การสอนดูจิตตอนนี้ ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล

ไล่ตะครุบเงา ??? เคยถามตัวเองไม๊ต้นตอของเงาหละ ??? เงามาจากไหน ??? วันนี้แดดแรง ??? ถ้าไม่มีตัวหละ ??? แล้วเงาที่เห็นเงาของใคร ???

ปัญญากับสังขารดูไปแล้วก็คล้ายๆกัน
อย่าเพียงแค่เพียรไล่ตะครุบเงาตัวเอง

ทำความสงบเข้ามาก่อน ให้ทวนกระแสเข้ามา
พิจารณาออกจากความสงบสะอาดแล้วจะรู้จักปัญญา

 

คุณขันธ์ คุณไม่เบื่อบ้างเหรอ.....ผมยังเบื่อแทนเลยไม่เห็นมีอะไร....

เอามาถกกันก็แค่นั้น....สุดท้ายแต่ละคนยืนอยู่จุดเดิม.....

 

ที่พูดกันมามันไม่เห็นใครมันจะตื่นสักคน.....

ใครตื่นยกมือขึ้นหน่อยสิ......มันตื่นกันจริงไม.....หรือว่ามันหลับ.....ตื่นๆหลับ.....

 

เห็นด้วยเหมือนกันครับ...

 

ถ้ายังหลับอยู่จะมาพิมพ์อยู่ได้ยังไง

ละเมอเหรอ

 

....

 

นั่นสิก็กลัวว่ามันจะละเมอนั่นหละ...

ละเมอกันริเปล่า....

 

จับหัวรวมกันเหมาโลขาย....ค่ามันเท่ากันหมดหนะ....

 

สงสัยจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ตื่น หรือ หลับ หรือ ละเมอ ยังแยกไม่ออก

อย่างนี้มันเลย...ไปแล้ว

 

มันไม่เที่ยง มันไม่แน่ อาจมีคนรู้ อาจมีคนไม่รู้ อาจมีคนเฉยๆ ..ก็ว่ากันไป หากเข้าใจก็ภาวนาไป

 

(smile)(smile)(smile)... ขำด้วย อิอิ ท่าจะจริง แซวก็รู้ว่าแซว

 

พวกหนึ่งก็กูดีกูเก่งกูเลิศ......โลกนี้ไม่มีใครใหญ่เท่ากู....

อีกพวกหนึ่งก็เหมือนกัน....กูไม่ยอม*********ยกนั่นยกนี่คำพูดสวยหลู......อย่างนั้นอย่างนี้....

ไอ่ที่พูดมากิเลสทั้งนั้น......

อยากเห็นหน้าไอ่พวกที่มันว่าตื่นหน้าตามันเป็นอย่างไร....

 

ไร้สาระ....

เอาว่ากันไปเถอะ......ด่ากันต่อไป.....งมกันต่อไป.....ออกมาได้ก็ตะโกนบอกไอ่พวกที่งมๆอยู่นะ....ไม่เอาด้วยหละ.....ตามสบาย....

 

ขอโทษครับ...
สงสัยผมจะเข้าผิดห้องจริง อิอิ
งั้นขอตัวนะครับ...

แต่ก่อนไปผมขอฝากไว้นิดนึงครับ
อย่าพึงวิจารณ์พระหากยังไม่แน่ใจ...
หรือแน่ใจแล้วก็เหอะ มันอาจจะผิดก็ได้

ด้วยความเคารพ

 

ก็ยังมีอีก ไอ่พวกหนึ่ง
ขอให้มีช่องว่างเถอะ กูสอดมือทันที

 

ขอบคุณครับที่ได้ร่วมสนทนา
ยินดีครับ

 

คุณ ภานุเดช คุณพูดเรื่องธรรมดีกว่า
เรื่องเบื่อไม่เบื่อมันคนละเรื่อง จิตมันไปสนใจเรื่องนั้นทำไม ในเมื่อพูดเรื่องธรรม

ถ้า คุณเบื่อคุณก็ไป หาอะไรทำอย่างอื่นสิ มาที่นี่ทำไม
ถ้าผมตอบธรรมอยู่ก็แสดงว่า ผมไม่เบื่อ ไม่น่ามาถาม

มันมีประเด็นที่ต้องพูด เพราะว่า ผมพูดให้คนอื่นเขาฟัง ไม่ใช่พวก นั่งรู้ดูเฉยฟัง

และที่สำคัญ ไม่เห็นมีใครมาตอบตรงสักคน มีแต่เลี่ยงไป ก็เลยต้องพูดอยู่เรื่อยๆ
ว่าอะไรคืออะไร มันก็ไม่เหนื่อยหรอก เพราะว่า พูดธรรมะ นี่มีแต่ได้กับได้
มันมีแต่ พวก ปากอมขี้ พูดแต่กิเลสนั่นแหละ แบบนั้นน่าเหนื่อย

 

ใครไปวางขันให้ท่านภา ฯ แบกหล่ะนั่น ฮิฮิ

 

มาถึงผม ยังไม่ได้ยินธรรมจากคุณ*********สักคำ มีแต่เรื่องกิเลส ยังจะมาว่าคนอื่นพูดกิเลสอีกหรือ

นั่นแหละ ปากอมขี้ไม่มีประเด็น ถ้ามีประเด็นก็พูดธรรมมา

 

สติตามรู้ก็ตัวหนึ่ง และต้องตามรู้แบบปัจจุบันธรรม ไม่ใช่สัญญาของสภาวะ คำว่า จิตจำสภาวะ แล้วบ่อยๆจะทำให้สติเกิดไช้ไม่ได้ มันเป็นแค่ความปรุงแต่ง ไม่ใช่สติตามรู้สภาวะปัจจุบัน ส่วนสติอีกตัวหนึ่งที่เกิดหลังจากสติตามรู้คือสติปัญญาหรือ สติในองค์มรรค จะเกิดขึ้นได้เมื่อปัจจุบันธรรมนั้นถูกรู้เหตุปัจจัยอย่างแท้จริงด้วยเหตุที่มีสติปัญญาแล้ว ผลของสมุทัยก็จะไม่เกิดอีกเลยเพราะรู้แล้วเห็นแล้วและตลอดไป ไม่กลับมาอีก ดังนั้น
สติตามรู้ก็ตัวหนึ่ง สติปัญญาหรือสติในองค์มรรค ก็อีกตัว
และผมไม่ศรัทธาในพระท่านเพราะท่านไม่ได้ใช้คำสอนที่สมควร และท่านก็ไม่ใช่พระอรหันต์ ผมเคารพเพราะเป็นพระสงฆ์สาวก แต่ไม่เลื่อมใสศรัทธาในคำสอนนั้น หากคำนั้นมาจากปากท่านผมก็เฉยๆ เพราะว่าปุถุชนคนธรรมดาก็พูดได้ เพราะว่ามันเป็นแค่สัญญา และความปรุงแต่งไป ครับ
ไม่ได้ลบหลู่แต่ไม่เชื่อคำสอนของพระท่านนั้นครับ และไม่คิดว่าท่านเป็นพระอรหันต์ด้วย และไม่สนด้วย เพราะยังมีพระดีๆอีกมากมายในเมื่องไทยและต่างแดนครับ