผู้รู้ทำลายผู้รู้ ใครทำลายผู้รู้? ถ้าผู้รู้ถูกทำลายแล้ว บอกว่าแจ้งขึ้นมาก็โกหกชัดๆ

    จิตแจ้งขึ้นมา แปลว่า มีปัญญารู้แจ้ง ผู้รู้เกิดปัญญา ผู้รู้จึงปล่อยวางได้ แม้แต่ตัวเองก็ไม่เอา
    โน่นเลย รู้แจ้ง อริยสัจ4 ผู้รู้เกิดปัญญามีวิชชา อวิชชาจึงถูกทำลาย ผู้รู้ย่อมไม่ใช่ผู้รู้ที่มี
    อวิชชาเป็นตัวตนเหมือนคนเดิมอีกต่อไป ก็เรียกว่า ผู้รู้แจ้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  10. wintakarukae

    wintakarukae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +31
    คนเมืองคนชนบทมันก็มีกิเลสเต็มหัวเหมือนกันแหล่ะครับ
    ผมใช้ชีวิตอยู่ทั้งในเมืองทั้งในชนบท ยืนยันว่าเหมือนกัน
    ส่วนที่ว่าคนเมืองไม่มีเวลาว่างก็เป็นเหตุผลของกิเลสอีกนั่นแหล่ะ
    มันจะเอาง่ายๆ สบายๆ :)

    ขอยกเอาจากหนังสือหลวงปู่ฝากไว้ของหลวงปู่ดุลย์ที่หลายท่านให้ความเคารพมาให้อ่านกันเพื่อพิจารณาครับ

    เรื่อง: อยากได้ของดี

    เมื่อต้นเดือนกันยายน ๒๕๒๖ คณะแม่บ้านมหาดไทย โดยมีคุณหญิงจวบ จิรโรจน์ เป็นหัวหน้าคณะ ได้นำคณะแม่บ้านมหาดไทยไปบำเพ็ญสังคมสงเคราะห์ทางภาคอีสาน ได้ถือโอกาสแวะมนัสการหลวงปู่ เมื่อเวลา ๑๘.๐๐ น.ฯ

    หลังจากกราบมนัสการและถามถึงอาการสุขสบายของหลวงปู่และรับวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกจากหลวงปู่แล้ว เห็นว่าหลวงปู่ไม่ค่อยสบาย ก็รีบออกมา แต่ยังมีสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ถือโอกาสพิเศษกราบหลวงปู่ว่า ดิฉันขอของดีจากหลวงปู่ด้วยเถอะเจ้าค่ะ ฯ

    หลวงปู่จึงเจริญพรว่า ของดีก็ต้องภาวนาเอาจึงจะได้ เมื่อภาวนาแล้ว ใจก็สงบ กายวาจาก็สงบ แล้วกายก็ดี วาจาใจก็ดี เราก็อยู่ดีมีสุขเท่านั้นเอง

    ดิฉันมีภาระมาก ไม่มีเวลาจะนั่งภาวนา งานราชการเดี๋ยวนี้รัดตัวมากเหลือเกิน มีเวลาที่ไหนมาภาวนาได้คะ ฯ

    หลวงปู่จึงต้องอธิบายให้ฟังว่า

    "ถ้ามีเวลาสำหรับหายใจ ก็ต้องมีเวลาสำหรับภาวนา"
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่คิดบ้างหรือว่า ทัศนะที่ท่านนำเอามาลงในนี้ เป็นการกล่าวลบหลู่พระพุทธวจนะของพระบรมศาสดา....

    น้าน ...เอาเข้าไป ...
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าดูเจตนาของคนอื่นไม่ออก ก็เหมือนคนตาบอดเดินตีงู นั่นแหละ
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    สำหรับพี่สองชาติ หากสนใจว่า จิตผู้รู้เป็นอย่างไร แล้วหากถือไว้เป็นอย่างไร และ
    หากวางแล้วเป็นอย่างไร มาดูกัน

    ตอนนี้ อารมณ์ที่ทำมรณนุสติ ของพี่สองชาติเข้มข้นมีกำลังมาก ก็อันนี้แหละที่
    เป็น จิตผู้รู้ ในแบบของพี่ชาติ

    หากพี่ถือไว้ ยิ่งหมั่นทำกกรรมฐาน จิตผู้รู้ ก็ยิ่งตั้งเด่นดวง มีกำลังในการกั้นกิเลส
    ไม่ให้เข้ามาในจิต ไม่ปรากฏในจิต ยิ่งทำก็ยิ่งเด่น ยิ่งแน่น ยิ่งชุ่มชื่อ น่าพออกพอใจ
    จนไม่อยากทำอย่างอื่นไปกว่าการทำกรรมฐานที่ทำอยู่ให้แน่น ยึดมั่นไว้ ถือมั่นไว้

    คราวนี้ มาลองดูปริศนาธรรมการวาง ผู้รู้ ซึ่งจะพบว่า ไม่ใช่ไปทำลายจิตผู้รู้
    ให้ย่อยยับอะไร แค่เพียงละความยึดมั่นถือมั่น ลงดูก็เท่านั้น

    แต่เห็นไหมว่า พอได้ยินคำว่า ให้ละวางจิตผู้รู้ เกิดอะไรขึ้นในจิต เกิดความไม่เชื่อ
    ขึ้นมาทันที ทำไมถึงเกิดอารมณ์ไม่เชื่อหละ ก็เพราะ ยึดมั่นถือมั่นอย่างเหนียว
    แน่นอยู่

    แล้วถ้าสนใจดูอารมณ์ความยึดมั่นถือมั่นคลายตัว ทำได้ไหม ทำได้นะ ก็แค่ดูอารมณ์
    เบื่ออกุศล ที่ได้เป็นวิบากจากการทำกรรมฐานดังกล่าว มันจะเกิดอารมณ์ละโลภะ
    ละโกรธ ละหลง จริงไหม ท่านก็ให้มาดูอารมณ์เบื่อตัวนี้ มันก็เป็นสภาวะธรรมที่
    ไม่เที่ยงเหมือนๆกันหมด ก็ลองดูๆไป นานๆที พี่สองชาติก็ลืมอารมณ์เบื่อ แล้วกลับ
    ไปคลุกกับโลกอีก ต้องสังเกตให้ทัน จะเกิดเพียงไม่กี่ขณะ หลังจากนนั้นจะเกิดการกลับ
    มาไขว่คว้ากรรมฐาน ที่เราชี้ให้ดู คืออารมณ์เบื่อมันก็ทุกขัง จางคลายไป กลายเป็น
    จมกิเลสไป จังหวขณะจิตนี้เกิดหรือไม่เกิด ยอมรับว่าเกิดหรือไม่เกิด หากมีความเป็น
    อุชุกตา ซื่อตรงต่อการเห็น ก็จะถือว่าได้เห็นตามความเป็นจริง ส่วนการรีบกลับมายึด
    กรรมฐานนั้น คือการกลับไปยึดกุศล เรียกว่า มันเกิดอาจลนะ ไม่เที่ยง ซึ่งให้รู้ลงไป
    เลยว่า นั่นแหละ จิตผู้รู้ไม่เที่ยง นี่ขนาดเราใช้ชีวิตประจำวัน ไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี มันก็ลงไป
    จมกิเลสอีก แล้วสังสารวัฏนี่เขาไม่ได้มีแค่ชีวิตนี้ หากยังศึกษาไม่จบ สังสารวัฏข้างหน้า
    ย่อมมีอีกยาวไกล มันก็ต้องมีสักเพลาแหละ ที่ มันจะเสื่อมลงไป

    ดังนั้น ให้ทำความรู้สึกระลึกรู้ลงมาอีกว่า จิตผู้รู้ อารามณ์ที่ละกิเลสได้แล้วนั้น มันไม่
    เที่ยง ดูไปเรื่อยๆ จากที่เคยยึดมั่นถือมั่นจิตผู้รู้ไว้ จะปรากฏอีกอารมณ์หนึ่งขึ้นมา
    ให้รู้ มีคุณภาพทางการละวางในอีกลักษณะ เป็นอุบายที่มีอยู่ ปรากฏอยู่

    พี่สองชาติก็ลองพิจารณ อารมณ์ที่เข้าไปรู้เพิ่ม ว่ามันเป็นอุบายเครื่องนำออกจากสังสารวัฏได้ไหม

    * * * *

    เมื่อไหร่ก็ตามที่พี่สองชาติ เล็งเห็น จิตผู้รู้เขาแสดงความไม่เที่ยง ลองพิจารณาว่า มันสอดคล้อง
    คำว่า "บังคับบัญชาไม่ได้" ในลักษณะไหน แล้วมันไปสอดคล้องกับคำว่า "แต่อบรมได้" ในลักษณะไหน

    "มันแค่อบรมได้เท่านั้น ไม่ใช่บัญชาได้อย่างใจ" ตรงนี้สอดคล้องในลักษณะไหน

    หากพูดว่า "บัญชาได้อย่างใจ" ประโยคนี้ มีอารมณ์ยึดมั่นถือมั่นมาแค่ไหน

    หากพูดว่า "อบรมได้" ประโยคนี้ มีอารมณ์วางไว้ห่างๆความเป็นตน แค่ไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าไม่รู้เจตนาของตัวเอง ก็เหมือนชาวนากับงูเห่า ที่โดนกัดตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ก็ยังไม่รู้ตัว
     
  15. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    น่าแปลกมีแต่คนรู้จักทำสมาธิทั้งนั้นเลย ตกลงนี่เห็นการเกิดดับของจิตกันจริงๆหรือเปล่านี่ เห็นวัฏจักรของจิตกันจริงๆหรือเปล่านี่ และอะไรที่ทำให้เราเห็นละนี่ อย่าบอกว่าสมาธิทำให้เห็นนะ มีฌาณกันจริงหรือเปล่านี้ รู้จักฌานกันจริงๆหรือ หรือเห็นเป็นแต่ในตำราหรือคำคนพูดมาละนี้ แปลกจริงๆ บางคนบอกว่าฝึกสมาธิได้พบผู้รู้เห็นผู้รู้ แต่ไม่มีใครบอกเลยว่าฝึกสมาธิได้พบสติเห็นสติ สติรู้ธรรมารมณ์ ที่เรียก สุข ปิติ วิตก วิจารณ์ เอกัตคตา ไม่มีเลยสักคนไม่ต้องบอกก็รู้ว่า...ทั้งนั้น
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ดูคิดตนเองเห็นจิตตนเอง
    ดูใจตัวเองเห็นเจตนาของตัวเอง

    ดูคิดคนอื่นเห็นจิตคนอื่น
    ดูใจคนอื่นเห็นเจตนาของคนอื่น

    ถ้าผู้รู้เป็นกลางๆ ไม่มีอคติ ไม่มีทิฏฐิ ก็จะรู้แม่นเห็นแม่น
    ถ้าผู้รู้มีสมาธิตั้งมั่น ไม่วอกแวก ก็รู้ได้นาน รู้ได้ลึก

    ถ้าเห็นแต่สมมุติบัญญัติ แล้วตัดสินด้วยทิฏฐิ ก็ว่ากันไปตามภูมิรู้ภูมิธรรม
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ อย่าเอาความกำกวมของภาษามาใช่เพื่อประโยชน์ตนสิ

    แค่คิดก็ผิดแล้ว มีที่ไหนเมื่อยังไม่ถึงฝั่ง ก็อย่าเพิ่งทำลายแพ แสดงว่ามีอกุศลจิตคิดทำลายแพอยู่
    เพียงแต่ยังไม่สบโอกาสเท่านั้น คนที่มีความคิดอกุศลเช่นนี้มีโอกาสถึงฝั่งเหรอ?

    ท่านอย่ามาอ้างถึงความยึดมั่นเสียให้ยากเลย ลองมีความคิดขนาดนี้ยังบอกว่าไม่ยึดมั่น

    ท่านครับ ท่านอ่านภาษาไทยดีๆ
    "ถ้าถึงฝั่งแล้ว ก็ขึ้นไปเลย อย่าอาลัยอาวรณ์ แพ ถึงแม้แพนั้นจะเป็น เรือสำราญก็ตาม"
    เมื่อถึงฝั่งแล้ว ก็ขึ้นไปเลย ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าทิ้งแพไว้ ทำลายแพไปหรือยังก็ไม่รู้?
    ในเมื่อคนที่มีอกุศลจิตคิดทำลายแต่ต้น(หลอกใช้) มีหรือจะไม่ทำอย่างที่คิด เมื่อไม่อาลัยอาวรณ์....

    ;aa24
     
  18. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    [​IMG]น้าชาติ นู๋ติดไว้ก่อนนะ นู๋รู้สึกว่าว่าขี้เกียจอ่ะ
    เลยไม่อยากโพสเื้ท่าไร
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ในเมื่อคนที่มีอกุศลจิตคิดทำลายแต่ต้น(หลอกใช้) มีหรือจะไม่ทำอย่างที่คิด เมื่อไม่อาลัยอาวรณ์....

    เหอๆ... เอาเข้าไปนะท่าน ตามสบาย
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เพิ่งมาอ่านเจอคนนินทา......อาเมน....ตามสบาย

    ปล....สันโดษ ไม่ยึดติดอะไรทั้งนั้น เหมือนเดิม นะเอย นะเอย

    เป็น โซลี่ Evolution พระท่านไม่ได้เกี่ยวที่ทำให้ เป็นตัวเอง ณ ปัจจุบัน

    ไม่ว่าจะหลวงพ่อปราโมทย์ พระมหาสีไพร ยังไง ก็ถือว่าเป็น องค์ประกอบของพระรัตนตรัย

    คิดเอาพระมาวิจารณ์กันอยู่ได้ ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนมาวิจารณ์ พระสงฆ์ ไม่ว่าท่านจะสอนผิดๆถูกๆ ฆราวาสก็ไม่ควรนำมาพูดเล่นกันเเบบนี้

    อย่าเอาบาปมาพาดพิงข้าพเจ้า สงสารคนอ่าน คนอื่น จะเกิด อกุศลจิตเพราะตัวอักษรของพวกท่านเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...